รีวิว Fender TOUR TWS เสียงดีเกินตัว ในราคา 3,990 บาท

แบรนด์ Fender ถือเป็นพี่ใหญ่ในตลาดเครื่องเสียงเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นตั้งแต่ผู้ผลิตลำโพง อุปกรณ์เครื่องเสียงในระดับคอนเสิร์ต ไปถึงกระทั่งกีตาร์ ไปจนถึงหูฟัง in-ear monitor ที่ได้ต่อยอดมาเป็น TWS ตัวแรกของแบรด์ในนาม Fender TOUR

Fender TOUR

Advertisementavw

Fender TOUR เป็น True Wireless ของแบรนด์ผู้ทำเครื่องเครื่องในระดับคอนเสิร์ตอย่าง Fender ที่ได้พัฒนา TOUR มาจากหูฟังแบบ in-ear monitor ด้วยดีไซน์ที่แบบจะเหมือนกันไม่ผิดเพียนเพียงแค่ตัดสายออก พร้อมดีไซน์สวยงามหรูหรา และยังพกฟีเจอร์มาแน่น ไม่ว่าจะเป็น Dynamic Fixed Brake Ring ขนาด 7 มม. ที่ถือว่าขนาดใหญ่มาห เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์ต 1 ครั้ง และยังชาร์ตกับเคสได้อีก 22 ชั่วโมง พร้อม Fast Charge 10 นาที ใช้ได้ 1 ชั่วโมง กันน้ำกันเหงือได้ระดับ IPX4 มีให้เลือก 2 สี คือดำและแดง ฟังค์ชั่นต่างๆมาครบ แต่จะสวย ใช้ดีขนาดไหนไปชมกันต่อเลย

Fender TOUR

  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ชิปฯ Qualcomm
  • รองรับ SBC, AAC และ aptX™ เชื่อมต่อสเถยีรทั้ง iOS และ Android
  • ดีไซน์แบบ In-ear monitor สวมใส่กระชับดีมาก
  • หูฟังมี Passive Noise Isolation กันเสียงรอบข้างได้ดี ใส่เงียบมาก
  • ไมโครโฟน 4 ตัว แบ่งเป็น 2 ตัวต่อข้าง คุยโทรศัพท์ดี
  • ไดร์เวอร์ Dynamic Fixed Brake Ring ขนาด 7 มม. ให้รายละเอียดเสียงได้ยอดเยี่ยม โดดเด่น ตอบโจทย์สายฟังเพลง
  • กันละอองนํ้าระดับ IPX4 ใส่ฟังเพลงกันเหงื่อในชีวิตประจำวันได้
  • ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมงต่อชาร์จ 1 รอบ (ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความดัง)
  • กล่องชาร์จชาร์จหูฟังได้สูงสุด 3 รอบ รวมสูงสุด 22 ชั่วโมง
  • หูฟังมี (Fast-Charge) ชาร์จแบตจากกล่องชาร์จเพียง 10 นาที เล่นได้สูงสุด 1 ชั่วโมง

  Fender Tour 03

กล่องของ Fender TOUR โชว์ตัวหูฟัง และตัวเคส พร้อมระบุสเปคต่างๆชัดเจน กล่องดูเป็นเอกลักษ์ในแบบ Fender

Fender Tour 05

อุปกร์ภายในกล่องได้แก่

  • Fender Tour
  • เคสสำหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่
  • ชุดจุกหูฟัง
  • สายคล้อง
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

Fender Tour 06

Fender Tour 28 Fender Tour 11

กล่องของ Fender TOUR เป็นพลาสติกสีดำ ดิบๆ ไม่มีการขึ้นลวดลายอะไร มีเพียงชื่อแบรนด์ Fender โชว์อยู่ พร้อมที่คล้างสาย ดูดิบๆ ไม่หรูหราสวยงามแต่อย่างใด แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับสไตล์พวกกล่องกีตาร์ โดยหน้าหน้าของกล่องจะมีไฟแสดงสถานะอยู่ด้วย

