คลังเก็บป้ายกำกับ: เกมมิ่งโน้ตบุ๊ก

9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ ลดเพิ่ม 4,000 ได้ของแถมเพียบ! ผ่อนนาน 24 เดือน ซื้อตอนนี้คุ้มสุดๆ !!

รวมโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรับเดือนมกราคม 2023 นี้เพื่อคนทำงานและเกมเมอร์แบบเต็มๆ !!

ร่วม 9 โน๊ตบุ๊ค BaNANA 1

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อในเดือนมกราคม 2023 นี้ ทางร้านได้จัดโปรฯ น่าสนใจต้อนรับเดือนแรกของปีให้คนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าที่ตะลุยงานกับเจ้าของมาด้วยนานหลายปีจนตอนนี้มันเริ่มไม่เร็วทันใจอย่างที่ควรแล้ว ให้ได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ซีพียู Intel รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงไปใช้งานกัน โดยในโปรโมชั่นครั้งนี้รวมโน๊ตบุ๊คทั้ง Intel 11th Gen ประสิทธิภาพดีทั้งทำงานและเล่นเกมและ Intel 12th Gen รุ่นใหม่สถาปัตยกรรมผสมคอร์ 2 ชุดที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมมากทั้งการทำงานและจัดการพลังงาน แถมยังเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 อีกด้วย

Advertisementavw

สำหรับโปรโมชั่นของร้าน BaNANA ครั้งนี้จะร่วมกับโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel ที่มีขายในร้าน ใช้โค้ดส่วนลดกับรุ่นที่ร่วมรายการได้สูงสุด 1,000 / 2,000 / 4,000 บาท โดยทางร้านจะขึ้นโค้ดส่วนลดเป็นพิเศษเอาไว้คู่กับโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะ, เลือกผ่อนกับบัตรเครดิตได้นานสุด 0% 24 เดือนผ่านทาง SCB Easy App ได้และเมื่อสั่งซื้อแล้วยังรอรับสินค้าที่หน้าร้านได้ภายใน 1 ชั่วโมงอีกด้วย ได้ความรวดเร็วทันใจผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ไว้ทำงานมาก และบางรุ่นยังได้ของสมนาคุณเอาไว้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ

9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ พร้อมโปรโมชั่นเด็ด ส่วนลดเพียบผ่อนได้ตามสะดวก!

BNN Cover intel Brand Fair 160123 310123 category banner medium 1

สำหรับโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้าน BaNANA ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะมีโค้ดใช้งาน 3 รหัสตามภาพแบนเนอร์ข้างต้นนี้ และยังเอาไปใช้งานกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ร่วมรายการได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้คนไหนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คอยู่แล้วมองหาโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นใหม่ในโปรโมชั่นนี้มาใช้งาน ผู้เขียนได้เลือกรุ่นน่าสนใจมาทั้งหมด 9 รุ่น ผสมกันทั้ง Intel 11th Gen และ 12th Gen โดยมีรายชื่อดังนี้

  1. Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA (12,990 บาท)
  2. Acer Aspire Vero AV15-51R-52JY (23,990 บาท)
  3. Hp 15s-fq5083TU (26,990 บาท)
  4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA (30,990 บาท)
  5. MSI GF66 Katana 12UCO-637TH (31,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 (32,990 บาท)
  7. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)
  8. Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL (49,990 บาท)
  9. ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W (99,990 บาท)
1. Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA (12,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad L3 15ITL6 01

 

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นแรกในโปรโมชั่นครั้งนี้ ผู้เขียนเลือก Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA มาแนะนำ นั่นเพราะเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงมากแต่สเปคน่าใช้และมีบานชัตเตอร์ปิดกล้อง Webcam เมื่อไม่ต้องการใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีชุด Numpad ติดตั้งมาให้ทำงานได้สะดวก หากอัพเกรดแรมไปเป็น 8~16GB ก็ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นแน่นอน

สเปคเครื่องนี้ได้ซีพียู Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz กับการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มาใช้ทำงานและแสดงผลขึ้นหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด HD (1366×768) พาเนล IPS ได้เป็นอย่างดี มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรมออนบอร์ด 4GB DDR4 บัส 2933MHz ซึ่งถ้าอัพเกรดเพิ่มเติมก็ทำงานและเรียนได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว ส่วนน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นแรกที่ผู้เขียนแนะนำและยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางครอบครัว, ผ่อนชำระ 0% ได้ 24 เดือนและยังได้ของแถมที่ร่วมรายการอีกด้วย

สเปคของ Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA
CPU Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 4GB DDR4 บัส 2933MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด HD (1366×768) พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 12,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Acer Aspire Vero AV15-51R-52JY (23,990 บาท)

Aspire Vero AV15 51R 52JY 01

 

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นถัดมาเป็นโน๊ตบุ๊คบอดี้รักษ์โลกอย่าง Acer Aspire Vero AV15-52JY ที่ได้ลวดลายพิเศษที่ร่วมกับนิตยสาร National Geographic เพื่อสื่อถึงการรักษ์โลกอีกด้วย บอดี้ตัวเครื่องนอกจากสวยแข็งแรงดูดีและทำจากพลาสติกรีไซเคิล PCR และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ยังใช้โค้ดส่วนลด BNINTBFJ40 ลดราคาได้อีก 4,000 บาทพร้อมรับของสมนาคุณเพิ่มด้วย

ซีพียูของ Aspire Vero ติดตั้ง Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5~4.5GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มาให้ ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้พร้อมแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.0 x 2, USB-C 3.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ในตัว น้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น หากใครหาโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นพิเศษเอาไว้ใช้งาน แนะนำให้ดู Aspire Vero รุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Acer Aspire Vero AV15-51-76YC
CPU Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.0 x 2, USB-C 3.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

Weight 1.8 กิโลกรัม
Price 23,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 4,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Hp 15s-fq5083TU (26,990 บาท)

HP Notebook 15s fq5083TU Silver 01

 

Hp 15s-fq5083TU เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คทำงานโดยเฉพาะ โดยจุดเด่นของมันคือได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, Numpad สำหรับพิมพ์ตัวเลข, สเปคจบจากโรงงานพร้อมใช้ไม่ต้องเสียเวลาอัพเกรด ด้านน้ำหนักยังเบาเพียง 1.69 กิโลกรัมเท่านั้น ด้านซีพียูได้ Intel 12th Gen ในตัวอีกด้วย เรียกว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากอาจจะซื้อซอฟท์แวร์ทำงานอย่าง Microsoft Office เพิ่มหน่อยก็พอ ส่วนโปรโมชั่นเมื่อซื้อเครื่องแล้วยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางสำหรับครอบครัวและของแถมเพิ่มเติมและผ่อน 0% ได้นาน 24 เดือนอีกด้วย

ซีพียูของ HP 15s ติดตั้ง Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ ซึ่งถ้าดูโดยรวมต้องถือว่า HP เครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อเพื่อสายทำงานและราคาก็ไม่เกิน 30,000 บาท จัดว่าไม่ถูกไม่แพงแต่แรงไว้ใจได้ด้วย หากใครใช้โน๊ตบุ๊คซีพียูรุ่นเก่าอย่าง Intel 8th Gen อยู่แนะนำให้ลงทุนอัพเกรดมารุ่นนี้รับรองว่าถูกใจทำงานดีขึ้นมากแน่นอน

สเปคของ Hp 15s-fq5083TU
CPU Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.69 กิโลกรัม
Price 26,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA (30,990 บาท)

Screenshot 2023 01 16 145918 1

 

หากใครรันโปรแกรมใหญ่กินทรัพยากรเครื่องมากๆ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA เครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะมันได้รับการรับรอง Intel Evo ว่าเครื่องเบาพกพาง่ายเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เสถียรรวดเร็ว, จอ OLED สีสันสวยสดขอบเขตสีกว้าง, กางหน้าจอได้ 180 องศา, ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 Full Function ต่อหน้าจอแยก DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้ มี Microsoft Office แท้และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย นับว่าคุ้มครบเครื่องสุดๆ

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED HDR อัตราส่วน 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 120Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรมในเครื่อง 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI 2.0 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11 ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.63 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวถ้ากำลังอยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้งาน

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED HDR อัตราส่วน 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI 2.0 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11 ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 30,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. MSI GF66 Katana 12UCO-637TH (31,990 บาท)

MSI Notebook Katana GF66 12UCO 01

 

ด้านเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ สเปคดุดันไว้ใจได้ มี MSI GF66 Katana 12UCO-637TH ให้เลือก ซึ่ง MSI Katana รุ่นใหม่ๆ นี้ทางบริษัทได้ปรับแต่งระบบระบายความร้อนให้จัดการอุณหภูมิได้ดีขึ้นแถมยังให้ฟีเจอร์ด้านการเล่นเกม เช่น เปิดเป้าเล็งปืน Crosshair ขึ้นมาค้างบนหน้าจอและเร่งระบบระบายความร้อนให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นแถมยังอัพเกรดเพิ่มแรมและ SSD ได้ ด้านราคานับว่าไม่แพงเกินและยังมีโปรโมชั่นแลกซื้อกระเป๋าเดินทางและของแถมร่วมรายการจาก BaNANA เข้ามาเสริมด้วย หากใครสนใจอยากอ่านรีวิว MSI Katana จะมีรุ่นเทียบเคียงที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ให้อ่านได้ที่นี่

ซีพียูใน MSI Katana เครื่องนี้เป็น Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home พร้อมแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz รองรับการอัพเกรดได้ถึง 64GB มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ ราคาสามหมื่นบาทต้นๆ อยู่ล่ะก็ แนะนำให้ดู MSI Katana รุ่นนี้เอาไว้รับรองคุ้มแน่นอน

สเปคของ MSI GF66 Katana 12UCO-637TH
CPU Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 31,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 (32,990 บาท)

Lenovo IdeaPad Gaming 3i 01

 

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อต้องรวมถึง Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 เครื่องนี้ที่ได้บอดี้ของ Lenovo Legion มาใช้งานด้วย ซึ่งนอกจากระบายความร้อนได้ดีและบอดี้สวยดูแข็งแรงแล้ว ยังอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD เพิ่มได้ง่ายและมีไฟ LED Backlit ติดมาให้ มี Thunderbolt 4 แบบ Full Function ต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่ได้ จอมีขอบเขตสีหน้าจอยังกว้างพอใช้ทำงานอาร์ทได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่ และเมื่อซื้อกับทางร้าน BaNANA ยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางและได้รับของสมนาคุณพร้อมกันอีกด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรมในเครื่อง 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน  802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักตัวเครื่อง 2.31 กิโลกรัม นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่หน้าตาเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานธรรมดาแต่สเปคโดยรวมนับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเต็มตัวได้เลย หากใครมองหาโน๊ตบุ๊คสไตล์นี้อยู่ก็น่าซื้อเครื่องนี้ไปใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน  802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.31 กิโลกรัม
Price 32,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)

Acer Notebook Nitro AN515 58 01

 

Acer Nitro 5 AN515-58-50WD เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อบอดี้ใหม่ซึ่งทางผู้ผลิตติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 แบบ Full Function ต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่คืนให้เครื่องได้ หน้าจอมีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ใช้แต่งภาพทำงานอาร์ทได้สบายๆ และติดตั้งซีพียู Intel 12th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้และยังอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้ด้วย หากใครอยากได้ Nitro 5 เครื่องนี้สามารถใช้โค้ด BNINTBFJ10 เพื่อรับส่วนลด 1,000 บาทได้และยังได้รับของสมนาคุณเพิ่มเติมอีกด้วย หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

ซีพียูของ Nitro 5 เป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ รองรับการอัพเกรดเพิ่มเติม ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ต้องถือว่า Nitro 5 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อและเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไม่กี่รุ่นที่มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ใช้จากโรงงาน

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-50WD
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL (49,990 บาท)

Acer Notebook Predator PH315 01

 

Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL แม้จะตกรุ่นไปบ้างแล้วแต่ก็ยังเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้ออยู่ดี เพราะนอกจากทางร้านจะลดราคาจากตอนเปิดตัวมา 10,000 บาทแล้ว สเปคยังแรงพอใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ ได้ของสมนาคุณเมื่อสั่งซื้อและยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางได้ด้วย ด้านจุดเด่นนอกจากได้แป้นคีย์บอร์ด Full-size มีไฟ RGB ตั้งสีได้รายปุ่มแล้ว ระบบระบายความร้อนยังออกแบบมาดี มีปุ่ม Turbo สำหรับเร่งประสิทธิภาพให้เฟรมเรทตัวเครื่องสูงขึ้นด้วย

สเปคของเครื่องนี้เป็นซีพียู Intel Core i9-11900H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5~4.9GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz ด้านพอร์ตมี Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม ต้องถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่แม้จะเปิดตัวมาสักพักและมีรุ่นใหม่แล้ว แต่ราคาจัดว่าคุ้มค่าและยังเล่นเกมฟอร์มยักษ์ ณ ปี 2023 นี้ได้สบายๆ หรือจะเเอามาทำงานครีเอเตอร์ก็ดีไม่แพ้กันเลย

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL
CPU Intel Core i9-11900H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5~4.9GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 49,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W (99,990 บาท)

4711081612940 01

 

ปิดท้ายด้วยเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ สเปคแรงอลังการอย่าง ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W ซึ่งตอนนี้ลดราคาจากตอนเปิดตัวมา 20,000 บาท เหลือ 99,990 บาท ติดตั้งฟีเจอร์น่าใช้มาให้เต็มที่ไม่ว่าจะระบบระบายความร้อนชั้นสูงด้วยโลหะเหลว, หน้าจอค่า Refresh Rate 300Hz หรือแม้แต่ชิป ROG Keystone II ซึ่งมีลูกเล่นปรับโหมดการใช้งานเมื่อใส่เข้าหรือถอดออกก็ได้พร้อมลำโพง Dolby Atmos คุณภาพสูงและยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ได้กล่าวไว้ในรีวิวรุ่นในซีรี่ส์นี้ด้วย หากใครไม่อยากประกอบเกมมิ่งพีซีให้ลำบากก็ซื้อเครื่องนี้ไปต่อหน้าจอแยกเพื่อทำงานหรือเล่นเกมได้เลย

ซีพียูใน ROG Strix SCAR 15 เป็น Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti แรม 16GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz ตอบโจทย์เกมเมอร์มากๆ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 32GB DDR5 บัส 4800MHz เอาไว้ใช้งาน ด้านพอร์ตมี Thunderbolt 4 Full Function x 1, USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัม

สเปคของ ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti แรม 16GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz
Connectivity Thunderbolt 4 Full Function x 1, USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 99,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

สรุปสเปค 9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ รวมทั้งสายเกมมิ่งและทำงานครบเครื่อง

รวมสเปคโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA Intel Core
i3-1115G4

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

4GB DDR4
2933MHz

Windows 11 Home

15.6″ HD IPS

2.2 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

12,990
 Acer Aspire Vero AV15-52JY Intel Core
i5-1155G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.8 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.0 x 2

USB-C 3.0 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

23,990

ลดได้ 4,000

Hp 15s-fq5083TU Intel Core
i7-1260P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.69 กก.

USB-C 3.1 x 1

USB-A 3.1 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

26,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA Intel Core
i5-12500H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED HDR

100% DCI-P3

Refresh Rate
120Hz

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

USB 2.0 x 1

HDMI 2.0 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

30,990 
ลดได้ 1,000
MSI GF66 Katana 12UCO-637TH Intel Core
i7-12650H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.25 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

31,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
165Hz

2.31 กก.

USB-A 3.2 x 2

Thunderbolt 4 x 1

HDMI 2.0 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

32,990
Acer Nitro 5 AN515-58-50WD Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

35,990

ลดได้ 1,000

Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL Intel Core
i9-11900H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

100% DCI-P3

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 Gen 2 x 1

USB-A 3.2 x 3

Mini DisplayPort x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

49,990
ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
300Hz

2.3 กก.

Thunderbolt 4 Full Function x 1

USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

99,990

vinayak sharma AWSHg2mK Ho unsplash 1

ต้องถือว่าทาง BaNANA นั้นจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อผู้ใช้ที่อยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คได้อย่างน่าสนใจ มีทั้งโค้ดส่วนลดและแลกซื้อสินค้าต่างๆ เพิ่มได้อีกมาก ซึ่งถ้าใครมีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค ผู้เขียนก็อยากแนะนำให้ซื้อในงานอีเว้นท์ลดราคาครั้งนี้ได้เลย และนอกจาก 9 รุ่นในบทความนี้ก็ยังมีรุ่นน่าสนใจให้เลือกซื้ออีกหลากหลายรุ่นทีเดียว หากใครสนใจผู้เขียนก็แนะนำให้เปิดดูที่ลิ้งค์นี้แล้วสั่งซื้อรุ่นที่ต้องการได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 3vero 1

Share image Edit Name 1katanagf66gen12

Share image Edit Name 2predatorhelios 1

from:https://notebookspec.com/web/682826-9-recommend-laptop-from-banana-it

Advertisement

[CES 2023] สรุป 6 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นใหม่ตัวแรง หัวใจ Intel Gen 13 จับคู่ RTX 4000 Series ตัวเด็ดโดนใจเกมเมอร์แน่นอน!!

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ยกพลบุกงาน CES 2023 แล้ว!

Share image Edit Name 1gaminglaptop 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ในงาน CES 2023 ที่จัด ณ เมืองลาสเวกัส, ประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีเกมมิ่งรุ่นน่าสนใจมาเปิดตัวกันมากมายทีเดียว ซึ่งโดดเด่นน่าสนใจไม่แพ้โน๊ตบุ๊คสายทำงานบอดี้สวยเรียบหรูบางเบาที่มาในงานนี้เช่นกัน โดยไฮไลต์ของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ใน CES 2023 นี้ จะเป็นการอัพเกรดซีพียูรุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel 11th และ 12th เป็น Intel 13th Gen ซึ่งประสิทธิภาพสูงขึ้นมากและจับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน, ปรับเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นเก่าให้สวยแตกต่างยิ่งกว่าเดิมโดยธีมของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปี 2023 นี้ ทาง MSI เน้นดีไซน์ตัวเครื่องที่ล้ำสมัยไปในอนาคตดูไซเบอร์ยิ่งขึ้นและเน้นโทนสีฟ้า, น้ำเงินเป็นหลัก

Advertisementavw

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI

20230104 140542 1600x1200 Medium
20230104 140528 1600x1200 Medium

อย่างไรก็ตาม เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI บางรุ่นก็ยังใช้ซีพียู Intel 12th Gen และบอดี้แบบเดิม ได้แก่ MSI Sword 15, Sword 17, Katana 15 และ Katana 17 อยู่เป็นหลัก แต่เปลี่ยนการ์ดจอจาก NVIDIA GeForce RTX 3000 Series ขึ้นมาเป็น GeForce RTX 4060 แทน ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งแม้ซีพียูจะเก่าไปรุ่นหนึ่งแล้วแต่ประสิทธิภาพของซีพียู Intel 12th Gen ก็ยังทรงพลังดึงพลังของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ได้อย่างแน่นอน

20230104 134031 1600x1200 1
20230104 134037 1600x1200 1

ด้านวัสดุประกอบตัวเครื่อง เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ในซีรี่ส์ Stealth ซึ่งเน้นดีไซน์เรียบหรูแต่ก็เล่นเกมได้ดีใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะผสมแม็กนีเซียมอลูมิเนียมอัลลอยด์ (Mg-Al) ซึ่งทาง MSI สรุปข้อดีของการใช้วัสดุนี้ทำบอดี้ตัวเครื่องไว้เช่นนี้

  • โลหะอัลลอยด์เป็น Alloy AZ91D เกรดวัสดุอวกาศยาน
  • ทนทานไม่เป็นสนิมง่าย
  • น้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียมอัลลอยด์ 30%
  • มีค่าความแข็งแรงของวัสดุเมื่อถูกแรงดึงมากระทำ (Tensile Strength) มากกว่าอลูมิเนียมอัลลอยด์ 0.8%
  • จัดการอุณหภูมิและระบายความร้อนได้ดีกว่าอลูมิเนียมอัลลอยด์ 89%
  • เคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือติดตัวเครื่อง

20230104 135600 1600x1200 Medium
20230104 135607 1600x1200 Medium
20230104 135548 1600x1200 1
20230104 135544 1600x1200 Medium

นวัตกรรมล้ำสมัยของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ในงาน CES 2023 ปีนี้ คือ Smart Touchpad ซึ่งทางบริษัทติดตั้งมากับ MSI Raider GE78 HX Smart Touchpad เป็นรุ่นแรก โดยแป้นทัชแพดนี้จะมีฟังก์ชั่นใช้งานประจำอย่างการเพิ่ม/ลดเสียงลำโพง, ปรับความสว่างหน้าจอ, เปิดปิด Bluetooth หรือแม้แต่ปรับเร่งรอบพัดลม ฯลฯ ให้กดและตอบสนองแบบ Haptic Feedback ซึ่งใช้มอเตอร์สั่นจำลองการกดปุ่มบนตัวแป้น Smart Touchpad ให้ได้สัมผัสเหมือนกดปุ่มจริงๆ นับว่าน่าใช้มาก

สรุปจุดเด่นและสเปค 6 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นใหม่ล่าสุดในงาน CES 2023 อัพเกรด Intel 13th Gen พร้อมการ์ดจอ RTX 4000 Series ตัวแรงมากันเพียบ!

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นเด่นที่เปิดตัวในงาน CES 2023 ปีนี้นอกจากเป็นการอัพเกรดแล้ว ยังมีซีรี่ส์ใหม่อย่าง MSI Cyborg ให้เกมเมอร์เลือกด้วย ซึ่งจัดว่าน่าสนใจมากแล้วแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่น, สเปคและราคาเท่าไหร่บ้างนั้น ผู้เขียนขอสรุปเอาไว้ให้ดังนี้

  1. MSI Cyborg 15 A13V
  2. MSI Raider GE78 HX 13V
  3. MSI Titan GT77 HX 13V
  4. MSI Stealth 15 A13V
  5. MSI Stealth 16 Studio A13V
  6. MSI Stealth 17 Studio
1. MSI Cyborg 15 A13V

20230104 133757 1600x1200 Medium

20230104 133731 1600x1200 Medium
20230104 133914 1600x1200 Medium
20230104 133815 1600x1200 Medium
20230104 133838 1600x1200 Medium

เกมมิ่งโน้ตบุ๊ครุ่นแรกรุ่นใหม่ของทางบริษัทอย่าง MSI Cyborg 15 เปิดตัวในงาน CES 2023 นี้ โดยทางบริษัทใช้พลาสติกแบบโปร่งแสงมองทะลุได้ (Translucent) มาทำเป็นบอดี้ตัวเครื่องส่วนล่างและคีย์แคปส่วน WASD เป็นหลัก คอนเซปท์การออกแบบตัวเครื่องเน้นความล้ำสมัยโดยทาง MSI ร่วมมือกับนักออกแบบชาวโรมาเนีย Paul Cheptea ออกแบบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้โดยยึดคอนเซปท์ Cyberpunk ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Blade Runner และ Dune มาอย่างเต็มเปี่ยม

จุดเด่นนอกจากซีพียู Intel 13th Gen ซึ่งเคลมประสิทธิภาพว่าเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15% และใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ซึ่งของรับการใช้งาน VR, NVIDIA Reflex ซึ่งการแสดงผลภาพบนหน้าจอจะตอบสนองได้เร็วทันกับการควบคุมของผู้ใช้และยังรองรับ Resizable BAR ระบบระบายความร้อน Cooler Boost แบบใหม่ของทาง MSI ออกแบบให้แชร์ชุดฮีตไปป์ระหว่าง CPU และ GPU และยังทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่วนจุดเด่นอื่นๆ คือ MSI Cyborg 15 จะรองรับแรม DDR5, อินเตอร์เฟส SSD เป็น PCIe 4.0 x4, ทัชแพดมีขนาดใหญ่กว่าเดิม 32% และยังได้พอร์ต USB-C ที่รองรับการต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort ได้อีกด้วย น่าจะเข้ามาตีตลาดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาประสิทธิภาพสูงได้เป็นอย่างดีแน่นอน

สเปคของ MSI Cyborg 15
  • CPU : แยกเป็น 2 รุ่นย่อย
    • A12VF ได้ Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
    • A12VE ได้ Intel Core i7-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
  • GPU : แยกเป็น 2 รุ่นย่อย
    • A12VF ได้ NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6
    • A12VE ได้ NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : M.2 NVMe ความจุ 512GB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4
  • RAM : 8GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 1 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI (4K 60Hz) x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 1.98 กิโลกรัม
  • Price
    • A12VF ราคาเปิดตัว 1,099 ดอลลาร์ (ราว 37,XXX บาท)
    • A12VE ราคาเปิดตัว 999 ดอลลาร์ (ราว 33,XXX บาท)
2. MSI Raider GE78 HX 13V

20230104 134423 1600x1200 1

20230104 134538 1600x1200 Medium
20230104 134445 1600x1200 Medium
20230104 134552 1600x1200 Medium
20230104 134543 1600x1200 Medium
20230104 134432 1600x1200 Medium
20230104 134523 1600x1200 Medium

หนึ่งในตัวท็อปของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ในงาน CES 2023 นี้ คือ MSI Raider GE78 HX 13V ซึ่งทางบริษัทอัดฟีเจอร์มาให้เต็มที่ไม่ว่าจะระบบไฟ Mystic Light ทั้งตัวเครื่องที่รอบตัวเครื่องจากแถบไฟสีเดียวเป็นหลอดไฟแยกเม็ดโดยเฉพาะ รวมทั้งคีย์บอร์ดยังได้ไฟ RGB Per-Key ให้ความสวยงามปรับแต่งได้เยอะ พัฒนาร่วมกับ SteelSeries ติดตั้งลำโพงตัวเครื่องมาให้ 6 ดอก ปรับแต่งโดย Nahimic by SteelSeries และ Dynaudio เช่นเดิม ให้มิติเสียงที่ดีและหนักแน่นยิ่งขึ้น  มีพอร์ตสำหรับต่อหน้าจอแยกได้มากสุดถึง 3 จอ พร้อมกันเช่นเดิม

ซีพียู Intel 13th Gen ในเครื่องติดตั้งรุ่นสูงสุดในตลาดอย่าง Intel Core i9-13980HX มีฟีเจอร์ MSI OverBoost Ultra สำหรับเร่งประสิทธิภาพของซีพียูให้ถึงที่สุด จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4090 และมีชิป MUX Switch คอยถ่ายเทค่าวัตต์ของการ์ดจอและซีพียูได้ตามความเหมาะสม โดยค่า TDP สูงสุดอยู่ที่ 250 วัตต์ และระบายความร้อนด้วยระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 รุ่นออกแบบใหม่ ฟีเจอร์เด่นของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Raider GE78 HX 13V นอกจาก NVIDIA DLSS 3, Ray Tracing, Resizable BAR ยังได้หน้าจอความละเอียดสูง QHD+ อัตราส่วน 16:10 ค่า Refresh Rate 240Hz รองรับแรม DDR5 และได้อินเตอร์เฟส M.2 NVMe SSD เป็น PCIe 5.0 รุ่นใหม่ล่าสุดและพอร์ต Thunderbolt 4 แถมยังรองรับ Wi-Fi 6E อีกด้วย จัดเป็นหนึ่งในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ที่อลังการสุดในงานนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีรุ่นย่อยที่ติดตั้ง Smart Touchpad มาให้ใช้ด้วย เป็นรุ่นที่น่าจับตาที่สุดในงาน CES 2023 นี้อย่างแท้จริง

สเปคของ MSI Raider ge78 hx 13v
  • CPU : Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz 
  • GPU : แยกเป็น 3 รุ่นย่อย
    • 13VG ได้ NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
    • 13VH ได้ NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6
    • 13VI ได้ NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6
  • SSD : มีความจุ 2 แบบ
    • 13VG ได้ M.2 NVMe ความจุ 1TB PCIe 5.0
    • 13VH, 13VI ได้ M.2 NVMe ความจุ 2TB PCIe 5.0
  • RAM : มีความจุ 2 แบบ
    • 13VG ได้แรม 32GB DDR5 บัส 5600MHz
    • 13VH, 13VI ได้แรม 64GB DDR5 บัส 5600MHz
  • Display : มีความละเอียด 2 แบบ 
    • 13VG ได้หน้าจอขนาด 17 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
    • 13VH, 13VI ได้หน้าจอ 17 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ Power Delivery x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI (8K 60Hz / 4K 120Hz) x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
  • Webcam : 1080p Full HD IR Camera รองรับการสแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง
  • Software : Windows 11 Pro ยกเว้นรหัส 13VH ได้ Windows 11 Home
  • Weight : 3.1 กิโลกรัม
  • Price
    • 13VG คาดการณ์ราคาราว 101,XXX บาท
    • 13VH คาดการณ์ราคาราว 121,XXX บาท
    • 13VI คาดการณ์ราคาราว 135,XXX บาท
3. MSI Titan GT77 HX 13V

20230104 135849 1600x1200 Medium

20230104 135912 1600x1200 Medium
20230104 135923 1600x1200 Medium
20230104 135902 1600x1200 Medium
20230104 135829 1600x1200 Medium
MSI NB Titan GT77 photo16 Medium e1672982976882
MSI NB Titan GT77 photo22 for KV Medium e1672982986634

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นที่ดีสุดของทางบริษัทต้องยกให้ MSI Titan GT77 HX 13V ซึ่งมีรุ่นใหม่เปิดตัวในงาน CES 2023 นี้ พร้อมคว้ารางวัลเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ดีสุดไปครองด้วย ซึ่งทางบริษัทได้ใส่ฟีเจอร์และสเปคที่ดีสุดจาก Intel และ NVIDIA เอาไว้ในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้อย่างครบเครื่อง ไม่ว่าจะ Intel 13th Gen และมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4080 และ RTX 4090 ให้เลือกตามระดับราคาและได้แรมมหาศาลถึง 128GB DDR5 อีกด้วย!

ฟีเจอร์เด่นของ MSI Titan GT77 HX 13V ได้แก่สวิตช์คีย์บอร์ดแบบ Mechanical โดยใช้สวิตช์ของทาง Cherry MX ULP CLICK ให้สัมผัสการพิมพ์ยอดเยี่ยม ตัวคีย์บอร์ดได้ทาง SteelSeries มาปรับแต่งให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น มีไฟ Mystic Light ในตัวและปรับสีไฟของแต่ละปุ่มได้แบบ Per-Key RGB ใช้หน้าจอความละเอียด 4K ค่า Refresh Rate 144Hz เป็นจอ MiniLED AMOLED พร้อม K-Zone Local Dimming ได้รับการรับรอง calman Verified และ VESA DisplayHDR 1000 ครบถ้วน มี MSI OverBoost Ultra เร่งประสิทธิภาพการทำงานของซีพียูและการ์ดจอ มีชุดระบายความร้อน Cooler Boost Titan ติดตั้งมาให้ มีพัดลมโบลวเวอร์ 4 ตัว, ฮีตไปป์ 8 เส้นและช่องระบายอากาศ 6 ช่อง มีช่องอัพเกรด SSD แบบ PCIe 5.0 x 3 ช่อง และ RAM DDR5 x 4 ช่อง ติดตั้งชิป Wi-Fi PCIe รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Killer DoubleShot Pro X3 AX1690 มาให้ นับว่าทรงพลัง จะนับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ดีสุดในโลกก็ไม่ผิด

20230104 140320 1600x1200 Medium

สเปคของ MSI titan gt77 hx 13v
  • CPU : Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz 
  • GPU : แยกเป็น 2 รุ่น
    • 13VH ได้ NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6
    • 13VI ได้ NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6
  • SSD : มีความจุ 2 แบบ
    • 13VH ได้ M.2 NVMe ความจุ 2TB PCIe 5.0
    • 13VI ได้ M.2 NVMe ความจุ 4TB PCIe 5.0
  • RAM : มีความจุ 2 แบบ
    • 13VH ได้แรม 64GB DDR5 บัส 6400MHz
    • 13VI ได้แรม 128GB DDR5 บัส 6400MHz
  • Display : 17.3 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS แบบ MiniLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง calman Verified, VESA DisplayHDR 1000
  • Ports : Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
  • Webcam : 720p HD IR Camera รองรับการสแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง
  • Software : Windows 11 Pro
  • Weight : 3.3 กิโลกรัม
  • Price
    • 13VH คาดการณ์ราคาราว 145,XXX บาท
    • 13VI คาดการณ์ราคาราว 179,XXX บาท
4. MSI Stealth 15 A13V

20230104 140450 1600x1200 Medium

MSI NB Stealth 15 photo02 Medium e1672982827835
MSI NB Stealth 15 photo20 Medium e1672982840997
MSI NB Stealth 15 photo23 Medium e1672982854357
MSI NB Stealth 15 photo05 Medium e1672982870504
MSI NB Stealth 15 photo09 Medium e1672982888736
MSI NB Stealth 15 photo07 Medium e1672982899649

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Stealth 15 A13V เป็นอีกรุ่นที่ได้รับการอัพเดทสเปคให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยดีไซน์ยังคงความเรียบง่ายไม่สะดุดตาให้สมกับชื่อ Stealth (ลอบเร้น) ได้ซีพียู Intel 13th Gen และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ดังนั้นมันจึงใช้ทำงานกราฟิคได้ดีหรือเปิดเกมเล่นก็ตั้งค่ากราฟิคได้เต็มที่และยังพกติดตัวเข้าห้องประชุมหรือห้องเรียนได้ไม่ต่างกับโน๊ตบุ๊คทำงานธรรมดาทั่วไปสักเครื่องหนึ่ง

ฟีเจอร์เด่นของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Stealth 15 A13V ได้แก่ MUX Switch สำหรับถ่ายเทค่าวัตต์ของการ์ดจอแยกกับซีพียูให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน, ติดตั้งแรม DDR5 มาให้ ได้หน้าจอความละเอียด 4K ค่า Refresh Rate 120Hz และระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity+ ซึ่งมีพัดลมระบายความร้อน 3 ตัวพร้อมฮีตไปป์ 5 เส้น ไว้นำความร้อนจากซีพียูและการ์ดจอ ให้ Stealth 15 ทำงานได้เต็มที่ตลอดเวลา ลำโพงคู่ได้ Nahimic by SteelSeries มาปรับจูน ได้เสียงคมชัดระดับ Hi-Res Audio ส่วนพอร์ตของตัวเครื่องมีให้ใช้ต่อจอแยกได้ 2 จอพร้อมกันอีกด้วย

สเปคของ msi stealth 15 a13v
  • CPU : Intel Core i7-13620H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.6~4.9GHz 
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6
  • SSD : M.2 NVMe ความจุ 1TB PCIe 4.0
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 5200MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ Power Delivery และต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.1 กิโลกรัม
  • Price : คาดการณ์ราคาราว 54,XXX บาท
5. MSI Stealth 16 Studio A13V

20230104 134227 1600x1200 Medium

20230104 134257 1600x1200 Medium
20230104 134250 1600x1200 Medium
20230104 134317 1600x1200 Medium
20230104 134236 1600x1200 Medium

ด้าน MSI Stealth 16 Studio A13V จะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุแม็กนีเซียมอลูมิเนียมอัลลอยด์ใหม่ล่าสุด ทำสีขาวหรือน้ำเงินเข้มและยังติดตั้งลำโพงมาให้ถึง 6 ตัว มีลำโพง 2 ดอกและ Woofer 4 ดอก ได้ทาง Nahimic by SteelSeries และ Dynaudio ช่วยปรับแต่งเสียง ได้ความคมชัดและมิติเสียงระดับ Hi-Res และแม้ขนาดจะใหญ่ถึง 16 นิ้วก็ตาม แต่น้ำหนักเครื่องยังเบาเพียง 1.99 กิโลกรัม จึงพกติดตัวไปทำงานและเล่นเกมได้สะดวกอย่างแน่นอน

สเปคของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Stealth 16 Studio นอกจากซีพียูจะอัพเกรดมาเป็น Intel 13th Gen และได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series พร้อมระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 พัดลมคู่และฮีตไปป์ 5 เส้น ส่วนไดรเวอร์การ์ดจอของ Stealth 15 จะเป็น NVIDIA Studio ซึ่งทำงานได้เสถียรกว่าไดรเวอร์ทั่วไปสำหรับการเล่นเกม โดยมันถูกปรับแต่งให้ใช้กับโปรแกรมทำงานกราฟิค 3D ต่างๆ ให้เสถียรที่สุด ด้านคีย์บอร์ดได้ SteelSeries จัดการปรับแต่งให้เป็นพิเศษและมีไฟ Per-Key RGB, กล้องเว็บแคมแบบ IR ใช้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้โดยทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น Windows Hello และมีพอร์ตใช้ต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกัน ส่วนหน้าจอของตัวเครื่องมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ซึ่งสเปคนี้ถือว่า Stealth 16 Studio A13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเพื่อครีเอเตอร์น่าสนใจมากที่มาในงาน CES 2023 นี้ อย่างไรก็ตาม สเปคและรุ่นย่อยอย่างเป็นทางการทาง MSI จะประกาศให้ทราบในภายหลัง

6. MSI Stealth 17 Studio

20230104 140441 1600x1200 Medium

 

MSI NB Stealth 17 photo03 Medium e1672983122323
MSI NB Stealth 17 photo13 Medium e1672983131505
MSI NB Stealth 17 photo05 Medium e1672983140612
MSI NB Stealth 17 photo10 Medium
MSI NB Stealth 17 photo20 Medium
MSI NB Stealth 17 photo18 Medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI ในงาน CES 2023 เป็นรหัส MSI Stealth 17 Studio ซึ่งทางบริษัทออกแบบมาเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ซึ่งเอาจุดเด่นทั้งเรื่องคีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-Key RGB, ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 มาใช้งานโดยเพิ่มฮีตไปป์จาก 5 เป็น 7 เส้น, เปลี่ยนจอให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นโดยเป็นจอแบบ Mini LED AMOLED ได้รับการรอง calman Verified และ VESA DisplayHDR 1000 การันตีคุณภาพสีสันบนหน้าจอว่าเหมาะจะใช้ทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน ด้านซีพียูก็ได้ Intel 13th Gen และการ์ดจอใช้ไดรเวอร์ NVIDIA Studio ให้ใช้ทำงานกับโปรแกรม 3D ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จัดเป็นรุ่นที่ดีสุดของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค MSI Stealth ในงาน CES 2023 นี้ทีเดียว

สเปคของ msi stealth 17 studio
  • CPU : Intel Core i9-13900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 4.1~5.4GHz 
  • GPU : แยกตามรุ่นย่อยดังนี้
    • A13VH ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6
    • A13VI ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6
  • SSD : มีรายละเอียดดังนี้
    • A13VH มีรุ่น M.2 NVMe ความจุ 1~2TB PCIe 4.0
    • A13VI ได้ M.2 NVMe ความจุ 2TB PCIe 4.0
  • RAM : แยกตามรุ่นย่อยดังนี้
    • A13VH ได้แรม 32GB DDR5 บัส 5600MHz
    • A13VI มีรุ่นแรม 32GB และ 64GB DDR5 บัส 5600MHz
  • Display : 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
  • Ports : Thunderbolt 4 รองรับ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
  • Webcam : 1080p Full HD IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้
  • Software : Windows 11 Pro
  • Weight : 2.8 กิโลกรัม
  • Price : แยกตามรุ่นย่อยดังนี้

20230104 140314 1600x1200 Medium

MSI ในงาน CES 2023 ปีนี้ถือว่ามาแรงไม่แพ้ใคร โดยยกเอาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ จากทางค่ายมาเปิดตัวในงานนี้แบบจัดเต็มพร้อมอัพเกรดซีพียูและการ์ดจอเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Intel และ NVIDIA ให้เกมเมอร์ได้เลือกซื้อหาเครื่องดีราคาคุ้มค่าไปใช้งานกัน หากใครมีแผนจะเปลี่ยนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประจำตัวเป็นรุ่นใหม่อยู่แล้ว ปีนี้จัดว่าน่าสนใจอย่างแน่นอน

from:https://notebookspec.com/web/681424-introduce-6-gaming-laptop-msi-ces-2023

รีวิว DELL G15 Gaming Ryzen Edition พลังแดงแรงจบ ราคา 46,990 บาท ได้ Office 2021 แท้ด้วย!!

