คลังเก็บป้ายกำกับ: GALAXY_S23_SERIES

Galaxy S23 Series จุดเปลี่ยนสุดพี๊คคค! ของสมาร์ทโฟนแห่งยุค

มีผู้คนจำนวนมากที่สนุกไปกับการเล่นเกมระดับไฮเอนด์ในสมาร์ทโฟน เนื่องจากมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับทั้งพีซีและเกมคอนโซล ส่งผลให้การเพิ่มประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับการเล่นเกมกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น 

Galaxy S23 Ultra ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกมเมอร์บนสมาร์ทโฟนในทุกด้าน ทั้งสุดยอดประสิทธิอันทรงพลัง ความเร็วในการตอบสนองที่ทันใจ การแสดงผลกราฟิกที่สมจริง และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งยังได้ระบบปฏิบัติการ One UI 5.1 ซึ่งเป็นซอฟแวร์รุ่นล่าสุดจากกาแล็คซี่ที่สามารถมอบประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น

ซัมซุงนำเสนอทั้งนวัตกรรมพร้อมทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมที่ทรงพลังเพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับสุดยอดประสิทธิภาพอันสูงสุดจาก Galaxy Series โดยเฉพาะ Galaxy S23 Ultra ที่พัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนให้พี๊คคคกว่าที่เคย

อัพเลเวลไปอีกขั้นด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

Galaxy S23 Series

เพลินเพลินกับเกมบนสมาร์ทโฟนที่น่าตื่นเต้นด้วย Galaxy S23 Ultra กับเกมแข่งรถแนวแอ็กชั่นอย่าง Wreckfest[1] ซึ่งใช้ระบบประมวลผล Snapdragon® 8 Gen 2 Mobile Platfrom สำหรับกาแล็คซี่ จึงเล่นเกมได้รวดเร็วและลื่นไหล

เกมบนสมาร์ทโฟนต้องการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทรงพลังเพื่อให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุดต่อผู้เล่นซึ่ง Galaxy S23 Ultra ตอบโจทย์ในทุกด้าน เพราะใช้ Snapdragon® 8 Gen 2 Mobile Platfrom สำหรับกาแล็คซี่ให้ประสบการณ์เล่นเกมในสมาร์ทโฟนที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ GPU ที่อัพเกรดมาเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 41% และเพิ่มชิป NPU ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการเรียนรู้เชิงลึกด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) สูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ 40[2] เกมเมอร์สามารถดื่มด่ำกับแอ็กชั่นต่างๆ ในเกมได้ดีกว่าเดิมทั้งจากกราฟิกและพลังของการประมวลผลที่ดีกว่า

กราฟิกจากเกม Wreckfest ที่บันทึกจาก Galaxy S23 Ultra รายละเอียดของตัวรถ การเคลื่อนไหวของวัตถุ
และเกมเพลย์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นต่างๆ นั้นดูสมจริงและสีสันสดใส

เทคโนโลยีการเรนเดอร์ภาพกราฟิกอันทรงพลังที่ชื่อว่า Ray  tracing ได้นำไปใช้กับ GPU ของ Galaxy S23 Ultraด้วยเทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มให้การเล่นเกมสมจริงเช่นเดียวกับการเล่นเกมบนพีซีโดยการจำลองแสง เงา และการสะท้อนแสงบนวัตถุในเกมอย่างสมจริงยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เล่นเกมได้สัมผัสกับกราฟิกและฉากแอ็คชั่นต่างๆ ในเกมเหมือนจริงเช่นเดียวกับที่ทำได้บนพีซี

เมื่อเล่นเกมด้วย Galaxy S23 Ultra จะสนุกและสมจริงมากขึ้น ด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
ที่ได้รับการพัฒนาสูงถึง 41% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จึงสามารถแสดงผลกราฟิกได้คุณภาพสูงและสมจริง
ช่วยเติมเต็มอารมณ์ให้ดื่มด่ำกับเกมมากขึ้น

ในขณะที่เล่นเกม Wreckfest ให้ความรู้สึกเสมือนกำลังขับรถออฟโร้ดอยู่จริงๆ ด้วยภาพที่สวยงามและกราฟิกที่เสมือนจริง เมื่อขับรถชนกับสิ่งกีดขวาง ทราย เศษฝุ่นจะฝุ้งกระจายได้สมจริง ช่วยเติมเต็มอารมณ์ได้อีกขั้น

และในงาน Galaxy Unpacked 2023 ที่ผ่านมา ซัมซุงประกาศมีแผนจะร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายเกมระดับโลกและผู้พัฒนาเอนจิ้นเกมหลายรายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ผู้เล่นเกมในสมาร์ทโฟนหลายรายตื่นเต้นและตั้งตารอ 

เทคโนโลยีวิชั่นบูสเตอร์ช่วยให้ Galaxy S23 Ultra ช่วยปรับแสงหน้าจอให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในขณะนั้น
หากรอบๆ แสงมืดหน้าจอจะมืดตามเพื่อไม่ให้แสงแทงตา ในทางกลับกัน หากอยู่ที่กลางแจ้งหน้าจอจะสว่างขึ้นเพื่อให้สู้กับแสงได้

หน้าจอคือสิ่งที่มีผลต่อประสบการณ์การเล่นเกมมากที่สุด ซึ่งหน้าจอของ Galaxy S23 Ultra มีเทคโนโลยีวิชั่นบูสเตอร์ที่ได้รับการอัพเกรดซึ่งจะปรับความสว่างจอได้อัตโนมัติตามสภาพแสงรอบข้างขณะใช้งาน ผู้ใช้จึงสามารถเห็นจอได้อย่างชัดเจนและสีสันของภาพสดใสได้แม้ขณะอยู่กลางแดด

ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบลื่นไร้รอยต่อ แม้ขณะเล่นเกม

ผู้ใช้ Galaxy S23 Ultra จะได้สัมผัสกับฟังก์ชันมัลติทาสก์ที่ได้รับการพัฒนา พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์มัลติวินโดว์
ที่ช่วยให้เปิดใช้งาน 2 แอปได้พร้อมกัน หรือสั่งเปิดหน้าต่างป๊อบอัพได้เหมือนใช้แลปทอป ช่วยให้ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น  

ประสิทธิภาพของ CPU ของ Galaxy S23 Ultra ได้รับการพัฒนาร้อยละ 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้ความเร็วในการประมวลผลเร็วขึ้น และยังคงมีประสิทธิภาพสูงแม้ว่าจะเปิดหลายแอปพร้อมกัน

ชิปเซ็ตอันทรงพลังของ Galaxy S23 Ultra ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังทำงานได้ดีและรวดเร็วแม้จะกำลังประมวลผลกิจกรรมที่ใช้พลังการประมวลผลสูง เช่น การโทรวิดีโอคอลล์ขณะเล่นเกมหรือชมภาพยนตร์ขณะเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ

นอกจากนี้ การทำงานของฟีเจอร์มัลติวินโดว์ยังพัฒนาไปอีกขั้น และแอปที่ใช้งานบ่อยจะแสดงอยู่ในแท็บ “แอปที่ใช้งานเมื่อเร็วๆ นี้” ช่วยให้ผู้ใช้เรียกใช้งานและสลับแอปได้สะดวกขึ้น

ความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น ใช้งานได้นานสะใจกว่า

ใช้เวลาการชาร์จน้อยลงและใช้เวลากับ Galaxy S23 Ultra ได้มากขึ้น

Galaxy S23 Ultra มาพร้อมกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น โดยรุ่น S23 และ S23+ มีความจุ 3,900mAh และ 4,700mAh ตามลำดับ มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 200mAh ส่วน S23 Ultra มาพร้อมกับความจุถึง  5,000mAh และสามารถชาร์จได้ถึง 65% ในเวลาเพียง 30 นาที เมื่อใช้อแดปเตอร์กำลัง 45W[3] ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และสามารถมีเวลาสนุกกับแอปหรือกิจกรรมที่ชอบได้มากขึ้น

สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยการอัพเดท One UI 5.1

(ซ้าย) ปรับแต่งหน้าล็อกสกรีนด้วยวิดเจ็ทนาฬิกาหลายรูปแบบและพื้นหลังมากมาย (ขวา) หน้าปรับแต่งวิดเจ็ทแบตเตอรี่แบบใหม่

ระบบปฏิบัติการ One Ui 5.1 ซึ่งซัมซุงอัพเดทให้กับผู้ใช้กาแล็คซี่แล้วทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งสมาร์ทโฟนให้เหมาะกับความชอบของผู้ใช้แต่ละคนได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้และตั้งเป็นภาพล็อกหน้าจอได้ที่ช่วยยกระดับการปรับแต่งวอลล์เปเปอร์ไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีวิดเจ็ตใหม่ๆ ช่วยให้ผู้ใช้เลือกเปิด-ปิดการตั้งค่าและแอปต่างๆ ได้จากหน้าโฮมสกรีน ยิ่งไปกว่านี้ผู้ใช้สามารถดูแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อื่นๆ จากกาแล็คซี่ได้ เช่น Galaxy Watch และ Galaxy Buds ได้ทันทีจากวิดเจ็ตแบตเตอรี่แบบใหม่ และท้ายที่สุดผู้ใช้สามารถเลือกเพลย์ลิสต์และรับคำแนะนำเพลย์ลิสต์เพลงจาก Spotify ที่ตรงกับกิจกรรมที่ผู้ใช้กำลังทำได้จากวิดเจ็ตคำแนะนำอัจฉริยะ (Smart suggestions)[4]

บน Galaxy S23 Ultra สามารถลบพื้นหลังของภาพได้อย่างง่ายดายเพียงแค่แตะที่รูปภาพ คัดลอก หรือบันทึกไว้ใช้งานภายหลังระบบสามารถตรวจจับรายละเอียดที่เล็กที่สุดของวัตถุที่ถูกบันทึกภาพไว้ เช่น เส้นขนของสัตว์เลี้ยง และลบฉากหลังออกแบบแนบเนียน

สร้างสติกเกอร์จากภาพทถ่ายได้ง่ายโดยแยกวัตถุและลบฉากหลังออกจากภาพได้ในการแตะครั้งเดียว เมื่อบันทึกภาพผู้ใช้สามารถเรียกดูรายละเอียดต่างๆ ของภาพ เช่น สถานที่ที่ถ่ายภาพ วัน เวลา ตำแหน่งที่เก็บไฟล์ และการตั้งค่ากล้องได้จากการเลื่อนนิ้วครั้งเดียว นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Modes and Routines เพื่อตั้งวอลล์เปเปอร์ ตรวจสอบการใช้งานแอป การแจ้งเตือน และอื่นๆ ตามสถานการณ์หรือกิจกรรมต่างๆ เช่น ขณะนอนหลับ ขับรถ หรือทำงานได้ด้วย

