รีวิว Cloud HM: บริการ Cloud VPS ไทยสำหรับ Developer และธุรกิจ แรงด้วย NVMe All Flash Storage

ปี 2018 นี้นับเป็นปีที่ตลาดผู้ให้บริการ Cloud ไทยตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก มีบริการใหม่ๆ ออกมานำเสนอกันอย่างหลากหลายทีเดียว ซึ่งหนึ่งในบริการ Cloud ไทยที่ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้เข้าไปทดสอบในครั้งนี้ก็คือ DevOps Cloud by Cloud HM ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านความเร็วและความแรงด้วยการใช้ NVMe All Flash SSD ให้บริการทั้ง VM และ Container แถมยังทำ Auto-Scale ได้ในตัวด้วย ซึ่งคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นผู้ให้บริการเจ้าเดียวในไทยที่มี Feature นี้

 

DevOps Cloud by Cloud HM: บริการ Cloud ไทย ความสามารถหลากหลายในราคาคุ้มค่า

 

Credit: CloudHM

 

ก่อนจะรู้จักกับ DevOps Cloud by Cloud HM นั้น ต้องเกริ่นก่อนว่าอันที่จริงแล้ว Cloud HM เป็นผู้ให้บริการ Cloud ในไทยที่เปิดให้บริการมาได้หลายปีแล้ว โดยมี UIH เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่ง Cloud HM นี้ก็มีบริการ Cloud ที่หลากหลาย เปลี่ยนเทคโนโลยีเบื้องหลังให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของภาค Developer และธุรกิจมาโดยตลอด

บริการ DevOps Cloud by Cloud HM นี้เป็นบริการ Cloud แบบ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) รุ่นล่าสุดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เหล่า Developer และธุรกิจองค์กรในปัจจุบันที่จะต้องรองรับทั้ง Traditional Application ซึ่งยังคงใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบระบบ Backend แบบเดิมๆ ควบคู่ไปกับ Cloud Native Application ที่ต้องการใช้งาน Container เพื่อลดปริมาณทรัพยากรของระบบ และง่ายต่อการเพิ่มขยายระบบหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ รวมถึงจัดการระบบได้ด้วย Script เป็นหลัก ทำให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานน้อยลง ดังนั้น DevOps Cloud by Cloud HM จึงรองรับทั้งความสามารถในการให้บริการ Virtual Machine (VM), Container, Load Balancer และ Auto-Scale ได้ในตัวเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ให้ได้อย่างครอบคลุม ทำให้ Developer และธุรกิจองค์กรไม่ต้องเช่าใช้ Cloud หลากหลายแห่งเพื่อรองรับสถาปัตยกรรมของ Application ที่แตกต่างกัน ใช้เพียง DevOps Cloud by Cloud HM ก็สามารถรองรับทุกความต้องการได้ทันที

ผู้ที่สนใจบริการ DevOps Cloud by Cloud HM สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cloudhm.co.th/products/devops-cloud/ หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริการ Cloud อื่นๆ ทั้งหมดของ Cloud HM ได้ที่ https://www.cloudhm.co.th ครับ

ทีมงาน Cloud HM ได้ให้ Account มาทดสอบการใช้งาน DevOps Cloud by Cloud HM แก่ทาง TechTalkThai มา ทางทีมงานเราจึงได้ทำการทดสอบการใช้งาน และขอเล่าถึงประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ DevOps Cloud by Cloud HM ดังนี้ครับ

 

เริ่มต้นใช้งาน หน้าจอเข้าใจง่ายมาก

เริ่มต้นตามสไตล์ TechTalkThai ที่ทำการรีวิวบริการ Cloud กันโดยไม่อ่านคู่มือ เพื่อให้ได้รับรู้ถึงประสบการณ์การใช้งานจริงว่าระบบนั้นใช้งานได้ง่ายหรือยากแค่ไหน เราก็จะมาเริ่มต้นจากการสร้าง VM และ Container กันก่อนเลยครับ

 

 

หลังจากที่ทำการ Login หน้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เราก็จะสามารถเข้าสู่หน้า Dashboard สำหรับบริการจัดการ Cloud ของเราได้เองเลย

