อ้าว…Apple Watch Series 3 เตรียมตกรุ่นเพราะจะไม่ได้อัป watchOS 9 แต่ยังคงมีขายบนเว็บ Apple อยู่

ภายในงาน WWDC 2022 ที่ผ่านมา Apple ได้ประกาศเปิดตัว watchOS 9 รุ่นล่าสุดที่จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาทั้งฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกายต่าง ๆ ฟีเจอร์เตือนความจำให้ทานยา หน้าปัดแบบใหม่ ฯลฯ แต่ watchOS 9 จะรองรับกับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะตอนนี้บนเว็บไซต์ของ Apple ยังมีการวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 อยู่…นั่นหมายความว่าสินค้าชิ้นนี้กำลังจะตกรุ่นภายในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วนั่นเอง 

Apple Watch Series 3 เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2017 โดยมีจุดเด่นก็คือสามารถเชื่อมต่อ Cellular ผ่าน eSIM ได้เป็นรุ่นแรก ส่วนระบบปฏิบัติการที่ติดมาด้วยคือ watchOS 4 และได้รับการอัปเดตมาเรื่อย ๆ จนมาสิ้นสุดใน watchOS 8 เท่านั้น

และแม้ว่า Apple Watch Series 3 จะมีอายุอานามเกือบ 5 ปีแล้ว แต่มันก็ยังมีวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Apple ราคาเริ่มต้น 6,900 บาท และจากการที่ watchOS 9 กำลังจะปล่อยให้อัปเดตกันในช่วงเดือนกันยายนนี้ ก็แสดงว่า Apple Watch Series 3 จะกลายเป็นของตกรุ่นในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้านี้เอง 

Apple Watch Series 3 ที่ยังขายอยู่บนหน้าเว็บ

สำหรับ Apple Watch รุ่นที่จะได้ไปต่อใน watchOS 9 เท่าที่ Apple ประกาศออกมาจะมีแค่ Apple Watch Series 4, Series 5, SE, Series 6 และ Series 7 เท่านั้น

ก็ไม่รู้ว่า Apple จะยังคงวางขาย Apple Watch Series 3 ไปอีกนานแค่ไหน เพราะสินค้ารุ่นนี้กำลังจะตกรุ่นในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว…เอาเป็นว่าใครจะซื้อของก็ต้องเช็คกันดี ๆ นะ ว่ามันจะยังได้รับการอัปเดตไปจนถึงเมื่อไหร่ครับ

 

ที่มา : Apple

from:https://droidsans.com/apple-watch-3-no-longer-update-watchos/

เปรียบเทียบสเปค Apple Watch Series 6, Watch SE และ Watch Series 3 ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดี ?

เปิดตัวกันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ Apple Watch Series 6 และรุ่นประหยัดราคาถูกลงกับ Apple Watch SE ที่มาพร้อมฟีเจอร์เจ๋ง ๆ มากมายทั้งการวัดระดับออกซิเจนในเลือด (เฉพาะใน Apple Watch Series 6) และชิปเซ็ต S6 รุ่นใหม่ที่แรงขึ้น แถมยังมาพร้อมกับ Always-on Display ที่สว่างขึ้นมองเห็นได้ชัดแม้กระทั่งภายใต้แสงแดด (ใน Series 6 เท่านั้นอีกแล้ว) แต่เอ๊ะ? แล้ว 2 รุ่นใหม่นี้ต่างกันยังไง แล้วเทียบกับรุ่นเก่าจะต่างกันแค่ไหน ไปดูกันครับ

