คลังเก็บป้ายกำกับ: ANDROID_8.1

Google ปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ “รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ” ให้ Android 6 ขึ้นไป

ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา Google ได้แสดงออกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่นฟีเจอร์ รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ (auto-reset permissions from unused apps) ที่ใส่เข้ามาเป็นครั้งแรกใน Android 11 ล่าสุดบริษัทฯ ประกาศปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้ Android 6 – 10 ได้ใช้งานด้วย

เมื่อมีการเข้าใช้งานแอปใด ๆ เป็นครั้งแรก ระบบจะขึ้นป็อปอัปแจ้งเตือนเกี่ยวกับการร้องขอสิทธิการเข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างของอุปกรณ์ เช่น แอปแผนที่ จะขออนุญาตเข้าถึงการระบุตำแหน่ง หรือแอปเครื่องเล่นเพลง จะขออนุญาตเข้าถึงไฟล์ในเครื่อง เป็นต้น ซึ่งหน้าที่ของฟีเจอร์ รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ นั้นตรงตามชื่อ กล่าวคือ หากมีแอปใด ๆ ที่เคยให้สิทธิ์ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้ถูกใช้งานเป็นระยะเวลานาน (ทาง Google ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน บอกเพียงแค่ “หลายเดือน” ซึ่งน่าจะอยู่ที่ 3 เดือนขึ้นไป) แอปดังกล่าวจะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงทั้งหมดโดยอัตโนมัติทันที เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานในระยะยาว

ทั้งนี้ Google จะทยอยปล่อยอัปเดตให้ Android 6 – 10 ผ่านทาง Play Services แบบแยกส่วนเฉพาะโมดูล (ไม่ต้องอัปเดตทั้งระบบปฏิบัติการ) เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป และน่าจะครอบคลุมครบทั้งหมดภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 ครับ

 

ที่มา : Google 

from:https://droidsans.com/google-auto-reset-permissions-update-android-6-10/

Android 8.1 เพิ่มฟีเจอร์ระบุความเร็ว WiFi Hotspot ช้าเร็วแค่ไหน เช็คได้ก่อนเชื่อมต่อ

เวลาต้องไปนั่นทำงานหรือเล่นเน็ตนอกบ้านนั้น ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหารร้านกาแฟเราก็ต้องมีการเชื่อมต่อกับ WiFi เพื่อใช้งานกับโน๊ตบุ้คที่พกไป แต่หลายๆ ครั้งมักจะเจอปัญหาว่าต่อ WiFi แล้วทำไมมันช้าโคตรๆ คือเสียเวลาพยายามเกาะและใส่พาสเวิร์ดอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ต้องใช้มือถือปล่อย Hotspot เอาเอง แต่ปัญหาแบบนี้จะหมดไป เพราะ Android 8.1 จะโชวร์ความเร็วของ WiFi ให้ดูก่อนเลยว่าแรงหรือเร็วแค่ไหน

จากเดิมเวลาเราค้นหา WiFi hotspot ตามสถานที่ต่างๆ นั้นเราจะเป็นข้อมูลแค่ว่าเป็น WiFi แบบเปิดให้เชื่อมต่อแบบสาธารณะหรือ Open แล้วก็จะมี Secure ที่ต้องใส่รหัสผ่าน แต่ถ้าใครที่ใช้งาน Android 8.1 ในตอนนี้ จะมีการแสดงผลแบบใหม่เพิ่มขึ้นมา คือมีการแปะป้ายหรือ Lable สัญญาณ WiFi ว่าเน็ตแรงแค่ไหนด้วย

สัญลักษณ์แสดงความแรงสัญญาณนั้นมีให้เห็นกันเป็นปกติ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือความเร็วเน็ต ซึ่งจะถูกแบ่งตามความเร็วออกตามนี้

  • Slow = 0 – 1 Mbps
  • OK = 1 Mbps – 5 Mbps
  • Fast = 5 Mbps – 20 Mbps
  • Very Fast = 20 Mbps+

แต่ความเร็วนั้นจะถูกระบุบน WiFi ที่เปิดแบบ Open เท่านั้น ไม่สามารถตรวจสอบจุดให้บริการที่ต้องมีการใส่รหัสผ่านได้ สำหรับใครที่ดูตัวเลขแล้วไม่เข้าใจ ก็ขออธิบายเพิ่มเติมว่าเน็ตแรงแค่ไหนถึงจะพอใช้งาน