หลากหลายวิธีใช้กับ S Pen

Galaxy S23 Ultra ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาได้สะดวกและรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้แป้นพิมพ์ เมื่อค้นหาจากการเขียนด้วย S Pen ระบบจะจดจำลายมือผู้ใช้ และเปลี่ยนจากลายมือเป็นตัวพิมพ์ให้โดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ Galaxy S23 Ultra ยังช่วยให้สร้างสรรค์และแบ่งปันความคิดหรือแนวคิดใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าเดิมด้วย S Pen ที่พัฒนาไปอีกขั้นด้วยระบบปฏิบัติการ One Ui 5.1 ที่สามารถบันทึกข้อความไว้สำหรับการใช้งานภายหลัง และช่วยให้ใช้สิ่งที่ต้องการจากภาพนั้นได้อย่างง่ายดาย และระบบปฏิบัติการ One Ui 5.1 ยังสามารถแปลงข้อความที่เขียนด้วยลายมือเป็นตัวพิมพ์ได้ในแถบค้นหาในเว็บไซต์ เช่น กูเกิลและยูทูป ทำให้สามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้อุปกรณ์กาแล็คซี่รุ่นอื่นๆ จะได้รับการอัพเดทระบบปฏิบัติการ One Ui 5.1 ในอนาคตเพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์กาแล็คซี่ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดต่อไป

Galaxy S23 Ultra มอบฟังก์ชันอันทรงทั้งหมดไว้ในมือ

Galaxy S23 Ultra ช่วยให้ผู้ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่พร้อมกับสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและง่ายยิ่งกว่าเดิม สำหรับผู้ที่มองหาการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง Galaxy S23 Ultra จึงเหมือนเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตประจำวัน

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/galaxy-s23-series-the-ultimate-turning-point/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=galaxy-s23-series-the-ultimate-turning-point

Advertisement

พบกับ Galaxy S23 Series สมาร์ทโฟนสุดพี๊คคค! สำหรับคนยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ปรับแต่งได้ในแบบที่ชอบ

กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มอิสระและความคล่องตัวในการใช้ชีวิตในทุกๆ วันอยู่ใช่ไหม? สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากซัมซุง ทั้ง Galaxy S23, Galaxy S23+ และ Galaxy S23 Ultra สามารถมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ทรงพลัง ช่วยให้การทำงานและทุกสิ่งอย่างได้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ วัน

ไม่ว่าจะสตรีมมิ่ง เล่นเกม สร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ รวมไปถึงสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย Galaxy S23 Series เต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่ผู้ใช้แต่ละคนต้องการ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับความชอบของผู้ใช้งานแต่ละคนได้อีกด้วย

  1. สมาร์ทโฟนที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้ทุกมิติ
Samsung

การปรับแต่งสมาร์ทโฟนให้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันจะเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้นด้วยฟีเจอร์การปรับแต่งที่หลากหลายบน One UI 5.1 ที่ติดตั้งอยู่ใน Galaxy S23 Series ซึ่งสามารถปรับแต่งหน้าจอล็อคสกรีนได้ ทั้งวอลเปเปอร์ รูปแบบนาฬิกา และยังสามารถปรับแต่งการแสดงการแจ้งเตือนด้วยฟีเจอร์ไลฟ์พรีวิวได้ มากไปกว่านั้นยังสามารถเพิ่มสีสันให้กับการส่งข้อความได้ด้วยอีโมจิใหม่ถึง 80 แบบและเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นใหม่อีก 10 เอฟเฟกต์!

โดยใช้ระบบปฏิบัติการ One UI 5.1 ใน Galaxy S23 Series ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์โหมดและชุดคำสั่งสำหรับกิจวัตรประจำวัน (Modes and Routines) ที่พัฒนาไปอีกขั้น รวมไปถึงการปรับตั้งค่าต่างๆ ทั้งรูปแบบและสไตล์เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบาย

อีกทั้งยังมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างจากการใช้งานเช่น ผู้ใช้งานสร้างโหมดสำหรับการออกกำลังกายซึ่งจะเล่นเพลย์ลิสต์เพลงขณะออกกำลังกายที่ผู้ใช้ชอบได้อัตโนมัติเมื่อระบบตรวจจับได้ว่าผู้ใช้กำลังออกกำลังกายอยู่ หรือสร้างชุดคำสั่งสำหรับการนอนหลับซึ่งจะปิดเสียงแจ้งเตือนให้อัตโนมัติเมื่อถึงเวลานอน นอกเหนือจากนี้ฟีเจอร์การเตือนความจำที่ช่วยให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าและไม่ลืมว่าจะต้องทำอะไรในแต่ละวัน โดยระบบจะแสดงรายการสิ่งที่ต้องทำที่ปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งที่ผู้ใช้กำลังทำอยู่ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังทำงานหรือกำลังหาซื้อสินค้า

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ One UI 5.1 ได้ที่นี่

  1. ปรับแต่งให้ตรงใจ

แสดงตัวตนด้วยสไตล์และสีสันที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของ Galaxy S23 Series ได้แก่ Green, Cream, Lavender และ Phantom Black ไม่ว่าจะเป็นสีที่แสดงถึงความพรีเมียม โดดเด่นเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ของกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy S23 Series และทั้งหมดนี้คือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเหนือระดับเพื่อช่วยให้คุณดูดีในทุกสไตล์

นอกจากนี้ซัมซุงยังมีสีพิเศษมาในโทนสดใสสะท้อนความเป็นตัวตนได้เต็มที่อย่าง Lime, Graphite, Sky Blue และ Red โดยเพิ่มความพิเศษสุดพี๊คคคไปอีกขั้นโดยในสี Lime และ Sky Blue จะใช้กรอบเครื่องผิวมันวาวสีเงิน ในขณะที่สี Red และ Graphite จะใช้กรอบเครื่องเป็นแบบด้านสีดำ ถือว่าเป็นลูกเล่นความสนุกให้กับสีพิเศษมากยิ่งขึ้น สำหรับการสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ samsung.com เท่านั้น

และพิเศษสุดพี๊คคค! ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อซัมซุงจับมือกับ CASETiFY แบรนด์เคสสมาร์ทโฟนสำหรับวัยรุ่น Gen Z มอบส่วนลด 20% ให้กับลูกค้าทุกคนที่ซื้อสมาร์ทโฟน Galaxy S23 Series ผ่าน Samsung Experience Store ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยสามารถใช้ส่วนลดเพื่อซื้อเคสได้ ผ่าน casetify.com และ CASETiFY Pop-up Store เซ็นทรัลเวิลด์
ชั้น 1 โซน Atrium ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2566 นี้เท่านั้น

  1. เชื่อมต่อได้ทุกเมื่อตามต้องการ

สำหรับใครที่กำลังสร้างสมาร์ทโฮมในฝัน Galaxy S23 Series สามารถทำงานร่วมกับอีโคซิสเต็มของ SmartThings ทั้งบนโทรศัพท์, แท็บเล็ต, สมาร์ตวอทช์, ทีวี และตู้เย็น อีกทั้งยังใช้งานได้กับโทรศัพท์ทุกยี่ห้อและเข้ากันได้กับอุปกรณ์อัจฉริยะกว่า 1,000 เครื่อง ซึ่งช่วยมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ไร้รอยต่อ เชื่อมต่อและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านให้เข้ากับชีวิตประจำวันรวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนในครอบครัว

สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย SmartThings เช่นเดียวกับผู้ใช้งานในปัจจุบันกว่า 240 ล้านคนและส่งเสริมสุขภาพที่ดีด้วยการซิงค์กับอุปกรณ์ต่างๆ ของซัมซุง เช่น  Galaxy Watch5 และ Buds เข้ากับแอป Health
ใน Galaxy S23 Series ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบจำนวนก้าวขณะเดินขึ้นเขา ฝึกสมาธิ และอื่นๆ ได้อีกมากมาย

ช่วยเติมเต็มและเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานได้ทุกที่และทุกเมื่อด้วยฟีเจอร์ Samsung Multi Control[1] ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับเมาส์และคีย์บอร์ดกับสมาร์ทโฟนกาแล็คซี่รุ่นล่าสุดได้ หรือใช้ Galaxy S23 Series เป็นเหมือนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปด้วยฟีเจอร์ Samsung DeX[2]

  1. ปลอดภัยในแบบที่ต้องการ

ซัมซุงเชื่อมั่นเสมอว่าความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยและสามารถควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ได้ขณะผู้ใช้ใช้อุปกรณ์ทำสิ่งต่างๆ ตลอดวัน

Samsung Knox ช่วยปกป้องชิปและซอฟต์แวร์ของ Galaxy S23 Series แบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมี Knox Vault ที่ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวจากการแฮกข้อมูลและภัยคุกคามต่างๆ ด้วยแดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นการตั้งค่าต่างๆ รวมไปถึงการปรับแต่งการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลส่วนตัวได้

ในขณะเดียวกัน ซัมซุงยังปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนทั้งหมดด้วยฟีเจอร์ Private Share ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับการแชร์ข้อมูลที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าข้อมูลที่แชร์ได้ เช่น วันหมดอายุ การเข้าถึงข้อมูลไฟล์แบบอ่านได้อย่างเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญตกไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่หวังดี

  1. สร้างสรรค์ได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่ไหน

แรงบันดาลใจเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่ว่าจะระหว่างการเดินทาง กำลังออกกำลังกาย หรือกำลังแฮงค์เอาท์กับเพื่อนตอนกลางคืน ก็สามารถจดบันทึกได้อย่างง่ายดายด้วย S Pen[3] ที่มาพร้อมกับ Galaxy S23 Ultra ที่ใช้ประโยชน์จากหน้าจอ Galaxy S23 Ultra ที่ใหญ่ถึง 6.8 นิ้วได้อย่างเต็มที่ ด้วยการร่างและวาดด้วยปากกา S Pen เขียนได้ลื่นไหลเพิ่มพลังความสร้างสรรค์ให้คุณได้ถ่ายทอดลงไปที่จออย่างเป็นธรรมชาติราวกับใช้ปากกาและกระดาษ

สิ่งที่คุณต้องการและหลงรักอีกมากกก!

