คลังเก็บป้ายกำกับ: สิทธิโชค_นพชินบุตร

ทำไม Galaxy Z Flip3 | Fold3 มือถือพับได้ราคาหลายหมื่น ถึงมียอดจองโต 8 เท่า ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้?

ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลทำให้เศรษฐกิจช่วงตกต่ำสุดขีด โดยเฉพาะธุรกิจภาคเอกชนหลายภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบ แต่อะไรทำให้ Samsung ประกาศความสำเร็จยอดจองสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงหน้าจอพับได้ทะลุ 8 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นปีที่แล้ว

สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กรกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

Galaxy Z Fold3 / Z Flip3 ขายดีจนของขาดตลาดในหลายรุ่น

สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กรกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลค
โทรนิคส์ จำกัด
เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดขายสมาร์ทโฟนในประเทศไทย พบว่าสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยมในช่วงครึ่งปีแรก ยอดจำหน่าย (Volume) โตขึ้นเกือบ 3% และยอดจำหน่ายในเชิงมูลค่า (Value) โตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วงนี้เป็นอย่างมาก

“กลุ่มสมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่า 20,000 บาทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ยอดขายตกไปประมาณ 4% แต่กลุ่มสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมดึงมูลค่าตลาดขึ้นมาจบที่โตขึ้น 1% จะเห็นได้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงไปตกอยู่กับสมาร์ทโฟนกลุ่มล่างซึ่งมีกำลังซื้อที่ถดถอยลง แต่ในขณะเดียวกันสมาร์ทโฟนกลุ่มบนแทบไม่ได้รับผลกระทบเลย”

สิทธิโชค ยังเผยอีกว่า ผู้บริโภคชาวไทยกลุ่มหนึ่ง ยังมีกำลังซื้อในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมอยู่เป็นจำนวนมาก จะสังเกตได้จากยอดจองสมาร์ทโฟนพับหน้าจอได้รุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy Z Fold3 / Z Fip3 ที่เปิดให้จองไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา สร้างยอดจองสูงถึง 8 เท่า จากที่เราตั้งเป้าไว้เพียง 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ส่งผลทำให้สินค้าในหลายๆ รุ่นขาดตลาดในช่วงนี้ ซึ่งจะเปิดให้จองอีกครั้งในวันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป และสามารถส่งมอบเครื่องให้ได้ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้

มาตราฐานใหม่ “จอพับได้” ดึง “พรีเมี่ยม” เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก

ยอดขายกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่มีสัดส่วนราวๆ 10% ของตลาด ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Samsung ยังรักษาตลาดกลุ่มนี้ได้ ก็เพราะว่า Samsung ยังเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ บริษัทวิจัยข้อมูล Strategy Analytics global display Technologies ได้เผยผลการวิเคราะห์ว่าตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้จะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าภายในสิ้นปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ต้องการหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน ความบันเทิง ในขณะที่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่กว่าเดิมมากนัก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนของคนยุคใหม่อีกด้วย

อีกประการที่ทำให้ Galaxy Z Fold3 / Z Flip3 ประสบความสำเร็จในการสื่อสารแบบวงกว้าง รับรู้ได้มากขึ้น ทั้งที่สินค้าที่เป็นหมวดเฉพาะกลุ่ม (Luxury Segment) โดยเปลี่ยนเป็นวิธีการทำการตลาดรูปแบบใหม่ “Cultural COOL marketing” สร้างความใกล้ชิดให้กับผู้บริโภคในมุมกว้าง หยิบนำความเชื่อ วัฒนธรรม การสื่อสารในแต่ละประเทศให้เหมาะสมในแต่ละตลาด เช่นการสร้างการเข้าถึง Galaxy Z Flip3 โดยใช้ศิลปิน BTS จากเกาหลี มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมทำ Music VDO สื่อสารสินค้าอย่างชัดเจนโดยเฉพาะ หรือการที่เราเลือกใช้ผู้บริหาร หรือ CEO ที่มีชื่อเสียง มาถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน การดำเนินธุรกิจ ด้วย Galaxy Z Fold3 ก็จะทำให้ผู้บริโภคเห็นภาพได้ชัดเจน และจะทำให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนกระแสหลักในที่สุด

ไม่หวั่น iPhone 13 เปิดตัว ชี้พาตลาดตลาดเกิดการแข่งขัน

สิทธิโชค ยังมองการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ค่ำคืนวันที่ 14 กันยายนนี้ว่า Samsung ยังเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมหลักที่ดึงกลุ่มคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการใช้งานสมาร์ทโฟนแบบเดิมๆ ให้สะท้อนตัวตนของการใช้งาน สะท้อนมากกว่าการเป็น Fashion Statement เสียอีก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทำไม Galaxy Z Flip3 | Fold3 มือถือพับได้ราคาหลายหมื่น ถึงมียอดจองโต 8 เท่า ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้? first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/unfolding-galaxy-z-series-succes-story/

สิทธิโชค นพชินบุตร หวนคืนสู่ Samsung นั่ง รองประธานองค์กร คุมธุรกิจโทรคมนาคมและไอที

สิทธิโชค นพชินบุตร อดีตแม่ทัพการตลาดคนสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสมาร์ทโฟนซัมซุง (Samsung) ในตลาดไทย กลับมาร่วมงานสร้างความแข็งแกร่งให้กับซัมซุง ในตำแหน่งรองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

samsung

รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที ของ Samsung จะดูแลรับผิดชอบภาพรวมการบริหารและดำเนินงานของธุรกิจโทรคมนาคมและไอที สานต่อการเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในประเทศไทยและสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในอดีตผ่านงานด้านการตลาดหลายองค์กร เช่น P&Gเดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป, และล่าสุดในตำแหน่ง CMO ของดีแทค

