คลังเก็บป้ายกำกับ: จอเล่นเกม

จอคอมทำงาน 2023 เลือกแบบไหนดี? MSI PRO/MODERN series จอใหญ่ สีตรง คมชัด จบงานได้ไว

จอคอมทำงาน 2023 จาก MSI PRO series และ MODERN series เพื่อไลฟ์สไตล์ในบ้านและสายนักงานยุคใหม่ สีตรง คมชัด

MSI PRO MSI MODERN series monitor rev1

ก่อนจะซื้อคอมทำงานในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในบ้าน หรือวางไว้ที่ทำงาน นอกจากการประเมินงบประมาณที่เหมาะสมแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่แสดงผล ขนาดของหน้าจอ การปรับแต่ง สีสันความแม่นยำ รวมถึงฟังก์ชั่นเสริมตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน โดยในวันนี้เรามีจอทำงาน 4 รุ่นจากทาง MSI ทั้งในซีรีส์ PRO ที่เป็นจอภาพเริ่มต้นขนาด 24″ สำหรับการทำงานดีไซน์เรียบง่าย ขอบจอบาง ให้การแสดงผลได้คมชัด และ MSI MODERN series ที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัย ให้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ และความละเอียดสูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2160p ช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมภาพที่ยังคมชัด ให้การปรับแต่งที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับการทำงานในปัจจุบัน มาชมกันครับว่า จอรุ่นต่างๆ เหล่านี้ เหมาะกับการทำงานในรูปแบบใด และรุ่นไหนที่ลงตัวกับการใช้งานของคุณ

จอคอมทำงาน MSI PRO/ MODERN series


เลือกจอคอมสำหรับทำงาน

การเลือกจอคอมสำหรับใช้ทำงานนั้น มีด้วยกันหลายระดับ ตั้งแต่การทำงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร ทำพรีเซนเทชั่น หรือซอฟต์แวร์พื้นฐานทั่วไป ซึ่งอาจจะใช้จอขนาดปกติ เทคโนโลยีพื้นฐาน ราคาประหยัดก็ยังได้ แต่ถ้าสำนักงานและการทำงานของคุณ ให้ความสำคัญกับภาพและการแสดงผล เช่น การใช้หน้าจอใหญ่ในการนำเสนองาน หรือต้องการจอที่มีความละเอียดสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ขึ้นไป ให้ความละเอียดระดับ 2K หรือ 4K ก็เป็นคำตอบที่ดี

Advertisementavw
จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการงานที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านของภาพและวีดีโอ รวมถึงงานกราฟิก CG หรือ 3D นอกจากจอภาพขนาดใหญ่แล้ว ก็ต้องมองที่ Resolution หรือความละเอียดที่สูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2610p ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่หน้าจอสำหรับงานได้มากขึ้น รวมถึงการจัดวางเครื่องมือ (Tool) ต่างๆ ได้สะดวกกว่า เช่น Adobe Premier Pro ก็จะได้พื้นที่พรีวิวที่กว้างขึ้น Timeline ที่กว้างขวาง และการปรับแต่งเครื่องมือใช้งานได้ดีกว่าจอภาพขนาดเล็กนั่นเอง

จอคอม

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ในงานระดับมืออาชีพ สิ่งที่สำคัญก็คือ ความแม่นยำของสี และขอบเขตสีที่กว้าง ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานที่จะให้ภาพและสีสัน มีความเที่ยงตรง เป็นมาตรฐาน เข้ากับรูปแบบการทำงานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ ซึ่งจะมีค่าเป็นมาตรฐานที่แตกต่างกันไปในแต่ละงาน

อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของการรับประกัน บริการหลังการขาย ที่จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจ ซึ่งผู้ผลิตแต่ละค่าย แต่ละโมเดลที่ออกมา อาจจะให้การรับประกันที่แตกต่างกันไปครับ


พาแนลแบบไหนดี

การเลือกพาแนลของจอให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะหลายคนต้องใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานในแต่ละวัน และยิ่งเป็นงานที่มีความสำคัญ ภาพที่เห็นต้องคมชัด มีความสว่างสดใส พาแนลในแต่ละแบบก็จะมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป

จอคอม

IPS – พาแนลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำงาน และความบันเทิง เพราะให้ภาพคมชัด มุมมองกว้าง ค่าสีที่แม่นยำ และเที่ยงตรง จึงเป็นจอที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

VA – เป็นพาแนลที่ได้รับความนิยมบนจอเกมมิ่งช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากราคาไม่สูง ครอบคลุมในหลายๆ งาน ให้ภาพสีสันสดใส มุมมองใกล้เคียงกับ IPS 

TN – ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรตสูง เหมาะกับการเล่นเกม แต่สีสันความสดใส อาจจะไม่เท่ากับจอแบบอื่นๆ รวมถึงมุมมองที่น้อยกว่า

OLED – ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากจอ LED ทั่วไป ที่เป็นหลอดไฟด้านหลังเพื่อให้เกิดแสงสว่าง ทำให้ได้ความคมชัดมากกว่า ภาพที่มีชีวิตชีวา ดูสมจริง สีที่ออกมาเที่ยงตรงตรง ไม่เกิดจุดแสงในสีดำ ภาพที่ได้ดำสนิท ประหยัดพลังงาน นำมาใช้บนจอโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบัน

QLED – มีพิกเซลขนาดเล็ก ให้ความสว่างและ Contrast สูง ทำให้สีสันสดใส ช่วงสีที่กว้าง ภาพดำเข้มลึก ไล่เฉดสีได้สมจริง เหมาะในด้านความบันเทิงทั้งการดูหนัง และเล่นเกมในปัจจุบัน


พื้นที่แสดงผลและความละเอียด

จอคอม 24″ ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีการทำงานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน การเรียน รวมถึงการเทรดหุ้นเป็นต้น รวมถึงการจัดวางง่าย ไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะ กำลังพอดีกับสายตา ในขณะที่นั่งตามปกติ แต่การใช้งานจะต่างกันในแง่ของความละเอียด (Resolution) ที่มีให้เลือกทั้ง Full-HD 1080p, 2K 1440p และ 4K 2160p ซึ่งแต่ละแบบ ก็อาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน

จอคอม
  • Full-HD 1080p: ได้รับความนิยม และใช้กันอยู่ทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทุกประเภท ไม่ว่าจะทำงาน ดูหนังหรือเล่นเกม เทรดหุ้น และรองรับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
  • 2K QHD 1440p: เป็นจอคอมที่เราเริ่มเห็นกันได้บ่อยในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นจอสำหรับเกมเมอร์ แต่ก็เหมาะกับการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะได้ความละเอียดที่มากขึ้น รองรับงานด้านตัดต่อ แต่งภาพ และการจัดวางเครื่องมือในโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม
  • 4K UHD 2160p: อาจจะเป็นจอที่หาได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นจอคอมระดับพรีเมียม ที่เน้นตอบโจทย์สำหรับเกมมากกว่า แต่ก็สนับสนุนการทำงานด้วยเช่นกัน ด้วยค่า Gamut และขอบเขตสีที่กว้าง รองรับการเชื่อมต่อที่ทันสมัย จะนำไปใช้กับงานโปรแกรมเฉพาะทางก็ได้เช่นกัน แต่ราคาจะค่อนข้างสูง

โดยเรามีตัวอย่างของจอคอมขนาด 24″ มาให้ชมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย MSI MODERN MD241 และ MSI PRO MP243 ซึ่งมาพร้อมกับความละเอียด 1980 x 1080p อัตรารีเฟรชเรต 75Hz พาแนล IPS ให้ความคมชัด และ MSI PRO MP241X ที่เป็นพาแนล VA ทุกรุ่นรองรับการใช้งานร่วมกับ MSI Display Kit อีกด้วย

จอคอม

จอคอม 27″-29″ จัดว่าเป็นขนาดของจอที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะคนที่ต้องการตัวจบในการทำงาน หรือจะนำมาเป็นจอเสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร และใช้ในการพรีเซนเทชั่น รวมถึงการทำงานวีดีโอ และการเขียนโปรแกรมเป็นต้น เพราะให้พื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดสรรการทำงาน และแบ่งหน้าต่างโปรแกรมได้ง่ายขึ้น และมีให้เลือกตั้งแต่ความละเอียด Full-HD สำหรับใช้งานเบื้องต้น ไปจนถึง 4K เพื่อคนที่ทำงานจริงจัง จัดว่าเป็นขนาดจอที่อยากจะแนะนำในการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งราคาเริ่มต้นไม่สูง แต่อาจจะใช้พื้นที่มากขึ้นเล็กน้อย รวมถึงระยะการวางที่ห่างจากสายตามากกว่าจอ 24″ อยู่บ้าง สำหรับจอภาพ 29″

จอคอม

โดยที่เรามีตัวอย่างของจอขนาด 27″ มาให้ชมกับ MSI MODERN MD272QPW ที่มาพร้อมความละเอียดที่สูงถึง 2560x1440p หรือ 2K WQHD พาแนล IPS ที่มีมุมมองกว้าง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ปรับหมุนจอได้สะดวก กับการเชื่อมต่อสัญญาณที่ครบครัน

จอคอม 32″ หรือมากกว่า มาพร้อมพื้นที่ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี พื้นที่กว้างขวาง มีให้เลือกตั้งแต่จอ 32″ ความละเอียด 2K หรือ 4K ในแบบพื้นฐาน ที่ให้คุณมองเห็นรายละเอียดของงาน หรือภาพได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร เขียนโปรแกรม เทรดหุ้น หรือใช้ในการเรียนการสอน ไปจนถึงจอสำหรับเกมเมอร์ ที่มีความละเอียดสูง และอัตรารีเฟเรชเรตที่สูงระดับ 144Hz อีกด้วย แต่ก็จะมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน


ขอบเขตสีก็สำคัญ

หากเป็นจอทำงาน ที่ต้องเน้นความแม่นยำของการแสดงผลสี และขอบเขตสีที่กว้าง ก็ต้องเลือกจอที่ให้ค่าขอบเขตสีในมาตรฐานต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นค่า sRGB, Adobe RGB หรือจะเป็น DCI-P3 และ Delta-E ตัวเลขต่างๆ จะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของจอแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น

จอคอม

sRGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่มีการใช้งานกันอยู่ทั่วไป ในแบบที่สายตาของคนเรามองเห็น ซึ่งถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์อย่าง จอทีวี กล้องและสิ่งอื่นๆ ซึ่งได้รับความนิยมว่าเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก มีความสำคัญในการทำงานร่วมกับ นักสร้างคอนเทนท์ งานกราฟิก วีดีโอโปรดักส์ชั่น และงานดิจิตอลต่างๆ การที่จอให้ค่า sRGB 99% ก็หมายถึงการแสดงค่าสี ได้สูงถึง 99% นั่นเอง ถือว่ามีความแม่นยำสูง

Adobe RGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่กว้างมากขึ้น ใช้กันอย่างหลากหลายบนโปรแกรมจากค่าย Adobe สำหรับงานกราฟิกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom เป็นต้น เข้ากันได้กับงานที่เป็นสิ่งพิมพ์ที่เหล่ากราฟิกใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำและส่งพิมพ์ เพื่อจะได้สีไปในทิศทางเดียวกัน

จอคอม

DCI-P3: สำหรับ DCI-P3 เป็นมาตรฐานของสี ที่นิยมแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะมีขอบเขตกว้างกว่า sRGB อยู่เล็กน้อย โดยจะแสดงผลเป็นค่า % เช่นเดียวกัน

แต่จอภาพที่ยิ่งให้ขอบเขตสีที่กว้าง และความแม่นยำสีสูงนั้น ก็มักจะอยู่ในโมเดลระดับบน หรือถูกแยกออกมาเป็นกลุ่มจองานสตูดิโอหรืองานกราฟิกโดยเฉพาะ มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นงานจริงจัง หรือต้องเทียบสีเพื่อส่งงานพิมพ์หรืองานโปรดักส์ชั่นระดับมืออาชีพแล้ว จอคอมทำงานพื้นฐาน ที่มีตัวเลขของมาตรฐานต่างๆ ที่ว่ามาได้เกินระดับ 75% ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว


MSI MODERN MD272QPW

จอคอม

สำหรับคนที่ต้องทำงานหลายงานพร้อมกัน ต้องตรวจงานเอกสาร และการทำบัญชีที่ต้องการพื้นที่ Cell/ Column ในโปรแกรมกว้างมากขึ้น และงานวีดีโอหรือภาพที่ต้องพรีวิวชิ้นงานบ่อยๆ ในบางช่วงอาจจะใช้จอดูหนัง และเล่นเกมไปในตัว จอที่ให้พื้นที่แสดงผลที่กว้างเป็นพิเศษ เช่น จอคอม 27″-29″ จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีขึ้น อย่างเช่น MSI MODERN MD272QPW ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 27″ และให้ความละเอียดถึง 2K หรือ 2560x1440p ภาพสีสดใส ด้วยพาแนลในแบบ IPS และมีฟีเจอร์สำหรับการทำงานครบครัน เช่นรองรับ FreeSync, KVM และ Picture profile เป็นต้น พร้อมพอร์ต Input สัญญาณทั้ง HDMI และ USB-C และเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า Less Blue Light Pro อีกด้วย

จอคอม

มาดูที่รูปลักษณ์กันบ้าง สำหรับจอรุ่นนี้มาในโทนสีขาว ตามสไตล์ของ MODERN series ที่เน้นความลงตัวของเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือสำนักงาน ส่วนตัวผมมองว่าทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งมีขอบจอที่บางเป็นพิเศษ 3 ด้านเลย ยิ่งทำให้พื้นที่การชมภาพหรือทำงาน กว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวฐานและขาตั้ง ยังออกแบบมาให้ปรับเลื่อนได้หลายมุมเลยทีเดียว

สำหรับการปรับเลื่อน น่าจะถูกใจคนที่ชอบการทำงานในชีวิตประจำวันที่หลากหลาย เพราะมาพร้อมกับการให้เข้ากับสรีระได้ง่ายมาก ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของจอ MSI รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นกันหันข้างซ้าย-ขวา (Swivel) ได้ด้านละ 30 องศา ทำให้การแบ่งปันหน้าจอ ดูข้อมูล ให้กับคนข้างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องยกให้หมุนให้เสียเวลา

ในการปรับความสูงก็ได้เช่นกัน เผื่อบางครั้งต้องใช้บนโต๊ะทำงานที่ต่างระดับกัน โดยตัวจอปรับความสูงได้ถึง 110mm และยังทำได้ง่ายอีกด้วย แค่ดันขึ้นไปหรือกดลงเท่านั้น

ส่วนมุมก้ม-เงย เพื่อให้ใช้งานขณะที่นั่งหรือยืนได้ง่ายกว่าเดิม โดยปรับได้ที่ -5° ~ 20° อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

ด้านหลังจอคือไฮไลต์ เพราะมีแกนหมุนที่ใช้หมุนจอแบบ Pivot ได้ 90 องศา สำหรับการใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การพรีเซนเทชั่น หรือการเป็นจอพรีวิวงาน ที่เป็นจอเสริม หรือจะเป็นจอหลักสำหรับการเขียนโปรแกรม หรือการท่องเน็ต ผมว่าเป็นฟีเจอร์สำคัญของสายนี้เลยทีเดียว

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้าจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, USB-C ที่ใช้ในการรับสัญญาณจาก Thunderbolt หรือ USB-C ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการชาร์จไฟ 65W ไปพร้อมกับการแสดงผลได้อีกด้วย รองรับสัญญาณแบบ DP อย่างโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ที่มีพอร์ตแบบนี้อยู่ และมี USB Hub และ USB Type-A เพื่อต่อกับอุปกรณ์อย่าง เมาส์ คีย์บอร์ด หรือ USB Flash Drive เป็นต้น

จอคอม

การปรับแต่งใช้เป็น 5 ปุ่ม เลือก เลื่อนซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง และยกเลิก แรกๆ อาจจะยังไม่คล่องนัก ต้องใช้เวลาในการปรับตัวแยู่บ้าง แต่ถ้าได้แบบจอยสติ๊กบนจอเกมมิ่งของ MSI หลายๆ รุ่นที่ใช้ 5-Way Navigation Joystick ก็จะดีไม่น้อย นิ้วเดียวจบ

จอคอม

สำหรับการใช้งาน เรื่องความสว่างและความคมชัด ดูจะตอบโจทย์คนที่ทำงานเอกสาร และงานด้านภาพและวีดีโอได้ดีทีเดียว หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ทำงานอิสระ หรือเป็นพนักงานที่ต้องอยู่กับงานเอกสาร การตรวจงาน และการพรีวิวภาพ วีดีโอเพื่อเช็คความผิดพลาด จอคอม MSI รุ่นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความคมชัด เมื่อปรับความละเอียดเป็น 2560x1440p ให้ใช้งานเป็นแบบ Native หรือความละเอียดตรง ทำให้ตัวอักษรคมชัดมากขึ้น มากพอสำหรับการแบ่งหน้าจอ รวมถึงการดูข้อมูลหลายๆ หน้าต่างไปพร้อมกัน อย่างเช่น การใช้ซอฟต์แวร์สำนักงาน หรือการดูข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาด พร้อมกับการเทรดหุ้นไปด้วย