 

 

ในหน้า Dashboard นั้นจะเห็นเมนูต่างๆ ดังนี้

  • Appliances สำหรับสร้างและบริหารจัดการ VM, Container และ Load Balancer ภายในระบบของเรา
  • Components สำหรับจัดการส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็น ได้แก่ DNS และการจัดการ Template สำหรับใช้สร้าง VM และจัดการ ISO ที่อัปโหลดขึ้นไปได้
  • Stats รวมสถิติการใช้งานบริการ Cloud โดยสามารถดูปริมาณการใช้งาน VM, Container และ Disk IOPS ได้
  • Users สำหรับใช้บริหารจัดการผู้ใช้งานภายในระบบ และจัดการกับ API Key ได้
  • Plans สำหรับจัดการเรื่องการจ่ายค่าบริการเช่าใช้ Cloud
  • Logs สำหรับติดตามกิจกรรมที่เกิดขึ้น เช่น การสร้าง แก้ไข หรือลบ VM/Container ที่เกิดขึ้นในระบบ เป็นต้น

 

มาลองสร้าง VM กันเลย รอ 2 นาทีก็ใช้งานได้แล้ว

สำหรับการสร้าง VM นั้นก็สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่คลิกไปที่ปุ่ม Virtual Servers จากนั้นก็กด Create Virtual Server จากนั้นระบบก็จะให้เราเลือกระบบปฏิบัติการที่ต้องการ, รุ่นที่ต้องการใช้ และ Template ตั้งต้นสำหรับ Virtual Hardware Configuration จากนั้นก็สามารถทำการตั้งชื่อเครื่องได้เลย

 

 

เมื่อตั้งชื่อเครื่องเสร็จแล้ว ระบบก็จะให้เราทำการปรับแต่ง Virtual Hardware Configuration อีกครั้งหนึ่ง โดยเราสามารถเลือก RAM (สูงสุด 100 GB), CPU Core (สูงสุด 30 Core), Primary Disk Size (สูงสุดตามที่ 1 TB), Swap Disk Size (สูงสุด 1 TB) (โดยทีมงาน Cloud HM ได้แจ้งว่าหากต้องการ Resource สูงสุดที่มากกว่านี้สามารถ Request ได้) และกำหนดค่าต่างๆ ทางด้าน Network เช่นการเชื่อมต่อกับ Internet ภายนอก และความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่อ (สูงสุด 1Gbps หรือไม่จำกัดเลยก็ได้) ซึ่งการที่เราสามารถเลือก Configuration ได้ละเอียดขนาดนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีและประหยัดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นเพราะหากเราต้องการเพิ่มแค่ RAM 1 GB เราก็สามารถทำได้ ไม่ต้องขยับ Size VM ไปอีก Size เหมือนผู้ให้บริการรายอื่นๆ ทำให้เราต้องซื้อ Resource อื่นๆที่เราไม่ต้องการเพิ่มด้วย

ค่าใช้จ่ายของบริการต่อชั่วโมงนั้นจะแสดงให้เราเห็นทันทีหลังจากปรับแต่งการตั้งค่าเหล่านี้ โดยจะแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายทั้งในกรณีที่เปิดใช้งานเครื่อง และปิดการใช้งาน (ราคาปิดจะถูกกว่าเนื่องจากคิดแค่ SSD ไม่คิด CPU และ RAM) ทำให้เราสามารถประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ทันที

จากนั้นเมื่อกดยืนยัน ระบบก็จะส่งเราไปยังหน้าแสดงผลการสร้าง VM แบบ Real-time ให้เราเห็นได้เลยว่ากำลังทำถึงขั้นตอนไหนอยู่ รอซัก 2 นาที VM ขนาดเล็กสุดก็พร้อมใช้งานแล้วครับ (ไม่กล้ากดสร้างเครื่องใหญ่สุด เกรงใจครับ)

 

 

เมื่อเครื่องเปิดเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถต่อเข้า Console ได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกที่ปุ่ม Console ครับ และหากต้องการดูสถิติการใช้งานหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใดๆ เช่น การตั้งค่าด้าน Network, Firewall, Backup ก็สามารถทำได้จากหน้าจอนี้เช่นกัน

