คลังเก็บป้ายกำกับ: ปัญหา_WINDOWS_10

เสียบ USB ไม่ขึ้น 10 วิธีแก้ ไม่เจอแฟลชไดรฟ์ พอร์ตใช้ไม่ได้ Windows 10 มองไม่เห็น

เสียบ USB ไม่ขึ้น 10 วิธีแก้ ไม่เจอแฟลชไดรฟ์ พอร์ตใช้ไม่ได้ Windows 10 มองไม่เห็น

เสียบ USB ไม่ขึ้น

เสียบ USB ไม่ขึ้น เป็นปัญหาที่เจอกันบ่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ USB Flash drive ในการโอนถ่ายข้อมูล หรือจัดเก็บข้อมูลไฟล์อยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้เป็นประจำ ซึ่งโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย หรือโดนไวรัสเล่นงาน รวมไปถึงเรื่องของการจ่ายไฟของพอร์ต USB เอง เมื่อเกิดความผิดปกติ ก็สามารถทำให้ไม่สามารถตรวจเช็ค หรือเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ภายในได้ หรือบางครั้ง ก็เป็นการเข้ารหัสไดรฟ์จากบุคคลอื่น จนทำให้ใช้งานไม่ได้ ก็มีเช่นเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้อาจแก้ไขได้ในบางอาการ แต่บางอย่าง ก็อาจจะต้องทำใจ เพราะแฟลชไดรฟ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่หากเกิดความเสียหาย ก็แทบจะกู้คืนกลับมาได้ยากเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีให้คุณเช็คอาการในเบื้องต้นก่อนว่า มีความหนักหนาสาหัสเพียงใด และถ้าจับสังเกตอาการล่าสุด ก็จะช่วยให้การแก้ไขได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่จะมีอาการแบบใดบ้าง มาชมกันครับ

เสียบ USB ไม่ขึ้น ใช้งานไม่ได้ Windows 10 มองไม่เห็น

  1. Windows ตรวจไม่พบ Detect ไม่เจอ
  2. แฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์ที่ต่อภายนอกเสีย
  3. เช็คที่พอร์ต USB บนพีซีหรือโน๊ตบุ๊คให้แน่ใจ
  4. เช็คที่ Device Manager
  5. ตรวจไม่พบ หาไดรเวอร์ไม่เจอ
  6. อย่าลืมเช็คเปลี่ยน Drive Letter
  7. แฟลชไดรฟ์ที่นำมาใช้ถูกเข้ารหัส
  8. ปัญหาจากไวรัส
  9. ไฟเลี้ยงพอร์ต USB จากเมนบอร์ดผิดปกติ
  10. USB Device Not Recognized หาไดรฟ์ USB ไม่เจอ

1.Windows ตรวจไม่พบ Detect ไม่เจอ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

อาจเกิดจากการที่ไดรฟ์ ถูกฟอร์แมตมาในรูปแบบที่ Windows ไม่รู้จัก หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น ถ้าในกรณรีที่เพื่อนของคุณใช้แฟลชไดรฟ์จากเครื่อง Mac อย่างเช่น HFS+ หรือเป็นฟอร์แมตของ Linux ซึ่งวินโดว์ก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ได้ แม้ว่าจะมองเห็นเป็นไดรฟ์หนึ่งก็ตาม หากเป็นเช่นนี้ โอกาสจะแก้ก็ทำได้ยาก ยกเว้นว่าจะต้องฟอร์แมตไดรฟ์ใหม่ ซึ่งก็จะทำให้ไฟล์ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์หายไป ทางที่ดีให้เพื่อนที่ใช้ระบบอื่นอยู่ สำรองไฟล์แล้วเอาแฟลชไดรฟ์ที่เราใช้อยู่ไปสำรองข้อมูลมาแทน แต่อาจจะต้องเลือกเป็นฟอร์แมตกลางๆ ระหว่างกันเป็น exFAT เป็นต้น หรือไม่ก็อาจจะต้องใช้วิธีฝากไฟล์บน Cloud storage เป็นการชั่วคราว ก่อนจะจัดการเรื่องของแฟลชไดรฟ์ให้เสร็จสิ้น


2.แฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์ที่ต่อภายนอกเสีย

เสียบ USB ไม่ขึ้น

อย่าได้ถามถึงว่า ความเสียหายมากเพียงใด จึงจะถือว่าแฟลชไดรฟ์เสีย เอาแค่เปิดไม่ติด Detect ไม่เจอก็จัดว่าแย่แล้ว เพราะส่วนใหญ่หากเป็นแฟลชไดรฟ์ ที่เป็นแฟลชเมมโมรี ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล หรือคอนโทรลเลอร์เกิดความเสียหาย ก็มักจะตรวจสอบไม่เจอ หรือเช็คเจอ ก็อาจจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าสู่ข้อมูลได้ตามปกติ และที่สำคัญคือ หากเกิดอาการแบบนั้นแล้ว โอกาสจะคืนกลับมาเป็นปกติ ก็ยากมากมาย ดังนั้นหากเป็นไดรฟ์ต่อภายนอกแบบ USB แต่ไม่ได้เป็นแบบสำเร็จรูป อาจจะถอดกล่องที่เป็น Enclosure ออก จากนั้นเอาฮาร์ดดิสก์ที่อยู่ภายใน ไปต่อตรงเข้ากับพีซี ผ่านทางพอร์ต SATA แล้วดูว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ หากใช้ได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าไม่ได้ ก็ต้องไปลุ้นกันอีกที

ส่วนถ้าเป็นแบบสำเร็จรูป หากเสียบ USB ไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรา หรือคอมเครื่องอื่น ก็อาจจะต้องส่งเคลมกับตัวแทนจำหน่าย แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้หน่อยว่า บางทีอาจไม่ได้ข้อมูลเดิมกลับมา หรือถ้าได้กลับมาก็อาจจะไม่ครบ แต่ถ้าคุณโชคดี มีการสำรองข้อมูลเอาไว้บ้าง ก็ยังพอจะได้กลับมาใช้งานได้บ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณอัพเดตได้ล่าสุดไว้เมื่อใด แต่สิ่งที่คุณต้องระวังเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไดรฟ์เหล่านี้ได้ง่ายก็คือ การเสียบถอดเข้าออกจากพอร์ต อาจจะให้การคลื่อนย้ายข้อมูลเสร็จสิ้นเสียก่อน หรือง่ายๆ ก็คือ ให้ลองคลิ๊กเมาส์ขวา ตรงมุมล่างของหน้าจอ ในส่วนทาส์กบาร์ แล้วเลือก Remove Drive หากระบบให้ทำได้ตามปกติ ก็แสดงว่า พร้อมสำหรับการถอดหรือเคลื่อนย้าย แต่ถ้ายัง ก็แสดงว่ายังติดอะไรอยู่ ให้รีเช็คจนกว่าจะถอดสาย USB ออกจากไดรฟ์ได้ตามปกติ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

การที่ผู้ใช้ดึง USB Flash drive หรือ Ext. SSD, HDD แบบไม่ได้ปิดการทำงานบนวินโดว์หรือ Eject USB Flash Drive เสียก่อน ในช่วงที่การอ่านหรือเขียนข้อมูล รวมถึงยังไม่ได้ตัดการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุแบบไม่ได้ตั้งใจ เช่น เผลอทำหล่น สายถูกกระชากออกจากพอร์ต หรืออุบัติเหตุ ผลที่เกิดขึ้นคือ ความเสียหายทั้งข้อมูลและตัว Flash drive แบบนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่ตัวไดรฟ์เสียหายเท่านั้น แต่อาจส่งผลต่อพอร์ตบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ด้วยเช่นกัน


3.เช็คที่พอร์ต USB บนพีซีหรือโน๊ตบุ๊คให้แน่ใจ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

ก่อนที่จะตัดสินว่าแฟลชไดรฟ์ของคุณเสีย เลยเปิดไม่ติด เสียบไม่เจอไดรฟ์ ให้ลองตรวจเช็คพอร์ตที่อยู่ด้านบนคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้ ให้แน่ใจเสียก่อน ว่าเกิดความเสียหาย หรือทำงานผิดปกติหรือไม่ ด้วยการนำแฟลชไดรฟ์หรืออุปกรณ์ที่เป็นพอร์ต USB อื่นๆ ลองต่อเข้ากับพอร์ต และให้ระบบทำการตรวจสอบ ไม่ต้องรีบร้อน สามารถเช็คทีละพอร์ต จนกว่าจะมั่นใจได้ว่า พอร์ตนั้นเกิดความเสียหาย เป็นเพียงบางพอร์ต หรือเป็นทุกพอร์ต เพราะโอกาสที่เกิดการลัดวงจร หรือการใส่ถอดบ่อยๆ ก็ทำให้เสียหายได้เช่นกัน รวมไปถึงคอนโทรลเลอร์ USB บนเมนบอร์ดเกิดความเสียหาย ก็ทำให้ใช้งานไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จบที่การส่งเคลม หากยังมีประกัน หรือจะเป็นการส่งซ่อม หากหมดประกันไปแล้ว