ส่วนการทำงานเอกสาร คุณจะเห็นพื้นที่หน้าจอกว้างขวางมากทีเดียว แม้ว่าการแสดงผล 2K อาจจะทำให้ขนาดตัวฟอนต์เล็กลงไปบ้าง เพราะให้พื้นที่การใช้งานได้มากกว่า แต่คุณสามารถปรับ Scale, Size of text ใน Windows ประกอบไปด้วยได้ เลื่อนให้ฟอนต์ได้ขนาดตามที่คุณต้องการได้เลย

Low Blue Light Pro ฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ใช้คอม ซึ่งต้องทำงานอยู่หน้าจอนานๆ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง สบายตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าที่รบกวนสายตา แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ ผลจากการใช้ฟีเจอร์นี้ จะไม่ทำให้ภาพที่คุณเห็นไปแบบโทนอมเหลือง เหมือนกับฟีเจอร์การลดแสงสีฟ้าธรรมดา แต่จะปรับให้โทนสีมีความสมจริงสดใส แบบไม่เสียอรรถรสในการใช้งาน

จอคอม

ไม่ใช่แค่การแบ่งหน้าจอแนวตั้งเท่านั้น แต่แนวนอนก็ทำได้เช่นเดียวกัน จากตัวอย่างนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในหลายแบบได้ โดยเฉพาะการเทียบข้อมูลงาน สำหรับการแก้ไข หรือจะซื้อขายหุ้น ด้วยการดูข้อมูลประกอบไปด้วย ตรงนี้ถือว่าจอใหญ่กว่า ย่อมได้เปรียบกว่า เพราะคุณไม่ต้องซูม-ย่อ หรือสลับหน้าต่างโปรแกรม แค่แบ่งหน้าจอก็ใช้งานได้ทันที

จอคอม

หรือถ้าเป็นงานที่ต้องทำงานด้านข้อมูล เช่น รายงานประจำปี รายรับ-รายจ่าย หรือข้อมูลพนักงาน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 27″ ก็ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นได้ เพราะพื้นที่ทำงานมากกว่า มองเห็น Cell และ Column ได้ชัดกว่า ทำให้การสร้าง Chart หรือ Table จำนวนมากได้ดียิ่งขึ้น และการแก้ไขกราฟทีละจุดเป็นเรื่องง่าย

จอคอม

และคงไม่ได้หยุดแค่การทำงาน อย่างเช่นตัวอย่างนี้ หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการท่องอินเทอร์เน็ต เก็บข้อมูล หรืออ่านรายงานบนหน้าต่างโปรแกรมแบบยาวๆ แค่หมุนจอ 90 องศา Pivot แล้วใช้แค่ Scroll wheel ก็เลื่อนดูได้สะดวก จะนั่งชิลๆ จิบกาแฟในบ้าน แล้วเปิดเว็บดูข้อมูลไป หรือจะเปิดไฟล์ที่ยาวเป็นหน้ากระดาษ ในสำนักงานก็ได้เช่นกัน

จอคอม

หรือถ้าในงานที่จำเป็นจะต้องใช้ 2 จอ อย่างเช่น งานตัดต่อวีดีโอ ที่อาจจะมีจอภาพหลัก สำหรับการตัดงาน ประโยชน์ของจอแบบ Ultra-Wide ก็คือ สามารถใช้เป็นจอสำรอง ในการพรีวิวภาพหรือวีดีโอฟุตเทจ ในแบบแนวตั้ง ซึ่งได้จำนวนไฟล์ที่มีมากกว่า และยังมองเห็นได้ชัด เมื่อปรับภาพเป็น Large icon หรือ Extra Large และเลือกนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้อง Scroll wheel บ่อยๆ หรือจะใช้เป็นจอหลักสำหรับการตัดงาน ก็ได้เช่นกัน ด้วยความละเอียดระดับ 2K 1440p นี้ ทำให้การจัดวาง Tools ในการใช้งานกว้างขวางมากขึ้น

ในด้านงานตัดต่อวีดีโอ หรือตกแต่งภาพ จอ MSI ออกแบบมาให้กับผู้ใช้งานในด้านนี้ เพราะนอกจากจะเป็นจอขนาดใหญ่ 27″ ให้พื้นที่กว้าง กับความละเอียด 2K ที่ทำให้พื้นที่จัดการวีดีโอได้สะดวกแล้ว ยังให้ขอบเขตสีที่กว้าง และค่า sRGB ที่ระบุมานั้นอยู่ที่ 95% และจากการทดสอบของทีมงาน ได้ค่า Gamut Coverage 98% sRGB อีกด้วย ด้วยความแม่นยำของค่าสีในระดับนี้ ก็สามารถนำมาใช้งานด้านภาพและวีดีโอในเบื้องต้นได้ไม่ยาก หากได้รับการ Calibrate ที่เหมาะสมก่อนใช้งาน

จอคอม

สำหรับเกมเมอร์และเกมแคสเตอร์ สามารถใช้จอภาพ MSI นี้ ในการ Cast stream ได้ จะเลือกใช้เป็นจอหลักในการเล่นเกม หรือจะเป็นจอเสริมสำหรับแสดงผลในการสตรีมก็ได้เช่นกัน สะดวกได้ทั้ง 2 แบบ แต่หากคุณมีเครื่องคอมแรง เล่นเกมระดับ 2K บน MSI MODERN MD272QPW แล้วใช้จอขนาด 24″ มาช่วยในการ Monitor เปิดโปรแกรม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

มาในด้านความบันเทิงกันบ้าง หลายคนที่ซื้อจอใหญ่ๆ ความละเอียดสูง ก็จะคาดหวังกับการชมภาพยนตร์แบบเต็มตา คมชัด และสีสันที่สดใส นอกเหนือจากประโยชน์ในการทำงานเพียงอย่างเดียว ด้วยภาพที่มีความสดใส และขอบด้านข้างที่บาง ก็ไม่ทำให้เกะกะสายตา รวมถึงสีสันจัดว่าทำได้ดีทีเดียว และผู้ใช้ยังเลือกปรับโหมด Movie เพื่อให้ตัวจอปรับโพรไฟล์แสงและภาพสำหรับการดูหนังได้ทันที ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าเอง

OSD settings

หากจะเลือกจอคอมสักรุ่น การปรับแต่งก็สำคัญ MSI ให้การปรับแต่งจอผ่านทาง OSD settings มาได้อย่างละเอียดบนจอรุ่นนี้ ด้วยปุ่มควบคุมที่อยู่ใต้จอ 5 ปุ่ม ให้การปรับเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ดีพอสมควร โดยในส่วนของ OSD นั้น เลือกตั้งค่าได้ตั้งแต่โพรไฟล์ Eco, User, RGB, Anti-Blue, Movie, Office และ black & White นอกจากนี้ยังเลือกใช้งาน KVM และ FreeSync ให้ใช้งาน ส่วนโหมดภาพ ก็เป็นการปรับค่าความสว่าง Contrast และ Sharpness รวมถึง Low Blue Light เอาไว้ด้วย ถือว่าเป็นจอทำงาน ที่ไม่ได้เน้นเล่นเกม แต่ให้ตัวเลือกในการปรับแต่งได้มากทีเดียว

MSI Display Kit

จอคอม

และในการปรับแต่ง MSI ยังมีซอฟต์แวร์ตัวช่วยในการตั้งค่าจอภาพ และการใช้งานที่เกี่ยวกับแสดงผลเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าภาพ กับโพรไฟล์ต่างๆ หรือจะเป็นการแบ่งหน้าจอ รวมถึงความละเอียด และอัตรารีเฟรชเรต ไปจนถึง Tools สำหรับจอ เมาส์ คีย์บอร์ด โดยไม่ต้องเข้าไปปรับใน OSD หรือฟังก์ชั่นใน Windows อีกด้วย

สำหรับ MSI MODERN MD272QPW มาพร้อมพื้นที่แสดงผล 27″ ความละเอียด 2560x1440p พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 75Hz รองรับการปรับหมุนจอได้อย่างหลากหลาย และมีพอร์ต Type-C 65W กับการรับประกัน 3 ปี สนนราคาประมาณ 9,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD272QPW


MSI MODERN MD241P

จอคอม

แต่ถ้าคุณยังไม่ต้องใช้จอขนาดใหญ่ จอ 24″ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่อยากได้ฟังก์ชั่นแบบเดียวกับใน MODERN series ก็ยังมีอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจกับ MSI MODERN MD241P จอคอม 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนล IPS เป็นแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน กับ Ratio 16:9 ปรับเลื่อนได้แบบเดียวกับ MSI MODERN MD272QPW และมีพอร์ตสำหรับ Input สัญญาณ HDMI และ USB-C มีลำโพงเสียงจัดจ้านในตัว เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิงในงบประมาณ 5,900 บาท

จอคอม

MSI MODERN MD241P เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงาน ที่มีพื้นที่บนโต๊ะจำกัด หรือมีบ้าน สำนักงาน ที่เป็นแบบมินิมอล แต่รองรับการใช้งานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานซอฟต์แวร์สำนักงาน ทำเอกสาร พรีเซนเทชั่น ไปจนถึงในชีวิตประจำวันอย่าง เล่นหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ต และความบันเทิง เช่น การดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ให้สีสันที่สดใส ด้วยพาแนล IPS จึงช่วยให้มุมมองที่กว้าง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในหลายด้าน และความบันเทิงแบบจัดเต็ม

ความน่าสนใจของจอ MSI รุ่นนี้อยู่ที่การเป็นจอ IPS ได้มุมมองกว้าง 178 องศา ทั้งสองด้าน นั่นก็ทำให้การรับชม ไม่ว่าจะดูเอกสาร หรือความบันเทิง รวมถึงการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ได้ดูนั้นทำได้ง่ายกว่า เพราะมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน

การปรับเลื่อนหน้าจอ ก็แทบจะไม่ได้ต่างไปจากจอรุ่นพี่อย่าง MODERN MD272QPW ที่เรียกว่าถอดแบบกันมา กับการเลื่อนขึ้นลง เพื่อปรับความสูงในระดับ 110mm เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์

มุมก้ม-เงย อยู่ในระดับมาตรฐาน -5 – 20 องศา จะนั่งหรือยืนใช้งาน ก็พร้อม โดยเฉพาะคนที่ใช้โต๊ะไฟฟ้า ปรับเลื่อนความสูงได้ เมื่อยหลัง ก็ยืนทำงาน เมื่อยขาก็กลับมานั่งใหม่ ปรับให้เข้ากับสรีระและการใช้งานของแต่ละบุคคลได้

จอคอม

และพอร์ต ก็ให้มาพร้อมใช้งานเช่นกัน แต่จะลดทอนลงจากรุ่นพี่เล็กน้อย คือมีเพียง HDMI และ USB-C ไม่ได้มี DisplayPort มาให้ แต่เท่านี้ คุณก็ต่อสัญญาณจากคอมหรือโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ได้แล้ว

จอคอม

และสิ่งที่เป็นไฮไลต์ในการปรับเลื่อนจอรุ่นนี้ ยังคงเอาใจผู้ใช้ที่ต้องการมุมมองและการใช้งานแบบใหม่ๆ ด้วยการปรับหมุน 90 องศาแบบ Pivot ได้ คล้ายกับใน MSI MODERN MD272QPW กับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม ท่องอินเทอร์เน็ต ใช้เป็นจอเสริมในการพรีวิววีดีโอฟุตเทจ หรือจะใช้ในการนำเสนอผลงาน แล้วแต่จินตนาการของแต่ละบุคคล

การปรับแต่ง OSD ก็ทำได้ค่อนข้างง่าย กับปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา มีให้ใช้ 5 ปุ่ม และตั้งคีย์ลัดได้เช่นกัน ส่วนการปรับก็มีทั้ง Brightness, Contrast, Temp Color และอื่นๆ เพียงแต่ไม่มีโพรไฟล์ภาพ หรือ Picture mode เท่านั้น แต่ก็ยังใช้งานได้สะดวกทีเดียว แต่ก็เลือกการปรับแต่งผ่านทางซอฟต์แวร์ MSI Display Kit ได้เช่นกัน

จอคอม

ในงานด้านเอกสาร แม้จะไม่ได้มีหน้าจอขนาดใหญ่ แต่ด้วยจอภาพ 24″ นี้ ก็รองรับการใช้งานได้ดีพอ กับความละเอียด Full-HD ที่ให้การมองหน้าเอกสารได้ชัดเจน หรือจะเลือกปรับแต่งขนาดของ Font Scale ของ Windows เพื่อให้ฟอนต์มีขนาดเล็กใหญ่ สอดคล้องกับความถนัดของผู้ใช้เองได้ ตัวอักษรคมชัด และยังแบ่งหน้าได้ด้วยการ Splt ในกรณีที่ใช้หลายงานพร้อมกันได้

จอคอม

ในด้านของความบันเทิง ด้วยความเป็นพาแนล IPS จึงเห็นความสดใส และความคมชัดของภาพได้อย่างชัดเจน สามารถตอบโจทย์ในด้านการชมภาพยนตร์ได้ดี ให้ความสว่างได้ถึง 250cd/m2 และจากการทดสอบของเรา ผลที่ได้ถือว่าใกล้เคียง จัดได้ว่าเป็นจอทำงานอีกรุ่นหนึ่ง ที่ให้ความสว่างของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ตอบสนองกับความบันเทิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการเป็นจอแบบลดแสงสะท้อน คุณจะนั่งทำงานในบริเวณที่มีแสงรบกวนภายนอกค่อนข้างมาก ก็ยังสบายตา

การปรับแต่ง OSD settings สามารถได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแต่ปุ่มอาจจะดูงงไปบ้าง แต่สามารถดูสัญลักษณ์ได้จากหน้าจอ โดยไอคอนขนาดใหญ่ พร้อมรายละเอียด ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น

จอคอม

ด้านการเล่นเกมและงานตัดต่อ รวมถึงการแคสสตรีม จอจาก MSI รุ่นนี้ มีพื้นที่มากพอ สำหรับจัดการงานต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่แสดงผล ที่ให้คุณจัดวาง Tools และการพรีวิวภาพได้ชัดเจน จะใช้เป็นจอหลักในการตัดต่องาน หรือสตรีมก็ได้ ด้วยค่า sRGB ที่ระบุมากว่า 100% รวมถึง Adobe RGB มากกว่า 90% มั่นใจได้ในความแม่นยำและขอบเขตสีที่คุณสามารถเริ่มต้นในงานด้านนี้ได้พอสมควร มิติแลความลึกของสีที่ปรากฏ ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้ไม่น้อยเลย จะมีเพียงเรื่องของอัตตรารีเฟรชเรต 75Hz เท่านั้น ที่อาจจะไม่ได้สูงนัก แต่ก็ถูกทดแทนในเรื่องของจอภาพคมชัด และสีสันสดใส รวมถึงย้ำว่า MSI MODERN รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นหลัก แต่เล่นเกมได้ภาพสวยลงตัว

จอคอม

และ MSI MODERN MD241P รุ่นนี้ยังคงเป็นได้ทั้งจอหลักและจอเสริมในการเพิ่ม Productivity งานของคุณได้อย่างเต็มที่ ด้วยคุณสมบัติที่มีให้อย่างครบครันกับการรับประกัน 3 ปี ราคาประมาณ 5,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD241P


MSI Pro MP243

จอคอม

แต่สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นกับการทำงานและความบันเทิงทั่วไปในบ้าน MSI PRO series ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ใช้ภายในบ้าน และสำนักงาน ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีพื้นที่จำกัด ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่พอเหมาะ หน้าจอคอมชัด เช่นเดียวกับ MSI PRO MP243 จอภาพขนาด 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พร้อมพาแนล IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง กับฟีเจอร์สำหรับการใช้งานอีกมากมาย ในราคาสบายกระเป๋า 4,350 บาท

ขอบจอบางเฉียบ มาพร้อมฐานและขาตั้งที่ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา เหมาะในการเคลื่อนย้ายและลดภาระการจัดวางบนโต๊ะทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือรับน้ำหนักมากมายนัก และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางสิ่งอำนวยความสะดวกบนโต๊ะได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น พรินเตอร์ โคมไฟ หนังสือ หรือจะเป็นพัดลมพกพา แต่ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ มีช่องสำหรับวางโทรศัพท์มือถือมาบนฐานอีกด้วย ไม่ต้องวางบนโต๊ะให้เปลืองพื้นที่

จอคอม

ตัวจอมี 2 สีให้เลือกคือ สีดำ และสีขาว ขึ้นอยู่กับความชอบ โดยมีจุดที่ใช้ติดตั้ง VESA mount 75x75mm อยู่ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับกำแพงหรือ แขนจับจอ Monitor Arm ได้อีกด้วย พร้อมโลโก้ MSI โดดเด่นอยู่ทางด้านหลังนี้