 

 

ลองสร้าง Container ขึ้นมาใช้งานกันดูบ้าง รอ 1 นาทีก็พอ

สำหรับการสร้าง Container นั้นจะต่างออกไปเล็กน้อย โดยเราจะต้องเข้าไปที่ Container Servers แล้วเลือก Create Container จากนั้นก็ทำการตั้งชื่อเครื่องและเลือกขนาดของ CPU, RAM, Disk ได้ทันที ไม่ต้องมีการเลือกระบบปฏิบัติการเพราะระบบจะทำการใช้ CoreOS ให้เราโดยอัตโนมัติ จากนั้นเราจะพบกับหน้าที่ไม่เคยเจอในการสร้าง VM ก็คือหน้า Cloud-Config ครับ

 

 

หน้านี้จะเปิดให้เราทำการ Copy/Paste หรืออัปโหลดไฟล์ YAML เพื่อกำหนดการทำงานของ Container นี้ได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นไปตามแนวคิดมาตรฐานของระบบ Container นั่นเองครับ

หลังจากกด Confirm การสร้าง Container เสร็จแล้วนั้น เราก็รอประมาณ 1 นาที เพียงเท่านี้ Container ที่สร้างก็จะพร้อมให้ใช้งานได้แล้วครับ ส่วนตัว YAML นั้นก็สามารถแก้ไขได้ตามต้องการ และทำการ Restart เครื่องเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าได้ทันทีครับ

 

 

Container เหล่านี้สามารถถูกบริหารจัดการได้ผ่านทั้ง Kubernetes และ Docker รวมถึงยังมีการเปิด API ให้เชื่อมต่อเข้ามาบริหารจัดการแบบอัตโนมัติจากภายนอกได้ด้วย

 

แรงกว่าด้วย NVMe All Flash Storage แต่ราคาเทียบเท่ากับบริการ Cloud รายอื่นๆ

ทั้งนี้ความเร็วของการสร้างและใช้งาน VM/Container ภายใน DevOps Cloud by Cloud HM นี้ก็เกิดขึ้นจากการที่ทางทีมงาน Cloud HM เลือกใช้ NVMe All Flash Storage เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลักของบริการ Cloud นี้ ทำให้ความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลสูงมาก ดังนั้นการอ่าน ISO, การติดตั้งระบบปฏิบัติการ และการบูทแต่ละ VM หรือ Container นั้นจึงมีความเร็วสูงเป็นอย่างมากนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้จากการกำหนดค่าด้าน Storage ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนการสร้าง VM หรือ Container ก็ตามที่จะมีแต่ NVMe SSD ขึ้นมาให้เลือกเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายในการใช้ DevOps Cloud by Cloud HM นั้นไม่ได้สูงมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นแต่อย่างใด โดยหากคิดจากเครื่อง Container ขนาด 1 CPU, 512 MB RAM, 6GB NVMe SSD แล้ว ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงก็อยู่ที่ 0.37848 บาท ต่อ ชม. เท่านั้น หรือหากคิดเป็นรายเดือนก็ประมาณ 272.5 บาทเท่านั้นเอง ส่วนสเป็คอื่นๆ ก็สามารถลองเลือกการตั้งค่าเพื่อดูราคาก่อนสร้างได้ทั้งหมด ทำให้มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูงทีเดียว

 

มี Load Balancer ให้ใช้ รองรับ Auto-Scale ได้

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือการที่ DevOps Cloud by Cloud HM นี้มี Load Balancer ให้เราเลือกสร้างขึ้นมาใช้งานได้ในตัว ซึ่งจะมีการทำงานได้ 2 แบบ ได้แก่

  • Load Balancer Cluster สร้าง Load Balancer Node ขึ้นมากระจาย Traffic แบบ Round Robin ระหว่างเครื่องในกลุ่มที่กำหนดเอง
  • Auto-Scaling Cluster สร้าง Cluster ที่สามารถทำการ Scale-Out ตาม Template ที่กำหนดเอาไว้ เพื่อรับปริมาณ Workload ที่เพิ่มขึ้นได้โดยอัตโนมัติ และ Scale-In เมื่อปริมาณ Workload ลดลง โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เองได้ทั้งหมด