แต่ถ้าสงสัยในตัวอุปกรณ์ ว่าแฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์แบบต่อภายนอกผ่านทาง USB ต้องนำไปลองใช้กับเครื่องอื่นๆ ถ้าไม่มีปัญหาก็แสดงว่าเป็นที่พอร์ต USB บนโน๊ตบุ๊คที่เกิดความเสียหาย แต่ในเบื้องต้นข้อสังเกตบางอย่าง อาจจะไม่ได้เกิดปัญหาจากพอร์ต USB โดยตรง อย่างเช่น การใช้สายแปลง USB ต่อพ่วงออกจากพอร์ตโดยตรง แล้วนำมาต่อกับอุปกรณ์ที่เป็น USB เพราะบางครั้งสายที่ไม่ได้ออกแบบมาโดยตรงหรือไม่ได้คุณภาพ อาจไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลหรือจ่ายไฟให้กับตัวอุปกรณ์ได้ จึงไม่สามารถทำงานหรือมีการตรวจสอบจากระบบได้โดยตรง ทั้งนี้ก็คงต้องลองเปลี่ยนสาย USB หรืองดการใช้สายนั้น แล้วต่อกับพอร์ต USB โดยตรงแทนหรือบางคนอาจจะชอบ USB Hub ต่อพ่วงกับอุปกรณ์หลายๆ ตัวบน Hub นี้ ก็อาจทำให้การจ่ายไฟของเมนบอร์ดบนโน๊ตบุ๊คเกิดปัญหาขึ้นได้หรือบางครั้งก็อาจเกิดการลัดวงจร จนทำให้พอร์ตที่ใช้เกิดความเสียหาย ก็คงต้องส่งซ่อม


4.เช็คที่ Device Manager

เสียบ USB ไม่ขึ้น

หากเสียบ USB ไม่ขึ้น หรือตรวจพบแล้ว ติดๆ ดับๆ โดยใน Device manager นี้ คุณจะสามารถมองเห็นการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ได้ชัดเจน ซึ่งให้คุณคลิกเข้าไปที่ USB Serial Bus controllers แล้วเช็คดูว่ามีรายการอุปกรณ์ที่คุณติดตั้งอยู่หรือไม่ หากไม่มี ให้ลองถอดอุปกรณ์แล้วต่อใหม่ หรือคลิกไปที่เมนู Action > Scan for hardware change แต่ถ้าในกรณีที่เจอ Device ในรายการ แต่ก็ยังไม่ทำงาน ให้ลองคลิกขวาที่รายการดังกล่าว แล้วเลือก Update driver software อีกครั้งหรือจะดาวน์โหลดไดรเวอร์อุปกรณ์โดยตรงจากผู้ผลิต แล้วติดตั้งใหม่อีกที ถ้าให้ดีควร Uninstall ไดรเวอร์ตัวเก่าออกด้วย ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ เข้าไปที่ Universal Serial Bus controller จากนั้นคลิ๊กขวาที่เป็น USB Device ที่เกิดปัญหา เลือกที่ Update Driver รีสตาร์ทระบบใหม่อีกครั้ง


5.ตรวจไม่พบ หาไดรเวอร์ไม่เจอ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

อาการจากซอฟต์แวร์อาจเป็นปัญหาเบื้องต้นที่เจอกันบ่อย แต่ผู้ใช้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ส่วนสำคัญอยู่ที่เรื่องของไดรเวอร์ที่จะทำให้อุปกรณ์ USB ใช้งานได้ ซึ่งในเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการถอนการติดตั้งหรือ Remove USB driver ออกจากระบบให้เรียบร้อย ซึ่งวิธีการก็คือ ให้คลิกขวาที่ My Computer > Manage > Device Manager > Universal Serial Bus Controllers จากนั้นคลิก Uninstall ให้เอาออกทั้งหมด จากรายการของ USB จากนั้นให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ค้นหาไดรเวอร์หรือ Find Driver เพื่อติดตั้งใหม่อีกครั้ง หรือหากตรวจไม่พบไดรเวอร์ ก็ให้ดาวน์โหลดไดรเวอร์ USB Controller จากเว็บไซต์ผู้ผลิตมาติดตั้งใหม่ให้เรียบร้อย


6.อย่าลืมเช็คเปลี่ยน Drive Letter

เสียบ USB ไม่ขึ้น

ในระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า การเสียบแฟลชไดรฟ์หรือ Ext. HDD หรือเสียบ USB ไม่ขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชื่อไดรฟ์ไปซ้ำกับไดรฟ์ที่มีอยู่บนตัวเครื่อง เพราะไดรฟ์บางอย่างมีการกำหนด Drive Letter หรือชื่อไดรฟ์เอาไว้ ดังนั้นเมื่อติดตั้งไดรฟ์ใหม่เข้ามา มีโอกาสที่จะชื่อซ้ำ และทำไห้เรามองไม่เห็นได้เช่นกัน ทางแก้ไขก็เพียง เข้าไปที่ Disk Management แล้วคลิกขวาไดรฟ์ปกติที่ใช้อยู่หรือคาดว่าจะซ้ำ ซึ่งจะไม่ใช่ไดรฟ์ C: ให้ลองเปลี่ยนไดรฟ์อื่นๆ ให้เลื่อนออกไป ทางแก้ไขก็คือ ให้เมาส์ขวาที่ My Computer แล้วเลือก Disk Management จากนั้นเลือกแฟลชไดรฟ์หรือไดรฟ์อื่น แล้วคลิกเปลี่ยน Change Drive Letter and Paths ให้เป็นไดรฟ์อื่น เช่น E, F หรือ G เท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว ก็ช่วยในการแก้ไขปัญหา มองไม่เห็น USB ไม่เจอ Flash drive ไดรฟ์หายบน Windows 10


7.แฟลชไดรฟ์ที่นำมาใช้ถูกเข้ารหัส

เสียบ USB ไม่ขึ้น

หลายครั้งที่เราจะเห็นการเข้ารหัสบนไดรฟ์เหล่านี้ เพื่อการป้องกันการขโมยข้อมูลหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การป้องกันเช่นนี้ จึงให้ผลดีต่อการใช้งาน โดยเฉพาะการกำหนด Priority หรือความสำคัญของผู้ใช้แต่ละคนได้ ซึ่งมีทั้งการเข้ารหัสด้วยซอฟต์แวร์ เป็นรูปแบบที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ในอดีต ข้อดีก็คือ ใช้งานง่าย เพียงติดตั้งซอฟต์แวร์สำหรับเข้ารหัสลงในคอมพิวเตอร์หรือใช้ฟังก์ชั่นจากระบบปฏิบัติการบางรุ่น

แต่บางครั้งคนที่ไม่ทราบรูปแบบการใช้งาน นำมาใช้ก็ไม่สามารถต่อพ่วงหรือเข้าถึงข้อมูลภายในได้ เพราะการเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์แบบนี้ โดยพื้นฐานผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้น ที่จะสามารถใช้งานได้ เนื่องจากมีระบบป้องกันที่ปลอดภัยอย่างมากทีเดียว ด้วยการเข้ารหัสจากโพรเซสเซอร์ในตัว มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ ป้องกันข้อมูลด้วยฮาร์ดแวร์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าแอพพลิเคชั่นและรหัสจะมีอยู่ในอุปกรณ์ จึงปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามต่างๆ ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้การเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์บนแฟลชไดรฟ์ ได้ด้วยการกดปุ่มบนตัวไดรฟ์เท่านั้น นั่นก็หมายความว่าบางทีแฟลชไดรฟ์ที่คุณนำมาใช้ เมื่อเสียบ USB ไม่ขึ้น ก็อาจจะต้องสอบถามรหัสหรือวิธีการ Access เข้าระบบจากเจ้าของนั่นเอง ตัวอย่างเช่น Kingston DT2000

คุณสมบัติที่ดีของแฟลชไดรฟ์เข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์

  • แป้นพิมพ์ตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เพื่อปลดล็อคอุปกรณ์ของคุณได้โดยง่าย
  • FIPS 140-2 Level 3
  • เข้ารหัสระดับฮาร์ดแวร์ AES 256 บิตแบบครอบคลุมทั้งดิสก์
  • PIN ผู้ดูแลระบบหรือแอดมิน – ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถสืบค้นไดร์ฟและออก PIN ผู้ใช้ใหม่ได้ในกรณีที่ผู้ใช้ลืม PIN
  • สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับพอร์ต USB 2.0 หรือ USB 3.1 Gen 1 (USB 3.0)
  • สิทธิ์ใช้งานแบบอ่านอย่างเดียว – ผู้ดูแลระบบสามารถจัดสรรไดร์ฟแบบติดตั้งเนื้อหาสำเร็จเพื่อให้ผู้ใช้อ่านอย่างเดียวเท่านั้น

8.ปัญหาจากไวรัส

ปัญหาไฟล์และโฟลเดอร์บนแฟลชไดรฟ์ เมื่อเสียบ USB แล้วมองไม่เห็นไฟล์ อาจเกิดจากไวรัสบางประเภท ที่ทำการซ่อนไฟล์ หรือลบไฟล์ ไม่ว่าจะเป็นนามสกุลใดๆ ก็ตาม ทำให้งานของเราทำไว้หายไป ซึ่งมักพบเจอใน USB Flash Drive โดยสาเหตุนั้นพบใน Flash Drive ไปใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เช่น ในสำนักงาน สถานศึกษา หรือบ้านเพื่อน ที่ไม่ได้มีการป้องกันไวรัสที่ดีพอ รวมถึงไดรฟ์ที่ใช้งานร่วมกันหลายคน หลายมือ โดยไม่มีการป้องกัน ซึ่งหลายคนอาจไม่มั่นใจ ก็เผลอลบหรือไป Format ข้อมูลทิ้งทำให้ข้อมูลสูญหายไป กู้กลับคืนมาก็ไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้ ให้ลองใช้วิธี ลบไวรัส มัลแวร์ ที่ซ่อนไฟล์ข้อมูลใน USB Flash Drive


9.ไฟเลี้ยงพอร์ต USB จากเมนบอร์ดผิดปกติ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