สิทธิโชคเคยร่วมงานกับซัมซุงในปี พ.2552- 2559 โดยเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตลาดและการสื่อสารของธุรกิจสมาร์ทโฟน ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ที่ร่วมงานกับซัมซุง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้ซัมซุงประสบความสำเร็จครองส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ของสมาร์ทโฟนในประเทศไทย

samsung

ในฐานะรองประธานองค์กรกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที สิทธิโชคจะมีบทบาทในการวางแผน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่พร้อมมอบคุณค่าและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายแก่ผู้บริโภคชาวไทย พร้อมทั้งสานต่อวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ด้านความเป็นผู้นำสมาร์ทโฟน 5G นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการเดินหน้าส่งเสริม Galaxy Ecosystem เพื่อให้ผู้ใช้งานพร้อมสำหรับการเข้าสู่ยุคใหม่แห่งโลกดิจิทัล ที่จะมาพร้อมกับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนแบบบูรณาการ (Integrated mobile experiences) ในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สิทธิโชค นพชินบุตร หวนคืนสู่ Samsung นั่ง รองประธานองค์กร คุมธุรกิจโทรคมนาคมและไอที first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/samsung-appoint-new-head-of-im/

“ปัญญา เวชบรรยงรัตน์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาดของ dtac ลาออก

การมาถึงของ Alexandra Reich ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนล่าสุดของ dtac ก็เกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงมากมาย ซึ่งล่าสุดก็คือการจากไปของ “ปัญญา เวชบรรยงรัตน์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ที่ขอลาออก

ปัญญา เวชบรรยงรัตน์

คนไทยอีกหนึ่งที่ต้องออกจากทีมบริหาร

หลังจากเริ่มทำงานกับ dtac มาตั้งแต่ปี 2551 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจที่ทำกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ “ปัญญา เวชบรรยงรัตน์” ก็ใช้เวลาไม่นานในการขยับตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่หัวหน้าภูมิภาค จนล่าสุดคือ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด

แต่ล่าสุด “ปัญญา” ก็ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งนี้แล้ว แต่จะทำงานร่วมกับบริษัทในฐานะที่ปรึกษาอยู่ ถือเป็นอีกครั้งที่ dtac ต้องสูญเสียหัวเรือหลักด้านการตลาดออกไป และนับตั้งแต่การลาออกของผู้บริหารไทยชุดใหญ่เมื่อปี 2558 ตัวตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาดก็หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา

ไล่ตั้งแต่ผู้บริหารจากต่างชาติ และคนก่อนหน้า “ปัญญา” ที่เรารู้จักกันดีก็คือ “สิทธิโชค นพชินบุตร” มือการตลาดตัวเก๋าจากค่าย Samsung ที่หลังจากเข้าร่วมงานกับ dtac ในช่วงกลางปี 2559 แต่สุดท้ายก็ต้องลาออกไปในต้นปี 2561 ดังนั้นคงต้องจับตาดูว่า ตำแหน่งนี้ของ dtac คนถัดไปจะเป็นคนไทยเหมือนเดิมหรือไม่

อย่างไรก็ตามระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ Alexandra Reich จะเข้ามารักษาการในตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. ก่อน เพื่อหาผู้บริหารที่เหมาะสมในการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อไปในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/dtac-cmo-resign/

1 ปีกับบทบาท CMO “สิทธิโชค นพชินบุตร” ขอเวลาปรับฐานองค์กรใหม่ ครึ่งปีหลังมีเซอร์ไพรส์แน่นอน

ทำงานมาครบ 1 ปีพอดี สำหรับ สิทธิโชค นพชินบุตร CMO ฝีมือคนไทยฝีมือดี ที่หลายคนกำลังจับตามองว่า จะมาพลิกสถานการณ์ทางการตลาดให้กับ dtac ที่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ใช้ CMO จากต่างประเทศ เลยทำให้ยังเข้าใจผู้บริโภคคนไทยไม่ถึงแก่นมากนัก

ครั้งนี้ Brand Inside ได้โอกาสเข้ามานั่งพูดคุยถึง 1 ปีที่ผ่านมาและอีก 1 ปีจากนี้ สิทธิโชค มองสถานการณ์ต่างๆ และเตรียมขยับการตลาดของ dtac อย่างไร

1 ปี ปรับฐานองค์กรใหม่… ยังไม่จบ

สิทธิโชค บอกว่า ช่วงเวลา 1 ปีที่ทำงานกับ dtac ต้องบอกว่ายังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรับฐานภายในองค์กรใหม่ ด้วยองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 5,000 คน มีฝ่ายการตลาดกว่า 1,500 คน การกำหนดแนวทางและกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นต้องยอมรับว่ อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าการปรับฐานทางธุรกิจจะเสร็จเรียบร้อย

“แม้ส่วนตัวจะอยากทำให้เร็วกว่านี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเวลา 1 ปียังเร็วเกินไปที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรขนาดใหญ่ให้เสร็จ ทุกคนในองค์กรต้องการเวลาในการปรับตัว”

ในยุค Digital Transformation องค์กรต้องปรับตัวให้เร็ว แต่ส่วนตัวมองว่ายังมีเวลาที่จะทบทวนและปรับตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อทิศทางขององค์กรที่ถูกต้อง อาจใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีจากนี้ เชื่อว่า Core Business ของ dtac ยังสามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้ ในระยะสั้นอาจมีผลกระทบบ้าง

แต่เชื่อว่าในระยะยาว dtac จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง

 6 เดือนแรกยังไม่ชัด ธุรกิจต้องดูกันยาวๆ

สำหรับ 6 เดือนแรกของปีนี้ สิทธิโชค บอกว่ามีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ต้องปรับปรุง จะเห็นว่า ไตรมาสแรกแม้จำนวนลูกค้าจะลดลงแต่รายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี เรียกว่าระยะสั้นอาจจะสะดุดบ้างจากการทุ่มตลาดของคู่แข่ง แต่เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ

ผลบวกเกิดขึ้นในไตรมาสแรก เริ่มจาก dtac เลือกใช้ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เซเลบซูเปอร์สตาร์มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ในเรื่องความกว้างของคลื่นความถี่ และความลื่นของบริการ ซึ่งกลายเป็น Talk of the Town ตามมาติดๆ ด้วยแพ็คเกจ Go No Limit ที่มี นาย ณภัทร เสียงสมบูรณ์ มาเรียกเสียงฮือฮา และเป็นแพ็คเกจแรกของตลาด ที่ตรงกับพฤติกรรมผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปเน้นเรื่อง data มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไตรมาส 2 ควรมีแคมเปญออกมาต่อยอดทันที แต่ dtac ก็หายไป ขาดความต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่ต้องปรับปรุง ดังนั้นในครึ่งปีหลังนี้ การตลาดของ dtac จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น และมีเซอร์ไพรส์ออกมาแน่นอน

dtac Reward บริการ CRM ที่เห็นผลชัดเจน

ในด้าน CRM ต้องบอกว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือ Serenade จาก AIS รวมถึง True Privilege ก็มีบริการที่หลากหลาย ขณะที่ dtac เริ่มต้นทีหลังสุด แต่หลังจากที่วางแผนและดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา dtac Reward ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

มีการทำโพลอย่างไม่เป็นทางการในเว็บไซต์ pantip.com เปรียบเทียบบริการ CRM จาก 3 ค่าย คลิกทีนี่ ผลปรากฎว่า dtac ชนะ!

สิทธิโชค บอกว่า dtac Reward ยังต้องพัฒนาไปอีกมากเพื่อให้บริการกับผู้ใช้ และเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้อาจไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า การทำงานอย่างเต็มที่ด้าน CRM ของ dtac ผู้บริโภคสามารถรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยแปลงที่เกิดขึ้น และจะเป็นแรงผลักดันให้ dtac ทำให้ดีขึ้นต่อไป

อะไรจะเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนข้างหน้า

อย่างที่บอกไปแล้วว่าบทเรียนจากไตรมาส 2 ที่เงียบเกินไป ทำให้ครึ่งปีหลังแคมเปญการตลาดต้องต่อเนื่อง และจะมีเซอร์ไพรส์ออกมาสู่ตลาดแน่นอน รวมถึงเรื่องคลื่นความถี่ 2300MHz ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดสัญญากับทีโอที ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มากนัก

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือ การปลดล็อคความกังวลใจของผู้ใช้ว่า dtac จะไม่มีคลื่นสำหรับให้บริการ ซึ่งการมีคลื่นความถี่กว้าง 60MHz ทำให้สามารถสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ได้ ถือเป็นจิ๊กซอว์ของ story ที่ dtac จะเล่าถึงในอนาคต

และจะส่งผลดีในระยะยาวต่อธุรกิจของ dtac อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/cmo-dtac-new-strategy/

เปิดใจครั้งแรกที่นี่ ‘สิทธิโชค นพชินบุตร’ เหตุผลที่ย้ายมาดีแทคและแผนการทำงานในบ้านหลังใหม่

dtac_cmo-007

สิทธิโชค นพชินบุตร เป็นแม่ทัพการตลาดคนสำคัญของ ซัมซุง ประเทศไทย เป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ซัมซุง ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือ และยังเป็นผู้นำในการทำตลาดดิจิทัลอย่างชัดเจน การตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับ ดีแทค ในฐานะแม่ทัพการตลาดที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะต้องดูแลลูกค้ากว่า 25 ล้านเลขหมาย และ Brand Inside เป็นรายแรกที่ได้คุยเปิดใจกับ สิทธิโชค อย่างเป็นกันเอง

ก่อนจะเริ่มพูดคุยกัน สิทธิโชค ยอมรับว่า ตัวเลขไตรมาส 2 ที่ผ่านมาไม่ดี ทั้งในแง่รายได้ และจำนวนลูกค้าที่ลดลง แต่ในมุมมองหนึ่ง ทำให้ดีแทค ต้องเร่งหันมาฟังลูกค้ามากกว่าเดิม ที่ผ่านมาอาจจะตั้งใจสร้างสรรค์บริการให้ลูกค้า แต่มาจากภายในดีแทคเองมากเกินไป ไม่ว่าดีแทคจะทำดีอยู่แล้ว หรือยังไม่ดี แต่จากนี้ไป จะต้องดีขึ้นได้อีก

นี่เป็นเหมือนคำยืนยันจาก CMO ของดีแทค

dtac_cmo-031

ค้นหาความท้าทายใหม่ ดีแทค คือบริการที่มากกว่า มือถือ

ย้อนกลับไปวันที่ยังอยู่ซัมซุง สิทธิโชค บอกว่า ใช้เวลาอยู่ซัมซุง 7 ปี เป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจเติบโตดีมาก แต่ในมุมหนึ่ง นั่นคือการทำงานแบบ Auto Pilot คือ เราได้เรียนรู้และทำทุกอย่างหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คิดวางแผนการตลาด ให้แตกต่างและสร้างสรรค์ เมื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต้องสามารถสร้างยอดขายให้ได้ดีที่สุด จากนั้นก็ต้องดูแลลูกค้า ทุกอย่างเริ่มกลายเป็น Comfort Zone

ดังนั้น ดีแทค จึงถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เดินหน้าเต็มตัวโดยไม่หันหลังกลับ และได้พบว่า ดีแทค เป็นความท้าทายมากกว่าที่คิด เพราะต้องดูแลพนักงานด้านการตลาด 1,800 คน (แต่ถ้ารวม Call Center จะมีทั้งหมด 5,000 คน) และจุดที่สำคัญที่สุด ดีแทค ไม่ใช่แค่บริการโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นบริการที่สำคัญกับชีวิตคน