DELL G15 Gaming Ryzen Edition รุ่นใหม่พลังแดง Ryzen 7 ตัวนี้เด็ดแน่นอน!

Share image Edit Name 1g15 1

โน๊ตบุ๊คจากอเมริกาอย่าง DELL นั้น ในฝั่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานก็มีแฟนคลับผู้ชื่นชอบเลือกซื้อใช้งานอย่างเหนียวแน่น ส่วนฝั่งเกมมิ่งก็มี DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นรุ่นย่อยเคียงคู่กับรุ่น G15 ที่เป็นซีพียู Intel ซึ่งผู้เขียนได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแง่ฮาร์ดแวร์และดีไซน์ตัวเครื่องภายนอกเรียกว่าแชร์กันทั้งหมด แต่จะต่างกันตรงซีพียู AMD Ryzen 6000 Series รุ่นใหม่ มีพลังทำงานดีกว่าเดิมมากจะทำงานหรือเล่นเกมก็ยอดเยี่ยม และมีชุดระบบระบายความร้อนด้วยฮีตไปป์และพัดลมโบลวเวอร์ซึ่งแม้จะไม่มีชื่อเฉพาะหรูหราอะไร แต่มันก็จัดการอุณหภูมิในเครื่องได้อย่างดี จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3000 Series แล้วได้ซอฟท์แวร์ Alienware Command Center เข้ามาช่วยปรับจูนเครื่องให้รีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างหมดจดอีกด้วย

Advertisementavw

อีกข้อดีหนึ่ง คือ DELL G15 Gaming Ryzen Edition มีซอฟท์แวร์ติดตั้งมาให้ครบเครื่อง ไม่ใช่แค่ Windows 11 Home อย่างเดียว แต่ได้ Microsoft Office Home & Student 2021 อีก หากนับในกลุ่มเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแล้ว มีรุ่นที่ติดตั้งซอฟอท์แวร์สายทำงานมาให้เพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น ต้องถือว่าเจ้า G15 Gaming Ryzen Edition นี้เอาใจทั้งเกมเมอร์และพนักงานออฟฟิศทั้งคู่ ใช้ทำงานก็ได้ เล่นเกมก็ดีไม่แพ้กัน

DELL G15 Gaming Ryzen Edition

NBS Verdicts

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00091

DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นสเปคฝั่ง AMD โดยเฉพาะเพื่อผู้ใช้ที่ชอบซีพียู AMD เมื่อจับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3000 Series แล้วได้โปรแกรม Alienware Command Center เข้ามาช่วยปรับจูนตัวเครื่อง ก็ช่วยรีดประสิทธิภาพของมันออกมาได้เต็มที่และยังระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องเย็นตลอดเวลาไม่เกิดอาการ Throttle down หรือตัวเครื่องลดกำลังการทำงานลงเพื่อลดอุณหภูมิภายในเครื่องแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นแง่การใช้ทำงานจะหนักหรือเบาก็เอาอยู่ทั้งหมดอย่างแน่นอน

ด้านพอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาครบเครื่องทีเดียว ไม่ว่าจะ USB-C สำหรับต่อโอนไฟล์และต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ เมื่อนับรวมกับพอร์ต HDMI แล้ว ทำให้ G15 Ryzen Edition ใช้หน้าจอแยกพร้อมกัน 2 จอพร้อมกันได้ง่ายๆ และยังมีพอร์ตใช้งานหลักๆ ติดตั้งมาให้ครบเครื่อง ทั้ง USB-A 3.2, LAN ฯลฯ เรียกว่าไม่ต้องพึ่งตัวแปลงเพิ่มพอร์ตเลยก็ต่ออุปกรณ์เสริมใช้ทำงานได้ทันที

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตหลักที่ผู้เขียนอยากให้ผู้ใช้รับทราบก่อนจะเลือกซื้อ คือ DELL G15 Gaming Ryzen Edition จะมีช่อง M.2 NVMe SSD แค่ช่องหลักเพียงช่องเดียวเท่านั้น ดังนั้นการอัพเกรดจึงมีข้อจำกัดอยู่ หากจะเซฟงาน, ติดตั้งเกมเพิ่มเติมก็ต้องพึ่ง External Harddisk แบบธรรมดาหรือเกมมิ่งโดยเฉพาะไปเลยจะดีกว่า และคีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่มีไฟ LED Backlit ดังนั้นถ้าพิมพ์งานในที่แสงน้อยก็จะลำบากกว่าปกติเล็กน้อย แนะนำให้มีโคมไฟหน้าจอแบบพกพาติดกระเป๋าเอาไว้จะช่วยได้มาก

อีกส่วนที่เป็นข้อสังเกตเล็กน้อยคือค่า Refresh Rate หน้าจอของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition ยังยืนพื้นอยู่ที่ 120Hz เช่นเดียวกับรุ่นซีพียู Intel ซึ่งถ้าดูตามหน้าสเปค G15 Gaming บนหน้าเว็บไซต์จะเห็นว่าทางบริษัทมีรุ่นหน้าจอ 165Hz แบบขอบเขตสีกว้างให้เลือกปรับสเปคได้ แต่น่าเสียดายที่ DELL ไม่ติดตั้งมาให้ หากเป็นไปได้ก็คาดหวังว่ารุ่นย่อยอื่นๆ จะมีตัวเลือกจอ Refresh Rate สูงเกิน 120Hz ให้เลือกได้จะดีมาก หากให้ดียิ่งขึ้นอาจจะเสริม NVIDIA G-SYNC เข้ามาด้วยจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ข้อดีของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition
  1. ดีไซน์ตัวเครื่องมีความเป็นเกมมิ่งแต่ก็ไม่หวือหวามาก พกไปออฟฟิศก็ไม่ดึงดูดสายตามาก
  2. ได้ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที
  3. ซีพียูอัพเกรดเป็น AMD Ryzen 7 6800H ประสิทธิภาพสูง ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดี
  4. ให้แรมมา 16GB DDR5 จากโรงงาน เป็น SO-DIMM ทั้งคู่ รองรับการอัพเกรดเพิ่มเติม
  5. พอร์ต USB-C รองรับการต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort ต่อได้ 2 จอพร้อมกัน
  6. ซอฟท์แวร์ Alienware Command Center ปรับจูนรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ดีมาก
  7. ปรับโหมดการทำงานของตัวเครื่องได้ง่าย ทั้งกดปุ่ม G ตรง F9 หรือกด Fn+G ก็ได้
  8. ชุดพัดลมระบายความร้อนคุมอุณหภูมิและระบายอากาศได้ดีมาก ใช้งานต่อเนื่องไม่ร้อนเลย
  9. ระบบจัดการพลังงานทำงานได้ดี เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่ใช้งานต่อเนื่องได้นานเกิน 8 ชั่วโมง
  10. ชุด Numpad มีปุ่มเรียกโปรแกรมเครื่องคิดเลขและฟังก์ชั่นเครื่องคิดเลขติดตั้งมาให้
ข้อสังเกตของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition
  1. ไม่มีไฟ LED Backlit ทั้งที่รุ่นก่อนหน้ามีไฟสีส้มติดมาให้ จึงใช้งานในที่แสงน้อยได้ลำบาก
  2. มีช่อง M.2 NVMe SSD ติดตั้งมาให้เพียง 1 ช่องเท่านั้น ทำให้อัพเกรดได้ค่อนข้างจำกัด
  3. ค่า Refresh Rate แค่ 120Hz เท่านั้น แต่แบรนด์คู่แข่งอัพเกรดไป 144~165Hz แล้ว

รีวิว DELL G15 Gaming Ryzen Edition

Specification

g15 gaming ryzen

DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นโน๊ตบุ๊ค Dell Gaming ที่อัพเดทซีพียูเป็น AMD Ryzen 6000 Series รุ่นใหม่ล่าสุด สเปคทรงพลังพร้อมใช้ทำงานหรือเล่นเกมก็ได้สบายๆ โดยสเปคมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : M.2 NVMe ความจุ 512GB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4
  • RAM : 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
  • Weight : 2.52 กิโลกรัม
  • Price : 46,990 บาท (ราคากลาง)

Hardware & Design

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00087

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00065
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00071
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00072
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00054

DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในตระกูล G15 Gaming ซึ่งแชร์บอดี้ร่วมกับรุ่นซีพียู Intel ดังนั้นรายละเอียดการดีไซน์ตัวเครื่องจะคล้ายกัน ไม่ว่าจะบอดี้ตัวเครื่องขนาดใหญ่สีทูโทนแบบน้ำเงินอมม่วงตัดสีดำ มีช่องสำหรับดึงลมเข้าไประบายความร้อนเหนือชุดคีย์บอร์ด, มีสติ๊กเกอร์แสดงฟีเจอร์ติดไว้ตรงที่วางข้อมือฝั่งซ้ายและขวา รวมทั้งสลักโลโก้ตัว G สีส้มไว้ 2 จุดด้วยกัน คือ เหนือสติ๊กเกอร์ฟีเจอร์ฝั่งซ้ายมือและสันตัวเครื่องสีดำระหว่างช่องระบายความร้อนด้านข้างและหลังฝั่งขวามือ

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00058

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00086
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00108
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00052

ตัวบานพับหน้าจอจะดีไซน์แบบยึดเข้าไปในฐานตัวเครื่องด้านหลังและเว้นพื้นที่ให้กางหน้าจอได้กว้างราว 120 องศา จะวางเอาไว้บนพื้นโต๊ะหรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับสายตาของผู้ใช้ได้ง่าย ด้านงานประกอบต้องถือว่าแข็งแรงทนทานมากรวมทั้งกางหน้าจอแล้วไม่มีอาการบานพับสะบัดหรือโยกแม้แต่นิดเดียวแถมยังบาลานซ์น้ำหนักทั่วตัวเครื่องได้ดี ทำให้ใช้มือแค่ข้างเดียวกางหน้าจอใช้งานได้ทันที

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00048
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00055

ฝาหลังเครื่องนอกจากโลโก้อลูมิเนียมของ DELL ในวงกลมตรงกลางหน้าจอด้านหลังแล้ว ตัวฝาหลังจะมีเนื้อตัวเครื่องสองแบบ คือทรงสามเหลี่ยมเป็นเส้นตีเฉียงเป็นทรงสามเหลี่ยมพีระมิดและถัดขึ้นไปจะเป็นบอดี้เนื้อเรียบ ให้ความแตกต่างจากฝาหลังของโน๊ตบุ๊ค DELL หลายๆ รุ่นที่เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00029

บอดี้ด้านใต้ของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition จะมีช่องระบายความร้อนดึงลมเข้าขนาดใหญ่โดยกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวเครื่อง ถัดไปด้านข้างทั้งสองฝั่งซ้ายขวาจะเป็นช่องระบายอากาศร้อนออกจากเครื่อง ถัดลงมาจะมีช่องลำโพงติดตั้งเอาไว้ทั้งสองข้างของตัวเครื่องด้วย ส่วนแถบยางสำหรับกันบอดี้ตัวเครื่องสัมผัสกับพื้นโต๊ะและกันลื่นจะเป็นแบบแถบยาว 4 เส้น ติดไว้ 2 คู่แยกไว้ขอบบนและล่าง

Screen & Speaker

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00076

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00078
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00077
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00081
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00080

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีค่า Refresh Rate 120Hz กรอบหน้าจอบางทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ ขอบข้างทั้งสองฝั่ง แต่กรอบส่วนบนจะมีความหนาเล็กน้อยเพื่อติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด HD และไมค์สองตัวเพื่อใช้ประชุมออนไลน์ ซึ่งดีไซน์ขอบจอบางทั้งสองฝั่งเช่นนี้ทำให้ผู้ใช้มองเห็นคอนเทนต์บนหน้าจอได้กว้างยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ค่า Refresh Rate ของ G15 Gaming ทำได้ตามขั้นต่ำของหน้าจอ High Refresh Rate คือ 120Hz ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปและเล่นเกมก็สามารถแสดงผลได้ลื่นไหลดี แต่ผู้เขียนก็หวังว่าทางบริษัทจะนำพาเนล 165Hz มาติดตั้งในรุ่นย่อยให้ผู้ใช้เลือกซื้อได้ในอนาคต

resolution

gamut 2
luminance 2

ขอบเขตสีหน้าจอของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition เมื่อทดสอบด้วย DisplayCal 3 และใช้เครื่อง Colorchecker ของ Calibrite แล้ว วัดค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอนี้ได้ 56.9% sRGB, 39.4% Adobe RGB, 40.5% DCI-P3 ส่วน Gamut volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีโดยรวมทั้งหมดของจอนี้ทำได้อยู่ที่ 57.2% sRGB, 39.4% Adobe RGB, 40.6% DCI-P3 มีค่าความเที่ยงตรงสีหรือ Delta-E เฉลี่ย 1.56 ซึ่งเมื่อค่าน้อยกว่า 2 นับว่าขอบเขตสีบนจอ DELL G15 นี้แสดงสีสันได้เที่ยงตรง แต่ขอบเขตสีไม่ได้กว้างนัก ดังนั้นถ้าใช้แต่งภาพอัพโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คถือว่าพอใช้ได้ แต่ถ้าแต่งภาพถ่ายทำงานแนะนำให้ต่อหน้าจอแยกไปจะดีกว่า

ความสว่างของจอ DELL G15 เครื่อง Colorchecker วัดได้ 283.95 cd/m2 จัดว่าสว่างพอใช้งานในอาคารออฟฟิศต่างๆ ได้สบาย ปรับความสว่างราว 50~70% ก็สว่างเหลือเฟือแล้ว แต่ถ้านั่งอยู่ที่ชานร้านกาแฟหรือกลางแจ้งแล้วโดนแสงสะท้อนอาจจะเร่งความสว่างสู้ได้ไม่มากนัก ดังนั้นถ้านั่งทำงานนอกสถานที่แนะนำให้หามุมนั่งดีๆ จะช่วยได้ระดับหนึ่ง

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00030
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00032
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00045
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00044

ลำโพงของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นลำโพงคู่ติดตั้งไว้ที่ขอบล่างของตัวเครื่อง เนื้อเสียงถือว่าพอใช้ดูหนังและประชุมออนไลน์ได้ระดับหนึ่ง แต่เนื้อเสียงตอนฟังเพลงยังเน้นเสียงเครื่องดนตรีกับเสียงนักร้องเป็นหลัก ส่วนเสียงเบสยังพอมีซัพพอร์ตเครื่องดนตรีโดยรวมได้ระดับหนึ่งแต่แรงปะทะค่อนข้างน้อย ดังนั้นถ้าใครเน้นฟังเพลงเป็นหลักแนะนำให้ต่อลำโพงแยกดีๆ สักชุดไปเลยจะดีที่สุด

Keyboard & Touchpad

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00059

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00060
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00061
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00062
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00063
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00064
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00068
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00069
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00070

คีย์บอร์ด Full-size ของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวปุ่มลูกศรไม่ได้แยกตัวออกมาจากชุดปุ่มหลัก แต่เพราะถูกกระชับพื้นที่เข้ามาเลยทำให้หลายๆ ปุ่ม อย่างเช่น Page Up, Page Down และกลุ่มปุ่มลูกศรเป็นปุ่มขนาดครึ่งเดียวของปุ่มหลัก ถ้าสังเกตชุดปุ่ม Numpad จะเห็นว่าชุดปุ่มนี้ดีไซน์มาเพื่อนักบัญชีและคนที่ต้องกดตัวเลขบ่อยๆ เพราะมีคีย์ลัดเรียกโปรแกรม Calculator, CE สำหรับลบตัวเลขที่กดผิดไปและเครื่องหมาย +/- สำหรับกลับตัวเลขจากบวกเป็นลบติดมาให้

ด้านดีไซน์พิเศษอื่นๆ จะเห็นว่าตัวปุ่ม WASD ถูกล้อมกรอบสีขาวเอาไว้เน้นเป็นพิเศษให้ดูเด่นกว่าปุ่มอื่นๆ เพราะเป็นปุ่มประจำนิ้วของเกมเมอร์ซึ่งเป็นลูกค้าของโน๊ตบุ๊ค DELL G15 มีปุ่ม Function Lock รวมอยู่กับปุ่ม Esc ให้กดสลับเลย์เอ้าท์ระหว่างปุ่ม F1~F12 กับ Function Hotkey ได้ตามสะดวก

นอกจากดีไซน์และจุดเด่นของคีย์บอร์ด DELL G15 Gaming Ryzen Edition ในข้างต้นแล้ว จุดสังเกตของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ คือไม่มีไฟ LED Backlit เหมือนรุ่นอื่น และโปรแกรม Alienware Command Center ก็แจ้งว่าไม่มีระบบไฟ LED Backlit ด้วย จึงทำให้ปุ่ม F5 ไม่มี Functio Hotkey ไปโดยปริยาย หากผู้ใช้คนไหนทำงานในที่แสงน้อยก็อาจจะลำบากอยู่บ้าง แต่ใครที่พิมพ์สัมผัสได้ก็ไม่น่ามีปัญหา

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00066

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00083
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00085

คำสั่ง Function Hotkey ตรงปุ่ม F1~F12 ของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition ใช้ชุดคีย์ลัดเดียวกันกับรุ่นซีพียู Intel ทุกอย่าง โดยมีคีย์ลัดดังนี้

  • F1-F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – หยุดหรือเล่นเพลงหรือวิดีโอ
  • F5 – ปรับไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด (ใช้เป็นปุ่ม F5 ตามปกติ)
  • F6-F7 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F8 – Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
  • F9 – Game Shift กดเพื่อให้เครื่องทำงานเต็มที่ อาจจะกด Fn+G แทนก็ได้
  • F10 – Print Screen
  • F11 – Home
  • F12 – End

ในเมื่อ G15 Gaming Ryzen Edition แชร์บอดี้และชิ้นส่วนร่วมกับรุ่น Intel มันจึงยกจุดสังเกตต่างๆ ซึ่งผู้เขียนได้กล่าวถึงไปก่อนหน้ามาทั้งหมด ทั้งเซ็ตปุ่ม Function Key ที่ไม่กระชับพื้นที่นัก ทั้งที่ควรเอา Inset กับ Delete ให้มีปุ่มว่างแล้วรวบ Home กับ End ไว้ด้วยกัน ถ้าดูไปจนชุด Numpad จะเห็นว่าถ้าเอา CE รวบกับ +/- แล้วย้ายปุ่ม Print Screen จาก F10 ไปไว้แทนแล้วเสริมคีย์ลัดเรียก Snipping Tool ขึ้นมาจะยิ่งน่าใช้ขึ้น

อีกจุดน่าเสียดาย คือเมื่อทาง DELL ถอด LED Backlit ออกจากชุดคีย์บอร์ดแล้ว ก็ควรเปลี่ยนฟังก์ชั่นที่ปุ่ม F5 ที่เอาไว้ปรับความสว่างไฟคีย์บอร์ดให้เป็นคำสั่งอื่นด้วย เพราะเมื่อกด Function Hotkey แล้วปุ่มนี้ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าควรใส่ใจรุ่นที่เป็น AMD Ryzen ให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมเลือกซีพียู AMD มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประสิทธิภาพกับราคาคุ้มค่า แต่ถ้าทาง DELL ทำให้ดูด้อยกว่ารุ่น Intel อย่างนี้อาจไม่ดีนักและปั้นแบรนด์ฝั่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไม่ขึ้นแทน

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00073
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00074

ทัชแพดของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition มีขนาดปานกลาง โดยขอบแป้นจะเริ่มจากริม Spacebar ไปจนสุดปุ่ม Alt ฝั่งขวา รองรับ Gesture Control ของ Windows ครบถ้วนและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วแต่ไม่มีคีย์ลัดล็อคการทำงานทัชแพดให้กด ต้องไปกดเปิดปิดในคำสั่ง Settings > Touchpad แทน

Connector / Thin & Weight

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00050

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00056
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00057

พอร์ตของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition ถูกเซ็ตเอาไว้ขอบตัวเครื่องทั้ง 3 ด้าน โดยทางบริษัทติดตั้งพอร์ตมาให้ตามนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – LAN RJ45, Audio combo, ไฟแสดงสถานะการชาร์จ
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2 x 2 
  • ด้านหลังจากซ้าย – USB-C 3.2 รองรับการต่อหน้าจอแบบ DisplayPort, USB-A 3.2, HDMI, ช่องเชื่อมต่ออแดปเตอร์
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

ในแง่ของพอร์ตเชื่อมต่อถือว่าน่าประทับใจ โดยเฉพาะ USB-C 3.2 ที่รองรับการต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ หากใครใช้จอ DELL UltraSharp ที่มีพอร์ต USB-C Upstream อยู่ด้วย ก็เอาสาย Thunderbolt ต่อเข้าหากันก็ใช้งานได้เลยและสะดวกมาก

แต่อย่างไรก็ตาม หากสังเกตส่วนด้านหลังเครื่องจะเห็นว่ามีพื้นที่ว่างใกล้ๆ พอร์ต HDMI อยู่ พื้นที่ระยะห่างระหว่างพอร์ตก็กว้างพอใส่พอร์ต USB 2.0 สักพอร์ตเอาไว้ต่อเมาส์หรือคีย์บอร์ดได้ ถ้าทาง DELL เสริมเข้ามาให้ก็น่าจะมีประโยชน์ดีทีเดียว

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00027

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00026
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00028
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00103

น้ำหนักของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition เฉพาะเครื่องมีน้ำหนัก 2.52 กิโลกรัม เมื่อรวมกับอแดปเตอร์กำลังไฟ 180 วัตต์ซึ่งหนัก 692 กรัมเข้าไปจะมีน้ำหนักรวมที่ 3.2 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักมาตรฐานของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าจะพกเครื่องติดตัวไปไหนมาไหน แนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้เป็นหลักและส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ซื้อใบที่รองรับเครื่องขนาด 17.3 นิ้วได้ด้วย เพราะมิติตัวเครื่องและความหนาจะล้นกระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไปพอสมควร

Inside & Upgrade

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00038

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00042
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00043

เมนบอร์ดของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition จะมีอินเตอร์เฟสเชื่อมต่อหลักๆ ได้แก่ช่องสำหรับใส่แรมแบบ SO-DIMM ทั้งหมด 2 ช่อง วางหัวพอร์ตหันเข้าหากันและมีช่องสำหรับติดตั้ง M.2 NVMe SSD อีกช่องอยู่ถัดลงมาจากตัวการ์ด Wi-Fi PCIe ฝั่งซ้ายมือ แต่สังเกตว่าฝั่งขวามือของเมนบอร์ดจะมีฐานสำหรับติดตั้ง M.2 NVMe SSD เช่นเดียวกันแต่ไม่มีหัวอินเตอร์เฟส SSD ติดตั้งมาให้ ดังนั้น G15 Gaming แม้จะเป็นรุ่น AMD Ryzen ก็ยังอัพเกรดได้แต่แรมและ SSD ตัวหลักได้อีกเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการพื้นที่สำหรับติดตั้งไฟล์เกมเพิ่มเติม แนะนำให้ซื้อ Game Drive มาต่อ USB-A 3.2 ด้านหลังเครื่องแทนดีกว่า

Performance & Software

cpu 2

mb 2
ram 1
spd ram

ซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz ในเครื่องเป็นสถาปัตยกรรม Rembrandt ขนาดทรานซิสเตอร์ 6 นาโนเมตร ซึ่งประสิทธิภาพจัดว่าดีเหลือเฟือ มีแรมติดตั้งมา 16GB DDR5 บัส 4800MHz จากโรงงาน ซึ่งประสิทธิภาพเวลาใช้งานจริงก็ตอบสนองได้ดีมาก ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ติดตั้ง AMD Chipset Driver เข้าไปด้วยเพื่อให้ตัวซีพียูสามารถทำงานหนักและจัดการพลังงานได้ดีขึ้น

integrated gpu 2
discrete gpu 1

กราฟิคการ์ดใน DELL G15 Gaming Ryzen Edition จะมี 2 ตัว คือ AMD Radeon Graphics ในซีพียูซึ่งทำงานเวลาดูหนังฟังเพลงหรือทำงานเอกสารทั่วไป ส่วนการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 ในเครื่องจะทำงานเมื่อเล่นเกมหรือรันโปรแกรมทำงานกราฟิคหรือตัดต่อวิดีโอเพื่อให้ทำงานได้เสร็จเร็วขึ้น

การ์ดจอทั้งสองตัวจะรองรับ DirectX 12 เหมือนกัน รวมถึง Computing Technologies ด้วย ซึ่งรองรับ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX ครบถ้วน ยกเว้นเฉพาะ CUDA ที่มีเฉพาะการ์ดจอ NVIDIA เท่านั้น

device mgr 1

พาร์ทในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager จะเห็นว่า DELL G15 Gaming Ryzen Edition มีชิปเซ็ต TPM 2.0, AMD PSP 10.0 ติดตั้งมาให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยร่วมกับระบบของ Windows 11 และชิป Wi-Fi PCIe ในเครื่องเป็น MediaTek MT7921 ซึ่งผู้ผลิตหลายเจ้านิยมนำมาติดตั้งในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ เวลาใช้งานจริงก็สามารถเปิดเว็บไซต์, โหลดไฟล์งานต่างๆ ได้รวดเร็วไม่มีปัญหา

ssd 2

Samsung PM991a ความจุ 512GB ใน DELL G15 Gaming Ryzen Edition เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 แล้ว ได้ความเร็ว Sequential Read 3,136.49 MB/s และ Sequential Write 1,507.02 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วใช้ได้ สามารถเปิดโปรแกรมหรือเกมได้เร็ว แต่เนื่องจากมีช่องอัพเกรดบนเมนบอร์ดแค่ช่องเดียวถ้าจะอัพเกรดแนะนำให้ซื้อรุ่นความจุ 1TB เช่น WD Black SN750 SE, Samsung 980 ฯลฯ มาเปลี่ยนแล้วเอา SSD จากโรงงานตัวนี้ไปทำเป็น External SSD แล้วซื้อ External Harddisk แบบ Game Drive มาต่อเสริมแล้วติดตั้งเกมในไดรฟ์นั้นดีกว่า

r15 2
r20 2

การทดสอบเรนเดอร์ 3D CG ด้วย CINEBENCH R15 ตัว DELL G15 Gaming Ryzen Edition สามารถทำคะแนน OpenGL ได้ 138.27 fps และได้คะแนน CPU อีก 2,143 cb และเมื่อทดสอบด้วย CINEBENCH R20 ก็ได้คะแนน CPU 4,937 pts กล่าวคือ ซีพียู AMD Ryzen 7 6800H เมื่อนำมาติดตั้งใน DELL G15 แล้ว ประสิทธิภาพของมันก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งผลคะแนนระดับนี้ใช้ปั้น, เรนเดอร์และพรีวิวโมเดล 3D ให้ลูกค้าดูได้สบายๆ ดังนั้นนอกจากเกมเมอร์แล้ว คอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็เหมาะกับมันเช่นกัน

pcmark10 2

ผลดีต่อมาเมื่อซีพียูถูกอัพเกรดเป็น AMD Ryzen 7 6800H คือผลการทดสอบของ PCMark 10 สำหรับวัดประสิทธิภาพเวลาใช้ DELL G15 Gaming Ryzen Edition ทำงาน ได้ผลคะแนนเฉลี่ยได้สูง 7,000 คะแนน เมื่อดูคะแนนในแต่ละหมวดแล้วจะเห็นว่ามันสามารถทำงานได้ดีหมดไม่ว่าจะใช้ทำงานทั่วไปอย่างการประชุมงาน, เปิดเว็บไซต์, ทำงานเอกสารหรือแม้แต่ทำงานกราฟิคอย่างตัดต่อ Vlog, แต่งภาพหรือเรนเดอร์โมเดล 3D ก็ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งหมด ประกอบกับคะแนนเฉลี่ยระดับนี้ ก็ทำให้ G15 Gaming Ryzen Edition เป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่ทำคะแนนทดสอบ PCMark 10 ได้สูงมาก

3dmark 1

การทดสอบ 3DMark Time Spy ตัว DELL G15 Gaming Ryzen Edition ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 6,271 คะแนน แยกเป็น CPU score 9,334 คะแนน และ Graphics score 5,928 คะแนน ซึ่งคะแนนโดยรวมต้องถือว่าสูงพร้อมใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันบนจอความละเอียด 1080p และปรับกราฟิคระดับ High แล้วยังได้เฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 60 fps ขึ้นไปอย่างแน่นอน

gaming graph

ส่วนการทดสอบเล่นเกมฟอร์มยักษ์ยอดนิยมในปัจจุบันนี้ ผู้เขียนทดลองปรับกราฟิคทุกเกมไประดับสูงสุดที่มีให้ตั้งค่า ยกเว้น Call of Duty Modern Warfare II ที่ปรับกราฟิคเอาไว้ระดับ Ultra ซึ่งรองจากระดับสูงสุดลงมา 1 ขั้น จะเห็นว่า G15 Gaming Ryzen Edition สามารถรันทุกเกมได้ดี หลายๆ เกมทำได้เกิน 100 Fps แม้แต่ SCUM ปรับกราฟิคระดับ Epic ก็ยังเล่นได้และเฟรมเรทไม่พุ่งขึ้นลงวูบวาบเกินไป ทำให้ไม่เสียจังหวะในนาทีสำคัญอย่างการ Raid บ้านหรือปะทะกับผู้เล่นคนอื่นเลยแม้แต่น้อย

mydell Medium

ด้านซอฟท์แวร์ปรับแต่งตัวเครื่องจะมีโปรแกรม My Dell เอาไว้เช็คสภาพสถานะและอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้ระบบภายในเครื่องและมี Alienware Command Center ที่โหลดเพิ่มจาก Microsoft Store มาติดตั้งเพื่อปรับแต่งและเร่งประสิทธิภาพการทำงานได้และผู้เขียนแนะนำให้โหลดมาติดตั้งด้วย เพราะมันช่วยรีดประสิทธิภาพโดยรวมทั้งเล่นเกมและทำงานได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน 

Battery & Heat & Noise

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00047

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 56Wh ใน DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นขนาดมาตรฐานซึ่งพบเห็นในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งความจุนี้สามารถจ่ายไฟให้โน๊ตบุ๊คนี้ใช้งานต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมงอย่างแน่นอน

battmon 50 brightness new test system

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ โดยปรับโหมดตัวเครื่องเป็นแบบประหยัดพลังงาน, ลดเสียงลำโพงเหลือ 10% และปรับความสว่างหน้าจอไว้ 50% เปิดเบราเซอร์ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาทีแล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งว่า DELL G15 Gaming Ryzen Edition ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 8 ชั่วโมง 13 นาที ซึ่งใช้งานได้นานกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ณ ตอนนี้ซึ่งแบตเตอรี่ใช้งานได้นานราว 5~6 ชั่วโมงเท่านั้น และถ้ารุ่นไหนมีแบตเตอรี่ราว 75Wh ก็จะใช้งานได้ราว 7 ชั่วโมง 30 นาทีไม่เกินนี้ ดังนั้นถ้าใครซื้อ G15 Gaming Ryzen Edition ไปก็พกเครื่องไปประชุมหรือเข้าห้องเรียนได้สบายๆ

กลับกัน DELL G15 Gaming Ryzen Edition รุ่นซีพียูรหัส H ซึ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าซีพียูรหัส U หรือ HS สามารถบริหารจัดการพลังงานในเครื่องได้นานเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ก็ถือว่าระบบภายในเครื่องทำงานได้ดีมาก แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนแนะนำให้ติดตั้ง AMD Chipset Driver เสริมเข้าไปด้วย จะช่วยดึงประสิทธิภาพของซีพียู Ryzen ในเครื่องออกมาได้ดีขึ้น

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00039

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00034
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00035
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00040
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00041
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00053
Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00054

ระบบระบายความร้อนของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นพัดลมโบลวเวอร์คู่ โดยดึงอากาศเย็นเข้าทางช่องขอบบนเหนือแป้นคีย์บอร์ดและด้านใต้เครื่องเพื่อระบายความร้อนและเป่าออกทางช่องด้านหลังและข้างเครื่องทั้งหมด 4 ช่อง แต่เราจะไม่เห็นชุดฮีตไปป์เพราะทางบริษัทติดมันเอาไว้อีกด้านถัดลงมาจากชุดคีย์บอร์ดที่วางมือนั่นเอง

ในส่วนนี้ผู้เขียนมั่นใจว่าหลายคนคงกังวลว่าถ้าติดชุดฮีตไปป์เอาไว้ใกล้กับผู้ใช้เช่นนั้นจะร้อนหรือมีปัญหาไหม ในส่วนนี้จากที่ผู้เขียนทดสอบเล่นเกมและทำงานโดยวางมือบนแป้นคีย์บอร์ดของ DELL G15 Gaming ต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง ตัวเครื่องก็แค่อุ่นๆ เท่านั้น ไม่ได้ร้อนจนวางมือไม่ได้เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในอดีตเลย และมีเสียงพัดลมโบลวเวอร์ความดังราว 58~61dB แทน ซึ่งถือว่าดังพอได้ยินว่าพัดลมกำลังทำงานอยู่

hwmonitor 1

อุณหภูมิในเครื่องตอนรันโปรแกรม Benchmark แล้วเช็คด้วย CPUID HWMonitor แม้จะไม่เห็นว่าซีพียู AMD Ryzen 7 6800H ตัวชิปโดยตรงจะร้อนเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็ดูจากการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แทนได้ว่าอุณหภูมิของซีพียูนั้นจะวิ่งอยู่ที่ 45~75 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าไม่ร้อนมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดการ Throttle Down ลดประสิทธิภาพตัวเองระหว่างใช้งานอยู่

User Experience

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00090

ประสบการณ์ใช้งาน DELL G15 Gaming Ryzen Edition ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสำหรับใช้เล่นเกมและทำงานตัดต่อของครีเอเตอร์จัดว่าทรงพลัง ใช้ทำงานได้หลากหลายตั้งแต่ทำงานออฟฟิศทั่วไปจนกระทั่งงานกราฟิคตัดต่อวิดีโอหรือภาพนิ่งก็ไม่มีปัญหา ถ้าใครคิดจะซื้อเอาไว้ทำงานแล้วจะซื้อโน๊ตบุ๊คซีพียู AMD มาใช้จะดีไหม ในยุค AMD Ryzen เช่นนี้ผู้เขียนกล่าวได้ว่าประสิทธิภาพของมันไล่เลี่ยกับ Intel Core Series ในราคาที่ถูกกว่าเสียด้วยซ้ำ

ด้านการเล่นเกม ยิ่งถ้าเกมไหนเน้นใช้พลังของซีพียู (CPU Intensive) ยิ่งไม่ต้องห่วง เพราะกำลังของ Ryzen 7 6800H มีให้ใช้เหลือเฟือและยังรีดประสิทธิภาพของการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ได้ไหลลื่นไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย และพอมีแรมมาจากโรงงานอีก 16GB และเป็น DDR5 ก็รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว จากที่ลองใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่หลายๆ เกมในปัจจุบันนี้ ก็ได้เฟรมเรทสูงน่าประทับใจพอควร

หากจะพกพาไปไหนมาไหนและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ ผู้เขียนแนะนำให้หากระเป๋าเป้ใบใหญ่สำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วมาเตรียมเอาไว้ เพราะขนาดเครื่องแม้จะอยู่ที่ 15.6 นิ้ว แต่ตอนทดลองใส่กระเป๋าขนาดดังกล่าว กลายเป็นว่าขอบและความหนาทำให้โน๊ตบุ๊ครั้งแนวซิปของกระเป๋าโดยปริยาย ทำให้ต้องย้ายจากช่องใส่โน๊ตบุ๊คมาใส่รวมกับช่องกลางที่เอาไว้ใส่อุปกรณ์เสริมแทน แต่เรื่องระยะเวลาใช้งานต้อง 8 ชั่วโมง 13 นาทีของ DELL G15 Gaming Ryzen Edition จัดว่านานดีไม่มีปัญหา หากพกไปประชุมหรือเข้าเรียนก็ไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะหมดเอาง่ายๆ แต่ถ้าวันนั้นไม่มั่นใจว่าจะต้องทำธุระนานไหม ก็แนะนำให้เตรียมอแดปเตอร์ใส่กระเป๋าไปเลยจะอุ่นใจที่สุด

อย่างไรก็ตาม จุดที่ผู้เขียนขอให้ทาง DELL ปรับปรุงเพื่อให้ Gaming Series ของทางบริษัทได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นในอนาคต คือใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงเกรดเดียวกันทั้งหมด ไม่ต้องปรับแต่งสเปคให้วุ่นวายมีจอ 120Hz แต่ขอบเขตสีปานกลางแค่พอใช้งานได้ นั่นเพราะปัจจุบันนี้ครีเอเตอร์หลายๆ คนหันมาใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คมากขึ้น ถ้าทางบริษัทต้องการจับตลาดกลุ่มนี้ ต้องติดตั้งพาเนล IPS ขอบเขตสี 100% sRGB มาก่อนเป็นอันดับแรก

ถัดมาคือ ไม่กั๊กหัวอินเตอร์เฟส M.2 NVMe PCIe ช่องสำรองไว้ให้ตัวท็อปหรือรุ่นซีพียู Intel เท่านั้น ติดตั้งมันให้เป็นมาตรฐานสำหรับ G Series ทุกรุ่นไปเลย ให้ผู้ใช้ที่ต้องการอัพเกรดเพิ่มความจุ SSD ในเครื่องจะได้อัพเกรดได้อย่างสบายใจ และให้ดีผู้เขียนแนะนำว่าใส่ฟีเจอร์ LED Backlit มาคู่กันจะได้ช่วยให้เจ้าของเครื่องที่เลือกซื้อ G15 Gaming Ryzen Edition ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

Conclusion & Award

Dell G15 AMD Ryzen 6000 DSC00092

DELL G15 Gaming Ryzen Edition เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นน่าสนใจซึ่งเอาใจทั้งกลุ่มคนทำงานด้วยสเปคที่รันโปรแกรมทั่วไปตั้งแต่งานเอกสารไปจนงานตัดต่อภาพหรือวิดีโอก็ได้สบายๆ และยังได้ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้ ซึ่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คมีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่แถมโปรแกรมนี้มาให้ตั้งแต่เปิดเครื่อง ส่วนการเล่นเกมก็มีโปรแกรม Alienware Command Center เอาไว้รีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ทำงานได้เต็มที่ แม้จะไม่ได้ติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรกก็แนะนำให้โหลดมาติดตั้งไว้เลย ยิ่งถ้าใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ครบเครื่องแม้จะมีข้อสังเกตอยู่บ้างแต่ถ้ายอมรับมันได้ ก็ถือเป็นรุ่นที่น่าซื้อมาใช้งานอย่างแน่นอน

award

award new Battery Life

best battery life

เมื่ออัพเกรดซีพียูเป็น AMD Ryzen 7 6800H แล้วติดตั้ง AMD Chipset Driver เข้าไป G15 Gaming Ryzen Edition ก็จัดการพลังงานได้ดีมาก อยู่ได้นานถึง 8 ชั่วโมง ชนะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันที่แบตเตอรี่ใช้ได้เฉลี่ยเพียง 5~7 ชั่วโมงไปได้อย่างสวยงาม

award new Gaming

best gaming

แม้จะเป็นการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แต่พอได้ Alienware Command Center ก็เร่งประสิทธิภาพตอนเล่นเกมได้ดีขึ้นมากและยังจัดการอุณหภูมิระบายความร้อนได้ดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนรบกวนระหว่างใช้งานเลยแม้แต่น้อย

from:https://notebookspec.com/web/680554-review-dell-g15-gaming-ryzen-edition

รีวิว MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เหล้าใหม่ในขวดเก่า เล่นเกมหนักแค่ไหนก็เย็นกับราคา 47,490 บาท

MSI Katana GF66 Intel Gen 12 แม้บอดี้จะเก่าแต่ฟังก์ชั่นโดยรวมดีขึ้นเยอะ ระบายความร้อนได้โอเคมากด้วย!