  • Slow : เน็ตช้าไปหน่อย แต่ก็พอให้ใช้งานพวก VOIP โทรผ่านแอป เล่นแอปแชทได้
  • OK: แรงขึ้นมาหน่อย เปิดเวปเปิดอะไรได้ตามปกติ ฟังเพลงและเล่นโซเชิียลได้สบายๆ
  • Fast: เริ่มแรงได้ที่ พอสำหรับ YouTube และอื่นๆ
  • Very Fast: แรงพอสำหรับทุกอย่าง ดูวิดีโอความละเอียดสูงได้สบายๆ

คราวนี้เราก็จะไม่เสียเวลาไปเลือกเชื่อมต่อกับ WiFi ที่สัญญาณแรง แต่เน็ตห่วยๆ กันอีกต่อไป ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเลยทีเดียว ส่วนใครที่ไม่ชอบ คือดูแล้วมันรกตาก็สามารถไปเลือกปิดได้ที่ Settings > Network & Internet > Wi-Fi > Wi-Fi Preferences > Advanced > Network rating provider ครับ

 

source : androidpolice

from:https://droidsans.com/android-8-1-lable-public-wifi-internet-speed/

Android 8.1 จะสามารถบอกความเร็วของ Wi-Fi สาธารณะได้ก่อนการเชื่อมต่อเสียอีก

แม้ว่า Google จะปล่อย Android 8.1 ออกมาสองสัปดาห์ได้แล้ว แต่ดูเหมือนป๋ายังไม่พอใจกับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาให้สักเท่าไหร่ เลยยังคงเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับ Android 8.1 Oreo ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนั้นได้เพิ่มการแจ้งผู้ใช้งานว่า WiFi สาธารณะที่ตนสามารถเชื่อมต่อได้ในบริเวณนั้นมีความเร็วมากน้อยแค่ไหนด้วย

android-8.1-WiFi-Speed-Labels

โดยความสามารถนี้เพิ่งถูกปล่อยออกมาจาก Google ในวันนี้ให้กับเครื่องที่ใช้งาน Android 8.1 อยู่ ซึ่งมันจะเพิ่มข้อความแจ้งเตือนความเร็วของ WiFi สาธารณะให้ผู้ใช้งานได้เห็น โดยแบ่งช่วงความเร็วออกเป็น เร็วมาก (20+ Mbps) เร็ว (5-20 Mbps) โอเค (1-5Mbps) และ ช้า (0-1Mbps) โดยการเพิ่มการแจ้งเตือนนี้เข้าไปจะช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเชื่อมต่อกับ WiFi สาธารณะใดดีในบริเวณที่ตนอยู่หากจำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งถือเป็นความสามารถใหม่ที่มีประโยชน์และน่าสนใจมากทีเดียว

wifi-public-android81

อย่างไรก็ตาม Android 8.1 Oreo ไม่สามารถบอกความเร็วของ WiFi ได้หาก WiFi จุดนั้นๆ มีการเข้ารหัสผ่านเอาไว้อยู่ และหากคุณไม่ชอบให้มันรายงานความเร็วของ WiFi สาธารณะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถปิดการใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ที่ Settings > Network & Internet > Wi-Fi > Wi-Fi preferences > Advanced > Network rating provider และทำการเลือก None แทน Google เพียงเท่านี้ความสามารถดังกล่าวก็จะถูกปิดลง

android-oreo-2

from:https://www.appdisqus.com/2018/01/23/android-81-oreo-can-tell-wifi-strenght-before-connection.html

ผู้บริหารนอนยัน Nokia 2 จะได้กิน Android Oreo (Go Edition) แน่ ชี้เป็นรุ่นถูกที่สุดที่กล้าประกาศว่ามีอัพเดท

สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดสุดจากบริษัท HMD Global อย่าง Nokia 2 เปิดตัวในไทยมาได้เป็นเวลาเกือบครบเดือนแล้วโดยเคาะราคาไทยอยู่ที่ 3,490 บาท แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มวางขายในบ้านเราเมื่อไหร่กันแน่ ทั้งที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะวางขาย 15 ธันวาคม (เอ.. หรือจะหมายถึงปี 2018)

