ด้วยการเชื่อมต่อบล็อกเชนผ่านระบบ API (Application Program Interface) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบ Loyalty Program ผ่านแพลทฟอร์มที่ลงทะเบียนไว้ และสามารถสะสม และใช้งานคะแนนจากพันธมิตรที่หลากหลายได้ผ่านแพลทฟอร์มเดียว โดยระบบจะคำนวณคะแนนของแต่ละพันธมิตรได้อย่างอัตโนมัติ และข้อมูลการใช้งานแพลทฟอร์มสามารถต่อยอดให้กับธุรกิจในการพัฒนาสินค้าและบริการ ทั้งยังรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
จากประสบการณ์การให้บริการ Loyalty Program กับองค์กรทั่วโลก พบว่าแบรนด์ต่างๆ จะมองเห็นถึงความสำคัญของการนำ Loyalty Program เข้ามาให้บริการลูกค้า แต่หลายองค์กรยังมีข้อจำกัดด้านการพัฒนาระบบให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความซับซ้อนในขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม Loyalty Program ทำให้ผู้ใช้งานยกเลิกการเข้าร่วมระบบสมาชิก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีพันธมิตรและคู่ค้าที่หลากหลาย โดยสร้างระบบสมาชิกแยกออกจากกัน
ในวันที่ 21 ตุลาคม 2022 ที่ผ่านมานี้ ทางทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Conference NDBS Thailand & SAP User Conference 2022 ซึ่งเป็นงาน Conference ใหญ่ประจำปีที่ได้รวมลูกค้าผู้ใช้งาน SAP กว่า 300 รายมาร่วมอัปเดตเทคโนโลยีและแบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน SAP ซึ่งภายในงานก็มีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย และทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำสรุปเอาไว้ดังนี้นะครับ
NDBS Thailand ขอขอบคุณลูกค้าทั่วไทย กับสถิติลูกค้า SAP ในไทยมากกว่า 500 ราย
Khun Wisit Wirayagorn Managing Director , NTT DATA Business Solutions Thailand
งาน Conference ครั้งนี้เปิดงานโดยคุณวิศิษฐ์ วิระยากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นทีที เดต้า บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมากล่าวขอบคุณถึงลูกค้าทุกๆ รายที่ทำให้ NDBS Thailand หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อเดิมว่า ISS Consulting สามารถเติบโตมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ ด้วยการมีลูกค้าธุรกิจองค์กรไทยที่ไว้วางใจใช้บริการจาก NDBS Thailand มาแล้วถึง 518 ราย โดยมีธุรกิจองค์กรที่เลือกใช้ SAP S/4HANA และ SAP ECC 6.0 รวมกันเกือบ 200 ราย และ SAP Business One เกินกว่า 100 รายแล้วในทุกวันนี้
ประเด็นหนึ่งที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ NDBS Thailand ในปีนี้ ก็คือการที่ ISS Consulting ได้ทำการ Rebrand เมื่อต้นปี 2022 มาสู่การเป็นบริษัทหนึ่งในเครือของ NTT DATA ภายใต้ชื่อ NTT Data Business Solutions หรือ NDBS Thailand ซึ่งถึงแม้ทีมงานทั้งหมดจะยังคงเป็นทีมงานเดิมของ ISS Consulting แต่ด้วยโอกาสใหม่ๆ และความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับบริษัทอื่นในเครือของ NTT ก็ทำให้ NDBS Thailand มีการเติบโตที่น่าสนใจมาก ทั้งในแง่ของฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นและเปิดไปสู่ตลาดโลกมากขึ้น ไปจนถึงความร่วมมือในเชิงเทคโนโลยีเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของ NDBS Thailand
ทั้งนี้ในงาน NDBS Thailand & SAP User Conference 2022 ปีนี้ ก็จัดขึ้นในธีม Follow the Path to SAP Cloud Solutions เพื่อตอกย้ำถึงการก้าวสู่การเป็น Cloud Business อย่างเต็มตัวของ SAP และ NDBS Thailand ร่วมกัน ซึ่งในงานครั้งนี้ก็ได้มีพันธมิตร อย่างเช่น Microsoft Azure และ AWS มาออกบูธเพื่อให้ลูกค้าที่ใช้งาน SAP อยู่สามารถเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน SAP Cloud Solutions บนผู้ให้บริการ Cloud ชั้นนำระดับโลกทั้งสองรายนี้ได้
Digital Core Experience เล่าถึงโซลูชัน RISE with SAP และ SAP S/4HANA เป็นหลัก เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำ Business Transformation ได้อย่างง่ายดายบนบริการ Cloud ด้วย SAP S/4HANA Cloud, RISE with SAP on Azure, RISE with SAP on AWS และการอัปเกรดจาก SAP ECC 6.0 มาสู่ SAP S/4HANA