Share image Edit Name 1katanagf66gen12

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตระกูล MSI Katana ด้วยฝีมือการดีไซน์ของคุณ Nagano Tsuyoshi เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ยอดนิยมอีกรุ่นของ MSI และ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 รุ่นล่าสุดนี้แม้จะคงดีไซน์ภายนอกเอาไว้เช่นเดิม แต่ทางบริษัทก็จัดการอัพเกรดสเปคและชิ้นส่วนต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เริ่มต้นจากซีพียู Intel ในเครื่องได้อัพเกรดจาก Intel Rocket Lake รุ่น 11 เป็น Intel Alder Lake รุ่น 12 เป็นอย่างแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์รวมของตัวเครื่องให้ดียิ่งขึ้นและรีดพลังของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3000 Series ให้ได้เต็มที่ รวมทั้งปรับแต่งระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ให้ชุดพัดลมโบลวเวอร์คู่และฮีตไปป์ 6 เส้นภายในเครื่องนำความร้อนได้ดีขึ้น ส่วนระบบเสียงและลำโพงได้ Nahimic by SteelSeries บริษัทคู่ใจมาช่วยปรับจูนเสียงให้ได้ความคมชัดระดับ Hi-Res และติดตั้งพอร์ตใช้งานมาครบถ้วนเช่นเดิม

Advertisementavw

สเปคภายในเครื่องก็ยังน่าสนใจ เริ่มจากอินเตอร์เฟสของ M.2 NVMe SSD ซึ่งอัพเกรดเป็น PCIe 4.0 x4 ให้รองรับ SSD ความเร็วสูงรุ่นใหม่ๆ และเพิ่มแรมไปได้สูงสุด 64GB DDR4 บัส 3200MHz ด้านระบบการจัดการพลังงานของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ก็น่าสนใจ แม้จะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ก็ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ดีไซน์เด่นอีกอย่างคือ มันสามารถกางหน้าจอให้แบนราบไปกับพื้นโต๊ะได้ด้วย

MSI Katana GF66 Intel Gen 12

NBS Verdicts

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09820 Medium

MSI Katana GF66 Intel Gen 12 นับเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของตระกูล Katana แต่ถึงจะเป็นรุ่นปรับปรุงสเปค อัพเกรดซีพียูให้เป็น Intel Core i7-12700H ก็ทำให้ประสิทธิภาพองค์รวมดีขึ้นมากแล้ว และทาง MSI ยังจัดการระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้นมาก ลบความคิดและปัญหาเก่าๆ ว่า MSI Katana นั้นแรงแต่ร้อนให้เย็นลงแล้วใช้งานได้เต็มพลังต่อเนื่องประสิทธิภาพไม่ลดลง ด้านงานประกอบตัวเครื่องยังแข็งแรงทนทานและยังกางจอได้แบนราบไปกับพื้นโต๊ะ จึงปรับจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่าย

ถัดมาเป็นพาร์ทภายในตัวเครื่อง ได้แก่ อินเตอร์เฟสของ M.2 NVMe SSD ซึ่งเป็น PCIe 4.0 x4 ซึ่งรองรับ NVMe รุ่นใหม่ความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น ส่วนแรมรองรับความจุสูงสุด 64GB DDR4 บัส 3200MHz ซึ่งถ้า 16GB จากโรงงานมีไม่พอใช้ทำงาน 3D ต่างๆ ก็เพิ่มได้ให้ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหาคอขวดติดเรื่อง RAM ไม่พอใช้งานเลย

ส่วนจุดสังเกตของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า นั่นคือมีช่องให้ใส่ M.2 NVMe SSD เพียงช่องเดียวไม่มีช่องสำรองหรือแม้แต่ช่องต่อฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA III ก็โดนถอดหัวเชื่อมต่อออกไปแล้วปล่อยเป็นช่องว่างเอาไว้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ผู้เขียนแนะนำให้ย้ายหัว M.2 PCIe ไปไว้แทน 2.5″ SATA III แล้วทำเป็น 2 หัวคู่กันไปเลยหรือไม่ก็นำหัว SATA III กลับมา จะได้มีไดรฟ์อัพเกรดฮาร์ดดิสก์ให้ใช้อีกช่องให้ใช้ประโยชน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น

อีกจุดสังเกต คือพาเนลหน้าจอ IPS ยังเป็นเกรดทั่วไป ไม่ใช่แบบคุณภาพสูงเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบันนี้ที่ได้พาเนลเอื้องานสายครีเอเตอร์ด้วย ดังนั้นพาเนล IPS เกรดทั่วไปในโน๊ตบุ๊คราคา 47,490 บาท จึงดูไม่สมตัวนัก ส่วนตัวคิดว่าถ้าทางบริษัทมี MSI Katana GF66 รุ่นย่อยปรับสเปคก็ควรลงทุนกับพาเนล IPS คุณภาพดีกว่านี้ให้แสดงขอบเขตสีหน้าจอได้กว้าง 100% sRGB ด้วย

ข้อดีของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12
  1. งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ดีไซน์เรียบง่ายไม่ดึงดูดสายตาเกินไป
  2. ตัวเครื่องดีไซน์ให้กางจอได้แบนราบ 180 องศา ปรับองศาจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่าย
  3. ซีพียูได้ Intel Core i7-12700H เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง รันโปรแกรมและเกมได้ลื่นไหล
  4. การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ใช้เล่นเกมและทำงานกราฟิคได้ดี
  5. ได้แรมจากโรงงาน 16GB DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 64GB ช่วยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  6. อินเตอร์เฟสของ M.2 NVMe SSD เป็น PCIe 4.0 x4 รองรับ NVMe รุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
  7. ระบบการจัดการพลังงานทำได้ดีขึ้น ช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง
  8. ชุดพัดลม Cooler Boost 5 ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพตอนใช้งานไม่ลดลง
  9. มีพอร์ต USB 2.0 เสริมเข้ามาให้ใช้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดได้ ไม่ต้องใช้ช่อง USB-A 3.2 Gen 1
  10. กดฟังก์ชั่นเปิดเป้าเล็งปืน (Crosshair) ค้างบนจอได้ ช่วยให้เล่นเกม FPS ได้สะดวกขึ้น
ข้อสังเกตของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12
  1. ยังมีช่องใส่ M.2 NVMe SSD ช่องเดียว ไม่มีช่องเสริมให้เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์
  2. พาเนล IPS ของหน้าจอยังเป็นเกรดทั่วไป ไม่เป็นขอบเขตสีกว้างเหมือนแบรนด์คู่แข่ง
  3. พอร์ต USB-C เป็นแบบโอนไฟล์อย่างเดียว แต่แบรนด์คู่แข่งระดับราคาไล่เลี่ยกันได้ Thunderbolt 4 หรือ USB-C พร้อม DisplayPort Alt-mode แล้ว

รีวิว MSI Katana GF66 Intel Gen 12

Specification

gf66 gen12 spec

MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ในตระกูล Katana ที่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel 12th Gen สถาปัตยกรรม Alder Lake ช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด สำหรับสเปคมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 ค่า TGP 60 วัตต์
  • SSD : M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-C 3.2 Gen 1 x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB 2.0 x 1, LAN RJ45 x 1, HDMI x 1 รองรับความละเอียด 4K 60Hz, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.25 กิโลกรัม
  • Price : 47,490 บาท (ราคากลาง)

Hardware & Design

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09813 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09818 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09785 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09790 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09792 Medium

ดีไซน์ของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 แม้จะเป็นรุ่นใหม่รหัสใหม่ก็ตาม แต่บอดี้ก็ยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งจุดวางข้อมือตัดขอบเฉียงฝั่งซ้ายและขวาเล็กน้อยให้ดูเหมือนคมของดาบคาตานะ มีสติ๊กเกอร์ Intel กับ NVIDIA ตรงที่พักข้อมือฝั่งซ้าย ส่วนเหนือแป้นคีย์บอร์ดมีช่องเจาะเป็นดีไซน์ให้ดูเท่ล้ำสมัยและช่วยเรื่องดึงอากาศเย็นเข้าไประบายความร้อนในตัวเครื่องได้เล็กน้อย และสังเกตว่าขอบบนของตัวเครื่องกับขอบล่างหน้าจอจะห่างกันให้กางหน้าจอได้กว้างยิ่งขึ้น

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09779 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09830 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09829 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09772 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09770 Medium

ซึ่งเมื่อกางหน้าจอแล้วจะเห็นว่าขาบานพับจอของ MSI Katana GF66 สามารถหมุนได้จนจอราบไปกับพื้นโต๊ะ ดังนั้นไม่ว่าจะวางเครื่องไว้กับพื้นโต๊ะหรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่าย เมื่อเปิดฝาใต้เครื่องดูแล้วจะเห็นว่าฐานบานพับหน้าจอเป็นก้านสั้นล็อคเข้ากับฐานโลหะภายในเครื่องซึ่งแข็งแรงมาก ไม่มีอาการโยกหรือสั่นตอนกางหน้าจอแม้แต่น้อย

ส่วนโค้งเฉียงนอกจากริมตัวเครื่องใต้ที่รองข้อมือทั้งสองด้าน จะเห็นว่าตัวเครื่องระหว่างช่องระบายความร้อนด้านหลังถูกออกแบบให้โค้งเข้าเล็กน้อย เป็นดีไซน์ล้อไปกับขอบตัวเครื่องส่วนหน้าส่วนที่วางข้อมือถัด รวมถึงขอบล่างของฝาหลังหน้าจอก็ถูกปาดเฉียงเล็กน้อยช่วยให้ถือโน๊ตบุ๊คด้วยมือเดียวแล้วกระชับจับถือถนัดมือยิ่งขึ้น

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09777 Medium

ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็ตาม แต่ฝาหลังของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ไม่มีลวดลายตามสมัยนิยมของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปัจจุบันนี้ มีแต่โลโก้รูปมังกรที่สลักเอาไว้ขอบบนกึ่งกลางหน้าจอเท่านั้น ดูไม่สะดุดตาเกินไปและได้ลุคเรียบร้อยเหมือน GF63 Thin เหมาะกับใครที่อยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีไซน์เรียบร้อยเอาไว้ทำงานมาก

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09748 Medium

ฝาใต้ตัวเครื่องถูกเจาะช่องดึงลมเข้าเป็นแบบรังผึ้งให้ดึงลมเข้าไประบายความร้อนในระบบ Cooler Boost 5 แล้วระบายลมร้อนออกทางด้านหลังเครื่อง 2 ช่องกับช่องซ้ายมืออีกช่องหนึ่ง มีแถบยางกันเครื่องไถลติดเอาไว้ 4 จุด โดยคู่ล่างจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ช่วยป้องกันฝาล่างของตัวเครื่องโดนกับพื้นโต๊ะโดยตรง และทาง MSI ใช้น็อตหัวแฉกแบบ Philips Head ทั้งหมด 13 ตัว ขันล็อคให้ฝาและตัวเครื่องล็อคเป็นชิ้นเดียวกัน

Screen & Speaker

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09780 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09782 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09781 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09783 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09784 Medium

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีค่า Refresh Rate 144Hz และสามารถปรับตั้งค่า Refresh Rate ลดลงเหลือ 60Hz ได้ด้วย กรอบหน้าจอดีไซน์ให้ขอบฝั่งซ้ายและขวาบางเป็นพิเศษให้มีพื้นที่แสดงผลด้านข้างกว้างยิ่งขึ้น แต่ขอบบนล่างจะหนากว่าระดับหนึ่ง ส่วนกล้องเว็บแคมความละเอียด HD และไมโครโฟนถูกติดเอาไว้ตรงกึ่งกลางขอบบนของหน้าจอ

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09786 Medium

 

display resolution 1
gamut 1
luminance 1

พาเนลหน้าจอ IPS ของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 สามารถแสดงผลได้กว้าง 178 องศา ทั้งในแนวตั้งและนอน เมื่อมองเข้ามาแล้วจะไม่เห็นเงาสะท้อนขึ้นมาบนจอแบบพาเนล TN ส่วนขอบเขตสีเมื่อวัดด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 แล้ว ได้ค่า Gamut Coverage หรือขอบเขตสีจริงของหน้าจอ 58% sRGB, 40.3% Adobe RGB, 41.5% DCI-P3 ส่วน Gamut Volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีทั้งหมดของจอนี้ทำได้ 58.5% sRGB, 40.3% Adobe RGB, 41.5% DCI-P3 มีค่า Delta-E เฉลี่ยที่ 0.06~1.15 อิงจากผลการทดสอบนี้ถือว่าจอ MSI Katana GF66 แสดงผลสีสันได้เที่ยงตรง แต่ขอบเขตสีกว้างแค่ไล่เลี่ยกับจอของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทั่วไปในปัจจุบันนี้เท่านั้น หากใช้แต่งภาพอัพโหลดโซเชียลเน็ตเวิร์คถือว่าพอใช้งานได้ แต่ถ้าทำงานจริงจังควรต่อหน้าจอแยกสำหรับทำงานอาร์ทโดยเฉพาะจะดีที่สุด

ความสว่างหน้าจอสูงสุดโดยโปรแกรม DisplayCal 3 วัดได้ 260.78 cd/m2 จัดว่าสว่างเพียงพอใช้ทำงานในอาคารได้อย่างแน่นอน และจากการใช้งานจริงแม้จะปรับความสว่างไว้ 50% ก็ยังมองสว่างเห็นชัด แต่ความสว่างระดับนี้อาจจะสู้แสงแดดสะท้อนหน้าจอได้ระดับหนึ่งเท่านั้น

nahimic Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09752 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09753 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09767 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09768 Medium

ด้านลำโพง Hi-Res จูนเสียงโดย Nahimic by SteelSeries หากใช้เล่นเกมถือว่าเสียงดีฟังชัดได้อรรถรส แต่ตอนฟังเพลงถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่โดดเด่นมากนัก โดยเสียงเครื่องดนตรีกับนักร้องจะเด่นนำเป็นหลัก ทว่าเสียงเบสไม่ค่อยมีแรงปะทะมากนัก แต่ก็ยังมีซอฟท์แวร์ของ Nahimic มาให้ปรับโทนเสียงให้ได้มิติดีขึ้นระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามถ้าใครอยากฟังเพลงให้ได้เสียงเต็มอรรถรสแนะนำให้ต่อลำโพงแยกดีกว่า

Keyboard & Touchpad

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09791 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09787 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09789 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09793 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09794 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09806 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09799 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09795 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09797 Medium

คีย์บอร์ดของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เป็นแบบ Full-size มีไฟ LED Backlit สีแดงติดตั้งมาให้และปรับความสว่างได้โดยกด Fn+F8 มีไฟแสดงสถานะพิเศษติดมาที่ปุ่ม F1 เพื่อบอกว่าลำโพงปิดอยู่, Caps Lock, Num Lock, Power ซึ่งแสงไฟสว่างมองเห็นชัดในที่แสงน้อยดีมาก

สังเกตว่าเลย์เอ้าท์ของคีย์บอร์ดนี้เป็นแบบแชร์ร่วมกันกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ MSI หลายๆ รุ่นในตอนนี้ ตัวอย่างเช่น MSI Bravo 15 ซึ่งได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ ข้อดีคือมีฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมติดตั้งมาให้ครบถ้วน ทั้งปุ่มปรับเพิ่มรอบความเร็วพัดลม, เปิด Crosshair ช่วยเล็งเป้า, เล่นหรือหยุดเพลงและปุ่มดับหน้าจอโน๊ตบุ๊ค มีปุ่ม Ctrl ยาวเท่ากับปุ่ม Shift ทำให้กดใช้ได้ง่าย หากมีปัญหาก็ส่งเคลมซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ได้รวดเร็ว

แต่ฟังก์ชั่นที่ขาดไปอย่างไม่มีปุ่ม Windows Lock หรือแม้แต่ไม่มีปุ่ม Function Hotkey ติดมาให้ตรง F12 ก็ยังอยู่เช่นเดิม ทำให้ใช้ประโยชน์จากการกางจอได้ราบไปกับพื้นโต๊ะได้ไม่เต็มที่เหมือนที่ MSI Modern 14, 15 ทำได้ ซึ่งน่าเสียดายไปหน่อย

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09803 Medium

Function Hotkey ของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เองก็แชร์ร่วมกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นอื่นในค่ายและไม่มีฟังก์ชั่นเกมมิ่งติดมาให้ใช้งานเช่นกัน โดยมีคีย์ลัดดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิด/เปิดทัชแพด
  • F5 – ปิด/เปิดไมโครโฟน
  • F6 – ปิด/เปิดเว็บแคม
  • F7 – เรียกโปรแกรม MSI Center
  • F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit
  • F9~F10 – ลด/เพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม

ดังนั้นเมื่อ Katana GF66 รุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ยังแชร์คีย์บอร์ดร่วมกันกับ Bravo 15 จุดน่าเสียดายต่างๆ ก็ยังมีอยู่เช่นเดิม ไม่ว่าจะไม่มีคีย์ลัดล็อคปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ด ต้องกดผ่านทาง MSI Center แทน และ F12 ไม่มีคีย์ลัดให้ใช้งาน ทั้งที่บรรทัด F1~F12 ก็เป็นคีย์ใช้งานทั่วไปแล้วทั้งที ก็อยากให้ MSI เอาปุ่มลัดพลิกหน้าจอกลับ 180 องศาใส่มาให้เลยจะได้ใช้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09804 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09805 Medium

แป้นทัชแพดของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 มีความกว้างจากขอบสู่ขอบอยู่ระหว่างปุ่ม Alt ทั้งสองฝั่งพอดี สามารถกด Fn+F4 ล็อคปิดการทำงานได้ เมื่อวางมือไว้ตรงปุ่ม WASD แล้ว สันมือซ้ายจะทาบลงขอบของแป้นทัชแพดพอดี เวลาใช้งานจริงแป้นสามารถตอบสนองได้เร็วและรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ครบถ้วน ใช้ทำงานได้สะดวกระดับหนึ่ง

Connector / Thin & Weight

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09807 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09808 Medium

พอร์ตเชื่อมต่อของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ถูกติดตั้งเอาไว้สองฝั่งของเครื่อง ส่วนด้านหลังจะเป็นช่องสำหรับฮีตไปป์ของ Cooler Boost 5 โดยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ตัวนี้จะมีพอร์ต USB 2.0 ติดตั้งมาเพิ่มอีกช่องไว้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดได้ ส่วนพอร์ตต่างๆ มีดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องอแดปเตอร์, USB-A 3.2 Gen 1, USB 2.0 
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, USB-A 3.2 Gen 1, USB-C 3.2 Gen 1, HDMI รองรับความละเอียด 4K 60Hz, LAN RJ45
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

พอร์ตต่างๆ ของ MSI Katana GF66 ยังคล้ายกับรุ่นก่อน ยกเว้น USB 2.0 ซึ่งถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามาให้ แม้จะดูเล็กน้อยแต่ก็ได้ใช้ต่อเมาส์หรือคีย์บอร์ดเกมมิ่งแน่นอน ส่วนพอร์ต USB-A 3.2 ก็ใช้ต่อ Game Drive หรือ External Harddisk ไว้โอนถ่ายไฟล์ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยรวมถือว่าครบพอใช้งานแล้ว

สิ่งที่ผู้เขียนติดใจอยู่ คือ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 มีราคาสูงถึง 47,490 บาทแล้ว แต่ได้พอร์ต USB-C 3.2 แบบโอนไฟล์อย่างเดียว ต่อจอแยกแบบ DisplayPort Alt-mode หรือชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในระดับราคาไล่เลี่ยกันก็รู้สึกว่าน่าเสียดายมาก หากเป็นไปได้อย่างน้อยทาง MSI ก็น่าทำให้มันต่อหน้าจอแยกได้ก็ยังดี หากเป็นไปได้ผู้เขียนก็หวังว่ารุ่นย่อยอื่นๆ ทาง MSI จะนำข้อสังเกตนี้ไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09744 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09746 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09745 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09831 Medium

น้ำหนักของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ทางบริษัทเคลมในสเปคบนเว็บไซต์ไว้ 2.25 กิโลกรัม เมื่อชั่งจริงแล้วอยู่ที่ 2.22 กิโลกรัม เมื่อรวมอแดปเตอร์กำลังไฟ 180 วัตต์ ของ Chicony น้ำหนัก 602 กรัมเข้าไปแล้ว ทั้งแพ็คเกจจะมีน้ำหนักรวม 2.86 กิโลกรัม ถือว่าหนักระดับหนึ่งถ้าพกไปไหนควรใส่กระเป๋าเป้ไปจะไม่กดไหล่จนเกิดอาการบาดเจ็บตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน 

Inside & Upgrade

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09755 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09757 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09758 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09761 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09773 Medium

การอัพเกรด MSI Katana GF66 Intel Gen 12 มีจุดแข็งที่บอร์ดรองรับ RAM ได้สูงสุด 64GB DDR4 บัส 3200MHz ได้อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ไว้ติดตั้ง M.2 NVMe SSD ได้แต่ก็มีเพียงช่องเดียว ไม่มีหัว M.2 PCIe ตัวรอง แม้แต่หัว SATA III ก็โดนถอดออกไปทำให้มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์จำกัด ถ้าใครจะซื้อเครื่องนี้ไว้เล่นเกมก็ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ภายนอกแบบ Game Drive เท่านั้น และมีพื้นที่ว่างภายในเครื่องข้างแบตเตอรี่แทน

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าถ้าไม่เอาหัว SATA III กลับมาใส่ให้ ก็ย้ายเอา M.2 PCIe ส่วนเหนือแบตเตอรี่ไปไว้ข้างๆ แทน แล้วใส่หัว PCIe 4.0 x4 มาเป็นคู่แล้วมีซิลิโคนซัพพอร์ตใต้ตัว M.2 SSD สักนิดจะดีที่สุด

Performance & Software

cpu 1

mb 1
ram
ram2

ซีพียูใน MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ติดตั้ง Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz สถาปัตยกรรม Alder Lake ค่า TDP 45 วัตต์ ขนาดทรานซิสเตอร์ 10 นาโนเมตรมาให้ รองรับชุดคำสั่งต่างๆ ครบถ้วน

เมนบอร์ดในเครื่องผลิตโดย MSI เอง โดยอินเตอร์เฟสของ M.2 NVMe SSD เป็นแบบ PCIe 4.0 x4 จึงรองรับ SSD ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ๆ ได้ดี มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz ติดตั้งมาให้จากโรงงานด้วย

tgp

integrated gpu 1
discrete gpu

การ์ดจอใน MSI Katana GF66 มี 2 ตัว ได้แก่ แบบออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics สำหรับแสดงผลภาพขึ้นบนหน้าจอเวลาใช้ทำงานเอกสาร, เปิดเว็บไซต์หรือดูหนังฟังเพลงแล้ว ก็มี NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มีค่า TDP 60 วัตต์ สำหรับเล่นเกมหรือทำงานกราฟิคตัดต่อแต่งภาพ โดยการ์ดจอทั้งสองตัวรองรับชุดคำสั่งต่างๆ ครบถ้วน ทั้ง DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, PhysX เหมือนกันหมด ยกเว้นว่าการ์ดจอ NVIDIA จะรองรับเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง CUDA และ Ray Tracing เพิ่มเข้ามาด้วย

device mgr

ชิ้นส่วนในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager จะมีชิป TPM 2.0 ติดตั้งมาให้ใช้ร่วมกับ Windows 11 กับชิป Intel AX201 ใช้เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และรองรับ Bluetooth 5.1 ในตัว มีเทคโนโลยี MU-MIMO, OFDMA, Intel vPro ครบถ้วน มีเสาสัญญาณแบบ 2×2 มีแบนด์วิธสัญญาณ 160MHz จึงใช้เปิดเว็บไซต์และเชื่อมต่อไร้สายกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ssd 1

M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ในเครื่องเป็น Micron 2450 รุ่นยอดนิยมที่ติดตั้งมาในโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบัน ส่วนความเร็วหลังจากทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 แล้ว ได้ Sequential Read 2,931.35 MB/s และ Sequential Write 874.14 MB/s ซึ่งถือว่ายังไม่เร็วนัก และในเมื่ออินเตอร์เฟสของ SSD เป็น PCIe 4.0 แล้ว ก็แนะนำให้หา WD Black SN770, Kingston Fury Renegade หรือจะเป็น PNY XLR8 CS3040 มาติดตั้งแทนดีกว่า แล้วเอา Micron 2450 ไปทำเป็น External SSD เซฟงานแทนจะดีที่สุด

r15 1
r20 1

กลับกันเมื่อทางบริษัทอัพเกรดซีพียูใน MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เป็น Intel Core i7-12700H แล้ว ก็ใช้ทำงานได้ดีขึ้นมาก เมื่อทดสอบการเรนเดอร์ 3D CG ด้วย CINEBENCH R15 จะทำคะแนน OpenGL ได้ 237.58 fps และได้คะแนน CPU สูงถึง 2128 cb ซึ่งประสิทธิภาพระดับนี้สามารถเปิดตัวอย่างโมเดลให้ลูกค้าดูได้สบายๆ ส่วนการทดสอบด้วย CINEBENCH R20 ได้คะแนน CPU 4,869 pts ซึ่งสูงมาก ถือว่าพลังประมวลผลของคอร์ซีพียูนั้นใช้เรนเดอร์งาน 3D ได้ลื่นไหลแน่นอน หากครีเอเตอร์สายปั้นโมเดลหรือทำ CG เอฟเฟคก็น่าซื้อไปใช้

pcmark10 1

ส่วนการทำงานเมื่อทดสอบด้วย PCMark 10 แล้ว MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 6,864 คะแนน เทียบชั้นโน๊ตบุ๊ครุ่นราคาสูงกว่าหลายๆ รุ่นได้สบายๆ และใช้ทำงานได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะทำงานเอกสาร, เปิดเว็บไซต์หรือทำงานอาร์ทก็ได้ ซึ่งถ้าพิจารณาตามหมวดหมู่คะแนน จะเห็นว่า Katana GF66 จะเด่นเรื่องงานแต่งภาพและเรนเดอร์โมเดล 3D CG ส่วนงานตัดต่อวิดีโอถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง

3dmark Medium

ด้านการเล่นเกมจะได้คะแนนเฉลี่ย 5,869 คะแนนจาก 3DMark Time Spy หากดูแยกจะเห็นว่า MSI Katana GF66 ทำคะแนน CPU score ได้สูงถึง 10,337 คะแนน ส่วนของ Graphics score ทำได้ 5,454 คะแนน ถือว่าประสิทธิภาพของ Intel Core i7-12700H ทรงพลังและรีดกำลังของ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ได้หมดจดและซีพียูนี้มักจะถูกนำไปจับคู่กับการ์ดจอตัวแรงหลายๆ รุ่น เช่น RTX 3070 Ti, 3080 Ti เป็นประจำ ดังนั้นในแง่ประสิทธิภาพไม่ต้องห่วงเลย

katana benchmark graph

ด้านการเล่นเกม ผู้เขียนนำ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ไปทดลองเล่นเกมฟอร์มใหญ่ยอดนิยมในปัจจุบันนี้ โดยปรับกราฟิคสูงสุดทุกเกมยกเว้นเฉพาะ Forza Horizon 5 เกมเดียวที่จะปรับกราฟิคลงมาระดับ High ไม่ถึงระดับ Ultra หรือ Extreme เพราะการ์ดจอมี VRAM ไม่พอให้ใช้งาน

จากกราฟจะเห็นว่า Katana GF66 ใช้เล่นเกมยอดนิยมในปัจจุบันทุกเกมได้สบายๆ ได้เฟรมเรทเฉลี่ยตอนเล่นเกม FPS เกิน 60 fps หมดและได้ภาพไหลลื่นมาก แต่ถ้าเป็นเกมแนว 3rd Person Shooting อย่าง SCUM หรือ Forza Horizon 5 จะทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้เกิน 40 fps ซึ่งยังถือว่าลื่นระดับหนึ่ง ซึ่ง MSI Katana จะเล่นเน้นใช้พลังกราฟิคการ์ด (GPU Intensive) ได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะเล่นเกมเน้นใช้กำลังประมวลผลของซีพียู (CPU Intensive) ได้ดีมาก

msi center main

นอกจากนี้ ใน MSI Katana GF66 Intel Gen 12 ก็มี MSI Center ไว้ใช้มอนิเตอร์, ตั้งค่าเครื่องให้เข้ากับเกมและโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและอัพเดทเฟิร์มแวร์ต่างๆ ได้ หากซื้อโน๊ตบุ๊คนี้มาแล้วแนะนำให้เปิดซอฟท์แวร์นี้มาใช้งานด้วย จะดึงประสิทธิภาพเครื่องออกมาได้เต็มที่ยิ่งขึ้น 

Battery & Heat & Noise

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09762 Medium

แบตเตอรี่ลิเธียม โพลีเมอร์ใน MSI Katana GF66 Intel Gen 12 มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ติดตั้งไว้ติดลำโพงฝั่งขวาตามภาพแต่ด้านซ้ายจะมีพื้นที่วางพอติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้อยู่ช่องหนึ่ง มีความจุ Typical Capacity 4,700mAh (53.5Wh) และ Rated Capacity 4,562mAh (52Wh) เป็นความจุทั่วไปของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน

BatteryMon 96 Charge 12 2 2022 2 03 15 PM 50

ด้านการทดสอบ ผู้เขียนเปลี่ยนจากการลดแสงหน้าจอให้ต่ำสุดเป็นตั้งค่าความสว่างเอาไว้ 50% ให้สมกับการใช้งานจริงที่สุด เปิดลำโพง 10% และปรับตัวเครื่องเข้าโหมดประหยัดพลังงานแล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาทีแล้ว โน๊ตบุ๊คนี้จะใช้งานได้นานสุด 7 ชั่วโมง 19 นาที กับแบตเตอรี่ความจุ 53.5Wh แล้ว ต้องถือว่าเป็นระยะเวลาใช้งานที่ดีทีเดียว เพราะปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกับซีพียู Intel Alder Lake หลายๆ รุ่นจะใช้งานได้นานสุดราว 5~6 ชั่วโมงเท่านั้น

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09763 Medium

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09811 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09810 Medium
MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09769 Medium

ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 จะมีพัดลมโบลวเวอร์คู่ แยกเป็นตัวใหญ่ฝั่งขวามือกับช่องระบายความร้อนแยกสองทางและตัวเล็กด้านซ้ายซึ่งเข้ามาเสริมให้ระบายความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้นและมีฮีตไปป์ทองแดงประกบลงกับซีพียูและการ์ดจอฝั่งละคู่ ช่วยนำความร้อนออกจากเครื่องไปได้อย่างรวดเร็ว

hwmonitor heat when benchmarking

อุณหภูมิของ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เมื่อรันโปรแกรม Benchmark แล้วเช็คอุณภูมิสูงสุดในเครื่องด้วย CPUID HWMonitor แม้จะเห็นว่าอุณหภูมิในเครื่องวิ่งขึ้นลงตั้งแต่ 51~100 องศาเซลเซียสแล้วเฉลี่ยอยู่ระดับราว 51 องศาก็ตาม แต่ตอนใช้งานจริง บริเวณที่มือสัมผัสโดนนั้นไม่ร้อนเลย ไม่ว่าจะแป้นคีย์บอร์ดและที่วางข้อมือก็ตาม เพราะจุดเกิดความร้อนจะอยู่แถบเหนือแป้นคีย์บอร์ดขึ้นไป ดังนั้นต่อให้เล่นเกมหรือทำงานนานๆ หลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา

User Experience

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09821 Medium

แม้ MSI Katana GF66 Intel Gen 12 จะเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ถอดซีพียู Intel Rocket Lake 11th Gen ออกแล้วใส่ Intel Alder Lake 12th Gen ลงไปแทนแล้วใส่ USB 2.0 เสริมเข้ามาอีกช่องแล้วปรับแต่งระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้นจนทำงานหรือเล่นเกมต่อเนื่องไปหลายชั่วโมงก็ไม่ร้อนแล้ว แต่หน้าตาก็ยังดูเรียบร้อยไม่หวือหวาเป็นเป้าสายตาตอนพกเครื่องไปทำงานหรือเข้าห้องเรียนเลย แต่ถ้ามองเผินๆ อาจจะเข้าใจผิดเป็นรุ่นร่วมค่ายอย่าง GF63 Thin ก็เป็นไปได้

เรื่องประสิทธิภาพในส่วนนี้ไม่มีปัญหาไม่ต้องกังวลเลย เพราะว่า Intel Core i7-12700H พอได้สเปคองค์รวมในเครื่องดีระดับหนึ่ง มันสามารถใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้ดีมากและมีฟังก์ชั่นลูกเล่นเล็กๆ อย่างการเปิดเป้าเล็งปืน (Crosshair) ซึ่งผู้เขียนชอบเป็นส่วนตัวเพราะมันช่วยให้ตอนเล่นเกม FPS สามารถเปิดฉากยิงได้เร็วและเลื่อนเป้าได้แม่นขึ้น ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti จากที่ทดสอบมาแนะนำให้เล่นเกมกับจอระดับ 1080p จะเหมาะกับการ์ดจอนี้ที่สุด หากเกมไหนเล่นแล้วเฟรมเรทไม่สูงพอก็ยังมี NVIDIA DLSS มาช่วยฉุดเฟรมเรทให้ภาพไหลลื่นขึ้นระดับหนึ่ง 

