iPhone 5S มาพร้อมสีทองสุดหรู ชิป A7 64 Bit ,ระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ,เลนส์กล้องใหม่ และไม่มีรุ่น 128GB

 

ได้เห็นสเป็คและข้อมูลของ iPhone 5C อย่างเป็นทางการจาก Apple กันไปแล้ว มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่ได้ถูกเปิดตัวในงาน Apple ที่ผ่านไปกันบ้างกับ iPhone 5S ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น iPhone ที่มาพร้อมกับความหรูหรา เนื่องจากมีการเปิดตัวสีใหม่นั่นก็คือรุ่นสีทอง ซึ่งอาจคุ้นตากันมาจากภาพหลุดก่อนหน้านี้กันบ้างแล้ว โดยคุณสมบัติเด่นของ iPhone 5S นอกจากความหรูหราที่มาให้เลือกในสีทองแล้ว ยังมาพร้อมกับ CPU A7 ใหม่ที่แรงกว่า CPU รุ่นเดิมกว่า 2 เท่า , ระบบสแกนลายนิ้วมือ และกล้องดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

เริ่มกันจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่ง iPhone 5S นั้นถูกออกแบบให้มีลักษณะหรูหรา ด้วยวัสดุที่ใช้กับตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องจากอะลูมิเนียม และปุ่ม Home ที่ทำจาก Sapphire crystal เป็นต้น ทั้งนี้ iPhone 5S นั้นมีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีทอง , สีเงิน และสีเทา Space gray

คุณสมบัติข้อต่อไปของ iPhone 5S ที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสข่าวลือออกมาให้เห็นกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว นั่นก็คือการใช้งาน Fingerprint scan หรือการสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Home ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Touch ID โดย Touch ID นั้นจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม โดย iPhone 5S นั้นจะสามารถทำการ unlock เครื่องเพียงใช้นิ้วมือแตะไปที่ปุ่ม Home หรือจะเป็นการยืนยันการชำระเงินเมื่อสั่งซื้อสินค้าจาก iTunes Store , App Store หรือ iBooks Store ก็ไม่ต้องพิมพ์ข้อมูลพาสเวิร์ดให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแต่ทำการใช้ลายนิ้วมือวางลงบนปุ่ม Home เป็นการยืนยันตัวบุคคลดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทางด้าน CPU นั้น iPhone 5S ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ A7 ซึ่งสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า CPU A6 ตัวเดิมถึง 2 เท่า และด้วยสถาปัตยกรรมของ CPU A7 นั้นทำให้ iPhone 5S เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ CPU แบบ 64 bit ไม่เพียงเท่านั้น iPhone 5S ยังพัฒนาประสิทธิภาพของ GPU ให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่าอีกด้วย

รวมไปถึงการทำงานร่วมกับ M7 coprocessor ที่จะมาช่วยในการคำนวณและประมวลผลในส่วนของ accelerometer, gyroscope และ compass โดยจะเป็นการเข้ามาช่วยทำงานในส่วนต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพและกีฬาต่างๆ เพื่อประมวลผลหาข้อมูลระยะทางต่างๆ , การใช้งานร่วมกับ Maps และเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวหรือใช้งาน iPhone 5S M7 จะทำการลดการใช้งานทางด้านเชื่อมต่อ network ต่างๆให้น้อยลงเพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ เป็นต้น

 

ส่วนของกล้องดิจิตอลนั้น iPhone 5S มาพร้อมกับ iSight Camera แบบใหม่ที่ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แฟลชคู่แบบ True Tone flash ที่จะช่วยปรับแสงให้ดูเป็นธรรมชาติในทุกสภาวะเหตุการณ์ มีการปรับเซนเซอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถถ่ายภาพแบบ Continuous burst mode ที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ต่อถึง 10 เฟรมใน 1 วินาที มีระบบป้องกันการสั่นไหวหรือ Auto Image Stabilization รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 1080p HD video รองรับการถ่ายคลิปวีโอแบบ Slow-motion วีดีโอ รวมไปถึงยังสามารถซูมในขณะที่ถ่ายคลิปวีดีโออยู่ได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแต่งภาพ ที่มุ่งหวังให้ผู้ใช้ได้ทำการแต่งภาพได้สวยดั่งใจโดยที่ไม่ต้องเพิ่งแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็สามารถแชร์ภาพสวยๆจาก iPhone 5S ได้อย่าง่ง่ายดายในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

