KREYOS นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) เพียงตัวเดียวที่รองรับทั้ง iOS, Android และ Windows Phone พร้อมทั้งสามารถรับสายและสนทนาผ่านนาฬิกานี้ได้เลย

 

วันนี้มี Smartwatch เจ๋งๆ มาแนะนำครับ ซึ่งถือว่าเป็น Smartwatch เจ้าแรกที่รองรับทั้ง 3 ระบบปฏิบัติการหลัก นั่นคือ iOS, Android และ Windows Phone ตั้งแต่เริ่มโครงการการผลิต นอกจากนี้ความสามารถที่ถูกหยิบยกมาข่มทับคู่แข่งได้ก็คือ เราสามารถรับสายและสนทนาผ่านนาฬิกาตัวนี้ได้เลยครับ นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งการด้วยและการการสบัดข้อมือด้วยครับ ?

KREYOS เป็น Smartwatch อีกหนึ่งโครงการที่ขอทุนผ่าน indiegogo เว็บไซต์ระดมทุนชื่อดัง ซึ่งเบื้องต้นผู้ดำเนินโครงการนี้ต้องการเงินทุนเพียง 100,00 USD แต่ตอนนี้พวกเขาได้เงินทุนไปทั้งหมด 1,504,338 USD และจะผลิตพร้อมส่งได้ในเดือนมกราคม 2014 หรือเหลืออีกเพียง 2-3 เดือนเท่านั้นเองครับ สนใจสั่งซื้อได้ที่  Kreyos.com ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 169 USD ครับ

 

คุณสมบัติ

KREYOS จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ จากนั้นเราก็จะสามารถมองเห็นการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งข้อความเข้า อีเมล์ Facebook twitter และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถรับสาย วางสาย หรือสนทนากับเพื่อนผ่านนาฬิกาตัวนี้ได้เลยครับ เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy Gear แต่เหนือกว่าหลายขุมครับ ทั้งแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานมากกว่า 7 วัน การสั่งการด้วยการสบัดข้อมือ กันน้ำ การวัดอัตราการเต้นหัวใจ วัดการเคลื่อนไหว รองรับการสั่งการด้วยเสียง เช่น สำหรับผู้ใช้ iPhone เราก็สามารถสั่งการ Siri ผ่าน KREYOS ได้ครับ สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Kreyos.com นะครับ

 

การออกแบบและอุปกรณ์เสริม

KREYOS ตัวเรือนของนาฬิกาจะเป็นสีดำเท่านั้น แต่สายจะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ ดำ ขาว เขียว ชมพู และฟ้า ซึ่งแยกสำหรับผู้ชายและผู้หญิงด้วยครับ นอกจากนี้หากเราต้องการพกในลักษณะอื่น ที่ไม่ใช่ลักษณะนาฬิกาข้อมือก็ได้ครับ KREYOS จะสามารถถอดตัวเรือนออกจากสายได้ง่ายๆ และมีอุปกรณ์เสริมเป็นแบบตัวหนีบและสายคล้องคอด้วย ถือว่าดีไซน์ออกมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลายมากครับ

 

หากเพื่อนๆ สนใจสั่งซื้อ ก็เข้าไปกด Pre-Order ที่ Kreyos.com ได้เลยนะครับ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 169 USD และจะเริ่มทยอยส่งได้ในเดือนมกราคม 2014

 

 

 

from:http://www.appdisqus.com/2013/11/09/kreyos-smartwatch.html

Sony ปล่อยอัพเดทให้นาฬิกาอัจฉริยะ Smartwatch 2 แล้ว

ตอนนี้ทาง Sony ได้มีประกาศออกมาว่าได้ทำการปล่อยอัพเดทให้ Sony Smartwatch 2 แล้วนะ แต่ว่าช่วงเวลายังไม่เป็นที่แน่นอนเพราะว่าจะต้องปล่อยตามโซนกลุ่มประเทศต่างๆ ไม่ก็มาตามพวกเครือข่ายมือถือต่างๆ (ผมคิดว่ากลุ่มเครือข่ายน่าจะเป็นโซนยุโรปเช่นในอเมริกาเป็นต้นนะ) ถ้าใครว่างๆก็ลองเอามันมาต่อเน็ตดูแล้วกันเผื่อฟลุคมีอัพเดทออกมา