ด้านการพกพาติดตัวออกไปออฟฟิศหรือนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ผู้เขียนแนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังที่ออกแบบมาเพื่อโน๊ตบุ๊คเท่านั้น ให้ดีแนะนำเป็นใบใหญ่ใส่เครื่องขนาด 17.3 นิ้วได้ไปเลย เพราะระหว่างทดสอบผู้เขียนนำมันใส่กระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตามปกติ พบว่าตัวเครื่องหนาจนช่องใส่โน๊ตบุ๊คแน่นและขอบเครื่องดันแนวซิปปิดกระเป๋าจนแทบรูดปิดไม่ได้ และพอร์ต USB-C ของเครื่องนี้ก็ใช้โอนไฟล์เข้าออกได้อย่างเดียว ไม่รองรับการต่อหน้าจอแยกหรือชาร์จแบตเตอรี่ด้วยปลั๊ก GaN เลย ถ้าต้องไปประชุมงานหรือพบลูกค้านานหลายชั่วโมงควรพกอแดปเตอร์ติดกระเป๋าไปเลย เผื่อกรณีฉุกเฉินหรือต้องใช้เครื่องเต็มประสิทธิภาพจะได้ใช้งานไม่ติดขัด

Conclusion & Award

MSI Katana GF66 Gen 12 DSC09822 Medium

MSI Katana GF66 Intel Gen 12 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบอดี้เดิมแต่ปรับสเปคและแก้ไขบางส่วนที่เป็นปัญหาในรุ่นก่อนให้ดีขึ้น ทำให้มันเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ค่อนข้างสมบูรณ์มาก พอใช้เล่นเกมและรันงานต่างๆ ได้ดีแถมหน้าตาก็เรียบร้อยน่าจะถูกใจผู้ใช้หลายคนแน่นอน ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่านี่คือ Katana GF66 ที่ถ้าปรับแต่งเรื่องพอร์ตให้ทันสมัยขึ้นอีกนิดตามที่ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ มันจะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่น่าใช้มาก

นอกจากเกมเมอร์แล้ว MSI Katana GF66 ก็เหมาะกับผู้ใช้หลากหลายแบบ ทั้งนักเรียนนักศึกษาหาโน๊ตบุ๊คใช้ทำรายงานและเรียนได้, พนักงานออฟฟิศที่โน๊ตบุ๊ค Intel Evo ตัวเล็กบางเบาแบตเตอรี่ทนทานแต่พลังของซีพียูไม่จัดจ้าน ตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพไม่เร็วทันใจเท่า Intel รหัส H ก็รับเจ้า Katana GF66 ไปใช้งานได้เลย

award

award new Gaming

best gaming

MSI Katana GF66 Intel Gen 12 จัดสเปคมาดี ใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่บนจอ 1080p ได้สบายๆ และมีฟีเจอร์ลูกเล่นเล็กน้อยอย่างเป้าเล็ง Crosshair ติดมาให้ ถือว่าน่าใช้มาก แถมยังได้ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ซึ่งระบายความร้อนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนติดตั้งมาให้ในตัว ดังนั้นถ้าเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา

award new performance

best performance

แม้หลักๆ จะอัพเกรดแค่ซีพียูเป็น Intel Core i7-12700H สถาปัตยกรรม Alder Lake แต่มันกลับยกระดับประสิทธิภาพตัวเครื่องโดยองค์รวมให้ดีขึ้นชัดเจนและยังจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ได้ดีขึ้นด้วย

from:https://notebookspec.com/web/679951-review-msi-katana-gf66-intel-gen-12

4 Acer Predator Helios 300 ตัวแรงน่าเล่นปลายปี 2022 หัวใจ Intel Gen 12 การ์ดจอ NVIDIA เริ่ม 65,900 บาท

Acer Predator Helios 300 ปลายปีนี้มีตัวแรง Intel Gen 12 ให้ซื้ออยู่นะ

Share image Edit Name 2predatorhelios 1

Acer Predator Helios 300 เป็นซีรี่ส์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวแรงระดับ Desktop Replacement จากทาง Acer ซึ่งสเปคนั้นสามารถทำงานสายครีเอเตอร์ได้สบายๆ ด้วยซีพียู Intel และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดที่อัพเกรดมาเป็น Intel 12th Gen ซึ่งมีทั้ง P-Core ไว้ทำงานหนักและ E-Core ใช้รันโปรแกรมเบื้องหลังและระบบ Windows แล้ว ประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานก็ไหลลื่นดีมาก และอุณหภูมิในเครื่องก็ไม่ร้อนนัก เพราะทาง Acer ติดตั้งระบบระบายความร้อนโลหะเหลวหรือ Liquid Metal ให้นำความร้อนออกจากตัวซีพียูได้ดีขึ้น และมีการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3000 Series ซึ่งประสิทธิภาพสูง ใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ระดับ QHD~UHD ได้อย่างไหลลื่นแล้ว ยังใช้ทำงานกราฟิคได้ดีมากอีกด้วย ดังนั้นครีเอเตอร์คนไหนที่อยากได้โน๊ตบุ๊คแรงครบรอบด้านแล้วไม่อยากเปลืองพื้นที่ในห้อง ก็ซื้อ Acer Predator Helios 300 ไปต่อหน้าจอแยกก็พร้อมใช้ทำงานได้เลย

Advertisementavw

ส่วนฟังก์ชั่นเด่นประจำ Acer Predator Helios 300 นี้ คือ ปุ่ม Turbo สำหรับโอเวอร์คล็อกตัวเครื่องด้วยค่าที่ตั้งจากโรงงานให้ตัวเครื่องทำงานได้ดีกว่าเดิม หรือจะเปิด PredatorSense มาโอเวอร์คล็อกเครื่องด้วยตัวเองและปรับตั้งค่าพัดลมช่วยให้ระบายอากาศช่วยด้วยก็ได้ นอกจากนี้ Acer Predator ยังมีฟีเจอร์ปรับไฟคีย์บอร์ด Pulsar Lighting แบบ Per-Key RGB ได้ด้วย ดังนั้นจะประสิทธิภาพหรือความสวยงาม Acer Predator ก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

Acer Predator Helios 300

สเปคของ Acer Predator Helios 300 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

หน้าจอ

น้ำหนัก

การเชื่อมต่อ ราคา
(บาท)
Predator Helios 300 PH315-749G Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

MiniDP x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

65,900
Predator Helios 300 PH317-71ZW Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

17.3″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

MiniDP x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

66,900
Predator Helios 300 PH315-77UZ Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3070

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

MiniDP x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

77,900
Predator Helios 300 PH315-55-72J4 Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

MiniDP x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,900

4 Acer Predator Helios 300 ตัวแรงน่าเล่น ทำงานก็ลื่นเล่นเกมก็ดีไม่แพ้พีซี!

เกมเมอร์หรือครีเอเตอร์คนไหนที่คิดอยากซื้อ Acer Predator Helios 300 เครื่องใหม่มาทำงานและเล่นเกมในช่วงปลายปีนี้แล้วกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี? ผู้เขียนก็เลือกรุ่นน่าสนใจทั้งหมด 4 รุ่น ซึ่งสเปคนั้นแรงตอบโจทย์ทั้งทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำมีดังนี้

  1. Predator Helios 300 PH315-749G (65,900 บาท)
  2. Predator Helios 300 PH317-71ZW (66,900 บาท)
  3. Predator Helios 300 PH315-77UZ (77,900 บาท)
  4. Predator Helios 300 PH315-55-72J4 (79,900 บาท)
1. Predator Helios 300 PH315-749G (65,900 บาท)

predator 1

Acer Predator รหัสแรกที่เลือกมาแนะนำเป็น Predator Helios 300 PH315-749G ซึ่งเป็นรุ่นราคาถูกและเข้าถึงง่ายที่สุด ได้ฟีเจอร์ของซีรี่ส์นี้มาครบถ้วน ส่วนสเปคของเครื่องนี้ได้ Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม เป็น Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่ที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในตอนนี้ เหมาะกับเกมเมอร์และครีเอเตอร์อย่างแน่นอน

สเปคของ Predator Helios 300 PH315-749G
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 65,900 บาท (Advice)
2. Predator Helios 300 PH317-71ZW (66,900 บาท)

predator 2

รุ่นถัดมาเป็น Predator Helios 300 PH317-71ZW รุ่นนี้จะได้สเปคเหมือน Acer Predator Helios 300 ในข้อที่แล้วแทบทั้งหมด แต่เพิ่มเงินอีก 1,000 บาท เพื่อขยายขนาดหน้าจอเป็น 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ด้วย หากใครอยากได้จอใหญ่เต็มตาสักหน่อยก็ขยับมารุ่นนี้แทนดีกว่า

สเปคของ Predator Helios 300 PH317-71ZW
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 66,900 บาท (Advice)
3. Predator Helios 300 PH315-77UZ (77,900 บาท)

predator 3

Predator Helios 300 PH315-77UZ รหัสนี้แม้ผู้เขียนจะไม่ได้หยิบมาแนะนำบ่อยๆ แต่โดยองค์รวมแล้วสเปคจัดว่าตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และครีเอเตอร์อย่างแน่นอน สำหรับสเปคของเครื่องนี้จะอัพเกรดการ์ดจอขึ้นมาเป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 และเพิ่มแรมเป็น 32GB DDR5 บัส 4800MHz แต่ขนาดหน้าจอจะอยู่ที่ 15.6 นิ้วเท่านั้น ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยมของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ จะเอาติดตัวไปทำงานหรือต่อจอเล่นเกมที่บ้านก็ดีทั้งคู่

สเปคของ Predator Helios 300 PH315-77UZ
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 77,990 บาท (ราคากลาง)
4. Predator Helios 300 PH315-55-72J4 (79,900 บาท)

predator 4

ปิดท้ายด้วย Predator Helios 300 PH315-55-72J4 ตัวท็อปของซีรี่ส์ Acer Predator Helios 300 ซึ่งเครื่องนี้จะสเปคเหมือนรุ่นในข้อก่อนแทบทั้งหมด ยกเว้นการ์ดจอที่อัพเกรดขึ้นเป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 ซึ่งประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกโดยราคาจะสูงขึ้นอีก 2,000 บาท ดังนั้นหากใครพร้อมจ่ายก็ซื้อรุ่นท็อปตัวนี้ไว้ใช้ก็ซื้อได้เลย และถ้าใครต้องการอ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่

สเปคของ Predator Helios 300 PH315-55-72J4
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 79,900 บาท (Advice)

Helios 300 KSP 1 1

สำหรับ Acer Predator Helios 300 ที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรือธงของทาง Acer จัดเป็นซีรี่ส์ที่น่าสนใจและรุ่นใหม่นี้ก็อัพเกรดระบบระบายความร้อนมาเป็นอย่างดี แม้จะเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ก็ไม่ต้องห่วงว่าประสิทธิภาพจะลดลงเลย และยังมีไฟ Per-Key RGB และยังโอเวอร์คล็อกได้ด้วย PredatorSense โปรแกรมตั้งค่าซึ่งติดมากับ Acer Predator ทุกเครื่องอีก ดังนั้นถ้าใครสนใจก็ซื้อมาใช้ได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 1acergaming 1

Share image Edit Name 3vero 1

Share image Edit Name 1vero 1

from:https://notebookspec.com/web/673027-4-recommend-acer-predator-helios-300

รีวิว MSI Bravo 15 B5E สเปค AMD ล้วน! แรง เย็น ราคาเป็นมิตร ตัวท็อป 29,990 บาทเท่านั้น!!

MSI Bravo 15 B5E แดงทั้งเครื่อง แรงได้ที่ เย็นได้โล่ ราคาเบาถูกใจเกมเมอร์!

Share image Edit Name 1bravo15 1

หากพูดถึงตระกูลเกมมิ่งของ MSI แล้ว MSI Bravo 15 B5E นั้นเป็นอีกซีรี่ส์ซึ่งทางแบรนด์มังกรแดงทำสเปคมาเป็น AMD ล้วน โดยจับคู่ซีพียู Ryzen และการ์ดจอ Radeon ไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ฟีเจอร์พิเศษอย่าง AMD SmartShift Max ฟังก์ชั่น Machine Learning ซึ่งระบบจะจัดสรรค่าวัตต์ให้ซีพียูและการ์ดจอตามเหมาะสมเพื่อรีดประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นหรือเน้นประหยัดพลังงานก็ได้ และ AMD S.A.M. ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ให้ซีพียูเชื่อมต่อตรงเข้ากับเมมโมรี่ของการ์ดจอเพื่อจัดการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์นี้เป็นฟังก์ชั่นเมื่อโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นๆ เป็น AMD ล้วนเท่านั้นอีกด้วย ซึ่งหากใครยังมีภาพจำที่ไม่ค่อยสวยงามกับโน๊ตบุ๊ค AMD ล้วนมาก่อนต้องขอให้ลบภาพนั้นทิ้งไปเลย เนื่องจากประสิทธิภาพของยุค AMD Ryzen นั้นดีขึ้นโดดเด่นชัดเจน เพียงแค่ติดตั้ง AMD Chipset Drivers และ AMD Radeon Graphics Drivers ที่เป็นเวอร์ชั่น WHQL ก็เพียงพอแล้ว

Advertisementavw

ส่วนฟีเจอร์เด่นซึ่งทางบริษัทเสริมเข้ามาให้ MSI Bravo 15 B5E ก็มีหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะระบบเสียง Nahimic by SteelSeries ซึ่งได้เสียงคุณภาพระดับ Hi-Res, Wi-Fi 6E ซึ่งเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น รวมทั้งออกแบบชุดระบายความร้อน MSI Cooler Boost ใหม่ให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้นกว่า MSI Bravo 15 รุ่นก่อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเจ้าของเครื่องก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนในเครื่องเลยแม้แต่น้อย

MSI Bravo 15 B5E

NBS Verdicts

MSI Bravo 15 NYX00548

MSI Bravo 15 B5E เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ล้วนรุ่นใหม่ซึ่งทาง MSI อัพเกรดภายในมาให้เยอะมากไม่ว่าจะระบบระบายความร้อน, การ์ดจอรุ่นใหม่ของ AMD Radeon รวมไปถึง Wi-Fi PCIe Card ใหม่ซึ่งต่ออินเตอร์เน็ต Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax ได้ และตั้งราคาเพียง 26,990 บาทในรุ่นเริ่มต้นและ 29,990 บาทในรุ่นสูงสุด ดังนั้นราคาจึงไม่แพงเกินไป เป็นมิตรต่อเกมเมอร์ที่เน้นความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

ด้านรูปลักษณ์และบอดี้ตัวเครื่องแม้จะเหมือน MSI Bravo 15 รุ่นก่อนหน้าจนอาจเรียกว่ารุ่นนี้เป็นไมเนอร์เชนจ์ก็ได้ แต่บอดี้ตัวเครื่องก็ยังแข็งแรงและงานประกอบแน่นไม่มีอาการบอดี้หลวมเลย ส่วนพอร์ตสำหรับต่อเกมมิ่งเกียร์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ก็มีมาครบถ้วนทั้ง USB-C, USB-A, HDMI, LAN ดังนั้นจะต่อจอแยกเล่นเกมที่บ้านหรือพกไปทำงานทั้งในออฟฟิศหรือออกนอกสถานที่ก็ไม่มีปัญหา นั่นเพราะมีฟีเจอร์ AMD SmartShift Max และ AMD S.A.M. มาเสริมให้ทำงานและจัดการพลังงานได้ดีกว่าเดิมมาก

แต่จุดสังเกตซึ่งผู้เขียนยังกังขาอยู่เกี่ยวกับ MSI Bravo 15 B5E เครื่องนี้มี 2 อย่างหลักๆ ได้แก่เสียงของพัดลมแม้เสียงจะเบาตอนใช้งานตามปกติ แต่หากเร่งรอบให้ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นเมื่อไหร่ เสียงก็จะดังขึ้นอย่างชัดเจน และอีกส่วนคือ แม้ทางผู้ผลิตจะให้ช่องแรมแบบ SO-DIMM มาถึง 2 ช่อง อัพเกรดความจุได้มากสุด 64GB ก็ตาม แต่มีช่องใส่ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ในเครื่องแค่ช่อง M.2 NVMe ช่องหลักเพียงอันเดียวเท่านั้น ไม่มีช่องเสริมหรือแม้แต่หัว 2.5″ SATA III ติดมาให้เลยแม้จะมีพื้นที่ในเครื่องพอใส่ก็ตาม ดังนั้นหวังว่าถ้ามีรุ่นย่อยอื่นๆ เสริมเข้ามา ก็อยากให้ทางบริษัทใส่อินเตอร์เฟส M.2 PCIe มาอีกสักช่องจะดีกว่า แต่หากไม่ซีเรียสเรื่องดังกล่าวอาจจะหา External HDD แบบ Game Drive มาต่อเสริมลงเกมไปก็พอแก้ปัญหานี้ได้ระดับหนึ่ง

ข้อดีของ MSI Bravo 15 B5E
  1. งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรงและสวยงาม ดีไซน์จัดว่าเรียบร้อยซ่อนความเกมมิ่งไว้
  2. ขาบานพับหน้าจอกางได้แบนราบ 180 องศา ปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับผู้ใช้ได้ง่าย
  3. สเปคตัวท็อปสุดราคา 29,990 บาท ได้ AMD Ryzen 7 5800H จัดว่าราคาคุ้มค่ามาก
  4. การ์ดจอ AMD Radeon RX 6500M ประสิทธิภาพดีใช้เล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกม
  5. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ซึ่งใช้งานได้นานสุดราว 8 ชั่วโมงครึ่ง
  6. พัดลมโบลวเวอร์คู่, ชุดซิ้งค์, ฮีตไปป์และครีบระบายความร้อนในเครื่องจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี จะรันงานหรือเล่นเกมอยู่ก็ไม่ร้อนนัก
  7. รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ Wi-Fi 6E ซึ่งเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เร็วและเสถียร
  8. อัพเกรดเพิ่มแรมได้มากสุด 64GB DDR4 โดยช่อง SO-DIMM x 2 ช่องในเครื่อง
  9. กดเปิดเป้าเล็งปืนบนหน้าจอ (Crosshair) ได้ ช่วยให้เกมเมอร์เล่นเกมได้สะดวกขึ้น
  10. ได้ฟีเจอร์ AMD SmartShift Max, AMD S.A.M. มาใช้งาน เร่งประสิทธิภาพตัวเครื่องให้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น
ข้อสังเกตของ MSI Bravo 15 B5E
  1. มีช่อง M.2 NVMe SSD ช่องเดียว ไม่มีช่องอัพเกรดเพิ่มไดรฟ์เสริมภายในเครื่องเลย
  2. เสียงพัดลมระบายความร้อนตอนเร่งประสิทธิภาพเต็มส่งเสียงค่อนข้างดัง

รีวิว MSI Bravo 15

Specification

3 1

MSI Bravo 15 B5E เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นซีพียูและการ์ดจอ AMD ทั้งหมด ประสิทธิภาพดี พร้อมใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้สบายๆ เชื่อว่าจะถูกใจเกมเมอร์และแฟนคลับ AMD อย่างแน่นอน โดยรายละเอียดสเปคมีดังนี้

สเปคของ MSI Bravo 15 B5E
  • CPU : แยกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่
    • AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
    • AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz อัพเกรดได้สูงสุด 64GB
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 1 x 1, HDMI รองรับการแสดงผลระดับ 4K 60Hz x 1, LAN RJ45 x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.35 กิโลกรัม
  • Price : แยกตามซีพียูที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง

Hardware & Design

MSI Bravo 15 NYX00499

MSI Bravo 15 NYX00529
MSI Bravo 15 NYX00530
MSI Bravo 15 NYX00550
MSI Bravo 15 NYX00533

ตัวเครื่อง MSI Bravo 15 B5E นี้ จะคงบอดี้ภายนอกเอาไว้เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะหน้าตาเรียบง่าย ไม่หวือหวาจนดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเกินไป ดีไซน์ซึ่งสื่อความเป็นเกมมิ่งมีเพียงไม่กี่ส่วน ได้แก่ ขอบตัวเครื่องและหน้าจอดีไซน์ให้ตัดเฉียงเล็กน้อยไม่เรียบเป็นระนาบสี่เหลี่ยมแบบโน๊ตบุ๊คทั่วไป และมีไฟ LED Backlit สีแดงและติดสติ๊กเกอร์เอาไว้บริเวณที่พักข้อมือสองฝั่ง ได้แก่ สติ๊กเกอร์ AMD Ryzen และ Radeon ฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาจาก MSI ไว้ชูฟีเจอร์เด่นของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ 

MSI Bravo 15 NYX00518

เหนือชุดแป้นคีย์บอร์ดจะมีช่องเจาะสำหรับดึงอากาศเย็นเข้าเจาะเอาไว้เป็น 3 ชุด เป็น 4, 8, 4 ช่อง ซึ่งไม่ใหญ่เกินไป แต่ก็ช่วยให้อากาศไหลเวียนในเครื่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้ความสวยงามเสริมด้วย แต่สังเกตว่าขอบของหน้าจอและตัวเครื่องจะมีระยะห่างเว้นจากกันเล็กน้อย นั่นเพราะทางผู้ผลิตดีไซน์ให้ MSI Bravo 15 B5E นี้สามารถกางได้กว้างยิ่งขึ้น

MSI Bravo 15 NYX00535

MSI Bravo 15 NYX00534
MSI Bravo 15 NYX00536
MSI Bravo 15 NYX00492

ขาบานพับหน้าจอของ MSI Bravo 15 B5E ถูกออกแบบให้อยู่นอกกรอบตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้กางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา ดังนั้นจะวางบนโต๊ะทำงานหรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็กางหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาของผู้ใช้ได้สะดวก และก้านบานพับแข็งแรง ไม่มีอาการโยกคลอนเวลากางหน้าจอออกมาใช้ทำงานหรือเล่นเกมอย่างแน่นอน โดยฐานบานพับหน้าจอภายในเครื่องจะเป็นก้านเหล็กขันน็อตติดเอาไว้

MSI Bravo 15 NYX00539

ฝาหลังของ MSI Bravo 15 B5E จะมีลวดลายเหมือนปีกนกและติดโลโก้ Thunderbird อยู่ตรงกลางตำแหน่งเดียวกับโลโก้มังกรของ MSI รุ่นอื่นๆ ซึ่งโลโก้นก Thunderbird นั้นเป็นสัตว์ในตำนานของทวีปอเมริกาเหนือจะสื่อถึงพละกำลังและความแข็งแรง จัดว่ามีความหมายที่ดีไม่แพ้มังกรซึ่งผู้ใช้คุ้นเคยเลย ถัดลงมาด้านล่างจะเห็นช่องระบายความร้อนของพัดลมโบลวเวอร์ทั้ง 2 ช่องติดเอาไว้ด้วย

หากดูฝาหลังตัวเครื่องเทียบกับซีรี่ส์ใกล้เคียงกันอย่าง MSI GF63 Thin จะเห็นว่า MSI Bravo 15 B5E จะมีลวดลายมากกว่า ไม่เรียบเกินไปแล้วมีแค่โลโก้มังกรของ MSI อยู่ส่วนตรงกลางค่อนบนเพียงจุดเดียวเท่านั้น น่าจะถูกใจเกมเมอร์ที่ชอบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหน้าตาเรียบร้อยแต่ดีไซน์ไม่เรียบง่ายเกินไป

MSI Bravo 15 NYX00473

ด้านใต้ตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนดีไซน์รังผึ้ง เจาะช่องนำอากาศเย็นเข้าเครื่องไว้ในส่วนของฮีตไปป์และพัดลมโบลวเวอร์ทั้งสองตัวภายในเครื่อง มีแถบยางกันลื่นและยกตัวเครื่องให้เหนือพื้นติดเอาไว้ 4 จุดแล้วล็อคเอาไว้ด้วยน็อตหัวแฉกแบบ Philip Head อีก 13 ดอก

โดยน็อตตัวที่ 2 ถัดจากน็อตบนสุดเป็นตัวสั้นกว่าน็อตตัวอื่น ดังนั้นเมื่อเปิดฝาอัพเกรดเครื่องควรแยกเป็นสัดส่วนเอาไว้จะได้ไขกลับเข้าที่ได้ถูกต้อง ส่วนน็อตอีกตัวจะซ่อนอยู่ใต้สติ๊กเกอร์ Factory Seal ตอนเปิดฝาอัพเกรดให้ขันออกด้วย

Screen & Speaker

MSI Bravo 15 NYX00506

MSI Bravo 15 NYX00508
MSI Bravo 15 NYX00507
MSI Bravo 15 NYX00509
MSI Bravo 15 NYX00563

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีค่า Refresh Rate สูงสุด 144Hz สามารถปรับลดค่า Refresh Rate ลงเหลือ 60Hz ได้ ส่วนมุมองศาการมองเห็นของจอนี้จะกว้าง 178 องศา โดยสีไม่เพี้ยนและไม่เกิดเงาขึ้นบนหน้าจอเลย ดังนั้นมองจากมุมไหนก็สามารถมองเห็นได้สะดวก ด้านกรอบหน้าจอส่วนบนจะมีกล้องเว็บแคมความละเอียด 720p กับไมโครโฟนอีก 2 ตัว ติดตั้งมาให้ใช้ประชุมงาน ส่วนขอบล่างของหน้าจอสกรีนโลโก้ MSI เอาไว้ ซึ่งการดีไซน์ให้กรอบจอฝั่งซ้ายและขวาบางลงเป็นพิเศษ ทำให้พื้นที่การแสดงผลมากขึ้นและเป็นตามที่โน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นเป็นในปัจจุบันนี้

MSI Bravo 15 NYX00551

ข้อดีของจอ MSI Bravo 15 B5E คือ ทาง MSI เสริมฟีเจอร์เปิดเป้าเล็งปืน (Crosshair) ค้างเอาไว้บนจอได้ ช่วยให้เวลาเล่นเกมแนว FPS สามารถเล็งเป้าหมายได้ง่าย ไม่ต้องห่วงว่าเกมนั้นๆ จะมีหรือไม่มีเป้าเล็งในเกมให้เล่น ส่วนวิธีการใช้งานแค่กด Fn+ลูกศรชี้ลง เพื่อเปิดหรือปิดเป้าเล็งนี้ได้เลย ซึ่งฟีเจอร์นี้มีติดมากับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ MSI บางรุ่นเท่านั้น

display 1

gamut 2
luminance 2

หน้าจอของ MSI Bravo 15 B5E เมื่อ Calibrate ด้วย DisplayCal 3 แล้ว ค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงที่ตัวโปรแกรมและ Colorchecker ของ Calibrite วัดได้ จะอยู่ที่ 63.9% sRGB, 44.3% Adobe RGB, 45.5% DCI-P3 ส่วนค่า Gamut volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีทั้งหมดโดยรวมซึ่งหน้าจอนี้แสดงได้จะอยู่ที่ 64.3% sRGB, 44.3% Adobe RGB, 45.6% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงของสีบนจอ (Delta-E) เฉลี่ยอยู่ที่ 0.13~1.52 ซึ่งเมื่อ Delta-E <2 ก็ถือได้ว่าพาเนล IPS ของจอนี้ได้สีสันเที่ยงตรง แต่ก็ไม่กว้างระดับใช้พรู้ฟสีงานอาร์ตหรือใช้แต่งภาพทำงานแบบจริงจังได้ ทว่าหากใช้แต่งภาพอัพขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คก็จัดว่าทำได้ดีไม่มีปัญหา

ความสว่างหน้าจอที่โปรแกรม DisplayCal 3 วัดได้ อยู่ที่ 276.70 cd/m2 ซึ่งถือว่าสว่างระดับพอใช้งานในห้องออฟฟิศได้อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ปรับความสว่างไว้ราว 70% จะสว่างกำลังดีไม่จ้าจนเกินไป แต่ถ้าไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟหรือโดนแสงส่องสะท้อนหน้าจอจะปรับเอาไว้ 100% ก็สว่างพอสู้แสงแดดได้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

MSI Bravo 15 NYX00479
MSI Bravo 15 NYX00475
MSI Bravo 15 NYX00483
MSI Bravo 15 NYX00484

ลำโพงกำลังขับ 2W x 2 ที่ติดตั้งมาให้เป็นลำโพงซึ่งได้ Nahimic by SteelSeries มาจูนเสียงให้ ได้เสียง Hi-Res คุณภาพและเนื้อเสียงของลำโพงนี้จะได้เสียงนักร้องและเสียงเครื่องดนตรีเป็นหลัก และโทนเสียงจะไปทางเสียงแหลมเสียส่วนใหญ่และเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี ส่วนโทนเสียงเบสจะพอมีแค่ซัพพอร์ตเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง แรงปะทะไม่หนักแน่นนัก ซึ่งในแง่การเล่นเกมถือว่าไม่มีปัญหา แต่ถ้าเน้นดูหนังฟังเพลงแนะนำให้ต่อลำโพงแยกที่คุณภาพเสียงดีหนักแน่นขึ้นอีกนิดจะดีกว่า

Keyboard & Touchpad

MSI Bravo 15 NYX00517

MSI Bravo 15 NYX00513
MSI Bravo 15 NYX00514
MSI Bravo 15 NYX00519
MSI Bravo 15 NYX00523
MSI Bravo 15 NYX00521
MSI Bravo 15 NYX00522

คีย์บอร์ด Full-size ของ MSI Bravo 15 B5E ตัวนี้จะมีไฟ LED Backlit แบบปรับความสว่างได้และแสงไฟลอดตัวอักษรเป็นสีแดงด้วย จุดเด่นของคีย์บอร์ดนี้ สังเกตว่าทาง MSI ออกแบบให้ปุ่ม Ctrl กับ Shift ฝั่งซ้ายมือที่เกมเมอร์มักกดตอนเล่นเกมเป็นประจำมีความกว้างเท่ากัน ช่วยให้กดได้สะดวกแล้วนิ้วไม่ไหลไปกดโดนปุ่ม Windows ที่อยู่ข้างๆ กันได้

ด้าน Numpad ฝั่งขวามือจะมีขนาดเล็กกว่าปุ่มอื่นๆ เล็กน้อยและเซ็ตให้เลข 0 กับปุ่ม Enter จะเป็นปุ่มไซซ์เดียวกัน แต่ตัวปุ่ม Enter จะอยู่บรรทัดล่างสุดระดับเดียวกับปุ่มลูกศร ซึ่งตอนใช้งานจริงแม้จะมีปุ่มให้ใช้ครบถ้วนแต่เลย์เอ้าท์แตกต่างจาก Numpad ปกติจึงต้องปรับตัวสักนิดถึงจะใช้งานได้ถนัดมือ ส่วนปุ่ม Power ที่อยู่ถัดจากปุ่มเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์จะมีปุ่ม Power ติดเอาไว้ด้วย ซึ่งโอกาสกดพลาดไปโดนนั้นค่อนข้างน้อยทีเดียว หากไม่ได้กดตัวเลขบ่อยๆ ก็แทบไม่มีปัญหาเลย

ส่วนปุ่มฟังก์ชั่นพิเศษบนแป้นคีย์บอร์ด จะมี Function Lock ตรงปุ่ม Esc, ปุ่ม Play/Pause ตรงลูกศรซ้าย, ปุ่มปิดหน้าจอซึ่งรวมเอาไว้กับลูกศรขวามือ, ลูกศรขึ้นเป็นใช้ปรับเร่งรอบพัดลมและกดลูกศรลงใช้เปิดเป้าเล็ง Crosshair สำหรับใช้เล็งปืนตอนเล่นเกมได้ง่ายยิ่งขึ้น

MSI Bravo 15 NYX00527

Function Hotkey ตรงปุ่ม F1~F11 ของ MSI Bravo 15 B5E จะเป็นคีย์ลัดทั่วไปของโน๊ตบุ๊คสายทำงานเป็นหลัก ไม่มีฟังก์ชั่นเกมมิ่งติดมาให้ใช้โดยมีคีย์ลัดดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิด/เปิดทัชแพด
  • F5 – ปิด/เปิดไมโครโฟน
  • F6 – ปิด/เปิดเว็บแคม
  • F7 – เรียกโปรแกรม MSI Center
  • F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit
  • F9~F10 – ลด/เพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม

หากสังเกตจะเห็นว่า Function Hotkey ที่ F1~F11 นั้น จะไม่มีคีย์ลัดเฉพาะสำหรับการเล่นเกม อย่างปุ่ม Windows Lock ที่ต้องเปิดหรือปิดใน MSI Center เท่านั้น ซึ่งผู้เขียนคิดว่าคีย์ลัดนั้นจะเซ็ตเอาไว้กับปุ่ม F12 ก็ยังดี นอกจากนี้หากทาง MSI เสริมฟีเจอร์เกมมิ่งอื่นๆ อย่างการตั้งค่าปุ่มมาโครหรือเปิดให้เซ็ตปุ่ม F12 ได้โดยอิสระใน MSI Center คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อเกมเมอร์ยิ่งกว่านี้แน่นอน

MSI Bravo 15 NYX00528

ทัชแพดของ MSI Bravo 15 B5E จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยขอบทั้งสองฝั่งของทัชแพดจะอยู่กึ่งกลางของปุ่ม Alt ทั้งสองปุ่มพอดี ซึ่งสามารถลากนิ้วไปมาระหว่างขอบหน้าจอสองฝั่งได้และรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ครบถ้วน และตอนเล่นเกมยังกดล็อคการทำงานได้โดย Fn+F4 ได้ด้วย ดังนั้นทัชแพดของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จึงใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

Connector / Thin & Weight

MSI Bravo 15 NYX00537
MSI Bravo 15 NYX00538

พอร์ตการเชื่อมต่อของ MSI Bravo 15 B5E จะติดตั้งพอร์ตต่างๆ เอาไว้ทั้งสองฝั่งของตัวเครื่องโดยแยกพอร์ตดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์, USB-A 3.2 Gen 1, USB 2.0
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, USB-A 3.2 Gen 1, USB-C 3.2 Gen 1, HDMI รองรับการแสดงผล 4K 60Hz, LAN RJ45
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

ซึ่งพอร์ตของ MSI Bravo 15 จัดว่าได้มาครบเครื่องแต่จะเน้นหนักที่ฝั่งขวามือเป็นหลัก ส่วนฝั่งซ้ายมือคาดว่าเอาไว้ต่ออุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์หรือ External Harddisk แบบ Game Drive มากกว่า แต่ต้องถือว่าทางผู้ผลิตให้พอร์ตใช้งานมาครบถ้วนพร้อมใช้งานทีเดียว

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E นั้นถือว่าเกินความคาดหมายของผู้เขียนไปมาก นั่นเพราะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ราคาไม่เกิน 30,000 บาท ณ ช่วงปลายปี 2022 นี้ หลายๆ รุ่นยังเป็น Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax อยู่ ไม่ได้เป็น Wi-Fi 6E เช่น MSI Bravo 15 B5E นี้ ดังนั้นการที่ MSI ให้ Wi-Fi PCIe Card นี้มา ต้องถือว่าทางบริษัทก็ใจกว้างทีเดียว

MSI Bravo 15 NYX00468

MSI Bravo 15 NYX00471
MSI Bravo 15 NYX00470

น้ำหนักของ MSI Bravo 15 B5E ที่ทางบริษัทเคลมเอาไว้หน้าสเปคอยู่ที่ 2.35 กิโลกรัม แต่พอชั่งดูแล้ว เครื่องนี้จะหนักเพียง 2.24 กิโลกรัม พอรวมกับอแดปเตอร์หนัก 499 กรัมแล้ว น้ำหนักทั้งหมดของเครื่องนี้อยู่ที่ 2.74 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักโดยรวมทั้งหมดนี้ก็หนักอยู่ระดับหนึ่ง

ในแง่การพกพา มิติตัวเครื่องของ MSI Bravo 15 นี้จะหนากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย ดังนั้นกระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วบางใบอาจใส่แล้วขอบเครื่องรั้งมุมกระเป๋าได้ หากจะซื้อเป้ใบอื่นนอกจากที่ทาง MSI แถมมาให้ในกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ล่ะก็ แนะนำให้เอาเครื่องไปทาบเช็คดูว่าเป้ใบนั้นกว้างพอหรือไม่

Inside & Upgrade

MSI Bravo 15 NYX00486

MSI Bravo 15 NYX00474
MSI Bravo 15 NYX00493
MSI Bravo 15 NYX00494
MSI Bravo 15 NYX00496

ภายในเครื่องเมื่อขันน็อต Philip Head ทั้ง 13 ดอกออกมาแล้ว ก็เอาการ์ดแข็งไล่ขอบเพื่อเปิดฝาเครื่องได้เลย แต่ส่วนที่ผู้เขียนแนะนำให้ระวังคือกรอบตัวเครื่องส่วนบน เมื่อไล่ขอบจนหมดให้จับเครื่องแล้วดันกรอบขึ้นบนเพื่อสไลด์กรอบเครื่องออก จะปลดล็อคได้ง่ายและเขี้ยวล็อคไม่พัง

อย่างไรก็ตาม บนเมนบอร์ดของ MSI Bravo 15 B5E จะมีสล็อตแรม SO-DIMM อยู่ 2 ช่อง ซ้อนกันสองชั้นจึงไม่กินพื้นที่บนบอร์ดมาก แต่ที่น่าเสียดายคือ ช่อง M.2 NVMe SSD มีแต่ช่องหลักเพียง 1 ช่องเท่านั้น ไม่มีช่องเสริมหรือแม้แต่ช่อง 2.5″ SATA III SSD ก็ไม่มีให้ใช้ ดังนั้นโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จึงอัพเกรดได้แต่แรมที่รองรับสูงสุด 64GB DDR4 เท่านั้น ส่วนพื้นที่ติดตั้งเกมให้ซื้อ External HDD แบบ Game Drive มาต่อเครื่องแทนดีกว่า