กล้องดิจิตอลด้านหน้าแบบ Facetime HD ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ HD 720p

แน่นอนว่า iPhone 5S นั้นมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ iOS 7 ซึ่งเมื่อผนวกกับคุณสมบัติของ CPU A7 และ M7 แล้วจะทำให้การใช้งาน iPhone 5S ด้วย iOS 7 นั้นลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

ทางด้านแอพพลิเคชั่นนั้น iPhone 5S มีแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องอย่างครบถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น Apple ยังให้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นชื่อดังไม่ว่าจะเป็น iPhoto , iMovie , Pages , Keynote และ Numbers มาให้ใช้กันแบบฟรีๆ ได้อีกด้วย โดยสิทธิพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPhone 5S หรือ iPhone 5C รวมไปถึงลูกค้าที่ซื้อ iPhone รุ่นอื่นๆที่ทำการ Activate หลังวันที่ 1 กันยายน 2013 เป็นต้นไปเท่านั้น

และสุดท้ายกับเคส iPhone 5S จาก Apple ที่มีมาให้เลือกกันถึง 7 สีด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง สีเบจ สีฟ้า สีน้ำตาล สีดำ และสีแดง

ทั้งนี้ iPhone 5S จะเริ่มเปิดจองในวันที่ 13 กันยายนนี้ และเริ่มวางจำหน่ายใน 9 ประเทศแรกในวันที่ 20 กันยายนนี้ ด้วยสนนราคาแบบติดสัญญา 2 ปี ในราคา $199 หรือประมาณ 6,400 บาท สำหรับรุ่น 16GB , ราคา $299 หรือประมาณ 9,500 บาท และราคา $399 หรือประมาณ 12,500 บาท สำหรับรุ่น 64GB  แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีกระแสข่าวออกมาว่าในประเทศไทยจะมีการนำ iPhone 5S เข้ามาวางจำหน่ายตามร้านค้าในศูนย์การค้ามาบุญครองก่อนการเปิดจองอย่างเป็นทางการจากตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศ แต่คาดว่าในช่วงแรกน่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงลิ่วอย่างแน่นอน

ที่มา  – Apple

 

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=71276

สิทธิบัตรล่าสุดชี้ “iPhone 5S จะเปลี่ยนโลกด้านการชำระเงินอย่างแท้จริงด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและ NFC!!!”

สิทธิบัตรที่เปิดเผยออกมาล่าสุดชี้ให้เห็นว่า iPhone 5s อาจมาพร้อมเทคโนโลยีการจ่ายเงินแบบไร้การติดต่ออย่าง NFC ผนวกรวมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เมื่อนำมารวมกันอาจทำให้เจ้า iPhone 5s กลายเป็นกระเป๋าตังค์อิเล็คทรอนิคตัวจริงเสียงจริงที่ใช้งานได้โดยการจ่อเข้ากับตัวตัดรูปก้นหอยของ NFC แล้วสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้ในทันทีด้วย (ในบ้านเราตอนนี้สถานที่ๆ มีเจ้าตัวตัด NFC ก็เหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างจุดใหญ่ๆ เช่น McDonald และสถานีรถไฟฟ้านั่นเอง)

หลายๆ คนคงคาดหวังว่าเจ้า iPhone 5s น่าจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่จะถูกผนวกรวมกับปุ่มโฮมอยู่แล้วตามบรรดาข่าวลือที่ผ่านมา แต่จากสิทธิบัตรล่าสุดที่ทาง APPLE จดเอาไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2012 และครบกำหนดให้ต้องปล่อยลายละเอียดสิทธิบัตรออกมาสู่สาธารณะชนนั้นชี้ให้เห็นว่าจริงๆ แล้ว Apple ยังเตรียมการใส่เอา NFC เข้ามาในตัวมือถือของตนอีกด้วย ซึ่งหากเป็นอย่างที่พูดจริงก็จะหมายความว่าข่าวลือครั้งหนึ่งเมื่อนานนมมาแล้วของ iPhone 5s อาจจะเป็นจริง กับข่าวลือที่ว่าเจ้านี้จะกลายเป็นกระเป๋าสตางค์อิเล็คทรอนิคแบบครบวงจรที่มีความปลอดภัยสูงตัวจริง