โซนี่ได้โพสบอกผ่านทางบล็อกว่า : ถึงแม้ว่าการอัพเดทครั้งนี้จะไม่ใช่การอัพเดทแบบเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรมากนัก แต่มันเป็นการแสดงผล  tweaks และปรับปรุงอุปกรณ์ของเราให้ดียิ่งขึ้น แล้วก็ยังเป็นการปรับปรุงการปัดหน้าจอ Home screen ไปมาให้ผู้ใช้ใช้งานดีขึ้น แต่ตอนนี้ผมได้เครื่องมาแล้ว ตอนปัดจอไปมาก็ลื่นดีนะไม่มีหน่วงเลย อาจจะมีพวกทัชดีเลนิดหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

ราคาขายในไทย : 4,990บาท หาซื้อได้ตามร้านของ Sony ก่อนเลยครับ ผมได้สอบถามทาง Call Center มาว่าผู้ที่จองในงาน TME 2013 น่าจะได้ของกันหมดแล้วล่ะเพราะเค้าเริ่มจัดส่งสินค้าแล้วตอนต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอผมลองใช้ดูก่อนแล้วจะมาเขียนข่าวรีวิวทีหลังครับ

credit : androidos.in

from:http://www.appdisqus.com/2013/10/26/sony-releases-software-update-for-smartwatch-2.html

มาดูประวัติศาสตร์ของ Smartwatch กันดีกว่าก่อนตอนนี้จะมีใช้ โดย Samsung

Samsung ดูเหมือนว่าคราวนี้สนใจที่จะมาบุกตลาด Smartwatch หรือเรียกว่านาฬิกามือถือก็ว่าได้ หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักว่ามันคืออะไร ผมขอพูดสั้นๆคือมันเป็นนาฬิกานั่นแหล่ะ เพียงแต่ว่ามันสามารถทำได้มากกว่านาฬิกาทั่วๆไป ถ้าให้เทียบแล้วก็เหมือนกับรีโมท ที่สามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์ของเราที่เชื่อมต่อกับมันได้ เช่น สั่งให้เล่น-หยุด – เปลี่ยนเพลงได้ / บางรุ่นถ่ายรูปได้จากตัวมันเอง / รับ-วางสายโทรศัพท์ได้ (บางรุ่น) เป็นต้น

โดยในคลิปได้พูดถึงเรื่องราวด้านนาฬิกาอัจฉรียะ จากหนังหลายๆเรื่อง มีการ์ตูนด้วยนะ ที่เราสามารถพูดคุย หรือสั่งงานจากนาฬิกาได้โดยตรง คลิปที่แอดมินได้ใส่มามีด้วยกัน 2 คลิปและความยาว 1นาทีนิดๆ ที่สมัยพวกเราได้ดูหนังเรื่องนั้นๆจะพบว่าสักวันอยากได้ของดีๆแบบนี้บ้าง แต่วันนี้มันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป เพราะมันได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วใน Samsung Galaxy Gear

อีกคลิปนึงพูดถึงประวัติความเป็นมาของ Smartwatch ในอดีตว่าหน้าตาเป็นยังไงบ้าง จากหนังชื่อดังเรื่องต่างๆ

credit : androidauthority

from:http://www.appdisqus.com/2013/10/07/new-galaxy-gear-ads-arrive-showing-the-history-of-the-smartwatch.html

[Sneak Preview] Galaxy Gear เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีสวมใส่มาเยือน

เมื่อวานผมเขียนพรีวิวถึง Galaxy Note 3 ไปแล้ว ฉบับนี้เป็นสิ่งที่สัญญาไว้ว่าจะเขียนถึง นั่นคือ Galaxy Gear นั่นเอง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เทรนด์ใหม่ที่กำลังจะมานี้ เป็นการก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอีกระดับหนึ่ง จากเดิมที่เราจะพูดถึงกันแค่คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต แต่จากนี้ไป จะเป็นยุคของอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งจะว่าไปอุปกรณ์สวมใส่เริ่มก่อร่างสร้างเทรนด์มาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านอุปกรณ์อย่าง UP ของ Jawbones, FuelBand จากไนกี้, นาฬิกาอย่าง Pebble และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ Google Glass ผลงานของกูเกิล

