คลังเก็บป้ายกำกับ: จัดสเปคคอม

เช็คสเปคคอมฟรี 2023 อัพเกรดคอม เช็คสเปค อัพเกรด และตรวจสอบง่าย ไม่กี่คลิ๊ก Windows 11

เช็คสเปคคอมฟรี อัพเกรด แก้ปัญหาปี 2023 รู้จักฮาร์ดแวร์ก่อนซ่อม มือใหม่ เทิร์นโปร ก็ทำได้บน Windows

เช็คสเปคคอม

เช็คสเปคคอม จัดเป็นด่านแรกก่อนแกะคอมอัพเกรด ซ่อมหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง เพราะคุณจะได้รู้จักข้อมูลและการเช็ครายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งการเช็คสเปคนั้น มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้และทราบถึงอุปกรณ์ที่มีในเครื่อง หรือเป็นตัวช่วยในการอัพเกรด ยิ่งกรณีที่คุณไม่ได้ซื้อเครื่องมาเอง ได้มาจากคนอื่นบ้าง หรือคิดว่าจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ การเช็คให้มั่นใจ ก็จะทำให้คุณไม่พลาดในการเลือกซื้อ และที่สำคัญยังทราบถึงปัญหา เมื่อเกิดอาการผิดปกติกับคอมที่ใช้อยู่ และแก้ไขได้ถูกจุด เช่นเดียวกับคนที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ก็ช่วยให้ทราบถึงรุ่น เวอร์ชั่นของฮาร์ดแวร์ เพื่อเลือกอัพเดตไดรเวอร์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ไดรเวอร์เมนบอร์ด คอนโทรลเลอร์ต่างๆ รวมถึงการ์ดจอและอื่นๆ ดังนั้นเรามาลองดูกันว่าจะเช็คสเปคคอมอย่างไรได้บ้าง


เช็คสเปคคอม


เช็คสเปคคอมไปเพื่ออะไร?

การเช็คสเปคคอม ถือว่ามีประโยชน์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คทั้งมือโปร และมือใหม่ สามารถใช้ข้อมูลต่างๆ จากการเช็ค มาเพื่อการเลือกซื้อ อัพเกรดและการเช็คความผิดปกติ เรียกว่าครอบคลุมในทุกเรื่องก็ว่าได้ แต่จะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

Advertisementavw
Deepcool cg540 cg560 case 50

1.เช็คเพื่อติดตั้งไดรเวอร์

แม้ว่าในปัจจุบันการอัพเดตไดรเวอร์ จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นแล้ว เพราะบางครั้งก็ใช้ซอฟต์แวร์เมนบอร์ด ช่วยอัพเดตอัตโนมัติ แต่หลายครั้งเราก็ต้องเป็นผู้เลือกดาวน์โหลดไดรเวอร์ด้วยตัวเอง ดังนั้นการรู้จักฮาร์ดแวร์ของตนเอง ว่าเป็นรุ่นใด เวอร์ชั่นไหน การเช็คสเปคคอมของตัวเองได้ในเบื้องต้น ก็ทำให้เราสามารถอัพเดตไดรเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.เช็คเพื่อการเลือกซื้ออัพเกรด

หลายคนได้อุปกรณ์หรือคอมมาจากคนอื่น หรือบางทีก็ซื้อคอมมานาน จนจำไม่ได้ว่าซื้อรุ่นใดมา หรือเริ่มมาชำนาญในภายหลัง จะอัพเกรดคอมเอง การเช็คสเปคคอมได้ ก็ช่วยให้คุณทราบว่า จะซื้อซีพียูรุ่นใด ซ็อกเก็ตไหนมาใช้ แรมเป็นแบบใด และติดตั้งไปเท่าไรแล้ว รวมถึงการเช็คว่าจะเลือกการ์ดจอใหม่ ให้แรงขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างไรนั่นเอง

3.เช็คเพื่อดูความผิดปกติ

การเช็คสเปคคอม ก็ช่วยให้เราเช็คความผิดปกติของคอมได้ อย่างเช่น อยู่ๆ เครื่องช้าลง เดิมเราติดตั้งแรม 16GB เป็น 8GB x2 สล็อต แต่อยู่ๆ ระบบเช็คว่าแรมเหลือแค่ 8GB แสดงว่าอาจเกิดปัญหาจากแรมแถวใดแถวหนึ่งได้ เป็นต้น รวมถึงฮาร์ดแวร์อื่นๆ อีกด้วย


เช็คได้ตั้งแต่ยังไม่เข้า Windows

เช็คสเปคคอม

BIOS เป็นสิ่งแรกที่คุณจะเห็นสเปคคอมได้ง่ายๆ เพราะในนี้ ก็แทบจะเหมือนเช็คฮาร์ดแวร์เบื้องต้นของระบบ โดยจะบอกทุกสิ่งสำคัญ เท่าที่คุณจะทราบได้ ในปัจจุบันใช้งานง่ายขึ้น ในรูปแบบของ UEFI ที่คุณสามารถใช้เมาส์คลิ๊กเพื่อใช้งาน โดยส่วนใหญ่ในหน้าแรก ก็แทบจะรวมหรือ Summary ให้คุณเห็นได้เกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู เมนบอร์ด แคช แรม และ Storage ที่เหลือคุณสามารถคลิ๊กเข้าไปในส่วนของ Advance เพื่อดูเพิ่มได้

สิ่งที่สำคัญของ BIOS นี้ก็คือ ทำให้คุณดูรายละเอียด เช่น แรม Storage ติดตั้งครบตามที่คุณใส่ไว้หรือไม่ หรือเวอร์ชั่นของ BIOS ที่ให้คุณอัพเดตให้ใหม่กว่าเดิมได้ เพื่อรองรับซีพียูรุ่นใหม่ หรือจะใช้แก้ไขบั๊กบางอย่าง เพื่อให้เมนบอร์ดทำงานได้สมบูรณ์กว่าเดิม และการตรวจสอบอุณหภูมิ รอบพัดลม เพื่อเช็คความผิดปกติได้เลย ตรงนี้สำคัญ เพราะบางครั้งการติดตั้งฮีตซิงก์ไม่แน่น ซิลิโคนน้อย หรือการระบายความร้อนไม่ดีพอ ก็เช็คจากตรงนี้ได้ ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบปฏิบัติการนั่นเอง และยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น การปรับแต่งโอเวอร์คล๊อก หรือเปิด-ปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ ของเมนบอร์ดได้อีกด้วย


ดูจาก About

เช็คสเปคคอม

เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณใช้ Windows 11 แล้วอยากจะเช็คว่าซีพียูรุ่นอะไร แรมเท่าไร มาเช็คตรงนี้ได้ ถ้าแรมคุณ 16GB แล้วตรงนี้บอกว่า 8GB แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติ รวมถึงกรณีที่คุณจะอัพเดตไดรเวอร์ อยากรู้ว่าใช้ Windows อะไร เวอร์ชั่นไหน ก็ดูได้จากตรงนี้เช่นกัน

วิธีการเข้าไปใน About ให้คลิ๊กขวาที่โลโก้ Windows แล้วเลือก System แล้วเลื่อนมาด้านล่างสุด คลิ๊กที่ About หรืออีกวิธีหนึ่งกดปุ่มคีย์บอร์ด Win+I แล้วเลือกที่ About ได้เช่นกัน

ดูจาก Device Manager

เช็คสเปคคอม

เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นบนวินโดว์ ที่ให้ข้อมูลของฮาร์ดแวร์ได้แบบฟรีๆ และมีรายละเอียดเกือบครบถ้วน บอกถึงการเป็นฮาร์ดแวร์อะไร รุ่นไหน ซีรีส์ใด รวมถึงรายละเอียดบางรายการ เช่น ซีพียู ก็จะบอกถึง Core/ Thread ได้อีกด้วย และที่สำคัญยังลึกลงไปในรายละเอียด เพื่อให้คุณทราบว่าใช้ไดรเวอร์ เวอร์ชั่นใดอยู่ และการอัพเดตไดรเวอร์ ได้ในฟังก์ชั่นนี้อีกด้วยครับ กับข้อดีต่างๆ เหล่านี้

  • บอกถึงรุ่นฮาร์ดแวร์: ระบุไว้ชัดเจน เช่น ซีพียู Intel Core i5-1135G7 ความเร็ว 2.4GHz และมีกี่ Core/ Thread
  • บอกถึงเวอร์ชั่นและความผิดปกติได้: ซึ่งคุณจะเห็นได้จากเครื่องหมายที่ปรากฏอยู่บริเวณชื่อรุ่นของฮาร์ดแวร์ จะทราบได้ทันทีว่า เปิดใช้งานปกติ หรือถูกปิด หรือเกิดปัญหา จะได้เช็คและแก้ไขได้ทันที
  • เช็คและอัพเดตไดรเวอร์: ตรงนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะคุณจะทราบได้ว่า ฮาร์ดแวร์ควรได้รับการอัพเดตไดรเวอร์หรือไม่ เช่น ไดรเวอร์เก่ามาก ดูจากปีและเวอร์ชั่น ด้วยการคลิ๊กขวาที่ชื่อฮาร์แวร์ แล้วเลือก Properties หากเก่าไป ก็สามารถเลือกที่ Update Driver ได้

สุดท้ายหากฮาร์ดแวร์ที่ใช้อยู่ทำให้เกิดปัญหากับระบบ เช่น ค้าง แฮงก์ จอฟ้า ก็สามารถ Disable Device หรือ Uninstall Driver ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องมือเช็คสเปคคอมที่มีครบเครื่อง แถมยังฟรี ให้การใช้งานได้ครอบคลุมทีเดียว

Control Panel ใช้งานง่าย บอกรายละเอียด และจัดการฮาร์ดแวร์ได้สะดวกแบบฟรีๆ

วิธการเข้าถึง Device Manager หากเป็น Windows 11 หรือ Windows 10 ที่อัพเดตแล้ว ให้คลิ๊กขวาที่รูปโลโก้ Windows ตรง Taskbar ด้านล่างหน้าจอ จากนั้นเลือกที่ Device Manager ได้เลยครับ


ดูจาก System Information

เช็คสเปคคอม

เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยในการเช็คสเปคคอมได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ดูง่ายเหมือนกับ Device Manager แต่ในเรื่องรายละเอียดต่างๆ มีให้อย่างครบครัน มองว่าน่าจะเหมาะกับสายฮาร์ดแวร์จริงจัง หรือบรรดาช่าง ที่จะเข้ามาเช็คข้อมูลเพื่อทำการแก้ไข หรือทีมไอทีซัพพอร์ต ที่จะคอยดูแลความเรียบร้อยให้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป เพราะหลักๆ จะเป็นการบอกรายละเอียดในเชิงลึก เช่น Hardware ID, Driver, Type, IP และอื่นๆ ที่ผู้ดูแล จะเข้ามาจัดการสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ รวมถึงการแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดความผิดปกตินั่นเอง

แต่ก็สามารถเข้าไปดูสเปคต่างๆ ได้ เช่น Name, Manufacturing, Type หรือ Description ในหัวข้อฮาร์ดแวร์ต่างๆ ได้ ซึ่งจะมีชื่อ รายละเอียดและไดรเวอร์ ให้ได้ตรวจเช็คกัน

วิธีการเข้าถึง System Information ให้กดปุ่ม Win แล้วพิมพ์ System Information ได้เลย


เช็คสเปคจาก DirectX Diagnostic tool

เช็คสเปคคอม

การเช็คสเปคคอมด้วยฟังก์ชั่นบน Windows การเข้าไปใน DirectX Diagnostic Tool ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเช็คฮาร์ดแวร์เบื้องต้นได้ อย่างเช่น OS เวอร์ชั่น ซีพียู แรม กราฟิก เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับกราฟิก และมัลติมีเดียเป็นหลัก จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับการดูข้อมูลในเชิงลึก และฮาร์ดแวร์อื่นๆ ส่วนวิธีเข้าไปในฟังก์ชั่นนี้ ให้กดปุ่ม Win จากนั้นพิมพ์ “dxdiag” และกด Enter เท่านั้น


Task Manager

Windows Task manager

สำหรับ Task Manager ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของฟังก์ชั่นการเช็คสเปคคอมของเราได้ และยังทำได้ง่ายอีกด้วย แม้ว่าหัวใจหลักจะเน้นไปที่การตรวจเช็ค ดูความผิดปกติ และการจัดการปัญหาของระบบก็ตาม แต่ก็ยังดูได้ว่าฮาร์ดแวร์ หรือสเปคที่ติดตั้งระบบของเรามีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู แรม Storage รวมถึงกราฟิก และ WiFi ซึ่งข้อดีของ Task Manager นี้ ก็มีอยู่มากมาย เช่น

  • Process: ตรวจเช็คได้ว่าระบบของคุณรันโปรแกรมอะไร และใช้ Resource ไปกับสิ่งใดบ้าง หากมีอะไรที่รันระบบของคุณผิดปกติ เช่น ไวรัสหรือซอฟต์แวร์แฝง ก็สามารถเช็คได้จากตรงนี้ หากไม่มั่นใจก็เลือก End Task เพื่อหยุดการทำงานไปได้เลย
  • Performance: สำหรับการเช็คประสิทธิภาพของระบบ ให้คุณมอนิเตอร์ ตรวจเช็คความผิดปกติ หรือโหลดการทำงานของระบบได้ ในปัจจุันลงรายละเอียดได้ลึกถึงระดับ Core/ Thread, Clock speed และ Cache อีกด้วย
  • App History: บอกได้ว่ามีการใช้โปรแกรมใดบ้างแบบย้อนหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีซอฟต์แวร์แปลกปลอมเข้ามาแอบรันบนระบบ และเช็คว่าใช้การเชื่อมต่อด้วยหรือไม่ หากมีจะได้แก้ไขได้ทัน
  • Startup App: มีหลายโปรแกรมที่เปิดขึ้นมาพร้อมกับระบบ หากคุณไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะอาจทำให้ระบบเปิดช้า หรือบางโปรแกรมก็ทำงานเบื้องหลัง เราสามารถลด Process เหล่านี้ได้ด้วยการ Disable

อยากดูสเปคคอมให้ละเอียดขึ้น ทำอย่างไร?

เช็คสเปคคอม

อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ฟังก์ชั่นบนวินโดว์ให้ผลในการเช็คสเปคคอมแค่เบื้องต้นเท่านั้น แม้ว่าบางฟังก์ชั่น จะมาพร้อมการปรับแต่ง อัพเดตหรือลงลึกในส่วนของฮาร์ดแวร์ได้ แต่เรื่องของอินเทอร์เฟส ก็ไม่ได้ง่ายและสะดวกมากนัก หากคุณต้องการจะใช้งานเช่น การเช็คเวอร์ชั่น การดูรายละเอียด และการทดสอบ การใช้ซอฟต์แวร์ในการตรวจเช็ค ดูจะทำได้ง่ายกว่า และช่วยให้การเพิ่มประสิทธิภาพทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เราไปดูกันครับว่า มีซอฟต์แวร์ตรวจเช็คสเปคคอมแบบไหนน่าใช้บ้างและแบบฟรีมีมั้ย?


เทียบสเปคคอมใน Notebookspec.com

และถ้าคุณอยากจะทราบข้อมูลของฮาร์ดแวร์ หรือต้องการเปรียบเทียบสเปคของอุปกรณ์ ในหน้าจัดสเปคคอมของทาง Notebookspec.com สามารถให้คุณเช็ครายละเอียด สเปค พร้อมกับราคาของฮาร์ดแวร์แต่ละรุ่นได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการจัดอันดับของฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้น ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

Notebookspec pc spec 1

จากตัวอย่างด้านบนนี้ คุณสามารถเลือกดูรายละเอียด สเปคของซีพียู ราคาและการรับประกัน พร้อมกับตัวเปรียบเทียบของซีพียูในรุ่นใกล้เคียงกันได้ เพื่อใช้ในการพิจารณา ก่อนจะจัดสเปคและสั่งซื้อได้จากในเครื่องมือนี้ หรือต้องการเข้าไปดูสเปคคอมที่หลายคนจัดเอาไว้ ก็มี Ranking หรืออันดับของสเปคที่ได้รับความนิยมเอาไว้ให้ชมด้วย เผื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดสเปคกันต่อไป

Notebookspec pc spec Rank

CPUz

เช็คสเปคคอม

CPUz ถือว่าเป็นซอฟต์แวร์เช็คสเปคคอมฟรี ตัวเริ่มต้นได้ดีทีเดียว เพราะบอกรายละเอียดได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ร่น ซีรีส์ เวอร์ชั่น และการทดสอบ รวมถึงยังบอกได้ตรง แม้จะเป็นซีพียูรุ่นใหม่ๆ ก็ตาม มักจะมีให้อัพเดตเป็นรายแรกๆ

จุดเด่นของ CPUz คือ ใช้ง่าย เป็นไฟล์ติดตั้งขนาดเล็ก แต่บอกรายละเอียดทั้ง ซีพียู เมนบอร์ด ชิปเซ็ต แรมและกราฟิกได้ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูแบบง่ายๆ ได้อีกด้วย ในแท็ปของ Bench ให้คุณวัดประสิทธิภาพของซีพียูในระบบ กับซีพียูรุ่นอื่นๆ ได้ เป็นการช่วยตัดสินใจในการอัพเกรดซีพียูได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังช่วยให้มือใหม่หรือมืออาชีพ สามารถเช็คได้ว่า อุปกรณ์ที่ติดตั้งลงไป หรือที่เคยใช้งานอยู่ ยังเป็นปกติดีหรือไม่ เช่น แรมหาย สล็อตแรมเสีย ก็เช็คได้เลยว่าครบหรือไม่ ความเร็วลดลงหรือเปล่า เพราะบางครั้งตั้งค่า Intel XMP หรือ AMD EXPO เมื่อเกิดความเสียหายที่แรม ก็อาจจะทำให้ความเร็วลดลงได้เช่นกัน

ดาวน์โหลด: CPUz


GPUz

เช็คสเปคคอม

GPUz ก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งในการเช็คสเปคคอมที่น่าสนใจ รับหน้าที่สำหรับกราฟิกการ์ด หรือการ์ดจอเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใช้หลากหลาย ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพราะมีข้อมูลสำคัญของการ์ดจอ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อรุ่น GPU กระบวนการผลิต ไบออส รวมถึงลงลึกถึงชุดโครงสร้างภายใน เช่น Shader, CUDA, Clock, Memory หรือจะเป็น Memory Type ก็ตาม

ประโยชน์ของ GPUz นอกจากจะบอกรายละเอียดของกราฟิกการ์ดได้ละเอียดแบบลงลึกแล้ว ยังมีฟีเจอร์ในการตรวจเช็คว่า การ์ดจอรุ่นนั้น มีการปรับเปลี่ยน แก้ไขหรือดัดแปลงมาหรือไม่ โดยจะบอกเป็น Fake Graphic อยู่บนโลโก้ด้านขวาของซอฟต์แวร์ หรือจะเช็คจะ BIOS Version ก็ได้ ตรงนี้จะช่วยให้คุณเช็คการ์ดจอมือสองได้ค่อนข้างดีทีเดียว

เช็คสเปคคอม

และสุดท้ายจะสามารถความผิดปกติได้ในแท็ป Sensor ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณนาฬิกา อุณหภูมิ โหลดการทำงาน และแรงดันไฟ เอาไว้เทียบกับการ์ดมาตรฐานโรงงานได้ หรือใครที่กำลังจะอัพเกรดการ์ดจอ ก็นำมาใช้เปรียบเทียบสเปคเบื้องต้นได้เช่นกัน

ดาวน์โหลด: GPUz


CPUID HWMonitor

เช็คสเปคคอม

CPUID HWMonitor เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจเช็คการทำงานของอุปกรณ์เป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้เช็คฮาร์ดแวร์และสเปคคอมได้อีกด้วย เพราะสามารถบอกรายละเอียดของฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งมาบนพีซีหรือโน๊ตบุ๊คได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู แรม Storage กราฟิกการ์ด และเมนบอร์ด

จุดเด่นของซอฟต์แวร์นี้อยู่ที่การตรวจเช็ค โดยเฉพาะการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ คือ คุณสามารถดูสถานะของระบบได้ ณ ตอนนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว ความจุ อุณหภูมิ แรงดันไฟ ทำให้ตรวจเช็คความผิดปกติได้ง่าย ซึ่งมีผลต่อการใช้งานหลายประเภท

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ดูสถานะของฮาร์ดแวร์ ทำงานปกติดีหรือไม่ ได้ของตรงรุ่นหรือเปล่า คนที่ซื้อของมือสอง เช็คได้ว่า มีความร้อนเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงได้ ของที่ได้ตรงรุ่นกับที่จำหน่ายในตลาดมั้ย นักโอเวอร์คล็อก ก็เช็คได้ว่าได้ผลดีต่อระบบหรือไม่ ความเร็วเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้มั้ย หรือคนที่เน้นความปลอดภัย ก็สามารถเช็คความร้อนได้ ร้อนเกินไปก็ทาซิลิโคนใหม่ หรือต้องเปลี่ยนฮีตซิงก์ ก็เช็คได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ดาวน์โหลด: CPUID HWMonitor


CrystalDiskInfo

เช็คสเปคคอม

ถ้าคุณมองว่าการตรวจเช็คฮาร์ดแวร์ควรจะครอบคลุมอุปกรณ์ในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เพียงซีพียู แรม การ์ดจอ หรือเมนบอร์ดเท่านั้น ส่วนของ Storage อาจจะหาโปรแกรมที่ช่วยดูหรือจัดการได้ค่อนข้างยากทีเดียว ยิ่งต้องให้เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ดูง่าย จัดการสะดวกด้วยแล้ว CrystalDiskInfo ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

หน้าที่ของโปรแกรมนี้ คือการเช็คสเปค Storage โดยเฉพาะ SSD ที่สามารถบอกรายละเอียดได้แบบลงลึก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบรนด์ ความจุ อินเทอร์เฟา หรือจะเป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน Storage ชิ้นนั้นๆ

แต่ที่น่าสนใจคือ คุณสามารถเช็คระยะเวลาในการใช้งานของ SSD เพื่อประเมินระยะเวลาการทำงาน เผื่อเอาไว้สำหรับการสำรองข้อมูลได้อีกด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความเสียหาย รวมถึงการรายงานอุณหภูมิของอุปกรณ์ ว่ามีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่ เพราะบางครั้งการติดตั้งใกล้กับจุดที่เกิดความร้อนสูง หรือ SSD ทำงานหนัก ก็ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลได้เช่นกัน ซอฟต์แวร์นี้สามารถใช้คู่กับซอฟต์แว์ทดสอบประสิทธิภาพอย่าง CrystalDiskMark ในการเช็คความเร็วการทำงานของ SSD ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลด: CrystalDiskInfo


OCCT

เช็คสเปคคอม

OCCT จัดเป็นซอฟต์แวร์เอนกประสงค์ของคอมที่คุณใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะมาพร้อมกับระบบตรวจเช็คครบครัน ไม่ใช่แค่เพียงการดูสเปคอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพ และการมอนิเตอร์ฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สัญญาณนาฬิกา อุณหภูมิ แรงดันไฟ รอบพัดลมและโหลดการทำงาน ให้มาครบเลยทีเดียว

จุดเด่นที่น่าสนใจของซอฟต์แวร์นี้ อยู่ที่การตรวจเช็คฮาร์ดแวร์ได้ครบเครื่อง โดยในส่วนของการบอกสเปค OCCT บอกได้ตั้งแต่ชื่อรุ่น ซีรีส์ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา แรงดันไฟ ทำให้ผู้ใช้มือใหม่ สามารถเช็คการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์ หรืออยากจะเช็คความผิดปกติ เช่น แรงดันไฟสูงเกินไป หรือความร้อนเพิ่มขึ้นแค่ไหน หลังจากที่ปรับแต่ง ก็สามารถทำได้ หรือจะเป็นนักโอเวอร์คล็อก ก็เช็คได้ทั้งความร้อน สัญญาณนาฬิกาที่เปลี่ยนไป และเสถียรภาพ เพราะระบบออกแบบมาให้เช็คด้วยการรันการทำงานของ ซีพียูและกราฟิกการ์ดแบบ Full-load 100% หากระบบทำงานไม่ไหว ระบายความร้อนไม่ทัน ก็จะเห็นได้จากโปรแกรมนี้

ถ้าจะเช็คฮาร์ดแวร์ ดูสถานะ และวัดเสถียรภาพ OCCT คือคำตอบ

OCCT แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือการมอนิเตอร์ หรือเช็คสถานะทั่วไปจะเลือกดูทีเดียวทั้งหมดก็ได้ หรือจะแยกดูแค่บางสถานะบางอย่างก็ได้เช่นกัน โดยจะมีรายงานทั้งแบบตัวเลขและเป็นกราฟ ส่วนที่ 2 จะเป็นโหมดของการทดสอบ เพื่อเช็คสถานะและความเสถียร เมื่อโหลดใช้งานจริง และยังทดสอบประสิทธิภาพของบางฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย อินเทอร์เฟสไม่ยุ่งยากนัก และทำงานได้คล่องตัว

ดาวน์โหลด: OCCT


HWiNFO

เช็คสเปคคอม

อีกหนึ่งโปรแกรมที่อยากจะแนะนำก็คือ HWInfo ซึ่งในบรรดาโปรแกรมเช็คสเปคคอม ต้องถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมาก เพราะรายงานได้ทั้งฮาร์ดแวร์ และสถานะในการทำงานอย่างละเอียด

เช็คสเปคคอม

ละเอียดแค่ไหน เราจะไล่กันทีละจุดเลย เริ่มตั้งแต่การรายงานฮาร์ดแวร์ อย่างเช่น ซีพียู สามารถบอกถึง Stepping และ Code Name รวมถึงเทคโนโลยีภายใน ทำงานบนสัญญาณนาฬิกา ตัวคูณ และบัสเท่าไร บอกได้ชัดเจน ส่วนแรมนั้น บอกระดับค่า CL บนสัญญาณนาฬิกาที่ต่างกันได้ รวมถึงค่า Timing และ Mode ในแบบเรียลไทม์ ส่วนการ์ดจอยังบอกรุ่น โมเดลและ VRAM ได้