จากสิทธิบัตรที่เพิ่งเปิดเผยมาล่าสุดนี้ชี้ให้เห็นว่าปุ่มโฮมตัวเก่งของ iPhone ตั้งแต่ยุคอดีตยันปัจจุบันจนั้นอาจจะเฉลียวฉลาดขึ้นกว่าที่เคย ลองดูเอาจากรูปสิทธิบัตรปุ่มโฮมตัวนี้แล้วเปรียบเทียบกับรูปภาพม็อคอัพของปุ่มโฮมจากกล่อง iPhone 5s ที่หลุดมาจากประเทศฝั่งเอเชียกันหน้านี้ดูครับ

รูปภาพจากสิทธิบัตรของปุ่มโฮมบน iPhone 5S

รูปภาพม็อคอัพของปุ่มโฮมจากกล่อง iPhone 5S ที่หลุดออกมาจากประเทศในเอเชีย

ส่วนรายละเอียดของปุ่มโฮมในสิทธิบัตรใบล่าสุดจาก Apple ที่เปิดเผยออกมานั้นมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

An electronic device may have electrical components such as sensors. A sensor may have sensor circuitry that gathers sensor data using a conductive structure. The sensor may be a touch sensor that uses the conductive structure to form a capacitive touch sensor electrode or may be a fingerprint sensor that uses the conductive structure with a fingerprint electrode array to handle fingerprint sensor signals. Near field communications circuitry may be included in an electronic device. When operated in a sensor mode, the sensor circuitry may use the conductive structure to gather a fingerprint or other sensor data. When operated in near field communications mode, the near field communications circuitry can use the conductive structure to transmit and receive capacitively coupled or inductively coupled near field communications signals. A fingerprint sensor may have optical structures that communicate with external equipment.

แปลแบบสรุปคร่าวๆ แล้วก็คือ เจ้าปุ่มโฮมของ iPhone 5S นี้อาจมาพร้อมกับอะไหล่อิเล็คทรอนิคตัวหนึ่งที่อาจจะเป็นเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการที่อาจมีวงจรหนึ่งไว้สำหรับเก็บข้อมูลได้ โดยเจ้าเซ็นเซอร์นี้อาจเป็นเซ็นเซอร์สัมผัสแบบคาพาซิทีฟหรืออาจเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือก็ได้ เทคโนโลยี NFC เองก็อาจจะมีใส่มาไว้ในอุปกรณ์ตัวนี้ โดยเมื่อใช้งานในโหมดเซ็นเซอร์ แผงวงจรเซ็นเซอร์จะใช้ข้อมูลที่เก็บได้จากเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือเซ็นเซอร์สัมผัสของปุ่มโฮมมาประมวลผล และเมื่อใช้งานในโหมด NFC ก็จะใช้ข้อมูลที่ได้จากปุ่มโฮมนั้นๆ มาประมวลผลเพื่อใช้ในสัญญาณของ NFC ต่อไป นอกจากนี้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออาจมีโครงสร้างแบบออปติคอลเพื่อสื่อสารข้อมูลที่เก็บได้ออกไปยังอุปกรณ์ภายนอกตัวอื่นๆ ด้วย (น่าจะหมายถึงอุปกรณ์เสริม)