ทั้งหมดนี้จึงทำให้ค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลากหลายแบรนด์ไม่อยากตกขบวนรถไฟขบวนใหม่ที่กำลังแล่นผ่านสถานีเก่าที่ชื่อสมาร์ทโฟน มายังสถานีใหม่ที่มีชื่อว่า  Wearable Devices.

อย่างที่ผมเขียนไว้ในพรีวิว Galaxy Note 3 ว่า ขณะนี้ Galaxy Gear จะยังคงใช้งานร่วมได้เฉพาะกับ Galaxy Note 3 เท่านั้น และจำกัดเฉพาะว่า ต้องเป็นไฮเอนด์ของซัมซุงเท่านั้นอีกด้วย รุ่นที่จะรองรับก็จะมี Galaxy S3, Galaxy S4, Note 2 และ Galaxy Tab 10.1 เริ่มต้นการอัปเดทธันวาคม

ผมได้สัมผัส Galaxy Gear ในกรอบระยะเวลาสั้นกว่า Galaxy Note 3 เล็กน้อย เนื่องจากว่า Galaxy Gear ตัวแรกที่ผมได้จับจากซัมซุงนั้น ตัวเครื่องมีปัญหา Error (กระจุย) ซึ่งกว่าจะได้ตัวใหม่มาเปลี่ยนก็เป็นตอนหัวค่ำ แต่เคราะห์กรรมยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อ Galaxy Gear ตัวใหม่ที่ได้รับมา ดันมาพร้อมกับแบตเตอรีที่เหลืออยู่น้อยนิด

ดังนั้นแล้วการพรีวิว Galaxy Gear นี้จึงเป็นไปแบบรวดเร็วปานจรวดละกันนะครับ เกาะพนักเก้าอี้อ่านไว้ดีๆ นะครับ

Design

ว่าไปแล้ว Galaxy Gear ไม่ได้เป็น Smartwatch ตัวแรกที่ผมได้สัมผัส ก่อนหน้านี้ผมเคยมีโอกาสไปเอาข้อมือของผมไปผูกติดกับ Pebble ของเพื่อนที่สั่งจาก Kickstarter มาบ้างแล้ว ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Galaxy Gear ดีไซน์ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ โดยเฉพาะตรงหน้าปัดที่มีสกรูอยู่ทั้ง 4 มุม 

ตรงหน้าจอของ Galaxy Gear เมื่อครั้งที่ได้เห็นภาพหลุดผ่านเว็บไซต์ Venture Beat ผมเผลอหลุดอุทานออกมาว่า ใหญ่โคตรแบบนี้ใครจะไปใส่ลง ก็ต้องถอนคำพูดสักหน่อย เพราะใส่แล้วมันก็ไม่ได้ใหญ่เทอะทะมาก คล่องตัวพอสมควร แถมวัสดุที่ใช้เป็นสแตนเลสที่ดูแกร่งไม่น้อย ถ้าให้นึกถึงก็เป็นนาฬิกาแนวสปอร์ตนั่นเองครับ ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 320×320 พิกเซล ผมว่าพอเหมาะพอเจาะกับการแปรสภาพเป็นนาฬิกานะ

เรื่องของการดีไซน์ของ Galaxy Gear ผมชอบจุดเดียว ….จุดเดียวจริงๆ คือ สายนาฬิกา ตอนแรกที่เห็นในงาน Keynote ผมเข้าใจว่า สายรัดข้อมือนาฬิกาของ Gear จะต้องเป็นยางธรรมดาๆ แต่เอาเข้าจริงไม่ใช่ครับ มันเป็นวัสดุที่เป็นยางอย่างดี เหนียว แน่น แข็งแรงมากๆ ที่สำคัญมันดูหรูหรามากจนต้องปรบมือให้กับซัมซุง ณ จุดๆ นี้