ในกรณีที่ USB Flash Drive ตรวจสอบไม่พบและไม่ทำงานได้ตามปกติ อาจเกิดจากไฟเลี้ยงจากเมนบอร์ดมายังพอร์ต เพื่อส่งไปที่แฟลชไดรฟ์ผิดปกติหรือทำได้ไม่เต็มที่ ส่วนใหญ่พบได้ที่พอร์ต USB ที่อยู่ด้านหน้าเครื่องหรืออาจเกิดจากการใช้สายต่อจาก USB port ด้านหลังเครื่องออกมา ก็ทำให้ระบบไม่จ่ายไฟให้ Flash drive ตามปกติ ขึ้นอยู่กับสายที่ต่อออกมาไม่มีคุณภาพ ซึ่งทางแก้ไขก็คงต้องเปลี่ยนพอร์ตใหม่หรือตรวจเช็คพอร์ตใดที่มีปัญหา รวมถึงการเปลี่ยนสายต่อเส้นใหม่ ให้พอร์ต USB สามารถใช้งานร่วมกับ Flash drive ได้ตามปกติ


10.USB Device Not Recognized หาไดรฟ์ USB ไม่เจอ

เสียบ USB ไม่ขึ้น

สาเหตุของปัญหา USB Device not recognized ที่พบกันบ่อย กรณีแฟลชไดร์ฟหรืออุปกรณ์ใช้งานไม่ได้ Windows 10 วิธี แก้ไขปัญหา USB Device not recognized ตรวจสอบ Hardware ภายนอกหรืออุปกรณ์ที่นำมาต่อ เช่น port USB , สาย USB , FlashDrive และอื่นๆ ว่ามีปัญหาหรือไม่? ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ หาก USB ที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ เชื่อมต่อผ่าน Hub หรือ port USB ด้านหน้าเคส ลองเปลี่ยนมาต่อที่ด้านหลังของเคส หรือบางครั้งเกิดความไม่เข้ากันระหว่างแฟลชไดรฟ์กับพอร์ต USB บนเมนบอร์ดหรือเกิดจากคนละเวอร์ชัน การจ่ายไฟไม่เพียงพอ ต่อพอร์ตไม่แน่นหรือบางทีเกิดจากการที่ติดตั้งไดรเวอร์ USB port บนเมนบอร์ดไม่สมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับ แฟลชไดรฟ์ การแก้ไขก็คงต้องดูไปตามอาการ เช่น การดาวน์โหลดไดรเวอร์ USB บนเมนบอร์ดมาติดตั้ง หรือเปลี่ยนพอร์ตที่เชื่อมต่อเป็นพอร์ตอื่นๆ เป็นต้น

  • สาย USB ที่นำมาเชื่อมต่อมีปัญหา อาจจะชำรุดหรือเสียหาย
  • port USB ที่ใช้เชื่อมต่อเสียหาย หรือ มีปัญหา
  • การต่อ USB ผ่าน Hub(ตัวกระจายให้มี port USB เพิ่มขึ้น) เช่น Port USB ด้านหน้า case
  • เนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างนั้นต้องการไฟเลี้ยงที่มากกว่าที่ Hub นั้นจะจ่ายได้
  • ระบบปฏิบัติการหรือไดรเวอร์ภายในเครื่องของเราอาจเกิดปัญหาอันเป็นสาเหตุได้
  • มาตรฐานการรองรับที่แตกต่างกัน ? เช่นหากพอร์ตเราสามารถรองรับได้เพียง USB 1.1 แต่เรากลับนำ USB 3.0 มาเสียบใช้งานก็อาจเป็นสาเหตุได้

Conclusion

เสียบ USB ไม่ขึ้น

แต่ถ้าในกรณีที่ทำมาตามคำแนะนำต่างๆ มาทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้งานไดรฟ์ USB ได้ตามปกติ หรือเสียบ USB ไม่ขึ้นบน Windows 10 แม้จะทำตามขั้นตอนที่ว่ามานี้แล้ว อาจใช้วิธี Restore Windows 10 เพื่อให้ระบบกลับคืนมาในช่วงที่ยังใช้งานได้ ก็มีโอกาสที่ช่วยให้ ระบบสามารถตรวจเช็คหรือ Detect อุปกรณ์ USB ต่างๆ เหล่านั้น ให้กลับคืนมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่นั่นก็หมายความว่า คุณอาจจะต้องทำงานสร้างจุด Restore point เตรียมเอาไว้ด้วย แนะนำว่าให้จัดเก็บในช่วงทีคิดว่าระบบสมบูรณ์ที่สุด ใช้งานได้ลื่นที่สุดนั่นเอง หรือจะเลือกเก็บเป็นระยะๆ ให้มีจุดเรียกคืนหลายช่วงเวลา หาก Restore ในจุดใดแล้ว ใช้งานได้ดี ก็เลือกเอาไว้ใช้งานได้เลย


Related Topic

All-In-One PC จาก MSI 8 รุ่น ทำงานและความบันเทิง ดูหนัง เทรดหุ้น WFH และเกมเมอร์มือใหม่

MSI Modern AM241 AM271 cov1 1

MSI MAG CH130 X เก้าอี้เกมมิ่ง แน่นนั่งสบาย ปรับเอนได้ สัมผัสรถสปอร์ต

MSI MAG CH130 X cov1

Neolution E-Sport Silencer หูฟังเกมมิ่ง 1,390.- เล่นสนุกได้ทุกแพลตฟอร์ม

Neolution Esport Silencer cov3

from:https://notebookspec.com/web/608558-usb-not-connect-windows-10

โน๊ตบุ๊คช้ามาก แก้ได้ใน 7 ขั้นตอน นะจ๊ะ

โน๊ตบุ๊คช้ามากไม่เหมือนซื้อมาใหม่ ๆ เลย ทำตาม 7 ขั้นตอนนี้เร็วดังเดิมแน่นอน!

slow laptop cover

ตอนนี้โน๊ตบุ๊คกลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องสำคัญของใครหลายคนไปแล้ว ยิ่งยุคนี้ที่การ์ดจอยังแพงอยู่ก็มีเกมเมอร์หันมาใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกันเยอะ แล้วปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามากหลังจากใช้งานไปสักพักก็เป็นปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาเครื่องอืดทำงานไม่เร็วทันใจเหมือนซื้อมาวันแรก ๆ นั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง และเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ทำตามไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น

สำหรับวิธีการในบทความนี้ที่หยิบมาแนะนำกันนั้นสามารถเอาไปทำตามได้ทั้งโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานมาสักระยะหรือมีคอมเก่าใช้งานมาหลายปีแล้วไม่ได้ยุ่งอะไรกับมันเลย แล้วคิดว่าควรจัดการเครื่องให้กลับมาทำงานได้ดีตามเดิม ก็สามารถอ่านแล้วทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้ทันที

โน๊ตบุ๊คช้ามาก

7 ขั้นตอนแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามากไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จแล้ว

วิธีการแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้าทำงานไม่ทันใจสามารถใช้ฟีเจอร์ที่ Microsoft ใส่มาให้ใน Windows 10 ได้ทั้งหมด ไม่ต้องโหลดโปรแกรมใด ๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ซึ่งทั้ง 7 ขั้นตอนจะมีดังนี้

  1. เช็คเครื่องกันก่อนว่าแรมพอใช้ไหม
  2. ได้ Defragment Harddisk ในเครื่องหรือยัง
  3. สแกนไวรัสลบ Malware และไวรัสออกไปด้วย
  4. โปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องเยอะไปหรือเปล่า
  5. Temporary File เยอะเกินไปเครื่องเลยช้า
  6. อัพเดท Windows เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย
  7. ถ้าเครื่องเก่าแล้วใช้ฮาร์ดดิสก์ก็เปลี่ยนมาใช้ SSD ด้วย

1. เช็คเครื่องกันก่อนว่าแรมพอใช้ไหม

about

ปัญหาโน๊ตบุ๊คทำงานได้ช้ามากอย่างแรกนั้น อาจมีต้นเหตุจากแรมในเครื่องมีน้อยจนไม่พอเอาไว้ใช้รันโปรแกรมที่กินแรมเยอะ ๆ อย่างโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ, เบราเซอร์หลาย ๆ แท็บพร้อมกัน รวมถึงเล่นเกมก็ควรอัพเกรดเครื่องให้มีแรมเยอะพอใช้ด้วย ซึ่งผู้เขียนเคยกล่าวถึงไปแล้วในบทความ “ไขข้อข้องใจ Ram เท่าไหร่ดี 8GB หรือ 16GB ถึงพอใช้ในปัจจุบัน?” ว่างานแบบไหนควรมีแรมในเครื่องกี่ GB ถึงจะเยอะพอใช้งาน

ส่วนวิธีเช็คว่าแรมในพีซี, โน๊ตบุ๊คของเรามีกี่ GB สามารถกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดแล้วพิมพ์คำว่า About แล้วกด Enter ได้เลย จาากนั้นให้ดูที่ Device specifications ว่า Installed RAM มีอยู่กี่ GB ตัวอย่างเช่นในภาพจะมีอยู่ 32GB เป็นต้น ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนขอแนะนำว่าถ้าเอามาใช้ทำงานอย่างเดียวอาจจะเริ่มที่ 8GB จะช่วยแก้ปัญหาแรมมีไม่พอให้เครื่องใช้รันโปรแกรมได้อีกราว 2-3 ปี ก่อนที่แรม 16GB จะกลายเป็นปริมาณขั้นต่ำในคอมพิวเตอร์ต่อไป