Galaxy S23 Series สร้างจากความตั้งใจจะก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ช่วยให้ใช้ชีวิตได้ดีและคุ้มค่าที่สุดด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงาน การเชื่อมต่อ และความปลอดภัย รวมไปถึงตัวเลือกในการปรับแต่งที่หลากหลาย เพิ่มความหลงใหลในการทำงาน ความบันเทิง และทุกสิ่ง ด้วยนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ล้ำหน้าและทรงพลังที่สุดของซัมซุง

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/meet-the-galaxy-s23-series-the-ultimate-smartphone/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=meet-the-galaxy-s23-series-the-ultimate-smartphone

ผู้ใช้โวย Samsung Galaxy S23 Ultra ถ่ายภาพดวงจันทร์ปลอม ส่องภาพเบลอในคอมยังชัดแจ๋ว

จุดขายสุดพี๊คคคคคคของ Samsung Galaxy S23 Ultra คือเรื่องกล้องซูมได้ไกลถึง 100 เท่า โดยยังคงเก็บรายละเอียดภาพไว้ได้ จนเป็นเครื่องคู่ใจไว้ถ่ายภาพดวงจันทร์สุดสวยยามค่ำคืน แต่ผู้ใช้รายหนึ่งเคลือบแคลงใจ สงสัยว่ากล้องเล็ก ๆ มันถ่ายได้เก่งขนาดนั้นเลยหรอ เลยทำการทดลองด้วยตัวเอง ก่อนให้ข้อสรุปว่าภาพดวงจันทร์มันถูกเฟคขึ้นมา

ผู้ใช้บนเว็บ Reddit คนนึงบัญชี u/ibreakphotos เผยว่าเค้าทำการทดลองการถ่ายซูมภาพดวงจันทร์ด้วยโหมด Space Zoom จากมือถือ Samsung Galaxy S23 Ultra แต่ว่าดวงจันทร์ที่ถ่ายไม่ได้เป็นของจริงที่อยู่บนท้องฟ้า แต่เป็นภาพดวงจันทร์ที่ถูกเบลอจนเสียรายละเอียดไปหมดแสดงไว้บนหน้าจอคอม แล้วเอา Galaxy S23 Ultra ซูมเข้าไปถ่ายภาพ

ผลปรากฏว่า ภาพที่ถ่ายออกมา ดันมีรายละเอียดสีสันชัดเจนเหมือนดวงจันทร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ภาพต้นฉบับที่ถูกถ่ายนั้นมันเบลอไปหมดแล้ว เค้าจึงสรุปว่า Samsung เฟคภาพดวงจันทร์ขึ้นมาในมือถือ

ภาพจริงที่ถูกเบลอเอาไว้ > ภาพที่ได้หลังถ่ายด้วย Samsung Galaxy S23 Ultra

โดยเค้าบอกว่า ถ้าเอากล้องส่องดวงจันทร์จริง ๆ แล้วปิดโหมด Scene Optimizer ก็จะพบว่าดวงจันทร์กลายเป็นแค่ก้อนกลม ๆ เบลอ ๆ ซึ่งก็คงเป็นภาพจริงที่ได้จากเซนเซอร์และเลนส์กล้องน่ะแหละ

Samsung Galaxy S23 Ultra ถ่ายดวงจันทร์ด้วยวิธีอะไร?

ทาง Samsung ก็ได้ให้ข้อมูลเรื่องระบบการถ่ายดวงจันทร์ Moon Photography เอาไว้นานแล้วบนเว็บไซต์ (แต่มีแค่ในภาษาเกาหลี) โดยระบุว่าเมื่อเปิดโหมด Scene Optimizer ในมือถือ ก็จะได้ AI ใช้ระบบหลายอย่าง ได้แก่ (1) การสังเคราะห์ภาพรวมหลายเฟรม (multi-frame synthesis) (2) ระบบ Deep learning  (3) เอนจิ้นเพิ่มรายละเอียด (detail improvement engine) มาทำให้ภาพชัดมากขึ้นเมื่อถ่ายภาพออกมา

โดยระบบ AI ที่กล่าวมา เป็นโมเดลที่ถูกป้อนข้อมูลให้เรียนรู้ว่ารูปทรงดวงจันทร์เป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเต็มดวง หรือเป็นเสี้ยว

และเมื่อถ่ายมาแล้ว ระบบจะประเมินว่าควรใช้เอนจิ้นเพิ่มรายละเอียด (detail improvement engine) หรือไม่ แล้วกล้องก็จะถ่ายภาพออกมาหลาย ๆ รูปแล้วประมวลผลรวมกัน

สุดท้ายระบบก็จะเพิ่มรายละเอียดเข้าไปให้ดวงจันทร์ ให้เราได้ภาพภาพดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง มีความคมชัด

แต่ระบบนี้ก็มีข้อจำกัด ว่าหากดวงจันทร์โดนวัตถุบัง อย่างเมฆลอยมาทับ ตัว AI ก็จะดูไม่ออกว่าเป็นดวงจันทร์ ดังนั้นภาพก็จะออกมาตามความเป็นจริงที่กล้องถ่ายได้ แบบนี้

สรุปแล้วระบบถ่ายดวงจันทร์ของ Samsung มีการใช้ AI ประมวลภาพหลายด้าน ก่อนจะเสริมรายละเอียดเข้าไปในช่วงสุดท้ายให้ได้ภาพดวงจันทร์ที่สมบูรณ์ที่สุด แล้วระบบแบบนี้ถือว่าเป็นการปลอมดวงจันทร์ขึ้นมาหรือไม่?

ใช้ AI แต่งภาพดวงจันทร์ คือการปลอมภาพมั้ย?

ทางผู้โพสต์ต้นเรื่อง เค้าก็ได้อ่านบทความอธิบายของระบบถ่ายดวงจันทร์ของซัมซุงแล้ว แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นการเฟคอยู่ดี โดยเค้าอธิบายว่า Samsung อ้างเรื่องการประมวลภาพหลายเฟรมนู่นนี่ แต่พอเอามาส่องดูภาพเบลอที่ทำขึ้นมาหลอกระบบแล้ว สุดท้ายก็ได้ภาพคมชัดสวยงามเกินความจริงอยู่ดี ดังนั้นตัวหลอกคือเอนจิ้นเพิ่มรายละเอียด (detail improvement engine) ที่ทำหน้าที่เกินเรื่องไปนั่นเอง

แต่หากเรามาคิดดูแล้ว กล้องสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ คงไม่มีอะไรที่เป็นภาพจริง เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่ากล้องที่ดีไม่ได้อยู่แค่ Hardware แต่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับ Software หรือก็คือระบบ AI นั่นแหละ

ดังนั้นภาพอาหารน่ากิน, Portrait ภาพคนสวย ๆ ที่เพิ่มแสงสว่างและความคมชัดให้ใบหน้า หรือแม้กระทั่งการปรับสีสันท้องฟ้าในภาพวิวต่าง ๆ ที่ดูสวยสดขึ้นมาได้ ก็เป็นเพราะการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แต่งเติมขึ้นมาทั้งนั้น หากต้องการดูประสิทธิภาพกล้องแท้ ๆ ก็ทำได้ด้วยการเปิดโหมด Pro หรือ Expert Raw แล้วปรับค่าตามต้องการเอา

ดวงจันทร์ ก็เป็นอีกหนึ่งฉากที่ต้องใช้ระบบ AI ช่วยเสริมเติมแต่งให้สวยมากขึ้น เพราะกล้องเล็ก ๆ ในสมาร์ทโฟนตัวคนเดียว จะไปสู้อะไรกล้องใหญ่มืออาชีพไหว แต่ท้ายสุดก็อยู่ที่ผู้ใช้งานว่ารู้สึกอย่างไร ถ้ากล้องของเราช่วยแต่งภาพให้เวลาถ่ายโหมด Auto ครับ

ที่มา : reddit, community-samsung

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-ultra-fake-moon-ai-exposed-explained/

Samsung Galaxy S23 FE เปลี่ยนแผน! โดนเลื่อนเปิดตัวไม่มีกำหนด

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาให้แฟน ๆ งบน้อยได้เฮกัน หลังมีแววว่าทาง Samsung จะปลุกชีพซีรีส์เรือธงรุ่นประหยัดอย่าง Galaxy FE กลับมาอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นแบบนั้นซะแล้ว เพราะข่าวลือล่าสุดได้เผยว่าเราอาจจะไม่ได้เห็น Galaxy S23 FE ภายในปีนี้

นักปล่อยข่าวลือเชื่อถือได้อย่าง Roland Quandt ได้ออกมาเผยว่า Samsung Galaxy S23 FE อาจไม่ได้เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งข้อมูลต้นทางก็ลงไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะเป็นเพียงการเลื่อนแผนเปิดตัว หรือจะยกเลิกแผนข้ามซีรีส์นี้ไปเลย

 

Samsung Galaxy S21 FE

และอย่างที่ทราบกันดีว่า Samsung Galaxy FE Series มักจะถูกพูดถึงในฐานะซีรีส์นักฆ่าเรือธง เพราะมาพร้อมกับสเปคในระดับตัวท็อปในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งในช่วงราคาประมาณนี้ Samsung อาจจะอยากให้ผู้ใช้งานไปซื้อมือถือซีรีส์เรือธงของปีก่อนมากกว่า (สังเกตุได้จากการลดราคาทุก ๆ ครั้งที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่) หรือต้อนให้ผู้ใช้ไปมองรุ่นระดับบน ๆ ของ Galaxy A Series แทน รวมถึงอาจเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้รุ่น FE ไปแย่งยอดขายของซีรีส์เรือธงรุ่นปัจจุบันด้วย

Samsung Galaxy S20 FE

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ข้อมูลในครั้งนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น เราอาจจะได้เห็น Samsung Galaxy S23 FE เปิดตัวภายในปีนี้จริง ๆ หรือเลื่อนเปิดตัวออกไปเป็นปีหน้าก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็อาจถูกดับฝันเหมือนตอน Galaxy S22 FE ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งปักใจเชื่อในตอนนี้ ส่วนใครที่สนใจ Samsung Galaxy S21 FE ตอนนี้ทาง Samsung Thailand ได้ประกาศปรับราคาลงมาแล้ว สามารถเข้าไปเลือกซื้อกันได้เลยนะ