เทียบสเปค Apple Watch Series 6, Watch SE และ Watch Series 3

	Apple Watch Series 6	Apple Watch SE	Apple Watch Series 3
ขนาดหน้าปัด	หน้าปัด 40มม และ 44มม จอใหญ่ขึ้น 30%	หน้าปัด 40มม และ 44มม จอใหญ่ขึ้น 30%	38mm or 42mm case
หน้าจอ	หน้าจอ Always-On Retina LTPO OLED ความสว่าง 1000 Nits	หน้าจอ Retina LTPO OLED display, 1000 nits	หน้าจอ Retina OLED display 2nd Gen
รุ่นให้เลือก	รุ่น GPS และ GPS + Cellular	รุ่น GPS และ GPS + Cellular	รุ่น GPS
ชิปเซ็ต	S6 SiP พร้อม 64-bit dual-core processor; W3 wireless chip; U1 chip (Ultra Wideband)	S5 SiP พร้อม 64-bit dual-core processor; W3 wireless chip	S2 พร้อม dual-core processor
การควบคุม	เม็ดมะยมแบบดิจิตอลพร้อมระบบตอบสนองแบบสั่น	เม็ดมะยมแบบดิจิตอลพร้อมระบบตอบสนองแบบสั่น	เม็ดมะยมดิจิตอล
เซ็นเซอร์ตรวจร่างกาย	ระบบตรวจจับอ๊อกซิเจนในเลือด, ระบบตรวจจับคลื่นหัวใจ (ECG) และระบบตรวจจับชีพจร 2nd Gen	ระบบตรวจชีพจร	ระบบตรวจจับชีพจร
การแจ้งเตือนร่างกาย	ระบบแจ้งเตือนชีพจรต่ำ-สูง, แจ้งเตือนชีพจรเต้นผิดปกติ, แอปพลิเคชั่น ECG	ระบบแจ้งเตือนชีพจรต่ำ-สูง, แจ้งเตือนชีพจรเต้นผิดปกติ	ระบบแจ้งเตือนชีพจรต่ำ-สูง, แจ้งเตือนชีพจรเต้นผิดปกติ
ระบบตรวจจับการล้ม	ระบบโทรฉุกเฉินนานาชาติ, ระบบโทรฉุกเฉิน, ระบบตรวจจับการล้ม	ระบบโทรฉุกเฉินนานาชาติ, ระบบโทรฉุกเฉิน, ระบบตรวจจับการล้ม	ไม่มี
ระบบกันน้ำ	กันน้ำลึก 50 เมตร	กันน้ำลึก 50 เมตร	กันน้ำลึก 50 เมตร
การเชื่อมต่อ	LTE, UMTS, Wi-Fi, และ Bluetooth 5.0	LTE, UMTS, Wi-Fi, และ Bluetooth 5.0	Wi-Fi และ Bluetooth 4.0
ระบบตรวจจับ	GPS/GNSS, เข็มทิต, และระบบตรวจจับระดับความสูง	GPS/GNSS, เข็มทิต, และระบบตรวจจับระดับความสูง	GPS/GNSS
ลำโพง	ลำโพงดังขึ้น 50%, ไมโครโฟน	ลำโพงดังขึ้น 50%, ไมโครโฟน	ลำโพงดังขึ้น, ไมโครโฟน
หน่วยความจำ	ความจุ 32GB	ความจุ 32GB	ความจุ 8GB
แบตเตอรี่	18 ชั่วโมง	18 ชั่วโมง	18 ชั่วโมง

 

เทียบราคา Apple Watch Series 6, Watch SE และ Watch Series 3

ขนาดหน้าปัด	Apple Watch 6	Apple Watch SE	Apple Watch 3
38 มม.	–	–	6,400
40 มม.	13,400 / 16,900	9,400 / 10,900	–
42 มม.	–	–	7,400
44 มม.	14,400 / 17,900	10,400 / 11,900	–

หมายเหตุ : ราคาตัวบางจะเป็นรุ่น GPS Only, ราคาตัวหนาจะเป็นรุ่น GPS + Cellular

โดยหลัก ๆ แล้วรุ่น Watch Series 6 ก็จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด และชิปเซ็ต S6 ที่แรงขึ้น แถมยังมาพร้อมกับวัสดุให้เลือกถึง 3 แบบได้แก่ สแตนแลส อะลูมิเนียม และไทเทเนียม ส่วนทางฝั่ง SE มีให้เลือกแค่อะลูมีเนียมเท่านั้น ส่วนสีก็มีมาให้ได้เลือกซื้อกันด้านล่างเลยครับฟ

(รูปซ้ายสุดคือสี Apple Watch Series 6, กลา Watch SE และขวา Watch Series 3)

ส่วน Apple Watch Series 5 ที่หายไปคือจะเลิกวางจำหน่าย ซึ่งถ้าใครมีอยู่ในข้อมือตอนนี้ก็ไม่ต้องเสียใจเพราะถ้าเทียบระหว่าง Series 5 กับ 6 แล้วมีเพียงบางฟีเจอร์เดียวเท่านั้นที่อัปเดตเพิ่มเข้ามานั่นก็คือเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในระดับเลือด ECG เท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่สามารถเปิดใช้งานในไทยได้ตอนนี้