“ดีแทค ไม่ใช่สินค้าซื้อมาขายไป แต่เรียกว่าเป็นธุรกิจ Service Relationship อยู่กับลูกค้าทุกคนตลอด 24 ชั่วโมง และต้องดูแลกันตลอดชีวิต ในแบบที่ไม่มีธุรกิจใดเหมือน ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไม ดีแทค จะโฟกัสที่ลูกค้าให้มากขึ้น จะฟังลูกค้าให้มากกว่าเดิม เพราะประสบการณ์ของลูกค้าสำคัญที่สุด”

dtac_3188

ขอ 6 เดือนเรียนรู้ รอเวลาเหมาะสมปรับองค์กรใหม่

ถึงวันนี้ สิทธิโชค ทำงานที่ดีแทคมาประมาณ 3 เดือน (12 ก.ย. 59) ยืนยันว่าต้องมีการปรับโครงสร้างภายในใหม่ให้เหมาะกับการทำงาน แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ให้ครบทุกส่วน คาดว่าประมาณ 6 เดือน น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง

แน่นอนว่าเวลานี้ อาจจะมีคนดีแทคบางคนที่อยู่ผิดที่ผิดทางทำให้แสดงความสามารถออกมาได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจริงๆ ภายในดีแทค มีคนมีความสามารถอยู่ไม่น้อย แต่คงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ซึ่งส่วนตัวจะมอง 3 ส่วนคือ

  1. Attitude หรือทัศนคติในการทำงาน
  2. Capability ความสามารถในการทำงาน
  3. Get things Done นั่นคือเปลี่ยนทัศนคิและความสามารถ ให้เป็นผลงาน

“นี่เป็นวิธีการมองคน เพื่อหาคนที่เหมาะกับงาน ถ้าทัศนคติดี มีความสามารถ และเปลี่ยนเป็นผลงานได้ ถ้าผิดพลาดก็เรียนรู้และปรับปรุง รับรองว่า ทำงานอะไรก็จะประสบความสำเร็จ”

IMG_0517

ทำธุรกิจต้องแตกต่าง ดีแทค ขอเป็นคนดีที่ทุกคนเลือก

สิทธิโชค บอกว่า ใครๆ ก็รู้ว่า การทำธุรกิจต้องสร้างความแตกต่าง แต่จะแตกต่างอย่างไรให้ลูกค้าสัมผัสได้ ที่ผ่าน คาร์แรกเตอร์ของดีแทค ชัดเจนว่าเป็น คนดี แต่ต่อไปจะต้องเป็นคนดีที่ทุกคนเลือก ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อว่าดีแทคเป็นแบบนั้นจริงๆ ต้องสร้างแบรนด์ และสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้น เหมือนการให้บริการ Privilege กับลูกค้า ถ้าทำแล้วเหมือนคู่แข่ง ไม่ได้แตกต่าง ก็ไม่มีประโยชน์ สร้างการจดจำไม่ได้

ทั้งนี้ บางคนอาจจะเห็นว่าดีแทคมีปัญหาเรื่องการร้องเรียนจากลูกค้า เช่น ไม่ได้รับความสะดวก หรือมีการร้องเรียนเข้ามาแล้วได้รับการแก้ไขช้าไปบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแทคเร่งมือปรับปรุงอย่างเต็มที่ ยืนยันได้ว่า ดีแทคไม่ได้มีข้อร้องเรียนหนักหนาอย่างที่เห็น หลายครั้งดีแทคแก้ไขให้ลูกค้าแล้ว ก็ไม่ได้มีการออกมาประกาศอะไร เลยอาจทำให้ดูมากมาย นี่คือ สิ่งที่ทีมงานต้องให้ความสนใจเช่นกัน

“ในโลกออนไลน์ และโลกโซเชียล มีการร้องเรียนพอสมควร ทีมงานจะเข้าไปประกบทันที สาระสำคัญคือ ต้อง Connect หาลูกค้าจริงๆ ของดีแทคให้เจอ ต้องคัดกรองพวกที่ไม่ใช่ออกไปด้วย”

13835624_10154328111665890_1104508503_o

สิทธิโชค เป็นแม่ทัพการตลาดที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับ จึงได้รับการจับตามองจากรอบทิศถึงการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดที่จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าการเข้ามารับตำแหน่ง CMO ที่ดีแทคก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นตลาดที่การแข่งขันดุเดือดในทุกมิติ แต่คงไม่ใช่บททดสอบของ CMO แต่เพียงคนเดียว แต่ต้องเกิดจากพนักงานดีแทคทุกคน เพราะเป้าหมายไม่ใช่การรักษาอันดับ 2 แต่คือ การท้าทายไปยังอันดับ 1 เหมือนที่ครั้งหนึ่งซัมซุงเคยทำได้มาแล้ว

from:https://brandinside.asia/first-exclusive-interview-dtac-cmo-sittichoke/

ความสำเร็จทางธุรกิจอยู่ที่ “คน” และ “แบรนด์” ในมุมมองของ AIS – dtac – True

3-operator

การแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมโดยผู้ให้บริการ 3 รายใหญ่อย่าง เอไอเอส ดีแทค และทรู เข้มข้นดุเดือดอยู่เสมอ ปัจจัยที่ทำให้ทั้ง 3 รายไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจมีอยู่หลายส่วน ซึ่งครั้งนี้ Brand Inside ได้จับเข่าคุยกับ ผู้บริหารระดับสูงจากทั้ง 3 ค่าย ถึงแนวคิดและแนวทางเรื่องของ “คน” และ “แบรนด์” ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

5

ทุกอย่างของเอไอเอสอยู่ที่ “คน”

ปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด ของ เอไอเอส บอกว่า บริษัทที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อยู่ในตลาดหลายสิบปีไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีว่าจะอยู่รอดและเติบโตเสมอไป บริษัทใหญ่ระดับโลกล้มไปแล้วก็มีให้เห็นหลายราย นี่คือสิ่งที่ คนของเอไอเอส ต้องตระหนักอยู่เสมอ และพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพราะทุกอย่างของเอไอเอสอยู่ที่ “คน”