HWiNFO โปรแกรมแนะนำสำหรับคนที่ชอบส่องฮาร์ดแวร์ เช็คสถานะ และตรวจสอบหลังการโอเวอร์คล็อก ดูความผิดปกติ ใช้ง่าย รายละเอียดเยอะ

แต่อีกส่วนหนึ่งก็ทำหน้าที่เป็น Hardware monitor ได้อย่างละเอียดอีกด้วย และที่น่าสนใจก็คือ ทำงานในแบบเรียลไทม์อีกด้วย เพราะบอกสถานะปัจจุบัน สูงสุด ต่ำสุด และค่าเฉลี่ย ทำให้ผู้ใช้ ที่ต้องการตรวจเช็คผลจากการปรับแต่ง นักโอเวอร์คล็อก หรือเช็คความผิดปกติ ใช้ประโยชน์จากโปรแกรมนี้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ดาวน์โหลด: HWiNFO


Conclusion

จุดเด่น
About ใช้งานง่าย บอกข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ได้
Device Manager บอกรายละเอียด โมเดลฮาร์ดแวร์ และใช้จัดการไดรเวอร์ได้
System Information บอกข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
DirectX Diagnostic tool ใช้ดูรุ่นฮาร์ดแวร์ และเวอร์ชั่นของไดรเวอร์ได้
Task Manager ดูรุ่น และสถานะในการทำงานได้เกือบทั้งหมด
CPUz บอกรายละเอียดฮาร์ดแวร์สำคัญในเครื่องได้
GPUz เน้นไปที่รายละเอียดของการ์ดจอเป็นหลัก
CPUID HWMonitor แจ้งสถานะการทำงานของฮาร์ดแวร์ อุณหภูมิ แรงดันไฟ พัดลม
CrystalDiskInfo บอกรายละเอียด สถานะ และข้อมูลของ SSD
OCCT ตรวจเช็ค ดูสถานะ ทดสอบฮาร์ดแวร์ได้
HWInfo บอกรายละเอียดได้เกือบครบ ลงลึกและเช็คสถานะได้

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการเช็คสเปคคอมสำหรับผู้ใช้ทั้งมืออาชีพหรือมือใหม่ ที่จะเริ่มต้นกับการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ หรือการดูแลคอมของตนให้เรียบร้อยอยู่เสมอ หากคุณไม่ได้คิดว่าจะลงลึกในข้อมูลเทคนิคมากนัก ฟังก์ชั่นบนวินโดว์ อย่างเช่น About, Task Manager หรือ Device Manager ก็เพียงพอ แต่ถ้าจะอยากได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อการอัพเกรด CPUz, GPUz, HWMonitor ก็ใช้งานได้ดีแล้ว แต่ถ้าต้องการตรวจเช็ค ทดสอบแนะนำ OCCT, CrystalDiskMark ก็ถือว่าใช้งานได้ดีพอสมควร เหมาะกับกลุ่มใช้งานทั่วไป รวมถึงช่างคอม และนักโอเวอร์คล็อกก็ใช้ได้เช่นกัน แล้วแต่ความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฮาร์ดแวร์อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ให้เลือกใช้กันอีกด้วย

from:https://notebookspec.com/web/690480-free-check-pc-spec-2023-windows-11

Advertisement

คอมช้า คอมกระตุก จอฟ้า จบใน 7 ขั้นตอนฟรี! คอมลื่นเหมือนใหม่ 2023

คอมช้า คอมกระตุก 2023 รีสตาร์ท เปิดคอมใหม่ก็เป็น จบใน 7 ขั้นตอน มือใหม่ทำตามได้

solve pc slowly and crash 2023 cov

คอมช้า คอมกระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ 7 วิธีนี้ช่วยลดปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมเก่าใช้มานาน หรือคอมใหม่เพิ่งซื้อ ก็อาจเกิดอาการช้า หรือจอฟ้า BSOD ได้เช่นกัน แต่ถ้าหาต้นเหตุของอาการได้ ก็แก้ไขได้ไม่ยาก แต่อาจจะต้องมีขั้นตอนวิธีในการเช็ค ว่าเกิดจากฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดยในบางกรณีอาจเกิดจากปัญหาเล็กๆ เช่น ไดรเวอร์ หรือการติดตั้งฮาร์ดแวร์ผิดปกติเท่านั้น เมื่อแก้ไขก็กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม อาการเหล่านั้นก็หายไป ดังนั้นมาลองดูกันครับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้คอมคุณช้า กระตุกหรือทำงานไม่ได้ตามปกติ ต้องทำอย่างไร กับวิธีง่ายๆ เหล่านี้

คอมช้า คอมกระตุกจบปัญหาใน 8 ขั้นตอน


แก้ปัญหาคอมช้า

ปัญหาคอมช้า คอมอืด กระตุกหรือหนักขึ้น จนเกิดอาการจอฟ้า BSOD สิ่งเหล่านี้ อาจจะต้องเริ่มที่การแก้ไขในแบบที่เราคุ้นเคย หรือสามารถทำได้ก่อน เช่น การใช้ฟีเจอร์จากบน Windows มาช่วยในการปรับปรุงแก้ไข และค่อยๆ ใช้ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์เข้ามาลองปรับเปลี่ยนตามลำดับ อย่างไรก็ดีการปรับลดหรือเพิ่มในฟังก์ชั่นบางอย่าง ก็มีส่วนช่วยลดอาการได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วควรทำควบคู่กันไป ตามอาการที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้

Advertisementavw

โซลูชั่นแก้ปัญหาคอมช้า คอมกระตุก แบบเร่งด่วน

เริ่มจากการเช็ค สแกน > อัพเดต > ตรวจสอบระบบฮาร์ดแวร์ > อัพเกรดหรือเปลี่ยน


1.ปิดโปรแกรมที่ไม่ใช้บ้าง

หลานท่านชอบใช้งานคอมหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น พร้อมกับทำงานเอกสาร และเปิดเพลงฟัง หรือบางคนก็อาจจะแต่งภาพ ไปพร้อมๆ กับการดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงเปิดเว็บไซต์หาข้อมูล หรือใช้ในการโอนถ่ายไฟล์งานต่างๆ สิ่งเหล่านี้ หากเป็นคอมที่สเปคกลางๆ ขึ้นไป เช่น ซีพียูระดับ Intel Core หรือ AMD Ryzen มีแรม 8GB หรือมากกว่า การทำงานระดับนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่ถ้าเป็นคอมที่สเปคไม่แรง หรือเป็นรุ่นเก่า ใช้งานมานาน ใช้งานระดับนี้ก็อาจกระตุกหรือค้างได้ในบางจังหวะ

คอมช้า

สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ ลองเช็คดูว่าคุณใช้งานโปรแกรมเยอะเกินไปหรือไม่ รวมถึงเปิดใช้เว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Chrome หรือ Microsoft Edge มากเกินไปหรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่า เมื่อเปิดแต่ละแท็ปหรือแต่ละหน้าต่าง ก็ใช้แรมเพิ่มมากขึ้น หากคุณมีแรมน้อย ก็ย่อมส่งผลทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เลย

วิธีการแก้ไข

คอมช้า
  1. ปิดโปรแกรม ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้น
  2. เข้าไปดูใน Startup program ด้วยการกด Ctrl+Shift+Del ปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังออก
  3. ปิดแท็ปหรือหน้าต่างหรือเว็บไซต์บนเว็บเบราว์เซอร์ เหลือไว้เท่าที่ใช้งาน
  4. รีสตาร์ทระบบ เพื่อเคลียร์สิ่งต่างๆ ให้เหลือพื้นที่แรมเพิ่มขึ้น

2.ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD เต็มหรือเปล่า

เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนก็ว่าได้ เก็บข้อมูลไฟล์ ลงเกม ติดตั้งโปรแกรมเพลิน จนลืมไปว่าแทบไม่เหลือพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้ว ยิ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางรุ่น มี SSD มาให้น้อยมาก ลงโปรแกรมที่จำเป็นกับเก็บข้อมูลส่วนตัวไว้อีกหน่อย ก็เกือบจะเต็มพื้นที่อยู่แล้ว เป็นแบบนี้ใช้งานไม่นาน คอมหรือโน๊ตบุ๊คก็ช้าลงได้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้จัดการไฟล์ ระบบไม่สามารถทำงานได้ตามปกตินั่นเอง

คอมช้า

สิ่งที่ต้องแก้ไข ก็คงต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมของผู้ใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรพื้นที่เก็บไฟล์ การเคลียร์ไฟล์ที่ไม่จำเป็น ลดโปรแกรมที่ไม่ใช้ รวมไปถึงเกม และยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้คุณได้พื้นที่เก็บข้อมูลกลับมา

วิธีการแก้ไข

  • เคลียร์ไฟล์ขยะและ Temporary file หรือไฟล์ตกค้างจากการทำงานของ Windows ที่ไม่ได้ลบทิ้ง
  • ให้เข้าไปที่ Disk Cleanup เลือกไดรฟ์ C: จากนั้นใส่เครื่องหมายหน้ารายการต่างๆ เลือก OK แล้ว Clean up ได้เลย จะลดไฟล์เหล่านั้นไปได้อีกหลาย GB เลยทีเดียว
  • ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้ออกไป ด้วยการเข้าไปที่ Program & Feature จากนั้น Uninstall or change a program แล้วเลือกโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน หมดอายุ หรือเป็นโปรแกรมเก่า ที่ไม่ได้ใช้มาเนิ่นนานออกไป ด้วยการ Remove จะได้พื้นที่กลับมาในระดับ GB หรือมากกว่า 10GB เลยทีเดียว
  • เกมที่ไม่ได้เล่น ไม่ว่าจะติดตั้งโดยตรงหรือลงผ่าน Game Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Steam, Origins หรือ EPIC เป็นต้น ลบโดยตรงจากโปรแกรมได้เลย ตรงนี้ใครที่เล่นเกมใหญ่ๆ จะได้คืนมาระดับ 100GB เลยทีเดียว
  • ลบไฟล์ซ้ำๆ ออกบ้าง เพราะบางคนเก็บไฟล์เดียวกัน แต่เอาไว้หลายที่ เพราะไม่ได้วางแผนจัดเก็บที่ดี ทำให้กลายเป็นไฟล์ขยะ เปลืองพื้นที่บน Storage อย่างมากเลย วิธีลบถ้าทำแบบ Manual ไม่ได้ ก็เลือกใช้โปรแกรมที่ใช้ลบไฟล์ซ้ำ เช่น Duplicate file Cleaner, AllDup หรืออื่นๆ ตามที่พอหาได้
  • แต่ถ้าสุดท้ายอั้นไม่ไหว ไม่อยากลบ เพราะมีแต่ไฟล์ที่จำเป็น ก็ลองขยายพื้นที่จัดเก็บ เช่น การเปลี่ยน SSD, เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ หรือจะใช้แบบจัดเก็บข้อมูลต่อภายนอก และสุดท้ายคือ ใช้บริการ Cloud Storage ก็ได้เช่นกัน
อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย
SSD 1TB เริ่ม 2,900 บาท
ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 1TB เริ่ม 1,000 บาท
External HDD 1TB เริ่ม 1,400 บาท
External SSD 1TB เริ่ม 3,300 บาท
Cloud storage MEGA ฟรี 20GB
Google One ฟรี 15GB
iCloud ฟรี 5GB
Dropbox ฟรี 2GB
Google One 2TB, 350 บาท/ด
iCloud 2TB, 349 บาท/ด
Dropbox 2TB, 350 บาท/ด
MEGA 2TB, 391 บาท/ด

3.แรมหาย คอมก็ช้าได้

แรมหายจากการที่ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเรียกใช้งาน อย่างเช่น บางโปรแกรมที่เปิดอยู่กำลังทำงาน อาจจะเรียกใช้อยู่ไม่กี่ MB แต่เมื่อรวมการใช้งานร่วมกับภาพไฟล์ข้อมูลเข้าไปด้วย ก็ยิ่งใช้แรมมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเว็บเบราว์เซอร์เอง ก็มีการเรียกใช้แรม เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนหน้าหรือแท็ปที่เปิดใช้งานอยู่เวลานั้น ยิ่งทำให้คอมช้าลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรมหาย จากความเสียหายทางกายภาพอีกด้วย มาดูสาเหตุกัน

คอมช้า

แรมไม่พอ: เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย และสังเกตได้ อาการจะมีหลายแบบ เช่น เปิดโปรแกรมช้า เปิดไฟล์ไม่ได้ หรือบางครั้งก็จะแฮงก์ค้างไปดื้อๆ

วิธีการแก้ไข

  1. เริ่มจากปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์ที่ไม่จำเป็น หรือปิดไปทั้งหมด แล้วจึงเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ถ้าเป็น Chrome หรือ Edge สามารถกดปุ่ม Ctrl+Shift+ปุ่ม T พร้อมกัน ก็จะเรียกหน้าต่างที่เราปิดไป กลับคืนมาให้
  2. กดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc แล้วเข้าไปใน Task manager เลือกปิดโปรแกรมที่ใช้ Memory มากผิดปกติ แล้วคลิ๊กที่ End Task
  3. Restart ระบบ แล้วกลับมาใช้งานอีกครั้ง เพื่อเป็นการ Clear พื้นที่การใช้งานแรม ให้เหลือมากขึ้น
คอมช้า

แรมเสีย: อาการนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ทันรู้ตัว จนกว่าจะมีอาการช้าจนผิดปกติ เพราะจากเดิมอาจมีแรม 8GB แบ่งเป็น 4GB จำนวน 2 ตัว ก็ยังทำงานได้ลื่น แต่พอแรมพังไป 1 ตัว เหลือแค่ 4GB เราทำงานแบบเดิม แต่ก็จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูล หรือไม่ได้มีความรู้ด้านฮาร์ดแวร์มากนัก แต่ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ

คอมช้า
  • คุณอาจจะต้องหาข้อมูลที่แท้จริงว่า โน๊ตบุ๊คหรือพีซีที่คุณใช้อยู่นั้น มีแรมอยู่เท่าไร โดยดูจากโบรชัวร์ หรือสอบถามจากร้านหรือคนที่ซื้อมาให้คุณ
  • เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ให้เช็คจากในเครื่องคุณว่ามีแรมครบถูกต้องมั้ย ทำได้หลายวิธี เช่น ดูจาก Task manager, ฟังก์ชั่น System ของระบบ หรือจะใช้โปรแกรมเสริมก็ได้
  • ดูจาก Task Manager ไปที่แท็ป Performance แล้วดูที่ Memory จะบอกความจุแรมให้ชัดเจน
  • ดูจาก System สำหรับ Windows 11 ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Start จากนั้นเลือก System เข้าไปดูใน Device Specification ลงมาตรง Installed RAM ตรงนี้จะบอกความจุที่ระบบมองเห็น ครบหรือไม่ครบ ก็ทราบได้เลย
  • แต่ถ้ายังรู้สึกคลุมเครือ มีคนสามารถวางใจได้ หรือมีสกิลในการแกะอยู่บ้าง ก็แกะดูได้ เป็นพีซีจะมองได้ง่าย แต่โน๊ตบุ๊คอาจจะยากนิดหน่อย
  • หากเสีย ก็เช็คอีกทีว่าเสียจริงมั้ย หรือแค่สกปรก หรืออาจจะเสียจากสล็อตแรมก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบสุดท้าย ก็ต้องพึ่งพาช่างซ่อมแล้วครับ

4.อัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows บ้าง

เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำและทำได้ง่ายมากที่สุด อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา คอมช้า คอมกระตุกโดยตรง แต่ก็มีส่วนช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะระบบจะได้รับการปรับปรุง แก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ก็มาจากการ Update Windows หรือ Update Driver นั่นเอง วิธีการค่อนข้างง่าย

คอมช้า

Update Windows: ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Win จากนั้นเลือก System แล้วเลือก Windows Update ที่อยู่ทางซ้ายมือ คลิ๊กที่ Check for Updates จากนั้นเลือก Download & Install รอจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ แล้วรีสตาร์ทระบบใหม่อีกครั้ง

คอมช้า

Update Driver: สามารถใช้วิธีการเดียวกับ Update Windows ได้ แต่ให้เลือกที่ Advance Options แล้วเลือกที่ Additional options ทางด้านขวา แล้วคลิ๊กที่ Optional Updates ใส่เครื่องหมายด้านหน้าอุปกรณ์ในช่อง แล้วเลือก Download & Install

วิธีที่ 2 ในการอัพเดตไดรเวอร์ ด้วยการดาวน์โหลดจากหน้าเว็บไซต์ผู้ผลิต เพียงแต่คุณต้องทราบว่าคุณใช้โน๊ตบุ๊คหรือฮาร์ดแวร์ ซีรีส์ใด รุ่นใด จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งได้ทันที

วิธีที่ 3 เข้าไปใน Device Manager จากนั้นคลิ๊กขวาบนฮาร์ดแวร์ตัวที่คุณจะอัพเดต แล้วเลือก Update Driver ได้ทันที


5.ปิดการใช้แอนิเมชั่นบางอย่าง

เราเคยสังเกตหรือไม่ว่า ระบบสามารถแสดงผล มีหน้าตาที่สวย โปร่งแสงดูทันสมัย เพราะสิ่งเหล่านั้นได้มาจากฟังก์ชั่นของ Windows ที่เพิ่มความสวยงามในการใช้งาน แต่ก็มาพร้อมกับการใช้ทรัพยากรของระบบอยู่ด้วยเช่นกัน การปิดใช้งานสิ่งเหล่านี้ ก็มีส่วนช่วยลดปัญหาคอมช้าได้

คอมช้า

ผลที่ได้จากการปิดเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นของระบบ ทำให้ลดภาระในการสร้างกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ ลง โดยเฉพาะกับแรมและซีพียู แม้จะไม่มาก แต่ถ้าทำร่วมกับวิธีการอื่นๆ ก็ลดปัญหาคอมช้าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีการเปิดหน้าต่าง เลื่อน การแสดงผล เปลี่ยนหน้าอาจลื่นไหล แต่ก็ยังสบายตา รวมถึงเอฟเฟกต์โปร่งแสงจะหายไป แต่ได้ Process ที่ดีกลับมา ทำให้เครื่องลื่นขึ้น

วิธีการแก้ไข

ให้คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > เลือก Accessibility ทางด้านซ้าย > เลือก Visual ที่อยู่ด้านขวา > Transparency effects ให้เลือกเป็น Off และ Animation effectss ก็เป็น Off เช่นเดียวกัน

คอมช้า

นอกจากนี้คุณอาจจะเลือกการตั้งค่า Theme เป็นแบบสีพื้น ไม่ต้องมีการเปลี่ยนไปมาแบบ Slide พร้อมกันไปด้วย อาจดูเรียบง่ายธรรมดา แต่ก็ช่วยให้ไหลลื่นมากขึ้น


6.สแกนระบบอย่างสม่ำเสมอ

บางครั้งที่เราเจอกับปัญหาคอมช้า คอมกระตุก อาจจะไม่ได้เกิดจากฮาร์ดแวร์เสีย ทำงานบกพร่องหรือไดรฟ์เต็มเพียงเท่านั้น แต่บางครั้งอาจเกิดจากความบกพร่องของระบบหรือซอฟต์แวร์ ที่ทำงานผิดปกติ มีสิ่งที่รบกวนการทำงาน หลังจากที่คุณทำการอัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows Updates ไปแล้ว ก็อยากให้เพิ่มในส่วนของ Windows Security, Internet Security หรือบรรดาป้องกันไวรัส มัลแวร์เอาไว้ด้วย และอย่าลืมสั่ง Scan ทั้งหมด

คอมช้า

Scan Virus: ไวรัส มัลแวร์ โทรจัน มีส่วนอย่างมากในการรบกวนระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน ยิ่งบางครั้งแฝงตัวอยู่แอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ให้เรารู้ กว่าจะไปไล่หาเจอว่าตัวไหน บางทีก็ช้าไป ใช้การสแกนหาง่ายกว่าเยอะ จะใช้ Windows Security หรือ Internet Security หรือ Anti Virus มาช่วยเสริมก็ดีไม่น้อย

เลือกใช้ Anti-Virus ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ ซึ่งมีทั้งป้องกันไวรัส และแบบครอบคลุมถึงการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Internet Security สำหรับผู้ใช้ที่มีธุรกรรมและการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ เลือกที่มีการอัพเดตได้บ่อย เพื่อเพิ่มความทันสมัยในการตรวจจับภัยคุกคาม และหมั่นสแกนไวรัสแบบละเอียด หรือตั้งค่าการ Scan ให้ไม่กระทบต่อการใช้งานในแต่ละวันของคุณ

คอมช้า

Error checking: เพื่อ Scan ระบบเช็คความผิดปกติ เป็นตัวช่วยที่ดี ในการแก้ปัญหาจะซอฟต์แวร์ หรือระบบ เมื่อเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งาน ซึ่งส่งผลต่อระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน โดยวิธีใช้ตามขั้นตอนนี้ เปิด File Explorer (กดปุ่ม Win+E) จากนั้นคลิ๊กขวาที่ไดรฟ์ C: แล้วเลือก Properties > เข้าไปที่แท็ป Tools > คลิ๊กที่ Error checking แล้วคลิ๊กที่ Check รอจนกว่าระบบจะทำงานเสร็จสิ้น

คอมช้า

Optimize: เป็นการเสริมระบบการทำงานได้เช่นกัน ใช้วิธีเดียวกับการทำ Error checking เมื่อเข้าไปที่แท็ป Tools > ให้เลือกที่ Optimized and Defragment Drive แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม Optimized

คอเกมที่อยากเล่นเกมลื่นๆ มาทางนี้เลยครับ ทิปเล่นเกมลื่น


7.เช็ค Error Code เมื่อเกิดจอฟ้า

ปัญหาจอฟ้า เป็นผลข้างเคียง เมื่อคอมช้า ซึ่งอาจเกิดจากไฟล์ระบบหรือฮาร์ดแวร์ทำงานไม่เข้ากัน หรือไฟล์ระบบบางตัวเสีย ซึ่งจะมีผลออกมาในแต่ละ Code ไม่เหมือนกัน เราสามารถสังเกตรหัสที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายขึ้น

คอมช้า

แต่ก่อนที่จะไปเช็ค Code ของ BSOD ได้นั้น คุณต้องมองเห็น Code ได้ทัน แต่ส่วนใหญ่ ระบบมักจะรีสตาร์ท จนเรามองไม่ทัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ ให้ระบบค้างหน้าจอ Stop Code ไม่ต้องรีสตาร์ท เมื่อเกิดปัญหากับระบบ ไม่ว่าจะเป็น Error หรือ BSOD ก็ตาม ให้ค้างหน้าจอเอาไว้นิ่งๆ วิธีการคือ

วิธีหยุดไม่ให้ระบบรีสตาร์ทอัตโนมัติ: เข้าไปที่ Control Panel จากนั้นเลือก System and Security จากนั้นเลือก System ไปที่ Advanced system settings คลิ๊กที่ Settings แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง ให้เอาเครื่องหมายหน้า Automatically restart แล้วคลิ๊ก Ok เพื่อบันทึกการตั้งค่า

วิธีการแก้ไข

สามารถหาข้อมูล Stop Code เพิ่มเติมมากกว่า 300 Code จากทาง Microsoft

สามารถเช็ค Stop Code ได้ตามข้อมูลในตารางนี้

Error Cause Solution
DATA_BUS_ERROR

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
INACCESSIBLE_BOOT_DEVICE
 

 

Missing driver

Virus/Malware

Update or install driver

Antivirus scan, Switch from “IDE” to “AHCI” in BIOS under “SATA Mode Selection”

UNEXPECTED_KERNEL_MODE_TRAP Hardware error

Temperature too high

Uninstall and reinstall device driver (primarily for recently added devices)

Check fan performance, clean PC or check environment if necessary

NTFS_FILE_SYSTEM

High CPU memory usage Search for costly processes in the Task Manager; uninstall/reinstall programs in question if necessary; check hard drive on which Windows is installed for errors in Windows processes (Right-click, then “Properties”, “Tools”, and “Check”)
IRQL_NOT_LESS_OR_EQUAL

Incompatible or outdated device driver Deactivate drivers for recently installed devices via the device manager (search and run “mmc devmgmt.msc” command in Start menu); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
BAD_POOL_CALLER

Unwanted memory access Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
FAT_FILE_SYSTEM

Corrupt file system Check hard drive function; search and run “chkdsk” in Start menu
OUT_OF_MEMORY

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
PAGE_FAULT_IN_NON_PAGED_AREA

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
UNABLE_TO_LOAD_DEVICE_DRIVER

Defective device driver Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
KMODE_EXCEPTION_NOT_HANDLED

 

Defective software

With .sys file: System file error

Uninstall/reinstall recently used software (newest or system-compatible version)

For system file error: Run Windows Repair Tool (see below: “Check and repair system files”)

ที่มา: ionos.com

Conclusion

สรุปส่งท้ายสำหรับคนที่เจอปัญหาคอมช้า คอมกระตุก ก็อย่าเพิ่งตระหนกไปว่าเจอกับปัญหาใหญ่ บางครั้งแค่รีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็กลับมาไหลลื่นได้เหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนต่างๆ ที่เราแนะนำมานี้ บางอย่างก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในภายหลัง และยังช่วยให้การทำงานไหลลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดหรือลบโปรแกรมบางอย่าง ที่แอบทำงานเบื้องหลัง หรือการป้องกันไวรัส และบรรดามัลแวร์ ที่มักจะสร้างความรำคาญ และเข้ามาล้วงตับข้อมูลของคุณได้ การอัพเดตและการสแกนบ่อยๆ จะช่วยให้เครื่องของคุณปลอดภัย ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ สุดท้ายคือ การจัดเรียงไฟล์ ให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คุณทราบว่า ไฟล์ไหนควรเก็บ ไฟล์ใดควรลบ จะได้ไม่รกพื้นที่ภายในเครื่อง และทำให้คอมช้าลงนั่นเองครับ

from:https://notebookspec.com/web/688897-7-tip-solve-problems-pc-slowdown

10 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 2023 ใช้ง่าย ไม่ติดลายน้ำ ฟีเจอร์แน่นเพื่อ Content Creator

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 2023 นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่ ใช้ง่าย เอฟเฟกต์เยอะ รุ่นไหนโดน?

