สำนักพิมพ์ญี่ปุ่นรวมตัวต้าน Manga ละเมิดลิขสิทธิ์ หลังทำอุตสาหกรรมสูญเสียหลักล้านล้านเยน

หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น หรือ Manga ได้รับความนิยมจากทั่วโลก เพราะเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความสนุกสนาน แต่ความนิยมนี้เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่เนื้อหาแบบละเมิดลิขสิทธิ์จนอุตสาหกรรมนี้สูญเสียเยอะมาก

การรวมตัวของหลากหลายตัวการ์ตูนเพื่อต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์

หลักล้านล้านเยนที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้เสียหาย

หลังปล่อยให้เหล่าเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์นำเนื้อหาบนหนังสือการ์ตูนไม่ว่าจะรูปแบบใดมาเผยแพร่เป็นเวลานาน ล่าสุดสำนักพิมพ์ชั้นนำของญี่ปุ่น Shogakukan (Weekly Shonen Sunday), Shueisha (Weekly Shonen Jump), Kodansha (Weekly Shonen Magazine) และ Kadokawa (Young Ace) ก็รวมตัวกันแล้ว

โดยการรวมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ Shuppan Koho Center หรือตัวแทนอุตสาหกรรมสื่อของญี่ปุ่น เพื่อสื่อสารข้อมูลให้ผู้อ่านในประเทศรับรู้ว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการอ่านหนังสือการ์ตูนบนเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นๆ นั้นส่งผลกระทบกับศิลปิน และสำนักพิมพ์อย่างไรบ้าง

ซึ่งเบื้องต้นการนำเนื้อหาของหนังสือการ์ตูนเรื่องต่างๆ ไปอยู่บนโลกออนไลน์นั้นทำให้สำนักพิมพ์สูญเสียรายได้จากค่าโฆษณา รวมถึงค่าสมัครสมาชิกเพื่ออ่านการ์ตูนเป็นจำนวนมาก คาดว่าถ้านับเฉพาะในญี่ปุ่นก็คิดเป็นกว่า 50,000 ล้านเยน (ราว 15,000 ล้านบาท) และแค่สหรัฐอเมริกาก็คิดเป็นมูลค่า 1.3 ล้านล้านเยน (ราว 3.8 แสนล้านบาท)

ที่สำคัญหากนับเว็บไซต์ที่สามารถเข้าถึงได้จากผู้ใช้งานทั่วโลกเช่น Haruka Yume no Ato หรือผู้ให้บริการอ่านหนังสือการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์รายใหญ่ของญี่ปุ่นก็สร้างความเสียหายกว่า 73,100 ล้านเยน (ราว 22,000 ล้านบาท) รวมถึงเว็บ Manga Mura ที่น่าจะสร้างความเสียหายสูงถึง 3.2 แสนล้านเยน (ราว 96,000 ล้านบาท)

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วการเข้าไปอ่านการ์ตูนบนเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะผ่าน BitTorrent, เว็บสปอยล์เนื้อหา หรือแม้กระทั่งการดูวีดีโอภาพนิ่งบน YouTube ก็ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และทำให้อาจารย์นักวาดการ์ตูนหลายคนเหนื่อยเปล่าๆ จนอนาคตอาจไม่มีหนังสือการ์ตูนเจ๋งๆ ออกมาให้พวกเราๆ อ่านอีกก็เป็นได้

อ้างอิง // Soranews24

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/manga-publisher-ban-online-illegal/

19 ก.ค. ครบรอบ 20 ปีกับ One Piece การ์ตูนโจรสลัดออกทะเลจากญี่ปุ่น

สำหรับคนในยุค 90 ถึง 2000 น่าจะเป็นกลุ่มคอการ์ตูนตัวจริงที่อ่านกันมาหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่ดรากอนบอล ของ อ.อากิระ โทริยามะ (ปัจจุบันอายุ 62 แล้ว) ที่ทำให้การ์ตูนจากญี่ปุ่นเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยมากขึ้น และตามมาด้วยเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับ One Piece (วันพีซ) ถือเป็นการ์ตูนในยุคถัดมา เขียน อ.เออิจิโร่ โอดะ (คนนี้ก็อายุ 42) ซึ่งวันที่ 19 ก.ค. นี้จะมีอายุครบ 20 ปี เลยถือโอกาสออกมาบอกแฟนๆ ทั้งหลายว่า ขอให้อ่านต่อไป “อีกนิดหน่อย” (little longer) ว่าแต่คนไทยจะได้อ่านอีกนานมั้ย?