การปรับเลื่อนมีข้อจำกัดเล็กน้อย รองรับได้เพียง มุมก้มและเงยในระดับ -5 – 20 องศาเท่านั้น แต่ด้วยน้ำหนักที่เบา ขนาดไม่ใหญ่มากนัก จึงสามารถหัน ขยับเลื่อนจอไปมาได้ง่าย ในกรณีที่จำเป็น เช่น หันให้ลูกค้าที่อยู่ตรงข้ามได้ดู หรือหันข้างให้คนที่นั่งใกล้ๆ กันได้ชม

จอคอม

กับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ก็ดูเข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์ หรือสถานที่ต่างๆ ทั้งในบ้าน สำนักงาน หรือนำไปออกบูธนอกสถานที่ ด้วยความบาง กระชับและน้ำหนักเบา ยกใส่ท้ายรถไปถึงที่จัดงานได้ไม่ยาก ด้วยขอบจอที่บางทั้ง 3 ด้าน ก็ทำให้จอดูไม่เทอะทะจนเกินไป แม้จะเป็นจอ 24″ ก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังดีไซน์ให้มีที่ตั้งมือถือมาไว้บนฐานจออีกด้วย

จอคอม

พอร์ตรับสัญญาณมีมาให้ทั้งแบบ HDMI และ DisplayPort รวมถึงช่อง Audio สำหรับต่อหูฟัง หรือลำโพงได้อีกด้วย

จอคอม

ส่วนจุดที่ใช้ควบคุมตั้งค่า OSD settings จะอยู่ที่บริเวณด้านล่างขวาของจอคอมเช่นเดียวกัน เป็นแบบ 5 ปุ่ม และไฟแสดงสถานะอยู่ใกล้กัน การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก

หากคุณต้องการจอที่มีขอบจอบาง ให้พื้นที่การแสดงผลได้แบบเต็มตา ทั้งด้านความบันเทิง เช่นการดูหนัง และการทำงาน MSI PRO MP243 รุ่นนี้ สามารถตอบความต้องการดังกล่าวได้ รวมถึงพาแนล IPS ให้สีสันสดใส และคมชัด กับหน้าจอแบบ Anti-Glare ก็ช่วยให้ใช้งานในที่ที่มีแสงรบกวนจากภายนอกได้สบายตามากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวมองว่า แทบไม่ได้ต่างไปจาก MSI MODERN MD241P เลยทีเดียว สีจัดจ้าน ทำให้การชมภาพยนตร์มีอรรถรสมากกว่า

จอคอม

แต่หากคุณเป็นคนทำงาน จริงจังกับการดูข้อมูล เทรดหุ้นหรือคริปโต ในแบบเรียลไทม์ ไม่อยากคลาดช่วงเวลาสำคัญ ด้วยพื้นที่แสดงผล และความละเอียด 1080p นี้ ก็มากพอที่จะทำให้คุณได้เช็คราคาตลาด และการเทรดได้อย่างรวดเร็ว จะเปิดดูกราฟแบบเต็มจอ หรือจะแบ่งจอสำหรับหาข้อมูลพร้อมกันไปด้วย ก็ไม่ได้ยาก แต่ถ้าให้ดีการใช้ Dual monitor น่าจะเป็นทางออกที่ดีของผู้ใช้ในกลุ่มนี้

ไม่ใช่แค่เพียงในแง่ของการใช้ในงานและความบันเทิงในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรองรับงานในอีกหลายด้าน ที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐาน เช่น งานตัดต่อ และการแคสสตรีม สำหรับมือใหม่ได้ แม้จะไม่ได้ให้ขอบเขตสีหรือความแม่นยำสีในระดับมืออาชีพ เพราะเป็นจอสำหรับเริ่มต้นการใช้งานหรืองานทั่วไป แต่ก็ใช้เรียนรู้กับงานเหล่านี้ได้ดีพอสมควร โดยค่าสีที่ระบุมาให้นั้น sRGB 99%, Adobe RGB 84% และ DCI-P3 78.9% เลยทีเดียว

การปรับแต่งใช้ตัวควบคุม 5 ปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา เลื่อนใช้งานได้สะดวกทีเดียว ที่สำคัญมี Professional mode ที่ให้เลือกโพรไฟล์สำหรับใช้งาน เช่น Eco, User, sRGB, Anti-Blue, Movie, Office และ Black-White รวมถึงการตั้งค่าอื่นๆ เช่น Adaptive-Sync และอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานเอาไว้ครบ

จอคอม

จุดไฮไลต์ที่เป็นลูกเล่นของจอรุ่นนี้ ก็คือ ช่องสำหรับวางมือถือ ที่ช่วยให้คุณสะดวกในการใช้งาน เช่น จะต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ใช้ในการประชุมออนไลน์ หรือป้องกันมือถือหาย เพราะจะอยู่ด้านหน้าเครื่องตลอดเวลา และยังไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะทำงานอีกด้วย

MSI PRO MP243 นี้ เป็นจอคอมที่เริ่มต้นการใช้งานของผู้ที่ต้องการจอทำงาน ที่มีรูปลักษณ์เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่รองรับการใช้งานได้หลากหลายกับพื้นที่แสดงผล 24″ อัตรารีเฟรชเรต 75Hz ให้ภาพที่ไหลลื่น มีความคมชัด สีสันสดใส ปรับแต่งได้บน OSD settings หรือบนซอฟต์แวร์ MSI Display Kit และให้การเชื่อมต่อสัญญาณพื้นฐานมาครบ ไม่เปลืองพื้นที่ ราคาประมาณ 4,350 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP243


MSI PRO MP241X

จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการจอคอมมาเสริมกับจอหลัก หรือจอภาพที่มีความคมชัด สำหรับการทำงานทั่วไป ให้พื้นที่แสดงผล 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนลในแบบ VA มีฟังก์ชั่นการใช้งานพอเหมาะ กับการออกแบบขอบจอบางเป็นพิเศษ เข้ากันได้กับในสำนักงานหรือภายในบ้าน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับการเคลื่อนย้าย และมีราคาที่เหมาะกับการเริ่มต้นใช้งาน MSI PRO MP241X มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เข้ากันได้การใช้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว

จอคอม

ในด้านของดีไซน์จะบางกว่า MSI PRO MP243 อยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ชัดเจน ตัวบอดี้เป็นสีดำทั้งหมด ตั้งแต่ฐาน ขาตั้งและตัวจอ โดยที่รองรับการปรับได้เพียงรูปแบบเดียวคือ มุมก้ม-เงยในระดับ -5 – 15 องศา แต่ในกรณีที่ต้องการเคลื่อนย้าย เพื่อปรับองศาการมอง ทำได้ง่ายมาก เพราะน้ำหนักเบาเพียง 2.85Kg. เท่านั้น เหมาะสำหรับบ้านหรือสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัด หรือวางเป็นจอที่สองเสริมการใช้งานจอหลักก็สะดวก

จอคอม

ขาตั้งติดตั้งได้ง่ายดาย ไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด แค่เสียบให้เข้ากับสลักที่มีให้ที่บริเวณด้านหลังของจอเท่านั้น โดยมี VESA Mount 75x75mm มาให้ สำหรับติด Wall mount เข้ากับกำแพง หรือ Monitor Arm ที่เป็นแขนจับจอ ยึดกับโต๊ะ ก็ช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะไปได้ไม่น้อยเลย

ปุ่มควบคุม OSD settings มีด้วยกัน 5 ปุ่ม แต่จะต่างจากบรรดาจออื่นๆ ที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ การใช้งานส่วนตัวมองว่าอาจจะสับสนเล็กน้อย เพราะต้องสังเกตดีๆ ว่าปุ่มใดใช้ทำอะไร ต้องใช้ไปสักระยะจนคุ้นเคย ก็จะง่ายขึ้น ส่วนโลโก้ MSI อยู่ด้านบนดูสะดุดตา

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้า มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ HDMI สำหรับสัญญาณดิจิตอล แต่ถ้าใครที่ใช้คอมสำนักงาน หรือคอมเก่าที่ยังใช้พอร์ต VGA หรือ D-Sub อยู่ จอคอม MSI รุ่นนี้ก็มีเตรียมเอาไว้ให้เช่นเดียวกัน

จอคอม

ในด้านการใช้งาน ความบันเทิงจากจอ MSI รุ่นนี้ เช่น การดูหนังและการสตรีมมิ่ง เป็นจอคอมอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสดใสของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ภาพที่ได้มีความลื่นไหล อีกทั้งเมื่อเล่นในโหมด Full-HD ที่แสดงผลแบบเต็มจอเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความสนุกและดูเต็มตามากยิ่งขึ้น เรียกว่าแม้จะเป็นจอทำงาน แต่เรื่องความสนุกสนานก็ไม่ขาดอรรถรส

และในการทำงานนั้น ขอบจอที่บางพิเศษนี้ ก็ช่วยให้มีพื้นที่ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ตัวอักษรคมชัด สามารถแสดงผลอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ให้การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ต้องปรับจูนมากมายนัก กับความละเอียด Full-HD นี้ ช่วยให้ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้ดี

จอคอม

แม้ว่าจะเป็นพาแนลแบบ VA แต่ก็ให้มุมมองได้กว้าง สามารถมองจากด้านข้างซ้ายและขวาได้อย่างชัดเจน พื้นที่หน้าจอในระดับ 24″ ถือว่ากว้างขวางตามมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน การแบ่งหน้าจอทำได้ง่าย แม้ว่าจะแบ่งแล้วทำให้หน้าต่างการทำงานเล็กลงไปบ้าง แต่การปรับ Scale และขนาดฟอนต์ให้สอดคล้องกับการใช้งาน ก็ช่วยให้จัดสรรพื้นที่การทำงานดีขึ้น

จอคอม

การเล่นเกมบนจอขนาด 24″ บนความละเอียด Full-HD แม้จะไม่ได้ตรงกับจุดประสงค์ของจอรุ่นนี้มากนัก แต่เท่าที่ดูความสวยงาม และรายละเอียดที่ปรากฏบนเกมต่างๆ เหล่านี้ หลายคนก็น่าจะให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเกมเมอร์มือใหม่ ที่กำลังเริ่มต้นกับการเล่นเกม และมีสเปคเครื่องระดับกลางๆ ก็จะสามารถสนุกไปกับจอ MSI รุ่นนี้ได้ อีกทั้งการแสดงผลแบบ Boarderless หรือไร้ขอบ ยิ่งเพิ่มความสนุกในการเล่นเกมได้มากยิ่งขึ้น หรือถ้างบน้อย ไม่อยากเล่นจอใหญ่ ก็สามารถใช้เป็นจอคู่มาเล่นได้ เพราะขอบจอที่บางเฉียบเช่นนี้

MSI PRO MP241X เป็นจอ MSI รุ่นน้องเล็กสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิงหรือการเล่นเกม พาแนล VA เรื่องสีสันยังคงสดใส แม้จะไม่เท่า IPS แต่ในเรื่องของความสว่างและ Contrast จัดว่าช่วยให้การใช้งานต่างๆ ได้ดีขึ้น ขอบจอบาง ปรับแต่งได้ รวมถึงราคายังจับต้องได้ง่าย ประมาณ 3,900 พันบาทอีกด้วยกับการรับประกันถึง 3 ปี

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP241X


Conclusion

MODERN
MD272QPW
MODERN
MD241P
PRO MP243 PRO MP241X
Display size 27″ 23.8” 23.8″ 23.8″
Resolution 1440p 1080p 1080p 1080p
Refresh rate 75Hz 75Hz 75Hz 75Hz
Panel IPS IPS IPS VA
View angle 178/178 178/178 178/178 178/178
Contrast ratio 1000:1 1000:1 1000:1 3000:1
Port 1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2),
1x Type C (DP Alternate)
1x USB 2.0 Type B,
2x USB 2.0 Type A
1x HDMI (1.4b),
1x Type C (DP Alternate)
1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2)
1x USB-C 65W
1x HDMI (1.4b)
1x D-Sub (VGA)
Speaker 2W 2W 2W
Swivel -30° ~ 30° -30° ~ 30°
Tilt -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 15°
High 0 ~ 110mm 0 ~ 110 mm
Pivot -90° ~ 90° -90° ~ 90°
sRGB 95% 106.58% 99.08% 105%
VESA mount 75x75mm 75x75mm 75x75mm 75x75mm
Weight 5.85 kg 4.7 Kg 2.95 Kg 2.85 kg
Price 9,900 5,900 4,350 3,900
จอคอม

การเลือกจอคอมสำหรับทำงานนั้น มีด้วยการหลายระดับ ต่างเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะนำไปใช้กับงานประเภทใด หากเป็นงานออฟฟิศ ซอฟต์แวร์ทั่วไป จอในรุ่น PRO series ขนาด 24″ จากทาง MSI ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี เหมาะกับการเป็นจอภาพเริ่มต้น ทั้งในเรื่องความคมชัด ความสว่างและสีสัน ที่ช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ในราคาที่ประหยัด แต่หากต้องการจอที่มีฟังก์ชั่น ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี MSI MODERN ที่เสริมเทคโนโลยี การปรับแต่ง และพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ ก็ทำให้งานไหลลื่นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพาแนล IPS ปรับแต่ง Picture mode ได้ รวมถึงการปรับเลื่อนจอภาพในแบบต่างๆ ขอบจอที่บาง รองรับ FreeSync และมีเทคโนโลยี Less Blue Light Pro ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า แต่ภาพยังมีสีสดใส ใช้งานได้อย่างสบายตามากขึ้น เหมาะทั้งการเป็นจอหลัก หรือจะใช้เป็นจอเสริม เพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีทีเดียว

from:https://notebookspec.com/web/686515-msi-pro-modern-monitor-2023

Advertisement

MSI PRODP20ZA คอมจิ๋ว เทรดหุ้น เล่นเกมเบาๆ ต่อได้ 3 จอ ดูหนัง 4K เริ่มหมื่นกว่า

MSI PRODP20ZA มินิพีซีขนาดฝ่ามือ เล่นเกมเบาๆ ดูหนัง 4K เทรดหุ้น ต่อได้ 3 จอ ประหยัดไฟ

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มินิพีซีเครื่องจิ๋ว แต่ประสิทธิภาพเกินตัว พร้อมการเชื่อมต่อครบครัน รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ ปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลายสไตล์ เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานในยุคใหม่ได้หลายรูปแบบ ขุมพลัง AMD Ryzen 5000 series และแรม DDR4 รวมถึงกราฟิก Radeon Graphic ที่ตอบสนองได้ทั้งงานในสำนักงานทั่วไป งานเอกสาร และการทำบัญชี ไปจนถึงการตกแต่งภาพ รวมถึงการใช้งานส่วนตัว เช่นท่องอินเทอร์เน็ต ขายของออนไลน์ และความบันเทิงภายในบ้าน หรือเป็นพีซีเริ่มต้นการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ด้วยมิติที่เล็กกว่าเคสคอมทั่วไปหลายเท่า น้ำหนักเบา จึงติดตั้งได้ง่าย ใช้งานในจุดต่างๆ ของบ้านหรือสำนักงานได้ดี รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายรุ่นใหม่ กับดีไซน์ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน และที่น่าสนใจคือ ประหยัดการใช้พลังงานลง ใครที่ชอบด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท กับการรับประกัน 2 ปีอุ่นใจ ในแบบ Onsite Pickup & Return อีกด้วย ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

MSI PRODP20ZA มินิพีซีตัวจิ๋ว เพื่องานและความบันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  1. มิติที่เล็กมาก ขนาดเทียบเท่าฝ่ามือเองครับ เทียบกับเราเตอร์ขนาดย่อมๆ ก็ยังได้ เล็กกว่าพีซี 6-8 เท่าเลยทีเดียว เพราะขนาด 2.6L เท่านั้น ประหบัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้เยอะ
  2. น้ำหนักประมาณ 1.5Kg เท่านั้นครับ วางมุมไหนก็ได้ โต๊ะไม่เอียงแน่นอน
  3. ออกแบบให้วางแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้หมด แล้วแต่ผู้ใช้จะดีไซน์ จัดโต๊ะคอมได้ง่ายขึ้น
  4. วางตรงไหนในห้องก็ได้ แทบจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน ต่อสายเข้าจอ ก็พร้อมทำงาน เพราะมี WiFi ในตัว
  5. ด้านหน้าทันสมัย เน้นเส้นสายสะดุดตา ติดอยู่นิดนึง คือปุ่มอาจจะดูกลมกลืนไปกับลายด้านหน้าอยู่บ้าง แต่ก็มีแสงไฟสถานะให้พอสังเกตครับ
  6. ด้านข้างซ้ายปิดทึบ ใช้วางแนวนอนได้, ด้านขวามีช่องระบายอากาศ สำหรับพัดลมซีพียู
  7. ด้านหลังจัดพอร์ตมาให้เยอะพอสมควร เช่น USB 3.2, USB 2.0, พอร์ตแสดงผล HDMI, DP และ VGA
  8. การใช้พลังงาน มาพร้อมอแดปเตอร์ 120W ขนาดย่อมๆ มาให้ ไม่เปลืองไฟครับ
  9. ต่อได้ 3 จอเลยครับ สำหรับคนที่ต้องใช้งานหลายจอพร้อมกัน