Intelligent Enterprise Solution & Innovation เล่าถึงโซลูชันของ SAP สำหรับตอบโจทย์ Business Unit ต่างๆ นอกเหนือจากโซลูชันหลักอย่าง ERP ไม่ว่าจะเป็น SAP CX, Qualtrics, SAP Ariba, HXM – SAP SuccessFactors และ SAP Analytics Cloud, ที่มีความสามารถใหม่ๆ ในการวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำและครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม พร้อมโซลูชันที่สามารถต่อยอดศักยภาพจากระบบ Business Application ทั้งหมดของ SAP ได้ ไม่ว่าจะเป็น SAP Integrated Business Planning (IBP) สำหรับการวางแผนด้าน Supply Chain โดยเฉพาะ, SAP Business Technology Platform (BTP) สำหรับการพัฒนาระบบต่อยอดจาก SAP ด้วย Low-Code และ SAP iRPA สำหรับทำ Automation ด้วย Robot รวมถึง SAP Concur เพื่อจัดการด้าน Business Expense
SAP Business One Solution เล่าถึงโซลูชันระบบ ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ตลาดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมตั้งแต่การเริ่มต้นวางระบบใหม่ ไปจนถึงการต่อยอดและอัปเกรดจากระบบเดิมที่มีอยู่ แนะ Solution Adds-On ที่ทาง NDBS Thailand พัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าในประเทศไทย
ความท้าทายที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญในปี 2022-2023 พร้อมวิสัยทัศน์แห่งอนาคตจาก SAP
Khun Atul Tuli, Managing Director, SAP Indochina
คุณ Atul Tuli ผู้ดำรงตำแหน่ง Managing Director แห่ง SAP Indochina ได้ขึ้นมาเล่าถึงภาพของปัจจุบันและอนาคตที่ธุรกิจทั่วภูมิภาคอินโดจีนต้องเผชิญ ด้วยคำว่า “Never Normal” หรือการที่ธุรกิจจะไม่สามารถกำลับไปดำเนินการได้อย่างในอดีตอีกต่อไป และต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากปัจจัยใหม่ๆ ที่ยังคงผันผวนอยู่ตลอด
ในมุมของ SAP นั้น คุณ Atul ได้สรุปถึงความท้าทายที่ธุรกิจจะต้องเผชิญหลังจากนี้ด้วยกัน 3 ประการ
Business Transformation ที่จะยังคงต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและหยุดยั้งไม่ได้ แม้ว่าธุรกิจจะเคยทำการ Transform ตัวเองไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีและปัจจัยภายนอกก็จะยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่กระบวนการต่างๆ ของธุรกิจเองก็มีความหลากหลาย ที่ผ่านมามีเพียงน้อยรายเท่านั้นที่สามารถ Transform ได้ครบทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการทำ Business Transformation จึงจะอยู่คู่กับธุรกิจทั่วโลกไปอีกนาน
แน่นอนว่า SAP เองก็ได้มีการพัฒนาโซลูชันหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาช่วยธุรกิจตอบโจทย์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น RISE with SAP ที่ช่วยให้การทำ Business Transformation เป็นไปได้ด้วยการนำ Cloud มาเร่งความเร็วในการใช้เทคโนโลยี และช่วยให้ธุรกิจสามารถโฟกัสกับการ Transform ตนเองได้อย่างต่อเนื่อง หรือ SAP Ariba ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงเครือข่ายของ Supplier ได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ด้านการเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Supply Chain หรือการเสริมความสามารถด้านการทำ Sustainability Report เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการลดมลภาวะหรือ CO2 ที่ปล่อยออกมาในการดำเนินธุรกิจ และสร้างเป็นรายงานสำหรับใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน และตอบโจทย์ด้าน ESG Report ได้
ทางด้านคุณนพดล เจริญทอง Head of Mid-market for Thailand and Emerging แห่ง SAP Indochina ก็ได้เล่าถึงวิสัยทัศน์โดยรวมของ SAP ที่ต้องการช่วยให้ธุรกิจองค์กรไทยก้าวสู่การเป็น Sustainable Intelligent Enterprise ได้อย่างยั่งยืน ด้วยโซลูชันที่หลากหลายจาก SAP ซึ่งไม่ได้มีเพียง ERP เพียงอย่างเดียว เช่น
Khun Noppadon Chareonthong Head of MID Market Indochina and Emerging, SAP Indochina
Sustainability Solution เป็นหนึ่งในสิ่งที่เสริมเข้ามาใน SAP เพื่อตอบโจทย์ด้าน ESG โดยเฉพาะ ซึ่ง SAP มีครอบคลุมตั้งแต่ส่วนของการติดตามกระบวนการและการเงินที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง CO2, การวิเคราะห์ Carbon Footprint, การจำลองสถานการณ์ว่าถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการใดๆ แล้วจะส่งผลต่อ CO2 อย่างไร ไปจนถึงการออกรายงาน ESG Report สำหรับส่งมอบในตลาดหลักทรัพย์