ที่มา: Roland Quandt (Twitter), GizmoChina

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-fe-may-not-launch-this-year/

Samsung Galaxy S23 Series เตรียมได้รับอัปเดตใหญ่ ปรับคุณภาพกล้อง ช่วงสิ้นเดือนนี้

หลัง Samsung Galaxy S23 ถึงมือผู้ใช้กันไปซักพักแล้ว ก็คงสังเกตเห็นสิ่งที่ชอบ ไม่ชอบกันไปหลายอย่าง ซึ่งมีเรื่องที่หลายคนพูดถึงกันมากเป็นระบบกล้องรอบนี้ ที่ปรับสีสันให้กล้องติดเหลืองเกินไปหน่อย ทำเอาสีสันเพียงไม่เหมาะกับบางช็อต ก็เลยรอคอยอัปเดตใหม่ที่จะมาปรับปรุงกล้องให้ดีขึ้น โดยคาดว่าจะได้รับอัปเดตปลายเดือนนี้

ขาประจำ Ice Universe เพิ่งเผยลงบนทวิตเตอร์ตัวเอง เค้าคอนเฟิร์มว่า Samsung Galaxy S23, S23+, และ S23 Ultra จะได้รับอัปเดตเฟิร์มแวร์ครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งการอัปเดตที่ว่าจะรวมไปถึงการปรับปรุงกล้องด้วย (Camera Optimization)

ซึ่งจากประวัติการเผยข่าวของตาคนนี้ ก็มีความแม่นยำอยู่ไม่น้อย เราเลยหวังได้ว่าจะได้เห็นการพัฒนากล้องครั้งใหญ่หลังเปิดตัวไป เพื่อปรับปรุงคุณภาพกล้องและซอฟต์แวร์โดยรวมให้ดีขึ้น และไม่แน่คราวนี้กล้องจะได้ปรับ White Balance ให้ไม่มีโทนอุ่นจนเหลืองเกินไปด้วย

สามารถอ่านรีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra และ Samsung Galaxy S23/S23+ ได้ทางเว็บ Droidsans ครับ

ที่มา : Ice universe

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-to-receive-big-camera-update-march/

Samsung Galaxy S23 Series บุกเกม Fortnite เปิดแผนที่ใหม่ Samsung SmartCity มีเควสให้เล่นด้วย!

Samsung จับมือ Fortnite เกมแนว Battle Royale ชื่อดัง เปิดแผนที่ใหม่ในเกมบุกโลก metaverse มี Virtual Showroom (หน้าร้านเสมือนจริง) ให้ได้ลองเล่นสินค้าต่าง ๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy S23 Series รวมไปถึงหน้าจอเกมมิ่งอย่าง Samsung Odyssey และมีมินิเควสสนุก ๆ ให้ได้เล่นกันด้วย

Samsung Virtual Showroom

ภายในแผนที่ Samsung SmartCity ผู้เล่นสามารถกดเล่น Interact กับมือถือ Samsung Galaxy S23 Series ภายในเกมได้ รวมถึงยังมีเควสสนุก ๆ ในรูปแบบเกมซ่อนแอบ ซึ่งในแต่ละรอบผู้เล่นจะต้องทำการค้นหาตัวเครื่อง Galaxy S23 ที่ซ่อนอยู่ภายในแผนที่ และต้องพยายามเก็บตัวเครื่องไว้กับตัวจนกว่าเกมจะจบลง

Galaxy S23 in Fortnite

นอกจากนี้แล้วภายในเกมยังมีสามารถปลดล็อกสกิลพิเศษที่อิงมาจากโหมดกล้องใน Galaxy S23 Series อาทิเช่นฟีเจอร์ Zoom ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถมองพื้นที่ระยะไกล ๆ ได้ และมีปุ่มลับต่าง ๆ ให้เลือกเก็บ เช่น  Nightography ที่เพิ่มสกิลให้ตัวละครมองเห็นในที่มืดได้ และปุ่ม Knox Button ที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันการโจมตีให้กับตัวละคร

Galaxy S23 in Fortnite

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Samsung หันมาจับตลาดกลุ่มผู้ใช้งาน Gen Z ผ่านการโปรโมทในวิดีโอเกม เพราะก่อนหน้านี้ Samsung ก็เคยจับมือกับเกมขวัญใจฟันน้ำนมอย่าง Roblox พานักร้องสาวชื่อดังระดับโลก Charli XCX เข้าไปโลดแล่นจัดคอนเสิร์ตกันในเกมมาแล้วด้วย

ชาว Fortnite ที่สนใจเข้าไปลองเล่นในแผนที่นี้สามารถกรอก Island Code 8526-6648-9508 เพื่อเข้าสู่ Samsung SmartCity ได้ทันที หากใครได้ลองเล่นแล้วติดใจ ตอนนี้ตัวเครื่อง Galaxy S23 ก็ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วนะ

ที่มา: SamMobile, Samsung Press Mexico

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-series-collab-with-fortnite/

โอ้โห ซูมอย่างพี๊คคค! พบกับประสิทธิภาพการซูมสุดจึ้งใน Galaxy S23 Series! ไหนดูซิงานนี้ซูมอะไรได้บ้าง

หากพูดถึงสมาร์ทโฟนพร้อมฟีเจอร์ซูมสุดปังที่มาแรงอยู่ในตอนนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องนึกถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุงอย่าง Galaxy S23 Series เป็นแน่ โดยเฉพาะในรุ่น Ultra ที่เลื่องลือกันมารุ่นสู่รุ่น ว่าซูมอย่างพี๊คคค! ชัดยิ่งกว่าตาเห็น

งานนี้เราจึงได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้ชมกันว่า Galaxy S23 Series ที่ว่าแน่ จะแน่ซักแค่ไหน แล้วจะซูมอะไรได้บ้างนะ? ไปดูกันเลย!

พระจันทร์ที่ว่าสวยแล้ว ก็ยังสวยได้อีก ด้วย Galaxy S23 Ultra

อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าที่ไหนมีพระจันทร์ ที่นั่นจะต้องมีซัมซุง! เพราะ Galaxy S23 Ultra ช่วยยกระดับการถ่ายภาพให้ผู้ที่รักในการถ่ายภาพพระจันทร์​ สามารถเก็บภาพดวงจันทร์ในยามราตรีได้อย่างคมชัดและสวยงามในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะในระยะการซูม 1x, 10x, ไปจนถึง 100x ก็สามารถถ่ายภาพดวงจันทร์ที่แสนสวยงามไว้เชยชมได้อย่างชัดเจนไร้ที่ติ

วิวสุดลูกหูลูกตา หรือขอบฟ้าที่ว่าไกลก็ยังใกล้ขึ้นได้ด้วยพลังซูมมม

ไม่ใช่แค่พระจันทร์ แต่ยังรวมถึงพระอาทิตย์ เส้นขอบฟ้าและวิวที่สวยงามต่างๆ ฟีเจอร์ซูมใน Galaxy S23 Ultra ช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถบันทึกภาพความสวยงามของวิวตรงหน้าในระยะที่ต้องการได้ครบถ้วนทุกรายละเอียด

ถ่ายภาพ Candid สุดจึ้งง ซูมเห็นไปถึงแววตา!

เคยไหมกับการที่ถูกแอบถ่ายทีเผลอแล้วดันได้ภาพออกมาสวยถูกใจ แต่ต้องเจอกับปัญหาใหญ่คือภาพถ่ายออกมาแตกสะบัด! แต่ Galaxy S23 Series จะช่วยทำให้ปัญหานี้หมดไปอย่างแน่นอน ด้วยกล้องประสิทธิภาพสูงที่ให้ความละเอียดถึง 200MP พร้อมกับพลังซูมสูงสุดถึง 100x ที่ทำให้ทุกคนสามารถบันทึกภาพถ่ายทุกท่วงท่าทีเผลอได้อย่างสวยงามในทุกระยะ งานนี้ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเผลอก็ออกมาสวย พร้อมอวดเพื่อนในโลกโซเชียลได้แน่นอน

ซูมบทสวดชัดทุกบรรทัด ถูกใจสายมู 

หมดปัญหาพระแม่เมินคำขอเพราะคนเยอะ อยู่ไกล มองไม่เห็นบทสวดจนท่องผิดๆ ถูกๆ ด้วยฟีเจอร์ซูมของ Galaxy S23 Series ที่ทำให้ผู้ใช้สายมูทุกคน สามารถอ่านและถ่ายภาพบทสวดในระยะไกลไว้ท่องสำหรับขอพรได้อย่างชัดเจนทุกบรรทัด งานนี้บอกเลยว่า จะของาน ขอเงิน หรือความรัก ก็เป๊ะปัง ไม่นกแน่

ซูมไปเรื่อย ซูมไปไกล เอ๊ะนั่นป้ายอะไรขอดูหน่อยซิ

ไกลแค่ไหนก็คือใกล้ของจริง! เพราะฟีเจอร์ซูมใน Galaxy S23 Series ทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเห็นสิ่งที่อยู่ไกลๆ ได้อย่างชัดเจนเหมือนอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง ป้ายโฆษณา ตึกรางบ้านช่องต่างๆ ที่บอกได้เลยว่าแม้ตัวเราจะอยู่คลองเตย แต่อยากซูมไปไกลแค่ไหนก็บอกเลยว่าได้เสมอ!

ซูมโมเมนท์แสนน่าประทับใจ ของเมมเบอร์คนโปรดในทุกคอนเสิร์ต

ไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น นั่งดอยไหนก็ไม่กลัว! เพราะ Galaxy S23 Series ทำให้ทุกคนเก็บโมเมนท์อันแสนพิเศษของเมมเบอร์คนโปรดได้อย่างใกล้ชิดเหมือนกับนั่งอยู่ตรงหน้าเวที งานนี้บอกเลยว่าเห็นชัดทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ ก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศในคอนเสิร์ตสุดโปรดได้แบบชัดๆ ให้ได้ฟินกันไปแบบยาวๆ

สำหรับผู้ที่สนใจสัมผัสประสบการณ์ซูมพี๊คคคๆ ไปกับ Galaxy S23 Series สามารถสั่งซื้อได้แล้วที่ Samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

#GalaxyS23 #SharetheEpic

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/experience-extreme-zoom-performance-on-the-galaxy-s23-series/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=experience-extreme-zoom-performance-on-the-galaxy-s23-series

เหตุผล 3 ข้อกับความพี๊คคคที่สุดของ Galaxy S23 series ที่ต้องลอง!