Performance & Software

cpu 2

mb 2
ram1

ซีพียูของ MSI Bravo 15 B5E เป็น AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4GHz ซึ่งรองรับชุดคำสั่งพื้นฐานสำหรับใช้ทำงานครบถ้วน เป็นสถาปัตยกรรม 7nm FinFET มีค่า TDP 45 วัตต์ ซึ่งประสิทธิภาพนั้นสามารถใช้ทำงานและเล่นเกมต่างๆ ในปัจจุบันนี้ได้อย่างแน่นอน

อินเตอร์เฟสสำหรับเชื่อมต่อ M.2 NVMe SSD บนเมนบอร์ดจะเป็น PCIe 3.0 x4 โดยมี SSD ติดตั้งมาจากโรงงานที่ 512GB สามารถอัพเกรดความจุเป็น 1TB ได้ ส่วนแรมบนเมนบอร์ดมีอยู่ 2 ช่อง รองรับการอัพเกรดสูงสุด 64GB DDR4 บัส 3200MHz ทีเดียว จัดว่ารองรับเยอะ จะซื้อไว้เล่นเกมหรือใช้ทำงานตัดต่อแต่งภาพก็ได้

integrated gpu 1
discrete gpu

การ์ดจอของ MSI Bravo 15 นอกจาก AMD Radeon Graphics ที่ติดมาในซีพียู AMD Ryzen แล้ว จะมี AMD Radeon RX 6500M พร้อมแรม 4GB GDDR6 ซึ่งประสิทธิภาพของการ์ดจอนี้ถือว่าทำงานได้ดีทีเดียว รองรับ DirectX 12 รวมทั้งชุดคำสั่งต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing ครบถ้วน ใช้ทั้งทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน

dvmgr

พาร์ทภายในตัวเครื่องเมื่อเช็คผ่าน Device Manager จะมีพาร์ทต่างๆ ติดตั้งมาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะ AMD PSP 10.0 และ TPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยข้อมูล มี Wi-Fi PCIe Card รหัส AMD RZ608 ซึ่งเป็นการ์ด Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว ขนาดตัวการ์ดอยู่ที่ M.2 2230 ซึ่ง RZ608 นี้ทาง AMD พัฒนาร่วมกับทาง MediaTek บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนคอมชั้นนำของโลก ดังนั้นประสิทธิภาพนั้นไว้ใจได้

ssd 2

M.2 NVMe SSD ใน MSI Bravo 15 B5E เมื่อเช็คแล้วเป็นรุ่น Samsung MZVLQ512HBLU-00B00 หรือ Samsung PM991a เมื่อเช็คสเปคจากหน้าเว็บไซต์แล้ว SSD นี้จะใช้อินเตอร์เฟส PCIe 3.0 x4 ความเร็ว Sequential Read 3,100 MB/s และ Sequential Write 1,800 MB/s พอทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 ก็ได้ความเร็ว Sequential Read 3,111.69 MB/s และ Sequential Write 1,866.87 MB/s ซึ่งเร็วตรงตามหน้าสเปคที่เคลมเอาไว้

ด้านความเร็วรับส่งข้อมูลของ Samsung PM991a นั้นจัดว่าเร็วทีเดียว แต่ Sequential Write นั้นอาจจะไม่สูงมาก ดังนั้นถ้ามีแผนอัพเกรดไดรฟ์ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนเป็น WD Black SN750 SE, Samsung 980 หรือเป็น Transcend MTE220S ความจุ 1TB ก็ได้ ความเร็วตอนโหลดโปรแกรมทำงานหรือเล่นเกมจะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

r15 2
r20 2

เมื่อทดสอบการเรนเดอร์ 3D CG ด้วย CINEBENCH R15 จะได้คะแนน OpenGL 160.17 fps และ CPU ได้ 2130 cb นั่นหมายความว่า MSI Bravo 15 B5E นั้นสามารถใช้เรนเดอร์และเปิดตัวอย่างโมเดลสามมิติได้อย่างไหลลื่นแน่นอน ส่วนพลังการประมวลผลของคอร์ซีพียูที่ทดสอบด้วย CINEBENCH R20 แล้ว ได้คะแนน 4,942 pts การันตีได้เลยว่า AMD Ryzen และการ์ดจอ AMD Radeon นั้น ใช้ทำงานได้ดีอย่างแน่นอน

3dmark 2

ผลการทดสอบเล่นเกมด้วย 3DMark Time Spy นั้นได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4,583 คะแนน แยกเป็น CPU Score 7,760 คะแนน และ Graphics score 4,275 คะแนน กล่าวคือ MSI Bravo 15 B5E เครื่องนี้ใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปี 2022 ได้ไหลลื่นทุกเกมอย่างแน่นอน

ความแรงของการ์ดจอ AMD Radeon RX 6500M ตัวนี้ เมื่อเทียบกับ NVIDIA GeForce RTX 3050 ที่ติดตั้งอยู่ใน MSI GF63 Thin ซึ่งได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า Graphics score นั้นทำคะแนนได้ไล่เลี่ยกัน จึงสรุปได้ว่า MSI Bravo 15 B5E เครื่องนี้ประสิทธิภาพดีไม่แพ้กัน อยู่ที่รสนิยมของผู้ใช้แต่ละคนว่าชื่นชอบ AMD ล้วนพร้อมฟีเจอร์ AMD SmartShift Max และ AMD S.A.M. หรือต้องการการ์ดจอฝั่ง NVIDIA มากกว่ากัน

pcmark10 2

แง่การทำงานก็ถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เมื่อทดสอบด้วย PCMark 10 แล้ว MSI Bravo 15 ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 5,891 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมาก สามารถใช้ทำงานต่างๆ ได้ไหลลื่นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเปิดโปรแกรม, เบราเซอร์, ประชุมออนไลน์หรือทำงานเอกสารก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา ส่วนงานตัดต่อแต่งภาพหรือวิดีโอก็ทำงานได้ดีอย่างแน่นอน ทว่าจุดที่ AMD Radeon RX 6500M อาจจะทำงานได้ไม่สู้ NVIDIA GeForce RTX 3050 นั้นจะเป็นงานตัดต่อวิดีโอเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องตัดต่อวิดีโอก็ไม่ต้องซีเรียสเรื่องนี้เลย

Screenshot 2022 10 27 160438

ในแง่ของการเล่นเกม ต้องถือว่า MSI Bravo 15 B5E นั้นเล่นเกมฟอร์มยักษ์บนจอความละเอียด 1080p ได้อย่างไหลลื่น ยิ่งถ้าเกมไหนใช้เอนจิ้นที่เอื้อทาง AMD อย่าง Resident Evil Village ล่ะก็ การ์ดจอ Radeon RX 6500M ก็สามารถรีดเฟรมเรทออกมาได้สูงและทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ไหลลื่นอีกด้วย ส่วนเกมอื่นๆ ไม่ว่าจะ Horizon Zero Dawn หรือจะ Apex Legends ก็เล่นได้สบายๆ อย่างแน่นอน

ทว่าจุดสังเกตของ Red Dead Redemption 2 ที่แม้ทางผู้พัฒนาจะเพิ่ม AMD FSR 2.0 มาให้แล้วก็ตาม แต่พลังการเรนเดอร์ของการ์ดจอแยกอย่างเดียวก็ถือว่าเหลือเฟือ แต่ถ้าเปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้ระดับ Balance ก็จะได้เฟรมเรทเพิ่มขึ้นและได้ภาพที่ต่อเนื่องด้วย ทว่า Forza Horizon 5 จะแตกต่างไป เพราะเกมนี้ใช้แรมการ์ดจอเยอะมากจนแรม 4GB GDDR6 ที่ติดมาไม่พอใช้งานอย่างแน่นอน หากต้องการเล่นให้ภาพลื่นไหลไม่เกิดอาการภาพกระตุกควรปรับกราฟิกไว้ระดับ Medium แล้วดันกราฟิคบางตัวขึ้นเป็น High จะดีที่สุด

main

smart priority
general settings
feature set

โปรแกรม MSI Center ใน MSI Bravo 15 B5E จะเป็นโปรแกรมตั้งค่า, มอนิเตอร์, ช่วยอัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ ส่วนฟังก์ชั่นสำหรับการเล่นเกม จะมีคำสั่ง Smart Priority รวมถึงโหมด Extreme Performance สำหรับเร่งประสิทธิภาพตอนเล่นเกมให้ลื่นไหลยิ่งขึ้นก็ได้ เป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์และทำงานได้ดีทีเดียว

Battery & Heat & Noise

MSI Bravo 15 NYX00485

แบตเตอรี่ใน MSI Bravo 15 B5E มีความจุแบบ Typical Capacity อยู่ 53.5Wh (4,700mAh) ส่วน Rated Capacity อยู่ที่ 52Wh (4,562mAh) ต้องถือว่ามีความจุไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ณ ปัจจุบันนี้ โดยตัวแบตเตอรี่ถูกเซ็ตเอาไว้ชิดกับลำโพงฝั่งขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ว่างซึ่งมีขนาดพอจะใส่ 2.5″ SATA III SSD ได้ 1 ชิ้นพอดี แต่ไม่มีหัวอินเตอร์เฟส SATA III ติดตั้งมาให้ ถ้าหาก MSI ใส่อินเตอร์เฟสนี้มาให้ ก็น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานกว่านี้แน่นอน

battery

ส่วนระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ เมื่อลดความสว่างต่ำสุด, ปิดไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ดและเปิดเสียงลำโพงดังเพียง 10% และเปิดโหมดประหยัดพลังงานแล้วดูคลิปบน YouTube ด้วย Microsoft Edge นาน 30 นาที จะเห็นว่า AMD SmartShift Max ของ MSI Bravo 15 บริหารจัดการพลังงานได้ดี ใช้งานได้ได้นาน 8 ชม. 25 นาที ก็ถือว่าน่าประทับใจมาก เนื่องจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ณ ตอนนี้ เมื่อถอดปลั๊กใช้แบตเตอรี่ในเครื่องแล้วจะใช้งานได้นานสุดเฉลี่ย 6~7 ชม. เท่านั้น แต่ Bravo 15 กลับทำได้นานกว่าที่คิดเอาไว้ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทำให้ MSI Bravo 15 B5E ทั้งทำงานและจัดการพลังงานแบตเตอรี่ได้ดี คือ การอัพเดท AMD Chipset Drivers ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จะช่วยให้ตัวเครื่องจัดการแบตเตอรี่, ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน

MSI Bravo 15 NYX00488

MSI Bravo 15 NYX00490
MSI Bravo 15 NYX00489
MSI Bravo 15 NYX00491
MSI Bravo 15 NYX00497
MSI Bravo 15 NYX00545
MSI Bravo 15 NYX00547

ระบบระบายความร้อน Cooler Boost ของ MSI Bravo 15 B5E นี้ ทางบริษัทออกแบบให้ฮีตไปป์ทั้ง 3 เส้นนำความร้อนจากซิ้งค์ที่มีหน้าสัมผัสใหญ่และปิดทั่วทั้งซีพียูและการ์ดจอแล้วนำความร้อนออกไปยังพัดลมโบลวเวอร์และครีบระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี โดยลมจะเป่าออกฝั่งซ้ายและด้านหลังของตัวเครื่องรวม 3 ช่องด้วยกัน 

heat 2

อุณหภูมิภายใน MSI Bravo 15 B5E นั้นจัดว่าน่าประทับใจมาก ซึ่งผลการทดสอบด้วย CPUID HWMonitor นี้ผู้เขียนได้รันโปรแกรม Benchmark เพื่อเร่งความร้อนให้สูงสุดแล้วและเปิดเช็คดูอุณหภูมิในตัวเครื่องแล้ว แต่อุณหภูมิทั้ง Package ของ AMD Ryzen 7 5800H ในตัวเครื่องนั้นเฉลี่ย 52 องศา มีอุณหภูมิอยู่ที่ 35~67 องศาเซลเซียสเท่านั้น ต้องถือว่าระบบระบายความร้อน Cooler Boost และการทำฮีตซิ้งค์ให้มีหน้าสัมผัสใหญ่ ก็สามารถดึงความร้อนของซีพียูและการ์ดจอออกมาได้ดีมาก

User Experience

MSI Bravo 15 NYX00557

จุดน่าประทับใจของ MSI Bravo 15 B5E นั้น ต้องยกเรื่องประสิทธิภาพและการจัดการอุณหภูมิภายในเครื่องได้เป็นอย่างดี ตอนที่ผู้เขียนทดลองเล่นเกมต่อเนื่องราว 2 ชั่วโมงในอุณหภูมิห้อง ไม่เปิดแอร์ดู ก็ไม่มีอาการตัวเครื่องร้อนจนจับเครื่องไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวและประสิทธิภาพของตัวเครื่องก็ลดลงไปแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นกล่าวได้ว่า MSI Bravo 15 B5E นั้นเย็นตลอดเวลา ไม่มีปัญหาว่าเครื่องร้อนแม้แต่นิดเดียว

ด้านการเล่นเกม ผู้เขียนเชื่อว่าเกมเมอร์อาจไม่คุ้นชื่อการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6500M นัก แต่จริงๆ แล้วการ์ดจอแยกรุ่นนี้สามารถเล่นเกมต่างๆ ในปัจจุบันบนจอ Full HD ได้สบายๆ ซึ่งพอผู้เขียนลองนำไปเล่นเกมแล้วปรับกราฟิคสูงสุดก็สามารถเล่นได้สบายๆ แต่ยกเว้นบางเกมที่กินแรมการ์ดจอหนักๆ ก็แนะนำให้เริ่มปรับกราฟิคระดับ Medium ก่อนแล้วค่อยไล่การตั้งค่าบางตัวขึ้นเป็น High จะได้ภาพที่สวยและเกมเพลย์ที่ลื่นไหลแน่นอน

ส่วนการพกเครื่องไปทำงานนอกสถานที่ตามร้านกาแฟหรือยกเข้าห้องประชุมก็ไม่ต้องกังวล จากการทดสอบแล้วแบตเตอรี่ของ MSI Bravo 15 นั้นใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมงครึ่ง จัดว่าใช้ได้นานโดยพอควร ดังนั้นถ้าใครเอาโน๊ตบุ๊คไปเข้าห้องเรียนหรือประชุมก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอยู่ได้ไม่จบวัน อย่างมากอาจจะเตรียมอแดปเตอร์เอาไว้กรณีต้องเอาเครื่องไปพรีเซนต์งานแล้วต้องใช้การ์ดจอแยกนำเสนองานให้ลูกค้าดู กรณีนั้นค่อยเตรียมอแดปเตอร์ติดกระเป๋าไปก็ได้

จุดสำคัญที่ผู้เขียนพบเมื่อทดสอบเครื่องนี้อยู่ ถ้าใช้ทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บทำงานถือว่าแรม 8GB DDR4 เดิมๆ ในเครื่องยังพอใช้ทำงานได้ แต่ถ้าเน้นเล่นเกมเมื่อไหร่แนะนำให้อัพเกรดแรมไป 16~32GB DDR4 จะดีที่สุด โดยเฉพาะเกมเมอร์ควรเพิ่มแรมไป 16GB ขึ้นไปจะดีที่สุด

Conclusion & Award

MSI Bravo 15 NYX00549

MSI Bravo 15 B5E ในสายตาของผู้เขียนถือเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์จาก MSI Bravo 15 รุ่นก่อนที่ใช้ AMD Ryzen 7 4000 Series กับ AMD Radeon RX 5500M ให้เป็นซีรี่ส์รุ่นใหม่สุด ทำให้เล่นเกมและทำงานหนักได้ดีขึ้นมาก แม้จะซื้อเป็นรุ่นเริ่มต้นซีพียู AMD Ryzen 5 5600H ราคา 26,990 บาท แล้วเอาส่วนต่างมาจ่ายอัพเกรดแรมก็สมเหตุผลเหมือนกัน แต่ถ้าใครต้องการคอร์และเธรดเผื่อเอาไว้รันงานหนักๆ จะขยับมารุ่น AMD Ryzen 7 5800H ราคา 29,990 บาทก็ดี ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ที่งบประมาณและโจทย์การใช้งานของแต่ละคนว่าพร้อมจ่ายเท่าไหร่

ด้านดีไซน์นั้นก็ยังคงเรียบร้อยอยู่แต่ก็แฝงลายเส้นที่ดูเกมมิ่งเอาไว้ ทำให้เกมเมอร์ที่ชอบ AMD เป็นทุนเดิมแล้วอยากได้โน๊ตบุ๊ค AMD ล้วน สเปคแรงและพกไปทำงานหรือเข้าเลคเชอร์ได้โดยไม่เคอะเขินเกินไปก็น่าจะชอบเครื่องนี้ ประกอบกับราคาตัวท็อปไม่เกิน 30,000 บาทเข้าไปด้วย เชื่อว่าเกมเมอร์ชาวไทยน่าจะยอมรับราคาระดับนี้ได้แน่นอน

award

award new Battery Life

best battery life

แบตเตอรี่ของ MSI Bravo 15 รุ่นใหม่นี้ เมื่อประกอบกับฟีเจอร์ AMD SmartShift Max แล้ว ก็ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งนานจนไม่ต้องกังวลว่าแบตฯ จะหมดระหว่างวันก็ได้ นับว่าทนใช้ได้นานกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในระดับราคาใกล้เคียงกันหลายๆ รุ่น

award new Design

best design

MSI Bravo 15 นี้ นอกจากดีไซน์ภายนอกจะดูเรียบร้อยแต่แฝงความเท่ดุดันเอาไว้ในตัว ก็ยังลบคำสบประมาทว่าโน๊ตบุ๊ค MSI ร้อน ไปได้อย่างหมดจด ด้วยการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ดีเช่นนี้ จะใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ไม่มีปัญหา

from:https://notebookspec.com/web/672554-review-msi-bravo-15-b5e

6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer รุ่นแนะนำทั้ง AMD, Intel สเปคดีแอดมินเชียร์! เริ่ม 35,790 บาท

อัพเดทโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ช่วงปลายปี มีของแรงตัวไหนให้โดนบ้างนะ?

Share image Edit Name 1acergaming 1

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer เป็นโน๊ตบุ๊คยอดนิยมอีกซีรี่ส์ที่เกมเมอร์หรือแม้แต่คนทำงานหาซื้อไปใช้งานกัน โดยเฉพาะใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องแรงเอาไว้รันงานหนักๆ เช่น งานตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพหนักๆ รวมไปถึงงานทำโมเดล 3D แล้วต้องใช้การ์ดจอแยกแต่ก็ไม่อยากจ่ายแพง ก็มีโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer เป็นตัวเลือกในใจของใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ถ้าใครไม่สะดวกประกอบเกมมิ่งพีซีก็มี Acer Predator เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Desktop Replacement ให้ซื้อไปต่อจอแยกแล้วเล่นเกมได้เลย ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้หลายๆ คนอย่างแน่นอน

Advertisementavw

อย่างไรก็ตาม เมื่อทางผู้ผลิตซีพียูชั้นนำของโลกอย่าง AMD และ Intel พากันเปิดตัวซีพียูซีรี่ส์ใหม่ออกมาแล้ว ทาง Acer ก็จัดการอัพเกรดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในค่ายของตัวเองและเปิดตัวรุ่นย่อยซึ่งประกบกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce ออกมาหลากหลายรุ่นเพื่อปรับกระบวนไลน์อัพสินค้าให้มีความสดใหม่และถูกใจเกมเมอร์ยิ่งขึ้น จะซื้อตอนไหนก็คุ้มค่าและถ้ายิ่งรอโปรโมชั่นหรืองานอีเว้นท์สำคัญๆ ก็จะได้ราคาและของแถมที่คุ้มกว่ากว่าเดิมอีกด้วย

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer

สรุปสเปค 6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ตัวเด็ดน่าซื้อ สเปคนี้แอดมินเชียร์ ซื้อไปเล่นคุ้มชัวร์!!

สเปคโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer CPU

GPU

SSD

RAM

Software

หน้าจอ

น้ำหนัก

การเชื่อมต่อ ราคา
(บาท)
Acer Nitro 5 AN515-46-R12A AMD Ryzen 5 6600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

35,790
Acer Nitro 5 AN515-58-50WD Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

37,990
Acer Nitro 5 AN515-58-705T Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

39,490
Acer Nitro 5 AN515-46-R4Z0 AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

39,490
Acer Nitro 5 AN515-58-729S Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

49,990
Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4 Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD (2560×144)
IPS

Refresh Rate 165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.6 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,900

6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer สเปคเด็ดแอดมินเชียร์ เลือกได้ทั้งรุ่น AMD และ Intel เลย!!

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ในช่วงปลายปี 2022 นี้ ผู้เขียนได้เลือกรุ่นที่ผู้เขียนถูกใจสเปคเป็นส่วนตัวมาแนะนำให้เกมเมอร์ได้เช็คสเปคและดูราคากันก่อนจะไปเดินซื้อกันในงาน COMMART ที่จะจัดในเร็ววันนี้ ซึ่งทั้ง 6 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำ ได้แก่

  1. Acer Nitro 5 AN515-46-R12A (35,790 บาท)
  2. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (37,990 บาท)
  3. Acer Nitro 5 AN515-58-705T (39,490 บาท)
  4. Acer Nitro 5 AN515-46-R4Z0 (39,490 บาท)
  5. Acer Nitro 5 AN515-58-729S (49,990 บาท)
  6. Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4 (79,900 บาท)
1. Acer Nitro 5 AN515-46-R12A (35,790 บาท)

acer1

Acer Nitro 5 AN515-46-R12A เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer รุ่นแรกซึ่งสเปคดูคุ้มค่าสุดสำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งสเปคของมันสามารถใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ ขอแค่อัพเกรดแรมเป็น 16GB DDR4 เท่านี้ก็เพียงพอ แล้วเอาเงินไปลงกับเกมมิ่งเกียร์เพิ่มได้เลย

ซีพียูในเครื่องเป็น AMD Ryzen 5 6600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมในเครื่องมี 8GB DDR5 บัส 4800MHz ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักตัวเครื่อง 2.5 กิโลกรัม จัดเป็นรุ่นเริ่มต้นสเปคแรงราคาสมเหตุผลและได้รุ่นสเปคแรงตอบโจทย์เกมเมอร์และคนที่ทำงานกราฟิคอย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-46-R12A
  • CPU : AMD Ryzen 5 6600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB 
  • RAM : 8GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 35,790 บาท (Advice)
2. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (37,990 บาท)

acer2

ถ้าอยากได้โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer แต่ขอซีพียู Intel ไว้เน้นทำงานเป็นหลัก จะมี Acer Nitro 5 AN515-58-50WD รุ่นนี้ให้เลือก ซึ่งจุดแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ในข้อก่อน คือซีพียูเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ (4P+8E) 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ได้พอร์ตเหมือนกันแต่ USB-C จะเป็นพอร์ต Thunderbolt 4 และเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax เท่านั้น ไม่ได้เป็น Wi-Fi 6E เหมือนรุ่น AMD แต่ถ้าใครเน้นทำงานแล้วไว้ใจประสิทธิภาพของซีพียู Intel ก็ขยับมาซื้อรุ่นนี้แทนได้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-50WD
  • CPU : Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ (4P+8E) 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB 
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 37,990 บาท (BaNANA)
3. Acer Nitro 5 AN515-58-705T (39,490 บาท)

acer3

สำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer รุ่นแรงสุดของตระกูล Nitro ซีพยู Intel เป็นรุ่น Acer Nitro 5 AN515-58-705T ซึ่งรุ่นนี้อิงสเปคร่วมกับ Acer Nitro 5 ข้อก่อนทั้งหมด ยกเว้นซีพียูที่อัพเกรดเป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz แทน ซึ่งข้อดีคือ เมื่อซีพียูเป็นตัวท็อปแล้วทำให้มีคอร์และเธรดไว้ใช้รันโปรแกรมที่กินทรัพยากรหนักๆ ได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าใครเน้นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ที่ซีพียูแรงหน่อยก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-705T
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB 
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 39,490 บาท (Advice)
4. Acer Nitro 5 AN515-46-R4Z0 (39,490 บาท)

acer4

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ซีพียู AMD ตัวท็อปในช่วงปลายปี 2022 นี้จะเป็นรหัส Acer Nitro 5 AN515-46-R4Z0 ซึ่งอิงสเปคกับ Acer Nitro 5 AN515-46-R12A ในข้อแรกแทบทั้งหมด แต่เปลี่ยนซีพียูเป็น AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz แทน ได้ประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งทำงานและเล่นเกมที่เน้นซีพียูเป็นหลัก หากใครหาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer แบบนี้อยู่ก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้ได้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-46-R4Z0
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB 
  • RAM : 8GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 39,490 บาท (Advice)
5. Acer Nitro 5 AN515-58-729S (49,990 บาท)

acer5

ถ้าอยากได้โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ตัวแรงจบจากโรงงาน Acer Nitro 5 AN515-58-729S เครื่องนี้ตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างแน่นอน เพราะได้ซีพียู Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมติดตั้งเกมได้เลย ส่วนแรมจากโรงงานได้มากถึง 16GB DDR5 บัส 4800MHz ไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ได้ ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย ส่วนน้ำหนักเครื่อง 2.5 กิโลกรัมเท่ากันกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer รุ่นอื่นที่เลือกมาแนะนำ หากใครมีงบพร้อมก็แนะนำให้ซื้อเครื่องนี้ไปใช้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-729S
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB 
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 49,990 บาท (ราคากลาง)
6. Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4 (79,900 บาท)

acer6

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer เครื่องสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำเป็นตระกูล Predator รุ่น Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4 ซึ่งเป็นรุ่นแรงสุดที่ทาง Acer มีให้เลือกซื้อ ณ ตอนนี้ ข้อดีของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ คือ มีปุ่ม Turbo สำหรับเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องและได้ไฟคีย์บอร์ด RGB แบบปรับสีไฟได้ตามต้องการ แถมยังระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ซีพียูของเครื่องนี้เป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 ส่วนหน้าจอ 15.6 นิ้ว ได้อัพเกรดความละเอียดขึ้นเป็น QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ในตัว มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาพร้อมแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz ส่วนพอร์ตมี Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 และน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.6 กิโลกรัม ซึ่งสเปคของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer เครื่องนี้แรงเหลือเฟือจนไม่ต้องประกอบเกมมิ่งพีซีก็ได้ หากใครไม่อยากเสียเวลาประกอบพีซีก็ซื้อเครื่องนี้ไปต่อจอแยกได้เลย

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.6 กิโลกรัม
  • Price : 79,900 บาท (Advice)

Nitro 5 AGW KSP01

จะเห็นว่าปลายปีนี้โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer ตัวเด็ดๆ ก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะสาย Nitro 5 หรือจะเอาของแรงอย่าง Acer Predator ก็ได้ แถมยังได้ซีพียูรุ่นใหม่รหัสแรงจาก AMD และ Intel อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากทั้ง 6 รุ่นที่ผู้เขียนหยิบมานำเสนอแล้ว ทาง Acer ก็มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คอีกหลากหลายสเปคให้เลือกด้วย ถ้าใครเจอโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Acer รุ่นที่ถูกใจ ก็ซื้อเอาไปใช้งานได้เลย เชื่อว่าถูกใจอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 3vero 1

Share image Edit Name 1vero 1

Share image Edit Name 2acerlaptop 1

from:https://notebookspec.com/web/672165-6-recommend-acer-gaming-laptop

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท ทำงานลื่นเล่นเกมดี อัพเกรดนิดก็แรงแล้ว อัพเดทปลายปี 2022

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท ปลายปี 2022 นี้หาได้ไม่ยาก สเปคดีด้วย!

Share image Edit Name 1gaminglaptop 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท เป็นโน๊ตบุ๊คที่ราคากำลังดีไม่ถูกไม่แพงเกินไป เป็นระดับราคาในใจของผู้ใช้หลายๆ คนที่รู้สึกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาน่าจะไม่ตอบโจทย์ขอบเขตงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ ยิ่งในช่วงปี 2022 นี้ เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทจากแบรนด์ชั้นนำหลายๆ เจ้าก็จัดสเปคมาให้ดีพร้อมเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้สบายๆ ปรับกราฟิคระดับ High แล้วเล่นบนจอ Full HD ได้ลื่นไหล แถมยังมีรุ่นย่อยให้เลือกมากมาย ทั้งรุ่นที่ใช้ซีพียู AMD, Intel และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon ก็มี เป็นระดับราคาที่มีรุ่นน่าใช้และตัวเลือกเยอะทีเดียว

Advertisementavw

อย่างไรก็ตาม จุดที่ผู้เขียนขอย้ำเสมอไม่ว่าจะโน๊ตบุ๊คสายทำงานหรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท เมื่อเจอสเปคและแบรนด์ที่ชอบแล้วกำลังจะสั่งซื้อ ขอให้ผู้อ่านโฟกัสตรงแรมของตัวเครื่องไว้ว่า ถ้าได้มาแค่ 8GB ก็ขอให้เตรียมเงินเอาไว้ราว 1,000~1,500 บาท เพื่อซื้อแรมอีก 8GB มาอัพเกรด จะช่วยให้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น แล้วจะเพิ่มหรือเปลี่ยน SSD ในเครื่องหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ได้เลย

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000

สรุปสเปค 7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท

สเปคเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท CPU

GPU

SSD

RAM

Software

หน้าจอ

น้ำหนัก

การเชื่อมต่อ ราคา
(บาท)
MSI Bravo 15 B5DD-406TH AMD Ryzen
5 5600H

AMD Radeon RX 5500M

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.35 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

25,900
MSI GF63 Thin 11UD-1031TH Intel Core
i7-11800H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

1.86 กก.

USB-A 3.2 Gen 2 x 3

USB-C 3.2 Gen 2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

29,990
Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT AMD Ryzen
5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

26,900
ASUS  TUF Gaming A15 FA506ICB-HN103W AMD Ryzen 7 4800H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.3 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

28,990
Hp Victus Gaming 15-fb0068AX AMD Ryzen
5 5600H

AMD Radeon RX 6500M

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.29 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.1

27,490
Colorful X15 XS Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

1.9 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 2

HDMI x 1

Mini-DisplayPort x 1

MicroSD Card Reader x 1

LAN x 1

Mic-in x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

29,980
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6-82K201YETA AMD Ryzen
5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

28,990

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท เล่นเกมลื่น ทำงานก็แจ่ม อัพเดทปลายปี 2022

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท มาใช้เพราะเครื่องเก่าเริ่มเล่นเกมใหม่ๆ หรือรันงานหนักไม่ไหวแล้วล่ะก็ ณ ช่วงปลายปี 2022 นี้ก็มีเครื่องรุ่นใหม่สเปคดี อัพเกรดได้ให้เลือกถึง 7 รุ่นทีเดียว โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. MSI Bravo 15 B5DD-406TH (25,900 บาท)
  2. MSI GF63 Thin 11UD-1031TH (29,990 บาท)
  3. Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT (26,900 บาท)
  4. ASUS  TUF Gaming A15 FA506ICB-HN103W (28,990 บาท)
  5. Hp Victus Gaming 15-fb0068AX (27,490 บาท)
  6. Colorful X15 XS (29,980 บาท)
  7. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6-82K201YETA (28,990 บาท)
1. MSI Bravo 15 B5DD-406TH (25,900 บาท)

bravo15

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท สเปคแรงพร้อมใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีก็มี MSI Bravo 15 B5DD-406TH ให้เลือกซื้อ โดยรหัส Bravo จะเป็นรหัส AMD Ryzen และ Radeon จับคู่กัน ทำให้ใช้ฟีเจอร์อย่าง AMD S.A.M. ได้ และยังอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD ได้ด้วย

ซีพียูในเครื่องติดตั้ง AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz มาให้ จับคู่การ์ดจอ AMD Radeon RX 5500M แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมใช้งานกับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ส่วนตัวเครื่องมีน้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม ซึ่งถ้าใครไม่เกี่ยงว่าการ์ดจอในเครื่องเก่าไปนิด แต่เรื่องประสิทธิภาพจัดว่าไว้ใจได้ก็ซื้อตัวนี้ไปใช้ได้เลย

สเปคของ MSI Bravo 15 B5DD-406TH
  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 5500M แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.35 กิโลกรัม
  • Price : 25,900 บาท (Advice)
2. MSI GF63 Thin 11UD-1031TH (29,990 บาท)

thin

รุ่นถัดมาเป็น MSI GF63 Thin 11UD-1031TH สเปค Intel ซึ่งในระดับราคา 30000 บาท ก็ได้สเปคแรงไปใช้งาน เพิ่มแรมอีก 8GB ก็ใช้งานได้ดีแน่นอน และข้อดีอีกอย่างของตระกูล Thin นั่นคือตัวเครื่องหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม เวลาพกไปไหนมาไหนก็ไม่ลำบากนัก

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.3-4.6GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 และน้ำหนักเครื่องเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่ได้ทั้งหน้าตาเรียบร้อย, น้ำหนักเบาและสเปคแรงทีเดียว

สเปคของ MSI GF63 Thin 11UD-1031TH
  • CPU : Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.3-4.6GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz 
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 3, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 1.86 กิโลกรัม
  • Price : 29,990 บาท (BaNANA)
3. Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT (26,900 บาท)

nitro5

Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่ราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าเงิน, สเปคต่อราคาคุ้มค่าและยังอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้อย่างละ 2 ช่อง และยังมีพอร์ตใช้งานติดตั้งมาให้ครบเครื่อง ซึ่งในงบ 30000 บาท เมื่อจ่ายซื้อแล้วยังมีเงินเหลือเอาไว้ซื้อชิ้นส่วนอัพเกรดได้สบายๆ

ซีพียูในเครื่องเป็น AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 และตัวเครื่องหนัก 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทนี้ ต้องถือว่า Acer Nitro 5 เป็นรุ่นที่สเปคต่อราคาคุ้มค่า เหลือเงินเอาไว้ซื้อ RAM, SSD และเกมมิ่งเกียร์เพิ่มได้ด้วย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT
  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.2 กิโลกรัม
  • Price : 26,900 บาท (Advice)
4. ASUS  TUF Gaming A15 FA506ICB-HN103W (28,990 บาท)

asus

ASUS  TUF Gaming A15 FA506ICB-HN103W เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท ที่สเปคยังดีพร้อมใช้ทำงานและเล่นเกมต่างๆ ได้ดี อัพเกรดเพิ่มแรมอีกสักหน่อยก็แรงแล้ว ใช้งานต่อได้อีกหลายปี และแม้ซีพียูจะเป็น AMD Ryzen 4000 Series แต่ตัวชิปก็ยังแรงเอาอยู่แน่นอน

ซีพียูของ TUF Gaming A15 เป็น AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2GHz ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ส่วนน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จะเห็นว่า TUF Gaming A15 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่สเปคต่อราคาคุ้มค่าใช้ได้ ทำงานกราฟิคก็ดีเล่นเกมก็ไหลลื่นแน่นอน

สเปคของ ASUS  TUF Gaming A15 FA506ICB-HN103W
  • CPU : AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.3 กิโลกรัม
  • Price : 28,900 บาท (Advice, BaNANA)
5. Hp Victus Gaming 15-fb0068AX (27,490 บาท)

hp2

 

 

 

Hp Victus Gaming 15-fb0068AX รหัสนี้ก็เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท สเปคสำหรับผู้ที่ชอบ AMD Ryzen จับคู่การ์ดจอ AMD Radeon รุ่นใหม่ๆ ก็เลือกรุ่นนี้ไปใช้ได้เลย ซึ่งประสิทธิภาพของ Hp Victus Gaming 15 จัดว่าแรงหายห่วงแน่นอน

ซีพียูในเครื่องเป็น AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.29 กิโลกรัม ซึ่งตัว Hp Victus Gaming 15 นี้ก็เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่ดีไซน์สวยเรียบร้อยไม่เว่อร์จนเป็นเป้าสายตาเกินไปด้วย

สเปคของ Hp Victus Gaming 15-fb0068AX
  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.29 กิโลกรัม
  • Price : 27,490 บาท (Advice)
6. Colorful X15 XS (29,980 บาท)

colorful

ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องแบรนด์แต่ขอสเปคคุ้มไม่ต้องอัพเกรดก็ได้ Colorful X15 XS นี้นอกจากหน้าตาจะสวยดูดี สเปคก็แรงตั้งแต่เปิดกล่อง เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่ไม่ต้องอัพเกรด เล่นเดิมๆ ได้เลย และตัวเครื่องก็หนักเพียง 1.9 กิโลกรัม จึงพกไปไหนมาไหนได้ง่ายด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel 12th Gen รุ่น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.5GHz ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้และแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz ตั้งแต่เริ่มใช้งาน จึงไม่ต้องเผื่อเงินมาซื้อแรมไปอัพเกรดเลย พอร์ตที่เครื่องมี USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, Mini-DisplayPort x 1, MicroSD Card Reader x 1, LAN x 1, Mic-in x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 หากใครไม่เกี่ยงว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทต้องเป็นแบรนด์ชั้นนำล่ะก็ Colorful X15 XS นั้นน่าสนใจสุดๆ

สเปคของ Colorful X15 XS
  • CPU : Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.5GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, Mini-DisplayPort x 1, MicroSD Card Reader x 1, LAN x 1, Mic-in x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 1.9 กิโลกรัม
  • Price : 29,980 บาท (ราคากลาง)
7. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6-82K201YETA (28,990 บาท)

lenovo

ด้าน Lenovo ก็มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท รุ่น Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6-82K201YETA ให้เลือก โดยรุ่นนี้ยังเป็นบอดี้เก่าแบบตระกูล IdeaPad อยู่ ไม่ได้เป็นทรงที่หยิบยืมจาก Legion มาก็ตาม แต่ก็น่าจะถูกใจเกมเมอร์ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คดีไซน์เรียบๆ ไม่หวือหวามากแน่นอน

ซีพียูของ IdeaPad Gaming เป็น AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz ด้านพอร์ตมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และรองรับ Bluetooth 5.0 ตัวเครื่องหนัก 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาทที่น่าซื้ออีกรุ่นไม่แพ้เครื่องอื่น

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6-82K201YETA
  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.25 กิโลกรัม
  • Price : 28,990 บาท (ราคากลาง)

jeff hardi yRAK7Vcyl Q unsplash

ในบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30000 บาท ณ ช่วงปลายปี 2022 นี้ ก็จะมีผสมกันทั้งรุ่นเก่าและใหม่จากแบรนด์ชั้นนำที่คุ้นหูคนไทยหรือจะแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดแข่งกันอยู่ ณ ตอนนี้ด้วย ซึ่งถ้าใครไม่เกี่ยงเรื่องชื่อชั้นของแบรนด์แต่เน้นด้านของสเปค ก็น่าจะได้ของดีคุ้มค่าไปใช้งานอย่างแน่นอน

ถัดมาเรื่องสเปค หลายคนก็อยากได้ของรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวกัน แต่ราคาก็จะแพงจนเงินไม่พอจ่าย หรือถ้ากัดฟันซื้อแล้วเงินทองก็น่าจะมีปัญหาไปอีกหลายเดือนก็ไม่คุ้มกัน ดังนั้นต่อให้ซีพียูและการ์ดจอเก่าไปสัก 1 รุ่น แต่ราคาถูกกว่าชัดเจนก็น่าจะดีกว่าแล้วเอาเงินส่วนต่างไปอัพเกรด RAM, SSD แทนน่าจะดีกว่า


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 3gamingkeyboard 1

Share image Edit Name 3game 1

Share image Edit Name 1laptop2022 1

from:https://notebookspec.com/web/669447-7-gaming-laptop-under-30000-baht-2

รีวิว ASUS ROG Zephyrus G14 2022 ของแดง AMD Advantage แบตอึด 10 ชม. แรงสะใจ!! ราคา 69,990 บาท

ASUS ROG Zephyrus G14 แรงและแบตอึด!! ดีจบทั้งเกมมิ่งและทำงาน!!