Nokia 2 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ซึ่งปกติแล้วมือถือราคาไม่กี่พันบาทนั้นบอกเลยว่ายากที่จะได้อัพ OS เวอร์ชันใหม่ๆ เหมือนคนอื่นเขา แต่แล้ว Juho Sarvikas ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ HMD ก็ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการด้วยตัวเองเลยว่า Nokia 2 จะได้อัพเดทเป็น Android 8.1 Oreo (คาดว่าเป็น Android Go Edition) ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก และน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุดที่ได้อัพไปกิน Oreo ก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม HMD ไม่ได้บอกไว้ว่าจะปล่อยอัพเดทออกมาเมื่อไหร่ เป็นไปได้ว่าอาจจะกินเวลาอีกหลายเดือน Sarvikas เผยว่าการอัพเดทครั้งนี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์จัดการพื้นที่หน่วยความจำต่างๆของ Android Oreo (Go Edition) สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก ซึ่งจะทำให้ Nokia 2 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 

 

ที่มา: GSMArena

from:https://droidsans.com/nokia-2-will-get-android-oreo-go-edition/

Google ปล่อยแอพ ARCore และ AR Stickers นำ AR มาสู่สมาร์ทโฟน Pixel ที่รันบน Android 8.1

arcore

Google นำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาใช้งานร่วมกับกล้องดิจิตอลของสมาร์ทโฟน Pixel ทั้งรุ่นแรกและรุ่นใหม่ล่าสุด โดยปล่อยแอพพลิเคชั่น ARCore และ AR Stickers ให้ดาวน์โหลดฟรี!! แต่จะใช้งานได้ต้องอัพเดทสมาร์ทโฟนให้เป็นเวอร์ชั่น Android 8.1

ar-stickers

หลังจากอัพเดทสมาร์ทโฟนเป็น Android 8.1 ในโหมดกล้องจะพบกับตัวเลือก AR Stickers เมื่อเปิดใช้งาน จะสามารถนำสติกเกอร์ 3 มิติ มาวางซ้อนบนวัตถุในโลกจริงได้ โดยมีสติกเกอร์ให้เลือกหลายแบบ รวมทั้งธีม Star Wars

google-arcore

สำหรับ ARCore จะนำตัวละครจากโลกดิจิตอลมาผสานกับโลกจริง ช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายวีดีโอ สามารถสร้างเรื่องราวตามจินตนาการของผู้ใช้งาน และจำเป็นต้องติดตั้ง AR Stickers ก่อนจึงจะใช้งานได้

ปัจจุบัน ARCore และ AR Stickers รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟน Pixel, Pixel XL, Pixel 2 และ Pixel 2 XL ที่รันบน Android 8.1 สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี!! จาก Google Play Store ตาม Link ด้านล่าง

ดาวน์โหลด ARCore

ดาวน์โหลด AR Stickers

คำอธิบายของ AR Stickers: ใช้กล้องถ่ายรูป Pixel เพื่อทำให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวาด้วยสติกเกอร์ AR แบบภาพเคลื่อนไหวและแบบอินเทอร์แอกทีฟ – ถ่ายทอดความรู้สึกลงในรูปภาพและวิดีโอโดยใช้ตัวละครโปรด และแสดงตัวตนด้วยอีโมจิล้อเลียน พร้อมทั้งสร้างฉากให้กับการผจญภัยของคุณเอง

คำอธิบายของ ARCore: เมื่อใช้ ARCore คุณจะได้ประสบการณ์ใช้งานแบบใหม่ล่าสุดที่ช่วยผสานโลกดิจิตอลและโลกความจริงได้อย่างราบรื่น พลิกโฉมรูปแบบการทำงานและการเล่นในอนาคตด้วยเทคโนโลยี Android

ที่มา – Phonearena

from:http://www.flashfly.net/wp/202725

Android 8.1 มาแล้ว ผู้ใช้ Pixel และ Nexus สามารถอัพเดทได้ผ่าน OTA หรือ Factory Image