ถ้าใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับประสบการณ์สุดพี๊คคคระดับพรีเมียมอยู่ละก็ Galaxy S23 Ultra, Galaxy S23+ และ Galaxy S23 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากGalaxy S Series ที่จะช่วยให้ทุกความสร้างสรรค์ไปต่อได้ไม่สิ้นสุด นี่คือเหตุผลสำคัญ 3 ข้อที่ Galaxy S23 Series เป็นสมาร์ทโฟนที่ต้องลอง

1. ฟีเจอร์ที่สุดของการถ่ายภาพทั้งเวลากลางคืนและกลางวัน (Epic Night & Day Photography)

Samsung

ไม่ว่าใครก็สามารถทำคอนเทนต์เจ๋งๆ ได้ด้วย Galaxy S23 ยิ่งถ้าเป็นโมเมนต์ที่พลาดไม่ได้ หรือประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน มั่นใจได้ว่าความเข้มข้นของสีและทุกรายละเอียดจะมีความคมชัด สดใสด้วยเซนเซอร์ Adaptibe Pixel 200MP จาก Galaxy S23 Ultra ที่ช่วยเก็บภาพความละเอียดสูงได้อีกขั้นทั้งช่วงกลางวันหรือกลางคืน คุณภาพภาพถ่ายและวิดีโอจะยังคงดีเยี่ยม

เพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศโดยรอบและสภาพแสงน้อยด้วยความสามารถในการถ่ายภาพกลางคืนที่ได้รับการปรับปรุงของ Galaxy S23 Series และการประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ซึ่งช่วยลดการรบกวนภาพแต่ช่วยปรับความละเอียดและโทนสีให้ดีกว่าเดิม

ไม่ว่าจะมุมไหนภาพถ่ายและวิดีโอจะยังคงดูดี คมชัด ด้วยระบบปรับโฟกัสอย่างรวดเร็วและฟีเจอร์ใหม่อย่างกล้องเซลฟี่Super HDR selfie ที่ถ่ายภาพที่ความเร็ว 60fps อย่างต่อเนื่องและหากต้องการที่จะแต่งภาพให้ดูโปร ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยแอป Expert RAW นอกจากนี้ฟีเจอร์อื่นๆ อย่าง Multiple exposures photo art และ Astrophoto ที่จะช่วยในการเก็บภาพถ่ายดาวไปจนถึงทางช้างเผือกได้อย่างชัดเจนท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืน!

2. พลังอันเป็นที่สุดเพื่อการทำงานและเกมมิ่ง(Epic All-round Power for Work and Gaming)

สมาร์ทโฟนทุกวันนี้ต้องตามชีวิตที่วุ่นวายของเราให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การทำงานหลายอย่างพร้อมกันระหว่างการทำงานเอกสารหรือรับสายสำคัญ Galaxy S23 series นำเสนอ Snapdragon® 8 Gen 2 Mobile Platform สำหรับกาแล็คซี่ซึ่งเป็นชิปเซ็ต Snapdragon ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาปรับให้เหมาะสมสำหรับซัมซุงโดยเฉพาะ โดยร่วมมือกับ Qualcomm เพื่อมอบประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนทั้งงานและเกมอย่างเป็นที่สุด

Galaxy S23 Ultra มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดมหึมาด้วยพลังความจุ 5000mAh โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของตัวเครื่องและยังสามารถมีพื้นที่สำหรับกล้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ Galaxy S23 series ในทุกรุ่นยังมีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Champer ที่ช่วยให้ระบายความร้อนได้อย่างดีทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานมากยิ่งขึ้นทั้ง การเล่นเกม และ การใช้งานแอปในการทำงานต่างๆ ได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

3. ฟังก์ชันที่สุดกับการปรับเปลี่ยนเพื่อความเป็นตัวเอง (Epic Customization for You)

จากฟีดแบคของผู้ใช้ Samsung Galaxy หลายพันคนทั่วโลก กับสุดยอดประสบการณ์ที่ทั้งสะดวกและเป็นส่วนตัวที่ด้วยระบบ One UI 5.1 รอให้ทุกคนได้มาทดลองกับ Galaxy S23 Ultra, Galaxy S23+ และ  Galaxy S23 ที่สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อคให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยตัวเลือกสุดพิเศษทั้งโทนสีและกราฟิกที่มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาวิดเจ็ตที่อัปเกรดแล้วช่วยให้จัดระเบียบให้กับแอปและการอัปเดตอยู่เสมอ

นอกจากนี้ Galaxy S23 ยังสามารถเปิดใช้งานการเชื่อมต่อสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้นกับการแสดงออกอารมณ์ด้วยอีโมจิใหม่มากกว่า 80 แบบ รวมถึงภาพเอฟเฟคแอนิเมชั่นกว่า 10 แบบ และฟีเจอร์ Bixby Text Call ที่ให้รับโทรศัพท์ด้วยการพิมพ์ข้อความแทน โดยการพิมพ์ข้อความ ซึ่ง Bixby จะแปลงเป็นข้อความเสียงแล้วสื่อสารกับผู้โทรเข้าโดยตรงแทนตัวผู้ใช้งาน

ให้คุณได้เดินหน้าต่อตามสไตล์ในแบบของคุณด้วยวอลเปเปอร์ที่ปรับแต่งและการแจ้งเตือนที่ได้รับการปรับปรุงใน Galaxy S23 series ที่สามารถปรับแต่งได้ในโหมดและกิจวัตรต่างๆ เพื่อให้งานที่กำลังจะถึงของคุณเป็นอันดับต้นๆ ตลอดทั้งวัน

แชร์ความพี๊คคคได้แล้ววันนี้

นอกเหนือจากประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้แล้ว Galaxy S23 series ยังนำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างเหนือชั้น เช่น แดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบนซัมซุงกาแล็คซี่ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นการเข้าใช้งานจากบุคคลอื่น ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจมากขึ้น

หากใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่พกพาไปได้ในทุกสถานการณ์ Galaxy S23 series สามารถตอบสนองความทนทานกับการใช้งานในระยะเวลานาน ด้วยความร่วมมือกับ Corning และซัมซุงได้ทำให้ Galaxy S23 Ultra, Galaxy S23+ และ Galaxy S23 เป็นสมาร์ทโฟนในซัมซุงกาแล็กซี่ รุ่นแรกที่มี Gorilla® Glass Victus® 2 แผ่นกระจกกันกระแทกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานอย่างเหลือเชื่อต่อตกกระแทกบนพื้นผิวขรุขระ อย่างพื้นผิวคอนกรีต
และพื้นถนน

และสิ่งที่สำคัญที่สุด สมาร์ทโฟนจาก Galaxy S23 series ที่ได้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ส่วนประกอบต่างๆ ผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิลมากกว่าสมาร์ทโฟนซัมซุงกาแล็คซี่รุ่นอื่นๆ ที่เคยผลิตมา อุปกรณ์นี้ยังเป็นอุปกรณ์แรกที่รวมอะลูมิเนียมรีไซเคิลก่อนการนำไปใช้งานและโพลีเอทิลีนโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) ที่ผ่านการรีไซเคิล รวมถึง Corning® Gorilla® Glass Victus® 2 ที่มีความทนทานสูงซึ่งผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิลก่อนการใช้งานเฉลี่ย 22%

ก้าวข้ามขีดจำกัดกับสิ่งเป็นไปได้กับ Galaxy S23 series ช่วยให้ทุกคนโดดเด่นด้วยพลังที่ล้ำสมัย การถ่ายภาพ การปรับแต่ง และความสามารถด้านความปลอดภัยควบคู่ไปกับการออกแบบที่ยั่งยืนและทนทาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การสร้างเนื้อหา หรือการเชื่อมต่อกับผู้อื่น Galaxy S23 series ได้รับการออบแบบมาสำหรับวันนี้และในอนาคต เพื่อทำให้ประสบการณ์ในชีวิตพี๊คคคได้ในทุกวัน

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/3-reasons-with-the-best-galaxy-s23-series-that-you-must-try/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=3-reasons-with-the-best-galaxy-s23-series-that-you-must-try

REVIEW | รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือตัวท็อปสุดมาเหนือในทุกด้าน พร้อมให้ทุกคนตกหลุมรักได้ไม่ยาก

Samsung Galaxy S23 Ultra ทำให้ทุกคนตกหลุมรักได้ไม่ยาก ! หลังจากการเปิดตัวไปไม่นาน ในที่สุดเราก็ได้ยลโฉม มือถือตัวท็อปสุดในซีรีส์ที่จัดเต็มใหม่หมดทั้งสเปค และเซนเซอร์กล้องความละเอียดสูงถึง 200MP ซูมถึงดวงจันทร์ พร้อมหน้าจอ AMOLED 2X รีเฟรชเรท 120Hz กับชิปเซ็ตตัวแรงแบบพิเศษ Snapdragon 8 Gen 2 ถ้าอยากรู้ว่าการใช้งานจริงจะเป็นยังไงมาอ่านกันเลย

ดีไซน์พรีเมียม ทันสมัย

สัมผัสแรกที่ได้จับเครื่องจริง ต้องบอกเลยว่าดูพรีเมียมสมเป็น S23 Ultra ด้วยรูปทรงตัวเครื่องมาในแบบสมมาตร symmetry ส่วนของเฟรมเครื่องใช้วัสดุ Resistance Armored Aluminium แข็งแรงทนทาน พร้อมตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเป็น 234 กรัม ให้ความรู้สึกกระชับพอดีมือ แถมสีเขียว Botanic Green ยังให้อารมณ์สีออกไปทางเอิร์ธโทนพื้นผิวแมท มีความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว

ด้านหลังตัวเครื่อง มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์วงแหวนของกล้องหลังให้แบนราบไปกลับกระจกเลนส์มากขึ้น จะเห็นได้ว่าเลนส์จากที่ในรุ่นก่อนนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนด้านบนมีไมค์โครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างทั้งถาดซิมการ์ด, ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบปากกา SPen  นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไมโครโฟนตัวที่ 3 เข้ามาด้วย พร้อมครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus 2 ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

โดยรูปทรงตัวเครื่องในปีนี้ทำออกมาให้ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนมากขึ้น เพราะรุ่นที่ผ่านมาทำให้เกิดปัญหาการใช้ปากกา S Pen แล้วเขียนไม่ติด ตกขอบบ้าง หรือจะเล่นเกมแล้วมือไปโดนจอโดยที่เราไม่รู้ตัว ล่าสุดมีการปรับดีไซน์ใหม่ มาในแบบ New Edge ให้ขอบโค้งน้อยลงกว่าเดิม เป็นแบบแบนมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Galaxy S22 Ultra