ข้อสังเกต

  • มีไฟสถานะแสดงผลไม่มาก
  • ไม่รองรับการอัพเกรดการ์ดจอแยก
  • ใช้แรมแบบ SODIMM เท่านั้น

Specification

Description
CPU MODEL AMD Ryzen 3 5300G, 4 core/ 8 thread
CPU COOLING Air cooling
MEMORY DDR4 SO-DIMM 2 slot, Max. 64GB
STORAGE SSD 256GB, PCIe GEN3x4
2x M.2 slot
2x 2.5″ Drive bay
WIRELESS LAN INTEL/3168.NGWG, 802.11ac 1×1+BT 4.2
AUDIO Realtek ALC233, 2.1 Channel HD Audio
I/O PORTS (FRONT) 1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C
Front Audio Mic-In x1,
Headphone x1
I/O Port (Rear) USB 3.2 Gen 2 Type A x1
USB 2.0 TYPE A x3
LAN (RJ-45) x1
WiFi Antenna x2
VGA x1
HDMI x1
DP Out x1
COM Port x1
Power 120W Adaptor
Keyboard/ Mouse RF1430, MA04
PRODUCT DIMENSIONS (WXDXH) 160.55 x 193.3 x 85mm
WEIGHT 1.42Kg.
VESA SIZE 75 x 75 mm
Source: MSI Pro DP20Z

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA


Hardware / Design

MSI PRODP20ZA

การออกแบบของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ ส่วนตัวผมมองว่ามินิมอลกว่ารุ่นที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะตัวถังแค่ 2.3L เท่านั้น มิติประมาณ 16cm x 19.3cm x 8.5cm หากเทียบกับเกมมิ่งตัวน้องอย่าง Trident AS ก็ยังเล็กกว่ามาก แต่จะพอๆ กับ MSI CUBI 5 ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี Pro DP20ZA มีความคล่องตัว และสนับสนุนการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมได้มากกว่า

ด้านหน้าออกแบบมาในโทนสีดำ มีเส้นสายที่มีการสลับไปมา ดูมีมิติ และทันสมัย แทรกปุ่มเพาเวอร์และแสงไฟสถานะมาด้วย พร้อมพอร์ตต่อพ่วง และโลโก้ MSI สีเงิน ซึ่งเป็นแนวที่เราอาจไม่ได้เห็นกันบ่อยบนพีซีขนาดเล็ก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีลวดลายมากนัก

MSI PRODP20ZA

เมื่อมาดูกันแบบใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าเส้นสายที่อยู่ด้านหน้านี้ จะมีมิติยื่นออกมา สลับกับภายในที่เป็นสีดำเงา โดยปุ่มเพาเวอร์จะซ่อนอยู่ในนี้ด้วย ซึ่งหากไม่ได้กด หรือมีแสงไฟสถานะลอดออกมา ก็แทบจะดูไม่ออกว่าเป็นปุ่มเปิดการทำงาน ไฟจะมีสีฟ้าและสีขาว อยู่ตรงด้านบนขวา ใกล้กันก็จะเป็นพอร์ต Front panel ที่อยู่หน้าเครื่อง ประกอบด้วย USB Type-C, Type-A และหูฟัง ไมโครโฟน

MSI PRODP20ZA

ด้านข้างขวา จะเป็นช่องระบายความร้อน โดยเราจะเห็นพัดลมพื้นฐานของทาง AMD ดูดลมเข้ามาจากช่องนี้ เพื่อระบายความร้อนให้กับฮีตซิงก์ของซีพียู ที่อยู่ด้านใน และโลโก้ Pro series และใกล้ๆ กับช่องพัดลม และใกล้กับด้านหน้าจะมีระบุไว้ว่า Design and Engineering by MSI

MSI PRODP20ZA

ด้านซ้ายจะเป็นช่องเล็กๆ สำหรับติดตั้ง VESA Mount กับด้านหลังจอมอนิเตอร์ และฝาผนังเป็นแบบ 75mm x 75mm ส่วนตัวมองว่าเป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก เพราะผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ติดตั้งจอทีวีในบ้าน สำนักงาน สำหรับต้อนรับแขก พรีเซนเทชั่น หรือจะต่อกับจอภาพบางรุ่น เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งใช้งานแบบไร้สาย ก็จะทำให้โต๊ะไม่ดูรกรุงรังอีกด้วย

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ขึ้นอยู่กับการจัดวางองค์ประกอบบนโต๊ะ และความสะดวก ด้วยความกว้าง x ยาวระดับ 160.5 x 193mm เท่านั้น จึงไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน เรียกว่าโต๊ะขนาด 120cm ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมากมาย

ด้านหน้าที่มีพอร์ตต่อพ่วงมาให้ทั้ง USB และแจ๊ค 3.5mm อีกด้านจะเป็นโลโก้ MSI บนเพลทสีเงินสวยงาม

และอีกสองด้านที่เหลือ จะเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งมาในแบบตะแกรงขนาดเล็ก เพื่อให้อากาศไหลเวียนในตัวเคสได้ดีขึ้น ซึ่งหากดูตามการใช้งานแล้ว พีซีเครื่องนี้แทบไม่เกิดความร้อนขึ้นมากมายนัก โดยพัดลมซีพียูสามารถจัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีทีเดียว

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนแบบตะแกรงช่องเล็กและพอร์ตต่อพ่วงมากมาย รวมถึงจุดติดตั้งเสาสัญญาณ WiFi อีกด้วย และเป็นจุดที่ใช้ไขน็อต เพื่อแกะฝาครอบ สำหรับการอัพเกรด

MSI PRODP20ZA

การดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว แตกต่างจากมินิพีซีทั่วไป ทั้งเส้นสาย พอร์ตการเชื่อมต่อ เพียงแต่อาจจะเน้นไปที่ Business เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ใส่เรื่องของแสงสีมากมายนัก แต่ก็เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ดี ดูมินิมอลมากขึ้น


Connector / Thin And Weight

MSI PRODP20ZA

พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหน้า มีเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen2 Type-C ที่ใช้ได้ทั้งการชาร์จไฟ และโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง ส่วนที่เป็น Type-A ผมว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่มี External HDD หรือ SSD ที่ต่อภายนอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลได้ไว เพราะเป็น USB 3.2 Gen2 ความเร็วระดับ 10Gbps เร็วกว่า Gen1 เท่าตัวเลยทีเดียว หรือใครสะดวกจะใช้พอร์ตด้านหลัง จะใช้พอร์ตนี้ในการต่อ เมาส์ คีย์บอร์ดได้เช่นกัน

ใกล้กันจะเป็นแจ๊ค 3.5mm ที่ทาง MSI ใส่แยกเอามาไว้ให้เป็น หูฟัง และไมโครโฟน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน จะต่างจากบนโน๊ตบุ๊คที่เป็นคอมโบมาให้ อาจจะไม่สะดวก เมื่อต้องแยกใช้ไมโครโฟน กับเอาท์พุตเสียง เพื่องานในสำนักงาน

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อหลักจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 Type-A 2 พอร์ต จุดนี้ผมมองว่าเหมาะกับการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเป็นหลัก เพราะไม่ได้เน้นความเร็ว ส่วนด้านล่างจะเป็น USB 3.2 Gen2 ซึ่งตอบโจทย์พรินเตอร์รุ่นใหม่ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล และอื่นๆ ที่เน้นเรื่องความเร็ว ใกล้กันเป็นพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย RJ-45 สำหรับ Gigabit LAN และพอร์ตแสดงผล ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ เพราะมีให้ถึง 3 พอร์ตด้วยกัน ประกอบด้วย

  • VGA สำหรับต่อจอพื้นฐานแอนาลอกบนความละเอียด Full-HD
  • DisplayPort ต่อจอแสดงผลดิจิตอล รองรับความละเอียด 4K เหมาะกับจอรุ่นใหม่
  • HDMI ใช้ได้ทั้งจอมอนิเตอร์ โปรเจกเตอร์ และจอพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป
MSI PRODP20ZA

เสาสัญญาณ WiFi รองรับ 802.11ac และ Bluetooth 4.2 ทำให้การเชื่อมต่อของคุณไม่ติดขัด เพราะมีให้เลือกทั้ง LAN และ WiFi


Inside / Upgrade

MSI PRODP20ZA

การแกะอัพเกรดทำได้ค่อนข้างง่ายบน MSI PRODP20ZA นี้ เพราะไขน็อตเพียง 4 ตัวเท่านั้น สามารถไขออกได้ทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวา

MSI PRODP20ZA

ด้านที่เป็นช่องระบายอากาศ จะเห็นพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ พร้อมฮีตซิงก์ติดตั้งมากลางตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ การกระจายลมออกไปได้ทั่วๆ ภายในเคส และให้ลมออกได้ถึง 3 ด้านด้วยกัน โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด AMD Ryzen 7 5700G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดที่วางจำหน่าย

MSI PRODP20ZA

พื้นที่ติดตั้ง Storage ด้านใน ติดตั้งได้ถึง 3 แบบ และยังอัพเกรดได้ โดยที่ติดตั้งมาให้เริ่มต้นเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 256GB การถอดใช้เพียงไขควงแกะน็อตยึดเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่พื้นที่ค่อนข้างแคบเล็กน้อย

MSI PRODP20ZA

ด้านล่างจะเป็นสล็อตสำหรับติดตั้งแรมเป็นแบบ SODIMM DDR4 3200 เดิมจะติดตั้งมาให้ 8GB มาตรฐาน แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มได้จากสล็อตที่เหลือ อัพเกรดได้สูงสุด 64GB (32GB x2)

MSI PRODP20ZA

แรมในแบบ SODIMM DDR4 3200 8GB จาก Samsung ที่ติดตั้งมาในระบบ

MSI PRODP20ZA

ด้านบนของโมดูล SSD M.2 เป็นพอร์ต SATA III เพิ่มเติมมาให้ สำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ หรือสำหรับโน๊ตบุ๊ค รวมถึง SSD SATA III เพิ่มได้อีก 2 ตัวด้วยกัน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้แล้ว อีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ด ก็สามารถแกะเปิดออกมาได้ ให้คุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มีสล็อต M.2 PCIe รองรับการติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มได้อีก 1 โมดูล รวมเป็น 2 โมดูลทั้งด้านหน้าและหลัง ได้ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้น และความเร็วที่จาก SSD อีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจะใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบต่อภายนอก


Performance / Software

MSI PRODP20ZA

โปรแกรม CPUz รายงานซีพียูที่ติดตั้งมาบน MSI PRODP20ZA รุ่นนี้เป็น AMD Ryzen 3 5300G เป็นแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วสูงสุดประมาณ 4.2GHz ซีพียูรุ่นนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มของกราฟิกในตัว ให้ประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง หรือเล่นเกมเบาๆ แต่อาจจะไม่ได้เจาะจงสำหรับงานเฉพาะทาง เช่นงานตัดต่อ แต่งภาพจริงจังหรืองานด้านวิศวกรรมโหดๆ ได้มากนัก

MSI PRODP20ZA

ติดตั้งแรม DDR4 3200 ในแบบ SODIMM 8GB และใส่เพิ่มอีก 8GB เป็น 16GB มีให้ติดตั้งได้ 2 สล็อต

MSI PRODP20ZA

การทดสอบเบื้องต้นบน CPUz นี้ เทียบกับซีพียูรุ่นพี่อย่าง AMD Ryzen 7 2700X ที่เป็นแบบ 8 core/ 16 thread ซีพียู Ryzen 3 สามารถเบียดบี้ได้อย่างสูสี และโดดเด่นในงาน Single core ด้วยสัญญาณนาฬิกาที่สูง แม้จะเป็นรองในแง่ของ Multi-thread เพราะคอร์ เธรดน้อยกว่านั่นเอง

MSI PRODP20ZA

กราฟิกเป็นแบบ Integrate ที่มาในตัวซีพียู AMD Ryzen 3 รุ่นนี้ กับ Radeon Graphic ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับการเล่นเกมโดยตรง เพราะจะเน้นที่การทำงาน ดูหนัง กับงานกราฟิกพื้นฐาน แต่ก็สามารถเล่นเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากๆ หรือแนวเกมออนไลน์ เช่น Genshin, Chrono Odyssy รวมถึงเกมพีซีที่แค่ปรับ Detail ก็สามารถเล่นได้ในหลายๆ เกม สามารถชมในส่วนการทดสอบเกมด้านล่างนี้ได้

MSI PRODP20ZA

การทดสอบ PCMark10 ให้ผลออกมาได้น่าพอใจ เพราะถ้าเทียบกับพีซีพื้นฐานขนาดใหญ่ MSI Pro DP20ZA นี้ ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในชีวิตประจำวันได้ดีพอสมควร กับคะแนนรวมที่มากถึง 5,621 คะแนน รวมถึงคะแนน Essentials และ Productivity ที่มาแตะเกือบ 10,000 เพราะหลายครั้งที่เราทดสอบมาใน 2 ส่วนนี้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ แสดงถึงความไม่ธรรมดาของซีพียูและการทำงานในภาพรวม

MSI PRODP20ZA

สำหรับ CINEBench นั้น จะเป็นการทดสอบด้านกราฟิก 3D Animation แม้ว่าจะเป็นซีพียูน้องเล็กอย่าง AMD Ryzen 3 แต่ก็สามารถผ่านการทดสอบได้ไม่ยาก แม้ว่าจะทำคะแนนได้ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับซีพียูรุ่นพี่ๆ ที่มี Core/ Thread จำนวนมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่าพลังของซีพียูระดับ 4 core นี้ ก็พอจะช่วยให้ใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้จะแนะนำให้ใช้งานกับโปรแกรมขั้นสูงเช่นนี้ เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และอาจใช้เวลาในการประมวลผลมากเกินไป แต่ถ้าเป็นโมเดล AMD Ryzen 7 ก็พอจะช่วยงานนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRODP20ZA

กับผลทดสอบด้านเกมกราฟิก ด้วยโปรแกรม 3DMark กับกราฟิก Radeon Graphic บนซีพียู AMD Ryzen 3 5300G นี้ แม้ว่าจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ก็แสดงศักยภาพได้ดีในระดับหนึ่ง โดยคะแนนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ผ่านการทดสอบมาได้ อยู่ในเกณฑ์ของกราฟิกบนซีพียูในหลายๆ รุ่น อย่างไรก็ดี หากมีความต้องการเล่นเกม ร่วมไปกับการใช้งานพื้นฐาน บนเคสขนาดเล็กเช่นนี้ แนะนำโมเดลที่เป็น Ryzen 7 5700G ที่จะช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้พอสมควร

ทดสอบการเล่นเกม

MSI PRODP20ZA

เราทดสอบการเล่นเกม เพื่อให้เห็นศักยภาพของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ กับเกมพื้นฐานแนว MOBA อย่าง DOTA2 กับการปรับ Detail Fastest mode บนความละเอียด Full-HD เพื่อเน้นความลื่นไหล ตัวเกมสามารถให้เฟรมเรตได้ถึง 80-90fps. แต่ถ้าปรับเป็น High ให้เฟรมเรตเฉลี่ยที่ 47-48fps. แม้จะมีเอฟเฟกต์จากเวทย์ของฮีโรก็ตาม แนะนำตั้งค่านี้ได้เลยหากต้องการเล่น

MSI PRODP20ZA

ส่วนเกม PUBG บนความละเอียด Full-HD 1080p ตั้งค่า Very Low Detail ให้เฟรมเรตได้ในระดับ 39-45fps มีบ้างที่ขึ้นไป 50fps. บางจังหวะ แต่ก็ทำให้เล่นเกมนี้ได้ แนะนำให้ตั้ง Render scale ในระดับ 70-90 จะไม่กระทบต่อเฟรมเรตมากนัก และเล่นเกมได้สบายตามากขึ้น

MSI PRODP20ZA

มาสู่บททดสอบในด้านงานวีดีโอกันบ้าง ด้วยการ Export คลิปวีดีโอความละเอียด Full-HD มีความยาว 15 นาที ใส่เอฟเฟกต์ทั่วไป ด้วยการ Insert ภาพและเสียง ระบบใช้เวลาในการทำงานประมาณ 32 นาที ก็เป็นอันเสร็จสิ้น อย่างที่ได้แนะนำไปว่า หากต้องการจะเน้นไปที่การทำงานที่หนักมากขึ้น กับโปรแกรมเฉพาะทาง ทางเลือกของโมเดลรุ่น AMD Ryzen 7 มีความน่าสนใจ ส่วนในช่วงการใช้งานอาจมีบางจังหวะที่กระตุกเล็กน้อย เช่น ระหว่างการเลื่อนไทม์ไลน์ และพรีวิวภาพ เป็นปกติของการใช้งานที่เป็นซีพียูรุ่นน้องเล็ก และการ์ดจอแบบออนบอร์ดนั่นเอง แต่ในภาพรวมถือว่าทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง

