Samsung Galaxy XCover 5 มือถือสุดถึกรุ่นใหม่ กันน้ำ-กันฝุ่น-ทนกระแทก เปิดให้สั่งซื้อในไทยแล้ววันนี้

Galaxy XCover 5 มือถือซีรีส์สุดแกร่งรุ่นล่าสุดจาก Samsung เดินทางมาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว คราวนี้ไปเสริมหล่อมาใหม่ หน้าตาดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้นเยอะ แต่ความทนทานยังจัดเต็มเหมือนเดิม กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และผ่านมาตรฐาน MIL-STD 810H ที่ออกโดยกองทัพสหรัฐฯ สามารถสแกนบาร์โค้ดได้เร็วสุด ๆ อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มความปลอดภัย Knox ที่เชื่อถือได้ และรับประกันการอัปเดตซอฟต์แวร์นาน 5 ปี

ด้วยหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ทำให้ Galaxy XCover 5 เป็นถือที่มีความคล่องตัวสูงมาก ๆ เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานภาคสนามที่อาจต้องมีการหยิบอุปกรณ์เข้า ๆ ออก ๆ จากกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงอยู่บ่อยครั้ง ส่วนพาเนลที่ Samsung เลือกนำมาใช้งานจะเป็นชนิด PLS TFT LCD ที่มีมมุมมองกว้าง สีสันสดใส ความละเอียดระดับ HD+ ช่วยให้อ่านตัวหนังสือได้อย่างคมชัด และยังมีความพิเศษเพิ่มเติม คือ รองรับการสัมผัสหน้าจอขณะเปียกน้ำ และรองรับการสัมผัสหน้าจอแม้สวมถุงมือผ้า ถุงมือหนัง หรือแม้กระทั่งถุงมือยางที่มีความหนาไม่เกิน 2 มิลลิเมตร

กล้องหลังความละเอียด 16MP ของ Galaxy XCover 5 ถูกปรับแต่งมาให้สามารถสแกนบาร์โค้ดได้รวดเร็วทันใจและแม่นยำ สแกนได้แม้อยู่ในที่ที่มีแสงน้อย และทำงานร่วมกับ Knox  Capture สแกนบาร์โค้ดพร้อมกันหลาย ๆ รายการแล้วนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้ทันทีในครั้งเดียว ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีนี้ คือ Scandit บริษัทที่ไอทีที่เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษอยู่แล้วนั่นเอง แถมยังใส่แฟลช LED มาให้ถึง 2 ดวง ใช้งานในคลังสินค้ามืด ๆ ได้สบายบรื๋อ

Galaxy XCover 5 จะมาพร้อมกับปุ่ม XCover Key ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของอุปกรณ์ในตระกูลนี้ สามารถตั้งค่าการใช้งานเพื่อเปิดแอปหรือเข้าสู่ทางลัดต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ยกตัวอย่างการใช้งานที่มีประโยชน์เช่น กำหนดให้เป็นปุ่มสำหรับ Push-to-Talk ในลักษณะวอล์กกี้ทอล์กกี้ กดปุ่มปุ๊บ คุยกันผ่านวิทยุออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้เลย

ภายใน Galaxy XCover 5 ขับเคลื่อนด้วยชิป Exynos 850 ประสิทธิภาพการใช้งานเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปสบาย ๆ พ่วงมากับ RAM ขนาด 4GB ส่วน ROM มีความจุ 64GB และสามารถใส่ microSD card เพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 1TB ซึ่งตรงส่วนนี้จะไม่ไปรบกวนการใช้งานกับซิมการ์ดด้วย เพราะเป็นถาดแบบทริปเปิลสล็อต

Galaxy XCover 5 มีแบตเตอรี่ความจุ 3000mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ตลอดเวลา การชาร์จสามารถทำได้ทั้งผ่านพอร์ต USB Type-C หรือเสียบกับแท่น POCO โดยตรงได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไวที่ 15W ซึ่งหาได้ค่อนข้างยากสำหรับอุปกรณ์ในกลุ่มที่เน้นความทนทานแบบนี้

 