SAP Business Technology Platform (BTP) ซึ่งทำหน้าที่เป็น Platform กลางสำหรับให้ธุรกิจสามารถเชื่อมผสานความสามารถและข้อมูลของแต่ละระบบใน SAP เพื่อสร้างเป็นโซลูชันใหม่ๆ หรือทำ Data Warehouse ได้ตามต้องการอย่างรวดเร็วในแบบ Low-Code/No-Code และทำงานร่วมกับโซลูชันด้าน Automation ต่างๆ ที่ SAP มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น AI, Chatbot, RPA ก็ตาม อีกทั้งยังมี Guideline สำหรับการผสมผสานแต่ละระบบเพื่อรองรับกรณีการใช้งานในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจองค์กรนำไปปรับประยุกต์ใช้งานได้โดยง่าย
คุณ Atul และคุณนพดลได้ทิ้งท้ายไว้ว่า SAP กับ NDBS Thailand นั้นมีเป้าหมายร่วมกันในการเร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจองค์กรไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็น Sustainable Intelligent Enterprise ซึ่งหลังจากนี้ความร่วมมือระหว่าง SAP และ NDBS ก็จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากขีดความสามารถใหม่ๆ ของ NDBS ที่ได้รับจากการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ NTT และโซลูชันใหม่ๆ ที่พัฒนาโดย SAP ซึ่งจะนำมาปรับใช้ให้บริการในไทยได้มากขึ้นหลังจากนี้
ก้าวสู่ Cloud อย่างเต็มตัว ไปกับสองพันธมิตรใหม่ Microsoft Azure และ AWS
ในงาน Conference ครั้งนี้ NDBS Thailand ยังได้เปิดตัวถึงพันธมิตรใหม่สองรายอย่าง Microsoft Azure และ AWS ที่จะเป็นผู้ให้บริการ Cloud Infrastructure สำหรับการให้บริการ SAP Cloud Solutions โดยมีทีมงานของ SAP คอยดูแลรักษาระบบให้ตลอด 24 ชั่วโมงบนบริการ Cloud ชั้นนำเหล่านี้
SAP on Azure
Khun Vasupon Thankakan Microsoft Azure Business Group Lead
Microsoft นั้นสามารถรองรับการใช้งาน SAP บน Azure ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น RISE with SAP, SAP HANA, SAP S/4HANA, SAP BW/4HANA, SAP Business Suite, SAP HEC, SAP Business One และอื่นๆ อีกมากมาย โดยทาง Microsoft ได้มีการพัฒนา Azure Center for SAP Solutions ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งใช้งาน SAP บน Azure พร้อมการดูแลรักษา, เสริมความมั่นคงปลอดภัย และการติดตามค่าใช้จ่ายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายจากศูนย์กลาง
ในแง่ของการต่อยอด SAP นั้น Azure เองก็สามารถรองรับได้อย่างหลากหลาย เช่น ใช้ MS 365 และ MS Teams เชื่อมต่อกับ SAP โดยตรง สามารถนำข้อมูลจาก SAP มาแสดงใน Teams เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร ประสานงาน และประชุมงานอย่างมั่นคงปลอดภัยมี Azure Virtual Desktop ให้บน Cloud สามารถใช้เป็นอุปกรณ์หลักในการเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลธุรกิจสำคัญบน SAP ได้อย่างวางใจสามารถนำข้อมูลจาก SAP มาวิเคราะห์ได้บน Microsoft Power BI หรือทำโซลูชัน Low-Code/No-Code และ Automation ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ใน Microsoft Power ได้ สามารถนำโซลูชันด้าน AI จาก Microsoft มาใช้ต่อยอดวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจใน SAP ร่วมกับข้อมูลภายนอกได้่ สามารถใช้ Microsoft Azure IoT เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT และระบบ OT ภายในธุรกิจขึ้นสู่ SAP ได้ มี Microsoft Hololens สำหรับใช้เชื่อมต่อข้อมูลจาก SAP มาสู่ Mixed Reality Application ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้
Discussion Panel: แบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน SAP ระหว่างผู้ใช้งานในกลุ่มหลากหลายอุตสาหกรรม
สำหรับในงาน Conference ครั้งนี้ ไฮไลท์หนึ่งก็คือการแบ่งประสบการณ์ระหว่างธุรกิจองค์กรไทยที่มีการใช้งานโซลูชันต่างๆ ของ SAP เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริหารธุรกิจอื่นๆ ได้สามารถนำไปต่อยอดได้
สำหรับในช่วงเช้านั้นจะเป็น Discussion Panel ของธุรกิจองค์กรไทยที่ใช้โซลูชันที่น่าสนใจอย่างหลากหลายจาก SAP ได้แก่
บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด(มหาชน) เลือกใช้ SAP S/4HANA มาได้เป็นเวลา 5 ปีแล้ว ซึ่ง SAP ถือเป็นโซลูชันที่ผสานรวมข้อมูลจากแผนกที่หลากหลายให้กลายเป็นข้อมูลกลางชุดเดียวกันได้ จึงง่ายต่อการนำไปใช้ในการบริหารธุรกิจ และยังมี SAP for Steel Business ที่ช่วยให้การใช้งาน SAP เพื่อรองรับธุรกิจเฉพาะทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น รวมถึงยังมีการต่อยอดระบบนำ IoT มาประยุกต์ใช้งานรับข้อมูลจากเครื่องจักรเพื่อนำมาป้อนเข้าระบบ SAP โดยตรง สามารถลดการทำงานและเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลได้ดี
บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย ที่ตัดสินใจวางระบบ SAP ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดบริษัทเลย เพื่อวางมาตรฐานการทำงานให้เป็นระบบตั้งแต่ก้าวแรก โดยเลือกใช้ SAP ByDesign ที่สามารถขึ้นระบบได้เร็วและมี Best Practice ให้นำไปประยุกต์ใช้งาน และสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีความคล่องตัวสูงได้
บริษัท มอนเด นิสซิน (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนการใช้งานจากระบบ ERP เดิมที่มีปัญหาเยอะและเลิกพัฒนาต่อ มาสู่การใช้ SAP S/4HANA เพื่อบริหารธุรกิจ โดยปรับใช้ Best Practice ของ SAP ในการจัดเก็บข้อมูลและออกรายงานทางธุรกิจ ทำให้การตัดสินใจในเชิงธุรกิจกลายเป็น Data Driven ทั้งหมด และทำการ Integrate ระบบอื่นๆ เข้ากับ SAP เพื่อให้ SAP กลายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งในอนาคตก็มีแผนที่จะนำระบบ IoT เข้ามาเชื่อมผสานสกับ SAP ด้วย
บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เดิมทีมีการใช้งาน SAP อยู่แล้ว แต่ล่าสุดได้มีการนำ SAP Ariba มาเสริมในการบริหารจัดการด้านการจัดซื้อ เนื่องจากธุรกิจนั้นต้องเน้นการ Sourcing ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นหลัก ทำให้การต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้ Ariba Network ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมโยงถึง Supplier ทั่วโลกได้นั้น ทำให้ขอบเขตของการ Sourcing ทำได้อย่างกว้างขวาง รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้ดี และยังได้ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อให้เป็นไปตาม Best Practice ของ SAP Ariba ด้วยเช่นกัน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหน่วยงานภาครัฐที่ได้ใช้ SAP S/4HANA ในการบริหารจัดการโครงการและการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อสร้างความคล่องตัวในการดำเนินงานให้สูงขึ้น โดยมีการแบ่งปันถึงหัวใจสำคัญในการขึ้นระบบ SAP ให้ประสบความสำเร็จว่า ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้บริหารและทีมงานในการออกแบบระบบให้สอดคล้องต่อการทำงาน ไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ซึ่งการศึกษาและทำความเข้าใจกับ Best Practice ของ SAP ก่อนนำมาปรับใช้นั้นถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยในโครงการลักษณะนี้
บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) ใช้ SAP และ SAP BPC ในการบริหารจัดการธุรกิจที่มีบริษัทลูกหลากหลายและมีสาขาในต่างประเทศจากศูนย์กลาง โดยการใช้กระบวนการต่างๆ ของ SAP เพื่อปรับให้กระบวนการทำงานในแต่ละประเทศมีความเป็นมาตรฐาน และตรงตาม ข้อบังคับทางกฎหมายของแต่ละประเทศได้ ในขณะที่ก็ยังคงต้องสามารถนำข้อมูลการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศมาผสานวิเคราะห์รวมกันได้
ส่วนในช่วงบ่ายนั้นก็เป็น Discussion Panel ของ SAP Business One โดยเฉพาะ ซึ่งก็มีธุรกิจ 4 แห่งที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ดังนี้
บริษัท จำเริญแพทย์ภัณฑ์ จำกัด ใช้ SAP Business One เชื่อมต่อกับระบบ Warehouse Management System เพื่อบริหารธุรกิจไปจนถึงส่วนของคลังสินค้า โดยให้ข้อคิดว่าก่อนขึ้นระบบ SAP ควรจะมีเป้าหมายของธุรกิจที่ชัดเจนก่อน เพื่อให้การตัดสินใจทำหรือไม่ทำแต่ละสิ่งบน SAP นั้นเป็นไปได้อย่างเหมาะสม และทำให้ได้รับระบบที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดมาใช้งาน
บริษัท โอเร็กซ์ เทรดดิ้ง จำกัด ใช้ SAP Business One เชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการคลังสินค้าและ E-Commerce ซึ่งมีบทเรียนว่าการเลือก Implementer ที่ดีจะทำให้โครงการ SAP ประสบความสำเร็จได้ และการ Clean ข้อมูลก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะปรับให้ธุรกิจสามารถทำงานบนระบบดิจิทัลได้อย่างคล่องตัว
บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จํากัด เป็นอีกธุรกิจที่ใช้ SAP Business One เชื่อมต่อกับ Warehouse Management System เช่นกัน รวมถึงยังทำ IBP โดยการใช้ Cloud ทำให้ระบบสามารถเพิ่มขยายจากการมีเพียง 20 SKU ไปสู่ 400 SKU จำหน่ายตามหน้าร้านใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีข้อมูลเติบโตขึ้นอย่างมหาศาลได้โดยไม่หยุดชะงัก
บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เลือกใช้ SAP Business One บริหารจัดการโรงไฟฟ้า 27 แห่งที่แยกออกเป็นหลายบริษัทย่อยภายในเครือได้จากศูนย์กลาง เพื่อให้มีข้อมูลที่เป็นมาตรฐานพร้อมต่อการเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ และเมื่อมีการขยายธุรกิจจากเดิมที่ทำพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก มาสู่พลังงานชีวมวลด้วย ก็ทำให้สามารถบริหารจัดการคลังและการจัดซื้อวัตถุดิบซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมได้อย่างยืดหยุ่น
NDBS Thailand ขอขอบคุณลูกค้าทุกราย ที่ให้ความไว้วางใจในการติดตั้งและดูแลรักษาระบบ SAP มาตลอด 23 ปี
สุดท้ายคุณวิศิษฐ์ ได้กล่าวขอบคุณต่อลูกค้าของ NDBS Thailand หรืออดีต ISS Consulting ที่ให้ความไว้วางใจมาตลอด 23 ปีที่ผ่านมามากกว่า 500 องค์กร ที่ทำให้งานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี อีกทั้งยังได้กล่าวขอบคุณต่อเหล่าพันธมิตรรายใหม่ๆ อย่าง Microsoft และ AWS ที่มาร่วมจัดงานกันในครั้งนี้เพื่อให้ความรู้แก่ชุมชนผู้ใช้งาน SAP ในการก้าวไปสู่การใช้งาน Cloud ได้อย่างมั่นใจ
สำหรับในปีหน้า ทาง NDBS Thailand ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะจัดงาน NDBS Thailand & SAP User Conference 2023 ต่อไปอย่างแน่นอน และจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจไทย และนวัตกรรมใหม่ๆ จาก SAP อย่างอัดแน่นเช่นเคย
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.
บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing-solutions-th@nttdata.com หรือ www.nttdata-solutions.com
คุณวิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา NTT DATA Business Solutions (Thailand ) ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ในการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ประกอบการยุคใหม่บนฐานนวัตกรรมและวิถีชีวิตใหม่ในยุคดิจิทัล ( Digital Next Normal Entrepreneur & Innovation)
บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing-solutions-th@nttdata.com หรือ http://www.nttdata-solutions.com.
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.
SHU GLOBAL: จากความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหารองเท้าที่สวมใส่ไม่สบาย สู่เป้าหมายการเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลก
หากพูดถึงชื่อของ SHU GLOBAL หลายๆ คนก็คงนึกถึงร้านขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ SHU ที่เราพบเห็นได้ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง ที่ตกแต่งร้านอย่างสวยงาม พร้อมสินค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
คุณวริษฐาได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ SHU GLOBAL นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน ที่คุณป้อ กรกนก สว่างรวมโชค เจ้าของ SHU GLOBAL ที่ในยามนั้นมีชื่อเดิมว่า SHUBERRY มุ่งมั่นจะสร้างแบรนด์รองเท้าผู้หญิงซึ่งสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย และกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว จนต่อมาคุณป้อประสบปัญหาเป็นโรครองช้ำจากอุบัติเหตุข้อเท้าหัก ทำให้รองเท้าที่ตนเองเคยเชื่อว่าออกแบบมาให้สวมใส่ได้สบายนั้นกลับกลายเป็นไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป และได้พัฒนาเป็นรองเท้ารุ่นใหม่ “SOFASHOES” ที่สามารถตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายต่อยอดยิ่งขึ้นกว่าเดิม พลิกธุรกิจของ SHU GLOBAL ให้ยิ่งเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ด้วยความมีเอกลักษณ์และตอบโจทย์รองเท้าแฟชั่นสตรีที่ทั้งสวยงามและสวมใส่ได้สบายอย่างแท้จริง เป้าหมายของ SHU GLOBAL จึงเติบใหญ่ เตรียมขยายแบรนด์สู่ต่างประเทศ ทำให้มีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่จาก SHUBERRY มาสู่ SHU เมื่อปี 2018 เพื่อนำเสนอแนวคิดการออกแบบและนวัตกรรมทางด้านแฟชั่นจากประเทศไทยออกไปสู่ตลาดโลก