MSI PRODP20ZA

และในครั้งนี้เราใช้งานร่วมกับจอแสดงผล MSI PRO MP241X ซึ่งเป็นจอที่ให้พื้นที่แสดงผล 23.8″ ใกล้เคียงกับ MSI PRO MP243 ความละเอียด Full-HD โดยเป็นจอพาแนล VA ให้ความสว่างสดใส และมุมมองที่กว้างใกล้เคียงกับ IPS เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะนำไปใช้ในสำนักงาน กับความสว่างสดใส และสีสันที่คมชัด ปรับแต่งได้ง่ายผ่านทางปุ่ม OSD ด้านหลังจอ มาพร้อมพอร์ตแสดงผล ที่มีให้เลือกทั้ง HDMI และ VGA เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

MSI PRODP20ZA

แต่ที่น่าสนใจคือ MSI PRO MP241X รุ่นนี้ มี VESA Mount ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับ Wall mount หรือ Arm table เพื่อแขวนหรือติดกับขาจับจอบนโต๊ะได้ง่าย รวมถึงเมื่อใช้ร่วมกับอแดปเตอร์ ก็จะสามารถต่อ MSI Pro DP20ZA เข้ากับด้านหลังจอ เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อีกด้วย นับว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับการทำงานในทืุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้แบ่งหน้าจอในการใช้งานได้สะดวก และใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร ตรวจเช็คไฟล์งาน หรือจะด้านความบันเทิง ดูหนัง พร้อมดูหุ้นไปพร้อมกัน ด้วยการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย เช่น การเพิ่มหรือลด Scale บนหน้าจอ ก็ช่วยให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นแล้ว

MSI PRODP20ZA

ด้วยมุมมองที่กว้าง ก็ทำให้การใช้งานด้านภาพและวีดีโอได้ชัดเจน ผิดเพี้ยนน้อย รวมถึงใช้ในการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือสมาชิกภายในบ้านให้เห็นได้อย่างชัดเจน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถต่อจอแสดงผลได้ถึง 3 จอพร้อมกัน ผ่านทางพอร์ตสัญญาณ Output ที่อยู่ทางด้านหลังของ MSI PRODP20ZA ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort และ VGA ให้คุณขยายศักยภาพการทำงานของคุณได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล เทรดหุ้น ไปจนถึงการสตรีมมิ่งได้แบบลื่นๆ เลยทีเดียว


Battery / Heat / Noise

MSI PRODP20ZA

สุดท้ายก็เป็นเรื่องของอุณหภูมิในการทำงาน เห็นเคสเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็จัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะกับพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ และครอบคลุมอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งเมนบอร์ด ลมที่พัดเข้าไป ก็สามารถกระจายลมไปได้ทั่ว ลดความร้อนได้ดี โดยอุณหภูมิสูงสุดในการทดสอบบนแบบ Full load บนโปรแกรม FURmark อยู่ที่ราว 76 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-68 องศาเซลเซียสเท่านั้น ถือว่าทำได้ดี เพราะโอกาสการใช้งานซีพียูระดับ 100% แบบนี้ มีไม่มากนัก ฉะนั้นหากเป็นการทำงานโดยทั่วไปน่าจะอยู่ที่ราว 55-60 องศาเซลเซียส เท่านั้น


Conclusion / Award

MSI PRODP20ZA

สรุปภาพรวมของ MSI PRODP20ZA รุ่นนี้ ผมว่าเหมาะกับคนที่ต้องการคอมทำงาน หรือใช้ในสำนักงานยุคใหม่ เน้นความมินิมอล ดูมันสมัย ลองนึกภาพดูครับว่า บ้านที่เป็นแบบ Smart Home ใช้งานไร้สายให้มากที่สุด โต๊ะคอมที่ไม่ต้องเทอะทะ และพีซีที่จัดวางได้ในทุกแนว ตกแต่งห้องได้สวย แต่ทำงานที่เหมือนกับใช้คอมเครื่องใหญ่ จะต่อ 3 จอก็ง่าย ทำงานเอกสาร ท่องเน็ตหาข้อมูล หรือจะเทรดหุ้น สตรีมมิ่งวีดีโอไปพร้อมกัน ก็ยังได้ครับ

แต่ก็บอกตรงๆ ว่าอาจจะไม่ใช่สำหรับคอเกม ด้วยสเปคที่ไม่ได้ใส่การ์ดจอแยกมาให้ จะเล่นได้ในบางเกม ที่ไม่ได้เรียกใช้ทรัพยากรมากมายนัก เกมออนไลน์พอเล่นได้แบบที่เราได้ทดสอบบน DOTA2 และ PUBG ที่เล่นได้ลื่นในระดับ Low หรือ Medium Detail ในแง่ของการอัพเกรด ก็ยังทำได้ แม้ในเคสจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม เพราะเพิ่มได้ทั้ง SSD และ RAM บนสล็อตที่เหลือ 

สุดท้ายก็คือ พอร์ตที่ให้มาก็เรียกว่าเกือบครบครัน ให้คุณต่อพ่วงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมี WiFi มาในตัวอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท การรับประกัน 3 ปี เป็นแบบ Onsite Pickup and Return อุ่นใจได้ในการใช้งาน โดยซีรีย์ DP20ZA จะมีทั้งหมด 3 รุ่น

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

  • MSI PRODP20ZA 5M-205TH เริ่มต้น 23210.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-206TH 18920.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-207TH 15070.-

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA

from:https://notebookspec.com/web/682753-msi-pro-dp20za-mini-pc

จอคอมมือสอง 2023 น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี เช็คอย่างไรให้ได้ของดี คุ้มค่า

จอคอมมือสอง 2023 รุ่นไหนน่าใช้ เลือกอย่างไรดี จอคอมเกมมิ่ง วิธีเช็คง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อ

จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง อย่าไปซื้อ! ปี 2023 แล้วซื้อจอใหม่ดีกว่า… มักคำเตือนแบบนี้มักจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอ เมื่อรู้ว่าเราจะซื้อจอมือ 2 มาใช้งาน ซึ่งก็อาจจะเป็นคำเตือนที่ดี แต่บางทีก็ขัดกับใจใครบางคน เพราะบางทีงบประมาณจำกัด แต่ก็อยากได้จอคอมใหญ่ๆ ความละเอียดสูงมาใช้ 2K, 4K หรือยิ่งได้รีเฟรชเรตสูงๆ 144Hz ขึ้นไป แบบจอเกมมิ่ง ก็ยิ่งดี แต่ราคาต้องเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าด้วย การที่จะได้จอที่ถูกใจมานั้น คงไม่ใช่แค่กำเงินที่มี แล้วเดินไปหาอย่างเดียว เพราะคุณจะต้องพอเช็คสภาพจอ รวมถึงกลไกต่างๆ ในการขายของจากบรรดาพ่อค้า วันนี้เรามาดูกันครับว่า การจะเลือกจอมือ 2 เหล่านี้ จะซื้ออย่างไร ที่ไหนและต้องเช็คอะไรบ้าง


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย?

จอคอมมือสองน่าซื้อมั้ย ข้อนี้ต้องถามใจคุณดูก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับสภาพได้แค่ไหน มีความอดทนมากพอมั้ย และจอที่คุณมองไว้ เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ เพราะราคาจะเป็นตัวกำหนด บางครั้งถูกมากไป ก็ได้ลุ้น แพงไปก็อาจจะไม่คุ้ม ฉะนั้นก็ต้องอยู่กลางๆ แต่หากคุณได้จอดีๆ มาใช้ ในราคาที่ถูกกว่าราคากลางในตลาด ก็ถือว่าคุณโชคดีมาก แต่กว่าจะได้จอมือสองแบบนั้นก็คงจะไม่ง่าย

Advertisementavw
จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง ก็คล้ายกับของมือสองอื่นๆ ในตลาด มีให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การได้ของที่ถูกใจ ในราคาถูกมาใช้ แต่ของเหล่านั้น ก็ถูกใช้งานมาแล้ว โอกาสที่มีข้อบกพร่องหรือเกิดความเสียหายก็มีเช่นกัน เช่นเดียวกับสภาพของจอ บางคนก็ดูแลดี เก็บรักษาอยู่ในห้อง แต่บางคนก็ไม่ได้ดูแล มีกระแทกบ้าง สัตว์เลี้ยงมาแทะ ซนชนจนหล่นตกแตก หรือบางทีก็ชอบเอานิ้วจิ้มจอ เป็นต้น ก็อาจจะมีผลต่อการใช้งานเช่นกัน

จอคอมมือสอง

รวมถึงของที่ใช้แล้ว ก็มีความเสื่อมเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นจอที่มีอายุในตลาดมายาวนาน และใช้งานต่อเนื่อง ลองนึกสภาพว่า ผู้ใช้ไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะเปิดใช้ทำงานแค่วันละ 5-8 ชั่วโมง ส่วนเกมเมอร์บางคน อาจจะเล่นต่อเนื่องวันละ 12 ชั่วโมง ความเสื่อมสภาพของหน้าจอ หรืออายุการทำงาน ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อครบปี โอกาสที่คุณจะรับไปใช้ต่อ แล้วเกิดปัญหาหรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนได้บ้าง ก็มีอยู่ไม่น้อย

จากข้อมูลพื้นฐานของผู้ผลิต จอภาพในแบบ LED นั้น จะมีอายุการใช้งานราวๆ 80,000-120,000 ชั่วโมง หรือราวๆ 20 ปี ในกรณีที่ใช้วันละ 8 ชั่วโมงนะ (อ้างอิง: digitalworld839.com) ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อุณหภูมิ ความชื้นหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้แผงวงจรหรือพาแนลเสียหายได้

จอคอมมือสอง

ยังไม่รวมถึงสภาพแวดล้อมหรือการจัดเก็บดูแล บางบ้านอยู่ในห้องปรับอากาศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ก็จะยังอยู่ในสภาพที่ดี เพราะชิ้นส่วนภายใน ไม่เจอกับอุณหภูมิที่สูง ก็จะทนทานกว่าจอภาพที่อยู่ในห้องธรรมดา อากาศร้อน หรือบางทีก็เสี่ยงกับความชื้น เช่นวางใกล้หน้าต่าง หรือสัตว์เลี้ยง แมลง มด สิ่งเหล่านี้ มีส่วนทำให้จอภาพเสียได้ไวขึ้น

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณได้จอคอมมือสองที่ถูกใจ ในราคาถูกลงเกือบครึ่ง สภาพดี มีประกัน แบบนี้ใครก็อยากเสี่ยง ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นถ้าคุณชอบของดี ราคาโดน เราไปดูรายละเอียดกันครับ ว่าจะเลือกอย่างไรบ้าง


ซื้อที่ไหนดี?

หลายคนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อจอคอมมือ 2 มาใช้เป็นการชั่วคราว และเก็บเงินซื้อจอใหม่ที่ดีกว่า อาจจะด้วยสาเหตุที่จอเก่าเสีย ส่งต่อให้คนอื่นหรือบางทีก็งบประมาณจำกัด ต้องการจะใช้จอที่มีคุณสมบัติตามต้องการ ซึ่งของใหม่อาจจะราคาสูงเกินเอื้อม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าซื้อจอได้ที่ไหนบ้าง เรามีข้อมูลมาเป็นแนวทางครับ

ห้างไอที ร้านตู้ มีร้านเยอะ ความหลากหลายอยู่ที่จังหวะ ราคาอาจสูงบ้าง แต่เห็นของ เช็คสภาพได้เลย ร้านออนไลน์ มีให้เลือกหลากหลาย ชำระผ่านแพลตฟอร์ม ราคาอยู่ที่สภาพและความต้องการ จัดส่งมั่นใจได้ กลุ่มและคอมมูนิตี้ มีให้เลือกเยอะ ราคาดี มีให้บิดกับพ่อค้า ความไว้วางใจ ชำระเงิน ส่งของ เร็วช้าอยู่ที่เครดิต

ห้างไอที: ห้างเหล่านี้ หลายๆ แห่งจะมีบรรดาร้านที่มีจำหน่ายอุปกรณ์คอมมือสองอยู่ด้วย จะมีทั้งร้านเล็กและร้านใหญ่ บางร้านก็จะมีหน้าร้านออนไลน์เอาไว้ด้วย คุณสามารถสอบถามข้อมูล ราคา ก่อนจะเข้าไปดูตัวจริงที่ร้าน ข้อดีของการซื้อแบบนี้อยู่ที่ การได้เห็นตัวจริงสินค้า สภาพ มีร้านการันตี หน้าร้านชัดเจน ต่อรองราคาได้ และมั่นใจเรื่องการบริการ แต่อาจจะมีให้เลือกไม่หลากหลาย รวมถึงราคาอาจจะสูงเล็กน้อย เพราะร้านมีค่าใช้จ่าย รวมถึงเราต้องเดินทางไป และบางครั้งก็อาจจะไม่มีของที่เราต้องการ

จอคอมมือสอง

ร้านค้าออนไลน์: ในนี้เราจะรวมเว็บไซต์ที่เป็นตลาดซื้อขายเข้าไปด้วย ซึ่งในบ้านมีให้เลือกเข้าไปช้อปมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Kaidee หรือ Pantipmarket เป็นต้น ข้อดีของร้านค้าเหล่านี้คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการ ตั้งแต่ คัดกรองสินค้า ผู้จำหน่าย รวมถึงการค้นหา การชำระเงิน ส่วนใหญ่จะปลอดภัย สะดวก แต่ที่เหลือคือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องเช็คสินค้าและดูรายละเอียดให้ครบถ้วน ก่อนจ่ายเงิน และหลังจัดส่ง รวมถึงมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สอบถามรายละเอียดในแต่ละร้านได้โดยไม่ต้องโทรหา หรือเดินหาด้วยตัวเอง แค่แชทผ่านช่องทางที่กำหนด ทำราคาได้ค่อนข้างดี มีระบบจัดส่งที่วางใจได้ แต่คุณจะไม่ได้เห็นสินค้าแบบสัมผัสได้ หรือว่าทดสอบได้นั่นเอง

จอคอมมือสอง

Group หรือ Community: ส่วนใหญ่จอคอมมือสองจะเป็นกลุ่มใน Facebook ที่มักรวมกันเป็น Community ที่มีคนที่เป็นสมาชิกที่ชื่นชอบในสินค้าหรืออุปกรณ์แบบเดียวกัน เช่น กล้อง การ์ดจอ คอมพิวเตอร์ รวมถึงจอคอมด้วยเช่นกัน ข้อดีของ Community แบบนี้คือ ไม่ใช่แค่การมองหาแล้วซื้อ แต่คุณยังเปิดรับสินค้า ให้ผู้ขายเข้ามานำเสนอได้ บางครั้งแข่งกันเรื่องราคา ผู้ซื้อก็จะได้ราคาพิเศษไป แม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ซื้อก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะกลุ่มไม่ได้เป็นแพลตฟอร์ม การคัดกรองค่อนข้างยาก มีทั้งผู้ที่จำหน่ายจริง และคนที่ไม่สุจริตเข้ามาแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนที่สำคัญคือ การชำระเงิน การส่งของ จนกว่าจะถึงปลายทาง เพราะโอกาสที่ผิดพลาดก็มีสูง จากเคสต่างๆ เช่น โอนเงินแล้ว แต่ไม่ส่งของ ส่งของไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ส่งของเสียมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นการหมุนเงินก่อน กว่าจะส่งของก็เป็นเดือนๆ หรือบางทีก็ไม่ส่ง การติดตามก็ยาก ช่วงหลายปีมานี้ ก็มีการใช้วิธี Verify ตัวบุคคล การสร้างเครดิตผู้ขาย รวมถึงการชำระแบบผ่านกลางแอดมินเป็นต้น

ห้างไอที ร้านค้าออนไลน์ Group หรือ Community
ความสะดวก ต้องเดินทางไป ดูข้อมูลง่าย ดูข้อมูลง่าย
ความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา มีหลายร้านให้เลือก มีผู้ค้าจำนวนมาก
เช็คสินค้า เช็คได้ทันที ดูจากภาพ วีดีโอ ดูจากภาพ วีดีโอ
การชำระเงิน สะดวกจ่ายได้เลย หลายช่องทางตามสะดวก ขึ้นอยู่กับผู้ขาย
การจัดส่ง รับกลับได้ทันที รอร้านตามกระบวนการ ช้า/เร็ว อยู่ที่ความรับผิดชอบผู้ขาย
การรับประกัน เช็คได้ที่ร้าน ตามเงื่อนไข ตามที่ตกลงกับผู้ขาย
ความเชื่อมั่น มีหน้าร้านอุ่นใจ มีแพลตฟอร์มคืนได้ อยู่ที่เครดิตและความรับผิดชอบ
ราคา บวกจากปกติอยู่บ้าง ตามกลไกตลาด ถูก แพงอยู่ที่จังหวะและความต้องการ

เลือกอย่างไร?