การสวมใส่ Galaxy Gear อาจไม่เหมือนนาฬิกาทั่วๆ ไปที่เรารู้จักสักเท่าไหร่ ปกติแล้วนาฬิกาธรรมดา คือ ยัดข้อมือเข้ากับนาฬิกา ถ้าเป็นสายยางก็เสียบให้ตรงกับรูที่เหมาะกับขนาดข้อมือเรา เป็นอันจบ หรือถ้าเป็นสายเหล็กก็ติดประกบให้สนิทแค่นั้น แต่ Galaxy Gear เราจะต้องปรับขนาดข้อมือสำหรับการสวมใส่จากด้านในก่อน แล้วถึงจะสอดข้อมือเข้าใส่

ซึ่งผมเองก็มีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งข้อกับการใส่ Galaxy Gear (ตัวที่ 2 ที่ผมรับมาจากซัมซุง) คือ มันล็อกติดกันไม่สนิท เพียงแค่สะบัดข้อมือไม่กี่ครั้ง ตัวล็อกที่มันติดกับนาฬิกามันก็หลุดออกมา ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าบล็อกเกอร์ท่านอื่นๆ เจอปัญหาดังกล่าวนี้หรือไม่ ถ้าเจอก็แสดงว่า มันไม่ได้มีปัญหาเฉพาะเรือนของผมเท่านั้น เย้! 

การใช้งาน

Galaxy Gear จะมีเซ็นเซอร์เมื่อผู้ใช้ยก Galaxy Gear ขึ้นมา มันจะแสดงหน้าจอนาฬิกาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ การที่เราจะเชื่อมต่อนั้น จะต้องทำผ่าน NFC เพียงสัมผัสกันระหว่างนาฬิกากับสมาร์ทโฟน

การใช้งานทั้งหมดจะเป็นแบบทัชสกรีน มีทั้งปาดขึ้นสำหรับ ปาดลง ปาดซ้ายและขวา สำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่ฝังติดมาให้ ประกอบด้วยพยากรณ์อากาศ, บันทึกนับก้าวสำหรับออกกำลังกาย, Media Controller, คลังภาพ, บันทึกเสียง ทั้งหมดนี้จะมาว่ากันอีกครั้งหลังจากที่ได้รีวิวแบบจริงจัง ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าครับ

เรื่องกล้อง ผมเองไม่คาดหวังกับเรื่องกล้องเลยครับ สาบานได้ แต่จากที่ลองใช้พบว่า เออมันก็ใช้งานง่ายดีนะ เพียงแค่ยกนาฬิกาขึ้นมาแตะหน้าจอการถ่ายภาพก็เสร็จสิ้น ซึ่งการโพรเซสของนาฬิกาทำได้ไวดี ไม่อืดอย่างที่แอบคิดไว้ การใช้งานกล้องขอให้คุณนึกถึงยอดนักสืบที่เป็นเด็กมา 20 ปี แต่มันก็ยังอยู่ป.1 อย่างโคนัน นั่นแหละครับ คือ การใช้งาน Galaxy Gear สเปกของกล้องก็ 1.9 ล้านพิกเซลครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายผ่าน Galaxy Gear เชิญทัศนาได้เลยครับ

นอกเหนือจากนี้แล้ว Galaxy Gear ยังอัดวิดีโอได้ 10 วินาที

เสียดายนิดนึงว่า มีเวลาไม่พอที่จะถ่ายเป็นวิดีโอด้วยการรับโทรศัพท์ผ่าน Galaxy Gear ซึ่งเวลาโทรก็จะใช้แขนยกขึ้นมา ถือว่าเท่ดีนะ

อุปกรณ์เสริม

จะว่าไปแล้ว Galaxy Gear ไม่ได้มาตัวเปล่า เสื่อผืน หมอนใบนะครับ แต่มาพร้อมกับ….อะไรสักอย่าง (เรียกไม่ถูก) เอาเป็นว่าเรียกกรอบไปก่อนละกัน ซึ่งตัวมันไม่ได้มีมาประกอบเท่ๆ แต่อย่างใด มันคือที่ชาร์จไฟของ Galaxy Gear นั่นเอง ด้านหลังจะมีให้ชาร์จไฟผ่าน microUSB 2.0 ถ้ามีอแดปเตอร์ก็ชาร์จเข้ากับไฟบ้านได้เลย