S PEN

ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมกับช่องเก็บปากกา S Pen ที่เราจะขาดไปไม่ได้เหมือนเป็นซิกเนเจอร์ไปแล้ว โดยตัวปากกา  S Pen เป็นสีดำล้วน ส่วนท้ายปากกาสีเหมือนตัวเครื่อง Botanic Green สามารถนำมาใช้งานได้ทั้งเป็นรีโมทกล้อง ควบคุมตัวเครื่องผ่านปากกา ใช้ตัดต่อตัดต่อวีดีโอสั้นทำได้อย่างลื่นไหลด้วย การตอบสนองไวอยู่ที่ 2.8 ms

อีกทั้งสามารถเขียนปากการ S pen ได้ทุกอย่างครบฟังก์ชั่น ประกอบไปด้วย

  • โหมด Screen Off Memo ที่หน้าจอดับก็ยังเขียน หรือจดโน็ตรูปแบบต่าง ๆ ได้ง่ายดาย
  • โหมด Handwriting to Text ที่เปลี่ยนการเขียนด้วยลายมือของเรา ให้เป็นตัวอักษรได้ทันที แถมยังรองรับภาษาไทยให้ใช้งานได้อย่างสะดวก
  • โหมด Write On Calendar เขียนลงไปบนปฏิทินนัดหมายได้ทันที
  • พร้อมการช้งานอื่น ๆ อาทิ Create note, view all notes, Smart select, Screen write, Line messages, AR Doodle, Translate, Pen up.

การใช้ S PEN วาดรูป

มาต่อกันที่การวาดรูปสุดน่ารัก นอกจากการใช้งานในหมวดต่าง ๆ เรายังนำมารังสรรค์ผลงานศิลปะสุดคิวท์บนหน้าจอ S23 Ultra ได้ด้วย ถ้าถามว่าใช้งานดีแค่ไหนในเรื่องวาดภาพ เรียกว่าใช้ได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ อันนี้เป็นการวาดบนโปรแกรม Clip Studio

การใช้งานตอนจับกำลังพอดี แถมไม่เมื่อยด้วยดีกว่าที่คิดเยอะ และศักยภาพของเครื่องมือเครื่องเพ้นท์มีให้เลือกหลายรูปแบบเหมาะกับสายครีเอทีฟ หรือนักวาดที่ต้องการเก็บแรงบัลดาลใจ Drawing sketch งานแบบเร็ว ๆ เพื่อเก็บไอเดียไปใช้งานเวลาออกไปข้างนอกได้แบบไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องพกของให้วุ่นวาย แต่ถ้าคนไหนกำลังคิดว่าจะนำมาใช้แทนแท็บแล็ต ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ เพราะจอมือถือเล็กเกินไปสำหรับสายวาดในการทำหลาย ๆ เลเยอร์ไม่สะดวกทำให้เราปิดงาน หรือใส่ดีเทลสวย ๆ ลงไปได้ไม่ดี แต่ถ้าอยากจะลองวาด portrait ให้ออกมาละเอียดน่าจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานหน่อยค่ะ บวกกับพื้นฐานในการวาดเพิ่มเติมด้วย

หน้าจอสวยสด ไหลลื่น

ด้านหน้าจอมากับ Dynamic AMOLED 2X พร้อมกับกล้องหน้าแบบเจาะรู Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ รองรับรีเฟรชเรทสูงสุดที่ 1 – 120Hz และความสว่างที่ขึ้นไปถึง 1750 nits

ให้สีสันได้สดใส แม่นยำ แม้จะแร่งหน้าจอให้สว่างแค่ไหน หรือมีแสงจากภายนอกเข้ามากระทบ ยังคงแสดงผลได้ดีสีไม่มีผิดเพี้ยน ในเรื่องการรับชมความบันเทิงดูได้ทุกสตรีมมิ่งในไทย อาทิ Netflix ,  Disney+ Hotstar , HBO GO ปรับได้สูงสุดทุกความชัด

กล้อง

กล้องสุดเทพ ใส่เซนเซอร์ความละเอียดสูงถึง 200MP โดยชุดกล้องของ Galaxy S23 Ultra มีกล้อง 4 ตัว เซนเซอร์หลักความละเอียด 200MP f/1.7 กล้อง Ultra Wide 12MP f 2.2 ที่เหลือเป็นกล้องซูม 2 ระยะ ที่ Telephoto 3x และ Telephoto 10x ความละเอียด 10MP ทั้งคู่ โดยมีระยะ Space Zoom ไกลสุดคือ 100 เท่า

กล้องหน้า 12MP

ในเรื่องของการถ่ายภาพ มีกล้องเซลฟี่ 12 MP (f/2.2) มีระบบขยายภาพอัตโนมัติ ทำให้โฟกัสได้รวดเร็ว แม่นยำขึ้น ถ่ายภาพออกมาได้สวยงามในสภาวะที่แสงน้อย 


การถ่ายตอนกลางคืน

มาต่อกันที่การถ่ายภายโหมด Beauty ในช่วงกลางคืน ให้แสงสี และความสว่างได้คมชัดดีขึ้นเยอะกว่ารุ่นก่อนหน้าเลย แถมมีโหมด Pro ที่สามารถปรับดีเทลเพิ่มเติมได้ 



กล้องหลักสุดเทพ สวยจบในที่เดียว

เซนเซอร์กล้องหลักความละเอียด 200MP f/1.7 ที่เปลี่ยนมาใช้ ISOCELL HP2 มาพร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel เวอร์ชันใหม่ ให้ภาพออกมาได้สมบูรณ์แบบ โฟกัสได้ไวขึ้น สีสันสวยงามจนไม่ต้องไปแต่งต่อให้เสียเวลาเลย นอกจากว่าเราอยากได้โทนภาพกับสีที่ตรงใจตัวเอง แถมให้รายละเอียดได้ครบเห็นทั้งเส้นผมคน หรือดีเทลเล็ก ๆ
















การถ่ายภาพกลางคืนสำหรับวิว 

ในการถ่ายภาพตอนกลางคืน หรือในที่แสงน้อยด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่แสงน้อยมาก รูปภาพที่ออกมายังชัดทุกอณู ด้วยการเก็บรายละเอียดของแสง พร้อมการเบลอฉากหลังให้ดูมีมิติ เสมือนการใช้ DSLR เลยทีเดียว




ยังไม่หมดแค่นี้นะทุกคน ทางทีมงานของเราได้นำมือถือไปตามล่าทางช้างเผือกที่จังหวัดปราณบุรีมาด้วย เรียกว่าเป็นแหล่งดาราศาสตร์ช่วงคืนเดือนมืด ที่นักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันถ่ายดวงดาว โดยภาพนี้ไม่ได้มีการแต่งเพิ่มเติม สามารถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม แต่ถ้าใครอยากปรับแต่งเพื่อเพิ่มโทนสีให้เห็นกลุ่มดาวชัด ๆ ก็ทำได้


และถ้าเห็นว่าภาพติดสีเขียวไม่ต้องแปลกใจไป เพราะการถ่ายภาพคืนในทะเล มีแสงไฟจากบรรดาเรือประมงไดหมึกนั่นเองค่ะ เขาจะทำการล่อหมึกให้ออกมาแสงเลยส่งผลต่อการถ่ายภาพอยู่บ้าง แต่ถ้าลองไปถ่ายในที่มืดสนิทจะมีความม่วงติดมาบ้าง เดี๋ยวไว้เราจะมาบอกเทคนิคการถ่ายให้อ่านกันค่ะ

การถ่ายวิดิโอกล้องหลัง

การถ่ายวิดีโอนี้ใช้ความละเอียด 4k 60FPS ในช่วงเช้า เวลา 7 โมง

และช่วงกลางคืนเวลาที่ถ่ายประมาณ 3 ทุ่ม ความละเอียด 4k 30FPS เป็นแบบ 2x Wider OIS ทั้งคู่กันสั่นได้ดี ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ในสภาวะแสงน้อย หรือช่วงเวลาไหนก็ดูเสถียร พร้อมลดนอยส์ทำให้ฉากต่าง ๆ ดูสวยงาม ถ้าจะทำคลิปสั้นแบบคอนเทนต์ เรียกได้ว่าตอบโจทย์มาก ๆ

ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8k

การถ่ายวิดีโอนี้ใช้ความละเอียดสูงสุด 8k 30fps

ภาพถ่ายแบบซูมจาก Samsung Galaxy S23 Ultra

นี่เป็นอีกหนึ่งจุดขาย ที่ทำออกมาได้สุดยอดในเรื่องของการซูมที่ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม จะซูมในระยะ 30 เท่า ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน และคมชัด รวมถึงเมื่อซูมไป 100 เท่าเต็มความสามารถแล้ว ก็ไม่มีอาการสั่นให้เห็นเลยสักนิด เรียกได้ว่านิ่งสุด ๆ





ภาพซูมชุดที่ 1 





ภาพซูมชุดที่ 2





ภาพซูมชุดที่ 3 

เรื่องการซูมไม่มีอะไรให้ติ ทำออกมาได้น่าประทับใจ ยิ่งใครเป็นสายดูดาว หรือสายเสพดนตรี จะซูมดูศิลปินที่เรารักในคอน หรือนักฟุตบอลที่ชอบได้สบาย ไม่ต้องชะเง้อคอให้เมื่อยเลยล่ะ

ภาพรวมฟีเจอร์อัปเกรดใหม่จัดเต็มรอบด้าน

Click to view slideshow.

