คลังเก็บป้ายกำกับ: FTA

เวียดนาม-สหราชอาณาจักร เซ็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีเป็นที่เรียบร้อย เป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนต่อจากสิงคโปร์

เวียดนาม และ สหราชอาณาจักร ได้เซ็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีเป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนต่อจากสิงคโปร์ นอกจากนี้เวียดนามยังสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP ด้วย

Felixstowe Port United Kingdom
ภาพจาก Shutterstock

สหราชอาณาจักรและเวียดนามได้จรดปากกาเซ็นข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA เป็นที่เรียบร้อย โดยในช่วงที่ผ่านมาการค้าระหว่างทั้ง 2 ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และขณะเดียวกันการที่สหราชอาณาจักรกำลังจะออกจากข้อตกลงตลาดร่วมของสหภาพยุโรป ทำให้สหราชอาณาจักรต้องรีบทำข้อตกลงทางการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญๆ หลังจากที่ใช้ข้อตกลงทางการค้าเดียวกันกับสหภาพยุโรปมาเป็นเวลานาน

โดยข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำระหว่างกันนั้นจะอิงกับข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับสหภาพยุโรปก่อนหน้านี้ การส่งออกสินค้าสำคัญของเวียดนามไม่ว่าจะเป็นสิ่งทอ อาหารทะเล ยารักษาโรค หรือบริการต่างๆ ฯลฯ จะไม่สะดุดหรือติดขัด

ขณะเดียวกันในปี 2019 ที่ผ่านมาเวียดนามได้ส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่ามากถึง 4,600 ล้านปอนด์ ทางด้านสหราชอาณาจักรส่งออกสินค้าเป็นมูลค่ามากกว่า 600 ล้านปอนด์ และหลังจากนี้สินค้าที่ทั้ง 2 ได้ส่งออกและนำเข้าจะทยอยลดภาษีไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 7 ปี จนบางสินค้าไม่มีภาษีนำเข้าหรือไม่ก็ภาษีต่ำมาก

นอกจากนี้สหราชอาณาจักรเองยังกล่าวว่าการทำ FTA กับเวียดนามไม่ใช่แค่เรื่องการค้าและบริการเท่านั้น แต่สหราชอาณาจักรยังมองถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในด้านอื่นๆ หรือแม้แต่การพัฒนาแบบยั่งยืน เช่น ในการวางแผนพลังงานของเวียดนามตั้งแต่ปี 2021-30

ไม่เพียงเท่านั้นสหราชอาณาจักรยังได้ขอบคุณเวียดนามที่สนับสนุนและชักชวนให้เข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP โดยมองว่าถ้าหากสหราชอาณาจักรเข้าร่วม CPTPP จะทำให้คุณค่าของ CPTPP เพิ่มมากขึ้น และสหราชอาณาจักรเองเตรียมที่จะขอเข้าร่วม CPTPP ในปี 2021 นี้

ถ้าหากสหราชอาณาจักรเข้าร่วมจะมีมูลค่าการค้าระหว่างกันในกลุ่มมากถึง 16% ของเศรษฐกิจโลก โดยอ้างอิงตัวเลข GDP ของปี 2019 ที่ผ่านมา

เวียดนามเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้เซ็น FTA กับสหราชอาณาจักรต่อจากสิงคโปร์ ที่ได้จรดปากกากันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ที่มา – UK Gov, Vietnam News

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/vietnam-uk-sign-fta-and-supported-to-join-cptpp-soon-12-dec-2020/

สหราชอาณาจักรสนใจเข้าร่วม CPTPP หลังเซ็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สหราชอาณาจักรสนใจที่จะเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP หลังจากได้เซ็น FTA กับทางสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการสนับสนุนจากสิงคโปร์ให้เข้าร่วมความร่วมมือดังกล่าวอีกด้วย