ก่อนจะเลือกจอคอมมาใช้งาน ก็ต้องดูจากความต้องการของตนเองก่อนว่า อยากได้จอแบบไหน มาใช้งานอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะไปส่องจอคอมมือสอง เพราะจอแต่ละแบบก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งราคาก็จะต่างกันด้วย เราไปดูกันก่อนว่าจอแบบไหน มีลักษณะอย่างไร

จอคอมมือสอง

จอคอมใช้งานทั่วไป: โดยพื้นฐานจะใช้สำหรับงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร การเรียนรู้ หรือทำรายงาน แต่งภาพบ้าง สามารถใช้จอใหญ่ระดับ 24″-27″ ได้ ความละเอียด Full-HD และมีฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น Low Blue Light อัตรารีเฟรชเรตพื้นฐาน 60Hz อาจจะรองรับ HDR ได้บ้าง พาแนล IPS ปรับแต่งได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงขั้นมี Game Mode ราคาจะไม่ค่อยสูง เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน

จอคอมทำงานเฉพาะทาง: จอคอมในกลุ่มนี้ ต้องการขอบเขตสี และความแม่นยำของสีสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำสื่อสิ่งพิมพ์หรืองานด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก 3 มิติ แอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก รวมถึงงานด้านภาพ ตัดต่อวีดีโอ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นคือ จอต้องมีการแสดงภาพที่แม่นยำ สีสันคมชัด มองเห็นในมุมต่างๆ ได้ไม่ผิดเพี้ยน ปัจจุบัน เช่น มีขอบเขตสีครอบคลุมระดับ 100% sRGB พร้อมความแม่นยำของสี Delta E (ΔE) < 2 (น้อยกว่า 2) ความละเอียดสูง เพื่อให้รองรับงานและแอพพลิเคชั่นได้ดี เช่น 2K หรือ 4K มีความสว่างสูง ลดแสงสะท้อน การมีอัตรารีเฟรชเรตสูง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าจอทั่วไป ก็ทำให้ราคาของจอภาพพุ่งสูงกว่าจอแบบอื่นๆ

จอคอมมือสอง

จอคอมเล่นเกม: Gaming monitor เป็นจอคอมที่เราเห็นได้บ่อย เมื่อค้นหาคำว่า จอเกมมิ่ง จอเล่นเกมนี้จะต่างจากแบบทั่วไปในหลายด้าน ว่ากันตั้งแต่พื้นที่แสดงผล ตั้งแต่ 24″ ขึ้นไป หากคุณอยากใช้จอใหญ่ 27″-29″ อาจจะยังไม่ทำให้คุณต้องถอยร่นจากจอมากนัก เห็นได้เต็มตายิ่งขึ้น รวมถึงความละเอียด ส่วนใหญ่อยากได้ฟีเจอร์ครบ เทคโนโลยีจัดเต็ม 24″ Full-HD เป็นตัวเริ่มต้น แต่ถ้าเครื่องคอมคุณแรงพอ การ์ดจอเทพ จัดไป 2K (1440p) และ 4K (2160p) แต่อย่าลืมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงขึ้น เริ่มต้นที่ 144Hz จะเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ดีทีเดียว

จอคอมมือสอง

นอกจากนี้หากคุณเลือกจอที่มีการปรับแต่งเพิ่มได้ เช่น Game Mode ให้เลือก รวมถึงเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น nVIDIA G-Sync หรือ AMD FreeSync เป็นต้น เช่นเดียวกับฟีเจอร์ที่ติดกับตัวจอมาด้วย ในการช่วยให้การเล่นเกมสนุกหรือได้เปรียบมากขึ้น เช่น Crosshair หรือ Night Vision เป็นต้น และที่สำคัญถ้าได้ปุ่มที่ปรับแต่ง OSD ได้ง่าย ยิ่งใช้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งได้ก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อม Gaming monitor ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

จอคอมมือสอง

จอคอมสำหรับความบันเทิง: จะเน้นไปที่จอคอมที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ให้ความละเอียดสูง และมีสีสันสดใส ไม่จำเป็นต้องมีอัตรารีเฟรชเรตที่สูงมาก แต่ให้การสนับสนุนด้านภาพที่ดี มีความสว่างสูง และมุมมองที่กว้าง เพื่อการรับชมได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงพาแนลแบบ IPS ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย บนจอกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น OLED, Mini OLED, QuantumDot เป็นต้น ที่นอกจากจะให้ความคมชัดสดใส สีดำดำสนิทแล้ว ก็ยังสนับสนุนหรือได้ Certified DisplayHDR ที่ทำให้การแสดงผลมีความกลมกลืนสวยสมจริง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง และผู้ใช้ยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลให้เข้ากับการใช้งานได้อีกด้วย สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับพาแนลที่ใช้และเทคโนโลยีที่เติมเข้ามานั่นเอง


เช็คสภาพจอได้อย่างไร?

เมื่อได้รับจอคอมมาแล้วต้องเช็คอะไรบ้าง? เป็นคำถามที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ซื้อจอมือสองมาใช้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อแบบออนไลน์ และไม่ได้ทดสอบมาก่อน แนะนำว่าให้รีบทดสอบก่อนภายใน 7 วัน ที่มักจะเป็นประกันแบบสากล มีความผิดปกติจะได้แจ้งกับผู้ขายให้ได้รับทราบก่อน เผื่อว่าอาจจะต้องส่งคืน หรือส่งเคลม (อย่างไรก็ดี ย้ำกันอีกทีว่า การซื้อของมือสอง ก็อาจจะไม่ได้ใหม่กริ๊บ สวยไร้ริ้วรอยเสมอไป ยกเว้นว่าคุณได้มาครอบครอง ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ)

จอคอมมือสอง

สภาพโดยทั่วไป น่าจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุด ก่อนจะไปดูสิ่งอื่นๆ ว่ากันที่ กรอบจอ ไม่อ้า ไม่กางออก ไม่แตกหัก งานประกอบเรียบสนิท ไม่มีคราบกาวไหลเยิ้ม อย่างน้อยถ้าเป็นงานซ่อม ก็ต้องออกมาดี รวมถึงด้านหลังจอ ควรยึดกับฐานได้แน่น ไม่หลวมหลุดแกว่งไปมา ซึ่งจะบอกถึงความแข็งแรงได้ดี

จอคอมมือสอง

ฐานขาตั้ง ข้อต่อ ขาตั้งจอควรมีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ หากเป็นจอที่ปรับมุม ก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา, หรือ Pivot ได้ ก็ควรให้เป็นไปตามนั้น ยกเว้นว่าคุณยอมรับสภาพนั้นอยู่แล้ว เพื่อราคาที่ถูกลงมากๆ ก็เป็นข้อยกเว้น เพราะอย่าลืมว่า เวลาที่ใช้งาน สายตาคุณจะไม่แกว่งไปตามจอภาพนั่นเอง

จอคอมมือสอง

ปุ่มปรับแต่ง สำคัญมากๆ สำหรับการใช้งาน เพราะบางครั้งคุณต้องปรับเลื่อนเลือกฟังก์ชั่น เพิ่ม-ลดความสว่าง หรือการเปลี่ยนโหมดการใช้งาน บางรุ่นมีแค่ OSD settings มาให้ แต่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ หากปุ่มเสียไปกด เลื่อน เลือกไม่ได้ ก็จะปรับอะไรไม่ได้เลย จึงต้องเช็คให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

พอร์ตสัญญาณ ควรจะต้องใช้ได้ทุกช่อง ให้ต่อสายจากคอมมาเช็คในทุกๆ พอร์ต ไม่ว่าจะเป็น VGA, DVI, HDMI หรือ DisplayPort บางรุ่นมี USB Type-A, Type-C สำหรับ PD Charging หรือช่อง Audio-Out มาอีกด้วย วันนี้คุณอาจไม่ได้ใช้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่ ยิ่งมีฟีเจอร์ KVM หรือ Display-Out ต่อจอเสริมได้ ก็ควรจะต้องใช้งานได้ตามปกติ

จอคอมมือสอง

ระบบไฟ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะใช้อแดปเตอร์ตัวแปลงไฟ หรือต่อสาย Powercord ต่อตรงก็ตาม ต้องแน่น ไม่หลุดหลวม เพราะโอกาสที่เกิดการลัดวงจร หรือภาพดับบ่อยๆ สามารถส่งผลเสียต่อการใช้งานอยู่ไม่น้อยเลย

จอคอมมือสอง

อุปกรณ์เสริม บางครั้งอาจจะครบ หรือไม่ครบ ก็ไม่ได้เป็นประเด็น แต่สิ่งที่ควรมี ก็ต้องมี เช่น น็อตสกรูสำหรับยึดจอเข้ากับขาตั้ง หรือสายไฟ สายสัญญาณ ในส่วนอื่นๆ ที่เสริมมานั้น ก็แล้วแต่กรณีไป ซึ่งถ้าเป็นเฉพาะของจอรุ่นนั้นๆ ก็ควรต้องสอบถามผู้ขายให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

หลังจากที่เช็คสภาพจอโดยทั่วไปแล้ว ก็ได้เวลาเช็คสิ่งสำคัญ นั่นคือการแสดงผล แม้จะเป็นจอคอมมือสอง แต่ก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสว่าง ภาพที่คมชัด ไม่มี Dead/Bright dot จนรบกวนการใช้งาน ไปจนถึงไม่มีเส้น แตก ลายเมื่อใช้งานต่อเนื่อง เป็นต้น แล้วจะเช็คได้อย่างไร?

เช็คบนวินโดว์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจเช็ค ด้วยการเปิดจอในหน้า Desktop ว่างๆ ด้วยการคลิ๊กขวาบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก View > เอาเครื่องหมายหน้า Show icon ออก แล้วเปลี่ยนสีของหน้าจอ ไปเป็นสีต่างๆ แล้วสังเกตสิ่งเหล่านี้

จอคอมมือสอง
  • เปิดหน้าจอสีขาว ต้องไม่มีจุดดำหรือ Dead pixel หรือถ้ามีมากสุดแค่จุดเดียว ก็ทำให้คุณเสียสมาธิและเสียอารมณ์ในการใช้งานได้แล้ว ยกเว้นว่าคุณรับได้
  • เปิดหน้าจอสีดำ ต้องไม่มีจุดสะดุดตา สีขาวหรือสีแดง ที่เป็น Hot pixel หรือ Bright pixel เพราะจะอารมณ์เดียวกันกับ Dead pixel และเป็นไปได้ว่า จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นเพิ่มได้อีกด้วย
  • ไม่มีเส้นในแนวยาว หรือแนวตั้งปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะตอนเปิดจอใหม่ๆ หรือใช้งานไปนานๆ ก็ตาม
  • อาการแสงรั่ว ตรงนี้อยู่ที่การผลิตจอ ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นกันในจอรุ่นใหม่ๆ ถามว่าน่ากังวลมั้ย ก็อาจจะมีอยู่บ้าง เมื่อเราใช้ในสภาพแวดล้อมที่มืดๆ ตรงจุดที่รั่วออกมาเยอะ อาจทำให้ความชัดลดลง และมีความรำคาญบ้างในบางครั้ง ซึ่งหากคุณงบน้อยจริง ต้องซื้อจอรุ่นเก่า พอรับได้ก็ดี แต่ถ้าจะซื้อจอกลางเก่ากลางใหม่ ก็ให้สังเกตเอาไว้หน่อยครับ รั่วเล็กน้อย แค่ขอบมุม พอได้ แต่ถ้ารั่วออกมากินพื้นที่จอเยอะเกินไป ก็ลองคุยกับผู้ขายดูอีกที

แต่ถ้าในกรณีที่ไม่แน่ใจจอคอมมือสองที่ได้มานี้ ใช้งานได้ดีมั้ย อยากจะเช็คการแสดงผลให้ละเอียดไปกว่านั้น ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ทดสอบมาเป็นตัวช่วยได้ เรียกว่า DPT หรือ Dead Pixel Tester ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ โปรแกรมนี้สามารถแสดงผลให้เราทราบได้เลยว่า มีความผิดปกติใด เกิดขึ้นกับจอคอมมือสองที่ซื้อมาบ้าง ไม่ใช่แค่ Dead/ Hot/ Bright Pixel เท่านั้น แต่การแสดงผลสีขาว/ ดำ หรือวงกลม สมดุล เส้นขอบแนว ก็ทำได้หมด จากตัวอย่างที่เรานำมาให้ชมนี้

จอคอมมือสอง ซื้อได้ ควรระวัง
สภาพโดยรวม ไม่แตกร้าว เบี้ยวหัก เสียหาย แตก งอ ชิ้นส่วนหาย
ขาตั้ง ฐาน รับน้ำหนักจอได้ สมดุล ปรับหมุนปกติ เอียง พับ เขย่าหรือเสียสมดุลเมื่อใช้
จอภาพ แสดงผลชัดเจน สว่าง สีสดใส ไม่มัว ภาพคมชัด ไม่กระพริบ จอสีเหลือบ มีเส้น หรือ Dead pixel เยอะ
พอร์ต ใช้งานได้ครบ ต่อพ่วงได้ตามปกติ พอร์ตเสีย สัญญาณขาดหาย ขั้วต่อเบี้ยง เอียง เสียบไม่แน่น
ปรับแต่ง ปุ่มใช้งานปกติ ตั้งค่าการทำงานได้ เปิด OSD settings ไม่ได้ ปุ่มพัง กดไม่ติด
เสียง เสียงดัง ฟังชัด ไม่ขาดหาย เสียงแตก ติดๆ ดับๆ
ประกัน ประกันศูนย์ ประกันร้าน ประกันใจ

Conclusion

จอคอมมือสอง

นอกจากคอมมือสอง จอคอมมือสองก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่งบประมาณจำกัด หรือบางทีอาจจะหามาใช้เป็นจอสำรอง และนำไปใช้เป็นจอเสริม ต่อแบบมัลติมอนิเตอร์ได้อีกด้วย แต่จากที่ว่ามาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การมองหาจอคอมให้ได้แบบที่ต้องการ บางครั้งก็ไม่ได้ง่าย และมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เมื่อมีการซื้อหาแบบออนไลน์ เพราะหลายท่านก็ไม่สะดวก ที่จะเดินทางไปดูที่ร้าน หรือชอบซื้ออยู่กับบ้านมากกว่า ดังนั้นการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่เร่งรีบ หรือเช็คให้ถี่ถ้วนจะเป็นการดี นอกเหนือจากให้ความสำคัญกับสเปค ความสวยงาม บางครั้งถ้าถึงขั้นจะต้องขอ Live เพื่อดูการใช้งานจริงๆ ได้ ก็คงต้องทำ เพราะเมื่อเงินโอนออกจากคุณไปแล้ว โอกาสจะได้คืนก็จะยากขึ้น ในกรณีที่ปลายทางไม่มีของอยู่จริง หรือเป็นมิจฉาชีพมาหลอกคุณนั่นเอง การเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีแพลตฟอร์มก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรืออยากจะไปช้อปดูหน้าร้าน จ่ายเพิ่มอีกหน่อย แต่ได้เห็นของเช็คสภาพได้เลย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคร่ำหวอดในตลาดมากพอ และรู้ช่องทางซื้อ จะทางไหนก็เลือกหากันได้เลย ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลครับ


2nd hand gaming monitor 2023 63

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เช็คอาการ แก้ไขใน 7 ขั้นตอนปี 2023

from:https://notebookspec.com/web/684875-select-2nd-hand-display-2023

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น 144Hz/ 165Hz เริ่มแค่ 5,900 ภาพชัด เล่นลื่น สบายตา ราคาโดน

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น จอ 144Hz/ 165Hz เน้นเล่นเกม เริ่ม 5,900 ฟีเจอร์แน่น ภาพสวย จอใหญ่ เล่นไหลลื่น

จอคอม

จอคอม 27 นิ้ว จัดว่าเป็นจอที่เกมเมอร์หลายคนอัพเกรดขึ้นมาใช้ จากจอเดิมระดับ 22″-24″ ซึ่งปัจจุบันมีลูกเล่น และเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับ 8 จอคอม เริ่มแค่ 5,900 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานและการเล่นเกมได้ดี ด้วยพื้นที่กว้าง และบางรุ่นก็ให้ความละเอียดสูง เห็นรายละเอียดในเกมได้ดีขึ้น สีสันสดใส ให้การเชื่อมต่อมากมาย ปรับจูนได้ เพื่อให้ครบทุกการใช้งาน การเลือกใช้นอกเหนือจากพื้นที่กว้าง ความละเอียดสูง อาจจะต้องดูเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมการเล่นเกมที่ดีขึ้น เช่น การลดความสั่นไหว หรือการกระพริบ อัตรารีเฟรชเรตสูง สนับสนุน HDR หรือช่วยให้มองเห็นฉากมืดได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึง Game Mode ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานนั่นเอง เราไปดูกันดีกว่าว่าจอคอมที่เรานำมาให้ชมกันนี้มีรุ่นใดบ้าง