พนักงานที่ทำงานกับเอไอเอส ต้องมี DNA ที่คล้ายกัน คือ มองหาโอกาสใหม่ๆ และลงมือทำก่อน มีความสามารถในการปรับตัวที่รวดเร็ว พร้อมรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ถ้าผิดพลาดต้องมองเป็นโอกาสในการเรียนรู้ แต่ถ้าสำเร็จก็ได้โอกาสในการทำธุรกิจก่อนคนอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้

แบรนด์ คือความแข็งแกร่งจากความเป็นมืออาชีพ

เอไอเอส เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารงานที่เป็นการผสมผสานระหว่างคนไทยและคนต่างประเทศ และทั้งหมดคือ ทีมลูกจ้างล้วนๆ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นการเอาเงินของนักลงทุนมาใช้ ต้องมีความรับผิดชอบ ทำให้ทีมบริหารมีความเป็นมืออาชีพสูง และทำให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งมาโดยตลอด

และด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทำให้เอไอเอส มีพันธมิตรที่อยากร่วมมือด้วยเป็นจำนวนมาก ช่วยเสริมให้ธุรกิจมีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีจุดเริ่มต้นจากโครงข่ายของเอไอเอส ที่มีคุณภาพและครอบคลุม ทำให้เอไอเอสและพันธมิตรเติบโตไปด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือควบรวมกิจการ

dtac_cmo-007

สร้าง “คน” ด้วย 3 แนวทางเพื่อความแตกต่าง

สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ของ ดีแทค บอกว่า “คน” ที่จะทำงานกับดีแทค ต้องกล้าที่จะทำ เพื่อสร้างความแตกต่าง อาจจะผิดพลาดได้ แต่ต้องเรียนรู้และปรับปรุง ซึ่งวิธีการดูคนจะเน้นใน 3 เรื่อง

  1. Attitude ทัศนคติในการทำงาน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ต้องเปิดรับและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ
  2. Capability ความสามารถในด้านต่างๆ และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
  3. Get Things Done ถือเป็นตัวชี้วัด นั่นคือ เมื่อมี Attitude และ Capability แล้ว ต้องสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้เป็นงานที่มีประสิทธิภาพได้ด้วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์

ความพิเศษอีกอย่าง ซึ่งน่าจะเป็นวัฒนธรรมการทำงานจากเทเลนอร์ คือ การย้ายคนข้ามแผนก เพื่อสร้างการเรียนรู้ ทำให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย ทำให้เข้าใจภาพของธุรกิจว่า การบริการ, การตลาด, โครงข่าย, คอนเทนต์ ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน และยังทำให้ได้ผู้บริหารที่มีความเข้าใจที่รอบด้านด้วย

ทำงานอย่างโปร่งใส คือ แบรนด์ของดีแทค

ขณะที่เรื่องของแบรนด์ ดีแทค นอกจากการเป็นผู้ให้บริการมือถือแล้ว ถ้าการสร้างแบรนด์คือการสร้างบุคลิกตัวตน ความชัดเจนเรื่องแบรนด์ของดีแทค คือ ความโปร่งใส เป็นแบรนด์ที่ประกาศให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาล ต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่สนใจว่าใครจะทำ หรือถ้าไม่ทำแล้วจะเสียหายกับธุรกิจ ดีแทคมีนโยบายชัดเจนที่จะไม่ทำเลย และมีเป้าหมายที่อยากเป็น ต้นแบบให้กับบริษัทอื่นๆ ในทุกอุตสาหกรรม

อีกส่วนหนึ่งคือ การมีแคมเปญด้านจริยธรรม เช่น Stop Cyberbullying หยุดดู หยุดแชร์ หยุดทำร้ายกันบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเยาวชน เพื่อสร้างการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งอยากให้ทุกคนช่วยกัน

169

การให้บริการคือหัวใจของ “คน” ที่ทรู

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร ของทรู บอกว่า ทรู ทำธุรกิจให้บริการ ดังนั้น “คน” ของทรู ต้องมี Service Mind หรือให้ความสำคัญกับหัวใจของการบริการมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะไม่ว่าจะเรื่องการขาย, สินค้าและบริการ, โครงข่าย ล้วนต้องการหัวใจของการบริการเป็นองค์ประกอบ

นอกจากนั้นต้องมีทัศนคติ หรือ Attitude ที่ตรงกัน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ถ้าทัศนคติดี จะสามารถพัฒนาความสามารถ เป็นพนักงานที่มีคุณภาพ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แบรนด์คือการสื่อสารถึงผู้บริโภค

การสร้างแบรนด์ในมุมของทรูเพื่อก้าวขึ้นสู่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 2 ของประเทศ ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกคำที่ขึ้นต้นด้วย True… ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องมีการวางกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ถูกต้อง และต้องมีคุณค่าในตัวเอง ซึ่งนอกจากเป้าหมายในประเทศแล้ว ทรูจะต้องสร้างแบรนด์เพื่อขึ้นเป็นบริษัทระดับภูมิภาคด้วย

และการจะสื่อสารไปถึงผู้บริโภคได้อย่างถูกต้อง ต้องอาศัย “คน” ของทรู หรือพนักงานที่ทำงานทุกคน ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราว ถ้าทำแบรนด์ให้ดี ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และสิ่งดีๆ จะตามมา เหมือนคำว่า True Together ซึ่งเป็น Brand Promising ตั้งแต่แรกเริ่ม

from:https://brandinside.asia/ais-dtac-true-people-and-brand/

สิทธิโชค นพชินบุตร จัด 3 แกนเป้าหมายการตลาด ที่ทำให้มั่นใจ dtac ยังดีได้อีก

13835799_10205573837423717_1693337776_o

วันนี้คือวันที่ 51 ที่ สิทธิโชค นพชินบุตร ทำหน้าที่ CMO นายใหญ่ด้านการตลาดที่ dtac จึงได้โอกาสเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมพูดถึงแผนงานและเป้าหมายทางการตลาด โดยยืนยันชัดเจนว่า dtac ไม่จำเป็นต้องรักษาตำแหน่งอันดับ 2 แต่ต้องมุ่งเป้าที่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อเป็นอันดับ 1 ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้