London United Kingdom ลอนดอน สหราชอาณาจักร
ภาพจาก Unsplash

สหราชอาณาจักรได้เซ็นข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA กับสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวจะครอบคลุมปริมาณการค้าที่มีต่อกันมากถึง 17,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 673,437 ล้านบาท นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวยังใหญ่กว่าข้อตกลงที่เคยทำไว้กับสหภาพยุโรปในปี 2018 ที่ผ่านมาด้วย โดยดีลนี้นั้นสหราชอาณาจักรเองพยายามที่จะปิดดีล FTA กับประเทศต่างๆ หลังจากที่ใช้ดีล FTA เดียวกับยุโรปมาเป็นเวลานาน

สำหรับข้อตกลง FTA ดังกล่าวนั้นจะทยอยยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันทั้งหมดในปี 2024 ซึ่งจะเท่ากับที่สิงคโปร์ทำไว้กับสหภาพยุโรป โดยสินค้าที่จะได้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูปบางชนิดอย่าง “ฮะเก๋า” และ “ปลากรอบปรุงรส” ที่สินค้าทั้ง 2 นั้นสิงคโปร์ได้ส่งออกไปสหราชอาณาจักรรวมกันมากถึงปีละ 350 ตัน ขณะที่วิสกี้ซึ่งเป็นสินค้าชื่อดังจากสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ก็จะไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าแต่อย่างใด

ไม่เพียงแค่นั้นในข้อตกลงดังกล่าวยังมีเรื่องของความร่วมมือด้านบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเงินที่ธนาคารในสหราชอาณาจักรหลายแห่งที่มีสาขาในสิงคโปร์จะสามารถขยายสาขาในสิงคโปร์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีการประชุมร่วมกันในด้านเศรษฐกิจระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายด้วยในรอบ 2 และ 4 ปีตามลำดับหลังจากนี้

การทำข้อตกลงดังกล่าวระหว่างสหราชอาณาจักรกับสิงคโปร์นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในระหว่างที่สหราชอาณาจักรเองกำลังเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรปอยู่ในขณะนี้และมีท่าทีว่าสหราชอาณาจักรเองอาจออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่ได้อะไรติดมือไปเลย

นอกจากนี้ในข้อตกลง FTA ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสิงคโปร์ ยังระบุว่างสหราชอาณาจักรเองสนใจที่จะเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ CPTPP โดยสหราชอาณาจักรอาจยื่นเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าวในปี 2021 ขณะเดียวกันสิงคโปร์เองก็สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรเข้าร่วมข้อตกลงนี้ด้วย

ที่มา – Singapore Gov, BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/uk-interested-to-join-cptpp-after-sign-fta-with-singapore-11-dec-2020/

ศูนย์วิจัยกสิกรชี้ไทยได้ประโยชน์จากสงครามการค้าเล็กน้อย ต้องเร่งทำ FTA เพื่อดึงเงินลงทุนมากกว่านี้

บทวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกสิกรชี้ไทยได้ประโยชน์จากสงครามการค้าเล็กน้อย และประเทศที่ได้ประโยชน์มากกว่าคือมาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้ในบทวิเคราะห์ยังแนะนำให้ไทยเร่งการทำ FTA กับประเทศอื่นๆ เพื่อที่จะไม่ให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

Bangkok Port ท่าเรือ กรุงเทพ
ภาพจาก Shutterstock

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ออกบทวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นว่า ไทยนั้นได้ประโยชน์จากสงครามการค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน แต่สิ่งที่สำคัญที่จะฟื้นภาคการส่งออกของไทยหลังจากนี้นั้น ไทยจะต้องเพิ่มความตกลงทางการค้า หรือ FTA ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะฟื้นตัวของการส่งออกของไทย รวมไปถึงยังนำเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศมาที่ไทยด้วย