และถ้าใครที่กำลังจะซื้อ Apple Watch เครื่องใหม่ส่วนตัวแนะนำว่าควรจะซื้อตัว Watch SE มากกว่า Watch 3 เพราะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องระบบตรวจจับการล้ม, เข็มทิศ และใช้งาน Family Setup ซึ่งส่วนต่างราคาต่างกัน 3,000 บาทถือว่าค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียวครับ

from:https://droidsans.com/apple-watch-2020-comparison/

เปรียบเทียบราคา iPad และ Apple Watch รุ่นปัจจุบันทั้งหมด หลังตัวเปิดตัวรุ่นใหม่ มีเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iPad และ Apple Watch รวมกันทั้งหมด 4 รุ่นไปเมื่อคืนที่ผ่านมา บนหน้าเว็บไซต์ของแอปเปิ้ลเองพวกสินค้าราคารุ่นเก่าๆ หลายรุ่นก็เริ่มมีการอัปเดตราคากันใหม่แล้ว ซึ่งในบทความนี้เราเปรียบเทียบราคาของ iPad และ Apple Watch ทั้งหมดหลังตัวเปิดตัวรุ่นใหม่ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างมาดูกันครับ

สินค้าที่ Apple เปิดตัวมาเมื่อคืน

• iPad Gen 8
• iPad Air 4
• Apple Watch 6
• Apple Watch SE

ตารางเปรียบเทียบราคา IPAD ที่มีขายบนเว็บ Apple

ความจุ	iPad Gen 8	iPad mini 5	iPad Air 4	iPad Pro 11″	iPad Pro 12.9″
32GB	10,900	–	–	–	–
64GB	–	13,900	19,900	–	–
128GB	13,900	–	–	27,900	34,900
256GB	–	18,900	24,900	31,400	38,400
512GB	–	–	–	38,400	45,400
1TB	–	–	–	45,400	52,400

หมายเหตุ

• ราคาในตารางข้างต้นเป็นเฉพาะรุ่น WiFi เท่านั้น
• สำหรับ iPad Gen 8, iPad mini 5 และ iPad Air 4 ถ้าเป็นรุ่น WiFi + Cellular เพิ่มเงิน +4,500 บาท
• iPad Pro ถ้าเป็นรุ่น WiFi + Cellular เพิ่มเงิน +5,000 บาท

ตารางเปรียบเทียบราคา Apple Watch ที่มีขายบนเว็บ Apple

ขนาดหน้าปัด	Apple Watch 3	Apple Watch SE	Apple Watch 6
38 มม.	6,400	–	–
40 มม.	–	9,400	13,400
42 มม.	7,400	–	–
44 มม.	–	10,400	14,400

หมายเหตุ

• ราคาในตารางข้างต้นเป็นเฉพาะรุ่นเริ่มต้น ที่มีการเชื่อมต่อ GPS เท่านั้น
• สำหรับ Apple Watch SE ถ้าเป็นรุ่น GPS + Cellular เพิ่มเงิน +1,500 บาท
• สำหรับ Apple Watch 6 ถ้าเป็นรุ่น GPS + Cellular เพิ่มเงิน +3,500 บาท

อย่างไรก็ตามราคาข้างต้นทั้งหมดเช็คเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2020 หลังที่ Apple ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ยังไงก็ต้องรอติดตามกันไปครับผม เชื่อว่าหลัง iPhone 12 เปิดตัวมา อาจจะมีการขยับเปลี่ยนแปลงกันอีกทียกใหญ่ครับผม

 

ที่มา :  apple

from:https://droidsans.com/compare-ipad-apple-watch-all-price/

เปิดราคาและวันวางจำหน่าย Apple Watch 5 อย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 13,400 บาท พร้อมขาย 25 ตุลาคมนี้

Apple ประกาศเปิดราคาและวันวางจำหน่าย Apple Watch 5 อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ซึ่งตัวเครื่องจะมาพร้อมกับจอ Retina ความสว่างสูงถึง 1,000 nits รองรับ Force Touch และฟีเจอร์ใหม่ always-on display โชว์ข้อมูลบางส่วนตลอดเวลาโดยไม่ต้องหมุนข้อมือหรือแตะจอให้เมื่อย และใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,400 บาท และวางจำหน่ายวันที่ 25 ตุลาคม 2019 นี้ทั่วประเทศ