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ในปี 2023 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสรรผลงานด้านวีดีโอคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ในครั้งนี้เราจัดมาให้ 10 โปรแกรมฟรีน่าใช้ เอาใจเหล่า Content Creator โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่มีสื่อที่เป็นวีดีโอในเกือบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการโฆษษณา ขายสินค้า พรีเซนเทชั่น ไปจนถึงการสร้างตัวตน สื่อที่เป็นภาพนิ่งสามารถเป็นตัวแทนการแนะนำสิ่งที่ต้องการสื่อออกไปได้ก็จริง แต่วีดีโอได้รับความสนใจมากกว่า เพราะภาพเคลื่อนไหว ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและสร้างความแปลกใหม่ได้เสมอ และดึงดูมให้ผู้ชมแชร์ออกไปในโลกออนไลน์หรือสื่อโซเชียลได้มากที่สุดอีกด้วย วันนี้เราจึงมาแนะนำซอฟต์แวร์ในการตัดต่อวีดีโอ ที่น่าสนใจและบางค่ายก็ใช้ฟรี เพื่อให้คุณเลือกตัดต่อวีดีโอในแบบที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และถ้าคุณต้องการมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับงานตัดต่อที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่เลย

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 10 รุ่นแบบไหนดี?

  1. Openshot
  2. CapCut
  3. Davinci Resolve
  4. LightWorks Free Edition
  5. Hitfilm Express
  6. Adobe Premier Pro
  7. Vegas
  8. Wondershare Filmora
  9. VideoStudio Pro 2023
  10. VSDC Free Video Editor

1.Openshot

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ที่มีอินเทอร์เฟสน่าใช้ เป็นกันเอง ใช้ง่ายรองรับวีดีโอความละเอียด 4K เลยทีเดียว รอบรับการใส่ซาวด์และแอนิเมชั่นต่างๆ เช่น 3D และมี Transition หลากหลายน่าใช้งาน แม้จะลูกเล่นเยอะ แต่ก็เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก ตัดต่อง่าย ใช้แค่การลากวาง (Drag & Drop) จากนั้นเลือกเอฟเฟกต์ที่ชอบ แล้วระบบจะจัดเรียงให้อย่างสวยงาม เหมาะกับกลุ่มนักศึกษา หรือนักสร้างคอนเทนต์ เน้นใช้ง่าย ทำวีดีโอได้ไว

Advertisementavw

ใช้ฟรี
รองรับ 3D Animation Effect
มีเทมเพลต Slow motion และ Time effect
อินเทอร์เฟสดูง่าย
เพิ่ม Track ไม่จำกัด

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง มีข้อจำกัดในการปรับแต่ง นักศึกษาทำพรีเซนท์
นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: OpenShot


2.CapCut

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

แอพสำหรับตัดต่อวีดีโอของเหล่า Creator ที่เป็นสาย TikTok ใหม่ล่าสุด ใช้งานง่าย เข้ากับทั้งโมบายและพีซีเป็นที่สุด จุดเด่นอยู่ที่ความง่าย ครบเครื่อง ฟิลเตอร์เพียบ เหมาะกับมือใหม่ในงานตัดต่อ ที่อยากเรียนรู้ฟังก์ชั่น และรูปแบบการทำงานที่ง่ายมากขึ้น คุณสามารถลบพื้นหลัง ใส่เพลงที่มีให้เลือกเพียบ อีกทั้งยังรองรับวีดีโอระดับ 4K อีกด้วย และสนับสนุนวีดีโอในแนวตั้ง เพื่อให้เข้ากับ TikTok และ Reels ได้อย่างลงตัว แถมโหมด Beauty ปรับความขาวใส และเพิ่มความเร็วได้ ที่สำคัญไม่มีลายน้ำมากวนใจ

รองรับการใส่ภาษาได้อัตโนมัติ แม่นยำสูง
ลบฉากหลังได้ดี
มีให้เลือกทั้ง Mobile, PC และ Web browser
เหมาะทั้ง TikTok, Youtube

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานง่าย ฟิลเตอร์เยอะ มีฟอนต์ไม่เยอะมาก ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: CapCut


3.Davinci Resolve

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีความเป็นกันเองกับผู้ใช้ และมอบฟีเจอร์ในระดับมืออาชีพให้ไม่แพ้คู่แข่งรุ่นใหญ่ในตลาด ตั้งแต่ในเวอร์ชั่นพื้นฐานด้วยซ้ำไป เพราะโปรแกรมส่วนใหญ่ที่ฟรีมักมีลายน้ำ แต่ Davinci ไม่ใช่ อีกทั้งเครื่องมือที่ใช้ตัดต่อ ก็ง่าย การ Import หรือ Export ก็ทำได้รวดเร็ว พร้อมคุณสมบัติในการจัดการเสียงที่เพิ่มเติมมาใหม่ สำหรับการทำ Visual Effect และการใส่เอฟเฟกต์ภาพ ที่มีความโดดเด่น อย่างไรก็ดีหากต้องการใช้ร่วมกับบรรดา 3D หรือเอฟเฟกต์ที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถใช้เวอร์ชั่น Studio ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มได้อีกด้วย

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ให้งานระดับมืออาชีพ ใช้ทรพยากรเครื่องค่อนข้างมาก มืออาชีพด้านภาพและเสียง
ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีลายน้ำ

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Davinci Resolve


4.LightWorks Free Edition

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

เป็นหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ใช้ฟรี และไม่มีลายน้ำ มีหน้าตาที่เป็นกันเอง ดูง่าย เมนูไม่ซับซ้อนมาก รองรับการใช้งานด้านวีดีโอพื้นฐานได้เกือบครบ ไม่ใช้สเปคเครื่องมากนัก มือใหม่ที่จะเริ่มต้นการตัดต่อ ทำวีดีโอนำเสนองานแบบง่ายๆ รวมถึงสายยูทูปเบอร์ที่ต้องการงานไว ทำได้บนคอมที่ไม่ต้องแรงมากนัก ไม่ต้องกังวลกับการไม่มีพื้นฐานที่ใช้งานด้านตัดต่อมาก่อน ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่นความละเอียดที่ใช้บนเวอร์ชั่นฟรี จะทำได้แค่ 720p เท่านั้น แต่ใครอยากจะใช้จริงจัง หรือถูกใจในแง่ของความง่าย ฟังก์ชั่นมาแบบครบๆ แนะนำให้ใช้เวอร์ชั่น Pro ในงบประมาณ 9.99USD ต่อเดือนเท่านั้น ใช้กันยาวๆ

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานง่าย ตัวฟรีใช้ได้ที่ 720p นักตัดต่อมือใหม่
ฟังก์ชั่นสำคัญครบ ยูทูปเบอร์เริ่มทำคอนเทนต์

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: LightWorks


5.Hitfilm Express

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ที่ใช้ได้ทั้ง Mac และ Windows ที่หลายคนให้ความสนใจ และยังใช้ฟรีอีกด้วย มีอินเทอร์เฟสที่ปรับแต่งได้ง่าย ใช้วิธีลาก Drag and Drop ใส่เอฟเฟกต์สะดวก และคนที่สนใจยังมีไกด์ไลน์หรือ Tutorial แนะนำการใช้งานฟรีจำนวนมาก เหมาะกับมือใหม่และสายยูทูปเบอร์สะดวกทีเดียว ในเวอร์ชั่นใหม่มีฟีเจอร์ใช้ร่วมกับเอฟเฟกต์ 3D Render หรือเอฟเฟกต์ Flares รวมถึงบันทึกเสียงได้ในตัว แต่ถ้าต้องการลูกเล่นที่มากขึ้น จะมีตัวป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ และฟิลเตอร์อื่นๆ เข้ามาอีกเพียบ ให้ความละเอียดวีดีโอสูงสุดระดับ 4K

แบบใช้งานฟรี

จำกัดการ Export ที่ HD แบบไม่จำกัด

ให้ Visual Effect แบบจัดเต็ม ทั้งเสียง ภาพและเอฟเฟกต์

10 เพลง, 25 เอฟเฟกต์เสียงและ 5 เทมเพลต

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานฟรี ใช้สเปคเครื่องค่อนข้างสูง มือใหม่และยูทูปเบอร์
ฟีเจอร์ครบครัน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Hitfilm Express


6.Adobe Premier Pro

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

ที่สุดของสายงานตัดต่อ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ ต้องการที่จะปรับใช้งานวีดีโอระดับมืออาชีพหรือมือโปร ที่ต้องการเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงาน ฟีเจอร์และเอฟเฟกต์อัดแน่น รองรับงานที่มีความซับซ้อน การจัดเรียงหรือปรับใช้ Transition, Effect, และการซิงก์เสียงใส่ข้อมูล เพิ่มตัดช็อตต่างๆ ทำได้ต่อเนื่อง ให้ผู้ใช้ปรับรูปแบบเครื่องมือและตั้งค่าให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานอีกด้วย รองรับงานวีดีโอความละเอียดสูง รองรับการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud เพียงแต่จะใช้พลังของระบบค่อนข้างมาก รวมถึงมีให้ทดลองใช้งานได้ฟรี 7 วัน ค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลทั่วไป ประมาณ 800 บาท/เดือน

ให้งานระดับมืออาชีพ

ลูกเล่นและฟีเจอร์ พร้อมเทมเพลตจัดเต็ม

มีข้อมูลการเรียนรู้บนสื่อต่างๆ เยอะ

รองรับการ Export วีดีโอความละเอียดสูง

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
คุณสมบัติวีดีโอครอบคลุม ใช้พลังของระบบค่อนข้างสูง นักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพ
เอฟเฟกต์และฟีเจอร์ขั้นสูง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Adobe


7.Vegas Pro

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอระดับมืออาชีพที่เปลี่ยนมาเป็น Vegas Pro ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยสำหรับสายทำคอนเทนต์ เพราะทั้งลูกเล่น ฟีเจอร์ และการตอบสนองดี ให้ผู้ใช้เลือกปรับแต่งเครื่องมือเพื่อใช้งานได้ง่าย แต่ได้งานระดับการตัดต่อภาพยนตร์ เหมาะตั้งแต่ผู้ใช้มือใหม่ด้านการตัดต่อ ที่จะก้าวไปสู่มืออาชีพหรือจะใช้ในการสร้างงานแบบจริงจัง เพราะมีเอฟเฟกต์ให้เลือกมากมาย รวมถึงฟังก์ชั่นการปรับโทนสีและเสียง เพิ่มเลเยอร์ในการซ้อนภาพและเสียงได้ไม่จำกัด ตอบสนองได้ไว แต่ถ้าจะใช้ Pro หรือ Edit version ที่ให้ฟีเจอร์ได้มากกว่า มีเริ่มตั้งแต่ 12.99USD ต่อเดือน

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ลูกเล่นเยอะ เหมาะกับมือโปร มีค่าใช้จ่าย มืออาชีพด้านวีดีโอ
ตอบสนองได้ไว ปรับแต่งง่าย งานตัดต่อที่ต้องการรายละเอียด

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Vegas


8.Wondershare Filmora

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

อีกหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่ได้รับความนิยมจากเหล่าบล็อกเกอร์ และยูทูปเบอร์มือใหม่ ที่จะเริ่มต้นตัดต่อวีดีโออย่างง่าย และใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย แต่มีเครื่องมือให้ใช้งานได้ครบครัน เช่นเดียวกับอินเทอร์เฟสที่เรียบง่าย แก้ไขรายละเอียดเรื่องสีได้ดี และการตั้งค่าที่ง่าย มีลูกเล่นน่าสนใจอย่างละลายพื้นหลัง และโฟกัสตัวแบบ ทำให้เบลอพื้นหลังออกมาได้สวยงาม มีแบบทดลองใช้ได้ประมาณ 10 ครั้ง และจะมีลายน้ำในวีดีโอ ส่วนถ้าใช้งานถูกใจ เวอร์ชั่น Personal ราคาเริ่มต้นแค่ 39.99USD/ Year เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ลูกเล่นค่อนข้างเยอะ เวอร์ชั่นทดลองมีลายน้ำ Bloger หรือยูทูปเบอร์มือใหม่
ใช้สเปคเครื่องไม่แรง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Filmola


9.VideoStudio Pro 2023

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

มุมมองและอินเทอร์เฟสของโปรแกรมตัดต่อวีดีโอนี้ อาจจะต่างไปจากค่ายอื่นๆ อยู่เล็กน้อย อาจจะต้องปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็น แถบเครื่องมือและเมนู ส่วนปุ่มสำคัญๆ ยังอยู่ในจุดที่ใช้ง่าย การใส่ Transition หรือ Effect ต่างๆ มีให้เลือกเยอะ และยังเป็น Drag & Drop ลากวางได้เลย เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับนักสร้างคอนเทนต์สายโซเชียล จัดการแชร์เข้าไปยังแพลตฟอร์มสะดวก มีเป็นเวอร์ชั่นแบบให้ทดลองใช้งาน 30 วัน ใช้ได้เกือบเต็มฟีเจอร์ ส่วนราคาอยู่ที่ 79.99USD/ เดือน

มาพร้อมเทมเพลตที่หลากหลาย
มีเอฟเฟกต์และ Transition ให้เลือกเยอะ
ฟิลเตอร์แบบ Drag & Drop ใช้ง่าย
รองรับกล้องหลายตัวพร้อมกัน
มีดนตรีแบบปลอดลิขสิทธิ์ให้ใช้

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
รองรับการตัดวีดีโอแบบหลายมุมมอง บางฟังก์ชั่นอาจมีความซับซ้อน นักสร้างคอนเทนต์
มีฟีเจอร์ในงานวีดีโอครบครัน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: VideoStudio


10.VSDC Free Video Editor

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอฟรี แบบไม่มีลายน้ำ ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย และให้งานตัดต่อพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับคนที่เริ่มต้นกับการสร้างคอนเทนต์ ไม่เน้นลูกเล่นซับซ้อน หรือฟีเจอร์ที่ล้ำเกินไป แต่ใช้งานได้ไม่ยาก เข้ากันได้กับนักศึกษา คนทำงานและงานพรีเซนเทชั่นแบบด่วนๆ เพิ่มความ Advance ขึ้นจากโปรแกรมพื้นฐานทั่วไป เลือกปรับโทนสี และเอฟเฟกต์สวยๆ ได้เยอะ รองรับวีดีโอ 4K อัพเดตบนแพลตฟอร์มโซเชียลได้ง่าย การตอบสนองอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย อินเทอร์เฟสซับซ้อนเล็กน้อย นักเรียน นักศึกษา
มีเครื่องมือให้ครบครัน คนทำงาน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: VSDC


Conclusion

จุดเด่น เหมาะกับ
1.Openshot รองรับวีดีโอความละเอียดสูง นักศึกษาทำพรีเซนท์,
นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่
2.CapCut ใช้งานง่าย ฟิลเตอร์เยอะ
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง
ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์
3.Davinci Resolve ให้งานระดับมืออาชีพ
ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีลายน้ำ
มืออาชีพด้านภาพและเสียง
4.LightWorks Free Edition ใช้งานง่าย
ฟังก์ชั่นสำคัญครบ
นักตัดต่อมือใหม่,
ยูทูปเบอร์เริ่มทำคอนเทนต์
5.Hitfilm Express ใช้งานฟรี
ฟีเจอร์ครบครัน
มือใหม่และยูทูปเบอร์
6.Adobe Premier Pro คุณสมบัติวีดีโอครอบคลุม
เอฟเฟกต์และฟีเจอร์ขั้นสูง
นักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพ
7.Vegas ลูกเล่นเยอะ เหมาะกับมือโปร
ตอบสนองได้ไว ปรับแต่งง่าย
มืออาชีพด้านวีดีโอ,
งานที่มีรายละเอียดสูง
8.Wondershare Filmora ลูกเล่นค่อนข้างเยอะ
ใช้สเปคเครื่องไม่แรง
Bloger หรือยูทูปเบอร์มือใหม่
9.VideoStudio Pro 2023 รองรับการตัดวีดีโอแบบหลายมุมมอง
มีฟีเจอร์ในงานวีดีโอครบครัน
นักสร้างคอนเทนต์
10.VSDC Free Video Editor ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย
มีเครื่องมือให้ครบครัน
นักเรียน, นักศึกษา, คนทำงาน

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ จัดว่าได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะคอนเทนต์ส่วนใหญ่ออกมาในแบบวีดีโอกันเกือบหมดแล้ว เพราะให้รายละเอียด และความสมจริงได้มากที่สุด ทำให้เหล่านักสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น VLOG, Bloger หรือจะเป็น Youtuber และเกมเมอร์ที่เป็นสตรีมเมอร์ ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ได้สร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ ในการเลือกใช้ นอกจากจะต้องเลือกให้เหมาะกับความสะดวกหรือมีฟังก์ชั่นที่ลงตัวกับผู้ใช้ อย่างเช่น CapCut ที่โดดเด่นในสายยูทูปเบอร์ รวมถึงเหล่า TikTok ก็ต้องออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน เข้าใจได้รวดเร็ว และรองรับความละเอียดที่ให้ผลงานออกมาได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของฟีเจอร์เสริม และการสนับสนุน ก็ต้องมีมากพอในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น Davinci และ Premire Pro โดยในตัวเลือกของเราจะมีทั้งแบบฟรี ที่เป็นส่วนใหญ่ อย่าง Hitfilm, VSDC, LightWork หรือ Davinci เป็นต้น ผู้ใช้สามารถเลือกมาใช้ทดลองทำงานก่อนได้ หากมีตรงจุดไหนขาดหรืออยากได้เพิ่ม ก็ยังมีตัวเลือกที่เป็นแบบเพิ่มฟีเจอร์ หรือเปิดความสามารถให้มากขึ้นได้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงเกินไปนัก แต่อาจจะต้องเช็คสเปคคอมที่ใช้ด้วยว่า รองรับกับการทำงานได้มากน้อยเพียงใดด้วย

โน๊ตบุ๊คสำหรับงานตัดต่อที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่เลย Notebookspec.com

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ให้ได้เลือกใช้กัน อย่างเช่น Icecream Video Editor, VideoPad หรือจะเป็นแอพแบบ Movavi Clips, PowerDirector หรือจะเป็น WeVideo ก็ตาม

from:https://notebookspec.com/web/690347-10-free-video-editor-2023

Commart Big Deal 2023 โปรคอมประกอบ คอมเล่นเกมทุกค่าย Advice, Banana, ACE, JIB และ Speed

Commart Big Deal 2023 รวมโปรโมชั่นคอมประกอบทุกค่าย ราคาดี มีของแถมอะไรบ้าง?

Commart Hot Deal 2023 PC promotion cov

Commart Big Deal 2023 รวมโปรโมชั่นคอมประกอบ คอมเล่นเกม จัดสเปคคอม ไม่ต้องไปเดินหาให้เหนื่อย เพราะเรารวมราคาคอมประกอบทุกค่ายมาให้ได้ชมกัน เช็คราคากันได้เลย เริ่มตั้งแต่ไม่ถึง 10000 บาท ถึงหลักแสน รวมทุกค่าย Advice, ACE, Banana E-QUIP, JIB, GALAX, Speed เป็นต้น บอกเลยว่าแต่ละค่ายจัดกันมาไม่ธรรมดา ว่ากันตั้งแต่ใช้งานเบาๆ ที่บ้าน เกมเมอร์ ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ไปจนถึงการทำงานจริง พร้อมกับโปรผ่อนบัตร และของพรีเมียมต่างๆ ที่มีมาให้เลือกกันจนจุกเลยทีเดียว เรื่องของราคายังสามารถไปพูดคุยกันที่หน้าร้านได้เช่นกัน จะมีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณกันบ้าง ไปติดตามชมกันเลยครับ


Commart Big Deal 2023 รวมโปรคอมประกอบ

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก Advice

  • บูธ Advice: ไบเทคบางนา บูธ A2, B2, B3, C5, D14 และ X1
  • ผ่อนนานแบบตะโกน 0% นานสูงสุด 48 เดือน!!
  • ใบเสร็จนำไปเล่นกิจกรรมที่บูธ X1 ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท
  • กิจกรรมพิเศษยิ้มแลกส่วนลด 😁
  • Computer Set โดย นพ ExtremeIT ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน กว่า 24 เซ็ต ลดสูงสุด 22,000 บาท เริ่มต้นเพียง 7,990 บาท พร้อมของแถมแบบจัดเต็ม
  • นาทีทองออนไลน์ ลดสูงสุด 99% เริ่มต้นแค่ 1 บาทกับสินค้าไอทีโคตรรรรรรคุ้ม!
  • โปรโมชั่นราคาพิเศษ และของแถมแบบจัดเต็ม
  • เป็นเจ้าของสินค้า Apple พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่แอดไวซ์
  • ส่วนลดสุดพิเศษสำหรับชาว TIKTOK ลดสูงสุด 2,400 บาท ที่ TikTok : @AdviceClub
  • Lazada x Advice แจกส่วนลด 3 ต่อ ลดสูงสุด 4,500 บาท
  • กระทบไหล่กูรูไอทีระดับประเทศ “นพ Extreme It” ตอบชัดทุกคำถาม
  • เกมเมอร์ตัวจริงต้องไม่พลาดกับ Gaming Gear จัดเต็มทุกแบรนด์ชั้นนำ!!
  • ช้อปสินค้าในงานครบ 5,000 บาท ส่งถึงบ้านฟรี!!
  • Commart Big Deal

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก ACE Gamer

  • Commart Big Deal
  • ผ่อนสบายสูงสุด 36เดือน
  • ของพรีเมียม เสื้อ เมาส์ เกมและพัดลมเป็นต้น
  • บางรุ่นเป็นแว่นตา หูฟังเกมมิ่ง

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก Banana

  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน**
  • เครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000.-**
  • ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันที 25%** กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
  • Lazada แจกโค้ดลับที่บูธ BaNANA ลดสูงสุด 4,500.- (จำนวนจำกัด)

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก JIB

  • Commart Big Deal
  • รับส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท
  • ยังไม่หมดแค่นั้น ซื้อวันนี้ รับฟรีของแถมสุดพิเศษ! เอ็กซ์คูซีฟไม่เหมือนใคร
  • คอมเซ็ตพร้อมใช้ ส่งด่วน ส่งไว ไว้ใจ #เจไอบี เครื่องเสียเปลี่ยนสวนทันทีภายใน 24 ชั่วโมง *เป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด
  • สามารถผ่อน 0% นาน 10 เดือน บัตรเครดิต : กสิกร, เคทีซี, กรุงศรี และเฟิร์สช้อยส์
  • สามารถผ่อน 0% นาน 36 เดือน
  • ทุกเซ็ตส่งฟรี ภายใน 6 ชั่วโมง *เฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล
  • รับบัตรเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท

สเปคคอมไม่เกิน 30,000 บาท

Advice – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP – ไม่เกิน 30,000 บาท

Banana 1
Banana 4
Banana 13
Banana 3
Banana 8
Banana 5
Banana 14
Banana 2
Banana 15

xxxx

Advertisementavw

GALAX – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


JIB – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


Speed Gaming – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


สเปคคอม 30,000 – 60,000 บาท

Advice 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


ACE Gamer 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 30,000 – 60,000 บาท

Banana 6
Banana 9
Banana 10

GALAX 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

JIB 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Speed 14

สเปคคอม 60,000 – 100,000 บาท

Advice 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 60,000 – 100,000 บาท

Banana 7
Banana 11

GALAX 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

JIB 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Commart Big Deal สเปคคอม 100,000 บาท ขึ้นไป

Advice 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 100,000 บาท ขึ้นไป

Banana 12

GALAX 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal

JIB 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal

สรุปสเปคคอมในงาน Commart Hot Deal 2023

คอมประกอบราคา ไม่เกิน 10,000 บาท

  1. Advice_AMD#103 ให้มาเป็นสเปค ซีพียู AMD Ryzen 5 3400G พร้อมแรม 16GB และได้ SSD 240GB การ์ดจอ Radeon Graphic เพาเวอร์ 550W ราคา 7,990 บาท
  2. JIB MARU-2303022 ให้ซีพียู AMD Ryzen 5 4600G ให้แรมมา 8GB และ SSD 240GB การ์ดจอออนซีพียู เพาเวอร์ 550W และเคส AEROCOOL TALON ในราคา 8,990 บาท
  3. Speed SP_COM2318 ได้ซีพียู Intel Core i5-9500 พร้อมแรม 8GB และได้ SSD 240GB เพาเวอร์ 550W ราคา 8,990 บาท
  4. Banana E-QUIP เปิดราคาได้ดีเช่นกัน กับซีพียู AMD Ryzen 5 Pro 4650G มาคู่กับแรม DDR4 16GB และ SSD 256GB เพาเวอร์ 600W ราคา 9,700 บาท

คอมประกอบงบ 30,000 บาท คอเกมปลื้ม

  1. Advice ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-12400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060Ti, PSU 650W
  2. ACE Gamer ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-13400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060, PSU 750W
  3. GALAX Gamer ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-12400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060Ti, PSU 650W
  4. JIB ราคา 29,900 บาท ซีพียู AMD Ryzen 5 5600X, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RX6750XT, PSU 750W
  5. Banana E-QUIP ราคา 29,500 บาท ซีพียู Intel Core i5-13400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, Intel ARC770, PSU 650W
  6. Speed Gaming ราคา 28,240 บาท ซีพียู AMD Ryzen 5 5600G, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RX6700XT, PSU 750W

คอมประกอบตัวเทพเกมมิ่ง ราคาเกิน 100,000 บาท ใน Commart Big Deal

  1. Advice ราคา 199,900 บาท ได้ซีพียู Intel Core i9-13900K แรม DDR5 64GB กับ SSD 2TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1600W
  2. JIB ราคา 192,000 บาท ซีพียู Intel Core i9-13900K แรม DDR5 64GB และมี SSD 1TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1350W
  3. ACE Gamer อยู่ที่ 159,990 บาท ได้ซีพียู Intel Core i9-13900K พร้อมแรม DDR5 64GB กับมี SSD 1TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1350W
  4. GALAX ราคา 116,900 บาท ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB ให้ SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W
  5. Banana E-QUIP ราคา 115,000 บาท ได้ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB พร้อม SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W
  6. Speed Gaming ราคา 114,000 บาท ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB ให้ SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W

Commart Big Deal 2023 ต้องถือว่าเป็นงานในช่วงต้นปีนี้ ที่จัดเต็มเรื่องของโมเดล ราคาและโปรโมชั่น มาแบบครบครัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อคอมใหม่ จัดสเปคคอม หรืออัพเกรดคอมให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพราะสินค้าหลายชิ้นลดราคาจากปลายปีก่อนมากมายเลยทีเดียว อย่างเช่น แรม และการ์ดจอ ส่วน SSD ก็มีตัวเลือกมาให้เยอะขึ้น ที่สำคัญบรรดาอุปกรณ์บางอย่าง ลดราคาแบบไม่ขนกลับอีกด้วย งานนี้ไม่ใช่แค่คอมเท่านั้น ที่ทำราคาได้ดี แต่ยังรวมถึงโน๊ตบุ๊ค และ Accessories ที่มีให้เลือกครบทุกไลน์ และยังมีรุ่นใหม่ที่ใช้ซีพียู การ์ดจอใหม่มาให้เลือกอีกด้วย ใครสนใจก็แวะกันเข้ามาช้อปได้เลย งานจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 2-5 มีนาคม 2566 นี้

from:https://notebookspec.com/web/688836-commart-big-deal-2023-pc-spec

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ แรม 8GB มีวินโดว์พร้อมใช้ ดูหนังเพลิน

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ Full-HD มี SSD พร้อม Windows แรม 8GB เบา เทรดหุ้น ดูหนังครบ

Top 10 value notebook 10000B cov

10 อันดับโน๊ตบุ๊คเริ่ม 10000 บาท จ่ายเบาๆ ได้จอใหญ่ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีอยู่จริง รวมมาให้แล้ว เป็นรุ่นเด็ดต้นปี 2023 นี้ สำหรับสายทำงานและบันเทิง ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพดี รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เริ่มต้นกับการเรียน หรือการศึกษาของเด็กๆ ไปจนถึงการดูหนัง 4K ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 15.6″ ความละเอียด Full-HD แล้วด้วย ให้ภาพที่ดูได้อย่างเต็มตา และมาพร้อมแรม 8GB บางรุ่นเป็น 16GB รวมถึงใส่ SSD มาด้วยเช่นกัน เพื่อความลื่นไหล ซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่น้องเล็กอย่าง Intel Celeron หรือ AMD Athlon ไปจนถึง Intel Core i Generation แต่ที่สำคัญมี Windows มาให้พร้อมใช้ เปิดเครื่องมา ก็ทำงานได้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม แต่ละรุ่นจัดว่าเด็ด แต่มีรุ่นไหนที่จะโดนใจคุณบ้าง ไปติดตามชมกันครับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท


โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เลือกแบบไหนดี?

