คลังเก็บป้ายกำกับ: TAXI

ดีเดย์ ขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่เริ่ม 40 บาท รถติด -วิ่งไม่ได้เกิน 6 กม./ชม. นาทีละ 3 บาท

ดีเดย์ ขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่เริ่ม 40 บาท รถติด -วิ่งไม่ได้เกิน 6 กม./ชม. นาทีละ 3 บาท ขนส่งแนะมิเตอร์ที่ปรับจูนแล้ว ควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนให้บริการ 

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร และค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 ตามที่ได้มีประกาศกระทรวงคมนาศม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ประกาศ ณ วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ไว้แล้วนั้น 

โดยที่อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ได้ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นระยะเวลานานแล้ว ประกอบกับราคาค่าเชื้อเพลิง และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงสมควรแก้ไขปรับปรุงประกาศกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราค่าจัางบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครเสียใหม่ ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในข้อ 12 (1) ของกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน พ.ศ.2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI – METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ประกาศ ณ วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2557 

ข้อ 2 ในประกาศนี้ “รถยนต์รับจ้าง” หมายความว่า รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2535 แต่ไม่รวมถึงรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน แบบพิเศษ และรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ 3 อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

(1) กรณีรถยนต์รับจ้าง ที่มีลักษณะเป็นรถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน และรถยนต์นั่งสามตอนแวน ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 40 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

(2) กรณีรถยนต์รับจ้าง นอกจาก (1) ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลมตรถึงกิโลเมตที่ 20 กิโลเมตรละ 7 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลมตรถึงกิโลเมตที่ 80 กิโลเมตรละ 9 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

(3) กรณีรถตาม (1) หรือ (2) ไม่สามารถเคลื่อนที่ หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้กำหนดอัตรานาทีละ 3 บาท

ข้อ 4 อัตราค่าบริการอื่น ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

(1) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท

(2) กรณีการจ้างจากทำอากาศยานตอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถยนต์รับจ้างนั้น จอดรอคนโดยสารอยู่ในท่าอากาศยาน ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่บริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท

ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตันไป

ประกาศ ณ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2565

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ด้านนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องนำมิเตอร์ไปปรับจูนมาตรค่าโดยสาร ที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์ให้ถูกต้อง และนำมิเตอร์ที่ปรับจูนแล้ว มาที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ส่วนตรวจสภาพรถ งามตรวจสภาพรถรับจ้างและระอื่นๆ อาคาร 4 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจรับรองความถูกต้อง และทำการซีลตะกั่วที่มิเตอร์ก่อนนำรถออกให้บริการประชาชน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ดีเดย์ ขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่เริ่ม 40 บาท รถติด -วิ่งไม่ได้เกิน 6 กม./ชม. นาทีละ 3 บาท first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/d-day-increases-taxi-fares-starting-at-40-baht/

Advertisement

Uber ร่วมมือกับแพลตฟอร์มแท็กซี่นิวยอร์กซิตี้ เตรียมเปิดให้เรียกแท็กซี่ผ่านแอปเร็ว ๆ นี้

Uber บรรลุข้อตกลงร่วมกับแท็กซี่นิวยอร์กซิตี้ โดยทาง Uber จะเปิดให้เรียกแท็กซี่ของนิวยอร์กผ่านแอปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ภายใต้ความร่วมมือนี้ Uber จะนำข้อมูลจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แท็กซี่ที่ได้ใบอนุญาตจาก Taxi and Limousine Commission (TLC) ของนิวยอร์กซิตี้ ได้แก่ Creative Mobile Technologies และ Curb Mobility ที่มีแท็กซี่นิวยอร์กซิตี้บนแพลตฟอร์มกว่า 14,000 คันมาแสดงบนแอป Uber

ในส่วนค่าบริการ Uber จะคิดในอัตราใกล้เคียงกับค่าบริการแบบมาตรฐานของ Uber X ส่วนอัตราค่าบริการที่ฝั่งผู้ขับรถจะได้รับจะเป็นอัตราที่กำหนดโดย TLC และสำหรับฝั่งแท็กซี่ ตัวแพลตฟอร์ม Uber จะแสดงค่าโดยสารให้เห็นคร่าว ๆ ให้ผู้ขับก่อนจะตัดสินใจรับผู้โดยสารจาก Uber (ในขณะที่ผู้ขับรถบนแพลตฟอร์ม Uber โดยตรงจะไม่แสดงข้อมูลส่วนนี้) แต่แท็กซี่จะไม่มีสิทธิ์รับ fuel surcharge ของ Uber