สเปค Samsung Galaxy XCover 5

• จอภาพ : PLS TFT LCD ขนาด 5.3 นิ้ว, ความละเอียด HD+ (1480 x 720 พิกเซล)
• ชิป : Samsung Exynos 850
• หน่วยความจำ : RAM 4GB + ROM 64GB
  – รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
• กล้องหลัง : 16MP, รูรับแสง f/1.8
• กล้องหน้า : 5MP, รูรับแสง f/2.2
• เครือข่าย : GSM / HSPA / LTE
  – Nano-SIM (1)
  – Nano-SIM (2)
• การเชื่อมต่อ :
  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
  – Bluetooth 5
  – NFC
  – GPS, A-GPS, GLONASS, Gallilee, BeiDou
• พอร์ต : USB Type-C, แจ็ก 3.5 มม.
• เซนเซอร์ : Accelerometer, gyro sensor, geomagnetic sensor, light sensor, proximity sensor
• แบตเตอรี่ : 3000mAh (ถอดเปลี่ยนได้), รองรับชาร์จไว 15W
• มาตรฐานความทนทาน : IP68, MIL-STD 810H
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11
• ขนาด : 147.1 x 71.6 x 9.2 มม.
• น้ำหนัก : 172 กรัม
• สี : ◉ ดำ

เปิดตัว Galaxy Enterprise Edition ครั้งแรกในประเทศไทย

พร้อมกันนี้ Samsung ได้ประกาศเปิดตัว Galaxy Enterprise Edition มือถือและโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ตลอดจนแฟลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยระดับสูง อุปกรณ์ชุดแรกมีทั้งหมด 3 รุ่นให้เลือกซื้อ ได้แก่ Galaxy A32 5G Enterprise Edition, Galaxy A52 Enterprise Edition และ Galaxy XCover5 Enterprise Edition

มือถือในกลุ่ม Galaxy Enterprise Edition จะแตกต่างจากอุปกรณ์ที่วางจำหน่ายในตลาดคอนซูเมอร์ทั่ว ๆ ไป โดยจะมีกรอบเวลาการวางจำหน่ายของอุปกรณ์เป็นระยะเวลา 2 ปี หากเทียบกับปกติจะอยู่ที่ 6 เดือนถึง 1 ปี เพราะ Samsung ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่า ลูกค้าในกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย ๆ ซึ่งจะมีสิ่งที่ทดแทนเข้ามาคือการสนับสนุนด้านแพตช์ความปลอดภัยที่ยาวนานกว่า เริ่มต้นที่ขั้นต่ำ 4 ปี และสูงสุดที่ 5 ปี

Galaxy Enterprise Edition มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Knox ที่มีชิปแยกในตัวสำหรับเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน พิน ข้อมูลลายนิ้วมือ และอื่น ๆ โดยจะแยกออกมาจากชิปประมวลผลหลักและระบบปฏิบัติการอย่างอิสระ จึงมีความปลอดภัยสูงมาก ๆ

นอกจากนี้ยังมี Knox Suite ที่ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ ให้ฝ่ายไอทีกำหนดฟังก์ชันและตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ของมือถือให้แก่พนักงานได้ง่าย ๆ และคอยสนับสนุนด้านเทคนิคจากระยะไกลไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย ซึ่ง Samsung จะให้ใช้งานฟรีในปีแรกของการสั่งซื้อ ส่วนปีถัด ๆ ไปต้องเสียค่าไลเซนส์ตามปกตินะครับ

ราคาและการวางจำหน่าย

เพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจ Galaxy XCover5 รวมถึงอุปกรณ์ Galaxy Enterprise Edition ทั้ง Galaxy A32 5G Enterprise Edition, Galaxy A52 Enterprise Edition และ Galaxy XCover5 Enterprise Edition สามารถติดต่อไปยัง Samsung เพื่อขอราคาได้โดยตรงที่เว็บไซต์ อีเมล หรือโทรศัพท์ ตามรายการด้านล่างนี้

• เว็บไซต์ : www.samsung.com/th/business
• อีเมล : b2b_thailand@samsung.com
• โทรศัพท์ : 02-689-3277

 

ดูเพิ่มเติม : Samsung

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-xcover-5-specs-prices/

ครั้งแรกในไทย ซัมซุงเปิดตัว “Galaxy Enterprise Edition” ส่งเทคโนโลยีดีไวซ์และโซลูชันครบวงจร ตอบโจทย์องค์กรในยุคดิจิทัล

เปิดตัวพร้อมให้บริการในไทยแล้ววันนี้ สำหรับ Galaxy Enterprise Edition (กาแลคซี่ เอ็นเตอร์ไพร์ส เอดิชัน) กลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทดีไวซ์ล่าสุดจากซัมซุงที่มาพร้อมบริการด้านโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจ ชูจุดเด่น ‘Total Solutions’ ด้วยนวัตกรรมระดับแนวหน้าที่ครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ การจัดการซอฟต์แวร์ ไปจนถึงแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด ซึ่ง Galaxy Enterprise Edition จะช่วยให้การบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลสำคัญภายในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

“การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เร่งการปรับตัวของธุรกิจในยุคดิจิทัล ทำให้องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะองค์กรที่พนักงานต้องทำงานนอกสถานที่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซัมซุงตัดสินใจเปิดตัว Galaxy Enterprise Edition ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้องค์กรสามารถนำโมเดลธุรกิจแบบไฮบริดมาปรับใช้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งบริการสมาร์ทดีไวซ์พร้อมโซลูชันแบบครบวงจรของเรา จะช่วยให้แต่ละองค์กรสามารถติดตั้งและดำเนินการด้านระบบให้กับอุปกรณ์ทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย” ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว

สำหรับประเทศไทย ซัมซุงพร้อมให้บริการ Galaxy Enterprise Edition แก่ลูกค้าองค์กรแล้วทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Galaxy A52, Galaxy A32 5G และ Galaxy XCover5 เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน โดยสำหรับการใช้งานทั่วไป ซัมซุงได้นำเสนอสมาร์ทโฟนยอดนิยมสองรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Galaxy A อย่าง Galaxy A52 และ A32 5G ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลักทรงประสิทธิภาพและตัวเลือกซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ 5G ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในองค์กรหรือบริษัทได้อย่างครบครัน ในขณะเดียวกันก็มีสมาร์ทโฟนสายแกร่งอย่าง Galaxy XCover5 ที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพความทนทานในสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างดีเยี่ยม จึงเหมาะกับการใช้งานภาคสนามโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์เด่นของ Galaxy Enterprise Edition นั้นได้แก่

• ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์^[1]: ซัมซุงขยายกรอบเวลาการวางจำหน่ายอุปกรณ์ในกลุ่ม Galaxy Enterprise Edition ให้นานขึ้นกว่ารุ่นทั่วไป ทำให้องค์กรสามารถบริหารและจัดหาอุปกรณ์รุ่นเดียวกันให้กับพนักงานในองค์กรภายหลังได้ง่ายขึ้น
• ขยายบริการอัพเดทด้านความปลอดภัย: เพื่อปกป้องอุปกรณ์จากอาชญากรรมไซเบอร์ มัลแวร์ และภัยคุกคามอื่นๆ ได้นานขึ้น Galaxy Enterprise Edition จะได้รับการอัพเดทด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมขั้นต่ำที่ 4 ปี และ 5 ปี สำหรับบางรุ่น^[2]

• แพลตฟอร์ตรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด: อุปกรณ์ทุกเครื่องมาพร้อมระบบ Samsung Knox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดจากซัมซุง โดยผ่านการติดตั้งมาตั้งแต่ระดับชิปเซ็ตไปจนถึงในแอปพลิเคชัน เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลสำคัญขององค์กรจะถูกปกป้องจากภัยคุมคามรูปแบบต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ตลอดอายุการใช้งาน
• ติดตั้งและจัดการระบบได้อย่างคล่องตัว: ด้วยบริการ Knox Suite ที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง แผนกไอทีขององค์กรจึงสามารถกำหนดฟังก์ชันและตั้งค่าต่างๆ บน Galaxy Enterprise Edition ได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถดูแลอุปกรณ์จากศูนย์กลางได้อีกด้วย
• การจัดการอุปกรณ์ / ระบบปฏิบัติการที่ครอบคลุมและง่ายดาย: การอัพเดทเฟิร์มแวร์บนดีไวซ์ขององค์กร หรือ Enterprise Firmware-over-the-air (E-FOTA) ช่วยให้แผนกไอทีสามารถจัดการอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายจากระยะไกล ผ่านระบบปฏิบัติการกลางและการอัพเดทซอฟต์แวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการและแพทช์ความปลอดภัยเวอร์ชันล่าสุดที่ผ่านการทดสอบแล้วจะพร้อมใช้งานสำหรับพนักงานทุกคน

ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ หรือองค์กรที่มีสาขาย่อยทั่วประเทศ รวมถึงพนักงานที่ทำงานจากบ้านหรือปฏิบัติการนอกสถานที่ Galaxy Enterprise Edition จะช่วยให้การจัดการด้านระบบ การอัพเดท และการควบคุมสมาร์ทดีไวซ์เป็นเรื่องง่ายในทุกระดับ ทำให้พนักงานทุกคนสามารถเชื่อมต่อสื่อสารและทำงานจากสถานที่ต่างๆ ได้สำเร็จลุล่วงอย่างไร้ข้อกังวลด้านความปลอดภัย

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Galaxy Enterprise Edition ได้ที่ https://www.samsung.com/th/business/ หรือติดต่อทีมงาน Samsung Business ได้ที่อีเมล์ b2b_thailand@samsung.com หรือโทร 02-689-3277

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Samsung ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2EOTbN5

from:https://www.mobileocta.com/galaxy-enterprise-edition/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=galaxy-enterprise-edition