จอคอม 27″ 144Hz, 165Hz


1.Viewsonic VX2718-P-MHD

จอคอม

ต้องถือว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่ง ที่ทำราคาได้ดี เพราะเคาะอยู่ที่ราว 5,990 บาท แต่ให้ดีไซน์และประสิทธิภาพมาในระดับที่น่าสนใจ ด้วยความละเอียด Full-HD 1080p ใช้พาแนลแบบ VA เหมาะกับการเล่นเกม สีสันสดใส ให้การเล่นที่ลื่นไหล ด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz ขอบจอบางเฉียบ กับการปรับแต่งที่ง่ายดาย พร้อม View Mode ที่มีให้เลือกปรับแต่ง จะเล่นเกม ทำงาน แต่งภาพ รองรับฟีเจอร์ Adaptive Sync รวมถึงลำโพงมาในตัว เพียงแต่อาจจะปรับเลื่อนไม่ได้มาก มีพอร์ต HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

Advertisementavw

ดูรีวิว: Viewsonic VX2718-P-MHD

จุดเด่น ข้อสังเกต
รีเฟรชเรต 165Hz ค่า Brightness: 250 cd/m²

รายละเอียดเพิ่มเติม: Viewsonic


2.AOC 27G2SE/67

จอคอม

จอเกมมิ่ง ราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับเกมเมอร์เริ่มต้น เน้นจอใหญ่ การแสดงผลไหลลื่น พาแนลเป็นแบบ VA ตอบสนองได้ไว ให้ความสว่างสดใส ด้วยค่า Brightness ที่เหมาะกับการเล่นเกม และยังให้สีที่แม่นยำ ระดับ sRGB 122% บนความละเอียด Full-HD โดยมีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz และสนับสนุนเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดการฉีกขาดของภาพ จุดที่น่าสนใจคือ มี Game Color ที่ปรับให้เหมาะกับการเล่นเกมในแต่สไตล์ได้อีกด้วย มีพอร์ต Input ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort ราคา 6,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ค่าความสว่างสูง ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
อัตรารีเฟรชเรต 165Hz

รายละเอียดเพิ่มเติม: AOC


3.Samsung ODYSSEY G30A

จอคอม

จอคอมเล่นเกมที่มาพร้อมฟีเจอร์น่าใช้ ราคาน่าโดนเพราะเปิดที่ 6,490 บาทเท่านั้น ดีไซน์ทันสมัยตามสไตล์ของค่ายนี้ ด้วยหน้าจอขนาด 27″ แต่ให้ความละเอียด Full-HD เหมาะกับเกมเมอร์สเปคกลางๆ เน้นภาพลื่นไหล โดยมีอัตรารีเฟรชเรต 144Hz และเป็นพาแนล VA ที่ตอบสนองได้ไว จอภาพลดแสงสะท้อน และมากับฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync Premium เพื่อให้ภาพที่ต่อเนื่องนุ่มนวล สามารถปรับเลื่อนได้อย่างครบครัน ตั้งแต่ ความสูง หันข้าง มุมก้ม-เงยและ Pivot ได้ 90 องศา โดยมีพอร์ต Input ให้เลือก HDMI และ DisplayPort อย่างละพอร์ต จุดเด่นอยู่ที่ความบางของขอบด้านข้าง 3-sided bezel-less และฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้ามาให้

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับมุมได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung


4.GIGABYTE G27F

จอคอม

เป็นจอคอมที่เหมาะกับเกมเมอร์ ชื่นชอบความไหลลื่นและคมชัด กับพาแนล IPS ให้ความละเอียดที่ 1080p FHD และมีดีไซน์ล้ำสมัย ขอบจอบางพิเศษ เหมาะกับการต่อเพิ่ม 2-3 จอ ที่ดูสบายตากับความลื่นไหล 144Hz และสนับสนุน AMD FreeSync Premium อีกด้วย จุดเด่นที่ความสว่างมากถึง 300cd/m2 สำหรับสีสันที่สดใส ให้ระดับสีที่แม่นยำ DCI-P3 95% เลยทีเดียว โดยสามารถปรับเลื่อนได้เล็กน้อย กับความสูงและมุมก้ม-เงย ความน่าสนใจคือ ปรับ OSD ได้จากซอฟต์แวร์ได้ง่ายดาย พร้อม Dashboard แสดงผลบนหน้าจอ พอร์ตมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น USB type-A 3.0, HDMI 2 ช่อง และ 1x DP พร้อมช่องต่อหูฟัง 3.5mm อีกด้วย ราคาประมาณ 6,900 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ค่า DCI-P3 95% ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: GIGABYTE


5.Acer Nitro Gaming VG272LVBMIIPX

จอคอม

ถ้าจะว่ากันที่จอคอมเล่นเกมประสิทธิภาพดีในราคาที่สบายกระเป๋า เชื่อว่าจอจาก Acer รุ่นนี้ น่าจะโดนใจใครหลายคน เพราะมาพร้อมพาแนลแบบ IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง แม้จะเป็นความละเอียด Full-HD แต่ก็มีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz เลยทีเดียว พร้อมกับค่าความสว่างค่อนข้างสูง เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนังเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการรองรับ HDR400 และสนับสนุน AMD FreeSync อีกด้วย โดยเป็นหนึ่้งในไม่กี่รุ่นที่ใส่ลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณ HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง โดยปรับเลื่อนตัวจอได้เพียงมุมก้มเงยเท่านั้น ให้การรับประกัน 3 ปี ใครชอบการเล่นเกมบนหน้าจอแทบจะไร้ขอบ รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีในราคาประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz ปรับเลื่อนได้ไม่มาก
รองรับ HDR400

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


6.Dell G2722HS

จอคอม

เป็นจอคอมเกมมิ่งที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ กับดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมความละเอียด Full-HD พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 165Hz เติมความสวยงามต่อเนื่องด้วย AMD FreeSync Premium และ G Sync รวมถึง sRGB 99% ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ภาพสีสันสว่างสดใส เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ปรับเลื่อนความสูงได้ เช่นเดียวกับโหมดเกม ที่มีให้เลือกมากมาย กับสไตล์ที่ชื่นชอบ รวมถึงพอร์ตอินพุตสัญญาณ ทั้ง HDMI 2 ช่อง, DisplayPort 1 ช่อง และช่องต่อหูฟัง ราคา 7,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
AMD FreeSync™Premium and NVIDIA G-Sync

รายละเอียดเพิ่มเติม: Dell

7.LG UltraGear 27GN650-B

จอคอม

จอขนาด 27″ พาแนล IPS ที่น่าสนใจในสไตล์ล้ำๆ กับความโดดเด่นด้วยการสนับสนุน nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium รวมถึงการรองรับ HDR10 เพิ่มความสดใส รวมถึง Brightness ที่สูง ให้กับการเล่นเกมและดูหนัง โดยรองรับการปรับมุมต่างๆ ได้มากมาก ไม่ว่าจะเป็น ก้มเงย ความสูงหรือ Pivot ก็ตาม ความละเอียดระดับ Full-HD และอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณทั้ง HDMI และ Display 2 พอร์ต ราคา 7,750 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium
HDR10

รายละเอียดเพิ่มเติม: LG


8.MSI OPTIX G271

จอคอม

จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งสายอีสปอร์ต ที่ให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำกับความมันส์ในการเล่นได้จุใจ เพราะฟีเจอร์ให้มาแบบไม่กั๊กกับราคา 7,500 บาท ด้วยความละเอียด Full-HD ให้อัตรารีเฟเรชเรต 144Hz รองรับ AMD FreeSync ใช้พาแนลแบบ IPS ให้ภาพคมชัดสดใส ตอบสนองได้ไว รวมถึงการปรับแต่งที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะ Game Mode ส่วนตัวจอปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย และให้พอร์ตอินพุตสัญญาณมาทั้ง DisplayPort 1 และ HDMI 2 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ปรับเลื่อนตัวจอได้ไม่มาก
มี Game Mode

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI


Conclusion

Panel Refresh rate Port Res. FreeSync/
G-Sync
Price
1.Viewsonic VX2718 VA 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 5,990 บาท
2.AOC 27G2SE VA 165Hz 1x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 6,300 บาท
3.Samsung
ODYSSEY G30A
VA 144Hz 1x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium
6,490 บาท
4.GIGABYTE G27F IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync Premium 6,900 บาท
5.Acer Nitro Gaming IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,300 บาท
6.Dell G2722HS IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,500 บาท
7.LG UltraGear IPS 144Hz 1x HDMI
2xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,750 บาท
8.MSI OPTIX G271 IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,500 บาท

สรุปสุดท้าย สำหรับจอคอม 27″ สำหรับเกมเมอร์ทั้งหมด 8 รุ่นนี้ น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับหลายๆ คน ที่กำลังมองหาจอคอมตัวใหม่ อัพเกรดจากจอเดิม หรือจะซื้อเป็นจอหลัก ที่นำมาใช้ในการเล่นเกมในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยถ้าคุณงบประมาณจำกัด ตัวเลือกอย่าง Viewsonic ก็น่าสนใจ ไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้จอใหญ่ อัตรารีเฟรชเรตสูง แต่ถ้าอยากได้จอที่มีลูกเล่นเยอะ MSI, LG, GIGABYTE หรือ Samsung ก็ให้คุณสนุกกับการปรับแต่ง และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมได้มากขึ้น LG กับ Samsung ก็น่าสนใจ ปรับได้พื้นฐาน ไปจนถึงการ Pivot 90 องศา ส่วนถ้าอยากได้ที่มีลำโพงมาด้วย Viewsonic และ Acer ก็น่าใช้ไม่แพ้กัน โดยทุกรุ่นที่นำมานี้ ส่วนใหญ่มีดีไซน์ที่ขอบจอบาง ต่อจอเพิ่มได้แบบเนียนสบายตา และการรับประกันอีก 3 ปี ส่วนคุณชอบแบบไหน รุ่นใด ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/680448-8-144hz-165hz-monitor-5900

MSI PRO AP242 All-in-One PC ฟังก์ชั่นครบ แต่งภาพ เทรดหุ้น จบได้ทุกงาน สำนักงานยุคใหม่

MSI PRO AP242 ออลอินวันพีซียุคใหม่ ต่อได้ 3 จอ กล้องชัดลำโพงเสียงจัด ความปลอดภัยสุดล้ำ

MSI PRO AP242

MSI PRO AP242 เป็นออลอินวันพีซี ที่มาแบบครบเครื่อง ราคาเบาๆ เริ่มที่ 2 หมื่นกว่าบาท แต่ได้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งจอมาในตัว ขุมพลัง Intel Core i5 Gen12 และแรม 8GB หน้าจอ 24″ Full-HD พาแนล IPS คมชัดและมุมมองที่กว้าง มิติกำลังพอเหมาะ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย สะดวกกับการจัดวางบนโต๊ะหรือคนที่มีพื้นที่ทำงานจำกัด พร้อมกล้องเว็บแคม Full-HD และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน โดยให้ความปลอดภัยมาเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นการ สแกนใบหน้าหรือ Tobii Aware รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 รวมถึงพอร์ตต่อพ่วงมากมาย เช่น USB-C, HDMI และ DP เป็นต้น รองรับการต่อจอภายนอกเพิ่มได้อีก 2 จอและซอฟต์แวร์เสริมการทำงาน ในการตรวจเช็ค ปรับปรุงตั้งค่า เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว การรับประกัน 3 ปี พร้อม On-site pickup and return ติดต่อ รับซ่อม และส่งคืน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สนนราคาอยู่ที่ 27,400 บาท

MSI PRO AP242 สวยลงตัว งาน บันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  • มิติที่บางเบา กระทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • มาพร้อมความปลอดภัยครบครัน
  • รองรับการสแกนใบหน้าเข้าระบบ
  • กล้องเว็บแคม Full-HD
  • มีระบบรักษาความเป็นส่วนตัว Tobii Aware
  • ลำโพงด้านหลัง ให้พลังเสียงในระดับที่ดี
  • รองรับการต่อจอภายนอกเพิ่มได้
  • มีพอร์ต USB-C
  • ประกอบง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ
  • มี Windows 11 Home มาในตัว
  • รับประกัน 3 ปี พร้อม On-site pickup and return

ข้อสังเกต

  • พอร์ต USB ความเร็วสูงอยู่ด้านหลัง การต่ออุปกรณ์ต้องขยับเล็กน้อย
  • ถ้าเพิ่มแรมเป็น 16GB จะทำให้ไหลลื่นมากขึ้น
  • การปรับ OSD ต้องใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ Display Kit

Specification

Description
CPU Intel® Core™ i5-12400
OS Windows 11 Home
CHIPSET Intel® H610
STORAGE 1x 256GB M.2 SSD (auto switch)
1x 2.5” HDD / SSD
GRAPHICS Intel® UHD Graphics
PANEL RESOLUTION 23.8″ IPS Grade Panel LED Backlight (1920*1080 FHD) with MSI Anti-Flicker technology
AUDIO SPEAKER 2x 2.5W
I/O 1x USB 3.2 Gen 2 Type C
1x USB 3.2 Gen 2 Type A
2x USB 3.2 Gen 1 Type A
2x USB 2.0 Type A
1x RJ45
1x HDMI out (2.0)
1x DP out (1.4)
1x Mic-in
1x Line-out
AUDIO Realtek ALC897
LAN Realtek RTL8111H
WIRELESS LAN Intel Wireless AC 3168
Intel Wireless AX201
BLUETOOTH 4.2 (with Intel AC 3168) / 5.2 (with Intel AX201)
WEBCAM Built-in FHD Webcam which supports Windows Hello
Removable webcam cover design
KEYBOARD / MOUSE Optional
AC ADAPTER 120W
ADJUSTMENT (TILT) -5° ~ 20°
NET WEIGHT 4.63 kg / 10.21 lbs
Price 27,400 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI PRO AP242


Install

MSI PRO AP242

ในปัจจุบันเรียกว่าแทบแยกไม่ออก สำหรับ All-in-One PC กับจอมอนิเตอร์ของทาง MSI เพราะอย่างที่เห็นคือดีไซน์มาบาง กระทัดรัดมากๆ ครับ เรื่องการจัดวางองค์ประกอบ และปุ่มควบคุมที่ถูกซ่อนเอาไว้ ก็ดูลงตัวไม่น้อยเลย แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า การประกอบติดตั้งใช้งาน จะยุ่งยากมั้ย มาดูขึ้นตอนกันครับ

MSI PRO AP242

จากชิ้นส่วนที่มีอยู่ในกล่องนั้น ประกอบด้วยกัน 3 ส่วน ชิ้นหลักอยู่ที่ขาตั้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการใช้งาน จะมีสลักที่เป็นล็อคแบบนี้ สำหรับต่อเข้าไปด้านหลังจอ

MSI PRO AP242

เริ่มแรกให้นำชิ้นขาตั้ง วางให้ตรงกับจุดยึดบริเวณด้านหลังของจอ และกดลงไป โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ตัวล็อคที่อยู่บนขาตั้ง จะทำงานอัตโนมัติ และถ้าต้องการถอดขาตั้งออก ก็เพียงปลดล็อค แล้วดึงออกจากด้านหลังเครื่องได้เลย

MSI PRO AP242

ชิ้นวงกลมที่ให้มาด้วยนี้ ใช้เป็นตัวฐาน ติดตั้งได้แบบไม่ต้องใช้ตัวล็อคเช่นกัน แค่เสียบขาตั้งลงไป แล้วหมุนฐานครึ่งรอบ เมื่อล็อคกันดีแล้ว ก็ใช้งานได้ทันที

MSI PRO AP242

ทั้งหมดทุกชื้นที่นำมาประกอบกัน ไม่ต้องใช้เครื่องมืออื่นใด ที่เหลือจะมีตัวเก็บสายกลมอันเล็กที่สามารถประกบเข้ากับขาตั้ง และเสียบสายเพื่อใช้งานได้เลย

MSI PRO AP242

สำหรับออลอินวันพีซีรุ่นนี้ ใช้ตัวแปลงที่เป็นอแดปเตอร์ 120W @6.15A โดยเป็นแจ๊คหัวกลม ต่อเข้ากับพอร์ตด้านหลังตัวเครื่อง สายที่ให้มาความยาวมากกว่า 3 เมตร ซึ่งช่วยให้คุณจัดการพื้นที่วางได้ยืดหยุ่นมากขึ้น

MSI PRO AP242

นอกจากนี้ในกล่องยังมีเมาส์ คีย์บอร์ดแบบไร้สายในแบบคอมโบ เพื่อนำมาใช้ร่วมกันกับตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ ใช้ตัวรับ-ส่งสัญญาณตัวเดียวเท่านั้น ทำให้ประหยัดพอร์ตบนพีซี เพื่อไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมได้

MSI PRO AP242

เมาส์ไร้สายที่ให้มาด้วยนี้โมเดล MA004 ขนาดมาตรฐาน ไม่ได้เป็นไซส์เล็ก จับกระชับมือดีทีเดียว ใช้พลังงานจากถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน แต่ที่ชื่นชอบก็คือ มีสวิทช์เปิด-ปิดการใช้งานมาอีกด้วย