2. ได้ Defragment Harddisk ในเครื่องหรือยัง

defragment

พีซีและโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ใช้งานมานานแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ SSD ก็ควรหมั่น Defragment ให้ Windows จัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ใหม่เป็นระยะ ๆ จะช่วยให้เปิดโปรแกรม, เรียกไฟล์ต่าง ๆ ที่เขียนเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์ลูกนั้น ๆ ได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ห้าม Defragment ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD เด็ดขาด เนื่องจาก SSD มีตัว Controller เอาไว้จัดเรียงข้อมูลในตัวอยู่แล้ว และการ Defragment SSD จะทำให้ TBW ลดลงอย่างรวดเร็วและ Controller ทำงานหนักเกินความจำเป็น วิธีที่ดีสุดควรโหลดโปรแกรมที่ผู้ผลิต SSD ตัวนั้นสร้างขึ้นมาแล้วใช้ฟังก์ชั่น TRIM แทน

สำหรับคอมเครื่องไหนที่ยังมีฮาร์ดดิสก์อยู่ ให้กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Defragment ลงไป แล้วที่หน้าต่าง Optimize Drive จะมีไดรฟ์ทั้งหมดที่ติดตั้งในเครื่องขึ้นมา ให้สังเกตตรงช่อง Media type ที่จะ Defragment ต้องเป็นไดรฟ์แบบ Hard disk drive ค่อยกด Optimize จากนั้น Windows จะจัดการ Defrag ฮาร์ดดิสก์ลูกนั้นจนเสร็จ ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ทำสัปดาห์ละครั้งจะดีที่สุด

3. สแกนไวรัสลบ Malware และไวรัสออกไปด้วย

scan virus 1

พอใช้คอมทำงานมานาน ๆ ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามากเพราะไวรัสหรือ Malware แฝงเข้ามาในเครื่องหรือเปล่า โดย Malware อาจจะมาจากตอนที่เราเปิดเว็บไซต์ที่ดูอันตราย, โหลดไฟล์หรือต่อแฟลชไดรฟ์ที่ติดไวรัสเข้ากับเครื่องของเรา แล้วพอมันรันตัวเองเมื่อไหร่ก็จะทำให้เครื่องช้าหรือโดนขโมยข้อมูลได้ด้วย

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือเปิดโปรแกรม Antivirus มาสแกนลบไวรัสและ Malware ต่าง ๆ ออกไปเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจจะทำสัปดาห์หรือเดือนละครั้งก็พอแล้ว โดยจะใช้โปรแกรม Antivirus ที่มีอยู่หรือ Windows Defender ที่ Microsoft ติดตั้งมาให้ใน Windows 10 ก็ทำงานได้ดีเหมือนกัน

scan virus 2

สำหรับวิธีการสแกนไวรัสใน Windows 10 ให้กดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ด พิมพ์คำว่า Virus แล้วกด Enter เพื่อเปิดหน้าต่าง Windows Security ขึ้นมา เลือกคำว่า Scan options ตั้งให้ Windows สแกนแบบ Full scan ก่อนกด Scan now เพื่อให้ Windows เช็คมัลแวร์ในเครื่องแบบละเอียด แต่ขั้นตอนนี้จะทำให้เครื่องทำงานช้าลง ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ตั้งสแกนเอาไว้แล้วไปทำอย่างอื่นสักพักรอให้เครื่องสแกนจนเสร็จจะดีที่สุด

4. โปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องเยอะไปหรือเปล่า

 

start up programs

ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามาก นั่งรอเครื่องเข้าหน้าวินโดวส์แล้วพร้อมใช้งานนานหลายนาที ไปชงกาแฟรอก็ยังไม่เสร็จอาจจะมีสาเหตุจากโปรแกรมที่รันตัวเองตอนเปิดเครื่องพร้อม ๆ กับ Windows นั้นมีเยอะเกินไป ดังนั้นเราควรลดปริมาณโปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องลงให้เหลือเฉพาะโปรแกรมหลัก ๆ ที่ใช้งานเป็นประจำก็พอ

วิธีการคือให้เราเปิด Task Manager ขึ้นมาโดยกด Ctrl+Shift+Esc จากนั้นคลิกคำว่า Startup ที่เป็นแท็บรวมโปรแกรมที่จะรันตัวเองทันทีเมื่อเปิด Windows เข้าหน้า Desktop มาแล้ว ถ้ามีโปรแกรมไหนไม่จำเป็นต้องรันทันที ให้คลิกเลือกแล้วกดคำว่า Disable ตรงมุมล่างขวาได้เลย

5. Temporary File เยอะเกินไปเครื่องเลยช้า

tmp file

Temporary File นั้นจะเป็นไฟล์ที่ Windows สร้างขึ้นมาใช้งานในระบบชั่วคราว และปล่อยทิ้งเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์ของเรา ซึ่งถ้ามีเยอะนอกจากกินพื้นที่ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้ช้าลงมากด้วย ดังนั้นทาง Microsoft จึงมีฟังก์ชั่น Disk Cleanup เอาไว้เคลียร์ Temporary File อยู่ด้วย

สำหรับวิธีการเปิดจะมี 2 แบบคือ จะกดปุ่ม Windows มาพิมพ์คำว่า Disk Cleanup ก็ได้ เมื่อ Windows บูตหน้าต่างด้านบนขึ้นมาก็เลื่อนลงมาจนเจอช่องที่เขียนคำว่า Temporary File ค่อยกดติ๊กเลือกแล้วกดคำว่า Clean up system files เพื่อลบ Temporary File ออกไป

storage 1
storage 2

อีกวิธี ให้เรากดปุ่ม Windows จากนั้นพิมพ์คำว่า Storage หรือ Temporary File ก็ได้ แล้วกด Enter เพื่อเปิดหน้า Storage แล้วจะมีคำสั่ง Temporary File ให้กดเหมือนกัน โดย Windows จะเช็คไฟล์ประเภทนี้ขึ้นมาให้เราเลือกลบได้ ซึ่งบางเครื่องอาจจะประหยัดพื้นที่ไปเป็นหลัก GB และทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้เร็วขึ้นด้วย

6. อัพเดท Windows เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

update

บางครั้งสาเหตุที่โน๊ตบุ๊คช้ามาก อาจจะมาจากแพทช์ Windows ที่ทาง Microsoft ปล่อยอัพเดทออกมา ซึ่งบางครั้งบางแพทช์ก็ปรับแต่งออกมาได้ไม่ดีเลยทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามาก ดังนั้นถ้าเจอปัญหานี้ขึ้นมา ก็ควรเช็คว่าทาง Microsoft มีแพทช์อัพเดท Windows เวอร์ชั่นใหม่ปล่อยออกมาหรือไม่ แล้วก็อัพเดทได้เลย โดยกด Check for updates ในหน้า Windows Update สักสัปดาห์ละครั้งหลังจากสแกนไวรัสเสร็จแล้วก็ได้

roll back

หรือถ้าเพิ่งอัพเดทมาแล้วแพทช์ใหม่ของ Windows 10 มาแล้วเครื่องทำงานไม่ดี มีปัญหากระตุกหรือช้าล่ะก็ มีวิธีการ Roll back update กลับไปเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยกดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Recovery ลงไป จากนั้นดูตรงคำว่า “Go back to the previous version of Windows 10” ว่าเราสามารถ Roll back กลับไปได้หรือไม่ โดยตัวระบบปฏิบัติการมีเงื่อนไขอยู่ว่าถ้าเครื่องเราอัพเดทเกิน 10 วันเมื่อไหร่จะใช้ฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราอัพเดทแล้วแพทช์ใหม่นี้ทำงานได้ไม่ดีก็แนะนำให้ Roll back ไปเลย

7. ถ้าเครื่องเก่าแล้วใช้ฮาร์ดดิสก์ก็เปลี่ยนมาใช้ SSD ด้วย

Screenshot 2021 02 20 164234

สุดท้ายเมื่อปรับแต่งซอฟท์แวร์ไปจนหมดแล้ว ถ้าฮาร์ดดิสก์ในเครื่องของเรายังเป็นฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอยู่อาจจะทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามาก เพราะความเร็วการอ่านเขียนข้อมูลของฮาร์ดดิสก์แบบเก่าจะช้ากว่า SSD แบบ 2.5″ SATA III ถึง 4-5 เท่า ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้ SSD เพื่อให้เขียนอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น

สำหรับผู้อ่านที่สนใจเรื่อง SSD แต่ต้องการข้อมูลเพิ่ม ผู้เขียนได้เคยทำบทความแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับ SSD เอาไว้ให้อ่านประกอบการตัดสินใจแล้ว โดยมีบทความดังนี้

  1. ไขข้อข้องใจ SSD กี่ GB ดี? 256GB หรือ 512GB? หรือ 1TB เลยจบๆ – แนะนำรายละเอียดทั้งหมดของ SSD ที่ควรรู้ก่อนซื้อ แนะนำให้อ่านเป็นบทความแรก
  2. รวมวิธีอ่านสเปค SSD ที่คนขายไม่เคยบอก อัพเดตล่าสุด 2021 – รวมรายละเอียดและข้อมูลหน้าสเปคของ SSD ฉบับเจาะลึก ว่า SSD รุ่นนั้น ๆ มีจุดเด่นตรงไหนบ้าง
  3. SSD รุ่นไหนดี มาดู NVMe 6 รุ่นนี้ได้เลย สเปคดีฟีเจอร์เด็ดแน่ – รวมข้อเปรียบเทียบว่า SSD แบบ M.2 NVMe กับ 2.5″ SATA III แตกต่างกันอย่างไร รวมทั้งแนะนำรุ่นน่าซื้อ
  4. รวม 10 SSD 1TB ตัวเด็ดที่คุณห้ามพลาด เลือกได้ทั้ง SATA III และ NVMe ตัวแรง – รวมวิธีดูและอัพเกรด SSD ให้กับพีซีและโน๊ตบุ๊คว่าเครื่องของเราใส่ SSD แบบไหนได้บ้าง และแนะนำ SSD รุ่นน่าซื้อเพื่ออัพเกรดเครื่อง

ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าถ้าจะอัพเกรดโน๊ตบุ๊คที่เริ่มเก่าแล้ว ควรแกะฝาเครื่องออกมาดูว่าในเครื่องยังมีช่องสำหรับใส่ SSD แบบไหนได้บ้าง ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าโน๊ตบุ๊คของเราเป็นรุ่นใหม่เพิ่งซื้อมาไม่นาน มักมีพอร์ต M.2 NVMe ที่เป็น PCIe 3.0 ติดตั้งมาให้แล้ว จะซื้อ NVMe ไปใส่เครื่องให้รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นก็ได้ แต่ถ้าอายุราว 2-3 ปี แต่ยังต้องใช้ทำงานต่อก็ซื้อแบบ 2.5″ SATA III ไปใช้ จะช่วยให้เปิดเครื่องรันโปรแกรมได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

goran ivos wJpl8D38Tq8 unsplash

สำหรับวิธีจัดการโน๊ตบุ๊คที่ทำงานได้ช้ามาก ๆ ให้กลับมาเร็วใกล้เคียงหรือเท่ากับเครื่องซื้อใหม่นั้นมีให้ทำตามหลายวิธี โดยไม่ต้องพึ่งการลง Windows ใหม่อีกครั้งให้เสียเวลาทั้งรีบูตเครื่องและติดตั้งโปรแกรมใหม่เลย และยังมีฟังก์ชั่นให้ใช้ในตัวระบบปฏิบัติการอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากการสแกนไวรัสหรือลบไฟล์ขยะในเครื่องทิ้งก็ตาม แต่พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เจ้าของโน๊ตบุ๊คก็สำคัญเหมือนกัน เพราะถ้าเอาแต่ใช้งานอย่างเดียวไม่ระวังว่าใครจะเอาแฟลชไดรฟ์ไหนมาเสียบเครื่อง ไม่สแกนไวรัสหรือลบไฟล์ขยะล่ะก็ ปัญหาโน๊ตบุ๊คทำงานช้ามากก็จะกลับมาอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

pc freeze cover

sound laptop cover

checklaptop cover

from:https://notebookspec.com/web/602285-7-way-solve-slow-laptop

9 วิธีแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ฉบับอัพเดท 2021

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ไม่ต้องห่วง เรามีวิธีแก้มาบอก

sound laptop cover

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 เรียกว่าเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คนที่ชอบดูหนังฟังเพลงมาก ๆ แล้วก็มีโอกาสเกิดปัญหาได้จากหลาย ๆ มุมอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาจุกจิกที่ใครหลาย ๆ คนก็ไม่อยากเจอแน่นอน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องพยายามแก้ด้วยตัวเอง ก็ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสาเหตุหลัก ๆ นั้นมักมาจากทั้งไดรเวอร์ที่เก่าแล้วยังไม่ได้อัพเดท, การตั้งค่าผิดพลาด ซึ่งถ้าจัดการแล้วก็น่าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ในทางกลับกันถ้าอาการหนักกว่าที่คิด อย่างลำโพงเสียหรือแล้วส่งเสียงประหลาด ๆ ออกมา เพราะเครื่องก็มีอายุใช้งานมาหลายปีแล้ว ก็สามารถเช็คปัญหาเบื้องต้นให้รู้ว่าต้นเหตุมาจากไหนได้ด้วย แต่ถ้าเป็นปัญหาเรื่องลำโพงของโน๊ตบุ๊คเสียหายนั้น มักไม่เป็นอาการอยู่ ๆ ดับไปทันทีอย่างแน่นอน โดยส่วนใหญ่จะเกิดอาการเสียงเพี้ยนแล้วค่อย ๆ เบาจนดับไปมากกว่า

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10

ดังนั้นในบทความนี้ จะยึดเป็นกรณีที่เครื่องยังใหม่อยู่และใช้งานมาได้ไม่นานแต่เจอปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นี้แทน โดยจะมีวิธีการเช็คปัญหาทั้งฝั่งของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ลองทำตามดู

9 วิธีแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ทำง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นั้นมีโอกาสเกิดจากทั้งซอฟท์แวร์ที่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก ๆ กับฮาร์ดแวร์ที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ้างเช่นกัน โดยวิธีการเช็คและแก้ปัญหาทั้งเครื่องจะมีทั้งหมด 9 วิธีด้วยกัน ได้แก่

  1. ลองต่อหูฟังดูว่าเสียงดังไหม
  2. เช็ค Volume ของเครื่องก่อนว่าปิดเอาไว้หรือเปล่า
  3. ดู Audio Device ก่อนว่าเสียงออกอุปกรณ์ไหน
  4. ปิด Audio Enhancement ดูก่อนนะ
  5. อัพเดทไดรเวอร์เสียงเผื่อจะช่วยได้
  6. ถ้าอัพเดทแล้วยิ่งพัง Roll Back Driver เป็นเวอร์ชั่นก่อนดู
  7. ใช้ Audio Troubleshooter แก้ปัญหาดู
  8. เปลี่ยน Audio Format แก้เรื่องเสียงดู
  9. แก้ไม่หายก็เอาเข้าศูนย์ บางทีลำโพงอาจจะพัง
1. ลองต่อหูฟังดูว่าเสียงดังไหม

lee campbell GI6L2pkiZgQ unsplash

ถ้าลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง ไม่รู้ว่าเกิดจากซอฟท์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ ให้ลองเสียหูฟังเข้าเครื่องก่อน เพื่อเช็คว่าถ้าเครื่องสลับเข้ามาที่หูฟังแล้วเสียงยังออกตามปกติหรือเปล่า หรือว่าเสียงไม่ออกทั้งลำโพงและหูฟังเลย ทำให้สันนิษฐานได้ว่าตอนนี้ช่อง Audio Port สำหรับต่อหูฟังกับลำโพงน่าจะมีปัญหาเป็นอย่างแรก แต่ผู้เขียนยังไม่แนะนำให้ฟันธงทันทีว่าฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องพังแล้วจะยกไปศูนย์อย่างเดียว ก็ขอแนะนำให้แก้ปัญหาตามขั้นตอนอื่น ๆ จนหมดก่อนแล้วจะฟันธงว่าเสียก็ว่ากันไป

2. เช็ค Volume ของเครื่องก่อนว่าปิดเอาไว้หรือเปล่า

speaker

ปัญหาตายน้ำตื้นอย่างการหรี่เสียงหูฟังหรือลำโพงจนกลายเป็น 0 หรือกดปุ่มฟังก์ชั่นเพื่อปิดเสียงทิ้งไปแล้วลืม ก็เป็น User Error เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ แนะนำให้มอง Taskbar มุมล่างขวาก่อนว่าไอคอนลำโพงของตัวเครื่องมีเครื่องหมายกากบาทติดอยู่หรือเปล่า ถ้ากากบาทอยู่ก็กดเปิดกลับมาด้วย แล้วถ้าเสียงกลับมาก็ถือว่าปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังเป็นอันปิดประเด็นไป

3. ดู Audio Device ก่อนว่าเสียงออกอุปกรณ์ไหน

audio device
audio device 2

ขั้นตอนต่อมาให้ดูอุปกรณ์ที่ถูกตั้งค่าให้เป็นตัวเล่นเพลงก่อน ว่าตอนนี้เสียงออกตรงไหน แล้วเสียงดังได้ยินหรือเปล่า เช่น ในภาพจะมีแบบออก Speakers แล้วบรรทัดที่ 2 เขียนว่า Realtek(R) Audio จะเป็นลำโพงตัวเครื่อง และ Speakers อีกตัวเป็น USB PnP Audio Device เป็นหูฟังที่ต่อเอาไว้กับตัวเครื่องผ่าน USB-C Multiport adapter ถ้าต้องการเปลี่ยนลำโพงก็ให้คลิกขวาที่ลำโพงที่ต้องการ จากนั้นเลือกคำว่า Set as Default Device เพื่อเปลี่ยนลำโพงไปลำโพงที่ต้องการได้เลย

speaker
sound out

ส่วนวิธีเปลี่ยนเสียงออกแบบง่าย ๆ ก็กดที่ไอคอนลำโพงตรง Taskbar ก่อนแล้วคลิกตรงชื่อของอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ แล้ว Windows 10 จะโชว์อุปกรณ์ทั้งลำโพงและหูฟังที่ต่อคอมทั้งหมดให้เราดู จากนั้นคลิกเลือกเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เราฟังเพลงดู ว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คของเราดังแล้วหรือยัง

4. ปิด Audio Enhancement ดูก่อนนะ

audio enhancement

ฟีเจอร์ที่ปรับแต่งเสียงลำโพงหรือหูฟังอย่าง Audio enhancement ที่ทำให้เสียงเพลงเพราะขึ้นก็ตาม แต่ก็มีผลทำให้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังได้เช่นกัน เพราะอาจจะมีบั๊กหรือการตั้งค่าผิดพลาดจากผู้พัฒนาโปรแกรมได้ด้วย ดังนั้นวิธีการปิดฟังก์ชั่นนี้ทิ้งก็อาจจะทำให้ลำโพงของโน๊ตบุ๊คดังก็ได้

เริ่มต้นให้คลิกขวาตรงรูปลำโพง เลือกคำว่า Sounds จากนั้นจำมีหน้าต่างการตั้งค่าเสียงขึ้นมา ให้คลิกแท็บที่ชื่อว่า Playback แล้วคลิกขวาที่ไอคอนรูปลำโพงของคอมพิวเตอร์ เช่น ในภาพจะเป็นตัว Speaker ที่เขียนว่า Realtek(R) Audio แล้วเลือก Properties เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าเรื่องเสียงขึ้นมา