Galaxy Gear มี 6 สี

สำหรับ Galaxy Gear จะมีให้เลือกซื้อ 6 สี ซึ่งสีที่ผมได้พรีวิวเป็นสีดำ ส่วนสีอื่นๆ อีก 5 สี ประกอบไปด้วยสีขาว สีเหลือง สีส้ม สีเทา และสีชมพู จะเริ่มวางจำหน่ายเดือนตุลาคม แต่สีดำขายก่อนใครเพื่อน ตั้งแต่วันวางจำหน่าย Galaxy Note 3 เลย

แบตเตอรี

สารภาพตามตรงว่า พูดค่อนข้างลำบาก เพราะว่า ตอนที่ผมรับ Galaxy Gear มา เครื่องแรกก็ Error กระจุยอย่างที่บอก ส่วนเรือนที่ 2 ที่ได้รับมาก็มาพร้อมกับแบตเตอรีที่กำลังจะหมด พอมาตอนเช้าผมได้ชาร์จ Galaxy Gear จนเต็ม ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ลองถ่ายภาพ ใช้ฟีตเจอร์ต่างๆ ที่มีอยู่ใน Galaxy Gear แบตเตอรีก็ลดค่อนข้างเยอะเหมือนกัน โดยนัยที่ผมจะกล่าวคือ Galaxy Gear อาจจะใช้ได้ไม่เต็มวัน

วิเคราะห์

จากการทดสอบการใช้งาน Galaxy Gear แบบเร็วๆ ไม่ถึง 24 ชม. ผมว่าไลน์โพรดัคต์ Galaxy Gear จะเหมือนกับตอนครั้งที่เปิดตัว Galaxy Note รุ่นแรก คือเป็นรุ่นที่เปิดมาเพื่อทดลองตลาด ด้วยการใส่คอนเซปต์ที่น่าสนใจลงตัวเครื่อง จากนั้นก็จะเรียนรู้จากผู้ใช้ว่า ฟังก์ชันที่มีมานั้น อันไหนบ้างที่เวิร์กก็จะยังคงอยู่ต่อไป ส่วนอันไหนไม่เวิร์กก็ตัดทิ้งออกไป

ดังนั้นแล้วความน่าสนใจจริงๆ ของ Galaxy Gear จะอยู่ในรุ่นต่อไปจากนี้มากกว่า

ส่วนตัวผมยังเชื่อว่า Galaxy Gear ยอดจำหน่ายคงไม่เยอะถึงขั้นถล่มทลาย เนื่องด้วยมันยังมีข้อจำกัดตรงที่ว่า ต้องใช้งานกับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของซัมซุงเท่านั้น ซึ่งในระหว่างนี้จะใช้ได้เฉพาะ Galaxy Note 3 เท่านั้น กว่าไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ อย่าง Galaxy S4, Galaxy S3, Galaxy Note 2 และ Galaxy Tab 10.1 จะใช้ได้ก็ต้องรอไปจนถึงเดือนธันวาคม และเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ตลาด Wearable Devices หรือ Smartwatch ก็อาจมีรุ่นอื่นที่น่าสนใจกว่า Galaxy Gear แล้วก็ได้

ที่สำคัญ Galaxy Gear มีเครื่องหมายคำถามที่สำคัญอย่างใหญ่หลวงว่า การเสียเงิน 8,900 บาท กับการได้นาฬิกาที่คู่กับสมาร์ทโฟน มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่ ? เพราะเมื่อนาฬิกามันไม่ได้เป็นแต่เพียงสำหรับบอกเวลา แต่มันยังหมายถึงรสนิยมของผู้สวมใส่อีกด้วย

from:http://mobiledista.com/sneak-preview-galaxy-gear/

Nismo นาฬิกาสำหรับเชื่อมต่อรถยนต์จาก Nissan

ไม่ใช่แค่บรรดาบริษัทไอทีที่แห่กันทำนาฬิกามาลุยตลาดกันในปีนี้ เพราะแม้แต่บริษัทผลิตรถยนต์อย่าง Nissan ก็เป็นอีกรายที่ลงมาเล่นในตลาดเช่นกันในชื่อ Nismo