ทำงานเอกสาร เรียน ประชุมออนไลน์

Advertisementavw
10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊คงบ 10000 บาท อยู่ในกลุ่มที่รองรับการใช้งานด้านงานเอกสาร และในสำนักงานเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก เช่น เปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือใช้โปรแกรมที่ต้องอาศัยแรม และซีพียู เช่น โปรแกรมสร้างพรีเซนเทชั่น เปิดเอกสารทีเดียวจำนวนมาก ซีพียู 2 core/ 4 thread เป็นตัวเริ่มต้นได้ แต่ควรมีแรมอย่างน้อย 8GB เพื่อให้การทำงานลื่นขึ้น ส่วนการจัดเก็บข้อมูล หากมีจำนวนมาก แนะนำว่าให้ใช้ SSD 512GB หรือใช้บริการ Cloud Storage น่าจะสะดวกมากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ ช่วยให้มีพื้นที่ในการประชุมและมองเห็นข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

เทรดหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล

10 อันดับ

การใช้งานด้านเทรดหุ้น แม้จะมองว่าการดูกราฟ จะต้องใช้สเปคแรงด้วยหรือ? ถ้าเป็นการดูข้อมูลเฉยๆ ซีพียูรุ่นน้องเล็ก ก็เพียงพอ แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะควบคู่ไปกับการหาข้อมูลตลาด การฟังข่าวหรือการรีเช็คราคาที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นจึงเป็นการทำงานแบบมัลติทาส์ก เพราะต้องประมวลผลหลายอย่างพร้อมกัน การมีซีพียูในระดับที่สูงขึ้น เช่น Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 กับแรมอย่างน้อย 8GB ก็ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น แต่ถ้าเปิดแท็ปเว็บเบราว์เซอร์ค่อนข้างเยอะ แนะนำว่าแรม 16GB เหมาะสมมากกว่า จอใหญ่ไฟสว่าง ก็ไม่ต้องซูมบ่อย ยกเว้นจะพกพาด้วยจอ 14″ FHD ก็เพียงพอแล้ว

ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เป็นโน๊ตบุ๊คที่อาจจะคาดหวังกับการเล่นเกมได้ยาก แต่ถ้าเป็นเกมออนไลน์เบาๆ เช่น ยิงไข่ ไล่ซอมบี้ เรียงเพชรหรือจะเป็นแนว 2D ในแบบต่างๆ สามารถทำได้สบายๆ ดังนั้นหากคุณต้องการเล่นเกมหนักๆ ก็อาจจะต้องลองเริ่มต้นกับการตั้งค่าในเกม ปรับ Detail ให้เหมาะ แต่สุดท้ายไม่ได้ ก็คงต้องขยับไปที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ปัจจุบันเริ่มที่ประมาณ 20000 บาท ส่วนการดูหนัง Full-HD, 4K และใช้เพียงหน้าจอเดียว เลือกรุ่นประหยัดสุด ก็ยังไหว แต่อยากให้เป็นแรม 8GB ดูน่าสนใจกว่า และถ้ามีน้องๆ หนูๆ เล่นด้วยกัน จัดจอใหญ่ 15.6″ ก็แบ่งปันกันดูได้ดียิ่งขึ้น


1.Acer Aspire 3 A314-35

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊คที่มาแบบครบครัน ใน 10 อันดับครั้งนี้ กับสายพันธุ์ของ Aspire 3 ที่ออกแบบมาลงตัวกับผู้ใช้ในกลุ่มคนทำงาน ไลฟ์สไตล์และนักเรียน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาแค่ 1.6Kg สเปคพอใช้ท่องเน็ต ทำงานเอกสาร และดูหนังบนจอ 14″ Full-HD ได้ลื่นๆ กับซีพียู Intel Pentium N6000 (2 core/ 4 thread) พร้อมแรม 4GB ที่อัพเกรดเพิ่มได้ และใส่ฮาร์ดไดรฟ์มา 500GB รุ่นนี้เท่าที่เช็ค มีโมเดลที่เป็น SSD 256GB ด้วย มี Windows 10 มาให้ คีย์บอร์ดไม่มีแสงไฟ และแบตค่อนข้างเล็กไปนิด เคาะราคามา 8,990 บาท เท่านั้น ไปช้อปกันได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
น้ำหนักเบา แรม 4GB
ให้พอร์ตมาเยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


2.IPASON MAXBOOK P2 PRO-P981

10 อันดับ

ติด 10 อันดับ โน๊ตบุ๊คราคาไม่ถึงหมื่นบาท IPASON แบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา ที่กระแสตอบรับดี บอดี้ที่บางเบา ฟังก์ชั่นจัดเต็ม ทั้งสแกนลายนิ้วมือ กางได้ 180 องศา คีย์บอร์ด Full-size แต่เสียดายที่ไม่มีไฟ Backlit มาให้ แต่ก็ได้อย่างอื่นแทน เช่น แรม 16GB ใส่ซีพียู Intel Celeron มาให้ แต่เป็นรุ่นใหม่ 4 core/ 4 thread กราฟิก Intel UHD สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หน้าจอ IPS 15.6” Full-HD สีสดใส พอร์ตใหม่ๆ USB-C และ HDMI มีให้ครบ พร้อมแบตขนาดใหญ่ Windows 11 พร้อมใช้ ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี ราคาแค่ 9,890 บาท แต่เวลานี้ค่อนข้างหายากนิดนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมาเยอะ ไม่มีไฟคีย์บอร์ด
กางจอได้ 180 องศา

รายละเอียดเพิ่มเติม: IPASON


3.Lenovo IdeaPad 1 15IGL7

10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊ค 10000 สุดประหยัดรุ่นนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา วัสดุดูดี งานประกอบแน่น หน้าจอใหญ่ 15.6″ Full-HD ดูหนังเต็มตา ทำงานก็สะดวก เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ขุมพลัง Intel Pentium N4020 กับกราฟิก Intel UHD ก็พอไหว งาน 2D/3D พรีเซนเทชั่นทั่วไป ไม่ยาก มาพร้อมแรม 4GB เสียดายที่อัพแรมเพิ่มไม่ได้ ส่วน SSD มีให้ 256GB พอร์ตก็มีให้ครบๆ USB-C, HDMI ใส่ Card Reader มาให้ด้วย พร้อม Windows 11 Home พร้อมใช้งาน แบตใหญ่ น้ำหนัก 1.5Kg ประกัน 2 ปี แต่เป็นอุบัติเหตุ 1 ปีด้วยนะ ราคาประมาณ 9,990 บาทเท่านั้น ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่สีสดใส มีแรมให้ 4GB
วัสดุค่อนข้างดี

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


4.HP 15s-eq1575AU

10 อันดับ

เป็นอีกหนึ่งใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คสไตล์บางๆ ที่มีความพรีเมียม หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง ขอบจอบาง เอาใจคนทำงานและการเริ่มต้นเรียนรู้ของเด็กๆ แถมยังให้ Windows 11 Home มาแล้วด้วย โดยมีขุมพลัง AMD Athlon Gold 3150U เป็นน้องเล็ก ทำงาน 2 core/ 4 thread พร้อมแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ในภายหลัง กราฟิก AMD Radeon ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ เอาใจน้องๆ ยังไหว ใช้เทรดหุ้นก็ลื่นดี มี SSD 256GB คีย์บอร์ด Full-size ใส่แบตมากลางๆ พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg ประกัน 2 ปี ราคา 11,390 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมา 8GB น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
พอร์ตเยอะ พร้อม USB-C

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


5.ASUS Vivobook 15 X1500EA-EJP01W

10 อันดับ

สำหรับ Vivobook 15 ก็มาตามคาด กับราคาที่ดีงาม บอดี้ที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ บางสวย แม้ซีพียูจะเป็นน้องเล็ก Pentium Gold 7505 แต่ถือว่าสดใหม่ เรี่ยวแรงพอใช้งานในหลายๆ ด้านได้ พร้อมแรม 4GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB หาได้ยากในราคาประมาณนี้ พอร์ตมีทั้ง USB-C และ HDMI หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง สำหรับงานและความบันเทิง แม้จะไม่ได้เสริมฟีเจอร์พิเศษมามากมาย แต่ก็สะดวกต่อการใช้งานพื้นฐาน โดยมี Windows 11 พร้อมใช้ประกัน 2 ปี ราคา 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์บาง กระทัดรัด มีแรม 4GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


6.Lenovo V15 G3 ABA 82TV004VTA

10 อันดับ

เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มทำงาน บอดี้ที่ดูพรีเมียม ดูสบายตา ราคา 10000 บาทนิดๆ ได้สเปคใหม่หมดจด เหมาะทั้งเรียน ทำงาน และความบันเทิง กับซีพียู AMD Ryzen 3 5425U รุ่นใหม่ คู่กับแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และให้ SSD 256GB บนจอแสดงผล 15.6″ กราฟิกสามารถเล่นเกมเบาๆ ได้ ดูหนัง 4K ระบบเสียงก็ถือว่าดี พร้อมพอร์ต USB-C ชาร์จเร็ว และต่อจอได้ แบตอาจจะน้อยไปบ้าง สำหรับจอใหญ่แบบนี้ และไม่มี OS มาให้ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg พกได้ไม่ยาก ประกัน 1 ปี ราคา 12,990 บาท ถ้าใครอยากได้ Windows ด้วย ขยับไป IdeaPad 3 ก็ได้ เพิ่มอีกประมาณพันนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
วัสดุแข็งแรง น้ำหนัก 1.7Kg
ได้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


7.ASUS X515JA-EJ331W

10 อันดับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊คราคาหมื่นนิดๆ แต่ได้เป็น Intel Core i3 Gen10 ได้แรงเพิ่มอีกนิด 2 core/ 4 thread ให้เร่งสปีดงานต่างๆ ได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และความบันเทิงภายในบ้าน จอใหญ่ 15.6″ Full-HD กับบอดี้ที่ทำออกมาได้ดี ตามสไตล์ ASUS แรมให้มา 4GB แต่อัพเกรดเพิ่มได้ภายหลัง SSD 512GB จัดเต็มมาให้แล้ว พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ คีย์บอร์ดฟอนต์ใหญ่ เห็นได้ชัดเจน มี Windows 11 Home มาพร้อมใช้ แบตอาจจะเล็กไปบ้าง น้ำหนักค่อนข้างเยอะหน่อย 1.7Kg แต่เรื่องสเปคและการอัพเกรดไม่ได้เป็นรองใคร รับประกัน 2 ปี ในราคาสบายกระเป๋า 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่ ขอบจอบาง มีแรม 4GB
มีพอร์ตให้เยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


8.Infinix Book X2 I5 71008300113

10 อันดับ

Infinix Book เป็นโน๊ตบุ๊คที่เปิดตัวมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว กับความบางเบา ราคาเข้าถึงง่าย จุดแข็งที่บอดี้อะลูมิเนียมทั้งตัว สีสันสดใส พร้อมให้ Windows 11 มาด้วย นอกเหนือจากสเปค Intel Core i5-1035G1 พร้อมแรม 8GB และให้ SSD 512GB มาใช้งาน หน้าจอขนาด 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด ขอบเขตสีกว้าง พอร์ตจัดวางให้ครบครัน รวม USB-C และ HDMI ที่สำคัญคือ คีย์บอร์ดกดง่าย มีไฟ Backlit แบตอึด หาตัวเทียบยากในราคาเดียวกัน รับประกัน 1 ปี น้ำหนัก 1.24Kg ใครที่ชอบความบางเบา พกพาง่าย บอดี้แกร่ง ไม่ควรพลาด ราคา 13,900 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรม 8GB
ซีพียู Intel Core i5

รายละเอียดเพิ่มเติม: Infinix


9.Lenovo IdeaPad Flex 5i

10 อันดับ

เข้ามาใน 10 อันดับ กับ Lenovo ที่มีโมเดลในตลาดเริ่มต้นค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกับรุ่นนี้ ที่ราคาจะสูงนิดนึง แต่ได้ลูกเล่นเพียบ เช่นการพับจอเป็นโหมดต่างๆ รองรับทัชสกรีน 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด มุมมองกว้าง ซีพียู Intel Core i3 Gen 11 ให้แรม 4GB ออนบอร์ด แต่อัพเพิ่มไม่ได้ SSD 256GB มาตรฐาน กราฟิก Intel UHD Graphic ให้พอร์ตมาเยอะ USB-C และ HDMI แถมยังมีไฟคีย์บอร์ด มาอีกด้วย รวมถึงระบบสแกนลายนิ้วมือ บอดี้อะลูมิเนียม น้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1.5Kg เท่านั้น ราคา 13,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
พับจอได้ 360 องศา ให้แรม 4GB
บอดี้แข็งแรง

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


10.HP 15s-fq5154TU

10 อันดับ

HP 15s รุ่นนี้ทำราคากับสเปคได้ดีน่าสนใจเข้ามาใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คนี้ ด้วยบอดี้ที่น่าจะถูกใจสายพรีเมียม เพราะดูเหมือนลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยนมาสวยๆ หน้าจอ 15.6″ Full-HD มาให้ และใส่ซีพียู Intel Core i3-1215U รุ่นใหม่ แรง ประหยัดไฟ พร้อมแรม 8GB และ SSD 256GB กราฟิก Intel UHD มี Windows 11 Home พร้อมใช้ แบตจัดได้ว่ากลางๆ แต่ก็ใหญ่กว่าในหลายรุ่น พอร์ตมี USB-C พอให้ใช้กับ HDMI น้ำหนักตัว 1.69Kg ส่วนตัวถือว่าทำได้ค่อนข้างดี การรับประกัน 2 ปี ราคา 13,900 บาท แต่ซื้ออนไลน์ถูกลงอีก ใครชอบสไตล์นี้ จัดได้เลย ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
บอดี้แข็งแรง ดีไซน์สวย น้ำหนัก 1.69Kg
ให้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


Conclusion

Model Display CPU RAM Storage Graphic Weight Price
1.Acer Aspire 3 A314 14″ FHD Intel Pentium N6000 4GB 256GB Intel UHD 1.62Kg 8,990
2.IPASON MAXBOOK P2 15.6″ FHD Intel Celeron N5105 16GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,890
3.Lenovo IdeaPad 1 15.6″ FHD Intel Pentium N4020 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,990
4.HP 15s-eq1575AU 15.6″ FHD AMD Athlon Gold 3150U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 11,390
5.ASUS Vivobook 15 15.6″ FHD Intel Pentium Gold 7505 4GB 512GB Intel UHD 1.8Kg 12,990
6.Lenovo V15 G3 15.6″ FHD AMD Ryzen 3 5425U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 12,990
7.ASUS X515JA 15.6″ FHD Intel Core i3-1005G1 4GB 512GB Intel UHD 1.7Kg 12,990
8.Infinix Book X2 I5 14″ FHD Intel Core i5-1035G1 8GB 512GB Intel UHD 1.24Kg 13,900
9.Lenovo IdeaPad Flex 5i 14″ FHD Intel Core i3-1115G4 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 13,990
10.HP 15s 15.6″ FHD Intel Core i3-1215U 8GB 256GB Iris Xe 1.69Kg 13,900

10 อันดับโน๊ตบุ๊คในราคา 10000 บาท สเปคที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ ออกแบบมาเพื่องานพื้นฐาน เช่น งานเอกสาร ท่องเน็ตหรือความบันเทิงทั่วไป แต่ถ้าขับไปหมื่นต้นๆ มีตัวเลือกอย่าง Intel Core i3 หรือ i5 ให้ได้ใช้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ เราขอสรุปกันแบบง่ายๆ ดังนี้ครับ

เน้นงบน้อยไม่ถึงหมื่นบาท มีทั้ง Acer และ IPASON และ Lenovo ซึ่ง IPASON ทำได้ดีทั้งสเปคและฟังก์ชั่น แต่ตอนนี้หาซื้อยากหน่อย

แต่ถ้าหมื่นต้นๆ ก็มี HP 15s, ASUS Vivobook และ Lenovo V15 ที่ส่วนใหญ่ให้แรมมากขึ้น และซีพียูที่แรงกว่า เช่น ซีพียู Core i และแรม 8GB เป็นต้น

ส่วนในกลุ่ม 13,900 บาท จะเป็นตัวสุดในราคานี้ มีทั้ง Infinix, HP15s และ Lenovo IdeaPad ซึ่ง Infinix ใส่ซีพียู Core i5 มาให้ แต่ Lenovo พับจอกับทัชสกรีนได้ แต่ HP 15s ได้ซีพียู Intel Gen 12 รุ่นใหม่ ก็เรียกว่าวัดใจกันพอสมควรครับ ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาประหยัด ทั้ง 10 รุ่นที่เราเอามาแนะนำกันในวันนี้ครับ มีความคิดเห็นกันอย่างไร คอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/688656-10-value-notebook-10000-2023

คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ ราคาถูก 2023 ทำงาน ดูหนัง อัพเกรดได้

คอมประกอบ 10000 จัดสเปคคอม ราคาถูก 2023 แรม 16GB คอมทำงาน เด็กนักเรียน ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ครบ

PC spec 10000 2023 rev1

คอมประกอบ 10000 ในปี 2023 นี้ มีตัวเลือกเยอะขึ้น เหมาะกับคนทำงาน คอมใช้ในบ้าน และความบันเทิงทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเบาๆ ครบ ครั้งนี้เราจัดสเปคคอมมาให้ 4 สเปคด้วยกัน มีตัวเลือกทั้งค่าย Intel และ AMD โดยมีซีพียูสุดคุ้มอย่าง Intel Core i3 และ AMD Ryzen 3 มาให้ รวมถึงแนวทางในการเลือกฮาร์ดแวร์ จัดสเปคสำหรับใช้งานในโอกาสต่างๆ และถ้าใครยังไม่เคยจัดสเปคด้วยตัวเอง สามารถเข้ามาทดลองใช้ ระบบจัดสเปค NBS ใหม่ของเรา ที่มาพร้อมคำอธิบายข้อมูลฮาร์ดแวร์ และรีวิว มาให้ได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อผ่านทางหน้าร้านจากลิงก์ของเรากันได้เลย


คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ 2023


เลือกซีพียู

การเลือกใช้ซีพียูกับการคอมประกอบ 10000 แบ่งออกได้เป็นหลายมิติ เพราะถ้าจะใช้งานทั่วไป เน้นที่งานเอกสาร แสดงภาพแบบเบาๆ แต่งภาพง่ายๆ กราฟิกไม่ซับซ้อนเกินไป และความบันเทิงทั่วไป ซีพียูในกลุ่มของ Intel Celeron หรือ Pentium ก็ตอบสนองได้ดีหรือ AMD Athlon ก็น่าสนใจ กับการทำงานแบบ 2 core/ 4 thread และซีพียูมีสัญญาณนาฬิกาสูงในระดับหนึ่ง ซีพียูในกลุ่มนี้ราคาเริ่มต้นเพียง 1,xxx บาท เท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุมราคาให้อยู่ในงบประมาณได้

Advertisementavw

แต่ถ้าต้องการสิ่งที่มากกว่า เช่น การทำงานเชิงซ้อน ใช้พร้อมกันหลายแอพพลิเคชั่น การแต่งภาพจริงจัง หรือการเล่นเกมที่ต้องการพลังมากขึ้น ซีพียูน้องเล็กอย่าง Intel Core i3 และ AMD Ryzen 3 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยกับการทำงาน 4 core/ 8 thread ในงบประมาณเริ่มต้นแค่ 3,xxx บาท ยังพอเหลือที่จะจัดสรรไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นแรม หรือ SSD ก็ตาม

ตัวอย่างของซีพียูราคาประหยัด

  • Intel Pentium Gold G6400: 2 core/ 4 thread, Freq.4.0GHz, L3-cache 4MB, TDP 58W, Intel UHD Graphics 610, LGA1200
  • AMD Ryzen 3 3200G: 4 core/ 4 thread, Boost 4.0GHz, L3-cache 4MB. TDP 65W, Radeon Vega 8 Graphics, AM4
  • Intel Core i3-12100: 4 core/ 8 thread, Boost 4.3GHz, L3-cache 12MB. TDP 60W, Intel UHD Graphics 730, LGA1700
  • AMD Ryzen 5 4600G: 6 core/ 12 thread, Boost 4.2GHz, L3-cache 8MB. TDP 65W, Radeon Graphics, AM4
Intel AMD
Intel Pentium Gold G6405 (LGA1200) ประมาณ 2,280 บาท
Intel Core i3-10105F (LGA1200) ประมาณ 2,790 บาท
Intel Core i5-11400 (LGA1200) ประมาณ 6,290 บาท
Intel Pentium Gold G7400 (LGA1700) ประมาณ 2,750 บาท
Intel Core i3-12100F (LGA1700) ประมาณ 3,690 บาท
Intel Core i3-12100 (LGA1700) ประมาณ 4,990 บาท
AMD Ryzen 3 4100 (AM4) ประมาณ 2,390 บาท
AMD Ryzen 5 4500 (AM4) ประมาณ 3,250 บาท
AMD Ryzen 3 3200G (AM4) ประมาณ 3,390 บาท
AMD Ryzen 5 3400G (AM4) ประมาณ 3,690 บาท
AMD Ryzen 5 4600G (AM4) ประมาณ 3,790 บาท
AMD Ryzen 5 5600G (AM4) ประมาณ 5,540 บาท
ราคา 17/2/66

เมนบอร์ด

ถ้าดูจากซีพียูแนะนำสำหรับคอมประกอบ 10000 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซีพียูรุ่นเล็ก ราคาประหยัด ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้น มีทั้งซีพียู Intel Pentium ในแบบซ็อกเก็ต LGA1200 และ LGA1700 รุ่นใหม่ แต่คู่นี้จะต่างกันตรงที่แพลตฟอร์มของเมนบอร์ดครับ เนื่องจาก LGA1200 เลือกใช้กับ Intel H410, B460, H470 และ Z490 เรียงลำดับตั้งแต่ชิปเซ็ตเริ่มต้น ไปจนถึงชิปเซ็ตรุ่นท็อปสุดคือ Z490 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการปรับแต่งและโอเวอร์คล็อก ในขณะที่ชิปเซ็ตรุ่นรองลงไปจะไม่ได้สนับสนุน

คอมประกอบ 10000

แต่ถ้าเป็น Intel LGA1700 รุ่นใหม่ จะมีตัวเลือก ณ เวลานี้คือ Intel 600 series ประกอบด้วย H610, B660, H670 และ Z690 รวมถึง Intel 700 series รุ่นใหม่ ที่รองรับ Intel Gen13 ด้วย อย่างไรก็ดี ณ เวลานี้ ชิปเซ็ต 700 series ตัวเลือกจะยังมีเพียง B760 และ Z790 เท่านั้น รวมถึงราคายังค่อนข้างสูง การเลือกใช้ก็ดูจะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณค่อนข้างสูง หรือต้องการจะใช้กับ Intel Gen 13 เต็มระบบ