โดยครั้งแรกที่เราได้เห็นประกาศนี้ก็จากทาง AIS (อีกแล้ว) ที่ได้เริ่มยิงประกาศผ่านทาง LINE มาก่อนใคร ว่าจะขายในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ แต่ทีเด็ดจริงๆน่าจะอยู่ที่ตัว Series 3 ลดราคาลงไปเหลือเริ่มต้นเพียง 6400 บาทเท่านั้น

ราคา Apple Watch Series 5

• รุ่น GPS | ราคาเริ่มต้น 13,400 บาท
• รุ่น GPS + Cellular | ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท

ราคา Apple Watch Series 3

• รุ่น GPS | ราคา 6,400 บาท
• รุ่น GPS + Cellular | ราคา 9,900 บาท

โดย Apple Watch Series 5 รุ่นใหม่นี้จะมีให้เลือกทั้งสายอะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล เซรามิก และไทเทเนียม ซึ่งแต่ละรุ่นราคาจะไม่เท่ากัน โดยในตอนนี้หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com และในแอพ Apple Store  ส่วนหากใครจะซื้อราคาพิเศษกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือตอนนี้ยังต้องรอดูโปรโมชั่นเพิ่มเติมอีกทีครับ

 

ที่มา : apple

from:https://droidsans.com/apple-watch-series-5-3-new-price/

Apple Watch แต่ละรุ่นเปิดตัวเมื่อไหร่ รุ่นใหม่มาตอนไหน ควรซื้อช่วงไหนดี?

หลายคนมีคำถามเข้ามาค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับ Apple Watch ว่ารุ่นใหม่ในปี 2019 นั้นจะเปิดตัวตอนไหน และควรซื้อรุ่นปัจจุบันเลยหรือว่ารอก่อนดีกว่า วันนี้ทีมงาน iMod ขอนำ timeline การเปิดตัวของ Apple Watch แต่ละรุ่นมาให้ชมกันครับ Apple Watch แต่ละรุ่นเปิดตัวเมื่อไหร่ รุ่นใหม่มาตอนไหน ควรซื้อช่วงไหนดี? อัปเดต ณ วันที่เขียนข่าว (12/8/2019) ทาง Apple ปล่อย Apple Watch ออกมาแล้วด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นตามนี้ Apple Watch (1st Generation) (2014) Apple Watch Series 1 (2016) Apple Watch Series 2 (2016) Apple Watch Series 3 (2017) Apple Watch Series […]

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-timeline.html

AIS ประกาศ! พร้อมวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 รุ่นรองรับคลื่นโทรศัพท์ในไทยแล้ว

AIS ประกาศวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 (รุ่น GPS + เซลลูล่าร์) นาฬิกาที่มาพร้อมการเชื่อมต่อเซลลูล่าร์ในตัวแบบ e-Sim โดยจะเริ่มเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป

ด้วยรูปแบบที่ตัวนาฬิการองรับการเชื่อมต่อกับสัญญาณโทรศัพท์ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถออกไปทำกิจกรรมต่างๆ โดยสวมเพียง Apple Watch แล้วยังคงติดต่อสื่อสารและรับข่าวสารได้

และเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ซื้อ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + เซลลูล่าร์ในการเริ่มต้นใช้งาน AIS ได้เตรียมโปรแกรมพิเศษเพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้ระบบเซลลูล่าร์เอาไวด้วย

โดยลูกค้าสามารถเปิดใช้บริการเซลลูล่าร์บน Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + เซลลูล่าร์ ด้วยการอัพเดท iPhone เป็น iOS 11.3 และ watchOS 4.3 แล้วเข้าไปที่เมนู Setting บน iPhone เลือก General เลือก About จากนั้นทำตามขั้นตอนเพื่ออัพเดทการตั้งค่าเครือข่ายผู้ให้บริการซะก่อนครับ

 

from:https://www.appdisqus.com/2018/05/05/ais-announce-sale-apple-watc-2-cellular.html