Fender Tour 07

พอร์ตชาร์ตเป็นแบบ USB-C

Fender Tour 09

ฝากล่องจะสกรีนข้อความสเปคต่างๆ

DSC08254

ตัวหูฟังยืดด้วยแม่เหล็กพร้อมขาชาร์ตแบบ 2 ขั้ว พร้อมปุ่มแพร์ อยู่ที่กล่องเลย

Fender Tour 15

Fender Tour 16 Fender Tour 21

Fender Tour 17 Fender Tour 18

Fender Tour มาแบบ in ear โดยจะใช้ดีไซน์แบบหูฟัง custom in-ear monitor ทำให้ดูโดดเด่นสวยงามเป็นอย่างมากครับ ตัวบอดี้ผลิตโดยใช้เทคนิคการพิมพ์สามมิติ พร้อมโลโก้ Fender ที่ตัวหูฟังทั้งสองข้าง โดยหูฟังนั้นจะไม่มีปุ่มกดใดๆเพราะใช้การควบคุมด้วยระบบสัมผัสนั่นเอง

วัสดุหลักจะเป็นผิวเงา หรูหราสวยงาม เป็นเอกลักษ์ เข้ากับรูหูได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะต้องเป็นคนที่ชอบหูฟังแบบอินเอียร พราะตัวหูฟังสอดเข้าไปในรูหูพอสมควร โดยขอบด้านบนจะมีไฟแสดงสถานะ ไมค์ช่วยรับเสียง และไมค์อีกตัวอยู่ด้านล่าง

Fender Tour 24

Fender Tour 26 Fender Tour 27

ขนาดของตัวหูฟังจะดูเหมือนว่าใหญ่ เนื่องจากก้านที่สอดเข้าไปในรูหูค่อนข้างยาว แต่เอาจริงๆก็ไม่ใหญ่ หรือหนักมากนัก ใส่ต่อเนื่องได้สบายๆ

Screenshot 20211030 204334

เริ่มการใช้งานแอพจะเป็นแนะนำการใช้งานหูฟังว่าแต่ละฟังค์ชั่น ใช้งานอย่างไรได้บ้าง

Screenshot 20211030 204354

หน้าเมนูหลัก GAIN จะเป็นหน้าตาคล้ายๆหน้าจอของตู้แอมป์ ที่เมื่อเปิดเสียงของหูฟังจะดังขึ้นได้อีก

Screenshot 20211030 204408

เมนูต่อมาจะเป็น EQ ที่สามารถปรับแต่งได้เยอะหลายสไตล์มากๆ หรือจะปรับแต่งเองก็ยังได้

Screenshot 20211030 204418

UPDATE เช็คอัพเดทเฟิอร์มแวร์

Screenshot 20211030 204456

ฟังค์ชั่นเด็ดที่ทีมงานชอบ คือเราสามารถตั้งค่าปุ่มสัมผัสให้เป็นโหมดการสั่งงานแบบไหนได้ เช่นอยากให้เตะครั้งเดียวเปลี่ยนจากเพิ่มลดเสียง เป็นเล่นหยุดเพลงก้ได้

Screenshot 20211030 204504

เมนูสุดท้ายจะเป็นรายละเอียดของตัวหูฟังเช่นเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น หรือระดับแบตเตอรี่

DSC08229

DSC08249 DSC08250

DSC08251 DSC08252 

การสวมใส่

การสวมใส่ก็ไม่ยุ่งยาก แค่ใส่ไปตรงๆแต่อาจจะต้องบิดหมุนเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรูหู ข้อสังเกตเลยคือ ต้องเป็นคนที่ชินกับหูฟัง in-ear พอสมควร เพราะตัวหูฟังจะสอดเข้าไปในรูหูลึกอยู่ ทำให้ถ้าไม่ชินอาจจะระคายเคือง หรือคันรูหูได้ แต่ถ้าชินแล้วจะใส่ได้สบายน้ำหนักเบาไม่ลื่นหลุดง่าย และยังช่วยเก็บเสียงได้ดี แม้ไม่มีฟังค์ชั่นตัดเสียงรบกวน

ฟังค์ชั่น

Fender TOUR จะสั่งงานโดยการแตะสัมผัสบริเวณโลโก้ โดยการแตะครั้งเดียวจะเป็นการเพิ่ม / ลดเสียง ส่วนการแต่ 2 ครั้งจะเป็นการเล่นเพลงถัดไป หรือก่อนหน้า ทำให้เห็นว่าหูฟังให้ความสำคัญกับการปรับระดับเสียงมากกว่า ซึ่งส่วนตัวทีมงานชอบ เพราะชอบปรับเสียงบ่อยมากกว่าการเปลี่ยนเพลง จะต่างจาก TWS รุ่นอื่นที่ส่วนใหญ่การเพิ่มลดเสียงจะเป็นฟังค์ชั่นรอง หรือไม่สามารถปรับแต่งได้เลย หรือถ้าไม่ชอบก็ยังสามารถเปลี่ยนการสั่งงานในซอฟแวร์ได้