ในหน้า Properties ให้เลือกแท็บ Advanced ตรง Signal Enhancements จะมีช่องติ๊กถูกตรงคำว่า Enable audio enhancements ให้ติ๊กช่องนั้นออกแล้วกด Apply ว่าโปรแกรมปรับแต่งเสียงที่ติดตั้งมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ควรลองอัพเดทโปรแกรมดูว่ามีแพทช์แก้ไขจากผู้พัฒนาโปรแกรมหรือเปล่า

5. อัพเดทไดรเวอร์เสียงเผื่อจะช่วยได้

update driver

ปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 เอง อาจจะมีต้นเหตุจากไดรเวอร์ในเครื่องเป็นเวอร์ชั่นเก่าแล้วยังไม่ได้อัพเดทก็อาจจะมีบั๊กที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่ แล้วพอการใช้งานของเราเข้าเงื่อนไขที่ทำให้เสียงลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังเมื่อไหร่ ก็ควรลองอัพเดทไดรเวอร์ดูสักครั้งหนึ่งก่อน อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

สำหรับการอัพเดทไดรเวอร์เสียงโดยตรง ให้เข้าไปที่ Device Manager แล้วเลื่อนหาไดรเวอร์ที่เกี่ยวกับเสียงในเครื่อง โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็น Realtek จากนั้นให้คลิกขวาแล้วเลือกคำว่า Update driver แล้วทำตามขั้นตอนที่ระบบ Windows 10 บอกให้เราทำตามไปเรื่อย ๆ จนเสร็จแล้วทดลองดูว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คของเราเสียงดังตามปกติหรือยัง

6. ถ้าอัพเดทแล้วยิ่งพัง Roll Back Driver เป็นเวอร์ชั่นก่อนดู

update or roll back

จากข้อที่แล้ว กรณีสำหรับคนที่อัพเดทไดรเวอร์แล้วเจอปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ขึ้นมา ก็ใช้วิธี Roll Back Driver หรือย้อนไดรเวอร์กลับไปเป็นเวอร์ชั่นที่แล้วที่ไม่มีปัญหาลำโพงไม่ดังดู จะช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ แต่ถ้ากรณีไดรเวอร์ในเครื่องยังไม่ได้อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ปุ่ม Roll Back Driver จะกดไม่ได้

วิธีการ Roll Back Driver ให้กลับไปเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้าที่ไม่มีปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง ให้เปิด Device Manager แล้วคลิกขวาที่ไดรเวอร์เสียงนั้น ๆ ที่สันนิษฐานว่ามีปัญหาแล้วเลือกคำว่า Properties และเลือกแท็บ Driver ที่อยู่อันที่ 2 จะกลายเป็นแบบภาพตัวอย่าง แล้วเลื่อนลงมาที่คำว่า Roll Back Driver ที่วงกลมสีฟ้าเอาไว้ ซึ่งถ้าสามารถ Roll Back กลับไปเป็นไดรเวอร์เวอร์ชั่นไม่มีปัญหาได้ ก็แนะนำให้กดได้เลย จากนั้นเครื่องจะใช้เวลาจัดการไดรเวอร์สักครู่ จากนั้นให้ทดลองเปิดเพลงดูอีกครั้งว่าฟังเพลงได้ตามปกติไหม

7. ใช้ Audio Troubleshooter แก้ปัญหาดู

sound troubleshooter

ถ้าทำตามขั้นตอนข้างบนทั้งหมดแล้ว ลำโพงของโน๊ตบุ๊คก็ยังไม่ทำงานอยู่เหมือนเดิมแล้วหาปัญหาไม่เจอว่ามาจากไหนแน่ ให้ลองใช้ฟังก์ชั่น Troubleshoot ให้ Windows 10 ไล่เช็คปัญหาทั้งเครื่องว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ไหนกันแน่

วิธีการใช้ Troubleshoot สำหรับจัดการเรื่องเสียง ให้กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Sound ขึ้นมา จากนั้นคลิกคำว่า Troubleshoot ที่อยู่ด้านล่างแถบเสียง Master volume อีกที แล้ว Windows 10 จะเปิดฟังก์ชั่น Troubleshoot ขึ้นมา

troubleshoot 2

จากนั้น Windows 10 จะทำการไล่เช็คปัญหาทั้งหมดที่ทำให้เสียงลำโพงไม่ดังแล้วปรับแต่งการตั้งค่าตัวเครื่องให้ใหม่ โดยตัว Troubleshoot จะไล่เช็คและทดลองทำเสียงปี๊บเพื่อทดสอบว่าเสียงออกหรือเปล่า ส่วนเรามีหน้าที่ดูตามขั้นตอนแล้วกดตอบตามที่ Windows แจ้งมาบนหน้าจอเท่านั้นจนเสร็จ แล้วจะมีรายละเอียดปัญหาให้เราดูด้วยว่าต้นเหตุของปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นี้มาจากอะไรบ้าง

8. เปลี่ยน Audio Format แก้เรื่องเสียงดู

format 2

เรื่อง Format เสียงของ Windows ก็มีผลทำให้เสียงลำโพงไม่ดังเช่นกัน ไม่ว่าเสียงจะออกลำโพงหรือหูฟังก็มีโอกาสเจอปัญหานี้ได้ทั้งคู่ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหานี้ก็ต้องเข้าไปตั้งค่าเรื่องเสียงใน Properties ของ Windows เหมือนในหัวข้อ Audio enhancement ที่เพิ่งทำไปในข้อก่อนหน้านี้ แต่จะต้องมาปรับ Format เสียงแทน

เริ่มต้นให้เราเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการแก้ Audio Format เช่น หูฟังที่เราต่อกับโน๊ตบุ๊คอยู่แล้วคลิกขวาเลือก Properties กดแท็บ Advanced จะเห็นหมวดที่ชื่อว่า Default Format ที่เป็นกรอบให้กดเลือกรูปแบบฟอร์แมตเสียงว่าต้องการให้เป็นเสียงแบบไหน เมื่อเปลี่ยน Format แล้ว ให้คลิกคำว่า Test ที่อยู่ด้านข้างเพื่อทดสอบว่าเสียงลำโพงโน๊ตบุ๊คดังหรือยัง ถ้าไม่ดังก็ให้ลองปรับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะใช้ได้ ค่อยกด Apply ด้านล่าง จากนั้นกด OK เพื่อเลือกการตั้งค่านี้

9. แก้ไม่หายก็เอาเข้าศูนย์ บางทีลำโพงอาจจะพัง

MSI Modern 14 IMG 4663

สุดท้ายถ้าทดลองทำตามวิธีการที่แนะนำมาทั้งหมดแล้วลำโพงโน๊ตบุ๊คก็ยังไม่ดังเหมือนเดิม ก็สันนิษฐานได้เลยว่าตัวดอกลำโพงหรือสายไฟสักเส้นอาจเสียด้วยเหตุสุดวิสัย ก็ควรส่งเข้าศูนย์ให้ช่างจัดการซ่อมเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ดีกว่า แต่ก่อนจะเอาเข้าศูนย์ก็ควรแบ็คอัพข้อมูลงานสำคัญและล็อคเอ้าท์จาก Social network ทั้งหมดให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้คนมาละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของเรา

จากวิธีการแก้ปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ทั้ง 9 วิธีที่แนะนำไปนั้น อาจจะมีสักวิธีหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาเครื่องของเราได้ แต่จากวิธีการทั้งหมดที่นำเสนอมานั้น ผู้เขียนแนะนำให้ไล่เช็คอาการทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นถ้าปัญหาลำโพงไม่ดังเกิดจากชิ้นส่วนตัวเครื่องที่ต้องยกเข้าศูนย์จริง ๆ ก็จัดการแบ็คอัพข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยส่งเครื่องเข้าศูนย์จะดีที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง

checklaptop cover

pc freeze cover

from:https://notebookspec.com/web/602085-9-ways-solve-windows-10-silent-speaker

ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถ Shutdown หรือ ปิดเครื่องได้

ใครที่กำลังมี ปัญหา Windows 10 ไม่สามารถ Shutdown หรือปิดเครื่องได้ แต่ค้างอยู่ในโหมด Standby จะดึงปลั้กออกก็กังวลว่าเครื่องคอมของเราจะมีปัญหา ในวันนี้ทางทีมงาน จะมาสอนวิธีแก้ไขปัญหา Windows 10 เมื่อไม่สามารถปิดเครื่องได้โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากแน่นอนและยังง่ายมากๆ อีกด้วย

ปัญหา Windows 10

วิธีแก้ ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถ Shutdown หรือ ปิดเครื่องได้

โดยสาเหตุดังกล่าวมักจะมาจากการตั้งค่าของ Power Options ทำให้ไม่สามารถปิดเครื่องได้ โดยเพื่อนๆ สามารถแก้ไข ปัญหา Windows 10 ปิดเครื่องไม่ได้ โดยการทำตามขั้นตอนด้านล่างได้โดยมี 2 วิธี

วิธีแรก

ก่อนอื่นให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Control Panel ก่อน

01 11

จากนั้นให้เลือกไปที่ Hardware and Sound

02 12

เข้าไปที่ Power Options จากนั้นเลือกไปที่ Change what the power buttons do

03 10

 

จากนั้นเลือก Change settings that are currently unavailable

04 6

แล้วติ๊กที่ Turn on fast startup (recommended) ออก จากนั้นให้ลองปิดเครื่องดู

วิธีสอง (กรณีหากวิธีด้านบนแก้ไม่ได้)