Apple Watch เตรียมเปิดโอกาสให้ผู้สร้าง app ปรับเปลี่ยนหน้าจอหลักได้

ก่อนหน้านี้ป็นที่รู้กันว่า บน Apple Watch ไม่อนุญาตให้ผู้ทำ app 3rd party ปรับเปลี่ยนหน้าจอหน้าปัดได้ ทำให้ผู้ใช้งานต้องใช้เมนูหน้าจอ หลักเฉพาะจาก apple สร้างมาเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจ แต่ล่าสุดมีข่าวดี เพราะมีข้อมูลหลุดออกมาจาก code ของ OS ตัวล่าสุด watchOS 4.3.1 ที่อาจมาพร้อมกับลูกเล่นใหม่

โดยมันระบุว่า watch OS 4.3.1 จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ 3rd Party สามารถสร้างหน้าปัดนาฬิกาแบบกำหนดเองได้แล้ว (ปัจจุบันนี้ไม่สามารถทำได้) แต่รหัสที่พบบน watch OS 4.3.1 ยังใช้งานไม่ได้ในตอนนี้ แต่รหัสที่หลุดออกมานั้นเพียงพอที่จะแนะนำฟังก์ชันการทำงานที่อาจเพิ่มเข้ามาในอนาคต แน่นอนว่าค่าย apple อาจจะยกเลิกแผนการทั้งหมดหากสิ่งต่างๆไม่ได้ผลตามที่วางแผนไว้ แต่หวังว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะการปรับเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาเองได้นอกเหนือจากที่ apple ให้มาถือเป็นสิ่งที่ผู้ครอบครอง Apple Watch อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ

from:https://www.appdisqus.com/2018/04/16/apple-watch-os-support-thirdparty-watch-faces.html

Apple เตรียมวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 (Cellular) ในประเทศไทย

ถึงแม้ว่าสมาร์ทวอทช์สุดล้ำอย่าง Apple Watch Series 3 จะเปิดตัวไปเป็นเดือนๆ แล้ว แต่เนื่องจากรุ่นที่เป็น cellular นั้น ไม่ได้ใช้ซิมการ์ดธรรมดาแล้ว แต่เปลี่ยนไปใช้ eSim แทน ทำให้ตอนนี้ Apple Watch รุ่นดังกล่าว มีวางจำหน่ายอยู่แค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้น แต่เร็วๆ นี้ สาวก Apple ชาวไทย ก็เตรียมเฮกันได้ เพราะ Apple Watch Series 3 (cellular) กำลังจะเข้ามาขายในบ้านเราแล้วล่ะ

ด้วยข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง และตัว Apple Watch Series 3 รุ่น Cellular มันรองรับเฉพาะ eSim และในบ้านเราตอนนี้ยังมีแค่เครือข่ายเดียวที่พร้อมให้บริการ นั่นก็คือ Truemove H

Apple Watch Series 3 จะเริ่มวางจำหน่ายผ่านช็อปของ Truemove H ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2561 เป็นต้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ส่วนข้อมูลโปรต่างๆ ตอนนี้ยังไม่มีประกาศออกมานะครับ แล้วเราจะเอามาอัพเดทให้อีกที

ส่วนค่ายอื่นๆ อย่าง AIS และ dtac นั้นก็คาดว่าจะตามมาในอีกไม่ช้า เนื่องจากว่า eSIM นั้นใช้เบอร์เดียวกันกับมือถือที่ใช้ iPhone เพราะฉะนั้นก็ต้องไปติดต่อกับผู้ให้บริการของเรากันต่อไป

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : Truemove H

from:https://droidsans.com/apple-watch-seriers-3-cellular-now-available-in-thailand/

7 เคล็ดลับการใช้ Apple Watch ที่ไม่ควรพลาด

สำหรับบางคนที่เพิ่งซื้อ Apple Watch มาใหม่ และยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้งาน วันนี้ทีมงานมี 7 เคล็ดลับการใช้ Apple Watch เบื้องต้นที่มือใหม่อย่างคุณไม่ควรพลาด ลองชมกันเลยค่ะ

เจอเพิ่มเพียงแค่ปัด

ไม่ใช่เพียงหน้าจอสี่เหลี่ยมที่ใช้ดูเวลา เพียงแค่ปัดขึ้น ลง ซ้าย ขวา ก็จะพบกับเมนูการทำงานมากมายที่อำนวยความสะดวกให้กับคุณ