ก่อนหน้านี้หลังจากเปิดตัว iPhone 5 ได้ไม่นาน Apple เองก็เคยถูกสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ได้มีการใส่ฟังก์ชั่นการใช้งาน NFC มาใน iPhone ตัวปัจจุบัน (ที่กำลังจะเป็นตัวเก่าในคืนนี้) โดยในตอนนั้น Apple ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ NFC ยังไม่จำเป็นกับยุคปัจจุบันเท่าที่ควรนัก และดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ Apple พูดไว้จริงๆ เพราะในเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว เทคโนโลยี NFC แทบจะไม่ได้มีความพร้อมต่อการใช้งานจริงอย่างเต็มรูปแบบเลยเมื่อมองย้อนกลับไป หรือจนกระทั้งในตอนนี้ NFC ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในสหราชอาณาจักรและในกลุ่มเอเชียตะวันออกเท่านั้น ส่วนในอเมริกา เทคโนโลยี NFC เพิ่งจะถูกผลักดันให้เข้าไปใช้งานได้ไม่นานมานี้เอง และเชื่อแน่ว่าเจ้า iPhone 5S หากมาตามข่าวลือจริงก็จะช่วยปลุกกระแสของ NFC ในอเมริกาให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อย่างทันจุด ตรงเวลา อย่างแท้จริง

จริงๆ แล้วด้วยความสามารถของระบบการจ่ายเงินแบบไร้การติดต่อ (Contactless Payment) ที่มีมาพร้อมกับ NFC นี้เป็นอะไรที่เอื้อความสะดวกแก่ผู้ใช้งานมากกว่าระบบสัญญาณหรือระบบการใช้ PIN เสียอีก แต่เพราะผู้ให้บริการต่างก็เกรงเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานเนื่องจากระบบนี้จะไม่มีการยืนยันตัวตนของเจ้าของจริงและผู้ใช้งานเลยจึงทำให้ระบบยังไม่เกิดเท่าที่ควร และเพราะเหตุนี้ การชำระเงินผ่านระบบการจ่ายเงินแบบไร้การติดต่อนี้จึงมักจะถูกกำหนดให้ใช้จ่ายเงินได้ในวงเงินไม่เกินประมาณ $25 – 30 เหรียญหรือประมาณไม่เกิน 1000 บาทเท่านั้น

แต่จากสิทธิบัตรล่าสุดของ Apple ที่จะมีการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือควบคู่ไปกับการชำระงินแบบไร้การติดต่อนี้น่าจะมาช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ให้บริการทั้งหลายเป็นกังวลได้เป็นอย่างดี เพราะสิทธิบัตรของ Apple นี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่จะสามารถใช้งานการตัดจ่ายเงินแบบไร้การติดต่อได้นั้นจะต้องเป็นเจ้าของมือถือเครื่องนั้นๆ จริงๆ เท่านั้นจากการสแกนลายนิ้วมือ

หรือ NFC ที่ว่านี้จะเป็น “อีกหนึ่งอย่าง (One More Thing)” ประจำวลีเด็ดที่ Apple ทิ้งเอาไว้ก่อนงานเปิดตัวในกลางดึกวันนี้ของเวลาในบ้านเรา หากเป็นจริงคงต้องชื่นชม Apple ที่สามารถปกปิดฟีเจอร์เด่นๆ แบบนี้มาได้นานเนิ่นจนใกล้จะถึงวันเปิดตัวจริงเช่นนี้ ยังไงซะ อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าเราจะได้ร่วมรับทราบไปด้วยกันแล้วล่ะครับ

คงต้องบอกว่ายิ่งฟังก็ยิ่งตื่นเต้นกับเจ้า iPhone 5S ที่กำลังจะประกาศกันออกมา เพื่อนๆ ล่ะครับตื่นเต้นเหมือนกันไหม ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ในกล่องข้อความข้างล่างนี้เลย อ้อ! และลืมบอกไปว่าคืนนี้เราจะมีการรายงานสด Live Blogging งาน Apple Event ครั้งนี้กันด้วยนะ รอไว้ เย็นๆ นี้จะมีหน้านับถอยหลังปรากฏขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวพาเพื่อนๆ ไปร่วมรับรู้การประกาศเปิดตัวอุปกรณ์มือถือครั้งยิ่งใหญ่นี้จาก Apple ไปด้วยกัน!

from:http://www.appdisqus.com/2013/09/10/iphone-5s-with-fingerscan-nfc-offer-best-contactless-payment.html