ในบทวิเคราะห์ได้ชี้ถึงภาคการส่งออกของไทยในช่วง 2-3 ปีท่ีผ่านมาเผชิญอุปสรรคหลายอย่าง เช่นเดียวกับประเทศ อื่นๆ ในภูมิภาค โดยที่ไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งส่งผลทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยช่วงที่ผ่านมาถดถอยมาโดยตลอด

ขณะที่การระบาดของ COVID-19 กลับได้ซ้ำเติมความเสียหายให้ภาคการส่งออกไทยรุนแรงข้ึนอีกครั้ง ทำให้การส่งออกไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปีน้ีหดตัวถึง 7.3% เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อไทยมีมาตรการปิดเมืองและควบคุมการระบาดของ COVID-19 ประสบผลสำเร็จในหลายประเทศ ความต้องการในตลาดโลกนั้นเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นและหนุนให้การส่งออกในทวีปเอเชียฟื้นตัวตามไปด้วย อย่างไรก็ดีระดับการฟื้นตัวของแต่ละประเทศกลับไม่เท่ากัน โดยที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวได้ช้า

บทวิเคราะห์ได้กล่าวถึงสาเหตุสำคัญของภาคการส่งออกไทยที่ฟื้นตัวได้ช้า เช่น

  • โครงสร้างสินค้าส่งออกไทยเป็นปัจจัยหลักทำให้ภาคการส่งออกฟื้นตัวช้า จากสินค้าเช่น ยานยนต์และอะไหล่ยานยนต์ ที่ในช่วงของ COVID-19 ความต้องการลดลง ขณะที่สินค้าสำคัญอย่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยในช่วงการล็อกดาวน์นั้นกลับเติบโตอย่างมาก จากปัจจัยของการทำงานที่บ้าน อย่างไรก็ดีสัดส่วนของสินค้าประเภทนี้ของไทยถือว่ามีเพียงแค่ 14% จากการส่งออกทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่ฟิลิปปินส์มีสัดส่วนมากถึง 49% มาเลเซีย 34% เวียดนาม 37%
  • ความต่อเนื่องของนโยบาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญจากการลงทุนของต่างชาติ โดยที่ผ่านมาเราจะเห็นบริษัทจากต่างประเทศย้ายฐานการผลิตออกจากไทยเป็นจำนวนมาก และในบทวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมานมากกว่าทศวรรษ ไทยยังคงอยู่ในวังวนของการเปลี่ยนแปลง ทำให้การดำเนินนโยบายท่ีไม่ต่อเนื่องไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนจากต่างชาติ ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน และการเติบโตของการส่งออก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงอุปสรรคด้านข้อระเบียบต่างๆ ที่ประเทศอื่นๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น เวียดนาม
  • การขาดแคลน FTA กับประเทศต่างๆ ในบทวิเคราะห์ได้กล่าวถึง FTA ที่ไทยได้ทำข้อตกลงคือ FTA กับประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 2007 แต่ถ้าหากคิดรวม FTA ที่ไทยได้ทำกับประเทศต่างๆ กว่า 13 ฉบับจะมีผลกับประเทศ 18 ประเทศเท่านั้น แตกต่างกับ FTA ของเวียดนามที่ทำเพียงแค่ 12 ฉบับแต่มีผลมากถึง 53 ประเทศ ทำให้ส่งออกสินค้าได้มากกว่า

นอกจากนี้ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน มีความรุนแรงนั้น ประเทศไทยไม่ได้ถูกมองเป็นเป้าหมายหลักของการย้ายฐานการผลิตจากจีน ในบทวิเคราะห์ยังแสดงข้อมูลว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไทยกลับไม่ได้รับผลประโยชน์ในฐานะผู้ส่งออกสินค้าทดแทนประเทศจีนไปยังสหรัฐฯ ในช่วงสงครามการค้า แต่กลับเป็นเวียดนามและมาเลเซียที่ได้ประโยชน์ โดยเปรียบเทียบการนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯ และสินค้าที่สหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าจากจีนในช่วงก่อนและหลงัสงครามการค้าพบว่า สหรัฐฯ ได้ลดการนำเข้าสินค้าจากจีนและมานำเข้าสินค้าจากหลายๆ ประเทศในเอเชียทดแทน