• ปัดขึ้น เพื่อเข้า Control Center จัดการเรื่องแบตเตอรี่ เปิด-เปิดเสียง ไฟฉาย โหมดเครื่องบิน ฯลฯ
• ปัดลง เพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ Line Facebook ไม่พลาดกับทุกความเคลื่อนไหว
• ปัดซ้าย – ขวา เพื่อเลือกหน้าปัดที่ชอบ และพบกับลูกเล่นในแต่ละหน้า เช่น ดูการเคลื่อนไหวประจำวัน ฝึกหายใจ

กำหนดหน้าปัดนาฬิกาเอง

ปรับแต่งหน้าปัดให้ตรงใจ เลือกวิตเจ็ตที่อยากได้มาแสดงบนหน้าปัดนาฬิกา เพียงแค่แตะหน้าปัดแบบ 3D Touch และเลือกคุณสมบัติที่ต้องการได้เลย เช่น การฝึกหายใจ รอบการออกกำลังกาย สภาพอากาศ เป็นต้น

ขอความช่วยเหลือจาก Siri

เพียงแค่พูด “หวัดดี Siri” หรือกดปุ่ม Crown ค้างไว้ ก็สามารถสั่งงาน Siri ให้โทรหาใครก็ได้ และสั่งให้เปิดแอปที่ต้องการได้ มีประโยชน์มากสำหรับคนที่กำลังขับรถอยู่หรือทำกิจกรรมที่ไม่สามารถใช้มือแตะนาฬิกาหรือ iPhone ได้ เพียงแค่มี Siri การทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตก็จะง่ายขึ้น

อัพเดทเป้าหมายการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ

ในแต่ละวันการเคลื่อนไหวร่างกายของเราอาจจะเยอะหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำ เช่น วันนี้เราไปว่ายน้ำ ก็อาจจะเปลี่ยนเป้าหมายในการเคลื่อนไหวใหม่ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ต่อวันให้มากขึ้น การอัพเดทเป้าหมายใน Apple Watch ทำได้ง่ายๆ โดยการเปิดแอป การออกกำลังกายขึ้นมา แล้วแตะแบบ 3D Touch ที่วงแหวน จากนั้นเลือก เปลี่ยนเป้าหมายการเคลื่อนไหว แล้วกำหนดเป้าหมายใหม่ได้เลย

ถึงหายก็หาเจอ

บ่อยครั้งที่เราลืมว่าวาง iPhone ไว้ที่ไหน บางทีอาจจะอยู่ในกระเป๋าหรือซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ถ้ามี Apple Watch แล้วล่ะก็ เพียงแค่แตะไอคอน “เรียกหา iPhone”  iPhone ของคุณก็จะส่งเสียงทันที ไม่ต้องค้นหาให้เสียเวลา

ติดตามการออกกำลังกายแบบตามติด

Apple Watch มีกิจกรรมการออกกำลังกายให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง การเดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ ที่เตรียมให้คุณพิชิตเป้าหมายในการทำกิจกรรมแต่ละประเภท และในขณะที่ออกกำลังกายอยู่นั้นหากต้องการเปลี่ยนกิจกรรมก็สาปัดหน้าจอไปทางขวาแล้วแตะ “ใหม่” เพื่อเลือกกิจกรรมอื่นได้เลย

รับคู่มือผู้ใช้

Apple Watch ยังมีความสามารถอีกมากมายที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ หากต้องการเรียนรู้แบบครบวงจรก็สามารถดาวน์โหลดคู่มือที่ iBook Store บน iPhone เพื่ออ่านทริปและทริควิธีการใช้งานของ Apple Watch ได้เลย ซิ่งในคู่มือผู้ใช้ยังมีคู่มือของ iPhone, iPad และ iPod Touch อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับการใช้งาน Apple Watch เบื้องต้นที่นำมาแนะนำให้กับผู้ใช้ Apple Watch มือใหม่ ก็ลองศึกษาและใช้งานกันดูนะคะ

ขอบคุณ Apple

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-7-tips-and-tricks.html

ออกกำลังกายด้วย Apple Watch 3 GPS คู่กับแอป Zones for Training

สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเดิน ปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายในร่ม Fitness ทีมงานขอแนะนำแอปพลิเคชัน Zones for Training ทีทำงานร่วมกับ Apple Watch 3 GPS ติดตามการออกกำลังกายในทุกๆ วัน