ไม่เพียงแต่จะเป็นอันดับ 1 ในตลาดโทรคมนาคมเท่านั้น แต่ต้องการเป็นอันดับ 1 Digital Brand ของไทยด้วย และต่อไปนี้คือ แผนการทำงานและแนวคิดของ สิทธิโชค CMO แห่ง dtac

Resize of 8B0A1240

3 แผนปักหมุดเป้าหมายของการตลาด dtac

การเข้ามาทำงานใน dtac มีคำถาม, ความกังวล และข่าวลือเกิดขึ้นรอบตัว ซึ่ง สิทธิโชค บอกว่า หลังจากได้มาสัมผัสกับคนของ dtac ทำให้เห็นถึง Passion ของคนภายในองค์กร โดยจะผสมผสานกับการปรับการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้งบการตลาดทั้งปีรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ

  1. Brand and DNA

ส่วนนี้ Brand Inside ได้คุยกับ สิทธิโชค ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า DNA หมายถึง “คน” ของดีแทค และมีความหมายเพิ่มเติมถึง การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และวัฒนธรรมการทำงานที่สะท้อนความเป็นองค์กรดิจิทัล โดยมีการปรับให้มีผู้บริหารระดับสูงที่เป็นคนไทยมากขึ้น เพื่อเข้าใจลูกค้าคนไทยมากขึ้น เปิดรับพนักงานสายพันุธ์ดิจิทัลมากขึ้น ทำงานออกจากกรอบเดิมๆ โดยมี 4 องค์ประกอบ คือ 1. ความหาญกล้าในการลงมือทำงานและตัดสินใจ (Be daring) 2. มีความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น (Think differently) 3. ลงมือทำอย่างรวดเร็ว (Act Fast) และ 4. มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ (Passion to Win)

  1. Digital Services for All

นำเสนอบริการดิจิทัลอย่างต่อเนื่องให้ตรงกับความต้องการทุกเซ็กเม้นท์ของตลาด นำเสนอความคุ้มค่าเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า

  1. Enhance Partnership both Local and International

พัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในระดับในประเทศและพันธมิตรระดับโลก โดยยอมรับว่าเดิม ดีแทคยังดำเนินการส่วนนี้น้อยเกินไป ต่อไปต้องทำมากขึ้นอีก

นอกจากนี้ ในระยะยาว dtac จะต้องขึ้นเป็นอันดับ 1 แบรนด์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการแซงหน้า Google, LINE ฯลฯ ภายในปี 2020 จากปัจจุบันที่ติดอยู่ใน Top10

IMG_0517

ผลประกอบการลด เป็นปัญหาระยะสั้น

หนึ่งในโจทย์สำคัญของการตลาดคือ ต้องหาลูกค้าและหารายได้เข้าบริษัท แต่ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ dtac มีผลกำไรลดลงค่อนข้างมาก สิทธิโชค บอกว่า จำนวนลูกค้าพรีเพดที่ลดลงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ dtac มีการปรับปรุงที่เรียกว่า One Time Adjustment ในหลายเรื่อง เช่น Accounting, Re-organized เป็นต้น แต่ยืนยันว่า dtac ยังมีธุรกิจที่แข็งแกร่ง ด้วยผู้ใช้บริการมากกว่า 20 ล้านคน

เชื่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่อง Short term ที่เกิดจากคู่แข่งมีการแจกเครื่องฟรี และ dtac ตัดสินใจตอบโต้โดนการแจกเครื่องเช่นกัน เทียบได้กับการซื้อส่วนแบ่งการตลาด แต่ในระยะยาวไม่ได้เป็นผลดีกับบริษัท เพราะสุดท้ายลูกค้าจะเลือกใช้บริการอยู่กับบริษัทที่ดูแลลูกค้าและให้บริการที่ดีที่สุด ซึ่งนั่นคือแผน Mid Term และ Long Term ของ dtac ที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

ยิ่งประธานจาก Telenor มาเยือนประเทศไทย ได้ยืนยันด้วยว่า พร้อมจะสนับสนุนดีแทคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องคลื่นความถี่และโครงข่าย เป็นการตอกย้ำว่ายังมีการลงทุนอย่างแน่นอน

แม้ตัวเลขพรีเพดจะลดลง แต่ตัวเลขผู้ใช้บริการโพสต์เพด และค่าบริการต่อเลขหมาย มีการเติบโตที่ดีมาก ในภาพรวมมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็น 60% ของฐานลูกค้าจากเดิมอยู่ที่ 58% ในไตรมาส 1 และมีสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มเป็น 65% มีผู้ใช้ 4G จำนวน 3.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจาก 2.9 ล้านเลขหมาย และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 6 ล้านเลขหมายในปีนี้ เป็นการยืนยันว่า ดีแทค ยังดีได้กว่านี้อีก

13840620_10205573837583721_1058742135_o

จากวันแรกจนถึงวันนี้ ของ สิทธิโชค ที่ dtac

สิทธิโชค ได้เปิดใจเล่า “วันแรก” ในมุมต่างๆ สะท้อนให้เห็นความรู้สึก ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามานั่งทำงานในฐานะของ CMO แบบใกล้ชิดกับทุกคน วันแรกที่ได้เจอทีมงานกว่า 400 คน ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงของดีแทค ได้เรียนรู้การทำงานของวิศวกร ที่ยังคงขยายโครงข่าย และใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำให้การใช้งานไม่สะดุด แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 จะดูไม่ดี แต่เมื่อทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว พนักงานดีแทคทุกคนที่มี DNA เดียวกัน ก็เข้าใจและร่วมกันทำให้ดีแทคดียิ่งขึ้น