สำหรับทางออกในเรื่องนี้นั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ไทยจะต้องเร่งการเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศนอร์ดิก เช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซแลนด์ นอรเ์วย์ และสวีเดน เพื่อดึงดูดการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า รวมถึงโครงการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยสนับสนุน ให้มีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/thai-benefit-from-trade-war-is-lower-than-malaysia-or-vietnam-k-research-says-23-nov-2020/

สื่อจีนชี้ข้อตกลง RCEP เปรียบได้กับ “ชัยชนะของการค้าเสรีและการเจรจาแบบพหุภาคี”

สื่อในประเทศจีนอย่าง Xinhua มองว่าข้อตกลง RCEP เปรียบได้กับ “ชัยชนะของการค้าเสรีและการเจรจาแบบพหุภาคี” เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวนี้จะปรับปรุงขั้นตอนการค้าและ Logistics มากขึ้น รวมไปถึงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศที่ได้ลงนามร่วมกันมากถึง 90%

Container Port
ภาพจาก Unsplash

สำนักข่าว Xinhua ได้ชี้ให้เห็นว่าข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP นั้นถือเป็น “ชัยชนะของการค้าเสรีและการเจรจาแบบพหุภาคี” เนื่องจากมีประเทศต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกที่ได้ลงนามในข้อตกลงนี้มากถึง 15 ประเทศ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่มากถึง 30% ของ GDP โลก และจะทำให้ RCEP นั้นเป็นข้อตกลงทางการค้าและเศรษฐกิจที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที

นอกจากนี้สื่อของจีนยังมองว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการค้าและการลงทุนในภูมิภาค แถมยังเสริมสร้างอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน เร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและส่งเสริมความมั่งคั่งในระยะยาว

ไม่เพียงแค่นั้นสำนักข่าว Xinhua ยังได้อ้างถึงรายงานในเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์จีนว่าในข้อตกลง RCEP นี้จะปรับปรุงขั้นตอนการค้าและอำนวยความสะดวกด้าน Logistics มากขึ้น ซึ่งจะเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศที่
ลงนามมากขึ้น และยังเป็นครั้งแรกที่จีนและญี่ปุ่นได้อยู่ในข้อตกลงการค้าเดียวกันนี้ด้วย

สำหรับการเจรจาก่อนที่ประเทศทั้ง 15 ประเทศจะลงนามพร้อมกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นต้องใช้การเจรจามากถึง 31 รอบ ในช่วงเวลามากกว่า 8 ปี ระหว่างอาเซียน 10 ประเทศ รวมกับอีก 5 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ขณะที่อินเดียเองได้ถอนตัวออกไปเมื่อการประชุมอาเซียนเมื่อปี 2019 ที่ผ่ามา

ถ้าหากข้อตกลงมีผลบังคับใช้แล้ว ภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศที่เข้าร่วมมากกว่า 90% จะถูกยกเลิก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งภาคเอกชนและผู้บริโภค โดยข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้เมื่อประเทศในอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศและประเทศอื่นๆ อีก 3 ประเทศได้ลงนามในสัตยาบัน

ที่มา – Xinhua

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/rcep-a-victory-of-multilateralism-and-free-trade-chinese-media-report-18-nov-2020/

หันหลังให้จีน มุ่งสู่เวียดนาม: EU เดินหน้าทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับเวียดนาม EVFTA

เวียดนามอนุมัติความตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EU-Vietnam Free Trade Agreement: EVFTA) โดยมีความคาดหวังว่าจะทำให้ประเทศกลายเป็นแหล่งลงทุนแห่งใหม่จากเหล่าประเทศที่ต้องการออกจากจีน ความตกลงดังกล่าวจะมีผลช่วงต้นเดือนสิงหาคม เวียดนามจะกลายเป็นชาติที่ 2 ของอาเซียนที่ได้ทำสนธิสัญญาทางการค้ากับกลุ่มประเทศยุโรปต่อจากสิงคโปร์