ในปัจจุบันนี้ SHU GLOBAL มีพนักงานกว่า 200 คน ในหน้าร้านกว่า 30 แห่งและช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายไม่ได้มีเพียงแค่สินค้าที่เป็นรองเท้าแฟชั่นอย่างเดียว แต่ยังมีเสื้อผ้า กระเป๋า และสินค้าแฟชั่นอื่นๆ สำหรับสุภาพสตรี รวมถึงยังมีรองเท้าผู้ชาย และรองเท้าเด็ก ที่ยังคงยึดมั่นในเอกลักษณ์เรื่องความสบายในการสวมใส่ โดยล่าสุดนี้ยังได้มีการเปิด SHU GALLERIA @ CENTRAL WORLD และ SHU CAFÉ RUNWAY SIAM SQUARE ที่จะเป็น Lifestyle Cafe ผสมผสานระหว่างแฟชั่นและร้านคาเฟ่ สำหรับการส่งมอบประสบการณ์ของ SHU GLOBAL สู่ลูกค้าในแง่มุมใหม่ๆ และเสริมความเข้มแข็งให้กับแบรนด์ของ SHU GLOBAL เอง
คุณวริษฐาได้แบ่งปันมุมมองในฐานะของผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วที่สุดในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยของเทรนด์แฟชั่นในระดับโลกจากแบรนด์ชั้นนำ ไปจนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้คุณค่าในประเด็นใหม่ๆ หรือแม้แต่การเข้ามาของเทคโนโลยีและโรคระบาดก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และความต้องการของลูกค้าที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดนี้ ก็ทำให้ SHU GLOBAL ต้องพัฒนาหรือจัดหาสินค้าใหม่ๆ มาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ อีกทั้งสินค้าแฟชั่นเองก็ยังมีประเด็นสำคัญเรื่องของการมีสีและขนาดที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้ทำให้คลังสินค้าของ SHU GLOBAL มี SKU มากกว่าหมื่นรายการ และทำให้การบริหารจัดการคลังสินค้า การวางแผนการผลิต และการทำการตลาดเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าให้หมดกลายเป็นโจทย์ที่สำคัญ
การมาของ COVID-19 เองก็เป็นอีกปัจจัยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับ SHU GLOBAL ไม่น้อย เพราะในช่วงแรกของการแพร่ระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ทำให้หน้าร้านของ SHU GLOBAL ทั้งหมดไม่สามารถเปิดให้บริการได้จากคำสั่งปิดศูนย์การค้าตามมาตรการของรัฐบาล และเร่งให้ทีมงานต้องเปิดหน้าร้านออนไลน์ขึ้นอย่างเร่งด่วน พร้อมปรับกระบวนการทำงานมาสู่ออนไลน์แบบ 100% เช่น การตั้งทีมเพื่อพูดคุยตอบคำถามลูกค้าในช่องทางออนไลน์ การ Live ขายของมากที่สุดถึงวันละ 5 รอบ การบริหารเงินสด และการจัดโปรโมชันในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้า เรียกได้ว่าวิกฤตในครั้งนี้ได้กลายเป็นโอกาสให้ SHU GLOBAL ได้เรียนรู้และสร้างช่องทางการขายใหม่อย่างเต็มตัว จนกลายเป็นช่องทางที่มีศักยภาพต่อไปได้ในอนาคต
ตัดสินใจใช้ SAP Business One วางรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งด้วย ERP ผสานทุกระบบธุรกิจเข้าด้วยกัน
เดิมที SHU GLOBAL นั้นมีการใช้งาน Software เพื่อบริหารจัดการธุรกิจในหลายๆ ส่วนอยู่แล้ว เช่น ระบบบัญชีและการเงิน ระบบ Point-of-Sale (POS), ระบบ Inventory Management และอื่นๆ แต่ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของธุรกิจและวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่ระดับโลก ก็ทำให้การสื่อสารภายในบริษัทเองนั้นมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และมีขั้นตอนการทำงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ด้วยเหตุนี้ SHU Global จึงตัดสินใจเริ่มลงทุนวางระบบ Enterprise Resource Planning หรือ ERP ใหม่เพื่อเสริมฐานด้านการบริหารจัดการธุรกิจด้วยข้อมูลให้แข็งแรง เปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เป็นมาตรฐาน และลดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมกลยุทธ์การวาง Master Data สำหรับการบริหารธุรกิจใหม่ทั้งหมดในทุกภาคส่วน ให้ข้อมูลจากภายในระบบ ERP เป็นข้อมูลกลางที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด และเชื่อมโยงข้อมูลจาก ERP ส่งต่อไปยังระบบอื่นๆ เพื่อให้การทำงานของทุกคนใน SHU GLOBAL เกิดขึ้นได้บนข้อมูลที่ตรงกัน