  • หน้าจอสวยสด ไหลลื่น ด้วย  Quad HD+ ที่ให้สีสันสวยสด แถมสว่างได้ถึง 1750 nits  รองรับรีเฟรชเรท 1 – 120Hz ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เพราะเวลาหน้าจอไม่มีการเคลื่อนไหว รีเฟรชเรทจะปรับลงไปที่ 1Hz เลย นอกจากนี้ ยังแข็งแกร่งสุด ๆ เพราะครอบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ที่ทำให้ทนแรงกระแทกจากการตกที่สูงลงพื้นคอนกรีตได้ถึง 1 เมตร และทนการกระแทกกับถนนยางมะตอยได้ถึง 2 เมตร
  • สเปคแรง ทุกรุ่นมากับชิป Snapdragon 8 Gen 2 เป็นชิปรุ่นพิเศษที่ Samsung จับมือ Qualcommทำให้ได้ทั้งประสิทธิภาพที่แรงเหลือ ๆ  แถมยังประหยัดพลังงาน จะใช้เล่นเกม 3D กราฟิกโหด ๆ จะสลับแอปไปมา แต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ ก็ลื่นปรื๊ด
  • จัดการความร้อนได้ดี ด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Cooling Chamber ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสูงสุดถึง 2.7 เท่า ช่วยลดอุณหภูมิจากการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • กล้องทรงพลัง มากับเซนเซอร์กล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 200MP ซึ่งสามารถถ่ายภาพแบบเต็มความละเอียดแล้วเอามา Crop ในส่วนที่ต้องการได้แบบคมกริบ
  • ระบบกันสั่นแบบ OIS ครอบคลุมการสั่นไหวของเลนส์กล้องได้กว้างกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า บวกกับระบบ Adaptive VDIS ที่ช่วยประมวลผลการเคลื่อนไหวของมือถือ ทำให้การถ่ายวิดีโอมีความนิ่งมากขึ้น
  • ถ่ายวิดีโอระดับโปร กล้องหลังที่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60fps แบบ Super HDR เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับสีสันของภาพ หรือจะไปให้สุดที่ระดับ 8K 30fps
  • กล้องหน้าก็นจัดว่าเด็ด มีความละเอียดอยู่ที่ 12MP เป็นเซนเซอร์กล้องใหม่ที่ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลสุดแรง ทำให้สามารถถ่ายเซลฟี่ในทุกสภาพแสงออกมาได้สวยสดงดงาม
  • ปากกา S PEN เหมือนดั่งไม้กายสิทธิ์ ใช้ได้ทั้งการจดโน้ต หรือจะวาดรูปก็ทำได้แบบเป็นธรรมชาติเพราะรองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ และยังใช้ปากกาเพื่อสั่งการต่าง ๆ อย่างเช่น กดชัตเตอร์ระยะไกล, เปลี่ยนเพลง, เปลี่ยนสไลด์พรีเซนเทชั่นก็ยังได้

สเปค SAMSUNG GALAXY S23 ULTRA

  • หน้าจอ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy
  • RAM : 8GB / 12GB
  • ความจุ : 256GB / 512GB / 1TB ไม่รองรับ microSD
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    –  กล้องหลักความละเอียด 200MP (f/1.7), กันสั่น OIS, มุมกว้าง 85 องศา
    – กล้อง Ultrawide (f/2.2) มุมกว้าง 120 องศา
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 3x, กันสั่น OIS
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 10x – Space Zoom 100x, กันสั่น OIS
  • กล้องหน้า : 12MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 7, Bluetooth 5.3, UWB
  • เซนเซอร์ : สแกนนิ้วมือ Ultrasonic (ใต้จอ), accelerometer, barometer, gyroscope, light sensor, proximity sensor
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
  • มาตรฐานกันน้ำ/กันฝุ่น IP68
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W ไร้สาย 15W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : 163.4 x 78.1 x 8.9 มม. / 234 กรัม

เล่นเกมกราฟิกโหด ได้เหลือ ๆ โคตรขุมพลัง

ในเรื่องของการเล่นเกมต้องบอกว่ามือถือตัวท็อปอย่าง Galaxy S23 Ultra มีสเปคที่เกินเกมกราฟิกโหด ๆ ไปไกลแล้วค่ะ ยิ่งเกมภาพสวยจัดจ้านแบบ Genshin Impact เป็นเรื่องหมู ๆ ไปเลย เพราะสามารถปรับคุณภาพกราฟิกได้สูงสุด ควบคู่กับการเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้สบาย แถมการเล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน จากการทดสอบพบว่าอุณหภูมิขณะเล่นไป 30 นาทีไม่สูงมาก ไม่ร้อนจัดแค่พอให้อุ่น และเรายังอุ่นใจตามไปด้วย


เกมต่อมาที่ลองคือ Ragnarox X: Next Generation เป็นสุดยอดเกม MMORPG ที่ใช้กราฟิกและการประมวลที่ค่อนค้างสูงเนื่องจากว่าคนเล่นกันเป็นจำนวนมากยิ่งดึก ๆ เกิน 200  คนเลยทีเดียว หลังจากลองไปตีบวก และเดินท่ามกลางฝูงชนยังวิ่งได้ลื่นไหล ผจญภัยแบบไม่มีสะดุด


เกมท้ายสุด  ROV ยอดฮิตประจำหมู่บ้าน ปรับไปเลยกราฟิกสุดภาพ HD สูงมาก, การแสดงผล สูงมาก, พาร์ติเคิล 3  จริง ๆ การแสดงผลปรับได้สูงมากเหมือนกัน จะออกไปลาสบอสก็ทำได้ต่อเนื่อง

แบตเตอรี่เหลือเฟือ

ต้องบอกเลยว่าอยู่ได้ยาวนานมาก จนลืมไปเลยว่ามีแบตเตอรี่ 5000mAh เพราะควบคุมระบบการทำงานในเครื่องได้ดีขึ้นเยอะ เรียกว่าใช้ข้ามวันได้เลยค่ะ เนื่องจากมีแบตขนาดใหญ่พร้อมให้เราเอาไปลุยกิจกรรมหนัก ๆ ข้างนอก ได้เต็มที่ทั้งในเรื่องเล่นแอปโซเชียล เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป ถ่ายคลิป และจดงานในโน็ตจากการใช้งานตั้งแต่ 9 โมง แต่ว่าเริ่มนับจากการใช้หนัก ๆ เวลา 12.00 น. – 23.00 น.เป็นเวลา 9 ชั่วโมงแบตลดจาก 98% เหลือ 51%  


 

ความเร็วในการชาร์จ

ความเร็วในการชาร์จ 45W Fast charge พร้อม Super Fast Charging 2.0 ช่วงต้นจะใช้เวลาค่อนข้างเร็ว แต่ถ้าจะเอาเต็ม 100 ต้องรอชั่วโมงนิด ๆ ค่ะ

  • หลังชาร์จไป 15 นาที แบตเพิ่มขึ้นมาเป็น 46%
  • หลังชาร์จไป 30 นาที แบตเพิ่มขึ้นมาเป็น 74%
  • หลังชาร์จไป 1 ชม. นิด ๆ แบตเต็ม 100%

ทริคเล็ก ๆ ที่น่าสนใจ

ในมือถือ Samsung Galaxy S23 ทุกรุ่นมีวิธีลบคน ลบของออกจากภาพได้ด้วยนะ ไม่ต้องไปหาโหลดแอปใหม่ที่ไหน วิธีทำก็ง่ายมาก ๆ กดไม่กี่ขั้นตอน สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลย และอีกหนึ่งลูกเล่นที่เราอยากนำเสนอคือ สามารถตัดรูปจากพื้นหลังเหมือน iPhone ได้ด้วย

  • ขั้นตอนที่ 1 แค่เราเอามือไปจิ้มรูปที่เราต้องการแล้วกดค้างไว้ ตัว Ai จะประมวลผลให้
  • ขั้นตอนที่ 2 ลากรูปที่ลอยออกมาได้ทันที เลือกได้ทั้ง คัดลอก แชร์ และบันทึกภาพ  ลงโซเชียลมิเดียได้หมดใน Facebook , Instagram , note, แชทต่าง ๆ หรือสติกเกอร์  แต่เงื่อนไขต้องเป็นเวอร์ชัน ONE UI 5.1 ขึ้นไปนะ 


สรุป SAMSUNG GALAXY S23 Ultra เหมาะกับใคร?

Samsung Galaxy S23 Ultra  เหมาะสมกับคนที่ทำงานสายสายครีเอทีฟ หรือคนที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ จัดจ้านและต้องการสเปคแบบจัดเต็ม ใช้ไปยาว ๆ ไม่ว่าจะเป็น utility ด้านไหนก็สามารถรองรับได้หมดทั้งเล่นเกมหนัก ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ทำคอนเทนต์ เขียนงานจดโน็ต หรือจะซูมกล้องถ่ายศิลปิน ส่องสัตว์ ดูดาวกับผองเพื่อน ใช้ออกไปทำงานเป็นวัน แบตก็ยังอึดอยู่นาน บอกเลยครบจบในที่เดียว พูดแล้วจะเหมือนอวย แต่พอได้ใช้งานจริงทุกอย่างลื่นไหลไปหมด ในแง่อำนวยความสะดวกต้องยกให้เลยค่ะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสมาร์ทโฟนน่าซื้อในปี 2023  จริง ๆ ไม่ใช่แค่กล้อง 200MP

จุดเด่น

  • ดีไซน์เครื่องดูพรีเมียม น่าใช้
  • จอสีสันสดใสด้วย Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่เต็มตา ความละเอียด QHD+
  • ใช้ตอนกลางวัน หนา้จอสว่างสู้แดดได้
  • ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่โคตรแรง
  • ลำโพงให้เสียงดังชัดเจน ไม่มีแตก
  • แบตเตอรี่อึดข้ามวัน
  • ถ่ายภาพสวยขึ้นทุกมิติ เก็บรายละเอียดได้ดี ทั้งในพื้นที่แสงน้อย
  • ซูมได้ไกล 100 เท่า
  • ชาร์จไว 45W Fast charge พร้อม Super Fast Charging 2.0
  • เกมปรับกราฟิกโหดได้สบาย และเครื่องไม่ร้อนจัด
  • ฟีเจอร์เยอะครอบคลุม จนใช้ไม่หมด

จุดสังเกต

  • ไม่ได้ต่างจาก Samsung Galaxy S22 Ultra มาก
  • เสียงเบสน้อยไป
  • มีฝุ่นเล็ก ๆ เข้าไปในกล้องได้ ถ้าไม่ป้องกัน
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • ไม่สามารถใส่ SD Card ได้

ราคา Samsung Galaxy S23Ultra

  • ความจุ 8GB/256GB     ราคา 43,900 บาท 
  • ความจุ 12GB + 512GB ราคา 49,900 บาท
  • ความจุ 12GB + 1TB      ราคา 59,900 บาท

 

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s23-ultra-review/

ซัมซุงปล่อยอัพเดต One UI 5.1 ให้ ซัมซุงกาแล็คซี่รุ่นปัจจุบันได้ใช้งานพร้อมๆ กับ Galaxy S23 Series ที่เพิ่งประกาศเปิดตัว

