วิทยากร: Allan Panganting, Senior Technical Solutions Engineer, CDNetworks
Web Application ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและทวีความซับซ้อนมากขึ้น Web Application สมัยใหม่และสถาปัตยกรรม Microservices ต่างพึ่งพา API เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลที่ตามมาคือช่องทางใหม่ๆ ที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้โจมตีซึ่งสร้างความท้าทายให้ฝ่าย IT และ Security ขององค์กรเป็นอย่างมาก Web Application Firewall แบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์อีกต่อไป เข้าฟังการบรรยายนี้เพื่อรู้จักกับ Wep Application and API Protection (WAAP) และการยกระดับ Security Posture ขององค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
หลายองค์กรกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้าน Cybersecurity และการตอบสนองภัยคุกคามอย่างทันท่วงที เทคโนโลยีที่ช่วยลดช่องว่างของปัญหานี้ก็คือ AI และ Machine Learning ซึ่ง Imperva ได้พิสูจน์มาแล้วว่า เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยสร้างความเข็มแข็งและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามได้แบบเป็นรูปธรรม โดย คุณณัฐพล เทพเฉลิม Country Manager (Thailand), Imperva
ปัจจุบัน ChatGPT กระแสเทคโนโลยี AI เชิงสนทนาที่กำลังถูกพูดถึงและมีการนำมาปรับใช้งานจริงในส่วนงานต่างๆ แล้ว โดยหัวข้อนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับบทบาทที่สำคัญของ AI และ ML ซึ่งเป็น Machine Learning ในโลกของ Application & Data Security เพื่อก้าวทันและก้าวนำหน้าภัยคุกคามทางไซเบอร์
คุณณัฐพล ได้ยกตัวอย่างการเข้าไปทดลองใช้งาน ChatGPT ด้วยตนเอง ทำให้เห็นภาพชัดเจนถึงคำตอบที่ได้รับการโต้ตอบกลับมาจากระบบ AI เชิงสนทนา ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเวลาให้เราได้จริง
“What imperva can do for me? – Imperva สามารถช่วยอะไรผมได้บ้าง?” นี่คือสิ่งที่คุณณัฐพล ถาม ChatGPT
ML – เราสามารถใช้ประโยชน์จาก Machine Learning เข้ามาจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อทำให้เราเข้าใจถึงกระบวนการที่จะเข้าไปจัดการมันได้ง่ายขึ้น
AI – หรือปัญญาประดิษฐ์ สามารถเข้ามาช่วยเสนอแนะข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ที่ทำให้เรามองเห็นภาพสิ่งที่จะต้องดำเนินการได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นมากกว่าจินตนาการ
Imperva เราให้บริการและใช้เทคโนโลยี ML มากว่า 20 ปี โดยช่วงเริ่มต้นเราได้ใช้ ML สำหรับการ Leaning Application และจัดการกับ Database แต่ในปัจจุบันเราได้นำ ML มาพัฒนาต่อยอดให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลให้เป็นเรื่องราวมากขึ้น ทำให้ทราบข้อมูลเชิงลึกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับ Application และ Data ของลูกค้าบ้าง
การเปลี่ยนผ่านจาก Database สู่โลกของ Data Stores ปัจจุบัน Database ไม่ได้นิยมใช้งานเป็นฐานข้อมูลหลักเหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งถูกเปลี่ยนผ่านมาอยู่ในรูปแบบ Data Stores ที่มีแหล่งข้อมูลหลากหลายรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิม (Cloud, Data Lake หรือ Big Data)