“ผมได้ลองทำหน้าที่คอลล์เซ็นเตอร์จริง ได้รับฟังลูกค้าที่โทรเข้ามา และได้โทรไปแจ้งข้อมูลกับลูกค้า ได้เข้าใจความเป็นดีแทคอย่างแท้จริง และมั่นใจว่า นี่คือผู้ให้บริการที่ทำเพื่อลูกค้าไม่น้อยกว่าผู้ให้บริการรายอื่น”

การจะทำตลาดของ dtac นอกจากมี emotional ที่เข้าใจลูกค้าแล้ว ต้องมี Product ที่ตอบความคุ้มค่าได้ด้วย ดังนั้นเมื่อหลอมรวมทุกสิ่งแล้วทำให้ สิทธิโชค ทิ้งท้ายคำพูดที่ตอกย้ำได้ชัดเจนว่า “มั่นใจ dtac ยังดีได้กว่านี้อีก”

dtac logo

from:https://brandinside.asia/sittichoke-cmo-dtac-first-time/

จับเข่าคุยก่อนเปิดตัวทางการ สิทธิโชค นพชินบุตร กับ DNA ของ dtac

13769469_10153608222591750_5182271977856238584_n

เป็นที่รู้กันว่า สิทธิโชค นพชินบุตร CMO แห่ง dtac มีกำหนดการที่จะมาเล่าถึง ไดอารี่ 50 วันภายใต้การทำงานของ dtac ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังจากรับตำแหน่ง (ก่อนหน้านี้เจอในงานเปิดตัว dtac prepaid ยังไม่นับเป็นการเปิดตัว) ได้มีโอกาสได้นั่งจับเข่าคุยกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ อาจจะเรียกว่าเป็น น้ำจิ้ม ก่อนถึง เมนคอร์ส ก็ว่าได้

สิทธิโชค ถือว่าเป็นแม่ทัพการตลาดของดีแทคในตำแหน่ง CMO ที่เป็นคนไทย ซึ่งต้องบอกว่า ผู้บริหารด้านการตลาดของดีแทคเป็นคนต่างชาติในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความสามารถแต่อาจจะยังไม่เข้าถึง Insight ลึกๆ ของคนไทย ที่มีความแปลกกว่าตลาดอื่นๆ และการจะหาคนไทยที่ทำหน้าที่ได้ดี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการที่ สิทธิโชค ได้มาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องยอมรับว่า เป็นงานหนักและมีความคาดหวังไม่น้อย

13735155_10154399670195972_2620988253285743152_o

DNA คือ คน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร

แม่ทัพการตลาดของดีแทค ได้บอกเล่าว่า การเข้ามาทำงานกับดีแทคสิ่งที่พบได้ตั้งแต่วันแรกคือ Passion ของคนดีแทค ที่ต้องการสร้างสรรค์บริการที่ดีจริงๆ ดีแทคเหลือสัญญาสัมปทานอีก 2 ปีจะหมดอายุ (ปี2561) แต่ดีแทคยังคงลงทุนโครงข่ายต่อเนื่อง (ทั้งส่วนสัญญาสัมปทาน และส่วนของใบอนุญาต) เท่ากับว่าถ้าลงทุนภายใต้สัญญาสัมปทาน เมื่อหมดอายุก็ต้องยกให้บริษัท กสท โทรคมนาคม นำไปบริหารจัดการต่อ ไม่มีสิทธิ์ใช้ ซึ่งระยะเวลา 2 ปี ไม่มีทางคุ้มกับการลงทุนแน่นอน

แต่ดีแทคลงทุน เพราะต้องการให้บริการที่ดีที่สุดกับผู้บริโภค ถือเป็น DNA ของคนในดีแทคอย่างแท้จริง

ขณะที่คนภายนอก ก็คือ ลูกค้าผู้ใช้บริการ ซึ่งดีแทค ก็ถือเป็น DNA เช่นกัน แปลว่า ดีแทค ต้องดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดี และด้วยนโยบายจาก Telenor ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในด้าน corporate governance ที่จะไม่มีเรื่องใต้โต๊ะ 100% ทำให้ ดีแทค เป็นต้นแบบให้กับองค์กรในไทย และเป็นการสร้างสังคมที่ดี ทั้งหมดคือสิ่งที่เรียกว่า DNA ของดีแทค ที่จะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

dtac_prepaid_01

dtac แบรนด์เดียวชัดเจน

ย้อนกลับไปเดือนแรก สิทธิโชค เข้ามาทำงานก็เจอกับงานแถลง dtac prepaid ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งถือว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ใช้บริการ โดยมีลูกค้าหลักแสนรายต่อเดือน ซึ่งการเปิดตัว dtac prepaid มีส่วนช่วยทำให้ Branding ของดีแทค มีความชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามถึงกลยุทธ์การสร้าง Brand สิทธิโชค บอกว่า ดีแทคมี Brand เดียว คือคำว่า dtac ที่เป็นสีน้ำเงิน นี่คือสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้กับผู้บริโภคได้รู้ ส่วน happy ถือว่าเป็น Product ที่สำคัญที่สะท้อนความ happy และ friendly ออกมา และคนสามารถเข้าถึงได้ นี่คือความแข็งแกร่งของตลาดพรีเพดของดีแทค

ขณะที่ตลาดโพสต์เพด ช่วงที่ผ่านมาก็สามารถทำตลาดได้ดี ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 4 ล้านราย และคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 5 ล้านราย

13716196_1100594656665772_511284563828468558_n

นี่เป็นเพียงการจับเข่าคุยกันสั้นๆ เท่านั้น อดใจรออีกนิดแล้วมาดูกันว่า สิทธิโชค นพชินบุตร จะสร้างเดินเกมการตลาดของดีแทคอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม…

Credit Image: Facebook ของคุณสิทธิโชค

from:https://brandinside.asia/sitthichoke-cmo-dtac-first/

dtac ประกาศแต่งตั้ง CMO คนใหม่ย้ายมาจาก Samsung มีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 59