Share image Edit Name 3g142 1

 

Advertisementavw

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในภาพจำของใครหลายๆ คนคงจะเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่หนาหนักและดีไซน์ล้ำอนาคตไม่ใช่เครื่องมินิมอลแบบ ASUS ROG Zephyrus G14 รุ่นใหม่นี้ซึ่งได้ดีไซน์สวยเรียบหรูแต่ก็ยังได้สเปคแรงฟีเจอร์ล้นเหมือนเดิม ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใครเป็นแฟนคลับ AMD ก็น่าจะตกหลุมรักเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้ง่ายๆ นั่นเพราะ Zephyrus G14 รุ่นนี้เป็น AMD Advantage หรือที่เกมเมอร์เรียกกันว่า “แดงทั้งเครื่อง” นั่นเอง

จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G14 อย่างแรกคือฝาหลังแบบเจาะรูที่ ASUS เรียกว่า AniMe Matrix โดยใช้เครื่อง CNC กับเทคนิค Vapor deposition process ให้ได้ช่องไฟ LED ปรับเปลี่ยนเล่นเล่นลวดลายได้ 14,969 ลาย ตัดกับเครื่องสีเทา Eclipse Gray ได้อย่างสวยงาม ได้ตัวเครื่องบางและน้ำหนักเบาเพียง 1.72 กิโลกรัม ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 หรือ Ryzen 9 6000 Series กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S หรือ RX 6800S พร้อมชิป MUX Switch ไว้จัดการทำงานได้ว่าจะให้อยู่ในโหมดประหยัดพลังงานหรือเรียกใช้เต็มประสิทธิภาพก็ได้ ทำให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชม. ทีเดียว

ระบบระบายความร้อนภายใน ASUS ROG Zephyrus G14 อย่าง ROG Intelligent Cooling ก็เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่น ด้วยชุด Vapor Chamber กับโลหะเหลว (Liquid Metal) จาก Thermal Grizzly ช่วยให้ระบายความร้อนจากซีพียูและการ์ดจอได้อย่างรวดเร็วจับคู่กับพัดลม Arc Flow Fans พร้อมดีไซน์ช่องระบายอากาศ Anti-Dust Tunnel 2.0 ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องความร้อนสูงจน Throttle Down แม้แต่น้อย ถ้าใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปก็ยอดเยี่ยมด้วยฟีเจอร์ 0dB สั่งหยุดพัดลมทำงานชั่วคราวในโหมด Silent ไม่ให้เสียงพัดลมรบกวนเพื่อนร่วมงานร่วมโต๊ะคนอื่น จะพกไปทำงานในที่สาธารณะที่ไหนก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็มี Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ตอบโจทย์ครบทุกมิติทั้งทำงานและเล่นเกม

ASUS ROG Zephyrus G14

หน้าจอ ROG Nebula Display ขนาด 14 นิ้ว ก็ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราส่วน 16:10 ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz และ Response Time 3ms มีฟีเจอร์ป้องกันภาพฉีกขาด Adaptive-Sync รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision HDR ด้วย แสดงผลขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 การันตีโดย PANTONE Validated เรียกว่าก้าวข้ามความเกมมิ่งมายังสายครีเอเตอร์ได้แบบย่อมๆ ส่วนลำโพงทั้ง 4 ดอก รองรับ Dolby Atmos มีไมโครโฟน 3D Mic Array พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Two-Way AI Noise Cancellation และคีย์บอร์ดก็มีปุ่ม Hotkeys ให้ใช้งาน 4 ปุ่ม ตั้งค่าได้ มี N-Key Rollover ในตัว รัวปุ่มในนาทีสำคัญตัดสินแพ้ชนะได้โดยไม่ต้องกังวลว่าปุ่มจะทำงานไม่ทันอย่างแน่นอน

จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G14 ในฐานะที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD Advantage ก็มีฟีเจอร์เด่นอยู่ในตัวหลายอย่างซึ่งผู้ใช้บางท่านอาจยังไม่ทราบ อย่างแรกคือ AMD SmartShift Max ฟีเจอร์ที่ซีพียูและจีพียูจะสื่อสารกันโดยตรงและใช้ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่างานหรือเกมนั้นพึ่งพากำลังของซีพียูหรือการ์ดจอมากกว่าแล้วถ่ายเทค่าวัตต์เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้ทำงานดีขึ้น โดย AMD เคลมว่าฟีเจอร์นี้ทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานดีขึ้นถึง 14%

ถัดมาคือ AMD Smart Access Memory หรือ AMD S.A.M. เป็นฟีเจอร์เฉพาะเมื่อพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นใช้ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series หรือ AMD Ryzen 3000 Series (บางรุ่น) แล้วจับคู่กับการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6000 Series ซีพียู AMD Ryzen จะสื่อสารกับแรมการ์ดจอโดยตรงเพื่อเร่งประสิทธิภาพตัวเครื่องให้สูงขึ้น ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลและได้เฟรมเรทตอนเล่นเกมสูงยิ่งขึ้น นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่อัดฟีเจอร์มาเยอะ ครบเครื่องที่สุดอีกเครื่องหนึ่งซึ่งเกมเมอร์ไม่ควรมองข้าม!

NBS Verdicts

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00090

ASUS ROG Zephyrus G14 นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดทรงพลัง ฟีเจอร์ครบเครื่อง ซอฟท์แวร์ครบครันพร้อมใช้งานและจัดการพลังงานได้ดีเหลือเชื่อ จนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นต้องถอยให้ เพียงอัพเดท AMD Chipset Driver (ขณะที่ทดสอบเป็นเวอร์ชั่น 3.10.08.506) และไดรเวอร์การ์ดจอเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เท่านี้ Zephyrus G14 ก็ทรงพลังและจัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยม จะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไว้พกไปทำงานออฟฟิศก็ได้หรือจะต่อจอแยกแล้วเล่นเกมที่บ้านก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ฟีเจอร์และการออกแบบก็จัดว่ายอดเยี่ยม ไม่ว่าจะฝาหลังเครื่องพร้อมไฟ LED “AniMe Matrix” การกางหน้าจอแล้วยกแป้นคีย์บอร์ดขึ้นเล็กน้อยด้วย ErgoLift Hinge รวมไปถึงการปลดล็อคเครื่องด้วยกล้องสแกนใบหน้า IR Camera ทำให้ไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านก็ใช้งานได้ทันทีเหมือนกับพี่ใหญ่ในซีรี่ส์อย่าง ASUS ROG Zephyrus M16 ด้วย และยังติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home&Student 2021 มาพร้อมใช้งานเหมือนโน๊ตบุ๊คสายออฟฟิศเครื่องหนึ่งเลย ส่วนสายครีเอเตอร์จะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เอาไว้ใช้ตัดต่อแต่งภาพก็ไม่มีปัญหา การันตีคุณภาพด้วย PANTONE Validated แล้ว ส่วนตัวผู้เขียนยกให้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่แม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังอยากได้เป็นเจ้าของเองเสียด้วยซ้ำ

ส่วนข้อสังเกต แม้ผู้เขียนจะได้ใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 มาราวสัปดาห์หนึ่งก็หาข้อสังเกตได้เพียงจุดเดียว นั่นคือ M.2 NVMe SSD และแรม SO-DIMM ในเครื่องมีสล็อตสำหรับอัพเกรดอย่างละช่องเท่านั้น ดังนั้น Zephyrus G14 เครื่องนี้อาจจะไม่โดนใจเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่อยากเพิ่มแรมไป 32~64GB DDR5 หรือใส่ M.2 NVMe SSD เพิ่มเท่าไหร่ แต่ถ้าดูชิ้นส่วนบนเมนบอร์ดประกอบก็จะเห็นทันทีว่าชุด Vapor Chamber กินพื้นที่ไปจนแทบหมดแล้ว ซึ่งถ้าเป็นผู้เขียนเอง ก็อาจจะหาทางออกอื่นอย่างเสริมเกมมิ่งฮาร์ดดิสก์ต่อแยกภายนอกอย่าง Game Drive เพิ่มเข้าไปแทนก็พอชดเชยกันได้อยู่

ข้อดีของ ASUS ROG Zephyrus G14
  1. งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรง ได้ความสวยเรียบหรูไม่เป็นเกมมิ่งเกินไป
  2. บานพับ ErgoLift Hinge ยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยให้พิมพ์งานได้สะดวกและกางไดด้ราบ 180 องศา
  3. มีไฟ AniMe Matrix เสริมความสวยโดดเด่นให้กับฝาหลังของตัวเครื่อง ตั้งเอฟเฟคได้
  4. สเปคเป็น AMD Advantage รีดประสิทธิภาพของ Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
  5. ติดตั้งระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling แบบ Vapor Chamber มาให้ ระบายความร้อนได้ดีมาก
  6. หน้าจอ ROG Nebula Display ได้ความละเอียดและ Refresh Rate สูง ขอบเขตสีกว้าง ได้รับการการันตี PANTONE Validated รองรับ Dolby Vision HDR ด้วย
  7. ติดตั้งกล้อง IR Camera มาสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
  8. ได้แรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้มากสุด 24GB DDR5
  9. มีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 x 2 ช่อง รองรับการต่อหน้าจอแยก DisplayPort ทั้งคู่ มีช่องซ้ายรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery 65 วัตต์
  10. มีพอร์ตใช้งานครบเครื่องทั้ง MicroSD Card Reader, HDMI 2.0b, USB-A 3.2 Gen 2 อีก 2 ช่องด้วย
  11. รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2 ในตัว
  12. ลำโพง Dolby Atmos จำนวน 4 ดอก รองรับเสียง Hi-Res ดูหนังฟังเพลงดีมีมิติมาก
  13. ระบบจัดการพลังงานทำได้ดีมาก ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง
  14. น้ำหนักเครื่องเบาพกพาสะดวก เพียงแค่ 1.72 กิโลกรัมเท่านั้น
  15. มีซอฟท์แวร์ Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
ข้อสังเกตของ ASUS ROG Zephyrus G14
  1. อัพเกรดได้เล็กน้อย มี M.2 NVMe SSD และแรม SO-DIMM อย่างละช่องเท่านั้น
  2. ไม่มีพอร์ต LAN ติดตั้งมาให้ ถ้าต้องการใช้งานต้องต่อผ่าน USB-A to LAN แทน
  3. ควรอัพเดท AMD Chipset Driver เวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ เพื่อให้รีดประสิทธิภาพได้เต็มที่

รีวิว ASUS ROG Zephyrus G14

Specification

g14 spec

ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกลุ่ม Advantage Edition ซึ่งเป็นสเปค AMD ล้วนทั้งซีพียูและการ์ดจอ ซึ่งสเปคของจัดว่าทรงพลังและครบเครื่อง ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน ซึ่งสเปคมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz แยกเป็น Onboard กับ SO-DIMM อย่างละ 8GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้สูงสุด 24GB DDR5
    • รุ่น GA402RK -L8150WS ติดตั้งแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz, Response Time 3ms รองรับ Dolby Vision HDR, Adaptive-Sync, Pantone Validated
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD IR Camera 
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home&Student 2021
  • Weight : 1.72 กิโลกรัม
  • Price : 69,990 บาท (ราคากลาง)
รุ่นย่อยอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G14

Hardware & Design

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00091

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00070
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00072
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00060
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00058

ดีไซน์ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ยังเน้นความเรียบง่ายเหมือนกับ ROG Zephyrus รุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะตัวเครื่องดีไซน์เรียบง่ายเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานสักเครื่องหนึ่งและตัวเครื่องสีเทา Eclipse Gray ดูเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นประสิทธิภาพสูงสักเครื่องหนึ่ง ทั้งที่เครื่องนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเต็มตัว

จุดที่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า คือ ปุ่ม Power ทรงหกเหลี่ยมอสมมาตรและขอบบนของตัวเครื่องที่ติดโลโก้ Zephyrus เอาไว้ แต่เปลี่ยนจากเพลตสะท้อนแสงแล้วสกรีนตัวอักษรเอาไว้ข้างในเป็นตัวอักษรบนพื้นบอดี้พลาสติกระหว่างช่องระบายความร้อนสองช่อง ทาบอยู่บนไฟ LED แสดงสถานะทั้ง 3 ดวงที่ขอบบนของตัวเครื่องแทน และสังเกตจะเห็นว่าด้านข้างซ้ายและขวาขอบบนเครื่องจะมีลำโพงติดตั้งเอาไว้อีก 2 ดอก เพื่อให้ได้เสียง Dolby Atmos ด้วย

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00087

ขอบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G14 ทั้งส่วนของหน้าจอและตัวเครื่องจะตัดเฉียงเข้าหากันเหมือนเครื่องหมายมากกว่า (>) เมื่อพับจอแล้วจะดูดติดด้วยแม่เหล็ก กำลังดูดดีมากและใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวก็กางหน้าจอได้ แต่ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ใช้มืออีกข้างจับเครื่องจะกางได้ง่ายกว่า

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00057

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00056
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00054
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00017

ก้านบานพับหน้าจอแบบ ErgoLift Hinge เอกลักษณ์เฉพาะของโน๊ตบุ๊ค ASUS ก็ถูกนำมาใส่ให้ ASUS ROG Zephyrus G14 ด้วยเช่นกัน หากดูดีไซน์ภายในจะเห็นว่าก้านบานพับถูกออกแบบให้มีความโค้งและขาตั้งติดเข้ากับขอบล่างหน้าจอแบบแนวนอน พอกางหน้าจอก็จะดันตัวเครื่องให้เฉียงขึ้นเล็กน้อย เพิ่มพื้นที่ว่างใต้ตัวเครื่องให้ดึงลมเย็นเข้าไประบายความร้อนและช่วยให้ผู้ใช้วางมือพิมพ์งานได้สะดวกขึ้น และทางบริษัทก็ติดก้านพลาสติกมาซัพพอร์ตให้ขอบล่างของหน้าจอไม่สัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรง ป้องกันรอยขูดเสียหายไปในตัวอีกด้วย

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00100

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00095
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00028
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00026
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00024

ฝาหลังของ ASUS ROG Zephyrus G14 ตัวนี้จะเป็นแบบทูโทน คือ ส่วนของฝาหลังแบบเรียบติดเพลต ROG เอาไว้มุมล่างซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาเป็นช่องไฟ LED เจาะรูด้วยเครื่อง CNC เทคนิค Vapor deposition process สามารถปรับเล่นลวดลายไฟบนฝาหลังได้กว่า 14,969 ลาย ซึ่งทาง ASUS เรียกว่า AniMe Matrix จัดเป็นเอกลักษณ์บนฝาหลังซึ่งไม่มีใครเหมือน ได้ความแตกต่างและสวยงามเป็นอย่างมาก ถ้าใครชอบความโดดเด่นก็เล่นเอฟเฟคไฟให้มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้เลย

ด้านฝาหลังจะเห็นว่าเมื่อกางแล้ว จะไม่เห็นเพลตคำว่า Zephyrus และช่องระบายความร้อน แต่ถ้าพับหน้าจอเก็บเครื่องจะเห็นป้ายโลโก้อย่างชัดเจน ได้ความเรียบร้อยแต่ก็ซ่อนดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเอาไว้ในตัว

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00021

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00120
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00122

ด้านใต้ของ ASUS ROG Zephyrus G14 จะใช้โครงหลักเป็นพลาสติกเนื้อแข็งและโซนตรงกลางเครื่องจะเป็นแผ่นอลูมิเนียมเจาะช่องลมเข้าเอาไว้ให้ดึงอากาศเย็นจากภายนอกเข้าไประบายความร้อนในเครื่อง ติดยางรองเครื่องไว้ 2 เส้นเป็นแนวยาวและยึดน็อตหัว Philips Head เอาไว้ทั้งหมด 11 ดอกด้วยกัน ซึ่ง 3 ดอก จะอยู่ตรงแผ่นอลูมิเนียมแล้วปิดด้วยจุกยางไว้

Screen & Speaker

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00045

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00048
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00046
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00049
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00051

จอ ROG Nebula Display ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ขนาดอยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 ค่า Refresh Rate 120Hz, Response Time 3ms มีฟีเจอร์ Adaptive-Sync ป้องกันภาพฉีกขาดเวลาเล่นเกมหรือคอนเทนต์ที่ภาพเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไม่ให้ภาพฉีกขาด พาเนลมีคุณภาพสูง รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision HDR ได้รับการรับรอง Pantone Validated และทาง ASUS เคลมขอบเขตสีจากโรงงาน 100% DCI-P3 ใช้แต่งภาพได้สบายๆ

display 2

gamut 2
luminance 2

ความละเอียดหน้าจอระดับ QHD โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 2560×1440 พิกเซล แต่ ASUS ROG Zephyrus G14 จะเพิ่มอัตราส่วนหน้าจอในแนวตั้งขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 16:10 ทำให้ความละเอียดจอเพิ่มเป็น 2560×1600 พิกเซล ปรับค่า Refresh Rate ได้ว่าจะใช้ 60Hz หรือ 120Hz ซึ่งถ้าใช้ทำงานแล้วไม่อยากเปลืองแบตเตอรี่ก็ปรับลงมา 60Hz ก่อน พอจะเล่นเกมก็ปรับขึ้น 120Hz ทีหลังก็ได้

ขอบเขตสีหน้าจอบนหน้าสเปคอยู่ที่ 100% DCI-P3 เมื่อคาลิเบรตหน้าจอด้วย DisplayCal 3 จะเห็นว่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าจากโรงงานอยู่ที่ 99.7% sRGB, 84.9% Adobe RGB, 98.2% DCI-P3 ซึ่งถือว่ากว้างใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ แต่พอคาลิเบรตเสร็จแล้วขอบเขตสีหน้าจอในหัวข้อ Gamut volume เพิ่มขึ้นเป็น 146.3% sRGB, 100.8% Adobe RGB, 103.6% DCI-P3 และความเที่ยงตรงสีของหน้าจอหรือค่า Delta-E ได้เฉลี่ยเพียง 0.07~1.54 เท่านั้น จัดว่าสีสันบนหน้าจอทั้งเที่ยงตรงและขอบเขตสีกว้างมาก นอกจากเล่นเกมแล้วยังเอาไปทำงานเกี่ยวกับภาพและสีสันได้สบายๆ

ด้านความสว่าง ทางผู้ผลิตเคลมว่า ASUS ROG Zephyrus G14 มีความสว่างถึง 500 nits ซึ่งโปรแกรม DisplayCal 3 เองก็วัดได้สว่าง 499.85 cd/m2 ซึ่งใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ จะนั่งทำงานนอกอาคารอย่างร้านกาแฟหรือโดนแสงอาทิตย์ส่องสะท้อนบนหน้าจอก็ไม่มีปัญหา ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศผู้เขียนแนะนำว่าเปิดความสว่างราว 60% ก็สว่างพอแล้ว

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00052
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00053
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00018
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00019
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00013
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00014

ลำโพงทั้ง 4 ดอกที่ติดตั้งมาให้จะอยู่ตรงบอดี้ส่วนบนเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องโซนละ 2 ดอกด้วยกัน รองรับเสียง Dolby Atmos และได้เสียงคมชัดระดับ Hi-Res ซึ่งเสียงตอนผู้เขียนทดลองฟังเพลงก็ได้มิติ เหมาะกับความบันเทิงทุกแบบไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลงก็ไม่มีปัญหา

ด้านการฟังเพลง ลำโพงชุดนี้จัดว่ามีมิติสเตจเสียงกว้าง รายละเอียดของเครื่องดนตรีกับนักร้องไม่กลบกันส่วนเบสมีน้ำหนักและกำลังขับพอสมควรแต่ไม่ถึงกับปะทะเป็นลูกๆ เป็นแบบช่วยขับให้เสียงเพลงมีมิติดียิ่งขึ้น เสริมความเด่นของเครื่องดนตรีและนักร้องนำให้มีพลัง ถือว่าลำโพงของ ASUS ROG Zephyrus G14 นี้ได้เสียงน่าประทับใจ เสียงไม่แห้งไม่ต้องต่อลำโพงแยกก็ได้ ความดังของลำโพงเมื่อวัดด้วยอุปกรณ์วัดเสียงแล้วอยู่ราว 80~85dB

Keyboard & Touchpad

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00063

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00061
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00062
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00073
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00127
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00126

คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นแบบ Tenkeyless ขนาดปุ่มเท่ากับแป้นคีย์บอร์ดมาตรฐานทั่วไป รองรับ N-Key Rollover ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกดปุ่มบนคีย์บอร์ดหลายๆ ปุ่มพร้อมกันได้แล้วคำสั่งจากปุ่มนั้นๆ ไม่ตกหล่น มีไฟ LED Backlit ปรับเอฟเฟคไฟ RGB ได้ตามต้องการในโปรแกรม Armoury Crate

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00066

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00077
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00075
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00074
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00123
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00125
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00124

ปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ บนคีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็ติดตั้งมาครบถ้วนทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง ได้แก่ปุ่ม Windows Lock ที่รวมเอาไว้กับปุ่ม Windows, คีย์ลัดที่ปุ่มลูกศรทั้ง 4 ปุ่ม ได้แก่ Home, End, Page Up, Page Down เหมือนกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นอื่นของ ASUS นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Macro อีก 4 ปุ่ม แยกพิเศษให้เกมเมอร์สามารถเซ็ตมาโครได้ด้วย ค่าจากโรงงานจะเป็นฟังก์ชั่นลดหรือเพิ่มเสียง, ปิดหรือเปิดไมค์และคำสั่งเรียกโปรแกรม Armoury Crate ขึ้นมาใช้งาน

ข้อดีอย่างหนึ่งของโน๊ตบุ๊คจาก ASUS คือ เมื่อกดคีย์ลัดเพื่อตั้งค่าตัวเครื่องแล้ว บนหน้าจอจะมีกรอบแจ้งเตือนเป็นรูปภาพลอยขึ้นมาให้เห็นราว 1-2 วินาที เพื่อแจ้งผู้ใช้ว่าตัวเครื่องเปลี่ยนการตั้งค่าตามสั่งแล้ว เป็นฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเข้าใจได้ง่ายและดูใส่ใจผู้ใช้ดีมาก

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00076

Function Hotkey ตรงบรรทัดบนสุดของคีย์บอร์ดจะถูกเซ็ตเป็นคำสั่ง F1-F12 มาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน แต่ถ้าไม่ต้องการก็ตั้งค่าในโปรแกรม Armoury Crate ได้ โดยมีคีย์ลัดดังนี้

  • F1 – ปิดเสียงลำโพง
  • F2~F3 – ลดหรือเพิ่มแสงไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
  • F4 – คีย์ลัด AURA Sync เปลี่ยนเอฟเฟคไฟคีย์บอร์ด 
  • F5 – ปุ่มปรับโหมดของตัวเครื่อง เลือกได้ระหว่าง Silent, Performance, Turbo
  • F6 – เรียกคำสั่ง Snipping Tool
  • F7~F8 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F9 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม
  • F10 – เปิดหรือปิดทัชแพด
  • F11 – Sleep Mode
  • F12 – Airplane Mode

สังเกตว่าถัดจากปุ่ม F1-F12 แล้วจะเป็นปุ่ม Delete อีกเพียงปุ่มเดียว ไม่มีปุ่ม Print Screen เหมือนโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าตัดออกไปไม่มีปัญหานักเพราะทาง ASUS เลือกใส่เป็นคีย์ลัดเรียก Snipping Tool แทนแล้ว จะตัดออกไปก็ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานนัก

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00078
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00081
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00130
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00129

ทางบริษัทเคลมว่าทัชแพดของ ASUS ROG Zephyrus G14 ถูกอัพเกรดให้ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนราว 50% ซึ่งมีขนาดใหญ่มากและสูงสุดขอบความสูงที่วางข้อมือและเยื้องมากินพื้นที่ Alt ฝั่งซ้ายเล็กน้อย พอวางมือแล้วสันมือส่วนแม่โป้งจะทาบลงบนแป้นคีย์บอร์ดไปส่วนหนึ่ง แต่ถ้าต่อเมาส์แยกอยู่ก็กดปิดทัชแพดทิ้งไปก็ได้ การตอบสนองของแป้นทัชแพดสามารถลากเคอร์เซอร์, คลิ๊กเมาส์และใช้ Gesture Control ของ Windows ได้ครบถ้วนไม่มีปัญหา

ทัชแพดนี้ จากที่ลองพกไปใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปถือว่ามีขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวกและลากเมาส์บนหน้าจอจากขอบสู่ขอบได้สะดวกสบายมาก หากพกไปทำงานในร้านกาแฟแล้วต้องแชร์โต๊ะทำงานกับผู้อื่นแล้วไม่สะดวกหยิบเมาส์ออกมา ก็ใช้ทัชแพดอย่างเดียวก็สะดวกไม่แพ้กัน

Connector / Thin & Weight

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00082
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00083

พอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS ROG Zephyrus G14 ถูกติดตั้งไว้ด้านข้างเครื่องทั้ง 2 ฝั่งเท่านั้น ซึ่งพอร์ตและการเชื่อมต่อไร้สายจะมีดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์, HDMI 2.0b, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, Audio combo
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – MicroSD Card Reader, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 Gen 2 x 2
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

จะเห็นว่าพอร์ตเชื่อมต่อของ ROG Zephyrus G14 มีให้ใช้งานครบเครื่อง ไม่ต้องพึ่ง USB-C Multiport Adapter ก็ได้และยังมี MicroSD Card Reader ติดมาให้โอนไฟล์ภาพและคลิปออกมาได้โดยตรงซึ่งสะดวกมากและเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ไม่ได้ติดตั้งมาให้เสียด้วย นอกจากนี้สังเกตว่าพอร์ต USB-C ทั้ง 2 ช่องใช้ต่อหน้าจอแยกได้ หากนับรวมกับ HDMI 2.0b เท่ากับว่า ROG Zephyrus สามารถต่อหน้าจอแยกได้ถึง 3 จอพร้อมกันทีเดียว

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Wi-Fi 6E ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรกว่า Wi-Fi 6 มาก แต่สังเกตว่าทาง ASUS ไม่ได้ให้พอร์ต LAN มาด้วย ถ้าต้องใช้งานก็หาซื้อ USB-A to LAN มาเผื่อเอาไว้สักอันก็ช่วยได้มากแล้ว

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09995

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09997
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09996

น้ำหนักของ ASUS ROG Zephyrus G14 จากหน้าสเปคเคลมไว้ 1.72 กิโลกรัม แต่พอชั่งจริงด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วอยู่ที่ 1.69 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ 240 วัตต์ น้ำหนัก 706 กรัมจะหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม ซึ่งถ้านับเฉพาะตัวเครื่องอย่างเดียวก็เบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ถ้ารวมอแดปเตอร์ก็หนักเท่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่หนักเกินไป ใส่กระเป๋าเป้ติดตัวไปไหนมาไหนได้สบายๆ

ทว่าตอนพก ROG Zephyrus G14 ไปทำงานนอกออฟฟิศก็ไม่ต้องเอาอแดปเตอร์ของเครื่องติดตัวไปก็ได้ เพราะพอร์ต USB-C ฝั่งซ้ายมือของเครื่องรองรับการชาร์จแบบ Power Delivery อยู่แล้ว แค่มีปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ขึ้นไปก็ชาร์จไฟให้เครื่องได้เลย ส่วนอแดปเตอร์ของเครื่องก็ไว้ที่บ้านหรือออฟฟิศไว้ใช้งานเวลาต้องรันงานหนักๆ แทน

Inside & Upgrade

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09999

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00005
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00006
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00007
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00008
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00022
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00023

การเปิดฝาอัพเกรด ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถขันเปิดฝาใต้ตัวเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยน็อตหัวแฉก Philips Head หรือหัวแฉกบวกทั้งหมด 11 ดอกออกแล้วใช้การ์ดแข็งไล่ขอบเพื่อปลดฝาแล้วเริ่มอัพเกรดได้เลย จุดสังเกตคือ น็อตตรงกลางตัวเครื่อง 3 ดอกจะมีจุกยาง 3 เม็ดอุดเอาไว้เพื่อความสวยงาม อย่าลืมดึงจุกยางแล้วขันออกด้วย หากฝืนดึงจะทำให้ฝาหลังเสียหายได้ นอกจากนี้น็อตสองดอกตรงกลางและมุมล่างขวา รวม 3 ดอกจะมีจุกจับไม่ให้น็อตหลุดออกจากเบ้า เมื่อขันน็อตหลวมแล้ก็เอาการ์ดไล่ขอบเปิดฝาได้เลย

ภายในเครื่องจะเห็นว่าครึ่งบนจะเป็นชุด ROG Intelligent Cooling เป็นชุด Vapor Chamber กับพัดลมระบายความร้อนแบบเป่าออกด้านข้างและหลังของตัวเครื่อง ด้านล่างสุดเป็นแบตเตอรี่ขนาด 76Wh ส่วน M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ติดตั้งอยู่ตรงกลางฝั่งซ้ายและแรม SO-DIMM DDR5 อยู่ฝั่งขวามือและมีแผ่นพลาสติกป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ปิดมาให้

สังเกตจะไม่เห็นการ์ด Wi-Fi PCIe นั่นเพราะทาง ASUS เอาไปซ้อนอยู่ใต้ M.2 NVMe สาเหตุเพราะพื้นที่เมนบอร์ดมีจำกัดและชิ้นส่วนต่างๆ อยู่ชิดกันหมด ไม่มีพื้นที่ติดตั้งหัวต่อ M.2 NVMe ตัวที่ 2 เลย ถ้าจะอัพเกรดก็ต้องถอดไดรฟ์เก่าออกอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนแรมเป็น Onboard กับ SO-DIMM อีก 1 ช่อง แยกเป็นตัวละ 8GB DDR5 รองรับความจุสูงสุด 24GB DDR5 นั่นคือถอดแรม 8GB DDR5 เดิมจากโรงงานออกแล้วใส่ตัวใหม่ความจุ 16GB เข้าไปแทน ให้เป็น 8+16GB ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าความจุ 16GB จากโรงงานก็เยอะพอใช้งานแล้ว แต่ถ้าทำงานใช้โปรแกรมกินแรมเยอะๆ ก็ยังพออัพเกรดเพิ่มได้

ในแง่การใช้งานและเล่นเกม ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีและจบในตัวอยู่แล้ว เหมาะกับเกมเมอร์หรือผู้ใช้ที่ซื้อมาใช้งานและไม่ค่อยมีแผนอัพเกรดมาก ส่วนผู้ใช้ที่มีแผนหรือชอบอัพเกรดเครื่องอาจจะอึดอัดอยู่บ้าง ซึ่งผู้เขียนมองว่าถ้าอยากลงเกมเอาไว้เล่นอยู่หลายเกม อาจจะซื้อฮาร์ดดิสก์แบบ Game Drive ต่อภายนอกมาต่อผ่านพอร์ต USB แทนก็เป็นทางออกที่ดี

Performance & Software

cpu 1

ซีพียูของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็น AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วน เป็นสถาปัตยกรรมแบบ 6 นาโนเมตร ค่า TDP สูงสุด 35 วัตต์ จัดว่าประหยัดพลังงานดีแต่ก็ยังได้ประสิทธิภาพสูงอยู่

อนึ่ง ผู้ใช้หลายคนอาจคุ้นเคยกับรหัสท้ายตัวเลของ AMD ว่ามีรหัส U ซึ่งเป็นซีพียูเน้นประหยัดพลังงาน, รหัส H เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง หรือ HX เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสุดของ AMD แต่รหัส HS หรือ HS Design Standard เป็นซีพียูกลุ่ม Mobile แบบพิเศษซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ AMD Ryzen 4000 H-Series เป็นต้นมา โดยมีจุดเด่นดังนี้

  1. เป็นซีพียูสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบประสิทธิภาพสูง แต่ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นรหัสเดียวกัน 20% ให้ใช้งานด้วยแบตเตอรี่นานยิ่งขึ้น
  2. ค่า TDP สูงสุดแค่ 35 วัตต์ แต่ใช้คอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงเหมือนรหัส H ทั่วไป
  3. จัดการอุณหภูมิของตัวชิปเซ็ตได้ดี ไม่ร้อนและลดเสียงตอนโน๊ตบุ๊คทำงานเบาลงด้วย

ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าซีพียูที่มีรหัส HS ก็คือซีพียูรหัส H แบบพิเศษที่จัดการพลังงานได้ดีขึ้น เย็นและประสิทธิภาพดีเท่ากันนั่นเอง ดังนั้นถ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนติดตั้งซีพียู AMD Ryzen แบบ HS Design Standard อยู่ ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงแน่นอน

mb
ram 2

ด้านอินเตอร์เฟสของ SSD ในเครื่องเป็น PCIe 4.0 x4 มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ให้ใช้งานตั้งแต่เริ่ม โดยแยกเป็น Onboard กับ SO-DIMM อย่างละ 8GB รองรับการอัพเกรดได้มากสุด 24GB ซึ่งถ้าใครต้องการอัพเกรดอาจจะเปิดฝาอัพเกรดอีกเล็กน้อยก็ได้ แต่ถ้าใช้งานเดิมๆ ประสิทธิภาพก็ดีเพียงพอตอบโจทย์ทั้งทำงานและเล่นเกมอยู่แล้ว

discrete gpu

การ์ดจอแยกในเครื่องติดตั้ง AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6 มาให้ เป็นการ์ดจอแยกประสิทธิภาพดี มี 1,792 Unified Shader รองรับ DirectX 12 รองรับชุดคำสั่งต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing ซึ่งครบพร้อมใช้ ช่วยให้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

device mgr 1

พาร์ทภายในตัวเครื่องเมื่อเช็คผ่าน Device Manager จะเห็นว่า ASUS ROG Zephyrus G14 ติดตั้งชิ้นส่วนสำคัญมาครบเครื่อง ได้แก่ กล้อง IR Camera สำหรับสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง ทำงานร่วมกับระบบ Windows Hello, ชิป TPM 2.0 และ AMD PSP 10.0

ชิป Wi-Fi PCIe ในเครื่องเป็น MediaTek Filogic 330 (MT7922) รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับความถี่คลื่น 2.4GHz, 5GHz, 6GHz ครบถ้วน แบนด์วิธคลื่น 160MHz และรองรับ Bluetooth 5.2 ด้วย และตัวการ์ดนี้มีฟีเจอร์สำคัญต่างๆ ครบเครื่อง ได้แก่ MU-MIMO, MU-OFDMA, QoS และ WPA3 อีกด้วย

ssd 2

M.2 NVMe SSD ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ติดตั้ง Micron 2450 มาให้ใช้งาน โดย SSD รุ่นนี้เป็น M.2 2280 176-Layer NAND อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 โดยทางผู้ผลิตเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานแต่ประสิทธิภาพก็ถือว่าดีใช้ได้ มีความเร็ว Sequential Read 3,500 MB/s และ Sequential Write 3,000 MB/s มีความทนทานต่อการเขียนข้อมูลทับลงในไดรฟ์ได้ 600 TBW

ความเร็วจากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะได้ Sequential Read 3,627.46 MB/s และ Sequential Write 3,474.24 MB/s จัดว่ารวดเร็วกว่าหน้าสเปคที่เคลมเอาไว้อย่างชัดเจน หากเน้นทำงานและเล่นเกมก็ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรับส่งข้อมูลได้เต็มความเร็วอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 ก็น่าเปลี่ยนเป็น Kingston Fury Renegade, WD Black SN850, Samsun 980 PRO แทนก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

r15 1
r20 1

ส่วนการทำงานกับโปรแกรม 3D เรนเดอร์โมเดลต่างๆ เมื่อทดสอบด้วย CINEBENCH R15 จะได้คะแนน OpenGL 191.46 fps และคะแนน CPU 1,930 cb ซึ่งผู้เขียนได้ลองรันการทดสอบนี้ซ้ำอีกหลายครั้งแล้ว พบว่าคะแนนซีพียูจะได้ใกล้เคียงกับการทดสอบครั้งนี้ แต่คะแนน OpenGL จะขึ้นลงอยู่ช่วง 191~199 fps กล่าวคือ ถ้าใครจะใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 ทำงานหรือพรีวิว 3D Model ให้ลูกค้าดูก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ด้าน CINEBENCH R20 ที่เน้นทดสอบพลังการประมวลผลของซีพียูเป็นหลักได้ CPU 4,854 pts จัดว่าทำได้ดีเพียงพอจะใช้ทำงานหนักๆ อย่างเรนเดอร์ภาพและงานกราฟฟิคต่างๆ ก็ทำได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าถ้าซีพียูเป็น AMD แล้วจะทำงานได้ดีหรือไม่? 