ในปี 2023 สำหรับ Security และ Risk Model มีอะไรบ้าง
ความปลอดภัยและความเสี่ยงเป็นการเน้นย้ำถึงแนวโน้มที่โดดเด่นที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูล (CISO) และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ความเป็นส่วนตัวต้องเผชิญ และให้คำแนะนำที่สำคัญสำหรับการจัดลำดับความสำคัญทั้งภัยคุกคามที่มาจากภายนอกและภายใน เราต้องทราบว่าอะไรคือความเสี่ยงระดับสูงที่สุดขององค์กร Application และ Data เป็นเทรนด์ด้านความเสี่ยงที่ถูกยกให้อยู่ในอันดับแรกๆ ที่องค์กรควรตระหนัก
ภาพด้านบน คือ Security และ Risk Model ที่องค์กรต่างๆ ควรรู้ ทั้ง Public Applications, Public APIs, Private App/APIs และ Data ที่มีโอกาสเผชิญกับคุกคามได้หลากหลายรูปแบบมากที่สุด ผู้ดูแลระบบควรรู้ว่า Applications องค์กรของตนมี APIs อยู่เท่าไหร่บ้าง เพื่อสร้างข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญที่ควรจะแนะนำให้องค์กรเพิ่มหรือยกระดับการปกป้องจากภัยคุกคาม
เป้าหมายของการโจมตีสองระดับแรกมุ่งเป้าไปที่ Application ส่วนระดับสูงขึ้นมา Pro และ Legend มักจะมุ่งเป้าหมายไปที่ Data หรือข้อมูลเป็นหลัก ไม่มีนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยคาดการณ์ได้เลยว่า องค์กรใดจะถูกโจมตีในระดับใดมากที่สุด เพราะไม่มีองค์กรใดเลยที่ไม่มี Application และ Data
วิสัยทัศน์และเทคโนโลยีของ Imperva ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยใช้แนวคิดในการสร้างแพลตฟอร์มแบบ Full Stack ทั้งการ Protech Infrastructure, Application Performance, Security ระดับ Web/Mobile/API และ Security ระดับ Data/Database ซึ่งถูกผสานการทำงานร่วมกับระบบ AI และ ML เพื่อให้ได้ผลผลิตที่แม่นยำและอัตโนมัติทั้งระดับ Application และ Data
“AI/ML ในโลก Application & Data Security” “AI คือการสร้างเครื่องจักรให้มีความชาญฉลาด ส่วน ML คือการสร้างอัลกอริทึมจากข้อมูลที่เรียนรู้มา”
Web Application Firewall จะช่วยปกป้องธุรกรรมและข้อมูลที่สำคัญจากการถูกคุกคาม ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ทันทีว่ามีการใช้งานทั้งหมดกี่เว็บ มีการใช้งาน URL จำนวนกี่เพจ และการใช้งานอื่นๆ ที่ลึกซึ่ง สามารถเรียนรู้การตรวจจับพฤติกรรมการใช้งาน Web Application ที่ผิดปกติและประเมินได้ด้วยว่าอะไรคือ good business อะไรคือ good behavior เพื่อแยกส่วนที่เหลือออกมาเป็น bad behavior รวมไปถึงพฤติกรรมการ Log-in เข้าสู่ระบบที่ผิดปกติ
3rd Party Script Analysis เป็นส่วนที่โดนโจมตีกันบ่อยที่สุดบนเว็บโฆษณาหรือเว็บพนันออนไลน์ ซึ่ง Virus Firewall ไม่สามารถตรวจจับได้ เนื่องจากมีการหลอกล่อวางกับดักให้เหยื่อหลงกลเข้ามากดลิงก์แปลกปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่ง WAF จะทำการวิเคราะห์ Script เหล่านี้ให้ นอกจากนี้ Web Application Firewall ยังมีการทำ API Inventory และ Risk Score ได้ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ทีมรักษาความปลอดภัยต้องการทราบมากที่สุดว่ามี API ใดบ้างที่กำลังมีความเสี่ยง และจะบริหารจัดการมันได้อย่างไร ตัวสุดท้าย คือ DDoS Adaptive Policies ช่วยป้องกันการโจมตีที่ส่งผลให้เป้าหมายไม่ไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้มีความสูญเสียจากการดาวน์ไทม์ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียง และรายได้ขององค์กร