รู้จักกับ Zones for Training

Zones for Training เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับ Apple Watch เพื่อติดตามทุกๆ กิจกรรมในการออกกำลังกาย สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรายงานผลการออกกำลังกายอย่างละเอียดว่าเราออกกำลังกายด้วยวิธีไหน เผาผลาญแคลอรี่ไปเท่าไหร่ และรายงานอัตราการก้าวเฉลี่ย เพื่อให้เราปรับปรุงและดึงศักยภาพในการออกกำลังกายได้ดีขึ้น

ใน Zones for Training รองรับประเภทการออกกำลังกายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ออกกำกายใน Fitness โยคะ เต้น ว่ายน้ำ การเล่นกีฬา รวมถึงการออกกำลังกายสำหรับผู้พิการที่ใช้ Wheelchair ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน

เพียงแค่เลือกกิจกรรมให้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการ มีให้เลือกเยอะขนาดนี้ รับรองว่าการออกกำลังกายของเราจะตื่นเต้นได้ทุกวัน ไม่รู้สึกเบื่อจำเจแน่นอน

การทำงานร่วมกับ Apple Watch Series 3 GPS

เมื่อเราใช้ Apple Watch Series 3 GPS ร่วม Zones for Training ในออกกำลังกาย Apple Watch จะทำหน้าที่ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและระยะทาง (สำหรับกิจกรรมที่มีการวัดระยะทาง) รวมถึงคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย เพื่อรายงานไปยัง Zones for Training ที่ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการออกกำลังกายของเราในแต่ละวัน

รายงานสรุปใน Zones for Training ถือว่าค่อนข้างละเอียด สามารถจับได้ว่าขณะออกกำลังกายเรามีการพักในนาทีเท่าไหร่และเริ่มออกกำลังกายต่อในนาทีเท่าไหร่ รวมทั้งสามารถแสดงจุดพีคในการออกกำลังของเราในรูปแบบกราฟฟิคที่ดูง่ายอีกด้วย

การติดตั้ง Zones for Training และเชื่อมต่อกับ Apple Watch 3

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยไปที่แอป Watch > ค้นหา > พิมพ์ Zones for Training > แตะ รับ เพื่อดาวน์โหลดมายัง iPhone

จากนั้นเปิดแอป Zones for Training ใน iPhone และแตะ Allow Health Access เพื่ออนุญาตให้ Zones for Training เข้าถึงข้อมูลสุขภาพของเรา > แตะเปิด อนุญาตอ่านและการเขียนข้อมูลจาก Apple Watch มายังแอป Health ใน iPhone ตามต้องการ

ตั้งค่าอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด โดยการกรอกอายุให้เรียบร้อย

การวิ่งด้วย Apple Watch Series 3 GPS & Zones for Training

การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ Basic ที่สุด เริ่มต้นได้ง่าย ลองมาดูกันว่าในการวิ่งโดยใช้ Apple Watch Series 3 GPS กับ Zones for Training จะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง

เริ่มต้นด้วยการเปิดแอป Zones for Training ใน Apple Watch จากนั้นเลือกกิจกรรมเป็น Running และแตะปุ่มไอคอน Play

Zones for Training จะเริ่มทำงานทันที สังเกตเห็นว่าจะมีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย จากที่ทดลองเริ่มต้นด้วยการวิ่งเร็ว ในแต่ละนาทีอัตราการเต้นของหัวใจก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 170 bpm

เนื่องจากเป็นคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ จึงทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่งบอกได้ว่าร่างกายไม่ได้ฟิตเท่ากับคนที่วิ่งหรือออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

หลังจากวิ่งและเดินในระยะทาง 0.66 กิโลเมตรแล้วหยุด เราลองมาดูการรายงานผลกัน แอปก็จะสรุปข้อมูลคร่าวๆ หลังจากการวิ่งได้ดังรูปภาพด้านล่าง

ส่วนรายงานผลการออกกำลังกายแบบละเอียดนั้น ให้เปิดแอป Zones for Training ใน iPhone ขึ้นมา แตะดูรายงานในกิจกรรมที่วิ่งไป ก็จะเห็นสรุปข้อมูลความพีค การคาดิโอ การเผาผลาญไขมันและการวอร์มอัพ รวมถึงข้อมูลเวลาที่ใช้ จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ ระยะทาง อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย อัตราการก้าวเฉลี่ย เป็นต้น