คลิ้กขวา บนหน้า Desktop New > Shortcut

99 1

จากปรากฏหน้าต่างให้พิมพ์ข้อความดังนี้ shutdown -F -T ## -C “เครื่องกำลังจะปิดตัวลงอัตโนมัติ”

100

กดปุ่ม Next แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์ต้องการ เช่น Shutdown.exe เป็นต้น

101

เมื่อตั้งชื่อไฟล์เสร็จ กดปุ่ม Finish จากนั้นลองรันไฟล์ดู ว่าเครื่องปิดได้หรือยัง

102

โดยวิธีที่สองจะเป็นการสร้างทางลัดปุ่ม Shutdown เครื่องขึ้นมาเลยนั่นเอง เพราะบางครั้งปุ่ม Shutdown ใน Windows นั้นอาจจะเสียหายหรือปุ่มปิดเครื่องเกิด ปัญหาใน Windows 10 ทำให้ไม่ทำงาน วิธีนี้จะเป็นการบังคับปิดเครื่องนั่นเอง

from:https://notebookspec.com/web/470684-issue-win10-not-shutdown

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้ แก้ปัญหา Windows 10 ไม่สามารถ Shutdown หรือ ปิดเครื่องได้

ใครที่กำลังมี ปัญหา Windows 10 ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้ ไม่สามารถ Shutdown หรือปิดเครื่องได้ แต่ค้างอยู่ในโหมด Standby จะดึงปลั้กออกก็กังวลว่าเครื่องคอมของเราจะมีปัญหา ในวันนี้ทางทีมงาน จะมาสอนวิธีแก้ไขปัญหา Windows 10 เมื่อไม่สามารถปิดเครื่องได้โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากแน่นอนและยังง่ายมากๆ อีกด้วย

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

วิธีแก้ ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถ Shutdown ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

โดยสาเหตุดังกล่าวมักจะมาจากการตั้งค่าของ Power Options ทำให้ไม่สามารถปิดเครื่องได้ โดยเพื่อนๆ สามารถแก้ไข ปัญหา Windows 10 ปิดเครื่องไม่ได้ โดยการทำตามขั้นตอนด้านล่างได้โดยมี 2 วิธี

วิธีแรก

ก่อนอื่นให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Control Panel ก่อน

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

จากนั้นให้เลือกไปที่ Hardware and Sound

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

เข้าไปที่ Power Options จากนั้นเลือกไปที่ Change what the power buttons do

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

จากนั้นเลือก Change settings that are currently unavailable

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

แล้วติ๊กที่ Turn on fast startup (recommended) ออก จากนั้นให้ลองปิดเครื่องดู

วิธีสอง (กรณีวิธีด้านบนยังแก้ปัญหาไม่ได้)

ให้คลิ๊กขวา บนหน้า Desktop New > Shortcut

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

จากปรากฏหน้าต่างให้พิมพ์ข้อความดังนี้ shutdown -F -T ## -C “เครื่องกำลังจะปิดตัวลงอัตโนมัติ”

100

กดปุ่ม Next แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์ต้องการ เช่น Shutdown.exe เป็นต้น

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

เมื่อตั้งชื่อไฟล์เสร็จ กดปุ่ม Finish จากนั้นลองรันไฟล์ดู ว่าเครื่องปิดได้หรือยัง

ปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้

โดยวิธีที่สองจะเป็นการสร้างทางลัดปุ่ม Shutdown เครื่องขึ้นมาเลยนั่นเอง เพราะบางครั้งปุ่ม Shutdown ใน Windows นั้นอาจจะเสียหายหรือปุ่มปิดเครื่องเกิด ปัญหาใน Windows 10 ทำให้ไม่ทำงาน วิธีนี้จะเป็นการบังคับปิดเครื่องนั่นเอง

from:https://notebookspec.com/web/470684-issue-windows-10-not-shutdown

ปัญหา Windows 10 – คอมดับเอง ติดเอง เกิดจากอะไร

เพื่อนๆใครเคยคอมดับเองกันบ่อยๆ บ้างใช้งานอยู่ๆ ก็ดับ คงจะอารมณ์เสียไม่น้อย  หรืออาจจะเกิดจาก ปัญหา Windows 10 ไฟล์เสียหาย แถมบางครั้งเปิดไม่ติดอีกตั้งหาก แต่เชื่อเถอะ ปัญหาพวกนี้ถือว่าเล็กๆ ไปเลย ถ้าอยู่ๆ เพื่อนๆกำลังนอนอยู่ในห้องและปิดคอมเรียบร้อย แต่กลางดึกเครื่องเปิดขึ้นมาเองซะงั้น! มาดูวิธีแก้ปัญหาพร้อมกับสาเหตุหลักๆ ของเครื่องดับเองและเปิดเองกันดีกว่า

ปัญหา Windows 10

ปัญหา Windows 10 – คอมดับเอง ติดเอง เกิดจากอะไร แก้ยังไง

สาเหตุหลักๆ อาการ คอมดับเอง

ความร้อน

เกิดจากการที่เครื่องมีความร้อนสะสมสูงในเครื่องจน CPU ในเครื่องนั้นร้อนจนตัว CPU ทำการตัดวงจรไฟออกเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป ปกติแล้ว CPU จะตัดทีความร้อน 90 องศาขึ้นไป

ระบบ Windows มีปัญหา

ปัญหา Windows 10 ไฟล์เสียหายมักจะส่งผลให้เมื่อเราทำการเปิดโปรแกรมใดๆ ที่ต้องการใช้ระบบบางส่วนของ Windows ที่เสียหาย เกิดจอฟ้าขึ้นมาหรืออาจจะดับไปเลย วิธีแก้ไขคือทำการซ่อมแซม Windows ใหม่ซะ

กระแสไฟฟ้าจ่ายไม่พอ

เกิดจากการเลือกใช้ พาวเวอร์ซัพพลาย ไม่เหมาะสมกับ เสปคของ PC ทำให้เมื่อมีการใช้งานหนักส่งผลให้ดึงไฟจาก พาวเวอร์ซัพพลาย

สำหรับโน้ตบุ๊ตนั้นจะเกิดจากแบตเตอรี่ภายในเสื่อมเมื่อมีการขยับสายชาตทำให้ไฟหลุดเครื่องจึงดับทันที

ไวรัสบุก

ปัญหานี้ส่วนมากจะเป็นไวรัสประเภทแอบ Shutdown เครื่องโดยที่เราไม่รู้ตัวซะมากกว่า วิธีแก้คือ ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสตัวดีๆ ที่มีการอัพเดทสม่ำเสมอ

——————————————————————————–

สำหรับอาการ คอมติดเอง

ไม่ได้มีผีหรือวิญญาณใดๆ มาเข้าสิงคอมเพื่อนๆ ทำให้คอมเปิดเอง ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการสปาร์คของปลั๊กไฟกับพาวเวอร์ซัพพลาย หากปลั๊กไฟไม่มีมาตรฐานมากพอหรือเสื่อม อาจจะเกิดการสปาร์คไฟทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆนั้นเปิดขึ้นมาเองได้ หรืออาจจะมีการตั้งค่าใน BIOS ถ้าไฟเข้าเครื่องเมื่อไหร่ ให้คอมเปิดเองอัตโนมัติ และแน่นอน พาวเวอร์ซัพพลายเสื่อมก็มีส่วนด้วยเหมือนกันนะ

from:https://notebookspec.com/computer-poweroff-poweron/472507/

ปัญหา Windows 10 ค้าง บ่อยๆ ไม่สามารถขยับเมาส์ได้ แก้ยังไงดี!

ต้องยอมรับว่า ปัญหา Windows 10 เครื่องค้าง นั่นมีถามกันเข้ามาตลอด และยังมีใน Windows เกือบทุกเวอร์ชั่นอีกด้วย แม้กระทั่ง Build ล่าสุด อย่าง 1809 ก็ยังคงมีปัญหาตามมา

ปัญหา Windows 10

ปัญหา Windows 10 ค้าง บ่อยๆ ไม่สามารถขยับเมาส์ได้ แก้ยังไงดี!

สาเหตุหลักๆของ ปัญหา Windows 10 ค้างในแต่ละแบบ

ค้างเมื่อใช้งานปกติ 

อาจจะเกิดจากการที่ไม่ได้อัพเดท Windows ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก็อาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ เกิดปัญหาค้างเมื่อใช้งานโปรแกรมที่ต้องการระบบบางอย่างที่มีแต่ใน Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ทำให้อาจเกิดอาการเครื่องค้าง

ค้างขณะเล่นเกม

หากเล่นเกมแล้วเครื่องมีอาการค้าง มีได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะ ไฟล์เกมมีปัญหา หรือ ใช้งานแรมเยอะมากเกินไป ส่งผลทำให้เกมค้างได้ แก้ไขด้วยการลองลบเกมแล้วลงใหม่หรืออาจลองทดสอบกับเกมอื่นว่าเป็นเหมือนกันหรือไม่

ค้างเมื่อดู Youtube

ส่วนใหญ่แล้ว Youtube ก็กรณีที่ค้างมักจะเกิดจาก VGA มีปัญหา เพราะการดู คลิป ส่วนใหญ่มักจะใช้การ์ดจอประมวลผลก่อน เมื่อการ์ดจอมีปัญหาก็ส่งผลให้เครื่องค้างนั่นเอง หรือ ก่อนค้างอาจส่งสัญญาณออกมาก่อนเช่น จอช็อต สีแตก

ค้างเมื่อเปิดเครื่อง (ช่วงหน้าจอโหลดเข้า Windows)