European Union flags

ความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป-เวียดนามดังกล่าว จะส่งผลให้เวียดนามสามารถส่งออกสินค้าปลอดภาษีไป EU ได้มากถึง 71% เป็นเวลา 10 ปี ขณะที่ EU ก็สามารถส่งออกสินค้าปลอดภาษีมายังเวียดนามได้เช่นกันในอัตรา 65% เป็นเวลามากกว่า 7 ปี

กระทรวงแผนงานและการลงทุนเวียดนาม คาดว่าความตกลงเขตการค้าเสรีนี้จะสร้างรายได้การส่งออกสินค้าไปยัง EU เพิ่มขึ้นถึง 42.7% ในปี 2025 และจะเพิ่มเป็น 44.37% ในปี 2030 World Bank คาดว่าความตกลงการค้าเสรีจะช่วยทำให้ GDP เวียดนามเพิ่มขึ้น 2.4% และส่งออกเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2030 ด้าน EU ก็คาดว่า GDP จะเติบโตขึ้น มูลค่า 2.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.26 แสนล้านบาทในปี 2035

อุตสาหกรรมสำคัญเวียดนามจะได้ประโยชน์จากการทำเขตการค้าเสรีกับ EU มีทั้งการผลิตสมาร์ทโฟน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าเกษตร อาทิ กาแฟ

ด้าน Tran Tuan Anh รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวว่า ความตกลงดังกล่าวจะเร่งให้เวียดนามช่วยลดความยากจนได้เร็วขึ้น ขณะที่ Nguyen Thi Thu Trang แห่งหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามมองว่า ความตกลงดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ และกิจกรรมด้านการส่งออกของเวียดนามหลังแย่ลงเพราะโควิด-19 ระบาดได้

(Photo by Linh Pham/Getty Images)

การหารือระหว่าง EU และเวียดนามเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2012 สิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม 2015 ความเนิบช้าระหว่างการทำความตกลงทางการค้าเสรีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ต้องให้สัตยาบันระหว่างกัน (การลงนามในสนธิสัญญาระหว่างกัน) เวียดนามและ EU ทำการค้ากันมาเนินนานแล้ว ช่วงสิ้นปี 2018 นักลงทุน EU ลงทุนในเวียดนามมากกว่า 2,133 โปรเจ็กต์ มูลค่ากว่า 2.39 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.5 แสนล้านบาท

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนาม 6 อันดับแรก ประกอบด้วย ญี่ปุ่น (ลงทุนมากที่สุด) ตามด้วยเกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และ EU

ที่มา – Asian Nikkei Review, Vietnam Briefing

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/vietnam-eu-free-trade-agreement-ratified/

พาณิชย์เผย EU กระชับความสัมพันธ์กับไทยขึ้น คาดฟื้นเจรจา FTA ระหว่างกันภายในสิ้นปีนี้

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยถึงเรื่องของความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป หลังสหภาพยุโรปเตรียมกระชับความสัมพันธ์กับไทยมากขึ้น

Container Export
ภาพจาก Shutterstock

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงกรณีมติคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศ นั้นให้สหภาพยุโรป (EU) กระชับความสัมพันธ์กับไทยให้แน่นแฟ้นขึ้น และฟื้นการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป รวมถึงประเด็นอื่นๆ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการปลดล็อคสำคัญที่ทำให้ไทยกับอียูสามารถเดินหน้าหารือฟื้นการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างกันได้

สำหรับการฟื้นเจรจาเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป อรมน ได้กล่าวว่า มีทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยในส่วนของโอกาส จะช่วยขยายตลาดใหม่ให้กับสินค้าของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูป สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมทั้งการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