คอมประกอบ 10000

ดังนั้นตัวเลือกสำหรับคนที่จะใช้กับสเปคคอมราคาประหยัดเวลานี้ อาจจะเลือกซีพียู Intel Gen 12 และใช้คู่กับเมนบอร์ดในกลุ่ม H610 หรือ B660 เป็นต้น แต่ถ้ามองว่าอยากจะขยับไปตัวใหม่เลย เพราะมีโอกาสจะเปลี่ยนไปใช้ Intel Gen 13 ในอนาคต ตัวเลือกอย่าง Intel B760 ก็น่าสนใจไม่น้อย ราคาสูงขึ้นมาไม่มากนัก


แรม

ตัวเลือกสำหรับการใช้งานเวลานี้ ถ้าดูจากแพลตฟอร์มที่มีในปัจจุบัน ก็จะมีทั้ง DDR4 และ DDR5 ซึ่งค่อนข้างจะแยกกันอย่างชัดเจน เพราะเมนบอร์ดจะเป็นตัวกำหนดให้คุณ ว่าจะใช้แรมแบบใด แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แรม DDR4 แม้จะประสิทธิภาพด้อยกว่า DDR5 อย่างชัดเจน แต่ในเรื่องของราคาก็น่าสนใจกว่า เนื่องจากถูกลงมาร่วมพันบาท หรือหลายพัน ขึ้นอยู่ว่าเป็นความจุและความเร็วบัสของแรม ทำให้อยู่ในงบคอมประกอบ 10000 มากยิ่งขึ้น

DDR4 3200 DDR4 3600 DDR5 5200 DDR5 6000
8GB 1,100
16GB 1,600 2,500 3,400
32GB 3,800 4,000 5,800 8,600
อ้างอิง: 17/2/66

จากตารางด้านบน เป็นราคาประมาณของแรม ในระดับเริ่มต้น ที่ไม่ได้เป็นแรม RGB หรือมี CL ต่ำเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าความจุของแรม DDR4 3200 32GB นั้นถูกกว่า DDR5 5200 32GB อย่างน้อยๆ 2,000 บาท และจะต่างมากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกับ DDR5 6000

คอมประกอบ 10000

ดังนั้นนอกจากการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เป็น DDR5 นี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายของเมนบอร์ดที่ราคาสูงขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนต่างของราคาแรม DDR5 เพิ่มมาอีกด้วย แต่ในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าจะมองถึงประสิทธิภาพกับการใช้งานในวันข้างหน้า หรือว่าจะใช้แค่ชุด DDR4 ในวันข้างหน้าหากจำเป็นจะต้องเปลี่ยน ก็อาจจะซื้อใหม่ยกชุดกันไป

ส่วนถ้างบประมาณจำกัด ก็อยากจะแนะนำแรม DDR4 16GB ขึ้นไป ยิ่งในงบประกอบคอม 10000 บาทด้วยแล้ว แรม 8-16GB ก็ดูจะเหมาะสม และช่วยให้ระบบทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น


Storage

ในคอมประกอบ 10000 มีระบบจัดเก็บข้อมูล ในปัจจุบันคุณสามารถเลือกได้หลากหลาย มีตั้งแต่ HDD ในแบบ SATAIII หรือจะเป็น SSD ในแบบ SATAIII และ SSD ในแบบ M.2 PCIe ขึ้นอยู่กับงบประมาณและรูปแบบการใช้งานของแต่ละท่าน หรือจะใช้ร่วมกันก็ได้ เช่น SSD เป็นตัวบูตระบบ เพราะมีความเร็วสูง และ HDD เป็นตัวช่วยในการจัดเก็บข้อมูล เพราะมีความจุที่มาก ในราคาค่อนข้างประหยัดเป็นต้น

คอมประกอบ 10000

HDD มีสองแบบด้วยกันคือ แบบที่เป็น 3.5″ ที่มีขนาดใหญ่ และ 2.5″ ที่อออกแบบมาเพื่อใช้ในโน๊ตบุ๊ค ให้ความเร็วที่ดีในระดับหนึ่งประมาณ 200-350MB/s แต่โดดเด่นในเรื่องของความจุที่คุ้มค่า รวมถึงความทนทานที่วางใจได้ เมื่อเกิดความเสียหาย ยังมีโอกาสที่กู้ข้อมูลคือได้มากกว่า ราคาในตลาด 1TB ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น

คอมประกอบ 10000

SSD SATA เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะราคาค่อนข้างประหยัด แต่ให้ความเร็วในระดับ 500MB/s ในงบประมาณประกอบคอมประหยัดนั้น 240-480GB เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาเริ่มต้นเพียง 690 บาท ส่วนในรุ่น 512GB ราคาประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น

คอมประกอบ 10000

SSD PCIe แต่สำหรับคนที่มองถึงความเร็วเป็นหลัก งบประมาณพอจะจัดสรรมาได้ ตัวเลือกอย่าง SSD M.2 NVMe PCIe ปัจจุบันมีให้เลือก PCIe Gen3 x4 และ Gen4 x4 โดยที่ Gen5 x4 กำลังจะลงตลาดมาในไม่ช้า แต่ราคาในกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงขึ้นมา ตามประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างเช่น M.2 PCIe Gen3 x4 256GB (R 2,000MB/s, W 1,500MB/s) ราคาประมาณ 850 บาท อีกรุ่นหนึ่งคือ M.2 PCIe Gen4 x4 500GB (R 3,000MB/s, 2,000MB/s) ราคาประมาณ 1,200 บาท


การ์ดจอ

สำหรับการ์ดจอในคอมประกอบ 10000 บาทนี้ ยังคงใช้กราฟิกบนซีพียูที่เป็น iGPU หรือ Integrate Graphic ที่มาพร้อมซีพียูเป็นหลัก ซึ่งคุณจะสามารถใช้งานในเบื้องต้นได้ จนกว่าจะมีงบประมาณสำหรับซื้อการ์ดจอแยกมาใช้ในภายหลัง แต่เวลาที่เลือกซีพียูที่มีการ์ดจอในตัวนั้น ต้องหลีกเลี่ยงซีพียูที่มี “F” หรือ “KF” ต่อท้ายรหัส สำหรับซีพียูจาก Intel ส่วนค่าย AMD นั้นต้องเลือกที่ต่อท้ายด้วย “G” ถึงจะมีกราฟิกมาให้ แต่เวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะซีพียูอย่าง AMD Ryzen บนซ็อกเก็ต AM5 รุ่นใหม่ 2023 ที่ต่อท้ายด้วย “X” จะมาพร้อมกราฟิกในตัวด้วยเช่นกัน

คอมประกอบ 10000

Intel UHD Graphic: เป็นกราฟิกที่อยู่บนซีพียู Intel ที่รองรับการใช้งานพื้นฐานในปัจจุบันได้ค่อนข้างดี ซึ่งจะมีอยู่ในซีพียู Intel Core family และ Pentium เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ถอดรหัสไฟล์วีดีโอ เล่นเกมออนไลน์ง่ายๆ และการแสดงผลกราฟิกที่ไม่หนักจนเกินไป รวมถึงแชร์หน่วยความจำร่วมกับแรมระบบอัตโนมัติ

Intel Pentium G6400 Graphoc

AMD Radeon Graphic: เป็นกราฟิกที่ Integrate หรือติดตั้งมาบนซีพียูในกลุ่มของ AMD Ryzen AM4 หลายรุ่น โดยมีอยู่ใน G series เป็นหลัก เช่น Ryzen 3 3200G, Ryzen 5 3400G หรือ Ryzen 3 Pro 4350G เป็นต้น เป็นกราฟิกที่เหมาะกับงานทั่วไป เล่นเกมง่ายๆ ไม่ใช้ทรัพยากรมาก หรือการดูหนัง รองรับการแสดงผลระดับ 4K เหมาะกับคอมประกอบราคาประหยัด

คอมประกอบ 10000

หากประกอบคอม 10000 บาทนี้ ค่อนข้างจะยากกับการหาการ์ดจอแยกมาใส่ แต่เมนบอร์ดพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป ก็สามารถรองรับการติดตั้งการ์ดจอหรืออัพเกรดเพิ่มได้ แทบจะไม่ต้องกังวลมากนัก หากคุณจะประกอบใช้งานกราฟิกบนซีพียูไปก่อน เมื่อพร้อมก็หาการ์ดจอมาเพิ่มได้ในภายหลัง


เพาเวอร์ซัพพลายและเคส

คอมประกอบ 10000 เลือกในกา่รเพาเวอร์ซัพพลายและเคส เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับรองลงมาได้ ตามความเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมี โดยเพาเวอร์เริ่มต้นแนะนำที่ 550W-600W ที่เป็นแบบพื้นฐานมาใช้งานก่อนได้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 600-900 บาทเท่านั้น แต่ถ้างบประมาณมีสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย อาจจะเลือกที่เป็น 80+ standrard ระดับ 500-550W ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท

คอมประกอบ 10000

แต่ถ้ามองว่าในอนาคตอาจจะมีการอัพเกรด เพิ่มการ์ดจอใหม่ ในระดับกลางๆ หรือต้องการเปลี่ยนซีพียูในภายหลัง แนะนำว่าให้เริ่มต้นที่ 600W 80+ standard ขึ้นไป เพราะราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าถ้าไม่ได้เลือกเพาเวอร์ที่สนับสนุนได้ดีพอแต่แรก คุณอาจจะต้องเหนื่อยกับการรื้อสายเพาเวอร์ภายในเคสออกมา เพื่อติดตั้งเพาเวอร์ตัวใหม่เข้าไป และต้องเก็บสายให้เรียบร้อย เสียเวลากับค่าใช้จ่ายไปรอบเดียว คุ้มค่ากว่าครับ

คอมประกอบ 10000

เคสเลือกแบบที่ต้องการได้เลย เพราะมีให้เลือกทั้งเคสเล็ก ใหญ่ ด้านในกว้าง รองรับ mATX หรือ ATX มีทั้งฝาข้างกระจก และแบบทึบ รวมถึงแสงไฟอะไรต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่อยากให้คำนึงเอาไว้มากๆ ก็คือ การเลือกเคสที่ติดตั้งง่าย มีองค์ประกอบครบ พาแนลมีพอร์ตมาให้ต่อสะดวก ติดตั้งพัดลมเอาไว้ให้แล้ว มีการระบายความร้อนที่ดี กระจกเทมเปอร์ต้องติดตั้งง่าย ไม่ต้องกลัวแตกเสียหาย และด้านในกว้างมากพอสำหรับกราฟิกการ์ดที่คุณจะใช้ในอนาคต พื้นที่ด้านหลังเคส กว้างพอในการลอดสายไฟได้สะดวก ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่คุณรับได้


ตัวอย่างสเปคคอมประกอบ 10000 บาท

คอมประกอบ 10000

สเปค 1 – คอมประกอบ 10000 ทำงานเบาๆ เทรดหุ้น ดูหนัง

  • ซีพียู: Intel Pentium Gold G6400, 2 core/ 4 thread, 4.0GHz
  • เมนบอร์ด: Gigabyte H510M-H
  • แรม: TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB
  • SSD: WD SN570 250GB
  • การ์ดจอ: Intel UHD Graphics 610
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Antec B550
  • เคส: Tsunami Galaxy G15

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 1


คอมประกอบ 10000

สเปค 2 – คอมประกอบ 10000 เรียนออนไลน์ เล่นเกมเบาๆ

  • ซีพียู: AMD Ryzen 3 3200G, 4 core/ 4 thread, Boost 4.0GHz, L3-cache 4MB. TDP 65W, Radeon Vega 8 Graphics, AM4
  • เมนบอร์ด: MSI A520M-A Pro
  • แรม: TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB
  • SSD: WD Green 240GB
  • การ์ดจอ: Radeon Vega 8 Graphics
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 600W
  • เคส: Montech X2 Mesh, Tempered Glass, w/ RGB Fan

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 2


คอมประกอบ 10000

สเปค 3 – คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ แต่งภาพ

  • ซีพียู: Intel Core i3-12100, 4 core/ 8 thread, Boost 4.3GHz, L3-cache 12MB. TDP 60W, Intel UHD Graphics 730, LGA1700
  • เมนบอร์ด: ASRock H610M-HDV
  • แรม: PNY DDR4 3200 16GB
  • SSD: HIKVISION E3000 256GB
  • การ์ดจอ: Intel UHD Graphics 730
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 600W
  • เคส: Tsunami Galaxy G15

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 3


คอมประกอบ 10000

สเปค 4 – คอมประกอบ 10000 ทำงานมัลติทาส์ก แต่งภาพ ไฟล์งานขนาดใหญ่

  • ซีพียู: AMD Ryzen 5 4600G, 6 core/ 12 thread, Boost 4.2GHz, L3-cache 8MB. TDP 65W, Radeon Graphics, AM4
  • เมนบอร์ด: Gigabyte A520M-S2H
  • แรม: PNY DDR4 3200 16GB
  • SSD: Crucial P3 500GB
  • การ์ดจอ: Radeon Graphics
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 700W
  • เคส: Aerocool Glider Cosmos

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 4


Conclusion

คอมประกอบ 10000
สเปคที่ 1 สเปคที่ 2 สเปคที่ 3 สเปคที่ 4
ซีพียู Intel Pentium Gold G6400 AMD Ryzen 3 3200G Intel Core i3-12100 AMD Ryzen 5 4600G
เมนบอร์ด Gigabyte H510M-H MSI A520M-A Pro ASRock H610M-HDV Gigabyte A520M-S2H
แรม TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB PNY DDR4 3200 16GB PNY DDR4 3200 16GB
Storage WD SN570 250GB WD Green 240GB HIKVISION E3000 256GB Crucial P3 500GB
การ์ดจอ Intel UHD Graphics 610 Radeon Vega 8 Graphics Intel UHD Graphics 730 Radeon Graphics
เพาเวอร์ Antec B550 Aerocool Superb 600W Aerocool Superb 600W Aerocool Superb 700W
เคส Tsunami Galaxy G15 Montech X2 Mesh Tsunami Galaxy G15 Aerocool Glider Cosmos
ราคา 10,650.- 10,580.- 12,990.- 13,540.-

คอมประกอบ 10000 อาจจะต้องเลือกว่าคุณจะคุมสิ่งใดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อให้อยู่ในงบประมาณมากที่สุด เช่น เน้นทำงานเป็นหลัก ซีพียูที่มีแกนหลักจำนวนมาก และมีสัญญาณนาฬิกาที่สูง ก็จะตอบโจทย์ได้ดี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Intel Core หรือ AMD Ryzen ก็ตาม เมื่อเทียบกับ Intel Pentium หรือ AMD Athlon รวมถึงการใส่แรม DDR 16GB ก็มีส่วนช่วยให้ระบบโดยรวมลื่นขึ้นได้ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป ลดซีพียูลง และใช้แรม 16GB แต่ไปเพิ่ม Storage เช่น SSD ให้มากขึ้น หรือใช้ SSD 120-240GB แล้วเอางบประมาณบางส่วนไปลงกับ HDD 1-2TB ก็น่าสนใจ ในกรณีที่คุณเน้นเก็บงานเป็นหลัก ไม่ได้เรียกใช้งานอยู่ประจำ ทำให้ได้พื้นที่มากขึ้น อย่างไรก็ดีการจัดสเปคในงบประมาณนี้ อาจจะค่อนข้างจำกัด ในเรื่องของสล็อตแรม ที่คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแรม หากต้องการอัพเกรด แต่ถ้าคิดว่า 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ก็ไม่ต้องวิตกแต่อย่างใด สุดท้ายคือ หากจะอัพเกรดการ์ดจอ สเปคเหล่านี้ ก็ยังพอไปต่อได้ ในการ์ดจอระดับกลางๆ ลองตัดสินใจกันครับว่าไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร และถ้าคุณยังไม่แน่ใจในเรื่องสเปคเหล่านี้ สามารถคลิ๊กเข้าไปในระบบจัดสเปค NBS เพื่อหาสเปคที่เป็นแนวทางของคุณกันได้เลย

from:https://notebookspec.com/web/685828-online-pc-spec-10000-2023

เพิ่มความเร็ว โน๊ตบุ๊คเก่า 2023 เล่นเกมลื่น ใน 15 ขั้นตอน ฟรี! ยังไม่ต้องซื้อใหม่

เพิ่มความเร็วเล่นเกมลื่นใน 15 ขั้นตอน ให้โน๊ตบุ๊คเก่า ยังไม่ต้องซื้อใหม่ พร้อมใช้ในปี 2023

15 boost speed notebook 2023 1

เพิ่มความเร็ว เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าของคุณได้ เล่นเกมช้า เปิดโปรแกรมไม่ทันใจ อยากได้เครื่องใหม่ แต่งบก็มีจำกัด มีวิธีมาแนะนำ ทำให้เครื่องคุณเร็วขึ้นบน Windows 11 เวอร์ชั่นปี 2023 แบบฟรีๆ แค่ทำตามไม่กี่ขั้นตอน แล้วคุณจะแฮปปี้กับการเล่นเกมได้มากดีกว่าเดิม และยังให้ผลดีในระยะยาว สามารถทำซ้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดต ลด Process คืนพลังให้ซีพียู ลดการใช้แรม รวมถึงการตั้งค่ากราฟิก ทั้งบนกราฟิกบนซีพียู และการ์ดจอแยก เรามาดูกันครับว่า จะมีจะเพิ่มความเร็วอย่างไร มีขั้นตอนใดกันบ้าง และรายละเอียดเป็นอย่างไร ทำตามกันได้เลยครับ

เพิ่มความเร็ว โน๊ตบุ๊คเก่าให้เร็วขึ้น 15 ขั้นตอน

  1. ทำไมโน๊ตบุ๊คเก่าถึงทำงานช้าลง
  2. จัดการความร้อนให้อยู่หมัด
  3. ปิด Process ที่ไม่จำเป็น
  4. ปิดโปรแกรมใน Startup
  5. อย่าลืมอัพเดต
  6. Hardware-accelerated scheduling
  7. เปิดใช้ Game Mode
  8. ใช้ Storage Sense
  9. Optimize ระบบ
  10. ปิด Visual Effect บ้าง
  11. ตั้งค่า Image Quality
  12. Manage 3D settings
  13. ปิด FXAA
  14. Power settings
  15. Radeon Boost
  16. ทางเลือกอื่นๆ
  17. Conclusion

ทำไมโน๊ตบุ๊คเก่าถึงทำงานช้าลง

สิ่งที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเก่า ทำงานได้ช้าลง กระตุก หรือมีความผิดปกติ มีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น ความร้อน ข้อมูลในไดรฟ์เยอะจนเต็ม ไม่ได้เคลียร์ไฟล์ขยะ ติดไวรัส มัลแวร์ ไปจนถึงความเสื่อมของชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในโน๊ตบุ๊ค ทุกสิ่งนี้มีโอกาสทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าช้าลงได้ เรามาดูกันครับว่าเกิดจากอะไร และแก้ไขเพิ่มความเร็วอย่างไรได้บ้าง

Advertisementavw
เพิ่มความเร็ว

ความร้อน: มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เมื่อใช้โน๊ตบุ๊คไปนานๆ แล้วไม่ได้ทำความสะอาด จะเกิดฝุ่น สิ่งสกปรกเข้าไปเกาะอยู่บริเวณพัดลม ฮีตซิงก์ หรือบางครั้งก็อุดตันบริเวณช่องลมออก ทำให้ระบายลมร้อนได้ไม่ดี ความร้อนสะสม การแก้ไขลดความร้อน ก็ใช้วิธีแกะออกมาเป่า ปัดฝุ่น หรืออาจจะใช้ Clear Contact ร่วมด้วย สามารถทำเองได้ หรือจะส่งช่างซ่อมก็ได้เช่นกัน

เพิ่มความเร็ว

ไดรฟ์เต็ม ข้อมูลเยอะ: เป็นเรื่องปกติ เมื่อเก็บข้อมูลจนเยอะ บางครั้งเต็มฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ก็ทำให้ระบบปฏิบัติการช้าลง การจัดเก็บข้อมูลไม่ปกติ ไปจนถึงระบบไม่มีพื้นที่ Swap file สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้คอมช้าทั้งสิ้น แก้ไขได้โดยย้ายไฟล์เอาไปสำรองไว้ในไดรฟ์อื่น ไม่ว่าจะนำไปไว้บน Cloud storage ที่มีให้บริการอยู่มากมาย หรือจะซื้อไดรฟ์ต่อภายนอก จะเป็น HDD หรือ SSD ก็ได้

ไม่ได้จัดการไฟล์ขยะ Temporary file: ไฟล์ขยะเหล่านี้ส่งผลทำให้ระบบช้าลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊คเก่าที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ไม่เคย Scan หรือ Drfeagment หรือการ Clear temp ไฟล์เหล่านี้จะมีทั้งไฟล์ที่เรา Delete ทิ้ง และไฟล์ที่ค้างมาจากการติดตั้ง รวมถึงระบบเองก็ตาม วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การใช้ Disk Cleanup ที่เป็นฟังก์ชั่นของ Windows ลบไฟล์ต่างๆ ให้เหลือพื้นที่ว่างมากขึ้น

ติดไวรัส มัลแวร์: จัดว่าเป็นอันตรายค่อนข้างมาก นอกเหนือจากการทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าช้า เพราะคุณอาจถูกล้วงข้อมูล แฮกก์ไฟล์สำคัญ หรือเข้าถึงเมล์และการทำธุรกรรมการเงินของคุณได้เลย การแก้ไข ให้ใช้วิธีการสแกนเริ่มต้นจากการสแกนผ่านทาง Windows Security หรือติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ แล้วสแกนแบบละเอียด

เพิ่มความเร็ว

ความเสื่อมสภาพ: เป็นเรื่องที่อาจไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล ความร้อนส่งผลอย่างมาก ต่ออายุการใช้งานของโน๊ตบุ๊คและแบตเตอรี่ หากโน๊ตบุ๊คเริ่มทำงานช้า ให้เช็คฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นร่วมด้วย เช่นแรม ฮาร์ดดิสก์หรือเมนบอร์ด และแบตเตอรี่ เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้น และจะมีความเสียหายตามมาในภายหลัง


วิธีแก้ไขปัญหาและเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊คเก่า

ในการเพิ่มความเร็ว และแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คเก่าทำงานช้า ให้สามารถเล่นเกมหรือทำงานได้ดีขึ้น อาจจะต้องใช้ขั้นตอนต่างๆ ร่วมกัน โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้

1.จัดการความร้อนให้อยู่หมัด

เพิ่มความเร็ว

เรื่องนี้สำคัญนะครับ หากจะเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊ค เพราะเมื่อความร้อนสูง ระบบจะดรอปการทำงานของซีพียูและ GPU ลง ทำให้ขณะที่คุณเล่นเกิดการกระตุก หรือถ้าร้อนจัด อาจค้างแฮงก์ได้เช่นกัน จึงควรจัดการความร้อนให้ดีที่สุด จะอยู่ในห้องแอร์หรือเพิ่ม Cooling Pad ก็ตามสะดวก แต่ถ้าให้ดี การทำความสะอาดโน๊ตบุ๊คปีละ 2-3 ครั้งด้วยการปัดฝุ่น หรือเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ ก็เหมาะสม

ข้อดี ค่าใช้จ่าย
Cooling Pad ประหยัด ง่าย สะดวก ไม่แพงเริ่มหลักร้อย
ทำความสะอาด พัดลมทำงานดีขึ้น ลดความร้อน น้อย อาจซื้อแค่ของบางชิ้น แต่ต้องใช้ทักษะ
ทาซิลิโคนใหม่ ช่วยระบายความร้อน CPU และ GPU ดีมาก หากแกะไม่เป็นต้องจ่ายค่าช่าง หรือค่าซื้อซิลิโคนใหม่ หากทำเป็น

2.ปิด Process ที่ไม่จำเป็น

เพิ่มความเร็ว

เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระในการทำงานของซีพียูและแรม จากการที่มีแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมทำงานค้างอยู่ หรือทำงานอยู่เบื้องหลัง เมื่อปิดไปแล้ว ก็จะคืนแรมหรือซีพียูให้กลับมาทำงานได้ตามเดิม วิธีการทำ ให้เข้าไปที่ Task Manager > เช็คว่ามีสิ่งหรือโปรแกรมใดที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้งานในขณะนั้น ให้เลือกด้วยคลิ๊กขวา > แล้วเลือก End Task ก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ระดับหนึ่ง


3.ปิดโปรแกรมใน Startup

เพิ่มความเร็ว

หลายครั้งที่เราจะเห็นโปรแกรมที่เราไม่ได้ใช้ ทำงานอยู่ แม้ว่าเราจะปิดการทำงานของโปรแกรมไปแล้วก็ตาม และส่วนหนึ่งจะเปิดทำงานตั้งแต่ที่เราเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา ซึ่งสามารถเช็คได้จากหน้า Process วิธีการเข้าไปปิดการทำงานโปรแกรมเหล่านี้ ให้เข้าไปที่ Task Manager ด้วยการกดคีย์ลัด Ctrl+Shift+Esc > เลือกที่ Startup apps > เลือกดูในแถบ Name ว่ามีโปรแกรมใด ไม่จำเป็นต้องทำงาน ณ เวลานั้น หรือเปิดพร้อม Windows ให้คลิ๊กขวา แล้วเลือก Disable

ข้อควรระวัง การปิด Process ให้เช็คดูว่า สิ่งที่จะปิดนั้น เป็นระบบที่กำลังทำงานอยู่หรือไม่? เป็นไปได้เลือกปิดเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่คุณไม่ได้ใช้งานในช่วงเวลานั้นจะดีที่สุด


4.อย่าลืมอัพเดต

Update Windows & Driver เป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเกมเมอร์ ที่ต้องการเพิ่มความเร็ว ไดรเวอร์สำคัญมากครับ ควรอัพเดตไดรเวอร์ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ รวมถึงการ Update Windows ที่นอกจากจะทำให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น ก็ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบอีกด้วย

เพิ่มความเร็ว

วิธีการอัพเดต Windows นั้น ให้เริ่มต้นดังนี้ คลิ๊กขวาปุ่ม Win > เลือกที่ Windows Update ด้านซ้าย แล้วเลือก Check Update > Install > เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยให้ Restart ระบบใหม่อีกครั้ง

