แนะนำมือถือราคาประหยัดช่วง 3,000 บาท และ 5,000 บาท [กลางปี 2018]

ผ่านมายังไม่ถึงครึ่งปี มีมือถือใหม่ๆ เปิดตัวกันเยอะมาก โดยเฉพาะมือถือในกลุ่มราคาประหยัด 3,000-5,000 ก็มีน่าสนใจกันหลายรุ่น และเชื่อว่าหลายๆ คนก็อาจจะอยากมองหาเอาไว้เป็นเครื่องสำรอง หรือซื้อไปให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้กัน เราก็เลยได้ทำการคัดเลือกเอารุ่นที่มีความน่าสนใจ รุ่นที่ลองแล้วมันก็ใช้ได้และคุ้มราคามาแนะนำกันครับ

มือถือราคาประมาณ 3,000 บาท เน้นใช้งานโซเชียลทั่วไป

ช่วงราคาไม่เกิน 3,000 นี่เป็นช่วงที่หลายๆ คนตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยอยาดจะแนะนำเท่าไหร่ เพราะประสบการณ์การใช้งานของ Android เมื่อตอนนั้นกับมือถือราคาประหยัดๆ นี่มันช้าทั้งอืด แต่ในปีนี้สเปคเริ่มดีขึ้น และยังมี Android Go ที่ Google พัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองแล้วก็ต้องบอกว่า เออ มันมีดีพอใช้งานได้หลายรุ่นเหมือนกัน โดยเฉพาะการใช้งานแอปทั่วๆ ไป รวมถึงการเล่นโซเชียลอย่าง LINE – Facebook – และการใช้งานหลักๆ เช่น กล้อง-โทรเข้าออก-ส่งข้อความ ซึ่งก็มี 3 รุ่นตามนี้

Xiaomi Redmi 5a Nokia 1 Huawei Y3 2018
OS Android 7.1.2 ครอบด้วย MIUI 9 Android 8.1 Go Edition Android 8.0 Go Edition
CPU Snapdragon 425 MediaTek MT6737M MediaTek MT6737M
RAM 2GB 1GB 1GB
หน่วยความจำ 16GB 8GB 8GB
หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด HD 4.5 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 5 นิ้ว ความละเอียด HD
SIM รองรับ 2 SIM รองรับ 2 SIM รองรับ 2 SIM
กล้องหลัง 13MP 5MP 8MP
กล้องหน้า 5MP 2MP 2MP
แบตเตอรี่ 3000 mAh 2650 mAh 2280 mAh
ขนาดและน้ำหนัก 140.4 x 70.1 x 8.35 มม. / 137 กรัม 133.6 x 67.78 x 9.5 มม. / 131 กรัม 145.1 x 73.7 x 9.4 มม. / 180 กรัม
ราคา 2,790 บาท 2,740 บาท 3,290 บาท

ซึ่งจาก 3 รุ่นที่แนะนำมานั้น ตามสเปคต้องบอกว่า Xiaomi กินขาดในเรื่องของสเปคและราคาแบบสุดๆ แต่ว่าของ Nokia และ Huawei นั้นจะได้ในเรื่องของความลื่นไหลและการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ในแบบฉบับของ Android Go มาแทนครับ และ UI กับการใช้งานจะเบาและง่ายกว่าเพราะเน้นกราฟิคเป็นหลัก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้หัดใช้สมาร์ทโฟนครั้งแรก หรือผู้สูงอายุ เพราะตัวเครื่องไม่ต้องการเน็ตที่แรงมากในการใช้งานอีกด้วย

สามารถอ่านบทความลองเล่น แกะกล่องของรุ่นต่างๆได้จากลิงก์ด้านล่างนี้เลยนะครับ

เผื่อใครอยากหาเครื่องสำรอง หรือเอาไว้แชร์เน็ต 4G ให้เครื่องอื่นได้ มี Nokia 8110 กล้วยหอมจอมซนอีกออปชั่นให้เลือกด้วยนะ ได้ความเรโทรและคลาสิกไปในราคา 2,400 บาท

มือถือราคาประมาณ 5,000 บาท งานเริ่มดี มีเงินเหลือ

ในช่วงราคานี้ก็จะมีตัวเลือกให้เยอะขึ้นมาก รองรับการใช้งานที่หลากหลายขึ้น โหลดใช้งานแอปต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น ถ้ามีกำลังทรัพย์ถึงก็ค่อนข้างเชียร์ให้จบในช่วงราคานี้มากกว่านะ เพราะการใช้งานรวมๆ ดีขึ้นกว่าตัวด้านล่างเยอะทีเดียวครับ

Xiaomi Redmi 5 Huawei Y7 Pro 2018 Wiko view max Moto G5 Plus
OS Android 8 ครอบด้วย EMUI 8.0 Android Android 8.1 Oreo Android 7.0 Nougat
CPU Snapdragon 450 Snapdragon 430 MediaTek M739WA Snapdragon 625
RAM 3 GB 3GB 2GB 3GB
หน่วยความจำ 32 GB 32GB 16GB 32GB
หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD 5.2 นิ้ว ความละเอียด FHD
SIM รองรับ 2 SIM รองรับ 2 SIM รองรับ 2 SIM รองรับ 2 SIM
กล้องหลัง 12MP 13MP + 2MP 13MP 12MP
กล้องหน้า 5MP 8MP 8MP 5MP
แบตเตอรี่ 3300 mAh 3000 mAh 4000 mAh 3000 mAh
ขนาดและน้ำหนัก 151.8 x 72.8 x 7.7 มม. / 157 กรัม 158.3 x 76.7 x 7.8 มม. / 155 กรัม 157.8 x 75.8 x 7.9 มม. / 158 กรัม 150.2 x 74 x 7.7 มม. / 155 กรัม
ราคา 4,990 บาท 4,990 บาท 3,890 บาท 4,990 บาท

ในกลุ่มนี้  Moto G5 Plus นอนมาเลย เพราะสเปคกับราคาดีที่สุด แม้เครื่องจะออกมาก่อนชาวบ้านเค้า แต่ราคาที่หล่นลงมาเรื่อยๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ครบยิ่งกว่า Redmi 5 ซึ่งเรายกให้เป็นอันดับ 2 ส่วนใครที่อยากได้แบตใหญ่ๆ ในราคาสุดคุ้มก็คงเป็น Wiko View Max ส่วน Huawei Y7 Pro 2018 นั้นรวมๆ ก็ถือว่าสอบผ่านในด้านความคุ้มค่า แต่ติดที่ตัว UI และการใช้งานอาจจะมีจังหวะสะดุดเบาๆ ให้เห็นได้อยู่ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าคุ้มกับราคา

มือถือราคาประหยัดทั้ง 7 รุ่น มีวางขายในงาน TME 2018 ครั้งนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็มาลองจับลองเล่นกันได้ พร้อมกับเดินดูโปรโมชั่นหรือของแถมจากแต่ละร้านเอาตามที่ถูกใจเราได้เลย

from:https://droidsans.com/low-budget-phones-recomendation-mid-2018/