ที่มา – WSJ, TechCrunch

No Description
ภาพจาก Wikimedia

from:https://www.blognone.com/node/127793

เปิดตัวโครงการทดลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้บริการแท็กซี่ใน สปป ลาว

แอป LOCA ซึ่งเป็นแอปเรียกรถแท็กซี่แนวเดียวกับแกร็บ หรือ อูเบอร์ และ แบรนด์รถยน BYD จากจีน ร่วมกันเปิดตัวโครงการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำเอารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการให้บริการขนส่งสาธารณะ ใน สปป ลาว จุดประสงค์ของโครงการนี้คือการนำเอารถยนต์ไฟฟ้ามาปรับใช้กับแท็กซี่ของโลก้า เพื่อเป็นการลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

การร่วมมือของทั้งสองมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นผู้ริเริ่ม สนับสนุน และเพื่อแสดงให้ผู้สร้างกรอบนโยบาย รวมทั้งผู้บริโภคได้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นเหมาะสมกับตลาดใน สปป ลาว รวมทั้งตอบโจตรที่ สปป ลาว วางวิสัยทรรศน์ที่ต้องการอยากจะเป็นแบ็ตเตอรี่ของอาเซียน

ทั้งนี้ รถยนต์ที่จะใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ BYD E2 โดยรถรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ 305 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบ็ตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง รวมทั้งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเหมาะกับตลาดของ สปป ลาว ที่สุดในตอนนี้

ในปัจจุบัน โลก้าได้กลายมาเป็นผู้ให้บริการแท็กซี่สาธารระ ที่ใหญ่ที่สุดของ สปป ลาว โดยได้เปิดให้บริการแล้วใน 3 พื้นที่ประกอบด้วย นครหลวงเวียงจันทน์ นครหลวงพระบาง และนครจำปาสัก ซึ่งล่าสุด โลก้ายังกลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ และธุรกิจขนาดเล็กใน สปป ลาว รายแรกที่อยู่ในรายชื่อ 100 บริษัทที่น่าจับตามองของเอเชีย ที่จัดโดย Forbes Asia อีกด้วย

ที่มา – Facebook LOCA Laos

alt="No Description"

from:https://www.blognone.com/node/124689

Robotaxi รถแท็กซี่ไร้คนขับจากบริษัท Zoox ในเครือ Amazon

บริษัทด้านยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในสังกัดของ Amazon อย่าง Zoox ได้ฤกษ์เปิดตัวรถแท็กซี่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองรุ่นแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอยู่ในรูปรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับสำหรับขนส่งผู้โดยสาร ลักษณะเหมือน “รถม้า” ชื่อว่า Robotaxi

ซึ่งผู้โดยสารจะนั่งหันหน้าเข้าหากัน ไม่ได้มีที่นั่งว่างสำหรับคนขับ ไม่มีพวงมาลัยบังคับรถ รับคนนั่งได้สูงสุด 4 คน สำหรับสตาร์ทอัพเจ้านี้ที่ทำธุรกิจมานานกว่า 6 ปี ทางแอมะซอนได้ซื้อกิจการมาเมื่อเดือนมิถุนายนโดยยังไม่เปิดเผยว่าจะนำเทคโนโลยีของ Zoox มาทำอะไร

ก่อนหน้านี้ซีอีโอของ Amazon เจฟ เบซอส ได้เคยแสดงความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับวงการยานยนต์ ซึ่งต่อมาก็ได้นำรถกระบะแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองมาใช้ขนถ่ายสินค้ามาแล้ว คาดว่ายานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Zoox ก็น่าจะเติมเต็มเครือข่ายขนส่งสินค้าของแอมะซอนได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะการส่งถึงมือลูกค้าที่จะทำให้ได้ราคาถูกและส่งได้เร็วขึ้นมาก ทั้งนี้ ตัวแท็กซี่หุ่นยนต์หรือ robotaxi มีความสามารถบางอย่างที่ต่างจากคู่แข่งอย่าง Waymo ของ Alphabet, Cruise ของ GM รวมทั้งของ Uber และ Tesla ตรงที่สามารถขับเคลื่อนได้สองทิศทางโดยทั้ง 4 ล้อ เปลี่ยนทิศได้โดยไม่ต้องกลับรถ

ที่มา : CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/robotaxi-zoox-amazon/

Uber ถูกปรับ 59 ล้านเหรียญฯ หลังปฏิเสธให้ข้อมูลเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ

ทางคณะกรรมการสาธารณูปโภคประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย (CPUC) ได้สั่งปรับ Uber เป็นเงิน 59.1 ล้านเหรียญฯ จากกรณีที่ปฏิเสธซ้ำหลายครั้งที่จะให้ข้อมูลที่ร้องขอเกี่ยวกับรายงานการล่วงละเมิดทางเพศของบริษัทประจำปี 2019

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ทางผู้พิพากษาศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ Uber ต้องจ่ายค่าปรับภายใน 30 วัน และส่งมอบข้อมูลที่ต้องการให้ มิเช่นนั้นทาง CPUC จะสามารถยกเลิกใบอนุญาตการดำเนินงานในรัฐแคลิฟอร์เนียได้

ศาลอธิบายว่า ทาง Uber “ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือโดยไม่ได้มีเหตุผลทางกฎหมายหรือที่เข้าใจได้เพียงพอ” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีคำสั่งทางปกครองให้ส่งมอบข้อมูลมาให้หลายต่อหลายครั้ง

ต้นตอของเรื่องนี้มาจากเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว Uber เผชิญกับแรงกดดันจากผู้ใช้จำนวนมากจนต้องยอมออกรายงานที่ระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐฯ ทั้งหมดมากถึง 3,045 ครั้งในปี 2018 เฉลี่ยแล้วมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน

ที่มา : MSN

from:https://www.enterpriseitpro.net/uber-fined-59-million-by-california-regulators/

ประกาศราชกิจจาฯ แท็กซี่คิดค่าบริการเพิ่มเติม สัมภาระ 4 ประเภท ชิ้นละ 20-100 บาท เริ่มวันนี้

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการแก้ไขปรับปรุงอัตราค่าบริการอื่นให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการปรับค่าบริการอื่นกรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษดังนี้

1. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่งเกินกว่า 26 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

2. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใด ด้านหนึ่งไม่เกิน 26 นิ้ว เกินกว่าสองชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่สามขึ้นไป ในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท ทั้งนี้ ไม่นับรวมกับสัมภาระตามข้อ 1

3. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นอุปกรณ์การกีฬาจำพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

4. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

การเรียกเก็บค่าบริการอื่นกรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษ ให้เรียกเก็บได้ในกรณี การจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือการจ้างจากสถานที่อื่นไปยัง ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้ผู้ขับรถยนต์รับจ้างแจ้งอัตราค่าบริการ ให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าก่อนทำการรับจ้าง

ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ราชกิจจานุเบกษา

from:https://www.thumbsup.in.th/taxi-services-charged-add?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=taxi-services-charged-add

คู่แข่ง Grab มาแล้ว! เปิดตัว Bolt แอปพลิเคชันเรียก TAXI รายใหม่

ทุกคนคงรู้จัก Grab เป็นอย่างดีในฐานะแอปพลิเคชันเรียก TA […] More

from:https://www.iphonemod.net/bolt-bangkok.html

Go-Jek เข้าถือหุ้น 4.3% ในผู้ให้บริการรถแท็กซี่รายใหญ่ของอินโดนีเซีย

Go-Jek แอปเรียกรถแท็กซี่และบริการ O2O จากอินโดนีเซียที่ทำตลาดในไทยด้วยแบรนด์ GET! ประกาศเข้าถือหุ้น 4.3% ในบริษัท Blue Bird ของอินโดนีเซียเช่นเดียวกัน โดยมูลค่าหุ้นอยู่ราว 30 ล้านดอลลาร์

Blue Bird เป็นผู้ให้บริการรถแท็กซี่รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของอินโดนีเซีย การเข้าลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่า Go-Jek ต้องการขยายจำนวนรถยนต์ โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการรายใหญ่ด้วยอีกทางหนึ่ง

ปัจจุบัน Blue Bird ถูกใส่เข้ามาเป็นตัวเลือกหนึ่งของการเดินทางในแอป Go-Jek อยู่แล้ว

ที่มา: TechCrunch

alt="Blue Bird"

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/114731

นครนิวยอร์กอนุมัติให้ใช้ Tesla Model 3 เป็นแท็กซี่ได้แล้ว นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก

สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของนครนิวยอร์กคือ “แท็กซี่สีเหลือง” ที่เราคงเห็นกันบ่อยๆ ในภาพยนตร์ หรือในรูปถ่ายท้องถนนของเมืองนิวยอร์กก็มักจะมีแท็กซี่สีเหลืองอยู่ด้วยเสมอ และขณะนี้ Tesla Model 3 ก็ได้ผ่านการอนุมัติให้นำมาใช้เป็นรถแท็กซี่ได้แล้ว