เพิ่มความเร็ว

วิธีการ Update Driver มีด้วยกัน 2 แบบ

  1. ดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแต่ละค่าย เช่น ASUS.com/support เป็นต้น
  2. เลือกดาวน์โหลดเฉพาะไฟล์ เช่น การ์ดจอ nVIDIA Driver หรือ AMD เมื่อได้ไฟล์ก็นำมาติดตั้งได้เลย

5.Hardware-accelerated scheduling

เพิ่มความเร็ว

การเปิดการทำงานของ Hardware-accelerated scheduling ที่อยู่บนระบบปฏิบัติการ Windows จะส่งผลทำให้การ์ดจอสามารถจัดการ VRAM ได้ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการของระบบ ซึ่งเป็นผลดีต่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นมาอีกนิดหน่อย และยังลดความหน่วงของภาพที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย สามารถใช้ร่วมกับ API ต่างๆ ได้มากมาย โดยวิธีเปิดใช้ ให้คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Display > ไปที่ Graphic > เลือกที่ Change Default Graphic settings > On-Hardware-accelerated scheduling จากนั้น Restart ระบบใหม่อีกครั้ง


6.เปิดใช้ Game Mode

เพิ่มความเร็ว

เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเล่นเกมได้ดีขึ้น กรณีที่ใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าๆ ให้เข้าไปที่หน้า System เลือกหัวข้อ Gaming ที่อยู่ทางด้านซ้าย > เลือกที่ Game Mode > ในหัวข้อ Game Mode ให้เปิดเป็น On


7.ใช้ Storage Sense

เพิ่มความเร็ว

ล้างไฟล์ขยะออกบ้าง หากต้องการให้โน๊ตบุ๊คเก่ากลับมาเร็วขึ้น เนื่องจากบางครั้งเราใช้งานเครื่องมานาน จนมีไฟล์จาก Cookie, Temp file, และไฟล์อื่นๆ ที่มาจากระบบ ทำให้เสียทรัพยากรบางส่วนไป ซึ่งมีผลกระทบในการทำงานและเล่นเกมอยู่ด้วย สามารถใช้วิธีเคลียร์ไฟล์ อัตโนมัติให้เลย  คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Windows > เลือก System > กดที่ System ด้านซ้ายมือ > เลือก Storage > Storage Management > เปิด Storage Sense ให้ On


8.Optimize ระบบ

เพิ่มความเร็ว

เป็นวิธีการเหมือนให้ Windows จัดการสิ่งต่างๆ ภายในระบบเบื้องต้นให้ เหมือนกับการ รีเฟรชระบบใหม่อีกครั้ง เข้าไปที่ File Explorer > เลือกไดรฟ์ C ที่ใช้ติดตั้งระบบ > คลิ๊กขวาบนไดรฟ์ C > เลือก Properties > Tools > ไปที่ Optimize Drives > กรณีที่ใช้ SSD ให้เข้ามาตั้งค่าตรง Change settings > เอาเครื่องหมายหน้า Run on a schedule ออกก่อนครับ แต่ถ้าใช้ HDD ให้ On เอาไว้ > จากนั้นกดปุ่ม Optimize รอจนกระบวนการเสร็จสิ้น

หากคุณใช้ SSD ในระบบ ไม่ควรเปิดการทำงาน Defragment เอาไว้ เพราะจะทำให้ SSD ถูกใช้งานโดยไม่จำเป็น ให้เลือกเปิดเฉพาะไดรฟ์ที่เป็น HDD เท่านั้น


9.ปิด Visual Effect บ้าง

เพิ่มความเร็ว

การเพิ่มความเร็วให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > เลือก Accessibility ทางด้านซ้าย > เลือก Visual ที่อยู่ด้านขวา > Transparency effects-Off และ Animation effectss-Off เช่นเดียวกัน ผลที่ได้ระบบจะลดภาระในการสร้างกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ ลง การเปิดหน้าต่าง เลื่อน ย้าย จะไม่สมูทลื่นไหล รวมถึงเอฟเฟกต์โปร่งแสงจะหายไป แต่ได้ Process ที่ดีกลับมา ทำให้เครื่องลื่นขึ้น ช่วยเพิ่มความเร็ว แต่ความสวยงามลดลง เอาไว้กรณีที่อยากเล่นเกมให้ดีขึ้น แล้วกลับมา On ใหม่อีกครั้งก็ได้

การลด Visual Effect ทำให้ระบบลื่นขึ้น แต่เอฟเฟกต์และความสวยงามของระบบลดลง ซึ่งสามารถเปิดการทำงานในภายหลังได้


10.ตั้งค่า Image Quality ในไดรเวอร์ nVIDIA

เพิ่มความเร็ว

ใครที่ใช้การ์ดจอ nVIDIA ให้เข้ามาตั้งค่าการแสดงผล ที่ช่วยให้การเล่นเกมดีขึ้นอีกนิด เริ่มต้นให้คลิ๊กขวาที่หน้าเดสก์ทอป > เลือก nVIDIA Control Panel > ในหน้า Adjust Image Settings with Preview > ลงมาด้านล่างใต้โลโก้ที่หมุนๆ ให้ใส่เครื่องหมายหน้า Use my preference emphasizing: … (ตรงนี้ให้เลือก Performance) จากนั้น Save แล้ว Restart


11.Manage 3D settings

เพิ่มความเร็ว

จากหน้าของไดรเวอร์ nVIDIA ให้เข้ามาที่หัวข้อ Manage 3D settings ที่อยู่ซ้ายมือ > หัวข้อ Prefered graphic performance > เลือกเป็น High-Performance nVIDIA processor (ในกรณีที่เสียบสายชาร์จอยู่แล้ว เน้นประสิทธิภาพ) > หัวข้อ Settings >  Power management mode > เลือก Prefer maximum performance


12.ปิด FXAA

เพิ่มความเร็ว

ส่วนใหญ่การตั้งค่าความสวยงามของภาพและ Detail จะเข้าไปตั้งกันใน Game แต่เราสามารถกำหนดค่าเบื้องต้นได้เช่นกัน รวมถึงการปิด FXAA ก็ช่วยให้การเล่นเกมได้ดีขึ้น เพราะลดภาระของ GPU ลง กรณีที่ใช้กราฟิกตัวไม่แรง และไม่ได้เน้นความสวยหรู ภาพเนียนกริ๊บ โหมดนี้ช่วยได้เยอะ จากในหน้าไดรเวอร์เดิม หัวข้อ settings > เลื่อนลงมาที่ Antialiasing – FXAA เลือก Off > Antialiasing – Mode เลือก Off


13.Power settings

เพิ่มความเร็ว

เป็นการตั้งค่าของการใช้โหมดพลังงานโน๊ตบุ๊ค โดยปกติจะมีให้เลือกคือ Best Performance, Balance และ Power saving ซึ่งแต่ละโหมดจะมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบ เพราะระบบจะทำงานให้เหมาะกับโหมดที่เลือกนั่นเอง หากจะเล่นเกมหรือทำงานจริงจังแล้ว ก็แนะนำให้ปรับเป็น Best Performance คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > Lock screen > Screen timeout > เข้าไปที่้ Power & Battery > หัวข้อ Power เลือก Power mode > เลือกที่ Best Performance

เมื่อเลือกเป็น Best Performance อย่าลืมเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊ค เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเล่นเกม


14.Radeon Boost

เพิ่มความเร็ว

ในกรณีที่คุณใช้การ์ดจอ AMD Radeon ก็สามารถใช้ประโยชน์จากไดรเวอร์ AMD Adrenalin ได้เลย กับการปรับค่าง่ายๆ เมื่อเข้ามาที่หน้าโปรแกรมแล้ว > ในหัวข้อ Graphic > ให้เลือกที่ Radeon Boost > ให้เปิดใช้งานเป็น Enable เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้อีกทางหนึ่ง

15.การอัพเกรด

เพิ่มความเร็ว

นอกจากขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีในการเพิ่มความเร็ว ทำให้โน๊ตบุ๊คเก่าของคุณกลับมาทำงานได้ดีกว่าเดิม เพิ่มความเร็วได้มากขึ้น อย่างเช่น การอัพเกรด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแรม ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คเหล่านั้นมีสล็อตให้เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแรมตัวยเดิมได้ วิธีนี้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย หรือการเปลี่ยนจาก HDD มาเป็น SSD ตรงนี้จะเห็นผลค่อนข้างเยอะทีเดียว และทำได้ไม่ยาก เพราะอย่างน้อยๆ โน๊ตบุ๊คย้อนหลังไป 5-6 ปี ต้องมีพอร์ต SSD ที่เดิมอาจจะใช้อยู่กับ HDD 2.5″ ในแบบ SATA การเปลี่ยนเป็น SSD SATAIII ก็ทำให้ความเร็วเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟล์ เปิดโปรแกรม หรือการถ่ายโอนข้อมูลก็ตาม และวิธีสุดท้าย ก็คือการโอเวอร์คล็อกการ์ดจอ หากคุณใช้การ์ดจอแยกบนเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถลองใช้งานโปรแกรม MSI Afterburner ดูได้ ซึ่งจะทำให้การเล่นเกมของคุณดีขึ้นบ้าง

เลือก SSD รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี?

SSD 2022 Cov1

Conclusion

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีในการเพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊คเก่าในปี 2023 นี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม แนะนำว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีการ์ดจอแยก จะได้ผลดียิ่งขึ้น แต่อาจจะไม่ได้ส่งผลให้เฟรมเรตเพิ่มมากขึ้นมากมาย แต่ก็ช่วยให้การเล่นเกมมีความไหลลื่นกว่าเดิม รวมถึงการทำงานในหลายด้าน โดยเฉพาะกับไฟล์ขนาดใหญ่ หรือจัดการกับไฟล์ที่มีจำนวนมาก เช่นเดียวกับการเปิดเว็บเบราว์เซอร์ เพื่อการท่องอินเทอร์เน็ตหรืองานออนไลน์ ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย เพราะลด Process ในหลายส่วนลง และมีการนำแรมและซีพียูกลับมาใช้ได้มากขึ้น แต่ในกรณีที่ปรับแต่งหลายส่วนไปแล้ว อาจจะยังดีขึ้นไม่ถึงแบบที่น่าพอใจ ในขั้นตอนที่ 15 หรือว่าการอัพเกรดช่วยแก้ไขสิ่งต่างๆ จะเป็นตัวช่วยที่ดี แม้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ให้ผลที่คุ้มค่า เช่นการเพิ่มแรมหรือเปลี่ยนเป็น SSD เป็นต้น

from:https://notebookspec.com/web/687861-15-step-increase-speed-notebook-2023

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 คอมช้า ไม่ทันใจ ใส่แรมใหม่ เลือกอย่างไร แบบไหนดี คุ้ม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ไม่ต้องซื้อคอมใหม่ 2023 อัพเกรดง่าย เร็ว ทำเองได้ เลือกแบบไหน ดูอย่างไร ไปชม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ทำได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ทำให้ระบบมีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ ยิ่งในปัจจุบันแรมรุ่นใหม่ๆ อย่าง DDR5 ก็เริ่มมีมาให้ใช้งานกันบ้างแล้ว ความแรงเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างไรก็ดีใครที่ใช้โน๊ตบุ๊ครุ่นเก่า หรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้เริ่มช้า อาจจะยังไม่ต้องซื้อใหม่ เพราะบางครั้งแค่อัพเกรดแรม ก็ทำงานลื่นขึ้นแล้ว แต่การอัพเกรดก็ต้องตรวจเช็คให้แน่ใจ ว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้รองรับการอัพเกรดแรมหรือไม่ ใช้แรมแบบใด มีสล็อตเพิ่มมาให้หรือไม่ และใส่ความจุสูงสุดได้เท่าไร? สิ่งเหล่านี้ผู้ใช้อาจจะต้องทราบก่อนที่จะไปซื้อแรมมาเพิ่มนั่นเอง จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงินไปเปล่าๆ และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า โน๊ตบุุ๊คที่ใช้อยู่ น่าจะได้เวลาอัพเกรดแรมแล้ว ไปดูกันว่าเราจะต้องสังเกต ตรวจเช็คอย่างไร

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 ง่าย สะดวก เร็วขึ้น


รู้จักกันแรมโน๊ตบุ๊ค

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค สังเกตได้ชัดเจนกว่าแรมของพีซี เพราะฉะนั้นการซื้อมาใช้หรืออัพเกรด ต้องดูให้แน่ใจ ตามสัดส่วนที่เห็นง่ายๆ แบบนี้ ระหว่างแรม DIMM สำหรับพีซี และ SO-DIMM สำหรับโน๊ตบุ๊ค โดยด้านบนสุดจะเป็นแรม SO-DIMM ส่วนด้านล่าง จะเป็นแรม DDR4 และ DDR5 ของพีซี สังเกตไม่ยากครับ

Advertisementavw
เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สำหรับในตลาดแรม DDR นอกจากเราจะเห็นคำว่า SO-DIMM ที่เป็นแรมแบบสั้นๆ เล็กกว่าแรมของพีซี ซึ่งจะออกแบบมาเพื่อแพลตฟอร์มของ Mobile หรือโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะ รวมถึงติดตั้งอยู่ใน Mini PC บางรุ่น ก็จะยังมีคำว่า LPDDR เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยจะระบุอยู่บนแรม สเปคแรม และบนโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น สิ่งนี้หมายถึง แรมประหยัดพลังงาน หรือ Low Power Consumption ใช้พลังงานน้อยกว่าแรม DDR ปกติ ตัวอย่างเช่น แรม DDR4 มีแรงดันไฟ 1.2V แต่ LPDDR4 จะอยู่ที่ 1.1V เท่านั้น และยังมีแรมรุ่นใหม่อย่าง LPDDR4X ที่ลดการใช้พลังงานลงไปอีก เหลือเพียง 0.6V เท่านั้น ดังนั้นแล้วใครที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการใช้พลังงาน หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีระดับการจัดการพลังงานมากขึ้น ก็อาจจะต้องมอง รุ่นที่ใช้แรมใหม่ๆ เช่นนี้ เอาไว้ด้วยเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: techcenturion.com

LPDDR/ LPDDRX: แรมทั้ง 2 รูปแบบนี้ มาจากพื้นฐานเดียวกัน และใช้ร่วมกันได้ แต่จะต่างกันเล็กน้อยนั่นคือ แรงดันไฟที่ LPDDRX จะใช้น้อยกว่า รวมถึงมีสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่านั่นเอง ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้บนโน๊ตบุ๊คบางเบา พรีเมียมโน๊ตบุ๊คและไลฟ์สไตล์ เช่น ASUS Zenbook 14 Duo, MSI Prestige 14 หรือ Lenovo ThinkBook, Ypga slim เป็นต้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

DDR: สำหรับแรมประเภทนี้จะเน้นที่ Performance เป็นหลัก และเรื่องการใช้พลังงานเป็นเรื่องรอง ทำให้เรามักเห็นแรมประเภทนี้บนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค นอกจากนี้แรม DDR ในแง่ของการผลิต ยังราคาถูกกว่า LPDDR ที่มีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพสูง และสิ่งที่แตกต่างเป็นสำคัญเลยคือ LPDDRX จะไม่สามารถอัพเกรดได้ ซึ่งจะใช้การติดตั้งลงบนบอร์ดโดยตรง หรือที่รู้จักกันว่าแรมออนบอร์ด แต่ถ้าเป็น DDR ส่วนใหญ่จะถอดเปลี่ยน และอัพเกรดได้

การสนับสนุนขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คในแต่ละรุ่น ว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะใด ตรงนี้ต้องว่ากันแต่ละรุ่นและซีรีส์ เพราะบางครั้งซีรีส์เดียวกัน แต่แยกออกไปหลายรุ่น หลายโมเดล ก็อาจจะใช้แรมที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งเป็นแบบออนบอร์ดอย่างเดียว แต่บางทีก็มีออนบอร์ด รวมถึงมีสล็อตในการอัพเกรดได้

เช็คราคาแรมโน๊ตบุ๊ค 2023

Model Capacity Price
PNY DDR4 3200 8GB 975 บาท
Corsair Vengeance DDR4 3200 8GB 1090 บาท
ADATA DDR4 3200 16GB 1,850 บาท
TEAM TForce DDR4 3200 16GB 1,890 บาท
Kingston Value DDR4 3200 16GB 2,110 บาท
HyperX FURY IMPACT DDR4 3200 32GB 3,915 บาท
G.Skill RIPJAWS DDR5 4800 16GB 3,425 บาท
Corsair Vengeance DDR5 4800 32GB 8340 บาท
source: price 4/2/2023

แรมออนบอร์ด

อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้กับแรมออนบอร์ด หรือที่ติดตั้งในแบบบัดกรีติดกับเมนบอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น LPDDR แรมในรูปแบบนี้ จะมาพร้อมเครื่อง และมักจะไม่ได้ให้สล็อตสำหรับการอัพเกรดมาด้วย จะเป็นการกำหนดรุ่นให้ผู้ใช้ได้เลือก เช่น 8GB หรือ 16GB อย่างเช่นใน ASUS Zenbook หรือ Vivobook ในหลายๆ รุ่น ส่วนหนึ่ง ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความเหมาะสมกับงาน และราคาที่ต้องการ

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

อย่างไรก็ดียังมีโน๊ตบุ๊คในกลุ่มใกล้เคียงกันที่รองรับการอัพเกรด แม้ว่าจะมีแรมแบบออนบอร์ดติดตั้งมาด้วย เช่น Lenovo IdeaPad หรือ Yoga Slim บางรุ่น รวมถึง ASUS Zephyrus G14 เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคาแรคเตอร์ของโน๊ตบุ๊คที่มีออนบอร์ด และสล็อตแรมส่วนใหญ่ อาจไม่ได้จำเพาะเจาะจง แต่สิ่งที่คล้ายกันคือ เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัด บาง และเน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก

แต่ถ้าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มักจะใช้เป็นแรม DDR ไม่ว่าจะเป็น DDR4 หรือ DDR5 ในแบบ SO-DIMM ปกติ ก็จะไม่ค่อยเห็นเป็นแบบออนบอร์ดมากนัก แต่ก็พอมีอยู่บ้าง เช่น ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ให้แรมออนบอร์ดมาแล้ว 16GB และมีสล็อตว่าง สำหรับการอัพเกรดเพิ่มนั่นเอง


เมื่อไรต้องเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค?

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค หรืออัพเกรดแรม ช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น เช่นเดียวกับบนพีซี แต่เราจะสังเกตโน๊ตบุ๊คที่ใช้อย่างไร ว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มแรมให้มากขึ้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เครื่องใช้เริ่มทำงานช้าลง อาจจะเปิดแอพพลิเคชั่นเดิม แต่ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น ทำให้พื้นที่การ Swap file ต้องไปอาศัย Storage อย่างฮาร์ดดิสก์หรือ SSD การเพิ่มแรมมีส่วนช่วยได้

เปิดเว็บเบราว์เซอร์หลายหน้าต่างหรือหลายแท็ปบ่อย กับการทำงานในแบบมัลติทาส์ก คือทำหลายงานพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น ทำเอกสาร ดูสตรีมมิ่งและการเปิดหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ก็จำเป็นต้องใช้แรมจำนวนมากเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

การเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือทำงานร่วมกับไฟล์จำนวนมาก ทำได้ช้า ใช้เวลานาน หรือมีอาการสะดุด แรมก็มีส่วนในการทำงานอยู่ด้วย

รวมไปถึงการเล่นเกม ที่บางเกมก็ต้องการแรมจำนวนมาก มาใช้ในการขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการประมวลผล แม้จะมี VRAM บนการ์ดจอก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญในคนละส่วน ซึ่งการอัพเกรด มีส่วนช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นขึ้น และมีผลต่อเฟรมเรตที่ดีขึ้นในบางโอกาสอีกด้วย


โน๊ตบุ๊คที่ใช้ อัพเกรดได้มั้ย ดูอย่างไร?

วิธีการสังเกตว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น สามารถอัพเกรดแรม หรือเพิ่มแรมได้หรือไม่ มีด้วยกันหลายวิธี ว่ากันตั้งแต่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ดูข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิต: ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นวิธีการในเบื้องต้น ที่พอจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คได้ว่า ต้องใช้แรมแบบใด และมีสล็อตสำหรับการอัพเกรดหรือไม่ โดยค้นหารุ่นและซีรีส์จากในเว็บไซต์ได้เลย หรืออย่างน้อยให้ทราบรุ่น และรหัสที่แน่นอน เช่น ExpertBook B5 Flip (B5302F) ในวงเล็บที่ต่อท้ายนี้ ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อทราบแล้ว การค้นหามักจะไม่ผิดรุ่น ยกเว้นว่าจะไม่ได้มีบอกไว้ใน Specification ของรุ่นนั้นๆ ตัวอย่าง จากภาพด้านบนนี้ ทั้งจาก MSI, ASUS และ HP ครับ

ติดตั้งซอฟต์แแวร์ยูทิลิตี้: ถือว่าพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบมีสล็อตมาให้ภายใน แต่บางครั้งก็ไม่อาจจะตรวจได้ครบถ้วน ยิ่งมีแรมแบบออนบอร์ด บางครั้งก็ตรวจพบมากกว่า 2 สล็อตอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การตรวจเช็คสับสนอยู่พอสมควร ซอฟต์แวร์แนะนำว่าให้ดูแบบคร่าวๆ สำหร้บเช็คความจุแรม และสเปคของแรมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องจะแม่นยำกว่า

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ใช้บริการตรวจเช็คจากเว็บไซต์: ข้อนี้เป็นวิธีที่ง่าย เหมือนกับการเข้าไปหาข้อมูลในเว็บไซต์ผู้ผลิต จะต่างกันอยู่บ้างตรงที่ จะอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คให้ คล้ายกับการที่คุณใช้ระบบการค้นหาไดรเวอร์การ์ดจอ ที่จะมีระบบตรวจเช็คสเปคเครื่องให้ แล้วแจ้งว่า คุณมีสเปคอะไรบ้าง และต้องใช้ไดรเวอร์ตัวไหน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพียงแต่ระบบตรวจเช็คแรมนี้ จะตรวจว่าในระบบของคุณมีแรมกี่สล็อต และติดตั้งแรมอะไรไปแล้วบ้าง รวมถึงมีสล็อตเหลือมั้ย อัพเกรดเพิ่มได้หรือเปล่า โดยที่คุณแค่หาแรมมาเพิ่มตามที่ระบบแจ้งเอาไว้เท่านั้น ตัวอย่างระบบนี้อย่างเช่น เว็บไซต์ของทาง Crucial ที่จะมี Scan my laptop หรือ Lookup my laptop ในการสแกนเพื่อค้นหาการใช้งานแรมในระบบ ตามตัวอย่างที่อยู่ด้านบนนี้ เป็นอีกวิธีที่ง่ายมากๆ และอยากจะแนะนำ จากการที่ได้ทดสอบใช้งาน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แกะเครื่องเปิดดู: เป็นแบบที่ชัดเจนที่สุด เพราะคุณสามารถเห็นฮาร์ดแวร์ได้ชัดเจนว่า โน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น รองรับการเพิ่มแรมได้หรือไม่ แต่การแกะฝาหลังโน๊ตบุ๊คบางครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางรุ่นออกแบบมาอย่างแน่นหนา เรียกว่าแกะแทบไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเครื่องมือที่ดีพอ แต่บางรุ่นก็แกะได้ง่าย เรียกว่าไขควง 4 แฉกตัวเดียว และบัตรพลาสติก ที่ใช้ในการแกะขอบด้านข้างเท่านั้น ก็สามารถถอดฝาหลังได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่สิ่งสำคัญก็คือ การจะจับแตะต้องชิ้นส่วนที่อยู่ภายในโน๊ตบุ๊คนั้น ต้องให้แน่ใจว่า มือเราไม่มีไฟฟ้าสถิตย์ ที่อาจเกิดอันตรายต่อชิ้นส่วน และเสียหาย ดังนั้นเป็นไปได้ หากจะให้เกิดความปลอดภัย ควรมีถุงมือกันไฟฟ้าสถิตย์ หรือถอดขั้วต่อจากแบตเตอรี่มาที่ตัวเมนบอร์ดออกก่อน จากนั้นจึงแกะหรือติดตั้งแรมใหม่เข้าไป

การแกะเครื่องด้วยตัวเอง ควรศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนลงมือ ทั้งวิธีการ และการรับประกัน ให้มั่นใจว่าสามารถแกะได้ โดยไม่เสียการประกัน และไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งจะไม่สามารถเคลมได้ โปรดหลีกเลี่ยงโดยไม่จำเป็น

ดูจากเว็บไซต์รีวิว: ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำ เพราะคุณจะสามารถทำตามขั้นตอนได้ รวมถึงเหล่านักรีวิว ก็จะบอกถึงรายละเอียดของแรม ให้คุณไปซื้อได้อย่างถูกต้อง รุ่นหรือซีรีส์ที่ใกล้กัน ก็พอที่จะใช้วิธีการเดียวกันได้ ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าจะไปดูที่ไหนดี หรือดูต่างประเทศ ก็กลัวว่าซีรีส์เดียวกัน แต่คนละโมเดล ก็ดูจากรีวิวเมืองไทยก็ได้ครับ อย่างทีมงาน Notebookspec ก็มีแกะให้ได้ชมกันไปแล้วหลายร้อยรุ่น น่าจะพอเป็นข้อมูลในการอัพเกรดแรมของคุณได้พอสมควร


แรม Single channel vs Dual channel

หลายคนที่ไม่ค่อยได้ใช้คอมบ่อย หรืออาจจะมีโน๊ตบุ๊คตัวแรก อาจไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับแรม Single channel และ Dual channel มากนัก ซึ่งตรงนี้อธิบายในเบื้องต้นว่า Dual channel เป็นรูปแบบการทำงานของแรม 2 ชุดเข้าด้วยกัน ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าการทำงานแบบ Single channel เพียงแต่ว่าการจะใช้งานแรมแบบ Dual นี้ ก็มีเงื่อนไขในการทำงานเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เงื่อนไขที่เป็นเรื่องพื้นฐาน คือ การติดตั้งแรม 2 ตัว เข้าด้วยกัน แม้จะเป็นแรมต่างความเร็ว หรือความจุไม่เท่ากันก็ได้ ติดตั้งด้วยกัน 2 แถว 2 สล็อต หรือจะเป็นแรมบนเมนบอร์ด หรือที่เรียกว่าออนบอร์ด คู่กับแรมบนสล็อต ก็สามารถใช้งาน Dual channel ได้เหมือนกัน

แต่ในกรณีที่เป็นแรม 16GB ที่ฝังมาบนเมนบอร์ดนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย ว่าจัดวางมาในรูปแบบใด เพราะบางครั้งเป็น DRAM 16GB เม็ดเดียว ก็อาจจะไม่ได้ทำงานแบบ Dual channel แต่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในเคสนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดบาง และมีสล็อตมาให้อัพเกรด ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการวางเม็ดแรม บางรุ่นมาในแบบ 4GB x4 อีกด้วย ดังนั้นต้องว่ากันที่การผลิตและรูปแบบการจัดวางในแต่ละรุ่น


แรมไม่เหมือนกันใส่ด้วยกันได้มั้ย?