ซัมซุงประกาศว่า One UI 5.1 ที่เพิ่งเผยโฉมไปสดๆ ร้อนๆ พร้อมกับ Galaxy S23 Series จะเริ่มปล่อยออกสู่ซัมซุงกาแล็คซี่รุ่นอื่นๆ ทั่วโลกแล้ว เริ่มจาก Galaxy S22 Series[1], Z Fold4, Z Flip4, S21 Series[2] และ S20 Series[3] โดยที่เมื่อใช้ One UI 5.1 อินเตอร์เฟสจะดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับความครีเอทีฟและสร้างสไตล์ที่เป็นตัวเอง ได้มากขึ้นเพื่อประสบการณ์โดยรวมที่สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม

“One UI 5.1  คือบทพิสูจน์ครั้งล่าสุดถึงพันธสัญญาของซัมซุงที่จะมอบนวัตกรรมล่าสุดสู่ผู้ใช้ซัมซุงกาแล็คซี่อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” จางฮยุน ยูน รองประธานกรรมการบริหารและผู้บริหารอาวุโสของฝ่ายซอฟต์แวร์ กล่าว

“ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อนำ One UI 5.1 ออกสู่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกาแล็คซี่ที่มีผู้ใช้งานอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน หลังการประกาศเปิดตัว Galaxy S23 Series เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น”

กล้องคุณภาพระดับมืออาชีพและแกลเลอรีภาพถ่ายที่ต้องตาต้องใจมากยิ่งขึ้น

One UI 5.1 ต่อยอดการอัพเกรดฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพที่ได้ประกาศไปแล้วพร้อมๆ กับ Galaxy S23 Series โดยในวันนี้ ผู้ใช้ซัมซุงกาแล็คซี่จะสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายคุณภาพสูงระดับมืออาชีพได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ Expert RAW[4] ที่มีพร้อมให้ใช้งานได้ภายในแอป Galaxy Camera โดยตรง เพียงเลือกเมนู “More” ในขณะถ่ายภาพเพื่อเลือกเก็บภาพคุณภาพสูงในรูปแบบ RAW 

นอกเหนือจากนี้ ฟีเจอร์ Photo Remaster ที่ใช้เทคโนโลยี AI และได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้สูงยิ่งขึ้น ยังช่วยปรับปรุงรายละเอียดที่บกพร่องของภาพได้โดยอัตโนมัติโดยการปรับแก้ความสว่าง ปรับแต่งรายละเอียด พร้อมกับช่วยแก้ไขสีสันให้แม้ในภาพที่มีแสงน้อย และยังช่วยลบเงามืดและภาพสะท้อนที่ไม่พึงประสงค์เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สวยสมบูรณ์แบบอีกด้วย[5]

Samsung

ภาพที่ผ่านการปรับแต่งด้วยฟีเจอร์ Photo Remaster

การปรับปรุงการใช้งานใหม่ยังทำให้ค้นหาภาพถ่ายภายในแอป Gallery และสร้างอัลบั้มเพื่อแชร์กันในครอบครัว[6] ได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคย เพียงแค่แตะที่ใบหน้าของบุคคลในภาพถ่ายเพื่อทำการค้นหาภาพเพิ่มเติม แอป Gallery ก็จะค้นหาใบหน้าของบุคคลอันเป็นที่รักเพื่อแนะว่าอาจะเป็นภาพที่ควรอยู่ในอัลบั้มภาพถ่ายครอบครัว

ประสบการณ์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร ให้ผู้ใช้ทุกคนสร้างสไตล์ที่เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

ซัมซุงมุ่งเน้นให้ผู้ใช้ซัมซุงกาแล็คซี่สามารถควบคุมเครื่องของตนเองได้มากยิ่งขึ้นมาโดยตลอด ด้วยการให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนยูสเซอร์อินเตอร์เฟสได้ตามต้องการในหลากหลายแง่มุม One UI 5.1 จะมอบฟีเจอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจใหม่ๆ ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานซัมซุงสมาร์ทโฟนได้แทบจะทุกแง่มุม ตั้งแต่รูปลักษณ์ การสื่อสาร ขั้นตอนการใช้งาน ฯลฯ

ซัมซุงได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่สามารถเข้าใจรูปแบบการใช้งานและจะให้คำเสนอแนะอย่างสอดคล้องกัน ยกตัวอย่างเช่น Widget Dynamic Weather ใหม่ที่จะช่วยวิเคราะห์สภาพอากาศ ณ ปัจจุบัน และสร้างดีไซน์เฉพาะที่สื่อถึงสภาพอากาศนั้นๆ ฟีเจอร์ Modes and Routines ได้ขยับขยายการใช้งานให้สามารถปรับเปลี่ยนวอลเปเปอร์ เสียงเรียกเข้า ความไวต่อการสัมผัส และแบบอักษร

ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนในแบบที่เป็นตัวเอง สามารถใช้กับเฉพาะกิจกรรมที่ต้องการเพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ One UI 5.1 ยังอัปเดต Widget Smart Suggestions[7] โดยการเพิ่มความสามารถในการเสนอแนะเพลงและเพลย์ลิสต์บน Spotify[8] ตามกิจกรรมของผู้ใช้ เช่น เพลงสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์เป็นระยะทางไกลๆ หรือเพื่อความผ่อนคลาย

Widget Dynamic Weather ใหม่

Widget Smart Suggestions ที่ผสานการทำงานกับ Spotify[9]

การเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นทั้งอีโคซิสเต็มของซัมซุงกาแล็คซี่

ซัมซุงยังได้พัฒนา One UI ให้เกิดการประสานการทำงานและการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้นทั้งอีโคซิสเต็ม
ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับอีโคซิสเต็มที่เชื่อมต่อกันได้อย่างทั่วถึงทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ส่วนตัวด้วยฟีเจอร์ Multi Control ระหว่าง Galaxy Book10 และสมาร์ทโฟน11 ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์การใช้งานเมาส์ แป้นพิมพ์ หรือแทร็คแพดของ Galaxy Book ได้ ไม่เพียงแค่กับแท็บเล็ตกาแล็คซี่เท่านั้น

แต่ในวันนี้ยังทำเช่นเดียวกันได้กับสมาร์ทโฟน กาแล็คซี่อีกด้วย จึงสามารถคัดลอกและแปะข้อความตลอดจนลากรูปภาพจากเครื่องหนึ่งไปอีกหนึ่งได้อย่างไร้รอยต่อ เสมือนเป็นเครื่องเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ฟีเจอร์ Link to Windows ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตด้วย Samsung Internet บนตัวเครื่องสมาร์ทโฟนเพื่อดูหน้าเว็บเดียวกันบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว12 ได้อย่างไร้รอยต่อ หน้าเว็บเหล่านี้ยังสามารถเรียกดูต่อเนื่องจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้ ทำให้ชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก

ขยายความสามารถของ Multi Control อย่างทั่วถึงทั้ง Ecosystem ของดีไวซ์ Galaxy

การเปิดให้อัพเดทแล้ววันนี้!!

การอัพเดทซอฟต์แวร์เป็น One UI 5.1 เริ่มเปิดให้กับ Samsung Galaxy S22 Series1, Z Fold4, Z Flip4, S21 Series2 และ S20 Series3 แล้ว การอัพเดทซอฟต์แวร์สำหรับดีไวซ์ Galaxy รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึง Galaxy Z Fold3 และ Z Flip3 จะทยอยเปิดในสัปดาห์ต่อๆ ไป


[1] Galaxy S22 Series ประกอบด้วย Galaxy S22, S22+ และ S22 Ultra

[2] Galaxy S21 Series ประกอบด้วย Galaxy S21, S21+, S21 Ultra และ S21 FE

[3] Galaxy S20 Series ประกอบด้วย Galaxy S20, S20+, S20 Ultra, S20 FE และ S20 FE 5G

[4] แอป Expert RAW มีให้บริการเฉพาะในบางรุ่น อาทิ Galaxy S22, S22+, S22 Ultra, Z Fold4, S21 Ultra, Z Fold3, S20 Ultra, Note20 Ultra และ Z Fold2      โดยฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้อาจมีความแตกต่างในดีไวซ์แต่ละรุ่น

[5] เครื่องมือลบวัตถุรองรับฟีเจอร์ในการลบเงามืดและภาพสะท้อนได้แล้ว โดยเริ่มใช้งานได้เป็นครั้งแรกใน Photo Remaster จาก One UI 5.1

[6] ต้องมีกลุ่มครอบครัวที่สร้างขึ้นจากบัญชีผู้ใช้ซัมซุง

[7] การเปิดให้ใช้งาน Smart Suggestions อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคหรือดีไวซ์

[8] หากต้องการรับการเสนอแนะ ผู้ใช้จะต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Spotify ในแอป Spotify เวอร์ชั่นล่าสุด

[9] รูปภาพจำลอง. UX/UI อาจมีการเปลี่ยนแปลง. เปิดให้ใช้งานได้กับบัญชี Spotify Premium เท่านั้น

10Galaxy Book ไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย

11ฟีเจอร์ Multi Control เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะในโทรศัพท์ Galaxy แท็บเล็ต Galaxy Tab และ Galaxy Book บางรุ่น โดยจะทำงานกับแท็บเล็ตที่ใช้ One UI 4.1 หรือใหม่กว่า โทรศัพท์ที่ใช้ One UI 5.1 หรือใหม่กว่า และ Galaxy Book Series ที่เปิดตัวในปี 2564 หรือหลังจากนั้น และมี Samsung Settings v1.5 (Intel) หรือ Samsung Settings v3.3 (ARM) อย่างใดอย่างหนึ่ง ฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้อาจแตกต่างกันในดีไวซ์แต่ละรุ่น ต้องลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีผู้ใช้ซัมซุง ต้องใช้การเชื่อมต่อ     Wi-Fi และบลูทูธ.

12การเรียกดูเว็บไซต์ที่เข้าชมในระยะหลังจะสามารถทำได้เมื่อใช้แอป Samsung Internet บนสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่ใช้ One UI 3.1.1 หรือใหม่กว่า (Samsung Galaxy S, Note,  Z Fold, Z Flip) และคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่ใช้ Windows 10 20H1 หรือใหม่กว่าเท่านั้น. ต้องอัพเดทแอป Microsoft Phone Link, Link to Windows และ Samsung internet เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/samsung-released-one-ui-5-1-update/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=samsung-released-one-ui-5-1-update