คณะกรรมการรถแท็กซี่และลิมูซีนแห่งนครนิวยอร์ก (New York City Taxi and Limousine Commission – TLC) ได้รับรองให้บริษัทแท็กซี่สามารถนำ Tesla Model 3 มาให้บริการได้แล้ว โดย Model 3 เป็นหนึ่งในรถยนต์อีก 40 รุ่นที่ผ่านการรับรองครั้งนี้ และเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียว โดยปัจจุบันมีเพียงรถยนต์ปกติและรถยนต์ไฮบริดที่มีการใช้งาน

การจะผ่านเกณฑ์รับรองได้ต้องผ่านการประเมินหลายอย่าง เช่นพื้นที่ภายในห้องโดยสาร, รถต้องมีระบบปรับอากาศแยกสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงต้องมีพื้นที่พอให้ติดตั้งแผงกั้นระหว่างผู้โดยสารและคนขับ นอกจากนี้เบาะรถยังต้องทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่นไวนิล

หลังผ่านการรับรอง บริษัทรถจึงจะสามารถนำรถปกติไปดัดแปลงให้เป็นแท็กซี่ได้ เช่นติดตั้งไฟนอกรถและเครื่องหมายต่างๆ, ติดตั้งมิเตอร์ และแน่นอนว่าเปลี่ยนสีรถให้เป็นสีเหลือง

ก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองใช้ Nissan LEAF รุ่นแรกมาทดลองวิ่งเป็นแท็กซี่ในปี 2015 ซึ่งรายงานของ TLC ระบุว่าคนขับต้องปรับตัวอย่างมากในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพราะวิ่งได้ระยะทางน้อย โดย LEAF รุ่นแรกวิ่งได้เพียง 135 กิโลเมตร ในขณะที่ Tesla Model 3 จะวิ่งได้ราว 350 กิโลเมตร โดยปกติคนขับแท็กซี่จะใช้รถราว 290 กิโลเมตรต่อหนึ่งกะ

ที่มา – CNN
ภาพโดย franky1st จาก Pixabay

from:https://www.blognone.com/node/113050

“แท็กซี่” บุกขนส่งฯยื่นข้อเรียกร้องหากให้ “แกร็บ” ถูกกฎหมายและขอขึ้นค่าโดยสารอีกรอบ ท่ามกลางความสงสัยทำไมไม่ขับ Grab

ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องสำหรับ “แท็กซี่” และ “แกร็บ” ที่ฝ่ายนึงบริการไม่ดีผดส.ยี้ แต่ถูกกฎหมาย และอีกฝ่ายยังไม่มีกฎหมายรองรับแต่ภาพรวมบริการดีกว่า คาราคาซังและเห็นการประท้วงอยู่เรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดนี้แท็กซี่ได้บุกไปกรมขนส่งฯเพื่อขอขึ้นราคาหากดันให้แกร็บถูกกฎหมาย แต่อาจต้องมีสะอึกเล็กน้อยเมื่อมีคนทวงถามว่าทำไมไม่ไปสมัครแกร๊บและอยู่ร่วมกันไปเลย หรือเป็นเพราะแท็กซี่กลุ่มนี้ติดประวัติเสียจนถูกแบนออกจากระบบไปแล้ว

จากที่กลุ่มแท็กซี่บุกไปขนส่งในครั้งนี้ มีความต่างจากการประท้วงครั้งก่อนๆ ที่ต้องการให้ดำเนินการเอาผิดกับแกร๊บ แต่ต้องการมารับรู้ว่าข้อกฎหมายอาจจะเกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลใหม่นี้ จะส่งผลต่อกลุ่มสหกรณ์แท๊กซี่หรือไม่และจะมีทิศทางไปในด้านใด เพราะปัจจุบันมีรถแท็กซี่กว่า 8 หมื่นคันในระบบ การผลักดันนโยบายให้แกร็บถูกกฎหมายอาจส่งผลกระทบต่อการประกอบการอาชีพอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดีทางรองอธิบดีกรมขนส่งทางบกก็ได้ชี้แจงว่า “ยังไม่มีการร่างกฎหมายรับรองแกร๊บให้ถูกต้องในตอนนี้ มีเพียงการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนเท่านั้น”