บางท่านอาจจะสงสัย แรมแบบ DDR3/ DDR4/ DDR5 เหล่านี้ จะสามารถติดตั้งบนสล็อตร่วมกันได้หรือไม่ เพราะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่มาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค DDR5 แต่มีแรมจากโน๊ตบุ๊คตัวเก่าเป็น DDR4 16GB น่าจะเอามาใช้ร่วมกัน จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: Crucial

ขอแจ้งเอาไว้ดังนี้เลยครับว่า ไม่สามารถใช้แรมต่างชนิด ต่างแบบร่วมกันได้ครับ อ้างอิงจากแรมค่าย Crucial ระหว่าง DDR5 จะเป็นขาแบบ 262-pins ส่วน DDR4 จะเป็นแบบ 260-pins แม้จะใกล้กันมาก แต่ก็ไม่สามารถติดตั้งลงบนสล็อตเดียวกันได้ แบบเดียวกับแรมบนพีซี แม้ว่าแรม DDR5 และ DDR4 จะใช้ DIMM 288-pins เช่นเดียวกัน แต่ด้วยตัวบาก (Notch) ไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถติดตั้งบนสล็อตเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นอย่าฝืน หรืออย่าบังคับใส่ลงไป เพราะอาจทำให้บอร์ดและสล็อตเสียหายได้


ขั้นตอนการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สุดท้ายเป็นเรื่องของการติดตั้งแรมลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากที่คุณได้แกะฝาหลังออกมาแล้ว รวมถึงเลือกแรมที่ใช้ร่วมกันให้พร้อม เสร็จแล้วก็ไปลุยกันเลย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เตรียมแรมให้พ้อมสำหรับการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค โดยแนะนำเลยครับว่า ถ้ามีถุงมือให้ใส่ ก็ใส่เพื่อความปลอดภัยของตัวแรม และการติดตั้ง

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จากนั้นดูสล็อตที่เป็นช่องอัพเกรดแรมให้ตรงกับแรม โดยยึดเอาตัวบากหรือ Notch ที่เป็นร่องตรงกลางให้ตรงกันกับแรมที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แล้วถ้าไม่มีแรมบนสล็อตนั้นล่ะ? ให้ลองวางตัวแรมลงบนสล็อต เพื่อวัดระยะก่อนว่า Notch นั้นตรงกันกับสล็อต จากนั้นเอียงแรมแบบในภาพ แล้วใส่ลงไปบนสล็อตแบบเอียงๆ นั้น จากนั้นกดแรมให้อยู่ในแนวราบเบาๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงคลิ๊ก ที่หมายถึงล็อคตัวแรมลงบนสล็อตเป็นที่เรียบร้อย ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น

แต่ก่อนจะปิดฝาหลังของโน๊ตบุ๊คเพื่อจบงาน อย่าลืมตรวจเช็คด้วยการลองบูตเครื่อง เพื่อดูว่าสามารถเข้าระบบได้ตามปกติหรือไม่ หากติดปัญหา ไม่บูต ให้ลองแกะแรมออกมาอีกครั้ง แล้วติดตั้งกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง


แรมครบมั้ย

เมื่อติดตั้งแรมเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมเช็คความเรียบร้อย ดูว่าระบบตรวจเช็คแรมได้ครบหรือไม่ หากคุณมีอยู่ 8GB แล้วเพิ่มไปอีก 8GB ก็ควรจะเป็น 16GB แต่ถ้าเช็คแล้วยังเป็น 8GB อยู่ ก็น่าจะมีอะไรผิดพลาด ด้วยวิธีการเช็คแบบง่ายๆ ดังนี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

Task Manager วิธีนี้ค่อนข้างสะดวก ด้วยการกดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc พร้อมกัน เพื่อเข้าไปใน Task Manager จากนั้นไปที่แท็ป Performance แล้วคลิ๊กที่ Memory ดูที่หน้าต่างด้านขวา จะเห็นความจุของแรมปรากฏขึ้น ให้ดูที่ตัวเลขที่อยู่มุมบนขวามือ จะบอกตัวเลขความจุทั้งหมดให้เราทราบ จากตัวอย่างนี้ เป็นแรม 4GB + ติดตั้งเพิ่ม 8GB รวมเป็น 12GB เห็นครบแบบนี้ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะสิ่งที่ต้องทำต่อไปนั้น คือการทดสอบเสถียรภาพ


อาการผิดปกติหลังเพิ่มแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ความผิดปกติ หลังจากการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้อาจจะต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เรามาดูว่าอาการเกี่ยวกับแรมที่อาจเกิดขึ้นได้มีสิ่งใดบ้าง และจะต้องแก้ไขอย่างไร?

โน๊ตบุ๊คค้าง ไม่เข้าระบบ: หรือโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ให้ลองเปิดฝาหลังโน๊ตบุ๊ค แล้วติดตั้งแรมที่เพิ่งใส่เข้าไปใหม่ เพียงแถวเดียว และบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพราะอาจเป็นไปได้ว่า แรมไม่เข้ากับแรมเก่าที่ใช้งานอยู่ จากนั้นอาจจะต้องเช็คบัสของแรมอีกครั้ง และแจ้งเปลี่ยนกับร้านค้าที่จำหน่ายแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่ถ้าไม่มีแรมอื่นใด ติดตั้งอยู่เลย การติดตั้งแรมใหม่ ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ หากมี 2 สล็อต ให้ลองสลับเปลี่ยนสล็อตอีกอัน เพื่อดูอาการ ส่วนถ้ามีแรมออนบอร์ด และใส่แรมใหม่เข้าไป แต่ไม่บูต ก็เป็นไปได้ว่าแรมใช้ร่วมกันไม่ได้ ซึ่งเจอได้น้อยมาก

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จอฟ้า BSOD: หากเป็นจอฟ้าบ่อย ให้ลองติดตั้งแรมอีกครั้ง เพราะอาจเกิดจากการติดตั้งไม่แน่น หรือเอียง จนไม่เข้าล็อคตามปกติ ขยับแรมออกมาใหม่ อาจช่วยได้

รีสตาร์ทบ่อย: ให้เช็คว่า ก่อนหน้านี้โน๊ตบุ๊คมีอาการผิดปกติดังกล่าวนี้มั้ย ถ้าไม่เคยมี และเป็นหลังจากการติดตั้งแรม ให้ลองรีบูตใหม่ และลองอัพเดตวินโดว์และไดรเวอร์ชิปเซ็ตเมนบอร์ดอีกครั้ง ด้วยการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้ผลิต หากยังเป็นอยู่ให้นำแรมและโน๊ตบุ๊คให้ร้านค้าดู เพื่อทำการเปลี่ยนต่อไป


Conclusion

สุดท้ายนี้ ในการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค การติดตั้งและการใช้งาน ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับการขั้นตอนการตรวจเช็ค หรือหาข้อมูลว่าโน๊ตบุ๊ครองรับการติดตั้งแรมเพิ่มได้มั้ย หรือใช้งานกับแรมแบบใด เพราะบางครั้งอาจถึงขั้นที่ต้องแกะโน๊ตบุ๊คออกมาดูกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีครับ การเพิ่มแรม ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนลงแรง เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูง หากสังเกตจากราคาจะเห็นว่า เพิ่มแรม DDR4 8GB ยังไม่ถึงพันบาท แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการทำงานแบบ Dual channel เมื่อใช้ร่วมกับแรมเดิมที่มีอยู่ และคุณยังสามารถทำเองได้ ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ที่บ้าน แต่ก็แนะนำว่าให้ลองสอบถามร้านจำหน่าย ว่ามีผลต่อการรับประกันด้วยหรือไม่ ในกรณีที่เป็นโน๊ตบุ๊คซึ่งอยู่ในระยะประกัน แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ก็แนะนำว่าให้ไปร้านที่จำหน่ายโน๊ตบุ๊คใกล้บ้าน ขอคำแนะนำ ซื้อแรมและอัพเกรดโดยช่างที่ชำนาญในร้าน ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจครับ อุ่นใจและมั่นใจได้

from:https://notebookspec.com/web/685571-upgrade-ram-notebook-2023

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น เริ่มไม่ถึง 30,000 ปี 2023 เล่นเกมใหม่ เฟรมเรตลื่น

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่นเด็ด เริ่ม 29,900 การ์ดจอแรง จอใหญ่ เล่นเกมลื่น อัพเกรดได้

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ต้นปี 2023 ครั้งนี้จัดมาให้สำหรับคอเกม ที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมใหม่ๆ ในปีนี้ กับราคาในระดับที่จ่ายง่าย สบายกระเป๋า เริ่มแค่ 29,900 บาท ไปจนถึง 35,900 บาท แต่เล่นเกมได้แบบโหดๆ กับสเปคที่ให้คุณเล่นเกมบนความละเอียด Full-HD ได้ลื่น ว่ากันตั้งแต่ซีพียูระดับ Intel Core i5 จนถึง Core i7 และ AMD Ryzen 5 กับความแรงที่จะตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมพื้นฐาน ไปจนถึงเกมระดับ AAA โดยมีกราฟิกการ์ด GeForce RTX3050, RTX3050Ti และ RTX3060 ให้ใช้งาน จอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งในเวลานี้มีให้เลือกเกือบทุกแบรนด์ แต่จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ซึ่งเข้ามาตามเงื่อนไขหรือจัดสเปคให้เกินจากนี้บ้าง ไปติดตามชมกันครับ

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ปี 2023

  1. MSI GF66 Katana 12UC
  2. ASUS TUF Gaming A17
  3. Gigabyte A5 K1
  4. Gigabyte G5 ME
  5. HP Victus Gaming 16
  6. ASUS TUF Dash F15
  7. Lenovo Gaming3
  8. Acer Nitro AN515

1.MSI GF66 Katana 12UC

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาเริ่มกันที่โน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นแรก ที่ทำราคาออกมาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับ GF66 Katana ซึ่งเป็นซีรีส์ในตระกูลเกมมิ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา เพราะเรื่องของการดีไซน์และวัสดุ มีความคุ้มค่าน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวามากนัก คีย์บอร์ดเป็นไฟสีแดง ตัดกับโครงสร้างสีดำ ดูโหดๆ ดีเหมือนกัน แต่ถ้าเน้นที่พลังในการเล่นเกม หน้าจอขนาดใหญ่ สีสดใส ระดับ 15.6″ FHD และรีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ก็ต้องบอกว่า ราคาหาตัวจับมาแข่งได้ยาก ซึ่งทาง MSI ใส่ขุมพลัง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งซีพียูตัวแรงมาให้ พร้อมแรม DDR5 8GB และใส่การ์ดจอ GeForce RTX3050 4GB มาให้ด้วย แบตเตอรี่อาจจะไม่ใหญ่นัก น้ำหนักตัวเลยอยู่ที่ประมาณ 2.25Kg เท่านั้น พอร์ตจัดมาให้ครบ เช่นเดียวกับชุดระบายความร้อน CooloerBoost 5 ที่มีฮีตไปป์หลายเส้น คู่กับพัดลมคู่ขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ กับการรับประกัน 2 ปี ราคาอยู่ที่ราว 29,900 บาทเท่านั้น

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อมแรม DDR5 ไม่มี Thunderbolt 4
แบตค่อนข้างอึด

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


2.ASUS TUF Gaming A17

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวคุ้มสุดโหด ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นเด่นในตลาดบ้านเรา สำหรับงบประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งมีการต่อยอดมาอย่างต่อเนื่องจาก ASUS TUF รุ่นก่อนๆ มาได้ดี จากบอดี้ที่ก่อนหน้านี้เน้นอึดถึก ดูบึกบึน มาถึงตอนนี้ เริ่มปรับเส้นสายและมิติให้ดูบาง ลงตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Cover สีเทาเรียบๆ แต่ใส่โลโก้ให้ดูสะดุดตา ด้านใต้เป็นช่องลมแบบรังผึ้ง ด้านในลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยน และให้หน้าจอใหญ่ 17.3″ FHD อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ขุมพลัง AMD Ryzen 7 4800H พร้อมแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB โดยใช้การ์ดจอพิมพ์นิยม GeForce RTX3050 มาด้วย กับระบบเสียงสุดกระหึ่มเอาใจเกมเมอร์ และคอบันเทิงได้ดีทีเดียว พอร์ตต่อก็ครบ ทั้ง USB 3.2, USB Type-C ที่ใช้ต่อจอได้ และ HDMI ไปจนถึง LAN ชุดระบายความร้อนพัดลมคู่ และฮีตไปป์ จุดเด่นอยู่ที่คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ปรับแต่งได้ พร้อมโพรไฟล์ให้เลือก 4 แบบด้วยกัน การรับประกัน 2 ปี ราคาประมาณ 30,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
คีย์บอร์ด RGB แรม DDR4
จอขนาดใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


3.Gigabyte A5 K1

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เข้าป้ายมาอีกหนึ่งรุ่นสำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจาก Gigabyte ที่จัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม ไม่เป็นรองใคร อาจจะต่างจากรุ่นของ G5 อยู่บ้าง ในแง่ของบอดี้ที่อาจะดูบึกบึนขึ้นมา แต่มาในสไตล์ที่ดูเป็นเกมมิ่งดุดัน ให้ขุมพลังมาเพื่อรีดเฟรมเรตโดยเฉพาะ กับโครงสร้างที่แข็งแกร่ง หน้าจอแบบ 15.6″ IPS 144Hz Full-HD และมีขอบจอบางพิเศษ โดยให้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H ที่รับได้ทั้งงานและการเล่นเกมปัจจุบัน พร้อมแรม DDR4 3200 8GB เช่นเดียวกับ SSD 512GB มาตรฐาน รองรับการอัพเกรดได้พอสมควร ส่วนการ์ดจอต้องจัดว่าแรงแซงหน้าคู่แข่งในงบพอกัน เพราะจัด RTX3060 มาให้ เล่นเกมได้ลื่นมากขึ้น ส่วนคีย์บอร์ดสไตล์เกมมิ่ง ที่มีแสงไฟ Backlit มาในตัว ตั้งรูปแบบแสงไฟได้ 15 สี พอร์ตโดดเด่นตรงที่มี Mini DP เพิ่มมาให้ นอกเหนือจาก HDMI จึงต่อเพิ่มได้อีก 2 จอ และพอร์ต USB 3.2 Type-C แต่ไม่มี Thunderbolt 4 มาให้ น้ำหนักตัวประมาณ 2.12Kg ราคาสบายกระเป๋า 31,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้การ์ดจอ RTX3060 แรม DDR4
มีพอร์ต HDMI และ Mini DP ต่อจอใหญ่ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


4.Gigabyte G5 ME-51TH263SH

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Gigabyte ซึ่งเป็นค่ายที่ช่ำชองในตลาดของเกมมิ่งมายาวนาน และในไทยก็มีโน๊ตบุ๊คที่ล้ำๆ มาให้ได้ใช้กันด้วย ในราคาที่เป็นกันเอง อย่างเช่น G5 Gen12 รุ่นนี้ ที่ใส่มาทั้งดีไซน์และฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย หน้าจอขนาด 15.6″ FHD 144Hz ฝาหลังมีการออกแบบเส้นสายให้ดูไม่น่าเบื่อ กับบอดี้ที่ดูปรับให้ลงตัวมากขึ้น บานพับขนาดใหญ่ เน้นการใช้งานที่ไม่โยกคลอนง่าย พอร์ตต่อพ่วงกระจายออกไปในทุกด้าน เพื่อลดความแออัด ขุมพลัง Intel Core i5-12500H และให้แรม DDR4 3200 8GB มาให้ และ SSD 512GB แต่ขยับการ์ดจอให้แรงขึ้นอีกนิดกับ RTX3050Ti น้ำหนักทำได้ค่อนข้างดีอยู่ที่ 1.9Kg เท่านั้น กับระบบเสียง DTS:X จัดเต็มสำหรับคอเกม คู่กับลำโพงใต้เครื่องให้มิติเสียงได้สนุก โดยมีพอร์ตพื้นฐานอย่าง USB 3.2 Type-C และ HDMI รวมถึง Mini-DP มาให้ จะขาดไปเพียง Thunderbolt 4 ที่จะอยู่ในรุ่น G5 KE เท่านั้น อย่างไรก็ดีโดยรวมยังถือว่ามาแบบครบๆ สเปคก็ถือว่าจัดจ้าน กับการรับประกัน 2 ปี ในราคา 32,490 บาท เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti ไม่มี Thunderbolt 4
ดีไซน์ทันสมัย

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


5.HP Victus Gaming 16-e1081AX

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวแกร่งของทาง HP กันบ้าง ใครที่ชื่นชอบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีมิติเพรียวบาง Victus ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ดีไซน์ของรุ่นนี้ จะออกไปทางสาย Pavilion ที่ดูมีความหรูหรา และให้ความแรงที่แตกต่าง กับหน้าจอขนาดใหญ่ 16″ ที่กว้างขึ้น ความละเอียด Full-HD รีเฟรชเรต 144Hz จัดได้ว่าเป็นหน้าจอที่สว่างสดใส ให้ความแม่นยำของสีได้ดีพอสมควร กับสเปคที่จัดว่าขิงกับค่ายอื่นได้สบาย ในราคาเดียวกัน เพราะได้ซีพียูใหม่อย่าง AMD Ryzen 5 6600H 6 core/ 12 thread กับความเร็วสูงสุด 4.5GHz ที่มากับแรม DDR5 ที่เสริมความแรงมาให้ถึง 16GB รวมถึง SSD 512GB และการ์ดจออย่าง GeForce RTX 3050Ti อีกด้วย อีกทั้งยังให้ระบบเสียงมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ กับพอร์ตเชื่อมต่อสำคัญก็มีมาเกือบครบ อย่าง USB 3.2 Type-C, HDMI และ RJ-45 แต่คีย์บอร์ดจะมาในแบบแสงไฟสีขาวมาเท่านั้น การรับประกันเป็นแบบ 2 ปี On-site service ราคาอยู่ที่ 33,400 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
แรม 16GB คีย์บอร์ดไฟขาว
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti

ข้อมูลเพิ่มเติม: HP


6.ASUS TUF Dash F15 FX517

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เรียกว่าสายของ TUF Dash จาก ASUS ไม่เคยแผ่ว โตในสายเกมมิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นนี้เอง ก็จัดว่าน่าสนใจ เพราะใส่ขุมพลังตัวแรง อย่าง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งตัวแรงมาด้วย คู่กับแรม DDR5 8GB รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ เช่นเดียวกับ SSD 512GB M.2 รุ่นใหม่ ความเร็วสูง กับหน้าจอขนาด 15.6″ FHD อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ซึ่งขอบจอบางพิเศษ กับใครที่อยากจะได้การ์ดจอที่แรงขึ้นสุดในราคาระดับนี้ ASUS ให้มาเป็น RTX3050Ti พร้อม MUX switch ในตัว คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ใช้งานร่วมกับ AURA Sync ได้ จุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอความทนทานกับดีไซน์ที่สวยโดดเด่น วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ชุดระบาบความร้อนออกแบบมาเป็นพิเศษ Arc Flow Fans ที่ให้การหมุนเวียนของอากาศได้ดี ช่วยลดความร้อนในขณะเล่นเกม กับพอร์ตต่อพ่วงสำคัญอย่าง Thunderbolt 4, USB 3.2 Type-C และ HDMI มีให้ใช้ครบ กับการรับประกัน 2 ปีและ Perfect Warranty น้ำหนักเบาเพียง 2Kg. เท่านั้น เคาะราคามาที่ 34,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้ RTX3050Ti
คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


7.Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IAH7

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Lenovo ในราคาระดับนี้ ทำให้ผมชั่งใจพอสมควร ระหว่างรุ่นนี้ที่ใช้ Intel Core i5-12500H กับ i5-12450H เพราะได้การ์ดจอต่างกันในราคาเบียดๆ กันเลยทีเดียว โดย i5-12450H+RTX3050Ti ราคาสูงกว่ารุ่นนี้ 1,000 บาทเท่านั้น น่าสนใจด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าคุณอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและจะแบ่งไปจัดเกมมิ่งเกียร์ด้วย ก็จัดรุ่นนี้ได้เลย ดูคมเข้ม ยิ่งรุ่นสีขาว Limited Edition ยิ่งโดนใจกับแสงไฟสีฟ้า การออกแบบใหม่ จัดว่าสวยลงตัว จอขนาด 15.6″ FHD รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz จอสีตรง ให้ความสว่างสูง โดยมีแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB ที่มีสล็อตเพิ่มให้ ระบบเสียง Nahimic สดใส เอฟเฟกต์แน่น พอร์ตมีให้ครบ ส่วนใหญ่ไปอยู่ด้านหลังทั้ง Thunderbolt 4 และ HDMI คีย์บอร์ดกดได้สนุก ชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ ออกแบบมาได้ดี น้ำหนักประมาณ 2.31Kg รับประกัน 3 ปีแบบ Onsite Service ราคาอยู่ที่ 33,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz น้ำหนัก 2.31Kg
มี Thunderbolt 4

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo


8.Acer Nitro AN515-58

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในกลุ่มเกมมิ่งได้ถูกอกถูกใจเหล่าเกมเมอร์มายาวนาน ในซีรีส์ Nitro ถือว่าโดดเด่น และทำราคาที่จับต้องได้ง่าย ใส่ฟีเจอร์มาแน่น เช่นเดียวกับสเปคที่ไม่ธรรมดา โดยมีซีพียู Intel Core i5-12500H ที่ถือว่าจัดจ้าน แต่น่าเสียดายที่ใส่แรม DDR4 มาให้ แต่ก็จัดมาให้เยอะกว่าคู่แข่ง เพราะให้ถึง 16GB และให้การ์ดจอเริ่มต้นอย่าง RTX3050 มาอีกด้วย กับหน้าจอแสดงผล 15.6″ FHD 165Hz เป็นแบบ IPS สีสดใสคมชัด เรื่องของเส้นสาย Cover มาในแบบที่เด่น ตามสไตล์ของรุ่นนี้ ด้านในขอบจอบางเฉียบ และฝาพับที่ค่อนข้างแข็งแรง คีย์บอร์ดเป็นแบบ RGB 4 zone ปรับโพรไฟล์สีได้ กดแน่นสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ การระบายความร้อนมาพร้อมพัดลม 2 ตัวกับฮีตไปป์ ด้านท้ายตัวเครื่องออกแบบมาให้มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่มาให้ ทำงานคู่กับ Nitro Sense ให้การรับประกัน 3 ปี ราคา 35,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้จอรีเฟรชเรต 165Hz
แรม 16GB

ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer


Conclusion

Display CPU RAM SSD Graphic Price
1.MSI GF66 Katana 12UC 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX3050 29,900 บาท
2.ASUS TUF Gaming A17 17.3″ 144Hz AMD Ryzen 7 4800H DDR4 8GB 512GB RTX3050 30,990 บาท
3.Gigabyte A5 K1 15.6″ 144Hz AMD Ryzen 5 5600H DDR4 8GB 512GB RTX3060 31,990 บาท
4.Gigabyte G5 ME 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX 3050Ti 32,490 บาท
5.HP Victus Gaming 16 16.0″ 144Hz AMD Ryzen 5 6600H DDR5 16GB 512GB RTX 3050Ti 33,400 บาท
6.ASUS TUF Dash F15 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX 3050Ti 34,990 บาท
7.Lenovo Gaming3 15.6″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX3050 33,900 บาท
8.Acer Nitro AN515 16.0″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 16GB 512GB RTX3050 35,900 บาท

ก็เรียกว่าน่าจะครบครันไปแล้ว สำหรับข้อมูลของ 8 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูกในงบเริ่ม 29,900 บาท ซึ่งมีหลายรุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งหากต้องการซีพียู และสเปคที่ค่อนข้างใหม่ ราคาราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ถ้าเน้นราคาเริ่มต้น MSI GF66 ดีไซน์เกมมิ่ง ดุดันสเปคน่าใช้ แต่ถ้าอยากได้จอใหญ่ 17.3″ ซีพียูแรงๆ ASUS TUF A17 ตอบโจทย์คุณได้ ส่วนถ้าเลือกเฉพาะการ์ดจอแรงๆ มีทั้ง Gigabyte G5, HP Victus และ ASUS TUF Dash F15 ถือว่าน่าใช้ และถ้าต้องการจอรีเฟรชเรตสูง Lenovo และ Acer Nitro ทั้งคู่มาเป็น 165Hz แล้ว ส่วนถ้าอยากได้แรม 16GB มีทั้ง HP และ Acer แต่ HP จัดมาเป็น DDR5 อีกด้วย ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชั่น อย่างเช่น เรื่องการระบายความร้อน คีย์บอร์ดไฟ RGB หรือจะเป็นพอร์ต Thunderbolt 4 ก็มีให้ในบางรุ่น อยู่ที่คุณจะตัดสินใจเลือกใช้ และเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/682754-8-value-gaming-notebook-2023

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน ทำไงดี? 7 วิธีเช็ค แก้ไข จัดการได้เอง ลดปัญหาความร้อน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน แก้ได้ใน 7 วิธี ตรวจเช็ค ปรับแต่ง ซ่อมแซม เปลี่ยนใหม่ จ่ายเบาๆ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน เป็นปัญหาที่หลายคนพบอยู่ แม้จะปี 2023 แล้วก็ตาม แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้สังเกต จนกว่าจะเจออาการหลังเล่นเกมต่อเนื่อง จนการ์ดจอร้อนขึ้น เกิดจอฟ้า เด้งออกจากเกม หรือภาพแตก แต่สิ่งนี้อาจจะไม่ได้เกิดจากการ์ดจอทำงานผิดเพี้ยน พัดลมเสียหายเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการตั้งค่าการ์ดจอด้วย รวมถึงเรื่องของระบบการจ่ายไฟของเพาเวอร์ซัพพลาย ดังนั้นการแก้ไข ก็ต้องว่ากันไปตามอาการ แต่สามารถตรวจเช็คในเบื้องต้นได้ ด้วยการไล่ไปทีละขั้นตอน หรือถ้าใครมีเมนบอร์ด ที่มีสล็อต PCIe x16 มากกว่า 1 สล็อตหรือมีการ์ดจอตัวอื่นสำรอง หรือสามารถหยิบยืมมาได้ ก็จะช่วยให้วิเคราะห์อาการได้ชัดเจนมากขึ้น และบางทีอาจจะยังไม่ต้องส่งช่างซ่อมหรือส่งเคลมก็ได้ เรามาดูกันว่า จะสามารถเช็คอาการผิดปกติเหล่านี้ และมีวิธีการแก้ไขอย่างไรได้บ้าง


พัดลมการ์ดจอไม่หมุน แก้ไขอย่างไร?