3dmark

การทดสอบเล่นเกมโดยรัน 3DMark Time Spy จะได้คะแนนเฉลี่ยรวม 8,040 คะแนน แยกเป็น CPU score 8,788 คะแนน และ Graphics score 7,922 คะแนน ซึ่งคะแนนในระดับนี้หากจะเล่นเกมที่ความละเอียดจอ 1080p~2K ปรับกราฟฟิคเอาไว้ระดับ High ก็ได้ไม่มีปัญหาแน่นอน

Screenshot 2022 08 26 194608

ในแง่ใช้ทำงานทั่วไป ASUS ROG Zephyrus G14 ทำคะแนนใน PCMark 10 ได้สูงมากถึง 7,301 คะแนน เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่น จะใช้ทำงานทั่วไปอย่างเปิดเบราเซอร์หรือแอพฯ มาทำงาน ตัดต่อวิดีโอแต่งภาพหรือแม้แต่ทำงานเอกสารก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ดังนั้นในแง่การทำงานไม่ว่าจะงานออฟฟิศทั่วไปหรืองานสายครีเอเตอร์ก็ทำได้ดีแน่นอน

g14 1080p

ด้านการเล่นเกม จะเห็นว่า ASUS ROG Zephyrus G14 แม้จะเป็นซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S แต่เมื่ออัพ AMD Chipset Driver และไดรเวอร์การ์ดจอเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ก็เล่นเกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA บนหน้าจอ 1080p ได้สบายๆ ได้เฟรมเรทเฉลี่ยสูงมากและยิ่งถ้าเกมไหนใช้เอนจิ้นเอื้อทาง AMD อย่าง Resident Evil Village ก็จะได้เฟรมเรทสูงเป็นพิเศษด้วย

ประสบการณ์การเล่นเกมด้วย ASUS ROG Zephyrus G14 บทความละเอียดจอ 1080p ใช้คำว่า “แรงเหลือเฟือ” ได้อย่างเต็มปาก ด้วยพลังของ Ryzen จับคู่กับ Radeon ทำให้ภาพของเกมลื่นไหลต่อเนื่องรวมทั้งโหลดฉากได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่เห็นการเรนเดอร์แผนที่ต่อหน้าเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางเครื่องเลย โดยเฉพาะ SCUM ถ้าเครื่องไม่แรงพอ เฟรมเรทเฉลี่ยก็จะไม่เกิน 60 Fps และบางครั้งก็จะมีอาการโหลดแผนที่สดๆ ให้เห็นด้วย แต่ Zephyrus G14 ไม่มีอาการนี้แม้แต่น้อย ด้านของ Apex Legends ก็สามารถเรนเดอร์ฉากตอนเล่นได้เร็วทันใจ กวาดเมาส์เร็วๆ เพื่อไล่ตามเป้าหมายก็ไม่มีอาการภาพฉีกหรือเกิดอาการเฟรมเรทตกเลย ดังนั้นสรุปได้ว่า ROG Zephyrus G14 สามารถเล่นเกมบนจอความละเอียด 1080p ได้สบายๆ

g14 native

หากขยับมาความละเอียด WQXGA ที่ 2560×1600 พิกเซลซึ่งเป็นความละเอียดดั้งเดิมของจอนี้ (Native Resolution) จะเห็นว่า Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S ก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ถึงจะเทียบกับ 1080p แล้วเฟรมเรทจะลดลงไปบ้างแต่ยังเล่นได้ดีและลื่นไหลอยู่ แต่สำหรับ Resident Evil Village ก็ยังเป็นข้อยกเว้นอยู่ดี เนื่องจากการตั้งกราฟฟิคในเกมยังใช้ประโยชน์จาก AMD FidelityFX เข้ามาเสริมให้เฟรมเรทตอนเล่นเกมยังสูงอยู่เช่นเดิม

ถ้าเป็นเกมอื่นที่ไม่ได้เอื้อทาง AMD เต็มที่อย่าง SCUM การได้เฟรมเรทเฉลี่ย 40 Fps แล้วมีบางช่วงบางตอนเฟรมเรทเพิ่มขึ้นไปแตะระดับใกล้เคียง 60 Fps และยังเสถียรไม่มีการ “เกมเด้ง” หรือภาพหน่วง, กระตุกระหว่างเล่นเกมเลย ด้านของ Apex Legends ก็ยังเล่นได้ไหลลื่นดีไม่มีปัญหา เฟรมเรทสูงและภาพลื่นต่อเนื่องไม่แพ้ตอนเล่นบนความละเอียด 1080p เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสรุปได้เลยว่าสเปค Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S สามารถเล่นเกมบนจอความละเอียด 2K ไม่ว่าจะ QHD หรือ WQXGA ก็เล่นได้สบายๆ

ในส่วนนี้ผู้เขียนขอเสริมให้เกมเมอร์เป็นพิเศษ ว่าถ้าจะต่อหน้าจอเกมมิ่งเข้ากับ ASUS ROG Zephyrus G14 นี้ แนะนำให้ต่อผ่าน HDMI 2.0b ด้านข้างตัวเครื่องก่อนเป็นจอแรก แล้วค่อยต่อจอ 2, 3 ผ่าน USB-C จะดีสุด เนื่องด้วยสเปคของ HDMI 2.0b จะรีดค่า Refresh Rate ได้ดีกว่านั่นเอง และหากผู้ใช้คนไหนอยากทราบว่าตอนนี้ AMD FidelityFX รองรับเกมไหนบ้าง? สามารถดูรายชื่อเกมได้ที่นี่

Screenshot 2022 08 25 002816

Screenshot 2022 08 25 003238
Screenshot 2022 08 25 003224
Screenshot 2022 08 25 003212
Screenshot 2022 08 25 003127
Screenshot 2022 08 25 003119
Screenshot 2022 08 25 003102
Screenshot 2022 08 25 003051
Screenshot 2022 08 25 002843

ด้านซอฟท์แวร์ปรับแต่งและมอนิเตอร์ประจำ ASUS ROG Zephyrus G14 ตัวหลักเป็น ASUS Armoury Crate ซึ่งซอฟท์แวร์นี้ใช้มอนิเตอร์การทำงาน, ปรับโหมดตัวเครื่อง, ตั้งค่าปุ่มมาโครหรือแม้แต่ตั้งเอฟเฟคไฟ AniMe Matrix บนฝาหลังตัวเครื่องได้ด้วย เป็นซอฟท์แวร์ที่ตั้งฟังก์ชั่นการทำงานให้เครื่องนี้ได้ครบเครื่องมาก

ด้านการตั้งค่าตัวเครื่องจะมีเคล็ดลับ 2 แบบ หากต้องการใช้งานทั่วไปแนะนำให้เลือกตรง GPU Mode ให้เป็น Optimized แล้วปล่อยให้เครื่องจัดการตัวเองได้เลย แต่ถ้าทำงานกราฟฟิคหรือเล่นเกมแล้วจะรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องให้สูงสุด ให้เลือกเป็น Ultimate แล้วรีเซ็ตเครื่องหนึ่งครั้ง ก็จะได้เฟรมเรทตอนเล่นเกมสูงขึ้นอย่างแน่นอน

Screenshot 2022 08 25 003253

Screenshot 2022 08 25 003316
Screenshot 2022 08 25 003326
Screenshot 2022 08 25 003344

ด้าน MyASUS จะเป็นซอฟท์แวร์สำหรับตั้งค่าการใช้งานทั่วไปและอัพเดทเฟิร์มแวร์ทั่วไปในตัวเครื่อง ช่วย Optimize การทำงานต่างๆ, มอนิเตอร์ตัวเครื่องและใช้ติดต่อกับทาง ASUS ในกรณีต้องการให้ทีมช่างของ ASUS ช่วยดูแลตัวเครื่องเมื่อเกิดปัญหาได้อีกด้วย

Battery & Heat & Noise

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00010

แบตเตอรี่ของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นลิเธียม โพลีเมอร์ ความจุ 76Wh ขนาดใหญ่โดยวางตัวยาว ขอบทั้งสองฝั่งของแบตเตอรี่ติดกับลำโพงของตัวเครื่อง มีความจุแบบ Typical Capacity 4,920mAh และ Rated Capacity ที่ 4,770mAh ซึ่งความจุนี้ถือว่าให้เยอะกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ใช้งานได้หลายชั่วโมงอย่างแน่นอน

battmon

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ ปิดไฟ RGB, AniMe Matrix, ปรับลดความสว่างหน้าจอให้ลงมาต่ำสุด, เปิดเสียงลำโพง 10% และปรับโหมดตัวเครื่องให้เข้าโหม Silent แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที จะเห็นว่าแบตเตอรี่ 76Wh ก็ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10 ชั่วโมง 19 นาทีทีเดียว โดยปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันหากใช้งานด้วยแบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาในเครื่องจะใช้งานได้ราว 5~7 ชั่วโมง แต่ ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถใช้งานได้นานกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องมาก

อย่างไรก็ตามผู้เขียนมีจุดสังเกตหนึ่ง คือ ก่อนได้ผลทดสอบนี้ ผู้เขียนได้ทดสอบเครื่องตามปกติโดยใช้ชิปเซ็ตไดรเวอร์แบบยังไม่ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่น 3.10.08.506 จะใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้ราว 5 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น แต่เมื่ออัพเดท AMD Chipset Driver แล้ว ก็ได้ระยะเวลาใช้งานนานขึ้นมาก ดังนั้นถ้าใครซื้อ ROG Zephyrus G14 มา ขอให้อัพเดท Chipset Driver ด้วย

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00002
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00001
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00004

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00012
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00011
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00085
ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00086

ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling แบบ Vapor Chamber ผสานโลหะเหลวและระบายความร้อนออกจากเครื่องด้วยพัดลม Arc Flow Fans ด้านหลังและด้านข้างเครื่องฝั่งละ 2 ช่อง ซึ่งชุดระบายความร้อนนี้มีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ภายในตัวเครื่องครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปอย่างทำงานเอกสารก็ไม่มีเสียงรบกวนด้วยฟีเจอร์ 0dB แต่ถ้าทำงานกราฟฟิคหรือเล่นเกมจะได้ยินเสียงพัดลมระบายความร้อนค่อนข้างชัดเจน แต่ข้อดีคือชุด Vapor Chamber นี้ทำงานได้ดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสูงเกินหรือ Throttle Down ลดประสิทธิภาพการทำงานลงเลยแม้แต่น้อย

temp 1

ส่วนอุณหภูมิที่ CPUID HWMonitor วัดได้ตอนทดสอบเล่นเกม จะเห็นว่าซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS (ดูที่ AMD Radeon Graphics ซึ่งเป็นการ์ดจอออนบอร์ดแทน) ได้อุณหภูมิ 48~87 องศาเฉลี่ย 77 องศาเซลเซียส การ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S อยู่ที่ 48~97 องศา เฉลี่ย 78 องศาเซลเซียส ไม่มีตัวเลขติดแดงโชว์ว่าอุณหภูมิร้อนเกินไปเลย และความร้อนที่ลงไปยัง M.2 NVMe SSD ซึ่งอยู่ถัดลงมาก็ไม่สูงมาก เฉลี่ยเพียง 58 องศาเซลเซียสเท่านั้น กล่าวคือ ROG Intelligent Cooling สามารถคุมความร้อนของซีพียูและการ์ดจอได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าเล่นเกมแไปแล้วอุณหภูมิตัวเครื่องจะสูงเกินจนใช้งานได้ไม่ดีไม่เต็มประสิทธิภาพ

User Experience

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00106

ASUS ROG Zephyrus G14 ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ลงตัวทั้งด้านเกมมิ่งก็เล่นเกมได้ดี ทรงพลังเล่นเกมหนักๆ ได้ไม่มีปัญหาและยังใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงและยังชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต USB-C 3.2 ด้านซ้ายของตัวเครื่องได้ ขอแค่มีปลั๊ก GaN กำลังชาร์จเกิน 65 วัตต์ กับสาย USB-C สักเส้นติดกระเป๋าเอาไว้ จะไปนั่งทำงานที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทำงานอย่างแน่นอน แต่ถ้าใช้ทำงานเอกสารหรือเปิดเบราเซอร์ใช้งานตามปกติก็ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คบางเบาหลายรุ่นเลย

ความปลอดภัยตอนใช้งานก็จัดว่าดีมาก เพราะ ROG Zephyrus G14 รุ่นก่อนหน้าไม่มีระบบปลดล็อคตัวเครื่องแบบ Biometric ติดมาให้ แต่รุ่นใหม่นี้ได้กล้อง IR Camera เอาไว้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น Windows Hello เพียงแค่กางจอให้กล้องสแกนหน้าเพียงอึดใจก็ปลดล็อคพร้อมใช้งานได้ทันที เป็นฟังก์ชั่นช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากด้วย

ซึ่งผู้เขียนก็ได้เอาเครื่องนี้ติดไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ก็ยอมรับว่าหน้าตาของมันเรียบร้อยขึ้นไม่ออกเกมมิ่งเกินไป แต่ประสิทธิภาพการทำงานจัดว่ารันโปรแกรมใหญ่กินทรัพยากรหนักๆ ได้ดีมากจนพลอยให้รู้สึกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ รุ่นทำงานช้าลงเสียอย่างนั้น และเรื่องการจัดการพลังงาน ผู้เขียนเลือกตั้งค่าเครื่องให้การ์ดจอทำงานแบบ Optimize แล้วปรับเข้าโหมด Silent เพื่อใช้ทำงานทั่วไป อย่างเปิดเว็บไซต์และทำงานเอกสารก็ใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลุ้มวิ่งหาปลั๊กมาต่อชาร์จเครื่องเลยก็ยังได้ ยิ่งถ้าใครเป็นสายทำงานแบบ Cafe Hopper ทำงานร้านนี้แล้วไปกินข้าวแล้วแวะอีกร้านต่อ มั่นใจว่าแบตเตอรี่ 76Wh ใน ASUS ROG Zephyrus G14 จะพร้อมใช้งานได้ทั้งวันอย่างแน่นอน

ด้านการเล่นเกมด้วย ASUS ROG Zephyrus G14 ถือว่าทรงพลังไม่แพ้สเปคอื่นอย่าง และเป็น AMD Advantage ขอเพียงแค่ลง AMD Chipset Driver และอัพเดทไดรเวอร์การ์ดจอให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ปัญหาจุกจิกไม่ว่าจะเรื่องเฟรมเรทเหวี่ยง, เกมเด้ง, ภาพกระตุกใดๆ ไม่มีให้เห็นตอนใช้งานเลยแม้แต่น้อย เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Desktop Replacement ซื้อเครื่องเดียวต่อจอแยกเล่นเกมหรือทำงานกราฟฟิคหนักๆ ได้เลย และราคา 69,990 บาท ก็ถือว่าไม่แพงไม่ถูกไปอีกด้วย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนก็ประกอบเกมมิ่งพีซีสเปค AMD ล้วนใช้งานเป็นเครื่องหลักอยู่ ก็ขอยืนยันว่าปัจจุบันนี้สเปคซีพียู AMD Ryzen กับการ์ดจอ AMD Radeon นอกจากประสิทธิภาพดี ยังไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจเหมือนในอดีตแล้วด้วย

Conclusion & Award

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00104

หลังจากได้ใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 มาราวหนึ่งสัปดาห์ก็ประทับใจเครื่องนี้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องประสิทธิภาพ, การจัดการพลังงาน, พอร์ตเชื่อมต่อและยังได้กล้องสแกนใบหน้าด้วย เรียกว่าฝั่งฮาร์ดแวร์มีให้แบบครบถ้วน ส่วนซอฟท์แวร์ก็มี Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้แบบครบเครื่อง เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแค่ไม่กี่รุ่นที่ได้ซอฟท์แวร์ครบเครื่องระดับนี้ ถ้าซื้อมาแค่เปิดเครื่องอัพเดทไดรเวอร์ให้ครบก็พร้อมใช้งานทันที

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องลูกเล่นและดีไซน์ตัวเครื่องต้องยกให้ไฟ AniMe Matrix ที่เป็นเอกลักษณ์ของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้กับดีไซน์ ErgoLift Hinge ช่วยยกตัวเครื่องให้เฉียงขึ้นหรือจะกางหน้าจอจนราบไปเลยก็ยังได้ และน้ำหนักเครื่อง 1.69 กิโลกรัม นั้นจัดว่าเบามากเมื่อในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คด้วยกัน ดีต่อคนทำงานหรือเกมเมอร์ที่อยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่ง เป็นจุดตัดที่ลงตัวที่สุด ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองหากจะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่สักเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G14 เครื่องนี้จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกอย่างแน่นอน 

award

NBS award 7 Design

best design

การออกแบบตัวเครื่องที่สวยเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานน้ำหนักเบา เอื้อต่อหลักสรีระศาสตร์ด้วยบานพับ ErgoLift Hinge และน้ำหนักเบาเพียง 1.69 กิโลกรัมนั้นเป็นการดีไซน์ที่ดีมาก และยังมีกล้อง IR Camera ให้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ด้วย จัดเป็นการดีไซน์ที่ใส่ของดีมาให้ครบทุกด้าน

award new Gaming

best gaming

ประสิทธิภาพของ AMD Advantage เมื่อจับคู่ AMD Ryzen 7 6800HS กับ AMD Radeon RX 6700S แล้ว ทำให้ ROG Zephyrus G14 เครื่องนี้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ ปรับกราฟฟิคสูงสุดก็ยังได้เฟรมเรทสูงและลื่นไหล จัดว่าน่าประทับใจมาก

award new Battery Life

best battery life

ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง อยู่ยาวกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่ได้ทดสอบมาก่อนหน้านี้มาก ไม่ต้องกลัวว่าทำงานยังไม่เสร็จแล้วแบตเตอรี่จะหมดก่อน และยังรองรับการชาร์จแบบ Power Delivery กำลังไฟ 65 วัตต์อีก จัดว่าครบเครื่องมาก

from:https://notebookspec.com/web/664268-review-asus-rog-zephyrus-g14

รีวิว Lenovo Legion 5 15IAH7H หัวใจ Intel Gen 12 สุดแรง ฟีเจอร์แจ่มแจ๋วครบเครื่อง ค่าตัว 56,990 บาท

Lenovo Legion 5 15IAH7H รุ่นใหม่หัวใจ Intel Intel Gen 12 มาแล้ว และยังแรงไม่แพ้รุ่นก่อนแน่นอน!

legion5 cover 2

 

Advertisementavw

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะประสิทธิภาพดีและเล่นเกมได้สบายๆ Lenovo Legion 5 15IAH7H ก็เป็นหนึ่งในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเรือธงพร้อมฟีเจอร์ล้นเครื่อง ได้แก่ คีย์บอร์ด TrueStrike ซึ่งได้สัมผัสตอนใช้งานไม่ต่างกับ Mechanical Keyboard พร้อมไฟ RGB เลือกสีได้ตามชอบ, ระบบระบายความร้อนอย่างดีเพื่อระบายความร้อนจากซีพียู Intel 12th Gen และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3000 Series แบบ Max-P รุ่นใหม่ล่าสุดได้อย่างรวดเร็วและได้แรม DDR5 ที่รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ติดตั้งพอร์ตใช้งานมาให้มากมายครบเครื่องทั้ง USB-C, USB-A, HDMI ให้ต่ออุปกรณ์เสริมหรือหน้าจอต่างๆ ได้ครบเครื่อง ยิ่งในตอนนี้ทางบริษัทก็อัพเกรดการเชื่อมต่อไร้สายของ Lenovo Legion 5 15IAH7H ให้รองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ยิ่งขึ้น ทำให้รับส่งข้อมูลไร้สายได้อย่างรวดเร็วและเสถียรยิ่งกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น โปรแกรมติดเครื่องอย่าง Lenovo Vantage ก็สามารถปรับ Overclock การ์ดจอให้รีดเฟรมเรทได้เยอะกว่าเดิมโดยไม่ทำให้การ์ดจอเสื่อมสภาพเร็วเกินไป ได้ลำโพง Nahimic Audio แบบจูนเสียงมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะอีกด้วย

ด้านหน้าจอของ Lenovo Legion เองก็เป็นจุดเด่นเช่นกัน เพราะหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS นี้ สามารถปรับความสว่างได้ 300 nits ไม่พอ ยังได้ค่า Refresh Rate สูงถึง 165Hz จากโรงงาน แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% sRGB ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 รองรับ NVIDIA G-SYNC และเป็นจอ Dolby Vision มันจึงเหมาะทั้งเอาไว้ทำงาน, ดูหนัง, เล่นเกมหรือจะตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ยอดเยี่ยม เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อครีเอเตอร์กลายๆ ก็ไม่ผิดนัก ยิ่งไปกว่านั้น Lenovo Legion 5 15IAH7H ยังคงเอกลักษณ์เรื่องการอัพเกรดเครื่องได้ง่าย รองรับ M.2 NVMe SSD ด้วยอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ได้สูงสุด 2 ช่อง ช่องละ 1TB และตั้งค่า RAID 0 ได้ อัพเกรดแรมจาก 16GB DDR5 บัส 4800MHz ในเครื่องได้สูงสุด 32GB จัดว่ามีความจุเยอะพอใช้ทำงานหรือเล่นเกมได้สบายๆ 

Lenovo Legion 5 15IAH7H

NBS Verdicts

Legion 5 Alder Lake NYX09142

หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีๆ เอาไว้ทำงานและเล่นเกมแบบครบเครื่องอยู่ล่ะก็ Lenovo Legion 5 15IAH7H นับเป็นรุ่นน่าสนใจ สเปคดีระดับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Desktop Replacement ได้อย่างแท้จริง เพราะปัจจุบันนี้ Intel 12th Gen มีประสิทธิภาพดีมาก ทำงานต่างๆ ได้ดีไม่พอ ยิ่งจับคู่กับ NVIDIA GeForce RTX 3060 แบบ Max-P ค่า TGP 140 วัตต์แล้ว จะทำงานตัดต่อวิดีโอ, ทำโมเดล 3D CG หรือเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันนี้ก็เล่นได้สบายๆ ด้วยหน้าจอ 15.6 นิ้ว พาเนล IPS คุณภาพสูงที่ทางบริษัทติดตั้งมาให้ จะใช้บนจอ Lenovo Legion 5 15IAH7H เอง หรือจะต่อหน้าจอแยกก็ได้ และยังอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ในเครื่องให้มากขึ้นไปได้อีก เรียกว่าซื้อมาเครื่องเดียวใช้งานไปได้นาน 3-4 ปีได้สบายๆ

ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาเต็มที่กว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ แบรนด์ เพราะมีทั้ง USB-C แบบ Thunderbolt 4 กับ USB-C 3.2 Gen 2 รอบเครื่องแล้วก็มีมากถึง 3 ช่อง และยังมีพอร์ตใช้งานพื้นฐานครบเครื่องทั้ง USB-A 3.2 Gen 1, HDMI 2.1 และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6E และรองรับ Bluetooth 5.1 ในตัวอีกด้วย นับว่าครบสุดๆ จนไม่น่ามองข้ามเลย ด้านคีย์บอร์ด Legion TrueStrike ก็นับว่าล้ำหน้ากว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร่วมรุ่นหลายๆ ตัว ไม่ว่าจะได้ 100% Anti-Ghosting ป้องกันอาการกดไม่ติดตอนเกมเมอร์รัวปุ่มแล้ว ยังได้ไฟ 4-Zone RGB backlight ให้ความสวยงามถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอนอีกด้วย

ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ จากการใช้งานจริงแต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่จนเสียอรรถรสการใช้งาน อย่างแรกหากเทียบกับตระกูล Legion ด้วยกัน ก่อนหน้านี้จะมี Lenovo Legion Slim 7 ซึ่งติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาตรงปุ่ม Power ของตัวเครื่องแล้ว แต่ Lenovo Legion 5 15IAH7H รุ่นนี้ยังไม่ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าทาง Lenovo ต้องการยกระดับฟีเจอร์ของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คให้สูงขึ้น ก็หวังว่า Legion รุ่นย่อยหรือรุ่นใหม่ๆ จะได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาเป็นมาตรฐานไปเลยจะยอดเยี่ยมขึ้นแน่นอน และพอร์ต USB-C ด้านหลังเครื่อง ถึงจะรองรับ Power Delivery แต่ต้องใช้ปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์ขึ้นไปเท่านั้น ใช้แบบกำลังชาร์จ 65 วัตต์ไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครพกเครื่องไปไหนมาไหนเป็นประจำแนะนำให้หาปลั๊ก GaN 100 วัตต์ ดีๆ ติดกระเป๋ารอเอาไว้ได้เลย

ข้อดีของ Lenovo Legion 5 15IAH7H
  1. ติดตั้งซีพียู Intel Core i7-12700H สถาปัตยกรรม Intel 12th Gen มาให้ ประสิทธิภาพดี ทำงานหรือเล่นเกมก็ได้
  2. ติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แบบ Max-P ค่า TGP 140 วัตต์มาให้
  3. แรมจุ 16GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้มากสุด 32GB DDR5
  4. M.2 NVMe SSD เป็นอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 อัพเกรดได้ 2 ช่อง ช่องละ 1TB ทำ RAID 0 ได้ด้วย
  5. หน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ได้ค่า Refresh Rate 165Hz ลื่นไหล ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
  6. หน้าจอได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision ครบเครื่อง
  7. ได้พอร์ตครบเครื่อง ทั้ง USB-C PD, USB-A 3.2, HDMI รองรับ Wi-Fi 6E ในตัว
  8. มีสวิตช์ E-Shutter สั่งเปิดปิดการทำงาน Webcam ได้เมื่อต้องการหรือไม่อยากใช้งาน
  9. คีย์บอร์ด Legion TrueStrike รองรับ 100% Anti-Ghosting กดหลายปุ่มได้ไม่รวนง่ายๆ
  10. โปรแกรม Lenovo Vantage ตั้งค่าการทำงานได้ดี มีฟีเจอร์ Lenovo Edge รองรับการ Overclock ตัวเครื่องและการ์ดจอรวมทั้งมี AI เสริมการทำงานด้วย
  11. มีคีย์ลัดปรับโหมดเครื่อง 3 แบบ ตั้งแต่ใช้งานทั่วไปจนใช้กำลังสูงสุดด้วยปุ่ม Fn+Q
  12. หน้าจอโน๊ตบุ๊คสามารถกางได้แบนราบ 180 องศา ปรับองศาจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ดี
  13. มีปุ่มลัด Multimedia Key ติดตั้งมาให้ใช้ โดยเซ็ตอยู่เหนือชุด Numpad
ข้อสังเกตของ Lenovo Legion 5 15IAH7H
  1. ยังไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาเหมือนรุ่น Lenovo Legion Slim 7 ที่เปิดตัวมาก่อน
  2. ถ้าจะชาร์จแบตเตอรี่ด้วยปลั๊ก GaN ต้องใช้รุ่นที่กำลังชาร์จ 100 วัตต์ขึ้นไป
  3. ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้นานสุดราว 4 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
  4. หน้าจอยังเป็นความละเอียด Full HD ถ้าเอาความละเอียดจอ QHD ต้องเพิ่มเงิน 1,000 บาท

รีวิว Lenovo Legion 5 15IAH7H

Specification

Lenovo Legion 5 15IAH7H

Lenovo Legion 5 15IAH7H นับเป็นภาคต่อของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเรือธงของทาง Lenovo ซึ่งรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ติดตั้งซีพียู Intel 12th Gen สถาปัตยกรรม Alder Lake มาให้ พร้อมอัพเกรดชิ้นส่วนภายในอีกหลายอย่าง โดยมีรายละเอียดสเปคดังนี้

สเปคของ Lenovo Legion 5 15IAH7H
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด ความเร็ว 3.5-4.7GHz (6P+8E)
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 (6GB GDDR6) Max-P (TGP 140W)
  • SSD : M.2 NVMe 512GB PCIe 4.0
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Monitor : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz, Response Time 3ms ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, VESA DisplayHDR 400, Dolby Vision รองรับ NVIDIA G-SYNC ความสว่าง 300Nits
  • Port : Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 2 รองรับ DisplayPort ทั้งสองช่อง มี 1 ช่องรองรับ Power Delivery 135 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 1 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1
  • Camera : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.4 กิโลกรัม
  • Price : 56,990 บาท (ราคากลาง)

Hardware & Design

Legion 5 Alder Lake NYX09139

Legion 5 Alder Lake NYX09092
Legion 5 Alder Lake NYX09091
Legion 5 Alder Lake NYX09102
Legion 5 Alder Lake NYX09163
Legion 5 Alder Lake NYX09090
Legion 5 Alder Lake NYX09116

ดีไซน์ของ Lenovo Legion 5 15IAH7H รุ่นใหม่นี้ จะยังอิงดีไซน์จาก Legion รุ่นก่อนหน้ามาเหมือนเดิม แต่ทางบริษัทเลือกอัพเกรดภายในตัวเครื่องให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยเป็น Intel 12th Gen จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แบบ Max-P และติดสติกเกอร์ของ Intel, NVIDIA เอาไว้ขอบที่พักข้อมือฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาเป็นสติกเกอร์บอกคีย์ลัด Fn+Q สำหรับปรับโหมดของตัวเครื่อง 3 แบบ ตั้งแต่โหมดเงียบประหยัดพลังงาน, โหมดทำงานปกติ หรือเร่งประสิทธิภาพตัวเครื่องเต็มที่ก็ได้

ด้านของดีไซน์ส่วนอื่นๆ จะคล้ายกับ Lenovo Legion รุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะขอบบนของหน้าจอเหนือ Webcam จะทำเป็นติ่งยื่นขึ้นมาเล็กน้อยให้ใช้มือข้างเดียวกางหน้าจอได้ และทางบริษัทก็บาลานซ์น้ำหนักตัวเครื่องมาได้ดี ไม่มีอาการบอดี้ตัวเครื่องกระดกขึ้นมาแม้แต่น้อยและตัวจอไม่มีอาการสั่นกระพือเวลาปล่อยมือเลยแม้แต่น้อย ส่วนนี้ต้องยกความดีให้กับฐานบานพับหน้าจอแข็งแรง แน่นและเป็นวัสดุอลูมิเนียมอีกด้วย ส่วนขอบบนของตัวเครื่องเหนือคีย์บอร์ดเป็นปุ่ม Power พร้อมไฟสีฟ้าแบบปกติ ไม่ได้เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเหมือน Lenovo Legion Slim 7 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าทางบริษัทจะมีรุ่นย่อยที่ให้ปุ่ม Power แบบรวมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาด้วยในอนาคต จะได้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

Legion 5 Alder Lake NYX09101

การกางหน้าจอ Lenovo Legion 5 15IAH7H นี้สามารถกางได้แบนราบ 180 องศา เทียบชั้นกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานหลายๆ รุ่นในปัจจุบันได้เลย นอกจากจะวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คหรือโต๊ะแล้วปรับองศาจอให้เข้ากับมุมสายตาได้สะดวกแล้ว เวลาทำงานก็สามารถกางหน้าจอแบนราบแล้วแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้สะดวก ไม่ต้องหันเครื่องไปมาก็ได้ เหมาะกับช่วงประชุมงานแล้วต้องแชร์ข้อมูลงานร่วมกันเป็นอย่างมาก

Legion 5 Alder Lake NYX09082

Legion 5 Alder Lake NYX09083
Legion 5 Alder Lake NYX09084
Legion 5 Alder Lake NYX09088
Legion 5 Alder Lake NYX09093
Legion 5 Alder Lake NYX09167
Legion 5 Alder Lake NYX09165

ด้านหลังเครื่อง บริเวณฝาบานพับหน้าจอจะมีเพลตโลโก้ LEGION แบบอลูมิเนียมติดเป็นแนวตั้งเอาไว้ตรงมุมบนซ้ายมือ ส่วนมุมล่างขวาของฝาหลังจอติดเพลตอลูมิเนียมของ Lenovo ไว้อีกหนึ่งจุด ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นขอบตัวเครื่องซึ่งออกแบบให้ยื่นออกมาให้ช่องระบายความร้อนถอยออกมาเหนือคีย์บอร์ดอีกเล็กน้อย มีช่องระบายความร้อนทั้งหมด 4 ช่อง 2 คู่ แยกเป็นคู่หลังและคู่ซ้ายขวาอย่างละชุด ยิงเลเซอร์บอกชื่อพอร์ตต่างๆ เอาไว้ครบถ้วนพร้อมไฟ LED บอกสถานะการชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย ถ้าแบตเตอรี่ยังไม่เต็ม 100% ไฟจะเป็นสีส้มและพอชาร์จเต็มจะกลายเป็นสีขาว ซึ่งการยิงเลเซอร์สกรีนบอกชื่อพอร์ตเอาไว้และหันฟ้อนท์เข้าหาคีย์บอร์ด แม้จะเป็นดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ช่วยให้เจ้าของเครื่องหาพอร์ตที่อยากใช้งานได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น

Legion 5 Alder Lake NYX09077
Legion 5 Alder Lake NYX09079

ด้านใต้เครื่องจะมีช่องนำลมเย็นเข้าไประบายอากาศให้ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 กินพื้นที่ราว 40% ของพื้นที่ฝาใต้ตัวเครื่องทั้งหมด ติดขอบยางกันบอดี้ตัวเครื่องเอาไว้ 3 เส้นด้วยกัน โดยเส้นบนเป็นแถบยาวพร้อมโลโก้ LEGION สลักเอาไว้ตรงกลางและมีแถบยางยาวราว 2 นิ้วติดเอาไว้ขอบล่างด้านซ้ายและขวามือของตัวเครื่องใกล้ๆ กับลำโพงฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ซึ่งชุดระบายความร้อนใหม่นี้ ทางบริษัทออกแบบให้ดึงลมเย็นเข้าไประบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น และล็อคด้วยน็อตหัว Philips Head หรือหัวแฉกเอาไว้ทั้งหมด 10 ตัวด้วยกัน ซึ่งแน่นหนาไม่หลุดง่ายอย่างแน่นอน

Screen & Speaker

Legion 5 Alder Lake NYX09103

Legion 5 Alder Lake NYX09106
Legion 5 Alder Lake NYX09105
Legion 5 Alder Lake NYX09107
Legion 5 Alder Lake NYX09108
Legion 5 Alder Lake NYX09161
Legion 5 Alder Lake NYX09089

หน้าจอของ Lenovo Legion 5 15IAH7H มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แม้ความละเอียดหน้าจอยังไม่เป็น QHD (2560×1440) เหมือน Lenovo Legion รุ่นอื่นที่เปิดตัวเมื่อก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ทาง Lenovo ก็เลือกพาเนลคุณภาพสูงมาติดตั้งให้สมเป็นซีรี่ส์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธง ได้ค่า Refresh Rate 165Hz, Response Time 3ms รองรับ NVIDIA G-SYNC เป็นจอ Dolby Vision ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% sRGB เคลมความสว่างไว้ 300Nits ดังนั้นถ้าใครซื้อมาแล้วจะใช้ทำงานต่างโน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์สักเครื่องก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กันแน่นอน

ด้านกรอบหน้าจอถูกดีไซน์ให้บาง 3 ด้าน คือขอบบนหน้าจอที่ยื่นสูงขึ้นเล็กน้อยตรงโซนกล้อง Webcam ความละเอียด และฝั่งซ้ายและขวาของหน้าจอก็บางลงเพื่อเพิ่มพื้นที่การแสดงผล มีโลโก้ LEGION ยิงเลเซอร์เอาไว้ตรงขอบล่างของหน้าจอด้วย และเมื่อพับหน้าจอลงจะเห็นว่าพาเนล IPS นี้มีคุณภาพดี เพราะยังแสดงสีสันได้ดีไม่เกิดอาการเงาสะท้อนหรือสีเพี้ยนบนหน้าจออีกด้วย

display

gamut 2
gamut profile 1
285771057 10159767339439597 269616527172447066 n

เมื่อ Calibrate หน้าจอด้วย Calibrite ColorChecker Display ด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 จะเห็นว่าหน้าจอของ Lenovo Legion 5 15IAH7H แสดงขอบเขตสีหน้าจอได้กว้างมาก ได้ค่า Gamut coverage 98.6% sRGB, 69.8% Adobe RGB, 73.6% DCI-P3 ได้ Gamut volume ที่ 104.5% sRGB, 72% Adobe RGB, 74% DCI-P3 มีค่าความเที่ยงตรงสีหรือค่า Delta-E อยู่ที่ 0.14~1.11 ซึ่งเมื่อค่า Delta-E <2 เช่นนี้ จัดว่าเที่ยงตรง สามารถนำไปตัดต่อแต่งภาพได้ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์หลายๆ รุ่นอย่างแน่นอน