DSC08232

คุณภาพเสียง

ครั้งแรกที่ได้ฟังบอกเลยว่าเป็น TWS ที่เสียงดังที่สุดในตลาดที่ทีมงานเคยได้ฟังมา เพราะเพียงแค่เปิดเสียงระดับกลาง เสียงหูฟังก็ดังเทียบเท่ากับหูฟังอื่นๆที่ปรับเสียงไปเกือบสุด

โดยโทนเสียงออกไปทาง flat เน้นรายละเอียดเสียงและความเที่ยงตรงของเสียงดนตรีสูง ไม่ได้มีเบสหนักๆ แต่จะเน้นที่โทนเสียงกลางที่ได้ยินอย่างชัดเจน รายละเอียดของเครื่องดนตรีต่างๆ ทำให้การฟังเพลงสามารถสัมผัสถึงความหนักเบาของเครื่องดนตรีได้ชัดเจน ช่วยให้การฟังเพลงดูมีมิติขึ้น และฟังดูมีความเป็นดนตรีสูง เสียงร้องอาจจะไม่เด่นมาก แต่ก็ได้ยินครบถ้วนอยู่

คุณภาพไมค์

อย่างที่เริ่นไปว่า Fender TOUR มีไมค์อยู่ข้างละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว เท่าที่ลองใช้งานถ้าใช้งานในห้อง หรือพื้นที่ซึ่งไม่ค่อยมีเสียงรบกวนสามารถคุยได้สบายๆ ไม่ต้องใช้เสียงดังมาก แต่ถ้าเดินริมถนนหรือที่เสียงดังละก็ อาจจะแค่พอคุยได้ เพราะปลายสายจะได้ยินเสียงรอบข้างเข้ามาด้วย

แบตเตอรี่

ทีมงานลองใช้งานต่อเนื่องราว 2 ชั่วโมง ฟังเพลงด้วยระดับเสียง 50% แบตเตอรี่ยังไม่มีการเตือนใดๆ เหลือแบตอีกราว 50% ถ้าใช้ไป และพักชาร์ตเป็นช่วงๆใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ

ในส่วนของการดีเลเมื่อดูหนัง หรือเล่นเกม จัดว่าดีเลน้อย ต้องตั้งใจจับผิดถึงจะรู้สึก ถ้าใช้งานผ่านๆ แทบไม่รู้สึกถึงการดีเลเลย

DSC08248

Fender TOUR ไม่ได้เหมาะแค่นักดนตรีที่ต้องการหูฟัง TWS ดัง แต่ยังเหมาะกับหลายท่านที่ต้องการหูฟังซึ่งสามารถฟังเพลงได้หลากหลายแนว โดยเฉพาะแนว flat ที่เน้นรายละเอียดเสียงที่ครบทุกย่าน โดยเฉพาะเสียงกลางที่เก็บรายละเอียดได้ดี

นอกจากเรื่องของเสียงแล้ว Fender TOUR ยังมาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์นักดนตรี ที่ไม่เหมือนใคร กับราคาที่ 3,990 บาท ซึ่งผมว่าคุ้มค่าดีทีเดียวเมื่อเทียบโทนเสียงที่ได้ และดีไซน์ที่แตกต่างแบบนี้

อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลอง หรือซื้อได้ที่ Studio7, Banana, Bb Beyond D-Box, B-Play, bnn.in.th

จุดเด่น

  • ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม
  • เสียงดีฟังสนุก
  • เสียงดังมาก เหมือนหูฟังมีสาย
  • สามารถเพิ่มลดเสียงได้ที่ตัวหูฟังเลย

ข้อสังเกต

  • กล่องเคสดูเรียบๆ ดิบๆ ไปหน่อย
  • ก้านสอดเข้าไปในรูหูเยอะ ถ้าไม่ชอบ in-ear อาจจะไม่ชอบ

from:https://notebookspec.com/web/619841-review-fender-tour