เรื่องของความท้าทายของไทยนั้น อรมน มองว่าเนื่องจาก FTA ที่สหภาพยุโรปทำกับหลายประเทศในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ และกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ (Mercosur) ซึ่งมีประเทศสมาชิกรวม 4 ประเทศ คือ บราซิล อาร์เจนติน่า อุรุกวัย และปารากวัย มีมาตรฐานสูงทั้งในส่วนการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน ตลอดจนมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การแข่งขันทางการค้า ทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ

ในปี 2561 ไทยและสหภาพยุโรปมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 47,290 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ 8 เดือนแรกของไทยนั้น มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 29,757 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

อรมน ยังได้กล่าวว่า ล่าสุดตอนนี้ไทยอยู่ระหว่างการศึกษาและหารือผู้มีส่วนได้เสียเรื่องการฟื้นการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป โดยตั้งเป้าเสนอระดับคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเรื่องนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จึงคาดว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะได้ภาพที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องขั้นตอนการดำเนินการต่อไป เพื่อที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถฟื้นการเจรจากับสหภาพยุโรปได้ไวที่สุดภายในสิ้นปีนี้

ที่มา – RYT9, ประชาชาติธุรกิจ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/thai-moc-new-eu-parliament-team-prepare-to-talk-fta-with-th-again-in-dec-2019/

สหภาพยุโรปเซ็นข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนามเรียบร้อยแล้ว คาดส่งออกไป EU โตได้อีก 15%

EU เซ็นข้อตกลง FTA กับเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นประเทศที่ 4 ในเอเชีย และเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกในเอเชียที่เซ็นข้อตกลงนี้

Vietnam Motorcycle
ภาพจาก Unsplash

สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เวียดนามใช้เวลาในการเจรจากว่า 7 ปี เป็นประเทศที่ 4 ในทวีปเอเชียต่อจาก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเป็นประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียประเทศแรกที่ได้เซ็นข้อตกลงนี้

การเจรจาที่ยาวนานนี้เนื่องจากปัญหาสิทธิมนุษยชน เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิของแรงงาน สิ่งแวดล้อม ที่สมาชิกรัฐสภายุโรปยังมีความกังวล ทำให้ระยะเวลาการเจรจาในเรื่องนี้มีเวลายาวนาน โดย Cecilia Malmstrom ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้กล่าวว่า การเซ็นข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนามยิ่งทำให้ EU สามารถจับตามองเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น

รัฐบาลเวียดนามคาดว่าข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปจะทำให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นทันที 15% และเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2020 ที่ผ่านมาเวียดนามได้ทำข้อตกลงทางการค้ากับประเทศอื่นๆ หลายฉบับ รวมไปถึงความร่วมมือด้านการค้าอื่นๆ เช่น ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ CPTPP เป็นต้น

นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สินค้าทางการเกษตรของเวียดนามสามารถส่งออกไปยังสหภาพยุโรปได้ง่ายขึ้น โดยไม่ถูกจำกัดโควต้าเหมือนกับประเทศอื่นๆ และยังลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าลงระหว่างเวียดนามกับ EU ลงสูงสุดถึง 99%

สำหรับสหภาพยุโรปนั้นเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกาที่เวียดนามส่งออกสินค้ามากที่สุด สินค้าที่ส่งออกมากที่สุดได้แก่เครื่องนุ่งห่ม รวมไปถึงรองเท้า ในปี 2018 ที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการไปยังสหภาพยุโรปสูงถึง 42,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ข้อตกลงยังจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติรับรองจากรัฐสภายุโรปในขั้นตอนสุดท้าย ขณะที่ประเทศไทยข้อตกลงการค้ากับ EU นั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กำลังมีแผนที่จะรื้อฟื้นการเจรจาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ที่มาFrance 24, ABS-CBN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/vietnam-eu-sign-eu-vietnam-free-trade-agreement/