การที่ Nismo มาจากบริษัทผลิตรถยนต์ทำให้ฟีเจอร์หลักคือการเชื่อมต่อกับรถยนต์เพื่อแสดงข้อมูลรถอย่างความเร็วเฉลี่ย อัตราการบริโภคน้ำมันแบบเรียลไทม์ และข้อมูลของผู้ขับโดยวัดจากอัตราการเต้นหัวใจ รวมถึงการข้อความแจ้งเตือนจากในรถ และโซเชียลเน็คเวิร์คด้วย

แม้ว่าจะเป็นนาฬิกา แต่หน้าตาของ Nismo จะคล้ายกับกำไลข้อมือเสียมากกว่า นอกจากเชื่อมต่อกับรถแล้ว ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเพื่อดูข้อมูลที่เก็บจากนาฬิกาได้อีกด้วย สำหรับอายุการใช้งานของ Nismo นั้น Nissan เคลมว่าอยู่ได้เจ็ดวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

อย่างไรก็ตามตอนนี้ Nismo ยังไม่เริ่มผลิตจริง และ Nissan มีจะนำ Nismo ไปโชว์ของในงาน Frankfurt Motor Show ที่จะเริ่มจัดพรุ่งนี้ครับ

ที่มา – The Next Web

Nissan, Smartwatch, Gadget, Automobile

from:http://www.blognone.com/node/48389

Qualcomm เปิดตัวนาฬิกาของตัวเองแล้ว ใช้ชื่อ Toq

กระแสนาฬิกาฉลาดตอนนี้มีผู้ผลิตอีกรายที่ร่วมด้วย คือ Qualcomm ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ที่เปิดตัวนาฬิกา Toq ออกมา จุดเด่นสำคัญคือมันใช้จอ Mirasol ที่เป็นจอในตระกูล e-ink แบบมีสี ขณะที่แบตเตอรี่น่าจะอยู่ได้ 3 ถึง 5 วัน

ช่วงแรก Toq จะทำงานร่วมกับแอนดรอยด์ได้เท่านั้น และจะรองรับ iOS ในภายหลัง

ราคายังไม่แจ้ง แต่จะขายในไตรมาสสี่ของปีนี้ สำหรับใครที่มองหานาฬิกาแนวนี้อยู่ Toq น่าจะเทียบกับ Pebble ที่เทคโนโลยีคล้ายกันมากกว่าแนวทางเน้นใส่ทุกอย่างแทนโทรศัพท์เหมือน Galaxy Gear

ที่มา – ArsTechnica

Smartwatch, Qualcomm

from:http://www.blognone.com/node/48246

วิจัยพบ Apple และ Samsung จะดันยอดขาย “smartwatch” เพิ่ม 36 เท่าตัวใน 5 ปี

บริษัทวิจัย Juniper Research ฟันธง Apple และ Samsung จะทำให้ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือ smartwatch เติบโตสุดขีด โดยอีก 5 ปีข้างหน้า 2 ยักษ์ใหญ่ไอทีจะช่วยผลักดันให้ยอดจัดส่ง smartwatch เพิ่มขึ้น 36 เท่าตัว จากที่มีไม่ถึง 1 ล้านเครื่องในปัจจุบัน ก็จะเติบโตเป็น 36 ล้านเครื่องต่อปีในปี 2018

Juniper Research ระบุว่าจากการศึกษาเซ็กเมนต์ตลาดอุปกรณ์เพื่อผู้บริโภคหรือคอนซูเมอร์ พบว่า Apple และ Samsung จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดอย่างแท้จริง แม้ทั้งคู่จะยังไม่เปิดจำหน่าย smartwatch ก็ตาม