Google ได้พัฒนาเวอร์ชั่น 8.1 หรือนับเป็นอัพเดทเล็กของ Android Oreo ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในเวอร์ชั่นนี้นั้นทาง Google อาจจะไม่ได้เน้นฟีเจอร์ใหม่ๆ แต่ไปโฟกัสในเรื่องของการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องของแบตเตอรี่ การเปิดใช้งาน Pixel Visual Core และที่ลืมไม่ได้คือการแก้ emoji (รูปเบอร์เกอร์และเบียร์) แต่ไฮไลท์จริงๆ ของ Android 8.1 คือการมาของ Android Go หรือเรียกว่า Android Oreo (Go Edition)

ในตอนนี้ดูเหมือนว่า Google ยังไม่ได้ push หรือยิง OTA ออกมาให้อัพเดทกัน แต่ก็มีการอัพทั้งไฟล์ OTA และ Factory Image ขึ้นไปบน Android Developer Blog แล้ว โดยสามารเข้าไปดาวน์โหลดมาทำการ sideload หรือ flash เองกันได้ ตามนี้

Android 8.1 Factory Image

Android 8.1 OTA Image

สำหรับใครที่ใช้งาน Nexus 5X และ Nexus 6P ก็สามารถไปดาวน์โหลดได้เช่นกันครับ

ส่วน Android Go นั้นถ้าใครยังจำได้มันคือโปรเจคท์ที่ Google พัฒนาขึ้นเพื่อให้มือถือ Android สามารถทำงานได้บนฮาร์ดแวร์ที่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่มี RAM 512MB ก็ยังสามารถใช้งานได้ เพราะมีการปรับปรุงเรื่องของการใช้หน่วยความจำ, ปรับปรุงแอปให้กินพื้นที่น้อยลงซึ่งเราได้เห็นกันไปแล้วว่ามีแอปใหม่ๆ อย่าง Files Go และ YouTube Go เกิดขึ้นมานั่นเอง

ส่วนเรื่อง Android Oreo (Go Edition) ขอยกยอดไปอธิบายแบบละเอียดๆ ในอีก blog นึงแล้วกันนะครับ

 

source : androidpolice

from:https://droidsans.com/android-8-1-factory-image-ota-available/

วิธีเปิด Pixel Visual Core เพื่อใช้งาน HDR+ บนสมาร์ทโฟน Pixel 2 และ Pixel 2 XL ที่รันด้วย Android 8.1

pixel-2-xl

สมาร์ทโฟน Pixel 2 และ Pixel 2 XL มีชิปประมวลผลร่วม ที่เรียกว่า Pixel Visual Core แต่ปัจจุบันยังไม่ถูกนำมาใช้งาน แต่ล่าสุด Google ได้ปล่อย Android 8.1 Developer Preview 2 ออกมาแล้ว และทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์มองเห็นว่า Pixel Visual Core สามารถนำมาใช้งานได้แล้ว

วิธีเปิดใช้งาน Pixel Visual Core สำหรับสมาร์ทโฟน Pixel 2 และ Pixel 2 XL ที่รันบน Android 8.1 Developer Preview 2

  1. เข้าไปยัง Settings > System > About phone
  2. มองหา Build number ที่อยู่ส่วนล่างของหน้าจอ แล้วแตะ 5 ครั้ง
  3. กลับไปแตะที่เมนู Developer options
  4. เลื่อนลงไปภายใต้หัวข้อ Debugging แล้วแตะปุุ่มที่อยู่หลัง Camera HAL HDR+ ให้เปิดใช้งาน
  5. จากนั้นให้ Reboot สมาร์ทโฟน เป็นอันเรียบร้อย

Untitled-1

Untitled-2

หลังจากเปิดให้ Camera HAL HDR+ ทำงาน จะช่วยให้แอพพลิเคชั่นของบุุคลที่สามที่เชื่อมต่อกับ Android Camera API สามารถใช้ประโยชน์จาก Pixel Visual Core ในการถ่ายภาพด้วย HDR+ เช่นเดียวกับที่แอพกล้องมาตรฐานของ Google

นั่นหมายถึงคุณสามารถถ่ายภาพผ่านแอพพลิเคชั่นของบุุคลที่สามได้สวยงามขึ้น อย่างเช่น Instagram หรือแอพอื่นๆ ที่มีฟีเจอร์กล้องของตัวเอง โดยจะให้คุณภาพของภาพถ่าย เหมือนกับการถ่ายด้วยแอพกล้องที่มากับสมาร์ทโฟน