ขอบคุณภาพจาก One Piece Fanpage

1 ใน Big Three ที่ยังไม่จบ

การ์ตูนวัยรุ่นผู้ชาย (ศัพท์ญี่ปุ่นเรียกว่า โชเน็น) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงหรือเรียกกัน Big Three ประกอบด้วย Naruto นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ ที่จบไปเมื่อปี 2014 ตามมาด้วยเรื่องที่สองคือ Bleach เทพมรณะ ที่จบไปเมื่อปี 2016

ทั้ง 2 เรื่องที่จบไปมีอายุประมาณ 15 ปี แต่สำหรับ One Piece กำลังจะครบ 20 ปี ในวันที่ 19 ก.ค. และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ เป็นการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่สามารถดำเนินเรื่องมานานถึง 20 ปี

อ.โอดะ ได้ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ทนอ่านเรื่องนี้มาถึง 20 ปีแล้ว ในขณะที่ ลูฟี่ ตัวเอกของเรื่องตอนเริ่มเรื่องมีอายุ 17 ปัจจุบันเพิ่งมีอายุ 19 (ขณะที่คนเขียนและคนอ่านไปไกลมาก) จากจุดเริ่มต้นที่ออกทะเลเพียงคนเดียว จนกระทั่งมีเพื่อนมากมาย และหวังให้ One Piece เป็นเพื่อนในวัยเด็กของใครหลายๆ คน

แม้ อ.โอดะ จะไม่ได้บอกใบ้ถึงตอนจบของ One Piece ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่จากข้อมูลของสำนักพิมพ์ พอจะคาดการณ์ได้ว่า One Piece น่าจะจบลงประมาณปี 2025 (อีกประมาณ 8 ปี) แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นไปตามข้อมูลนั้นหรือไม่

ขอบคุณภาพจาก One Piece Fanpage

ธุรกิจหนังสือการ์ตูน ญี่ปุ่นยังได้ แต่ไทยลำบาก

ปัญหาหนึ่งที่นักอ่านการ์ตูนไทยหวาดหวั่นและกำลังประสบคือ สำนักพิมพ์ขาดทุนจากการพิมพ์หนังสือการ์ตูนขาย และตัดสินใจหยุดพิมพ์การ์ตูนเล่มออกมาจำหน่าย แต่ยังถือครองลิขสิทธิ์ในประเทศไทยและห้ามผู้อื่นพิมพ์ หรือยุติการซื้อลิขสิทธิ์มาจากญี่ปุ่น หลายเรื่องตัดจบไม่พิมพ์ต่อ ทำเอาแฟนๆ อารมณ์ค้างกันไปพอสมควร

ส่วนหนึ่งนอกจากความนิยมในหนังสือเล่มลดลง ต้นทุนที่สูง ราคาขายไม่คุ้ม (และแพงเมื่อคิดว่าเป็นการ์ตูนสำหรับเด็ก) รวมถึงมีช่องทางใหม่ๆ เช่น การอ่านทางออนไลน์ ยิ่งทำให้ยอดจำหน่ายลดลงอย่างน่าใจหาย

สำหรับ One Piece เป็นลิขสิทธิ์พิมพ์ของสำนักพิมชูเอฉะในญี่ปุ่น และสยามอินเตอร์คอมิกส์ในไทย ตีพิมพ์ใน C-Kids รายสัปดาห์ ซึ่งยุติการพิมพ์ไปเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2016 ดังนั้นใครที่สะสมก็ต้องรอซื้อแบบรวมเล่ม โดยความไม่แน่นอนคือ ไม่รู้วา่นักอ่านการ์ตูนคนไทย จะมีโอกาสอ่านแบบถูกลิขสิทธิ์ไปจนถึงวันที่ One Piece จบหรือไม่

ขณะที่ญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบลักษณะเดียวกัน แต่การ์ตูน (มังงะ) สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้ว ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานวิจิตรศิลป์และวรรณกรรมรูปแบบหนึ่ง และยังมีความนิยมที่จะอ่านแบบรูปเล่มอยู่พอสมควร และหากมังงะได้รับความนิยม จะถูกนำไปผลิตต่อยอดเป็นคอนเทนต์อื่นๆ จึงยังมีตลาดอยู่พอสมควร

ขอบคุณภาพจาก One Piece Fanpage

สรุป

19 ก.ค. วันเกิดของ One Piece อายุครบ 20 ปี มาลุ้นให้ สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์รวมเล่มจนครบถึงเล่มสุดท้ายกันเถิด ส่วนธุรกิจหนังสือการ์ตูนในไทย บอกได้แค่ว่า สำนักพิมพ์ต่างๆ ประสบปัญหาขาดทุนกันถ้วนหน้า รูปเล่มขายได้น้อย และเมื่อทำออนไลน์ก็ไม่ได้รับความนิยม

source: rocketnews24.com

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/one-piece-20th-anniversary/