Nitin Bhas นักวิเคราะห์ของ Juniper เชื่อว่าการเปิดตลาดนาฬิกาอัจฉริยะของ Apple และ Samsung จะประโยชน์กับบริษัทอย่าง Sony รวมถึง Pebble ที่เริ่มเปิดตลาดนาฬิกาข้อมือที่สามารถควบคุมการเล่นเพลง, แจ้งเตือนข้อความหรือข้อมูลรับเข้า และสามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมเชิงสุขภาพได้ในขณะนี้ เนื่องจาก Apple และ Samsung จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้เรื่องราวความสามารถของ smartwatch จนทำให้ผู้บริโภคหันมาตัดสินใจซื้อ smartwatch ไปใช้งานได้เร็วขึ้น

ไม่เพียงผู้เล่นในตลาด smartwatch แต่ตลาดอุปกรณ์เสริมพกพาเทคโนโลยีไร้สายนั้นจะเติบโตตามไปด้วย จุดนี้คาดว่าตลาด mobile wireless accessory จะมีมูลค่ามากกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 โดยผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมเหล่านี้จะร่วมเกาะกระแสตลาด smartwatch ด้วยการสร้างอุปกรณ์ติดเซ็นเซอร์ขนาดจิ๋วเพื่อการติดตามหรือรับส่งข้อมูลต่างๆไปแสดงยัง smartwatch ถือเป็นอีกอุตสาหกรรมที่จะมาแรงตามตลาด smartwatch แน่นอน

นอกจากนี้ ตลาดแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับ smartwatch ก็เชื่อว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งแอปพลิเคชันประเภทสุขภาพ การกีฬา การลดน้ำหนัก รวมถึงแอปพลิเคชันเพื่อการสื่อสาร

ทราบแบบนี้แล้ว อย่ารอช้ารีบศึกษาและเตรียมกระเป๋าเพื่อกระโดดขึ้นรถไฟแห่งกระแสโลกให้ทันก่อนใคร

ที่มา: VentureBeat

from:http://thumbsup.in.th/2013/09/apple-and-samsung-to-boost-smartwatch-shipments-36x-in-next-5-years/

เผยภาพหน้าจอนาฬิกา Galaxy Gear และแอพ Gear manager เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

มีภาพหลุดออกมาอีกครั้งกับภาพหน้าจอใช้งานนาฬิกาบน Galaxy Gear และแถมท้ายด้วยภาพแอพ Gear manager เชื่อมต่อ Galaxy Gear กับสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy ด้วย NFC พร้อมการเซตค่าต่างๆของ Galaxy Gear ผ่านสมาร์ทโฟน อดใจรออิดนิดคาดว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกเปิดเผยออกมาให้วันที่ 4 กันยายนที่จะถึงนี้แล้ว

ที่มา – @evleaks

 

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=70019

สื่อนอกตีข่าวภาพแรก Galaxy Gear พร้อมสเปกและความสามารถ

สื่อต่างประเทศเผยภาพแรกของนาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Gear ก่อนวันเปิดตัวจริงในงาน IFA 2013 หลุดคราวนี้บอกทั้งฟีตเจอร์และสเปกเครื่อง

เว็บไซต์ VentureBeat รายงานว่า พวกเขาได้มีโอกาสสัมผัสนาฬิกาอัจฉริยะของซัมซุงอย่าง Galaxy Gear แล้ว โดยได้มีการถ่ายภาพตัวเครื่องซึ่งเป็นรุ่นโปรไตไทป์มาด้วย

 

โดยความสามารถของ Galaxy Gear ทาง VentureBeat ระบุว่า ภายในจะมีฟีตเจอร์ที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะทางฝั่งคุ้นเคยฝังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการด้วยเสียงอย่าง Samsung S Voiceมีแอปพลิเคชันด้าน Social Network รวมถึงแอปพลิเคชันด้านการออกกำลังกายฝังมาในนาฬิกา, ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนซัมซุงตระกูล Galaxy S และแท็บเล็ตได้, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า จากภาพตัวโปรโตไทป์ Galaxy Gear มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่านาฬิกาพื้นฐานที่ใช้งานกันอยู่ทั่วไป ทำให้มีการคาดเดาว่า อาจสร้าความไม่สะดวกขณะสวมใส่นาฬิการุ่นนี้ก็เป็นได้