ทั้งสองความสามารถนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ตามความต้องการของทั้ง Traditional Application และ Cloud Native Application อย่างเต็มตัว เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนา Digital Product แต่ไม่ต้องการใช้ Cloud ในต่างประเทศ

 

แต่ละ VM ก็สามารถทำ Auto Scale ได้ในตัว

นอกจากนี้ DevOps Cloud by Cloud HM ก็ยังมีความสามารถในการทำ Auto-Scale อีกรูปแบบหนึ่งในระดับของ VM ด้วย โดยในระหว่างที่ทำการสร้าง VM ขึ้นมา เราสามารถกำหนดให้เครื่องนั้นๆ ทำการ Auto-Scale ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นการทำงานแบบ Scale-Up ด้วยการเพิ่มทรัพยากรเข้าไปในเครื่องเท่านั้น

ความสามารถนี้รองรับได้ทั้งการทำ Scale-Up และ Scale-Down ดังนั้นต่อให้เป็น Application ในสถาปัตยกรรมแบบเดิมๆ ที่ไม่ได้ใช้ Container เข้ามาช่วย ก็ยังสามารถทำการเพิ่มลดขนาดได้โดยอัตโนมัติอยู่ ซึ่งก็สามารถใช้วิธีการลงหลายๆ เครื่องและใช้ Load Balancer เข้าช่วยเพื่อลด Downtime ในระหว่าง Scale ระบบได้

 

ใช้ Data Center ที่ได้รับมาตรฐานจากผู้ให้บริการ 2 ราย มั่นใจได้ในความมั่นคงทนทาน

Cloud Data Center ของ Cloud HM นี้ตั้งอยู่ใน Data Center ของ UIH และ TCCT ซึ่งต่างก็ได้รับมาตรฐาน ISO 27001 ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ในการใช้งานนั้นเหล่าธุรกิจองค์กรสามารถมั่นใจได้ว่า แม้ว่าจะเกิดปัญหากับผู้ให้บริการรายใด ผู้ให้บริการอีกรายก็จะยังคงสามารถให้บริการต่อเนื่องต่อไปได้ เพราะโอกาสที่ผู้ให้บริการ 2 รายซึ่งไม่ได้ข้องเกี่ยวกันนี้จะมีปัญหาพร้อมๆ กันนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก โดยทาง Cloud HM นั้นรับประกัน SLA อยู่ที่ 99.9%

 

รองรับการจ่ายเงินได้หลากหลาย ใช้งานง่าย เหมาะกับ Developer และธุรกิจไทย

อีกจุดหนึ่งที่ Cloud HM ทำการพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับต่อความต้องการของ Developer และธุรกิจไทยในการใช้ Cloud ก็คือประเด็นในการจ่ายเงิน ซึ่งผู้ให้บริการ Cloud จากต่างชาตินั้นมักจะรับบัตรเครดิตเป็นหลักทำให้มีปัญหากับกระบวนการการจ่ายเงินของ Developer และภาคธุรกิจได้ ทาง Cloud HM จึงได้พัฒนาให้ระบบรองรับการชำระเงินได้จากทั้ง Visa, Mastercard, Paypal, Bitcoin และ Internet Banking เพื่อเป็นทางเลือกให้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

ทดลองใช้งาน DevOps Cloud by Cloud HM ได้ทันที

ตอนนี้ Cloud HM จัดโปรโมชั่นพิเศษเครดิตคูณ 2 เติมเครดิตเท่าไหร่ได้เพิ่มเท่านั้น โดยสำหรับผู้ที่สนใจต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการทดสอบการใช้งานบริการของ Cloud HM สามารถติดต่อได้ที่โทร (0)2-315-7504 หรืออีเมล์ sales@cloudhm.co.th หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Cloud HM ได้ที่ https://www.cloudhm.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/cloud-hm-devops-cloud-review/