เมื่อโจทย์ของ SHU GLOBAL มีความชัดเจนแล้ว ทางบริษัทจึงได้เปิดให้ระบบ ERP จากผู้ผลิตรายต่างๆ ได้เข้ามานำเสนอ เพื่อให้เข้าใจถึงความสามารถที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละผู้ผลิตและในผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น จนมาตัดสินใจเลือกใช้งาน SAP Business One ที่มีความสามารถครบถ้วนรอบด้าน ในขณะที่สามารถใช้งานและปรับแต่งได้ง่าย จนทาง SHU GLOBAL มั่นใจได้ว่าจะสามารถดึงศักยภาพของระบบออกมาใช้งานได้เต็ม 100% และมีความคุ้มค่าสูงสุด
เลือกทีมงาน NTT Data Business Solutions Thailand (NDBS Thailand) ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการใช้งานระบบ SAP Business One ภายในองค์กร
การเลือก SAP Implementer ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การวางระบบ SAP ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี ทาง SHU GLOBAL ที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะใช้ SAP Business One จึงได้ทำการประเมินจาก Partner ของ SAP หลายราย และตัดสินใจเลือกใช้บริการจาก NTT DATA Business Solutions Thailand ที่เดิมทีเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า ISS Consulting ผู้ให้บริการระบบ SAP แบบครบวงจร
ในการพิจารณาครั้งนี้ SHU GLOBAL ได้มองหาผู้ให้บริการ SAP ที่มีประสบการณ์ในการวางระบบให้กับธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และธุรกิจโรงงานและการผลิตอย่างครบถ้วนในรายเดียว รวมถึงยังต้องมีศักยภาพในการที่จะช่วยแนะนำเรื่องการออกแบบ Master Data ในส่วนต่างๆ และการ Integrate ผสานระบบ SAP เข้ากับระบบบริหารธุรกิจในส่วนอื่นๆ ที่มีได้ด้วย
เมื่อได้เริ่มทำงานกับ NTT Data Business Solutions Thailand เพื่อวางระบบ SAP Business One แล้ว สิ่งที่ SHU GLOBAL ได้รับนั้นก็คือการวาง Master Data ใหม่เพื่อให้สินค้าต่างๆ ที่มีในคลังหลายหมื่น SKU ซึ่งจำแนกตามขนาดและสีนั้น ถูกลดจำนวนลงจนสามารถเข้าใจได้ง่าย บริหารได้ง่าย และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ ลดความซับซ้อนในการทำงานลงไปเป็นอย่างมาก รวมถึงยังสามารถเชื่อมระบบ SAP Business One เข้ากับระบบอื่นๆ ผ่านทาง API ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบ Manufacturing Resource Planning (MRP) เพื่อใช้ในการวางแผนผลิตและการสั่งซื้อวัตถุดิบ และการเชื่อมต่อกับระบบ POS และ E-Marketplace ชั้นนำอย่างเช่น Shopee หรือ Lazada และหน้าเว็บไซต์เพื่อขยายช่องทางการขาย ในขณะที่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนก็สามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลใน SAP Business One ได้อย่างวางใจว่าจะเป็นข้อมูลกลางที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด
อย่างไรก็ดี คุณวริษฐาก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการเริ่มใช้งานระบบ SAP Business One ว่าในมุมของผู้ใช้งานนั้นก็ต้องมีการปรับตัวและต้องมีการรับ Feedback จากทีมงานเพื่อนำมาปรับระบบให้สอดคล้องกับการทำงานให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีพนักงานบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้แม้จะมีการฝึกอบรมไปแล้วก่อนหน้า ซึ่งในจุดนี้ทาง NTT Data Business Solutions Thailand ก็ได้เข้ามาให้คำปรึกษาและสนับสนุนผู้ใช้งานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ผู้บริหารของ SHU GLOBAL ได้ร่วมส่งเสริมให้มีความตื่นตัวในการใช้ระบบ SAP Business One จึงได้ริเริ่ม SAP Champion เป็นการภายใน แต่งตั้งให้พนักงานแต่ละแผนกจำนวน 2 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ SAP Business One ที่จะคอยสนับสนุนการใช้งานภายในทีมของตนเอง ทำให้พนักงานมีความตั้งใจที่จะปรับตัวกับเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้งานระบบ SAP Business One สูงขึ้นเป็นลำดับ
คุณวริษฐาสรุปถึงบทเรียนสำคัญสำหรับผู้บริหารธุรกิจแฟชั่นว่าการทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ได้อย่างคล่องตัวนั้นถือเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จ และการที่ธุรกิจจะก้าวไปยังจุดดังกล่าวได้ การมีกระบวนการการทำงานภายในบริษัทที่เข้มแข็งและพร้อมปรับตัวได้ก็คือก้าวแรกที่จำเป็น ทำให้ SHU GLOBAL ตัดสินใจลงทุนวางระบบ SAP Business One ในครั้งนี้