ปัญหานี้เกิดจาก Windows ไม่สามารถโหลดไฟล์ระบบได้ พูดง่ายๆก็คือ ระบบ OS มีปัญหานั่นเอง อาจจะไฟล์ระบบพังหรือโดนลบไป ส่งผลให้ OS ไม่สามารถโหลดไฟล์ระบบมาใช้งานได้จนค้างอยู่ที่หน้าจอโหลดนั่นเอง วิธีแก้คือ Repair Windows ใหม่ หรือ อาจจะลง Windows ใหม่

ค้างเมื่อเปิดโปรแกรมหรือเปิดหลายๆ Tab พร้อมๆกัน

ปัญหานี้เกิดจากอาการแรมไม่พอ ส่วนมากแล้วจะค้าง เฉพาะโปรแกรมที่มีการเรียกใช้แรมหนักๆ ให้เข้าไป End Task ก็จะกลับมาใช้งานได้ปกติ ถ้าไม่ค้างหนักจนถึงเข้า Task Manager ไม่ได้

 

หากเพื่อนๆ มีอาการค้างแบบไหนที่นอกเหนือด้านบนที่ทีมงานหามาให้ สามารถคอมเม้นไว้ที่ด้านล่างได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/fix-windows-10-hange/472091/

รวมปัญหา Windows 10 1809 เพื่อระวังไว้และเตรียมรออัพเดทแก้ไข

หลายคนอาจจะใช้ Windows 10 1809 กันแล้ว พบ ปัญหา Windows 10 หรือบางคนอาจจะยังไม่ได้ใช้กัน แต่จะมีใครรู้บ้างว่า Windows 10 1809 นั้นทำไมทาง Microsoft ถึงไม่ปล่อยให้อัพเดท Auto สักที (นอกจากเราจะอัพเดทเองด้วยวิธีใช้ Tool) สาเหตุหลักๆ คือ บัค และ ปัญหาใน Windows 10 1809 ที่มีเยอะแยะซะเหลือเกิน วันนี้ทางทีมงานได้รวบรวมปัญหาทั้งหมดที่มีใน Windows 10 1809 มาให้พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นครับ บางอัน Microsoft อาจจะแก้ไปแล้ว แต่ส่วนมากยังไม่แก้ครับ

ปัญหา Windows 10

รวม ปัญหา Windows 10 1809

1.ปัญหา Zip ไฟล์ของตัว Windows เมื่อคัดลอกไฟล์ที่เปิดใน Explore แล้วย้ายไปวางที่อื่นที่มีชื่อเดียวกัน เนื้อหาภายในจะไม่ถูกคัดลอกเข้าไปด้วย!! (แก้ด้วยการใช้ winrar / winzip แทน)

2.ปัญหา Disk Cleanup โดยจะมีตัวเลือก Download เพิ่มเข้ามา แถมดันติ้กถูกอยู่อีก หากใครไม่ดูให้ดีๆ อาจจะเผลอไปลบไฟล์ที่เราดาวน์โหลดไว้จนหมดเกลิ้ยงได้ (รอ Microsoft แก้ไข)

3.Maped Network ที่เชื่อมต่อไว้ในเครือข่าย อาจใช้งานไม่ได้ เมื่อรีสตาร์ทเครื่อง (เป็นบางเครื่อง)

4.ปัญหา FLAC ย่อมาจาก Free Lossless Audio Codec หรือก็คือไฟล์เสียงชนิดหนึ่งนั่นเอง ดังนั้นเมื่อฟังเพลงชนิด FLAC ใน Groove Music หรือ Windows Media Player เพลงจะถูกข้ามไป (รอ Microsoft แก้ไข)

5.ปัญหา Task Manager ทำงานผิดปกติ โดยไม่ได้รายงานเปอร์เซ็นต์การใช้งานซีพียูอย่างถูกต้อง (รอ Microsoft แก้ไข)

 

เรียกว่าเยอะใช่เล่นเลย สำหรับ ปัญหา Windows 10 1809 นี้และยังมีปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงอีกสำหรับ Windows 10 1809 แถมดูเหมือนว่ายิ่ง Microsoft ยิ่งออกแพทอัพเดท กลายเป็นสร้างบัคและปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ทาง Microsoft คาดว่า แพท 2019 นี้น่าจะ แก้ปัญหา Windows 10 1809 ทั้งหมดลงได้ เพื่อจะต่อยอดไปให้กับ Windows 10 1903 ที่จะมาในเดือนเมษายนนี้

 

from:https://notebookspec.com/bug-windows-10-1809/472028/

ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถเปิดโปรแกรมได้ This app can’t run on your PC

บางคนอาจจะเคยเจอกับ ปัญหา Windows 10 อาการที่โหลดโปรแกรมมาแล้วไม่สามารถเปิดได้ ขึ้นเตือนว่า “This app can’t run on your PC” สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ใช้งานน่าดู ยิ่งถ้าโปรแกรมนั้นๆ ไม่มีโปรแกรมที่มาทดแทนได้ หรือ ไม่มีเวอร์ชั่นอื่น

แก้ ปัญหา Windows 10 ไม่สามารถเปิดโปรแกรมได้ ขึ้นเตือน This app can’t run on your PC

ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหา Windows 10 ไม่สามารถเปิดโปรแกรมได้ นั่นมักจะพบกับโปรแกรมบางประเภทที่เก่ามากๆ หรือออกแบบมาให้รันบน OS เก่าๆ ไม่ซัพพอรต์กับ Windows 10 หรือบางครั้งสิทธิ Admin อาจจะไปปิดโปรแกรมไว้ทำให้ไม่สามารถรันโปรแกรมได้ วิธีนี้จะบังคับสิทธิ Admin ให้เปิดโปรแกรม แต่ถ้าหากโปรแกรมนั้นไม่สามารถรันบน Windows 10 ได้จริงๆ เพื่อนๆ อาจจะต้องใช้ VM ในการจำลอง OS เพื่อเปิดโปรแกรมเลยทีเดียวถ้าโปรแกรมนั่นจำเป็นมากจริงๆนะ

มาดูวิธีแก้ไขเบี้องต้นกัน ก่อนอื่นให้เราเข้าไปที่ Control Panel จะนั้นให้เข้าไปที่ User Account

จากนั้นเข้าไปที่ Change User Account Control Setting

และทำการเลื่อนมาที่ Never Notify ตามภาพ

ไปที่ Search พิมพ์ local security policy แล้วกด Enter

ไปที่ Local Policies > Security Options และหา User Account Control: Admin… ตามภาพด้านล่าง และ ดับเบิ้ลคลิ๊กขึ้นมา

จะปรากฏหน้าต่าง ให้ติ้กที่ Enabled และกด OK

จากนั้นไปที่ User Account Control: Run all administrator in Admin Approval mode ตามภาพด้านล่าง และ ดับเบิ้ลคลิ๊กขึ้นมา เลือก Enabled และกด OK

และเปิด  user account control: allow uiaccess applications to prompt for elevation

เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เพื่อนๆ ลองนำไปแก้ไขดูนะครับ วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลกันทุกคนนะครับ

from:https://notebookspec.com/pc-fix-this-app-cant-run-on-your-pc/471336/

ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถ Shutdown หรือ ปิดเครื่องได้

ใครที่กำลังมี ปัญหา Windows 10 ไม่สามารถ Shutdown หรือปิดเครื่องได้ แต่ค้างอยู่ในโหมด Standby จะดึงปลั้กออกก็กังวลว่าเครื่องคอมของเราจะมีปัญหา ในวันนี้ทางทีมงาน จะมาสอนวิธีแก้ไขปัญหา Windows 10 เมื่อไม่สามารถปิดเครื่องได้โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากแน่นอนและยังง่ายมากๆ อีกด้วย

ปัญหา Windows 10

วิธีแก้ ปัญหา Windows 10 – ไม่สามารถ Shutdown หรือ ปิดเครื่องได้

โดยสาเหตุดังกล่าวมักจะมาจากการตั้งค่าของ Power Options ทำให้ไม่สามารถปิดเครื่องได้ โดยเพื่อนๆ สามารถแก้ไข ปัญหา Windows 10 ปิดเครื่องไม่ได้ โดยการทำตามขั้นตอนด้านล่างได้โดยมี 2 วิธี

วิธีแรก

ก่อนอื่นให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Control Panel ก่อน

จากนั้นให้เลือกไปที่ Hardware and Sound

เข้าไปที่ Power Options จากนั้นเลือกไปที่ Change what the power buttons do

 

จากนั้นเลือก Change settings that are currently unavailable

แล้วติ๊กที่ Turn on fast startup (recommended) ออก จากนั้นให้ลองปิดเครื่องดู

วิธีสอง (กรณีหากวิธีด้านบนแก้ไม่ได้)

คลิ้กขวา บนหน้า Desktop New > Shortcut

จากปรากฏหน้าต่างให้พิมพ์ข้อความดังนี้ shutdown -F -T ## -C “เครื่องกำลังจะปิดตัวลงอัตโนมัติ”

กดปุ่ม Next แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์ต้องการ เช่น Shutdown.exe เป็นต้น

เมื่อตั้งชื่อไฟล์เสร็จ กดปุ่ม Finish จากนั้นลองรันไฟล์ดู ว่าเครื่องปิดได้หรือยัง

โดยวิธีที่สองจะเป็นการสร้างทางลัดปุ่ม Shutdown เครื่องขึ้นมาเลยนั่นเอง เพราะบางครั้งปุ่ม Shutdown ใน Windows นั้นอาจจะเสียหายหรือปุ่มปิดเครื่องเกิด ปัญหาใน Windows 10 ทำให้ไม่ทำงาน วิธีนี้จะเป็นการบังคับปิดเครื่องนั่นเอง

from:https://notebookspec.com/issue-win10-not-shutdown/470684/