4 ข้อเรียกร้องจากกลุ่มแท็กซี่ หากจะให้แกร็บถูกกฎหมาย

  1. หากดำเนินการเรื่องนี้แล้วมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ จะต้องเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม คือถ้าให้แกร็บถูกต้องตามกฎหมาย แล้วมีผลต่อคนขับแท็กซี่ เช่น ไม่มีผู้โดยสาร เงินที่ได้ไม่พอใช้ รัฐบาลหรือขนส่งจะต้องช่วยเหลือ เยียวยาตรงจุดนี้ด้วย
  2. ต้องปราบปรามรถผิดกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ ทำโทษรถที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะแกร็บหรือแท็กซี่ ที่ไม่มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้อง จะต้องมีบทลงโทษตามที่ได้มีการกำหนดขึ้น (ในที่นี้น่าจะหมายถึงการเอารถป้ายดำที่ไม่ได้จำทะเบียนรับจ้างมาให้บริการ ทำให้มีต้นทุนที่ถูกกว่า ทั้งค่าประกัน ภาษีต่างๆ รวมถึงไม่ต้องไปรายงานที่ขนส่งฯเหมือนแท็กซี่ทั่วไป จะเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมก็ว่าได้)
  3. ให้ทบทวนนโยบายโครงการแท็กซี่โอเค เนื่องจากไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ได้ประกาศไว้ จากที่ได้มีโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์รถแท็กซี่ธรรมดาให้มีผู้โดยสารใช้บริการ กลุ่มแท็กซี่หลายรายได้เข้าเข้าร่วมโครงการนี้แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่มีผู้โดยสารใช้บริการเหมือนเดิมแต่ได้มีการลงทุนติดอุปกรณ์ต่างๆตามที่กำหนดเอาไว้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
  4. ต้องปรับอัตราค่าโดยสารให้เป็นธรรม และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง กรมขนส่งทางบกจะต้องพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารให้กับแท็กซี่ เพราะปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นมากมาย ทำให้มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

หลายคนตั้งคำถามทำไมคนขับแท็กซี่กลุ่มนี้ถึงไม่เข้าร่วมแกร็บ

ใครที่ได้ขึ้นแท็กซี่เป็นประจำหรือเคยเรียกใช้บริการ Grab อยู่เรื่อยๆ น่าจะพอทราบกันดีว่าก็มีคนขับแท็กซี่จำนวนมากที่มีความสุขดีและอยู่ร่วมกับ Grab ได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อข่าวนี้ออกมาก็ทำให้หลายคนที่ทราบข่าวก็เกิดข้อสงสัยว่าทำไมแท็กซี่ที่มาโวยวายเรียกร้องนี้ถึงไม่ยอมเข้าร่วมขับกับแกร๊บไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ซึ่งในเพจของทาง Amarin ต้นทางที่แชร์ข่าวนี้มา มีผู้มาให้ข้อมูลเรื่องนี้ให้ผ่านทางคอมเม้นต์ ระบุว่าเขาทำงานอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ตรวจสอบประวัติอาชญากร ซึ่งคนที่จะสมัคร Grab ต้องไปขอเอกสารรับรองกับหน่วยงานเขาก่อนเสมอ ถ้าใครมีคดีติดตัว Grab น่าจะไม่รับเลย พร้อมสรุปว่ากลุ่มคนที่ไม่ยินดีกับแกร็บ ที่จะให้แกร็บถูกกฎหมายอาจเป็นเพราะสมัครแกร็บไม่ผ่าน ด้วยเหตุผลมีคดีติดตัว และมีความเสี่ยงต่อผู้โดยสาร ดูกร่างและน่ากลัวตามที่เห็นในการประท้วงนี้ ส่วนกลุ่มคนที่ไม่อยากทำเอกสารให้วุ่นวาย ก็แนะนำว่ามาทำให้เสร็จได้ใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีก็เรียบร้อย มีค่าธรรมเนียม 100 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดีในเวลาถัดมาคอมเม้นต์ดังกล่าวก็ถูกลบทิ้งออกไป ซึ่งก็ไม่มีทางพ้นเหล่านักแคปที่เก็บข้อมูลนี้ไว้แล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วว่าผู้คอมเม้นต์นี้น่าจะทำงานที่สนง.ตำรวจจริง แต่ก็ไม่ใช่เป็นแถลงการอย่างเป็นทางการ อาจจะเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้นก็เป็นได้ 

ทั้งหมดนี้ก็ต้องมารอดูกันว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นการประท้วงครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ปัญหานี้ยุติและลงเอยอย่างไร แกร็บจะถูกทำให้ถูกกฎหมายได้ตามนโยบายที่ถูกหาเสียง โดยที่ทางแท็กซี่ก็ได้รับคำตอบจากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างน่าพอใจและเป็นธรรมหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วนโยบายการทำให้แกร๊บถูกกฎหมายจะเป็นเรื่องที่ถูกลืมไป ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป

 

ที่มา : amarin, twitter

from:https://droidsans.com/taxi-demand-dlt-fix-before-legalize-grab/