และไม่เพียงแต่การปรับตัวภายในบริษัทเท่านั้น แต่วิสัยทัศน์ของผู้บริหารเองก็ต้องกว้างไกลพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณวริษฐาก็ได้เล่าว่าที่ผ่านมาทีมบริหารของ SHU GLOBAL มีการเรียนรู้และประเมินความเป็นไปได้ใหม่ๆ ทางธุรกิจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Metaverse ที่กำลังเป็นกระแส, การปูทางออกไปสู่ตลาดโลก, การสร้าง Community ของลูกค้าผู้ใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง CRM และ RPA เข้ามาช่วยในการทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นก็ตาม
แต่สุดท้ายที่เป็นหัวใจของ SHU GLOBAL อย่างไม่เปลี่ยนแปลงไปนั้นก็คือการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญและการดำเนินธุรกิจให้ได้อย่างมั่นคง จากจุดเริ่มต้นของบริษัทที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องการมีรองเท้าแฟชั่นที่สวมใส่ได้สบาย มาสู่การฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในช่วงปี 2540, 2553 และ 2562 มาจนถึงปัจจุบันที่ SHU GLOBAL พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเองในทุกๆ แง่มุม เพื่อที่จะรักษาคำมั่นสัญญาต่อลูกค้าในการเป็นแบรนด์แฟชั่นไทยที่นำเสนอสินค้าแฟชั่นที่ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทุกๆ คนได้นั่นเอง
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. เดิมชื่อ บริษัท ISS Consulting (Thailand) Ltd.
บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing-solutions-th@nttdata.com หรือ http://www.nttdata-solutions.com
เลือก NTT DATA Business Solutions Thailand ร่วมเรียนรู้และพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ในแบบดิจิทัล
แน่นอนว่าอีกโจทย์สำคัญในการเลือกใช้งาน SAP นั้นคือการหา SAP Implementer ที่ไว้วางใจได้มาร่วมงานกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนสูงอย่าง SMT ยิ่งต้องเลือกใช้ Implementer ที่มีประสบการณ์และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนระบบให้สอดคล้องต่อความต้องการที่เฉพาะตัว ในขณะที่คนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เองก็มี Turn Over Rate ที่สูง ทำให้ Implementer ที่มาทำงานร่วมกันนี้ต้องช่วยบริหารจัดการในส่วนนี้ให้ได้ เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้บริหารของ SMT จึงได้ตัดสินใจเลือกใช้บริการนี้จาก NTT DATA Business Solutions Thailand (เดิมชื่อ ISS Consulting) ที่มีทีมงานมืออาชีพซึ่งเข้าใจในข้อจำกัดของ SMT เป็นอย่างดี โดยถึงแม้ในช่วงที่มีการพูดคุยแรกเริ่มกันนั้น ทาง NTT DATA Business Solutions Thailand จะยังไม่มีประสบการณ์ในการวางระบบ SAP ให้กับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์มาก่อนมากนัก แต่ด้วยการทำงานและการวางแผนที่ดี รวมถึงความพร้อมในการเรียนรู้ความต้องการของ SMT ที่จะพัฒนาระบบร่วมกัน ทำให้สุดท้ายแล้ว SMT ก็ตัดสินใจที่จะร่วมงานกับ NTT DATA Business Solutions Thailand
คุณโชติศักดิ์เผยว่าในระหว่างที่มีการร่วมงานกับทาง NTT DATA Business Solutions Thailand นั้นมีการประสานงานและเข้ามาทำงานกันอย่างใกล้ชิดโดยตลอด มีการพูดคุยปรับเปลี่ยนแก้ไขระบบให้อย่างต่อเนื่อง โดยทีมผู้บริหารของ SMT นั้นก็ได้ลงมาร่วมในโครงการนี้ด้วยอย่างเต็มตัวเพื่อให้การตัดสินใจในส่วนต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อระบบเริ่มมีการใช้งานจริงๆ ก็ยังมีการรับฟังเสียงจากผู้ใช้งานและปรับเปลี่ยนระบบให้สอดคล้องกับการทำงานไปด้วย ในขณะที่ทาง NTT DATA Business Solutions Thailand เองก็คอยเป็นผู้ประสานให้ทั้งผู้บริหารและพนักงานมีส่วนร่วมในโครงการมากขึ้น และนำ Best Practice จาก SAP มาให้ความรู้และปรับใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการภายใน SMT
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. เดิมชื่อ บริษัท ISS Consulting (Thailand) Ltd.
บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing-solutions-th@nttdata.com หรือ http://www.nttdata-solutions.com
วางรากฐานครั้งสำคัญ ลงทุนครั้งใหญ่วางระบบ SAP เพื่อความยั่งยืน