ทั้ง 5 องค์ประกอบที่อยู่เบื้องหลังการทำ ML คือ WAF Real-time Profiling, Behavior Production Model, Anomaly Login Detection, 3rd Party Script Analysis, API Inventory & Risk Score และ DDoS Adaptive Policies จะส่งข้อมูลที่ถูกคิด วิเคราะห์ แยกแยะว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการถัดไปด้วยข้อมูลที่แม่นยำ และสามารถนำข้อมูลเหล้านี้ไปใช้ได้กับทีม SOC, Dev และ Cybersecurity นอกจากนั้น ผู้บริหารยังสามารถเข้าใจบริบทความเสี่ยงทั้งหมดนี้ได้ง่ายดายมากขึ้นด้วย
องค์กรส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่ามีการใช้ API อยู่บน Web ของตนเอง จะทราบก็ต่อเมื่อระบบทำการ Discover และสามารถบอกได้ว่ามีการโจมตีมาที่ API ถ้าระบบไม่มี Visibility หรือการทำให้มีการมองเห็นได้ ระบบจะไม่สามารถดำเนินการป้องกันตนเองได้เลย การนำ AL/ML สำหรับ API Security จะมีความสำคัญมากพอที่จะช่วยให้เราอุ่นใจได้ เพราะผลผลิตจาก AI สามารถเรียนรู้ข้อมูลที่รับเข้ามาและตอบโต้ได้โดยอัตโนมัติ
AL/ML สำหรับ Data Security ในชีวิตจริง จะต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้โดยอัตโนมัติ ด้วยการใช้แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันในโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กร เพื่อส่งมอบความยืดหยุ่น การปกป้อง และการรับประกันทรัพย์สินที่สำคัญในทุกสภาพแวดล้อม
ทำไมต้องตอนนี้ ทำไมต้อง Imperva
ถ้าอยากทราบว่าทำไมเราต้องมาพูดถึง AI และ ML สำหรับ Application & Data Security ในช่วงนี้ด้วย จากตัวเลขค่าสถิติที่ผ่านมาของทั้ง 4 ประการต่อไปจากนี้จะเป็นคำตอบให้องค์กรกลับมาตระหนักรู้และพร้อมปรับแนวทางปฏิบัติจริง เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัย
35% คือ ค่าเฉลี่ยของ bad bot traffic สำหรับในประเทศไทย เป็นค่าสิ้นเปลืองที่ก่อให้เกิดต้นทุนเพิ่มขึ้นซึ่งองค์กรต่างๆ กำลังเผชิญอยู่โดยไม่รู้ตัว 100% ของ Data Transfer ที่ถูกใช้ไป จะเป็น bad bot มากถึง 35% ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมาก ถ้าเราสามารถลด bad bot ได้มากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองได้มากตามไปด้วยเช่นกัน
จากตัวเลขเหล่านี้ ทำให้องค์กรตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับ Web / API และ Data อย่างจริงจังมากขึ้น ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ป้องกันมันอีก เราไม่สามารถสร้าง Time-Machine เพื่อย้อนเวลากลับไปปกป้องข้อมูลของเราได้ หลังจากถูกโจมตีเราจะทำให้เสมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้มันไม่ถูกโจมตีในปัจจุบันได้ ด้วยการก้าวข้ามคำว่า “มันใช้งานยาก มันไม่มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแล” แล้วหันกลับมาพึ่งพาเทคโนโลยี AI และ ML ให้มากขึ้น
คุณณัฐพล ได้กล่าวสรุปส่งท้ายว่า