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นจุดเล็กๆ ของ Pixel Visual Core เท่านั้น เพราะมันมีความสามารถที่ล้ำหน้ากว่า ISP ส่วนใหญ่ในสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังมี Machine Learning สามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นตามการใช้งาน ดังนั้น Pixel Visual Core จะมีประโยชน์มากขึ้นในอนาคต ทั้งการใช้งานแอพพลิเคชั่นของบุคคลที่สาม หรือแอพกล้องในตัว

ที่มา – AndroidCentral

from:http://www.flashfly.net/wp/201486

Android 8.1 Oreo เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนแอปสูบแบต และลดขนาดของแอปที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอปัญหามือถือแบตหมดไวแบบไม่รู้สาเหตุมาก่อนแน่นอน ขนาดว่าไม่ได้ใช้งานปิดจอทิ้งไว้ซักพักเปิดมาแบตหายไปเป็น 10% แถมเครื่องยังร้อนอีกตะหาก ลองเช็คดูก็ไม่ได้เปิดแอปอะไรค้างเอาไว้ซะหน่อย แต่จริงๆแล้วมันมีบางแอปที่แอบทำงานคอยสูบแบตอยู่นั่นเอง หรือจะเป็นปัญหาที่ความจำหดหายไปเรื่อยๆทั้งที่ไม่ได้โหลดอะไรเลย และในการอัพเดท Android 8.1 Oreo คราวนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในจุดนี้แล้วล่ะ

อาการเครื่องสูบแบตเตอรี่ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้งานนั้น เกิดมาจากแอปบางแอปทำการเรียกดูข้อมูลต่างๆ ของมือถืออยู่ตลอดเวลา ทำให้มือถือไม่สามารถเข้าโหมด deep sleep ที่จะลดการใช้พลังงานลงได้ และนั่นทำให้มือถือไม่สามารถพักผ่อนนอนหลับ และกินแบตไปเรื่อยๆ จนเครื่องร้อนนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแอปจากผู้พัฒนาอื่นที่สามารถแจ้งเตือนพวกแอปสูบแบตเหล่านี้ให้ดาวน์โหลดมาใช้ได้อยู่เหมือนกัน แต่ใน Android 8.1 จะมีฟีเจอร์นี้ติดมาให้ด้วยเลยแบบไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม เมื่อระบบตรวจพบแอปที่กินแบตอยู่เบื้องหลังจะมีไอคอนรูปแบตเตอรี่สีแดงแจ้งเตือนขึ้นมา เมื่อกดดูก็จะพบกันรายชื่อแอปที่แอบทำงานอยู่เบื้องหลัง จากนั้นผู้ใช้ก็จะสามารถกดปิดการทำงานของแอปเหล่านั้นได้เลย

ส่วนอีก 1 ฟีเจอร์ที่เราจะได้ใช้กันเมื่อได้รับการอัพเดทเป็น Android 8.1 ก็คือฟีเจอร์ลดขนาดพื้นที่ของแอปที่ไม่ใช้งาน ซึ่งแอปเหล่านี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งานมันเลย แต่มันก็จะคอยสร้างไฟล์ cache เอาไว้เรื่อยๆ เผื่อเอาไว้เวลามีการกดเข้าใช้งาน ก็จะสามารถเรียกข้อมูลต่างๆ ได้เร็วขึ้นนั่นเอง ซึ่งบางแอปก็สร้างไฟล์ cache เอาไว้ได้เป็นหลายร้อย MB แม้เราจะไม่ได้เปิดใช้งาน แต่ใน Android 8.1 ระบบจะสามารถเช็คได้ว่าแอปไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน และจะทำการตั้งค่าให้แอปพวกนั้นเป็น Inactive เพื่อให้ไม่มีการสร้างไฟล์ cache ช่วยลดปัญหาพื้นที่หายโดยไม่ต้องคอยไปไล่ลบไฟล์ cache กันทีหลัง

ทั้ง 2 ฟีเจอร์นี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าจะมาพร้อมกับการอัพเดท Android 8.1 Oreo ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าแต่แบรนด์ แต่ละรุ่นจะได้รับการอัพเดทเมื่อไหร่นะครับ และตอนที่ได้รับอัพเดทกันแล้วก็น่าจะมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะพัฒนาการใช้งาน Android ให้ดีขึ้นอีกแน่นอน