จะเกิดปัญหาอะไรขึ้น เมื่อพัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่จะตามมาจากอาการพัดลมการ์ดจอไม่หมุน นั่นคือ ปัญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องของความร้อนสะสม เมื่อเปิดใช้งาน หากไม่ได้เล่นเกม ก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเล่นเกมแบบต่อเนื่อง ที่เมื่อการ์ดจอเริ่มทำงานหนัก แต่

Advertisementavw
พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การ์ดจออยู่ในเครื่องแกะเปิดเครื่องไม่เป็น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพัดลมการ์ดจอไม่หมุน เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะหลายคน ก็ไม่ค่อยสะดวกในการแกะหรือเปิดเครื่องเอง หรือบางทีประกอบร้าน ก็อยากจะให้ร้านแกะเช็คให้ง่ายกว่า วิธีสังเกตง่ายๆ ก็คือ

อุณหภูมิขึ้นสูงจนผิดปกติ: ให้สังเกตดูว่า เล่นเกมอยู่ แล้วเด้งหลุดออกจากเกมมั้ย หรือลองฟังเสียงพัดลมการ์ดจอดูได้ เวลาที่เล่นเกมหนักๆ ถ้าพัดลมยังทำงาน ส่วนใหญ่จะพอมีเสียงให้เราได้ยินบ้าง รวมถึงเช็คด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้เช็คฮาร์ดแวร์ก็ได้ จะเห็นรายละเอียดได้ชัดขึ้น เช่น OCCT, HWMonitor, MSI Afterburner และอื่นๆ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

GPUz: แนะนำเลยครับ สำหรับโปรแกรมนี้ เพราะตัวเล็ก ฟรี โหลดมาใช้ง่าย เช็คสเปคการ์ดจอพีซีและโน๊ตบุ๊คได้รวดเร็ว บอกรายละเอียดของการ์ดจอออนบอร์ดและแยกได้ครบถ้วน แม่นยำ โดยดูที่ชื่อการ์ดจออยู่ด้านล่างแล้วเลือกการ์ดจอรุ่นที่ต้องการดูข้อมูลได้ทันที จะแสดงทั้งชื่อรุ่นการ์ดจอ, สถาปัตยกรรมของการ์ดจอรุ่นนั้น ๆ รวมถึง เวอร์ชั่นของ DirectX และอื่น ๆ ได้ละเอียดมาก ส่วนหน้า Sensors จะใช้สำหรับเช็คสถานะการทำงานของการ์ดจอ เช่น GPU Clock, Memory Clock และดูอุณหภูมิ ทำให้เราทราบถึงความผิดปกติของการ์ดจอได้ทันที แถบอุณหภูมิจะไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโปรแกรม GPUz นี้ ไม่ได้ระบุความเร็วรอบของพัดลมมาให้ แต่ก็พอดูได้ว่าการ์ดจอร้อนผิดปกติอย่างรวดเร็วหรือเปล่า

แสดงผลผิดปกติ: ส่วนใหญ่ถ้าอาการเป็นถึงขั้นนี้แล้ว ก็แทบจะเรียกว่าเป็นปัญหาหนัก เพราะการ์ดจออาจเกิดความเสียหาย จนการแสดงผลผิดเพี้ยน เช่น แตกเป็นลายๆ ภาพหาย ไปจนถึงเล่นเกมภาพค้างไปเลยก็มี แบบนี้ไม่ควรใช้ต่อ ส่งเคลมหรือร้านซ่อมให้เช็คให้ทันทีดีที่สุด


1.สลับเปลี่ยนไปใช้สล็อตอื่น

เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และสามารถทำได้ในเวลานั้นเลย โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อหรือเปลี่ยนอุปกรณ์อื่นใด ให้วุ่นวาย และช่วยให้การตรวจเช็คพัดลมการ์ดจอไม่หมุนได้ง่ายที่สุด แต่เงื่อนไขเดียวที่จำเป็นก็คือ เมนบอร์ดของคุณนั้นจะต้องมีสล็อต PCIe x8 หรือ x16 อย่างน้อย 2 สล็อต สังเกตง่ายๆ คือ เป็นสล็อตแบบยาว เพื่อให้ติดตั้งการ์ดจอได้ แต่เมนบอร์ดส่วนใหญ่ที่ทำได้ มักจะเป็นเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป เช่น Intel B หรือ Z series หรือจะเป็น AMD B หรือ X series เป็นต้น

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ตัวอย่างเช่น เมนบอร์ด ASRock X570 AQUA ที่มาพร้อมสล็อต PCIe x16 มาถึง 3 สล็อตด้วยกัน ทำให้คุณสามารถสลับสล็อตได้ตามสะดวก เพื่อเช็คการทำงานของการ์ดจอได้ แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยคือ บางสล็อตนั้น จะใช้ช่องทาง PCIe ร่วมกับ SSD ในแบบ M.2 ที่อยู่ใกล้กัน หากคุณติดตั้ง SSD M.2 อยู่ใกล้กันนั้น ก็อาจจะทำให้การ์ดจอไม่ทำงาน

โดยพื้นฐานหากการ์ดจอทำงานปกติ พัดลมไม่ได้เสียหาย หรือติดขัด สล็อตบนเมนบอร์ดเชื่อมสัญญาณได้ตามปกติ หลังจากที่ต่อสายไฟเลี้ยงแล้ว การ์ดจอก็จะทำงานได้ และพัดลมการ์ดจอก็จะหมุนได้ตามปกติ แต่ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็คงจะต้องหาสาเหตุกันต่อไป


2.เช็คสายต่อไฟเลี้ยง

บางครั้งก็เป็นปัญหาที่คาดไม่ถึงได้เช่นกัน เพราะหลายคนติดตั้งเมนบอร์ด ใส่แรม เสียบการ์ดจอ และติดตั้งฮีตซิงก์ระบายความร้อน ชุดน้ำครบถ้วน แต่มาลืมสายไฟต่อการ์ดจอที่เป็นแบบ 6+2 pins ที่เป็นคอนเน็กเตอร์อยู่บนการ์ดจอ ก็ไม่สามารถทำงานได้ จอไม่แสดงผล รวมถึงพัดลมการ์ดจอก็ไม่ทำงานเช่นกัน ดังนั้นควรจะต้องตรวจเช็คจุดนี้เป็นจุดแรกๆ หรือต้องต่อสายให้ครบ เพื่อให้ระบบทำงานได้ตามปกติ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

แต่ในบางครั้งการใช้เพาเวอร์ซัพพลายแบบถอดสายได้ (Full modular) เวลาที่มีการเคลื่อนย้าย หรือดึงรั้งสายไปมา อาจทำให้สายต่อหลุดหลวม ก็อาจจะทำให้การ์ดจอไม่ทำงาน หรือพัดลมการ์ดจอไม่หมุนได้เช่นกัน อย่าลืมเช็คสายที่ต่อจากเพาเวอร์ซัพพลายพร้อมกันไปด้วย และบางครั้งสายพัก เสียหาย ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับเพาเวอร์ที่ใช้งานมานาน หรือมีการถอดเคลื่อนย้ายบ่อยนั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน
source: pcguide

สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ไฟเลี้ยงจากเพาเวอร์ซัพพลาย +12V ต้องเพียงพอต่อการใช้งานของการ์ดจอ ซึ่งในเบื้องต้น อาจจะต้องตรวจเช็คจากค่าการใช้พลังงาน และต้องไม่ลืมบวกกับองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่ในพีซีที่คุณประกอบเข้าไปด้วย ดังนั้นอาจจะดูข้อมูลจากผู้ผลิตการ์ดจอแต่ละรายได้เช่นกัน และในบางครั้งเราจะพบว่า การ์ดจออาจดับหรือทำงานผิดปกติ เมื่อเพาเวอร์ไม่สามารถจ่ายไฟได้ตามปกตินั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน
source: tech4gamer

3.เช็คสภาพพัดลม

หากคุณมองว่าจากสองข้อแรกที่ผ่านมา ไม่มีอะไรผิดปกติ เพาเวอร์ซัพพลายใหม่ สล็อตการ์ดจอบนเมนบอร์ดทำงานได้ แต่สุดท้ายแล้วพัดลมการ์ดจอไม่หมุน จะทำอย่างไร

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ควรทำต่อไป ก็คือ การเช็คสภาพพัดลมการ์ดจอ ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่พัดลมการ์ดจอที่ทำงานมาหนัก ใช้งานมานาน ก็มักจะเกิดสิ่งสกปรกขึ้นได้ โดยเฉพาะอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่มีฝุ่น น้ำมัน ความชื้น ซึ่งก็จะทำให้พัดลมไม่หมุน หรือหมุนช้าลงได้ เนื่องจากสิ่งสกปรกไปเกาะอยู่ที่แกนพัดลม ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ต้องใช้วิธีทำความสะอาด เพราะถือว่าไม่ได้เกิดจากความเสื่อมของพัดลม

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อีกเรื่องหนึ่งคือ พัดลมการ์ดจอถูกใช้งานมานาน เช่น หมุนอยู่ตลอดทั้งวัน หรือมีชั่วโมงทำงานจำนวนมาก อย่างเช่น ที่เรามักจะพบอยู่บนการ์ดจอขุดบิตคอยน์ Cryptocurrency ที่ทำงานแบบ 24/7 ก็มีผลทำให้พัดลมเสียหายได้เช่นกัน แบบนี้ถือว่าเกิดความเสื่อมขึ้นกับพัดลม มีเพียงการซ่อมแซม หรือการเปลี่ยนพัดลมใหม่เท่านั้น ที่จะแก้ไขได้ผลดีที่สุด

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ พัดลมยังอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ อย่างเช่น ใบพัดเสียหาย แตกหัก เนื่องจากอุบัติเหตุ หรือที่มักจะเจอกันบ่อยคือ มีสายสัญญาณหรือของบางอย่าง หล่นลงไปในพัดลมการ์ดจอ ก็อาจะทำให้เสียหายได้เช่นกัน และถ้าเสียหายแบบนั้น ก็จะไม่อยู่ในเงื่อนไขของการรับประกัน และคุณต้องหาทางซ่อมเองครับ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

แต่ถ้าเช็คสภาพพัดลมแล้ว ยังแค่สกปรก พอจะมีโอกาสทำความสะอาด และกลับมาใช้งานได้ตามปกติ หรือพอจะหมุน เพื่อทำงานได้ไปสักระยะ ก็แนะนำว่าให้ทำความสะอาด เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย


4.ทำความสะอาด

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การทำความสะอาดการ์ดจอ ในกรณีที่พัดลมการ์ดจอไม่หมุน ก็ทำได้หลายวิธี มีตั้งแต่ใช้การเป่าฝุ่นธรรมดา ไปจนถึงแกะฮีตซิงก์และพัดลมออกมาปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด โดยเตรียมอุปกรณ์อย่างเช่น ที่เป่าลม แปรงปัดฝุ่น น้ำยาเช็ดทำความสะอาด

การทำความสะอาดมีด้วยกันหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ง่ายๆ เลย ขั้นพื้นฐาน ไม่ต้องถอดฮีตซิงก์ คือการใช้แปรงขนอ่อน ที่มีความยาว ค่อนๆ ปัด ให้ขนแปรงซอกซอนเข้าไปในช่องต่างๆ อาจจะใช้พัดลมคอยเป่าลม ให้ฝุ่นกระจายออกมาได้เร็วมากขึ้น

VGA card cleaning 2023 8 1

หรือการใช้เครื่องเป่าลม เป่าไปยังพัดลมของตัวการ์ด แต่ให้จับใบพัดลมให้แน่นๆ เพื่อไม่ให้ใบพัดทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหาย อันเนื่องจากใบพัดลมหมุนรอบสูง จากการถูกลมเป่าใส่นั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ส่วนถ้าเอาแบบฮาร์ดคอร์ ก็อาจจะแกะฮีตซิงก์ และใบพัดลมแยกออกมาจากตัวการ์ด จากนั้นทำความสะอาดทีละชิ้น ใช้ตัวเป่าลมอัดลมไปทั้ง 2 ด้านของครอบพัดลมที่แกะออกมา จากนั้นใช้แปรงขนอ่อน ค่อยๆ ไล่ผุ่นที่อยู่ภายในออกมา โดยเฉพาะบริเวณแกนพัดลม แล้วใช้ไม้พันสำลีเล็กๆ ชุบแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มาเช็คตามซอกหลืบของพัดลม


5.เช็คการตั้งค่าพัดลม

หากเป็นการ์ดจอในอดีต พัดลมจะทำงานทันที เมื่อเริ่มต้นบูตระบบ หรือเปิดใช้งาน แต่ในปัจจุบันการ์ดจอมีการปรับเปลี่ยน ให้พัดลมสามารถทำงานตามรอบที่กำหนด หรืออุณหภูมิที่ตั้งเอาไว้ได้ เมื่อไม่ได้ใช้งานการ์ดจอหนัก เช่น ไม่ได้เล่นเกม เปิดดูเว็บทำงานทั่วไป พัดลมการ์ดจอจะไม่หมุน จนกว่าจะร้อนสูงถึงระดับ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส จึงจะเริ่มหมุน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อย่างเช่น การ์ดจอของทาง MSI ที่มีฟีเจอร์ Zero Frozr ซึ่งจะไม่หมุน เมื่ออุณหภูมิการ์ดจอต่ำกว่า 60 องศา ส่วนหนึ่งเพื่อการลดเสียงรบกวนในขณะทำงาน โดยตรงนี้ผู้ผลิตบางค่าย ก็จะมีซอฟต์แวร์ยูทิลิตี้ให้ได้ปรับแต่งกัน คือจะปิดการทำงาน กรณีที่อยากให้พัดลมการ์ดจอทำงานตลอดเวลาก็ได้ หรือบางค่าย ก็จะมีโหมดให้ปรับจูน ทั้งโหมด Silent เน้นเสียงรบกวนน้อย, OC สำหรับการโอเวอร์คล็อกเพิ่มความเร็ว หรือโหมดเกม ตรงนี้ก็จะเป็นโพรไฟล์ให้ผู้ใช้เลือกตามความเหมาะสมนั่นเอง ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าการที่พัดลมการ์ดจอไม่หมุน อาจเกิดจากสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อย่างทาง Gigabyte เอง ก็มี 3D Active Fan ที่ให้พัดลมทำงานตามอุณหภูมิที่เหมาะสม นอกเหนือจากชุดพัดลมที่ออกแบบมาให้ และบางรุ่นที่เป็น 3 พัดลม ก็มี ALTERNATE SPINNING ในการจัดทิศทางการหมุนให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ส่วนทาง PowerColor ก็มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Mute Fan ที่จะไม่ให้พัดลมการ์ดจอหมุน หากอุณหภูมิไม่ถึง 60 องศาเซลเซียส เพื่อลดโหลดการใช้พลังงาน และลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นขณะที่ใช้งานนั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ดังนั้นช่วงแรก อาจจะยังไม่ต้องตกใจ ให้ลองเล่นเกม แล้วเปิดดูอุณหภูมิตามไปด้วย หรือใช้โปรแกรมอย่าง FURMARK และโปรแกรมอย่าง MSI Afterburner ตั้งค่าให้แสดงอุณหภูมิของการ์ดจอตามไปด้วย หากตัวเลขขึ้นสูงเกินกว่าระดับ 60 องศาเซลเซียส แล้วพัดลมยังไม่ทำงาน อีกทั้งมีอาการผิดปกติ ก็อาจเป็นไปได้ว่าพัดลมการ์ดจออาจจะเสียได้


6.เปลี่ยนพัดลมการ์ดจอใหม่

สำหรับขั้นตอนนี้ อาจจะเหมาะกับผู้ใช้ที่พอมีพื้นฐานด้านช่าง การแกะชิ้นส่วนอุปกรณ์อยู่บ้าง รวมถึงเคยทำมาก่อน แม้ว่าจะไม่ได้ซับซ้อน แต่ก็บางจุดที่ควรจะต้องระมัดระวัง มีเครื่องมือให้พอใช้งาน และที่สำคัญจะต้องหาซื้อชิ้นส่วนที่เป็นชุดพัดลม นำมาเป็นพาร์ทสำหรับเปลี่ยนกับพัดลมตัวเก่าที่ใช้งานไม่ได้แล้ว

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องเตรียมประกอบด้วย ไขควง 4 แฉก อุปกรณ์เซาะหรือง้างชิ้นส่วน ฮีตซิงก์หรือคีมเล็กๆ ที่ใช้ในการดึงสายไฟ รวมถึงสิ่งที่ใช้ในการทำความสะอาด เพราะไหนๆ ก็แกะพัดลม ฮีตซิงก์ออกมาแล้ว ก็น่าจะทำความสะอาดตัวการ์ดไปด้วยเลย เพื่อให้ตัวการ์ดสะอาดเหมือนใหม่ ใช้งานต่อไปได้ยาวๆ

หาซื้ออะไหล่ที่ไหนได้บ้าง?

เรื่องการซื้อหาอะไหล่พัดลมมาเปลี่ยน มีด้วยกันหลากหลายที่เลยทีเดียว ว่ากันตั้งแต่หน้าร้านออนไลน์ในบ้านเรา มีตั้งแต่ร้านออนไลน์ไอทีทั่วไป หรือจะเป็นบรรดา Store ต่างๆ รวมถึงตลาดออนไลน์ กลุ่มหรือ Group ที่เป็น Facebook group ที่เป็นกลุ่มสินค้าไอทีมือสอง กลุ่มการ์ดจอ หรือจะเป็นกลุ่มที่เป็นสายขุด (Cryptocurrency) ที่มักมีอะไหล่มาแลกเปลี่ยนกันอย่างมากมาย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ถ้าใครชอบการการันตี มีของให้เลือก และมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวก ทางเลือกอย่าง Shopee หรือ Lazada เหล่านี้ก็น่าสนใจ ยังไม่รวมถึงตลาดออนไลน์ระดับโลกขนาดใหญ่อย่าง Amazon ก็มีตัวเลือกให้มากมายเลยทีเดียว

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การแกะชิ้นส่วนพัดลม ยากง่ายขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย ว่ามีงานประกอบละเอียดมากน้อยเพียงใด เพราะการ์ดบางรุ่นแกะตัวล็อคกับน็อตไม่กี่จุด พร้อมดึงขั้วต่อพัดลมออกเท่านั้น แต่บางรุ่นซ้อนชั้นพัดลม ฮีตซิงก์และตัวล็อคขนาดเล็ก การแกะพัดลมออกมา ก็ต้องพิถีพิถันมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหาย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องระวังมีอยู่หลายส่วนเลย หากต้องการจะแกะพัดลม ฮีตซิงก์การ์ดจอด้วยตัวเอง ตั้งแต่เรื่องของไฟฟ้าสถิตย์ ควรมีถุงมือ หรือคลายประจุก่อนทำการแกะทุกครั้ง ชิ้นส่วนหรือน็อตบางตัว มีขนาดเล็ก อยู่ลึกหรือมีความซับซ้อน ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เครื่องมือมีให้พร้อมเอาไว้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นไขควง ชุดแกะแยกชิ้นส่วน รวมถึงเมื่อแกะออกมาแล้ว หาที่จัดเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ให้ดี อย่าให้หาย การวางตัวการ์ดที่ไม่มีฮีตซิงก์ ระวังอย่าให้ตกกระแทกหรือให้สิ่งใดกระทบจนเสียหายหรือเป็นรอย ถ้าคิดว่าต้องซ่อมหรือรอพัดลมอะไหล่นาน แนะนำว่าเก็บใส่ซองบับเบิลกันกระแทกเอาไว้ ดีที่สุด


7.ส่งซ่อมกับช่างผู้ชำนาญ

หากถึงที่สุดแล้ว พยายามทำหลายๆ ทาง แต่พัดลมการ์ดจอ ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การส่งร้านซ่อม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้การ์ดจอของคุณกลับมาทำงานได้ตามปกติ ร้านซ่อมเหล่านี้มีอยู่มากมายทั่วประเทศ หรือสามารถเข้าไป Search ข้อมูล เอาแบบที่อยู่ใกล้บ้าน ติดตามงานได้สะดวกดีที่สุด รวมถึงเข้าไปดู Feedback จากบรรดาลูกค้าที่เข้ามาคอมเมนต์อีกทางหนึ่ง เพื่อความมั่นใจ แต่วิธีนี้ แนะนำสำหรับคนที่ใช้การ์ดจอหมดประกันแล้ว หากยังมีประกัน ให้ส่งเคลมตัวแทนจำหน่ายน่าจะเหมาะสมกว่า

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องสังเกตก็คือ ควรเลือกร้านซ่อมที่วางใจได้ มีผลงานที่สามารถพิจารณาได้ และน่าไว้วางใจ มีการรับประกันงานซ่อม สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง อัพเดตงานบ่อย โดยที่ผู้ใช้อาจจะตรวจสอบได้จากเพจหน้าร้าน หรือบางร้านก็โปรโมตผลงานผ่านทาง Community หรือ Facebook Group ต่างๆ ที่เหลือก็เป็นการสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการซ่อม หากพึงพอใจ ก็ติดต่อเพื่อส่งซ่อมได้ทันที

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การส่งซ่อมควรมีที่อยู่ร้าน ตำแหน่งแน่ชัด รวมถึงช่องทางการติดต่อที่สะดวก เพื่อให้เราสามารถตามงานได้ง่าย หรือเป็นไปได้ หากไปส่งด้วยมือที่ร้านได้ก็ยิ่งดี ย้ำครับว่าอย่าลืมสอบถามการรับประกันงานซ่อม เป็นระยะเวลาเท่าใด หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว อย่างน้อยการันตีว่า หากเกิดปัญหาจะได้รับการดูแลต่อเนื่องไป ไม่หายกันไปไหน

ได้รับการ์ดจอที่ซ่อมกลับมาแล้ว ก็อย่าลืมรีเช็ค ทดลองใช้งานด้วยว่า พัดลมหมุนตามปกติหรือไม่ มีเสียงรบกวนหรือไม่ ใบพัดเสถียรดีหรือเปล่า รวมถึงลดความร้อนการ์ดจอได้ตามปกติมั้ย? หากไม่มีปัญหาอะไรใช้งานได้ตามปกติ ก็ถือว่าคุ้มค่า!


Conclusion

Gigabyte GeForce RTX 3060 Ti GAMING OC 014

สุดท้ายนี้หากคุณต้องเจอกับปัญหา พัดลมการ์ดจอไม่หมุน และยังไม่รู้จะหาทางแก้อย่างไร ลองนำวิธีการตรวจเช็คและแก้ไขทั้ง 7 ข้อนี้ ไปลองปรับใช้กันดูครับ เพราะบางครั้งอาจจะเกิดจากแค่ไดรเวอร์หรือการปรับแต่งบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป เพียงแค่เข้าไปปรับแก้เล็กน้อย ก็ใช้งานได้ตามปกติแล้ว หรือถ้าเกิดจากความสกปรก เนื่องจากใช้งานมานาน และการ์ดจอของคุณหมดประกันไปแล้ว อยากจะลองทำความสะอาดด้วยตัวเอง ก็สามารถลองทำดูได้ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และเน้นที่ความระมัดระวัง แต่ถ้ากังวลไม่อยากทำเอง ก็มีผู้ให้บริการทำความสะอาดการ์ดจออยู่มากมายเลยทีเดียว เช่นเดียวกับร้านซ่อม หากซ่อมเปลี่ยนพัดลมเอง อาจจะไม่ได้ยาก หากคุณหาพาร์ทของพัดลมให้ตรงรุ่นได้ แต่ราคาอาจจะสูง หรือใช้เวลา ส่วนถ้าส่งร้านซ่อมบางครั้งราคาอาจจะสูงบ้าง แต่ก็วางใจได้ว่ามีช่างที่ชำนาญในการซ่อมแซม ซึ่งก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความสะดวก และค่าใช้จ่ายของคุณ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ที่ผ่านมา การ์ดจอราคาถูกลงมาเยอะแล้ว หากคุณคิดว่าเอามาซ่อมอาจไม่คุ้มค่า หรือน่าจะได้เวลาเปลี่ยนใหม่ ก็แนะนำเลยครับ เพราะคุณจะได้เทคโนโลยีใหม่ แรงมากขึ้น และการรับประกันแบบเต็มๆ ไม่ต้องลุ้น หรือหากจะลองมาดูรุ่นของการ์ดจอเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่หน้าจัดสเปคพีซีของเรากันได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/681180-graphic-card-fan-not-spin