ดีแทค ประกาศแต่งตั้ง นายสิทธิโชค นพชินบุตร ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด (Chief Marketing Officer, CMO) คนใหม่ มีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 แทน นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน ซึ่งครบวาระในการปฏิบัติหน้าที่ในดีแทค และจะกลับไปทำงานตำแหน่งใหม่ในเทเลนอร์กรุ๊ปต่อไป

DTAC-1

ก่อนมาร่วมงานกับดีแทค คุณสิทธิโชคเคยดำรงตำแหน่งรองประธานธุรกิจโทรคมนาคม และดิจิทัล บริษัท ไทยซัมซุง อิเลกโทรนิกส์ จำกัด รับผิดชอบ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโมบายล์ คอมมูนิเคชั่นส์ ที่ดำเนินธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไทย โดยเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตลาดและการสื่อสารของธุรกิจโทรศัพท์มือถือทั้งหมด นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าทีมในส่วนของ ดิจิทัล การพัฒนาแอปพลิเคชั่น และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ด้วยความสามารถในการทำงานอย่างทุ่มเท ทำให้การดำเนินธุรกิจซัมซุงในประเทศไทยเติบโต มีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน ทำให้ผลการดำเนินงานของซัมซุงประเทศไทยพุ่งขึ้นติดตลาดในซัมซุงเอเชีย

Sitthichoke

คุณสิทธิโชคเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาทีมให้ประสบความสำเร็จจากการเติบโตอันเป็นประวัติการณ์ของตลาดโทรศัพท์มือถือ และเป็นผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับรางวัล “Samsung Award of Honor” จากประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ในฐานะที่มีส่วนช่วยผลักดันให้โทรศัพท์มือถือซัมซุงในประเทศไทย เติบโตขึ้นทุกเซ็กเม้นท์อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น คุณสิทธิโชคเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กรให้กับบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตและการแข่งขันสูงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ ความสามารถ และผลงานอันโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงโทรคมนาคม ผมจึงมีความมั่นใจอย่างมากว่า คุณสิทธิโชคจะนำพาให้ดีแทคได้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด พร้อมเดินหน้า ตามกลยุทธ์การดำเนินงานไปสู่การเป็นบริษัทฯที่ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลที่ดีที่สุดในประเทศไทย

และขอขอบคุณคุณซิกวาร์ทที่ได้นำความสำเร็จด้านการตลาดมาสู่ดีแทค ด้วยความมุ่งมั่น และทุ่มเทเวลาในการเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของการเติบโตจากการใช้งานด้วยเสียงมาสู่การใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบกับการทำตลาดลูกค้าโพสต์เพดและพรีเพด รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับประเทศและระดับโลก และเป็นผู้นำในการสร้างระบบการบริหารการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีด้าน analytics ระดับโลก”

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=144978

ดีแทคประกาศแต่งตั้ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาดคนใหม่

ดีแทคประกาศแต่งตั้งนายสิทธิโชค นพชินบุตร ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด (Chief Marketing Officer, CMO) คนใหม่ มีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 แทน นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน ซึ่งครบวาระในการปฏิบัติหน้าที่ในดีแทค และจะกลับไปทำงานตำแหน่งใหม่ในเทเลนอร์ กรุ๊ปต่อไป

ก่อนมาร่วมงานกับดีแทค คุณสิทธิโชค เคยดำรงตำแหน่งรองประธานธุรกิจโทรคมนาคม และดิจิทัล บริษัท ไทยซัมซุง อิเลกโทรนิกส์ จำกัด รับผิดชอบ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโมบายล์ คอมมูนิเคชั่นส์ ที่ดำเนินธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไทย โดยเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตลาดและการสื่อสารของธุรกิจโทรศัพท์มือถือทั้งหมด นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าทีมในส่วนของ ดิจิทัล การพัฒนาแอปพลิเคชั่น และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ด้วยความสามารถในการทำงานอย่างทุ่มเท ทำให้การดำเนินธุรกิจซัมซุงในประเทศไทยเติบโต มีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน ทำให้ผลการดำเนินงานของซัมซุงประเทศไทยพุ่งขึ้นติดตลาดในซัมซุงเอเชีย

คุณสิทธิโชค เป็นนักวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาทีมให้ประสบความสำเร็จจากการเติบโตอันเป็นประวัติการณ์ของตลาดโทรศัพท์มือถือ  และเป็นผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับรางวัล  “ Samsung Award of Honor” จากประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ในฐานะที่มีส่วนช่วยผลักดันให้โทรศัพท์มือถือซัมซุงในประเทศไทย เติบโตขึ้นทุกเซ็กเม้นท์อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น คุณสิทธิโชคเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กรให้กับบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตและการแข่งขันสูงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า  “ด้วยประสบการณ์ ความสามารถ และผลงานอันโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงโทรคมนาคม ผมจึงมีความมั่นใจอย่างมากว่า คุณสิทธิโชคจะนำพาให้ดีแทคได้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด พร้อมเดินหน้า ตามกลยุทธ์การดำเนินงานไปสู่การเป็นบริษัทฯที่ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลที่ดีที่สุดในประเทศไทย

และขอขอบคุณนายซิกวาร์ท ที่ได้นำความสำเร็จด้านการตลาดมาสู่ดีแทค ด้วยความมุ่งมั่น และทุ่มเทเวลาในการเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของการเติบโตจากการใช้งานด้วยเสียงมาสู่การใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ กับการทำตลาดลูกค้าโพสต์เพดและพรีเพด รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับประเทศและระดับโลก และเป็นผู้นำในการสร้างระบบการบริหารการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีด้าน analytics ระดับโลก

from:https://www.appdisqus.com/2016/05/09/dtac-new-chief-marketing-officer-cmo.html