เลื่อนลงมาด้านล่าง จะพบกับ Event สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างออกกำลังกายว่าเราวิ่งแต่ละช่วงกี่นาทีและหยุดพักเดินกี่นาที

ในแท็บที่ 2 จะเป็นการแสดงกราฟอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการก้าวในตลอดระยะเวลาที่ออกกำลังกาย

ในแท็บที่ 3 จะแสดงแผนที่หรือเส้นทางในการวิ่งของเรา สามารถแชร์ไปยังโซเชียลอื่นๆ ได้ เผื่อว่าจะมีผู้คนสนใจที่จะมาวิ่งในสถานที่เดียวกับเรา

นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลสรุปอื่นๆ ใน Insight เพื่อใช้วิเคราะห์ภาพรวมในการออกกำลังกาย สรุปได้ดังนี้

การออกกำลังกายล่าสุด แสดงข้อมูลการออกกำลังกายล่าสุดว่าเราทำกิจกรรมใดบ้างภายใน 90 วันที่ผ่านมา สามารถแตะดูรายละเอียดในแต่ละวันได้

อัตราการฟื้นตัวของหัวในหลังออกกำลังกายในแต่ละวัน เพื่อประเมินความสามารถของหัวใจในการฟื้นฟูตัวเองหลังออกกำลังกายอย่างหนัก หากอัตราการเต้นของหัวใจลดลงกลับสู่ค่าปกติภายใน 3-5 นาทีหลังออกกำลังกาย ถือว่าหัวใจแข็งแรงปกติดี ข้อมูลนี้จะช่วยประเมินผลการพัฒนาสมรรถภาพและความแข็งแรงของหัวใจว่ามีความแข็งแรงขึ้นหรือไม่

สรุปการเผาผลาญแคลอรี่ประจำสัปดาห์ เป็นการสรุปข้อมูลการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละสัปดาห์ว่าเราสามารถเผาผลาญไปได้เท่าไหร่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายในการลดน้ำหนักที่ควรติดตามการเผาผลาญแคลอรี่อยู่เสมอ

10 อันดับระยะทางที่ทำได้ดีที่สุด สำหรับการออกกำลังกายที่มีการใช้ระยะทาง แอปก็จะแสดงระยะทางที่เราทำได้ดีที่สุด เพื่อให้เราวิเคราะห์และวางแผนการออกกำลังกายต่อไป

อัตราการก้าวเฉลี่ย เป็นการแสดงผลอัตราการก้าวเฉลี่ยในแต่ละวัน ที่มีหน่วย นาที/กิโลเมตร เพื่อบอกว่า ใน 1 กิโลเมตรเราใช้เวลาในการออกกำลังกายวิ่งหรือเดินกี่นาที เช่น 8’22” หมายความว่า เราสามารถวิ่งได้ 1 กิโลเมตรในเวลาเฉลี่ย 8 นาที 22 วินาทีนั่นเอง ข้อมูลนี้จะช่วยให้เราทำเวลาในการออกกำลังได้ดีขึ้นในครั้งถัดไป

สรุป

Apple Watch Series 3 GPS สามารถทำงานร่วมกับแอป Zones for Training ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการวัดอัตราการเต้นของหัวในขณะออกกำลังกายที่สามารถรายงานผลในแอปได้อย่างละเอียดยิบเลยทีเดียว เหมาะมากกับคนที่ต้องติดตามการออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ด้วยการสรุปข้อมูลในแอป ช่วยให้เราวิเคราะห์การออกกำลังกายและสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการออกกำลังกายครั้งถัดไปได้มากขึ้น

ทราบกันอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ถ้าออกกำลังกายอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายของเรา ก็จะช่วยให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า รวมถึงหากมีข้อมูลสนับสนุนที่ดีก็ช่วยให้เราเห็นแนวทาง สามารถเลือกการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย

สำหรับใครที่ต้องการติดตามผลการออกกำลังกาย ก็อย่าลืมโหลดแอป Zones for Training ไว้ในเครื่อง และเมื่อต้องออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Watch Series 3 GPS ได้เลย เชื่อว่าถ้าได้ลองอย่างจริงจังแล้ว การออกกำลังกายก็จะเป็นเรื่องสนุกในทุกๆ วัน

เรียบเรียงและรีวิวโดย : iPhoneMod.net

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-series-3-gps-and-zones-for-training.html