ความสว่างหน้าจอที่ Calibrite ColorChecker Display เช็คได้ จะสว่างถึง 328.73 cd/m2 จัดว่าสว่างมากไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจากแบรนด์คู่แข่งหลายๆ รุ่น และสว่างกว่าที่ทางบริษัทเคลมเอาไว้ในงานเปิดตัวอีกเล็กน้อย ซึ่งจอนี้จัดว่าสว่างพอสู้แสงแดดนอกอาคารได้สบายๆ ถ้าจะติดเครื่องไปนั่งทำงานชานร้านกาแฟหรือนั่งในห้องแล้วแสงแดดส่องหน้าจอก็สามารถปรับความสว่างสู้ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าใช้ในอาคารหรือออฟฟิศแนะนำให้ปรับความสว่างลดลงมาช่วง 60~70% ก็สว่างพอใช้งานได้สบายๆ แล้ว

Legion 5 Alder Lake NYX09080
Legion 5 Alder Lake NYX09081
Legion 5 Alder Lake NYX09073
Legion 5 Alder Lake NYX09074

ส่วนลำโพงของ Lenovo Legion 5 15IAH7H ตัวนี้จะเป็นลำโพงคู่ กำลังขับข้างละ 2 วัตต์ พอปรับเสียงให้ดังสุด 100% แล้วจะดังราว 83~86dB ดังพอใช้เพื่อความบันเทิงหรือประชุมงานได้อย่างแน่นอน และได้ทาง Nahimic Audio มาปรับจูนเสียงให้เป็นลำโพงสำหรับเกมมิ่ง เลยช่วยให้แยกทิศทางเสียงตอนเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

ส่วนการฟังเพลงต้องถือว่าเสียงลำโพงดังฟังชัด ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องชัดเจนและไม่ทับไลน์เสียงกันอีกด้วย แต่โทนเสียงจะออกไปทางขุ่นนิดหน่อยและเบสไม่ค่อยชัดเจน แรงปะทะเบสไม่ค่อยหนักแน่นอย่างที่ควร ซึ่งถ้าใช้ฟังเพลงทั่วไปไม่ว่าจะป็อป, ร็อค, แจ๊สถือว่าดีพอควร แต่ถ้าเป็นเพลงแนวเน้นเบสหรือใครชื่นชอบการฟังเพลงล่ะก็ แนะนำให้ต่อลำโพงแยกดีๆ สักชุดเสริมเข้าไปจะได้อรรถรสตอนฟังเพลงดียิ่งขึ้น

Keyboard & Touchpad

Legion 5 Alder Lake NYX09117

Legion 5 Alder Lake NYX09118
Legion 5 Alder Lake NYX09119
Legion 5 Alder Lake NYX09113
Legion 5 Alder Lake NYX09111

คีย์บอร์ด TrueStrike ของ Lenovo Legion 5 15IAH7H เป็นดีไซน์แบบ Full-size มีฟีเจอร์เฉพาะตัวคือ 100% Anti-Ghosting ทำให้เกมเมอร์สามารถรัวปุ่มตอนเล่นเกมได้โดยไม่เกิดอาการกดปุ่มแล้วไม่ทำงาน (Ghosting) มีไฟ RGB แบบ 4-Zone RGB Backlight สามารถเปลี่ยนโหมดหรือปิดไฟได้ง่ายๆ โดยกด Fn+Spacebar เพื่อเปลี่ยนโหมดได้ทันที ส่วนขอบล่างของคีย์บอร์ดจะโค้งลงเล็กน้อยให้รับนิ้วได้ดีกว่าเดิม

ด้านสัมผัสตอนทดลองใช้ TrueStrike พิมพ์งานหรือเล่นเกมจัดว่าโดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งหลายๆ รุ่นที่ได้รีวิวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวปุ่มจะไม่ได้อ่อนกดง่ายรัวปุ่มได้เร็ว แต่ได้สัมผัสจะคล้ายกับสวิตช์ Mechanical Keyboard แบบ Tactile เพราะตัวปุ่มค่อนข้างแข็งกดสนุกมือได้สัมผัสแน่น ข้อดีของสวิตช์แบบแข็งเช่นนี้จะช่วยลดโอกาสตอนวางนิ้วแล้วน้ำหนักนิ้วไปทำปุ่มลั่นในจังหวะที่ไม่ต้องการใช้งานได้ ส่วนสัมผัสตอนทดลองพิมพ์งานมั่นใจว่าผู้ใช้ที่ชอบ Mechanical Keyboard สวิตช์ Tactile น่าจะถูกใจอย่างแน่นอน

Legion 5 Alder Lake NYX09133

Legion 5 Alder Lake NYX09120
Legion 5 Alder Lake NYX09128
Legion 5 Alder Lake NYX09124
Legion 5 Alder Lake NYX09125

เลย์เอ้าท์คีย์บอร์ด TrueStrike ของ Lenovo Legion 5 15IAH7H จะเป็นทรง Full-size แต่ทรงคีย์บอร์ดจะไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยปุ่มลูกศรจะยื่นลงมาด้านล่างเล็กน้อยแยกจากเซ็ตปุ่มหลักและชุด Numpad และมีขีด Marking ตรงลูกศรชี้ลงเช่นเดียวกับปุ่ม S, F, J และออกแบบให้ปุ่ม Grave Accent (~) มีขนาดเล็กลงเหลือครึ่งเดียว มีปุ่ม Fn ติดเอาไว้ข้าง Ctrl ซ้ายมือ

คีย์ลัดต่างๆ บนคีย์บอร์ด ได้แก่ FnLock โดยกด Fn+Esc, Multimedia Hotkey เซ็ตรวมกับปุ่ม Home, End, Page Up, Page Down เหนือชุด Numpad และปุ่ม Print Screen มีคำสั่งเรียก Snipping Tool รวมเอาไว้ด้วย ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบเครื่อง แต่สังเกตว่า Lenovo Legion 5 15IAH7H เครื่องนี้ยังไม่มีคำสั่ง Windows Lock ติดตั้งมาให้ แต่ทางบริษัทออกแบบให้ปุ่ม Windows ไปติดกับปุ่ม Alt แทน ทำให้โอกาสไปโดนปุ่ม Windows ลดลงไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็หวังว่าทาง Lenovo จะพิจารณาเพิ่มฟังก์ชั่นนี้เข้ามาให้กับ Lenovo Legion รุ่นถัดๆ ไปด้วย

Legion 5 Alder Lake NYX09131

ส่วนของ Function Hotkey ตรงบรรทัดปุ่ม F1-F12 เวลาต้องการใช้งานจะต้องกด Fn ค้างไว้ก่อนถึงจะใช้งานได้ โดยคำสั่งที่ทางบริษัทเซ็ตมาให้จะมีดังนี้

  • F1-F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิดไมโครโฟน
  • F5-F6 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F7 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม
  • F8 – Airplane Mode
  • F9 – Lenovo Smart Key
  • F10 – ปิดการทำงานทัชแพด
  • F11 – เรียกโปรแกรมทั้งหมดขึ้นมาเหมือนกด Windows+Tab
  • F12 – เรียกโปรแกรม Calculator
Screenshot 2022 06 17 143643

Lenovo Smart Key

ในส่วนของคีย์ลัด Lenovo Smart Key ตรงปุ่ม F9 ของ Lenovo Legion 5 15IAH7H เมื่อกดครั้งแรกจะเปิดตัวเป็นการตั้งค่าว่าจะให้ปุ่มนี้ทำงานเช่นใด โดยใช้เรียกโปรแกรม Lenovo Vantage, เรียกการให้บริการแก้ไขตัวเครื่องออนไลขน์, Vantage Toolbar เช็คสถานะการทำงานตัวเครื่องหรือ Preference เรียกโปรแกรมที่ต้องการใช้งานขึ้นมาก็ได้ พอเซ็ตเสร็จแล้วเมื่อต้องการใช้คำสั่งลัดนี้ ให้กด F9 สองครั้งเพื่อเรียกคำสั่งที่ต้องการได้เลย จัดว่าสะดวกใช้ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่าการเซ็ตตั้งค่าให้กด 2 ครั้งเช่นนี้ก็ไม่ผิดแต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคยเพราะคิดว่ากดครั้งเดียวแล้วปุ่ม F9 ต้องเรียกคำสั่งที่เซ็ตเอาไว้ขึ้นมาให้ใช้งานได้เลย จึงอยากแนะนำทางบริษัทว่าหากอัพเดทเฟิร์มแวร์ใหม่ อยากให้ปรับการทำงานโดยกดครั้งแรกเป็นการเซ็ตปุ่ม F9 ตามที่ต้องการ พอกดเซฟการตั้งค่าแล้วให้ระบบเปลี่ยนเป็นกดครั้งเดียวเปิดคำสั่งนั้นทันที แล้วถ้าต้องการตั้งค่าปุ่ม F9 ใหม่ ให้กด 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าต่าง Lenovo Smart Key ขึ้นมาอีกครั้งจะดีกว่า

Legion 5 Alder Lake NYX09136
Legion 5 Alder Lake NYX09135

ทัชแพดของ Lenovo Legion 5 15IAH7H มีขนาดใหญ่รองรับคำสั่ง Gesture Control ของ Windows ครบถ้วน ติดตั้งเอาไว้ตรงกลางที่วางข้อมือซ้ายขวา กว้างจนเกือบจรดปุ่ม Alt ทั้งสองฝั่ง จากที่ทดลองเล่นเกมดูแล้วมือของผู้ใช้แทบไม่โดนปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดเลย ทว่าสันมือกลับพาดอยู่บนทัชแพดแบบเลี่ยงไม่ได้และอาจจะเกิดอาการทัชแพดลั่นหากไม่กดปิดทัชแพดทิ้งเสียก่อน ดังนั้นถ้าใช้งานตามปกติอาจจะเปิดทัชแพดเอาไว้แล้วปิดตอนเล่นเกมจะดีกว่า

Connector / Thin & Weight

Legion 5 Alder Lake NYX09086

Legion 5 Alder Lake NYX09095
Legion 5 Alder Lake NYX09098
Legion 5 Alder Lake NYX09099

พอร์ตและการเชื่อมต่อของ Lenovo Legion 5 15IAH7H นับว่าให้มาเยอะครบเครื่องเสมอ และมีสวิตช์ E-Shutter ปิดการทำงานกล้อง Webcam ติดตั้งมาให้ปิดเวลาไม่ต้องการใช้งานได้ด้วย โดยการเชื่อมต่อทั้งหมดของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มีดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – Thunderbolt 4 รองรับการต่อหน้าจอแบบ DisplayPort 1.4, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับการต่อหน้าจอแบบ DisplayPort 1.4
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, สวิตช์ E-Shutter, USB-A 3.2 Gen 1
  • ด้านหลังเครื่อง – LAN, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับการต่อหน้าจอแบบ DisplayPort 1.4 และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้ ต้องการกำลังไฟ 135 วัตต์, HDMI 2.1, USB-A 3.2 Gen 2 x 2 ช่อง ฝั่งขวาเป็น Sleep&Charge ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยใช้แบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊ค, ช่องแดปเตอร์ดีไซน์เฉพาะของ Lenovo 
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

จะเห็นว่าทางบริษัทติดตั้งพอร์ตมาให้ Lenovo Legion 5 15IAH7H แบบครบเครื่องและไม่หวงเอาไว้เลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะพอร์ตเชื่อมต่อหน้าจอทั้ง HDMI 2.1 และ USB-C 3.2 และ Thunderbolt 4 นับรวมแล้วผู้ใช้สามารถต่อหน้าจอแยกได้ถึง 3 จอพร้อมกัน ซึ่งถ้าใครดูกระดานหุ้นหรืออยากใช้แทนเกมมิ่งพีซีสักเครื่อง ก็สามารถต่อใช้งานได้สบายๆ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แต่จุดสังเกตคือพอร์ต USB-PD นี้ต้องการอแดปเตอร์แบบจ่ายไฟได้ 135 วัตต์ขึ้นไป ดังนั้นปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์อาจจะพอใช้ชาร์จได้ แต่เชื่อว่าจะชาร์จได้ช้าและหากโปรแกรมไหนเรียกใช้การ์ดจอแยกก็คงมีกำลังไฟไม่พอใช้ ดังนั้นถ้าใครจะเซ็ตโต๊ะทำงานไว้รองรับ Lenovo Legion 5 15IAH7H แนะนำให้ลงทุนซื้อ GaN Desktop Charger กำลังชาร์จ 150 วัตต์กับสาย USB-C ที่รองรับกระแสไฟเกิน 100 วัตต์มาเตรียมไว้ได้เลย

Legion 5 Alder Lake NYX09058

Legion 5 Alder Lake NYX09060
Legion 5 Alder Lake NYX09059

น้ำหนักของ Lenovo Legion 5 15IAH7H เมื่อชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วจะหนัก 2.48 กิโลกรัม รวมกับอแดปเตอร์น้ำหนัก 953 กรัมแล้ว จะมีน้ำหนักรวมถึง 3.5 กิโลกรัม ดังนั้นถ้าใครจะใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เครื่องเดียวทั้งเล่นเกมและทำงานด้วยล่ะก็ แนะนำให้ลงทุนกับกระเป๋าเป้ดีๆ สักใบจะได้รับน้ำหนักเครื่องได้ดีและไม่เป็นปัญหาต่อสรีระร่างกายในอนาคตด้วย

Inside & Upgrade

Legion 5 Alder Lake NYX09061

Legion 5 Alder Lake NYX09068
Legion 5 Alder Lake NYX09067
Legion 5 Alder Lake NYX09070
Legion 5 Alder Lake NYX09072

ด้านการอัพเกรดตัวเครื่อง เมื่อขันน็อตหัวแฉกทั้ง 10 ตัวออกจนหมดแล้ว ตัวเครื่องจะมีสลักเกี่ยวฝาใต้เครื่องอยู่อีกหนึ่งชิ้น แนะนำให้เจ้าของเครื่องวางโน๊ตบุ๊คคว่ำหน้าลงแล้วจับฝาท้ายเลื่อนขึ้นไปทางช่องพัดลมระบายความร้อนสักเล็กน้อยจะเปิดเครื่องได้ง่ายยิ่งขึ้น

ภายในเครื่องจะเห็นว่าทาง Lenovo ให้อินเตอร์เฟสสำหรับอัพเกรดโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาครบครัน มีช่องแรม DDR5 แบบ SO-DIMM สองช่อง ปิดเอาไว้ด้วยกรอบโลหะแบบติดคลิปหนีบไร้น็อต ใช้มือดึงขอบกรอบโลหะเบาๆ ก็ถอดอัพเกรดได้แล้ว และรองรับความจุสูงสุด 32GB DDR5 บัส 4800MHz แต่เดิมๆ จากโรงงานก็ได้มา 16GB แล้ว ดังนั้นถ้าใครจะใช้เล่นเกมอย่างเดียวก็สามารถใช้แรมความจุเดิมๆ จากโรงงานไปได้เช่นกัน

ส่วน M.2 NVMe SSD ก็ถูกปิดเอาไว้ด้วยเพลตโลหะแบบขันน็อต 3 จุด แต่เป็นหัวแฉก Philips head ทั้งหมด สามารถขันออกมาอัพเกรดได้ง่ายๆ และมีช่องไกด์สำหรับครอบเพลตโลหะด้วย เป็นการออกแบบเล็กๆ น้อยๆ ที่ใส่ใจผู้ใช้ดีมาก อินเตอร์เฟสของ SSD เป็น PCIe 4.0 x4 ทั้งสองช่อง รองรับช่องละ 1TB และทำ RAID 0 ได้ ซึ่งเจ้าของเครื่องอาจใส่ M.2 NVMe SSD ความจุช่องละ 1TB ไว้ติดตั้งเกมกับโปรแกรมใช้งานหลักๆ หรือทำ RAID 0 เพิ่มความเร็วตอนใช้งานก็น่าสนใจ ซึ่งในส่วนของ SSD ผู้เขียนถือว่าทางบริษัทจัดสเปคมาได้เหมาะสมแล้ว แต่หวังว่าทาง Lenovo จะอัพเกรดให้รองรับช่องละ 2TB ไปเลยจะได้อัพเกรดได้เต็มที่ รองรับอนาคตได้หลายปี

Performance & Software

CPU Z 6 4 2022 7 52 28 PM

CPU Z 6 4 2022 7 52 31 PM
CPU Z 6 4 2022 7 52 41 PM
CPU Z 6 4 2022 7 52 44 PM
CPU Z 6 4 2022 7 52 48 PM

Lenovo Legion 5 15IAH7H นับเป็น Legion รุ่นที่ 7 โดยเครื่องรีวิวติดตั้งซีพียู Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด ความเร็ว 3.5-4.7GHz (6P+8E) สถาปัตยกรรม Alder Lake ทรานซิสเตอร์ขนาด 10 นาโนเมตร มีค่า TDP 45 วัตต์ด้วยกัน โดยตัวซีพียูจะรองรับชุดคำสั่งสำหรับใช้งานครบถ้วน สามารถใช้ทำงานหรือเล่นเกมได้อย่างดี

เมนบอร์ดในเครื่องจะผลิตโดย Lenovo เอง โดยใช้อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 ทำให้เจ้าของเครื่องเลือกใส่ SSD รุ่นใหม่ๆ ที่ความเร็ว Sequential Read/Write สูงได้โดยไม่มีปัญหา ติดตั้งแรมมา 16GB DDR5 บัส 4800MHz จากโรงงาน เป็นความจุที่มากพอใช้ทำงานและเล่นเกมต่างๆ ได้สบายๆ แต่ถ้าต้องทำงานตัดต่อวิดีโอหรืองานหนักๆ แนะนำให้อัพเกรดไป 32GB เลยก็ได้

TechPowerUp GPU Z 2.46.0 6 4 2022 7 50 41 PM

TechPowerUp GPU Z 2.46.0 6 4 2022 7 51 00 PM
tgp 1

กราฟฟิคการ์ดนอกจาก Intel Iris Xe Graphics จะมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 ให้ใช้งานด้วย ตัวการ์ดมี CUDA จำนวน 3,840 คอร์ รองรับ DirectX 12 ค่า TGP 130 วัตต์ สามารถถ่ายเทค่าวัตต์มาเพิ่มประสิทธิภาพเป็น 140 วัตต์ได้ และการ์ดจอทั้งสองตัวในเครื่องรองรับชุดคำสั่งสำหรับใช้งานครบถ้วน ยกเว้นฝั่ง Intel จะไม่มี CUDA, Ray Tracing เหมือนฝั่ง NVIDIA เท่านั้น

device mgr 2

เมื่อเช็คพาร์ทในตัวเครื่อง จะเห็นว่า Lenovo Legion 5 15IAH7H มีชิ้นส่วนใช้งานสำคัญติดตั้งมาให้ครบเครื่อง ไม่ว่าจะชิป TPM 2.0 ที่ Windows 11 ต้องใช้สำหรับรักษาความปลอดภัยและติดตั้ง Wi-Fi PCIe Card เป็น Intel AX 211 รองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax มีแบนด์วิธสัญญาณกว้าง 160MHz ใช้รับส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi ได้เร็วและเสถียร เหมาะทั้งทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน

CrystalDiskMark 8.0.4 x64 Admin 6 4 2022 8 01 13 PM

ส่วน M.2 NVMe SSD ในเครื่องเป็น Samsung MZVL2512HCJQ-00BL2 ความจุ 512GB หรือรหัส OEM ในซีรี่ส์ของ Samsung PM9A1 ประสิทธิภาพจัดว่าเทียบชั้นกับ Samsung 980 Pro อีกด้วย โดยตัว SSD นี้จะเป็นอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 คุมโดยคอนโทรลเลอร์ Samsung Elpis เข้ารหัส AES-256 ในตัว มีความเร็ว Sequential Read 6,900 MB/s และ Sequential Write 5,000 MB/s จัดว่าเร็วไว้ใจได้ เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark ได้ความเร็ว Sequential Read 6,751.10 MB/s และ Sequential Write 4,880.1 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วใช้ได้ใกล้เคียงหน้าสเปค ใช้บูตเกมและโปรแกรมขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนผู้ใช้คนไหนอยากอัพเกรดเพิ่มความจุและความแรงอีกสักนิดก็ยังแนะนำให้อัพเกรดเป็น WD Black SN850, Kingston KC3000, Kingston Fury Renegade ความจุ 1TB จะดีที่สุด เพราะมันใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ได้อย่างเต็มที่

r15 2
r20 2

ส่วนการทดสอบ CINEBENCH R15 เพื่อวัดประสิทธิภาพตอนเรนเดอร์ 3D CG แล้ว จะเห็นว่า Lenovo Legion 5 15IAH7H ทำคะแนน OpenGL ได้ 190.86 fps และ CPU 2,336 cb พอเน้นทดสอบประสิทธิภาพการเรนเดอร์ของซีพียูด้วย CINEBENCH R20 จะได้คะแนน CPU 6,828 pts ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าซีพียู Intel Core i7-12700H ในโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทรงพลัง ใช้ตัดต่อเรนเดอร์ 3D CG, ตัดต่อวิดีโอได้สบายๆ โดยเฉพาะคะแนนของ CINEBENCH R20 เรียกว่าสูสีกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ซีพียู Intel Core i9-12900H บางรุ่นเลย ดังนั้นถ้าใครใช้เล่นเกมอย่างเดียวก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหาแน่นอน

3dmark timespy

ผลการทดสอบ 3DMark Time Spy เพื่อวัดประสิทธิภาพเวลาเล่นเกม จะเห็นว่า Lenovo Legion 5 15IAH7H ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 9,420 คะแนน แม้จะยังไม่แตะหลักหมื่นคะแนน แต่ถ้าดูแยกเป็นหมวดหมู่แล้วจะเห็นว่าคะแนน CPU score สูงถึง 13,116 คะแนน และ Graphics score ได้ไป 8,974 คะแนน พูดได้ว่าซีพียู Intel Core i7-12700H ดึงพลังของ NVIDIA GeForce RTX 3060 ออกมาได้หมดจด ใช้เล่นเกมบนหน้าจอความละเอียด 1080p Full HD ได้สบายๆ หรือจะต่อจอแยกความละเอียด QHD ก็เล่นได้ไหลลื่นแน่นอน

pcmark10 2

ส่วนการทดสอบจำลองสภาพการทำงานด้วยโปรแกรม PCMark 10 ตัว Lenovo Legion 5 15IAH7H ทำคะแนนเฉลี่ยรวมได้สูงมากถึง 7,782 คะแนน และพอดูแยก 3 หมวดการทดสอบจะเห็นว่า Legion 5 เครื่องนี้กวาดคะแนนได้เกินหลักหมื่นคะแนน ไม่ว่าจะเปิดโปรแกรม, เบราเซอร์, ทำงานกับไฟล์เอกสารก็ตาม และยิ่งโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อทดสอบตัดต่อแต่งภาพหรือวิดีโอและเรนเดอร์โมเดล 3D จะทำคะแนนได้สูงเกินหน้าสองหมวดแรกเสียด้วย ดังนั้นถ้าใครคิดจะซื้อ Legion 5 เอาไว้ใช้แบบเหมาหมดทั้งทำงานและเล่นเกม ก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

legion5

สเปคของ Lenovo Legion 5 15IAH7H ที่ติดตั้ง Intel Core i7-12700H คู่กับ NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P ค่า TGP 140 วัตต์แล้ว จะเห็นว่าเกมฟอร์มยักษ์ที่ผู้เขียนหยิบมาทดสอบแบบปรับกราฟฟิคสูงสุดจะได้เฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 60 fps ทุกเกม โดยเฉพาะเกมแนว Battle Royal อย่าง Apex Legends จะทำเฟรมเรทเฉลี่ยทะลุหลักร้อยเฟรมได้สบายๆ หรือจะเกมพอร์ตจากเครื่องคอนโซลเช่น Horizon Zero Dawn ก็เฟรมเรทสูงสุดเกินค่า Refresh Rate ของหน้าจอไปเสียด้วยซ้ำ

ตอนใช้ Lenovo Legion 5 15IAH7H เล่นเกมแทนเกมมิ่งพีซีเพื่อทดสอบและดูประสบการณ์การใช้งาน ต้องถือว่ายอดเยี่ยมจนผู้เขียนกังขากับการประกอบเกมมิ่งพีซีเสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อต่อหน้าจอแยกแล้วก็ได้ประสบการณ์การเล่นเกมและใช้งานไม่ต่างกันกับเกมมิ่งพีซีสักเครื่องเลย โดยเฉพาะเกมที่ต้องใช้ความเร็วอย่าง Resident Evil Village, Apex Legends ไม่เกิดอาการเฟรมเรทหน่วงแม้แต่น้อย สามารถกวาดหน้าจอไปมามองหาและยิงศัตรูได้ทันใจไม่เกิดอาการภาพฉีกขาด ยิ่ง Red Dead Redemption 2 (ตัวย่อ RDR 2) หรือ GTA V นอกจากรายละเอียดฉาก แสงและเงาตกกระทบตัวละครก็ได้ความสมจริง หรือตอนโฟกัสเป้าเล็งเป้าก่อนยิงปืนก็ต่อเนื่อง ไม่เกิดอาการเริ่มจับโฟกัสแล้วภาพตัดเข้าตอนเล็งเป้าเหมือนตอนใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคไม่แรงมากเล่นเกมนี้สักนิด

ดังนั้นเกมเมอร์คนไหนอยากเล่นเกมฟอร์มยักษ์หลายๆ เกมในปัจจุบันนี้แต่พื้นที่ในห้องมีจำกัด อยู่หอพักหรือคอนโดมิเนียมล่ะก็ ผู้เขียนอยากให้ลองเปิดใจให้กับ Lenovo Legion 5 15IAH7H ดู เพราะมันครบเครื่องในตัวมาก เวลาอยู่บ้านอยากเล่นเกมเพื่อผ่อนคลายก็แค่ต่ออแดปเตอร์, หน้าจอแยกและเกมมิ่งเกียร์ก็เล่นเกมได้ พกไปออฟฟิศก็เตรียม GaN Desktop Charger กำลังชาร์จ 150 วัตต์กับสาย USB-C PD เอาไว้ให้ครบ เท่านี้ก็ไม่ต้องประกอบเกมมิ่งพีซีและซื้อโน๊ตบุ๊คแยกเอาไว้ทำงานแล้ว ลดปริมาณอุปกรณ์ส่วนตัวซ้ำซ้อนแล้วเอาเงินไปซื้อของใช้อื่นๆ เพิ่มได้อีกมาก

Lenovo Vantage 6 4 2022 8 43 52 PM

Lenovo Vantage 6 4 2022 8 43 30 PM
Lenovo Vantage 6 4 2022 8 43 15 PM

ส่วนโปรแกรมตั้งค่าและซัพพอร์ตตัวเครื่องอย่าง Lenovo Vantage จะเห็นว่าตัวโปรแกรมเป็นเวอร์ชั่นพิเศษสำหรับตระกูล Lenovo Legion โดยเฉพาะ สังเกตที่แถบคำสั่ง Legion Edge จะมีคำสั่ง GPU Overclock สำหรับโอเวอร์คล็อครีดประสิทธิภาพการ์ดจอได้ โดยในส่วน Advanced Settings ตัว Lenovo Vantage จะเปิดให้ปรับค่าคล็อกของการ์ดจอได้ตามต้องการ สามารถเร่งคล็อกไปได้สูงสุดระดับ 3,000MHz แต่ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้เปิดตามค่ามาตรฐานจากโรงงานก็แรงเพียงพอแล้ว

Battery & Heat & Noise

Legion 5 Alder Lake NYX09069

แบตเตอรี่ของ Lenovo Legion 5 15IAH7H จะวางตัวยาวชิดกับลำโพงทั้งสองฝั่ง เป็นแบบลิเธียมไอออน มีความจุ 80Wh แยกเป็น Typical Capacity ได้ 5,182mAh และ Rated Capacity 5,052mAh จะนับเป็น 78Wh ซึ่งความจุนี้ถือว่าเยอะกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คช่วง 3-4 หมื่นบาทแต่ยังไม่ถึงกับรุ่นเรือธงบางรุ่นที่แตะระดับ 90Wh ขึ้นไป อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเยอะใช้ได้ใช้งานได้หลายชั่วโมงอย่างแน่นอน

battmon

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยปิดไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด, ลดความสว่างหน้าจอให้ต่ำสุดและเปิดลำโพงดังเพียง 10% ปรับโหมดตัวเครื่องเป็น Battery Saver ใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นานต่อเนื่อง 30 นาที จะใช้งานได้นานสุด 3 ชั่วโมง 44 นาที จัดว่าใช้งานได้นานระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึง 5 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าใครจะพก Lenovo Legion 5 15IAH7H ติดไปทำงานนานหลายชั่วโมงหรือจะเอาเข้าคลาสเลคเชอร์ต่อเนื่องหลายชั่วโมงแนะนำให้เตรียมอแดปเตอร์ติดกระเป๋าเสมอ ไม่ให้เครื่องดับกลางอากาศเวลากำลังทำงานหรือประชุมอยู่

Legion 5 Alder Lake NYX09062

Legion 5 Alder Lake NYX09065
Legion 5 Alder Lake NYX09064
Legion 5 Alder Lake NYX09063

Legion 5 Alder Lake NYX09076

ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 จะมีพัดลมโบลวเวอร์ไว้ระบายความร้อน 2 ตัว กับฮีตไปป์ 3 เส้นใหญ่ เสริมฮีตไปป์อีก 1 เส้นเล็กเดินแนวพาดซีพียูและการ์ดจอแยกมายังฮีตซิ้งค์แล้วระบายความร้อนออก 4 ช่องทั้งด้านข้างและหลังตัวเครื่อง ซึ่งตอนใช้งานตามปกติแทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมระบายความร้อนทำงานเลย แต่ตอนเล่นเกมหรือทำงานกราฟฟิคจะได้ยินเสียงพัดลมทำงานดังขึ้นมาชัดเจน

hwmonitor

สำหรับอุณหภูมิของตัวเครื่องเมื่อทดสอบเล่นเกมแล้ววัดด้วย CPUID HWMonitor จะมีอุณหภูมิอยู่ช่วง 47~100 องศา เฉลี่ย 50 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอแยกอยู่ช่วง 52.3~88.4 องศา เฉลี่ย 56.3 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิเมื่อวัดด้วยโปรแกรมอาจจะดูสูงก็จริง แต่ตอนใช้งานจริงกลับไม่ได้ร้อนอย่างที่คิดและไม่เกิดอาการลดประสิทธิภาพตัวเครื่องเมื่ออุณหภูมิสูง (Throttle Down) อีกด้วย ดังนั้นถ้าใครซื้อ Lenovo Legion 5 15IAH7H มาก็ใช้งานไปตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิก็ได้

User Experience

Legion 5 Alder Lake NYX09151

ในฐานะผู้เขียนเป็นเกมเมอร์คนหนึ่ง ถือว่า Lenovo Legion 5 15IAH7H เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง เล่นเกมฟอร์มยักษ์ต่างๆ ได้ดีไม่มีปัญหา ยิ่งถ้าใครมีพื้นที่ใช้สอยน้อยหรืออยู่คอนโดมิเนียมแล้วไม่อยากประกอบเกมมิ่งพีซีล่ะก็ นาทีนี้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เป็นคำตอบที่ลงตัวอย่างแน่นอน ตอนเล่นเกมก็สามารถเล่นได้ยอดเยี่ยม ได้เฟรมเรทไหลลื่นและไม่เกิดอาการร้อนจนประสิทธิภาพตัวเครื่องลดลงแม้แต่นิดเดียว สามารถปรับกราฟฟิคสูงสุดแล้วเล่นเกมได้เลย ด้านคีย์บอร์ด Legion TrueStrike ก็ตอบสนองไวและมีแรงต้านดันนิ้วกลับพอตัว และมีพอร์ตให้ใช้งานครบเครื่องไม่หาอุปกรณ์เสริมอย่าง USB-C Multiport Adapter มาต่อให้เสียเงิน หากใครซื้อ Lenovo Legion 5 15IAH7H มาแล้วก็เอาเงินไปลงกับเกมมิ่งเกียร์ที่อยากใช้ได้เลยและยังได้ประกันตัวเครื่องจากทาง Lenovo คอยซัพพอร์ตอีกด้วย

สเปค Intel Core i7-12700H เมื่อจับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 ได้แรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz และ M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 แล้ว ต้องถือว่าทาง Lenovo จัดสเปคมาได้ลงตัว เวลาเล่นเกมหรือเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานนั้นเร็วแทบจะทันทีทันใด โดยเฉพาะตอนเล่นเกมเรียกว่าไหลลื่นไม่แพ้เกมมิ่งพีซีสักเครื่องหนึ่งเลย และรองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมในอนาคตได้อีกด้วย ผู้เขียนมั่นใจว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ไปได้อีก 3-4 ปี อย่างแน่นอน

กลับกัน แม้ทางบริษัทจะเคลมเอาไว้ว่า Lenovo Legion 5 รุ่นใหม่นี้หนาราว 19.9 มม. แต่ตัวเครื่องก็ยังใหญ่และค่อนข้างหนา มีน้ำหนักราว 2.5 กิโลกรัม พอรวมอแดปเตอร์ก็หนักถึง 3.5 กิโลกรัมอยู่ดี ดังนั้นถ้าใครจะซื้อมาทำงานและพกพาไปไหนมาไหนด้วยรถโดยสารประจำทางล่ะก็ มันจะหนักพกพาไม่สะดวกอย่างแน่นอน ยกเว้นเสียว่ามีรถส่วนบุคคลก็ยังพอทำเนา เวลาใส่กระเป๋าเป้แบกเดินระยะสั้นๆ แค่เข้าออกออฟฟิศก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าเดินเทียวไปมาและหาร้านกาแฟนั่งทำงานก็คงใช้งานได้ไม่เป็นสุขแน่ๆ

ถ้าให้สรุปง่ายๆ ถ้าใครอยากซื้อ Lenovo Legion 5 15IAH7H ไว้ใช้งาน ในมุมของผู้เขียนมองว่ามันเหมาะจะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบบ Desktop Replacement เน้นวางโต๊ะแล้วเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ มากกว่าจะพกไปไหนมาไหน ตอบโจทย์กลุ่ม เกมเมอร์หรือฝ่ายตัดต่อวิดีโอ แต่ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่เดินทางไปไหนมาไหนบ่อยๆ อย่างเซลส์หรือ AE เลย ยกเว้นเสียว่าจะมีพาหนะส่วนตัวเอาไว้ใช้งานก็ยังพอว่า แต่แนะนำให้หันไปหาโน๊ตบุ๊คบางเบาจะดีกว่า

Conclusion & Award

Legion 5 Alder Lake NYX09153

ในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากหลากหลายแบรนด์ในปัจจุบันนี้ Lenovo Legion 5 15IAH7H เป็นอีกตัวเลือกที่ดีจนไม่ควรมองข้ามเลยแม้แต่น้อย เพราะได้สเปคแรง, ฟีเจอร์ครบเครื่องและพอร์ตการเชื่อมต่อทันสมัย รับส่งข้อมูลทั้งมีและไร้สายได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะ Wi-Fi 6E ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เสถียรต่อเนื่องอีกด้วย มันจัดว่าเหมาะกับคนทำงานหนักหรือฮาร์ดคอร์เกมเมอร์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

และแม้ราคาเครื่องนี้จะมีรุ่นย่อยรุ่นตัวเลือกอยู่บ้าง เพราะรุ่นนี้เป็นจอ 15.6 นิ้ว Full HD ถ้าจะเอารุ่นจอ QHD ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,000 บาท จาก 56,990 บาทก็เพิ่มเป็น 57,990 บาท ถ้าใครอยากได้จอความละเอียดสูงขึ้นอีกสักหน่อย จะลงทุนเพิ่มอีกนิดก็คุ้มค่าและค่าผ่อนค่างวดก็ไม่ได้ดีดตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน และสเปคระดับนี้จัดว่าคุ้มจะลงทุนจ่ายแล้วใช้ทำงานหรือเล่นเกมไปได้อีก 3-4 ปี ก็คุ้มค่าอีกด้วย โดยเฉพาะสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์, ฝ่ายศิลป์งานกราฟฟิค, ช่างกล้องนั้นสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอน และไม่ต้องประกอบพีซีก็ยังไหว

award

award new Gaming

best gaming

สเปคของ Lenovo Legion 5 15IAH7H นับว่าแรงพอเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันนี้แบบเปิดกราฟฟิคสูงสุดได้สบายๆ ไปอีก 3-4 ปี จะเล่นที่จอ Full HD ก็ได้ หรือต่อจอ QHD ก็ยังไหลลื่นเช่นกัน จึงคู่ควรกับรางวัล Best Gaming อย่างไม่ต้องสงสัย

award new performance

best performance

นอจากเล่นเกมได้ดีก็ใช้ทำงานได้สบายๆ ด้วยซีพียู Intel Intel Gen 12 ตามที่ได้กล่าวไปในรีวิว ดังนั้นถ้าใครไม่ได้เน้นเล่นเกมแต่หาโน๊ตบุ๊คดีๆ เอาไว้ทำงานหนักๆ สักเครื่องล่ะก็ Lenovo Legion 5 15IAH7H เป็นตัวเลือกที่ลงตัวอย่างแน่นอน

award new Graphic

best graphic

โดยปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คมักให้พาเนลหน้าจอทั่วไปที่ขอบเขตสีไม่ค่อยกว้างและไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร แต่ Lenovo Legion 5 15IAH7H ตรงข้ามกับข้อความข้างต้นทั้งหมด ถ้าใครเป็นช่างกล้อง, คนทำงานอาร์ตหรือตัดต่อวิดีโอล่ะก็ สามารถใช้หน้าจอของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทำงานได้เลย

from:https://notebookspec.com/web/653955-review-lenovo-legion-5-15iah7h