 

ที่มา : Androidauthority, GSMarena

from:https://droidsans.com/android-8-1-oreo-battery-cache-improvement/

ก้าวต่อไปของ Android คือการลดขนาดแอพ เพิ่มพื่นที่ว่าง ด้วยระบบการจัดการอัจฉริยะใน Android 8.1

แม้เราเริ่มได้เห็นผู้ผลิตหลายรายเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลบนเครื่องสมาร์ทโฟน จนมาตรฐานเครื่องระดับสูงกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค 64GB กันเป็นปกติไปแล้ว แต่เรื่องพื้นที่จัดเก็บก็ยังคงเป็นปัญหาให้กับอุปกรณ์ระดับกลาง-ล่าง ที่มีหน่วยความจำในตัวไม่มากนัก

ทางออกของ Google ก็คือกลไกรูปแบบใหม่ในระบบ Android 8.1 ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างโดยการลดขนาดแคชของตัวแอปพลิเคชัน ตามข้อมูลในโครงการของ Android Open Source Project (AOSP) อธิบายถึงคุณลักษณะใหม่ที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ซึ่งจะถูกเรียกใช้โดยอัตโนมัติเมื่อหน่วยความจำอุปกรณ์เหลือน้อย แอปพลิเคชันใดที่ถูกตรวจพบว่าไม่ได้ถูกใช้งานในระยะหนึ่ง จะถูกลบแคชหรือดาวน์เกรดตัวแอปพลิเคชั่นลงโดยอัติโนมัติ

เป็นแนวคิดคล้ายๆ กับการทำงานของแอปพลิเคชั่นตัวล่าสุด Files Go ของ Google ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ชาว Android ได้ลองใช้งานกัน เพื่อนๆ ที่อยากลองก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดติดตั้งใช้งานกันดูก่อนได้ครับ เพราะว่าถ้าจะให้รอการอัพเดท Android 8.1 คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกร่วมปีกว่าเราจะได้สัมผัสกัน เพราะในวันนี้ก็แทบจะมีน้อยเครื่องมากๆ ที่จะอัพเดทระบบของเราให้เป็น Android 8.0 ยังไม่ต้องพูดถึง Android 8.1 เลยครับ

 

from:https://www.appdisqus.com/2017/11/11/next-android-8-1-inactive-app.html

Netflix รองรับการเล่นแบบ Picture-in-Picture บน Android แล้ว ดูหนังไป ก็ทำอย่างอื่นไปด้วยได้

ระบบ Picture-in-Picture บน Android นั้นเพิ่งจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปใน Android 8.0 Oreo ซึ่งเอาจริงๆ แล้วการทำงานของมันก็คล้ายกับ Pop-up view ของ Samsung โดยในช่วงแรกนั้นแอปที่รองรับ PiP ก็มี YouTube และ Google Maps โดยล่าสุดก็มี Netflix ที่พัฒนาแอปให้รองรับฟีเจอร์นี้อย่างเต็มรูปแบบใน Android 8.1 Developer Preview

แอป Netflix เวอร์ชั่นล่าสุดนั้นรองรับการทำงานแบบ PiP โดยสมบูรณ์แล้ว นั่นหมายความว่าเมื่อคุณกำลังดูหนังหรือซีรี่ส์อยู่ ก็สามารถสลับไปทำอย่างอืื่นได้ โดยหน้าต่างของ Netflix นั้นจะถูกย่อลงไป แต่หนังที่เราดูก็ยังเล่นไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ทาง Netflix เองก็ยืนยันว่าจะได้ใช้บนมือถือ Android 8.1 ขึ้นไปเท่านั้น (ทำไมไม่ 8.0)

                                                                                                                   Google Maps ขณะทำงานแบบ PiP

และอีกเรื่องนึงที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ Netflix จะรองรับการทำงานแบบ PiP (Picture-in-Picture) แต่กลับไม่รองรับการแบ่งหน้าจอหรือ Multi Windows ทั้งๆ ที่มันก็น่าจะเป็นการทำงานแบบเดียวกัน – -”

 

source : androidpolice

from:https://droidsans.com/netflix-support-picture-picture-android-81/