“สิ่งที่ Imperva ทำนั้น ไม่ได้นำเสนอในรูปแบบ Feature Function อีกต่อไปImperva ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Vender ที่นำเสนอ Web Application Firewall เท่านั้นแต่อยากให้จำภาพของ Imperva ในฐานะ Provider และ Partnerที่ใส่ใจในการทำ Protect Infrastructure และ Public Information Performance ให้มีความเสถียรภาพมากขึ้นImperva ให้ความสำคัญกับ Application Security ที่ทำให้ Web Application Firewall กลายเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่ง”
ที่ไหนมี Data ที่นั่นย่อมมี Application, ที่ไหนมี Application ที่นั่นย่อมมี Web และ API และเมื่อมี Data, Web API ที่นั่นย่อมมี Infrastructure
การโจมตีต่อ API สูงขึ้นมากกว่าปี 2021 ถึง 168% ทั้งนี้ผู้รับผิดชอบปฏิบัติการกว่า 87% ก็คือบอทนั่นเอง โดยอีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจที่ถูกโจมตีสูงเกือบ 90% ในทางนี้อาจเพราะว่ามีการ Integrate กับระบบ 3rd Party ระบบโฆษณา และคู่ค้าทางธุรกิจจำนวนมาก
รู้จักกับ WAAP
คุณสมบัติของเว็บแอปพลิเคชันในวงจรของการพัฒนาในปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่าไม่มีที่สิ้นสุดไม่หยุดนิ่ง หากพิจารณาบริบทของ Agile ที่พร้อมนำเสนอฟีเจอร์ใหม่อยู่เรื่อยๆ อีกทั้งการใช้งาน API ที่ในอดีต Web Application Firewall (WAF) ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ ทำให้มีการนำเสนอโซลูชันใหม่ที่เรียกว่า Web Application and API Protection หรือ WAAP นั่นเอง
Zero Trust Architecture เป็นสถาปัตยกรรมความปลอดภัยที่สร้างขึ้นเพื่อกระชับพื้นจากการโจมตีของเครือข่าย ป้องกันทุกความเคลื่อนไหวรอบด้าน และลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูล โดยยึดหลักการที่สำคัญของ Zero Trust Security Model เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์และผู้ใช้ทั้งหมดด้วยวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ป้องกันการรั่วไหลของข้อมมูล – ตรวจสอบข้อมูลที่ไหลผ่าน ไม่ว่าจะเข้ารหัสหรือไม่ ให้แน่ใจว่า SaaS หรือแอปพลิเคชันบน Public Cloud มีความปลอดภัยให้การป้องกันและการมองเห็นที่ต้องการ
การสื่อสารด้าน Zero Trust กับระดับผู้บริหารองค์กร
การทำความเข้าใจในบริบทให้กระจ่างกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการและอุตสาหกรรม เพื่อศึกษาความเสี่ยงที่อาจจะตกเป็นเป้าการโจมตี สู่การกำกับดูแลให้องค์กรมีความมั่นคงปลอดภัยด้วยการปรับใช้ Zero Trust
ขั้นแรกของการสร้างความปลอดภัยให้กับองค์กรคือการทำความรู้จักกับระบบและความเสี่ยงขององค์กรให้ดีเสียก่อน ซึ่งรวมไปถึงระบบของ 3rd Party ภายนอกที่องค์กรใช้งานอยู่ด้วย
รู้จักแอปหรือบริการจากภายนอกที่ใช้งานอยู่ให้ถ่องแท้ และอาจตั้งมาตรฐานด้านความปลอดภัยขึ้นเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกใช้ 3rd Party Service เพื่อคัดกรองด้านความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น
Work From Anywhere การทำงานในหลังยุค COVID-19 ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ออฟฟิศอีกต่อไป โดยอาจทำงานจากที่บ้านหรือร้านกาแฟผ่านการรีโมท (Remote) เข้าไปที่เครือข่ายองค์กรมากขึ้น
Bring Your Own Device (BYOD) การใช้เครื่องอุปกรณ์ส่วนตัวของพนักงานในการทำงานมากขึ้น สืบเนื่องมาจากเทรนด์ Hybrid Work หรือ Work From Home