นอกเหนือจากนั้น ยังมีสเปกของ Galaxy Gear ออกมาด้วย ซึ่งมีดังนี้

• ขนาดหน้าจอ 2.5 นิ้ว OLED ความละเอียด 320×320 พิกเซล
• แบตเตอรีใช้ได้นาน 10 ชม.
• ชิปประมวลผลดูอัลคอร์ 1.5GHz
• กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล 720p
• มีลำโพง บริเวณสายรัดข้อมือ
• มาพร้อมเซ็นเซอร์ Accelerometer
• บลูทูธ 4.0
• ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Jelly Bean
• RAM 1GB
• มี 2 ขนาด 8GB และ 16GB

คำถามที่น่าสนใจ คือ การที่ Galaxy Gear ใช้งานได้ราว 10 ชม. อาจทำให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักไม่น้อยถ้าจะซื้่อมารัดข้อมือ เพราะมันคงเป็นเรื่องลำบากน่าดูกับการที่นาฬิกาใช้งานได้เพียงแค่ 10 ชม.

ที่มา: AndroidHeadline ผ่าน VentureBeat 

from:http://mobiledista.com/samsung-galaxy-gear-finally-leaked-along-with-specs-and-features/

Apple กับ Samsung จะครอบงำตลาด smartwatch อีกไหม?

เป็นที่ค่อนข้างชัดว่า 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple กับ Samsung ได้ครอบงำตลาด smartphone ในโลกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองบริษัทจะครอบครองตลาด wearable computers อย่างน้อยคนที่ออกมาพูดก็คือ CEO ของ Broadcom นาย Scott McGregor ซึ่งพูดทำนองว่าบริษัทอื่นยังพอมีหนทางอยู่ว่า

ทุกวันนี้ดูเหมือน 2 บริษัทนี้จะครอบครองมากกว่าครึ่งของตลาด smartphone ทั่วโลก แต่สำหรับตลาด “wearables” หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่สวมใส่ได้นั้นจะแตกต่างไปเพราะมันยังมีช่องว่างให้กับ “smartwatch เฉพาะกลุ่ม” ที่ได้รับเงินทุนในระบบระดมทุนออนไลน์อย่าง Kickstarter อย่างเช่น smartwatch สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงที่อยากจะติดตามพฤติกรรมและนิสัยของสัตว์เลี้ยง

แต่อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์ BGR ซึ่งเป็นแหล่งข่าวนี้ได้ออกความเห็นว่าถึงตลาด wearable device อย่างพวก smartwatch จะยังไม่ได้ถูกใครครอบงำก็ตามที แต่ก็จะมองข้าม Samsung ไปไม่ได้ เพราะ 1-2 ปีที่ผ่านมาทุกคนก็คงเห็นแล้วว่ามีผลิตภัณฑ์ Samsung Galaxy ออกมาถึง 26 ขนาดหน้าจอ มันจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลิต smartwatch แบบ Galaxy Gear สำหรับคนที่มีความต้องการเฉพาะแบบต่างๆ ไป และซอยรุ่นออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายผ่าน Android

สำหรับตลาด smartwatch ตอนนี้ Sony เองก็เตรียมจำหน่าย Sony Smartwatch 2 กันออกมาก่อนที่คาดกันว่าราคาจะมาราวๆ 8,000 บาท ส่วน Samsung คาดว่าจะเปิดตัววันที่ 4 กันยายนนี้พร้อม Galaxy Note 3 (ซึ่งอาจวางขายตุลาคม) ส่วน Apple มีแต่ข่าว iPhone 5S, iPhone 5C แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า “iWatch” จะมาเมื่อไหร่ แต่น่าจะเป็นก่อนปลายปีนี้ แล้วคุณล่ะ คิดว่าจะเป็นเจ้าของ wearable device เหล่านี้บ้างหรือเปล่า เพราะอะไร?

ที่มา: BGR

from:http://thumbsup.in.th/2013/08/how-apple-and-samsung-will-dominate-smartwatch/