Hardware & Design

MSI PRO AP242

มาในเรื่องดีไซน์ของ MSI PRO AP242 ออกแบบให้ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยลง เพื่อจะได้เหลือพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะมากขึ้น ตัวฐานเป็นแบบวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 23cm เท่านั้น และวัดความยาวของจอได้ประมาณ 54cm แต่ผมมองว่าเป็นจอที่กว้าง เพราะออกแบบขอบจอมาให้บาง แทบจะเป็นแบบไร้ขอบ บนหน้าจอระดับ 23.8” เช่นนี้ ทำให้สัดส่วนพื้นที่ในการแสดงผลกับบอดี้มีมากกว่า 80% เลยทีเดียว

ขอบด้านข้างสังเกตได้ว่ามิตินั้นบางพอสมควร ซึ่งเป็นแบบที่ถูกใช้อยู่ในจอของ MSI หลายรุ่น เพื่อให้พื้นที่ในการแสดงผลที่กว้างมากขึ้น

MSI PRO AP242

ขอบด้านล่าง ก็แทบจะเรียกได้ว่า บางเป็นพิเศษ แต่ก็เสริมความแข็งแรงมาด้านใน ทำให้ดูเหมือนเป็นแค่จอภาพ ที่ไม่มีพีซีติดตั้งมาด้านหลังด้วย ซึ่งจากที่เรานำจอ MSI Modern MD241 มาวางคู่กัน เกือบแยกไม่ออกเลยทีเดียว ว่าฝั่งไหนเป็นพีซี มีโลโก้ MSI สีขาววางอยู่ตรงกลาง

MSI PRO AP242

มาดูที่ด้านข้างกันบ้าง จุดหนาสุด ถ้าวัดเฉพาะขอบจอด้านหน้า มาที่ส่วนยื่นบริเวณที่เป็นชุดคอมทางด้านหลัง ความหนาประมาณ 5.5cm เท่านั้น โดยขาตั้งให้สมดุลได้ค่อนข้างดี เพราะไม่โยกคลอนได้ง่าย และรองรับการปรับได้รูปแบบเดียวคือ มุมก้ม-เงย อยู่ที่ระกับ -5 – 20 องศา ซึ่งพอให้การใช้งานบนโต๊ะทำงานได้สะดวกในระดับหนึ่ง

MSI PRO AP242

แม้ว่าการปรับเลื่อนจะได้เพียงมุมก้ม-เงย แต่ด้วยความเบาของตัวเครื่องที่อยู่ราวๆ 4Kg. และ MSI ยังดีไซน์ตัวฐาน ให้เอียงเล็กน้อย ทำให้คุณจับตัวเครื่องหันซ้าย-ขวาได้ไม่ยาก ทดแทนการปรับตัวหมุนที่ฐานได้ดีทีเดียว

MSI PRO AP242

กล้องเว็บแคมที่ติดตั้งมาบน MSI PRO AP242 All-in-One PC เครื่องนี้ ให้ความละเอียดระดับ Full-HD มีความคมชัดสูง ซึ่งมาพร้อมเซ็นเซอร์ที่วางใกล้กัน สำหรับตรวจเช็คการเคลื่อนไหว รวมถึงไมโครโฟนในการตัดเสียงรบกวนในการสนทนาได้ดีเลย

MSI PRO AP242

เชื่อว่าหลายคนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย ในการเลือกใช้พีซีสักเครื่อง คงไม่ได้หยุดแค่การ กรอกพาสเวิร์ดแล้วเข้าใช้งานได้เลย เพราะบางคนก็แอบมองรหัสเรา ก็แอบใช้ได้แล้ว MSI PRO AP242 มีระบบ Log-in ได้ทั้ง ใส่รหัสหรือการสแกนใบหน้าด้วยกล้องเว็บแคม ผ่านทาง Windows Hello นั่นเอง

Tobii Aware

MSI PRO AP242

แต่นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน อย่างการตั้งรหัสเข้าเครื่อง หรือการสแกนใบหน้าแล้ว MSI ยังได้เสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Tobii Aware ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกับกล้องเว็บแคมของ MSI ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น ด้วยเงื่อนไขหลักๆ คือ

  • Privacy Screen – เมื่อคุณไม่ได้นั่งอยู่หน้าเครื่อง ระบบจะเบลอหน้าจอให้ทันที และจะกลับมาชัดเหมือนเดิม เมื่อคุณเข้ามานั่งใช้งาน แต่จะเพิ่มความปลอดภัยไปอีกชั้น นั่นคือ ระบบจะ Lock Windows ทันที เพื่อไม่ให้ผู้อื่น มาแอบเข้าใช้งานได้ ซึ่งตรงนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลาล็อคอินใหม่ เพราะแค่คุณมาอยู่ตรงหน้ากล้อง ระบบก็เปิดให้พร้อมใช้งานได้แล้ว
  • Peeker Detection – และเป็นเรื่องปกติที่เมื่อคุณนั่งหันหน้าเข้าคอม บางคนที่อาจจะไม่ประสงค์ดี แอบยื่นหน้ามาดูจอได้ ระบบนี้จะทำให้หน้าจอเบลอ เมื่อกล้องตรวจพบว่ามีใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอ หรือยู่ด้านหลังของคุณ
  • Auto Lock Windows – ระบบนี้จะช่วยเสริมการทำงานของ Privacy Screen ด้วยการ Lock หน้าจอให้ทันที เมื่อคุณเดินออกไปจากหน้าคอม โดยผู้ใช้เลือกเวลาได้ว่า จะให้ล็อคหลังจากที่ออกไปจากหน้าจอเมื่อไร มีให้เลือกตั้งแต่ 0-5 นาที
MSI PRO AP242

ตัวอย่างดังเช่นภาพด้านบนนี้ เมื่อคุณออกห่างจากหน้าจอ ระบบจะทำการเบลอหน้าจอให้ทันที หรือในกรณีที่มีคนจะแอบใช้คอมของคุณ เมื่อไม่อยู่ที่โต๊ะ ระบบก็จะเบลอหน้าจอเช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นความปลอดภัย 2 ชั้น กรณีที่คุณซีเรียสกับความเป็นส่วนตัว

MSI PRO AP242

MSI ให้กล้องเว็บแคมความละเอียด Full-HD ภาพคมชัด เห็นรายละเอียดได้ครบ รองรับ Windows Hello ล็อกอินด้วยใบหน้า และยังมีของเล่นเล็กๆ มาให้ครับ Webcam Cover สำหรับคนที่ใช้กล้องเว็บแคมเป็นประจำ และต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวใครมา Hack กล้องเว็บแคมคุณได้ ดูมินิมอลดีทีเดียว

MSI PRO AP242

ด้วยความเป็น ออล-อิน-วันพีซี ข้อดีก็คือ รวมคอมพิวเตอร์และจอเอาไว้ด้วยกันแล้ว จึงประหยัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้มากทีเดียว เหลือพื้นที่ให้คุณใช้งานได้อีกมากมาย โดยเฉพาะคนที่มีห้องเล็กๆ หรือต้องทำงานบนโต๊ะมาตรฐาน 120cm นอกจากนี้ ยังไม่ต้องต่อสายต่างๆ ให้วุ่นวาย อย่างเช่น MSI PRO AP242 เครื่องนี้ มีทั้ง WiFi, กล้องเว็บแคม และจอคอมในตัวอยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่ต่อ สายไฟ AC เข้ากับเครื่องเท่านั้น ก็ใช้งานได้ทันที


Screen & Speaker

MSI PRO AP242

จอ IPS ที่มากับ MSI เครื่องนี้ มองเห็นได้ชัด ด้วยมุมมองที่กว้าง ให้ความละเอียดที่ระดับ Full-HD 1080p และยังเป็นจอแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน เข้ากับการใช้งานในออฟฟิศได้ดีเลยทีเดียว หรือจะใช้ใกล้กับบริเวณที่มีแสงมาก ก็ยังมองเห็นได้ชัด รองรับกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ดูหนัง หรือแม้กระทั่งการตกแต่งภาพ หรือท่องอินเทอร์เน็ตก็ตาม

MSI PRO AP242

ท่องเว็บ เล่นอินเทอร์เน็ตและเทรดหุ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคน เลือก ออลอินวันพีซีมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะสะดวก จบในตัวและได้จอใหญ่ ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่ม กับการแสดงผลถือว่า 24″ กำลังดี ให้พื้นที่แสดงผลข้อมูลกว้างขวาง เรียกว่าแค่กรอกตาไปมา ก็มองได้ทั่ว เรื่องความคมชัดและสีสันสดใส ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ เพราะไม่ว่าจะใช้ดูหุ้น กราฟ รวมถึงต้องมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน จุดที่น่าสนใจคือ สามารถเปิดดูกราฟ และข้อมูลการเทรดไปพร้อมๆ กัน หรือจะแบ่งหน้าจอ เพื่อดูข่าว และเทรดคริปโตไปพร้อมกันได้ ประสิทธิภาพแรงพอสำหรับการใช้งานมัลติทาส์กได้ดีทีเดียว

MSI PRO AP242

ชมภาพยนตร์และการสตรีมมิ่ง ในด้านความบันเทิงสีสันที่สดใสคือหัวใจของจอบนออลอินวันจาก MSI เครื่องนี้ก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงให้แค่ภาพที่คมชัด แต่ยังเลือกการแสดงผลได้อย่างเต็มตา ยิ่งเป็นวีดีโอในแบบ Full screen และปรับแสงที่เหมาะสมบน OSD ในโหมด Cinema ก็ได้ความสว่างสดใสมากขึ้น และหน้าจอแสดงผลเอง ยังรองรับการปรับ HDR ได้อีกด้วย การดูวีดีโอสตรีมมิ่งบอกได้เลยว่า ภาพดูสดใสและแสงที่ได้มีความอิ่มมากขึ้น แบบที่แทบจะไม่ต้องไปแตะกับค่าอื่นๆ เลย

MSI PRO AP242

ในแง่ของการทำงาน หน้าจอขนาด 24″ เช่นนี้ ก็เหมาะกับการใช้งานพื้นฐานต่างๆ ได้ไม่ยาก หากเป็นงานเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน ให้คุณลองปรับ Scale ของหน้าจอได้อย่างเหมาะสม จากเดิม 100% โดยส่วนตัวมองว่าเป็นหน้าจอที่กำลังพอเหมาะ ซึ่งมองเห็นฟอนต์ได้ง่าย รวมถึงการทำงานในด้านของภาพหรือวีดีโอ ก็อยู่ในระดับที่ดี แต่อาจจะไม่ได้กว้างขนาดที่เวลาคุณวาง Tools ต่างๆ จะมองเห็นได้ครบทุกจุด แต่ก็แนะนำว่าให้ลองปรับขนาดของ Font เล็กลงอีกหน่อย ก็จะทำให้ใช้งานด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRO AP242

อย่างไรก็ดีหากคุณมองว่ายังได้พื้นที่การทำงานบน ออลอินวัน MSI รุ่นนี้ไม่เต็มอิ่ม หรืออยากได้จอส่วนต่อขยาย สำหรับใช้งานอื่นๆ ด้วย เช่น การแสดงหน้าจอพรีวิวฟุตเทจวีดีโอ หรือจะให้โชว์ไฟล์บน File Explorer ไว้ใช้งาน หรือการเปรียบเทียบเอกสาร MSI PRO AP242 รุ่นนี้ สามารถต่อจอแสดงผลผ่านทาง HDMI ได้อีกด้วย อย่างเช่น ในครั้งนี้เราได้จอ MSI Modern MD241 มาใช้งานร่วมกัน ซึ่งดูลงตัวมากขึ้น

MSI PRO AP242

เพราะจอรุ่นนี้ นอกจากจะให้ความละเอียดระดับ 1080p แล้วยังมาพร้อมกับคุณภาพในด้านการแสดงผลสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแม่นยำสี และเทคโนโลยีถนอมสายตา ที่สำคัญยังรองรับการปรับหมุนในแนวต่างๆ ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ก้ม-เงย, ปรับความสูง, หันซ้าย-ขวา และการปรับ Pivot 90 องศา เรียกว่าปรับจูนเข้ากับ

MSI PRO MP242 รุ่นนี้ เค้าใส่เทคโนโลยีถนอมสายตามาเต็ม ไม่ว่าจะเป็น การลดแสงสีฟ้า, ลดการกระพริบของจอ และเป็นจอที่ลดแสงสะท้อนมาให้ เอาง่ายๆ ว่าวันนี้คุณจะสามารถเคลียร์เอกสาร ดูหนัง หรือจะเทรดหุ้นกันได้ยาวๆ แบบไม่แสบตา ซึ่งเดิม MSI จะใส่ไว้ในจอระดับงานธุรกิจ และวันนี้ก็เอามาลงในจอทำงาน และใช้ในชีวิตประจำวัน


OSD settings

MSI PRO AP242

โดยพื้นฐานของจอบนออลอินวัน MSI รุ่นนี้ มีปุ่มด้านหลังมาให้ก็จริง แต่ใช้สำหรับเป็นปุ่มเพาเวอร์ และเพิ่ม-ลดความสว่าง แต่ทาง MSI เสริมซอฟต์แวร์อย่าง DisplayKit มาให้ ซึ่งคุณจะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของจอได้เหมือนกับการปรับใช้ OSD เลยทีเดียว แต่สะดวกกว่า เพราะใช้เมาส์คลิ๊กเท่านั้น

MSI PRO AP242

ในหน้าแรก Split Window จะให้คุณเลือก Split หน้าต่างโปรแกรมได้ 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 2 หรือ 4 หน้าต่างบนหน้าจอเดียวกัน

MSI PRO AP242

และยังตั้งค่าในหน้าของ Display ได้อีกด้วย เลือกการปรับแต่งทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน ความละเอียด อัตรารีเฟรชเรต ไปจนถึงการแสดงผล

MSI PRO AP242

มาถึงส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของโปรแกรมนี้ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณปรับแต่งค่าต่างๆ ของหน้าจอได้ถูกใจ เพราะคุณสามารถเลือกโพรไฟล์การแสดงผลได้ถึง 7 โพรไฟล์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใช้งานทั่วไป เล่นเกม FPS, RTS หรือการชมภาพยนตร์และถนอมสายตา แต่ที่น่าสนใจก็คือ ระบบจะให้การปรับเห็นผลในแบบเรียลไทม์ เรียกว่าปรับก็เห็นผลลัพทธ์ได้ทันที ส่วนตัวผมมองว่าสะดวกกว่าการกดปุ่มเยอะเลย

MSI PRO AP242

แท็ป Tools เป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับจูนเมาส์ คีย์บอร์ด และการซูม-ย่อขยายหน้าจอ และการจัดการเรื่องสัญญาณภาพต่อภายนอกได้รวดเร็ว คล้ายกับการกด Win+P แต่ทุกอย่างรวมเอาไว้ในที่เดียว ปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าเดิม

MSI PRO AP242

MSI ก็ให้จอระดับคุณภาพมาบน ออลอินวันพีซี รุ่นนี้ด้วย เพราะให้ค่า Gamut Volume ไปถึง 98.5% sRGB แสดงให้เห็นถึงความเป็นจอ High Gamut ที่เป็นจอระดับ Creator ได้ในระดับเริ่มต้น และยังได้ค่า Delta-E น้อยกว่า 2 จัดว่ามีความเที่ยงตรงของสีมากพอสมควร รองรับการใช้งานด้านภาพและวีดีโอพื้นฐานได้ดี เช่น การพรีเซนเทชั่นงานวีดีโอ และการทำชิ้นงาน เพื่อนำเสนอและงานพิมพ์ให้กับงานลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง

MSI PRO AP242

ด้วยระบบเสียง dts ที่มาบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้ จัดว่าเร้าใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นไซไฟ ไม่ว่าจะเป็น Avenger: End Game, Transformer หรือใครชอบแนวยกพลขึ้นบก อย่าง Saving Private Ryan ที่จัดว่าระทึกเร้าใจ แต่แนะนำว่า หากจะให้เสียง มีความแน่นทุ้ม ลองขยับจอเข้าไปใกล้ผนังสัก 15-20cm จะได้อรรถรสในการฟังมากขึ้น


Keyboard & Mouse

MSI PRO AP242

เมาส์และคีย์บอร์ดไร้สาย ที่มีมาให้ใช้งานคู่กับ MSI ดูลงตัวกับการใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะใช้ USB Receiver เพียงตัวเดียวเท่านั้น ทำให้โต๊ะทำงานของคุณดูโล่ง สะอาดตา และมีที่วางของอย่างอื่นได้อีกมากมาย

MSI PRO AP242

เมาส์ไร้สายรุ่นนี้ มาในมิติกำลังพอเหมาะถนัดมือสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่เคลื่อนไหวได้สะดวก โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเมาส์เบาๆ ตอบสนองได้ดี ใช้ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อนเท่านั้น เท่าที่ลองก็ใช้งานกันแบบยาวๆ หรือจะพกไปใช้กับโน๊ตบุ๊คนอกบ้านก็ได้นะ พกพาใส่กระเป๋าไปได้ไม่เกะกะ

MSI PRO AP242

สำหรับมือผู้รีวิวเอง ก็ประมาณนี้เลยขนาดกำลังดี และมีปุ่มด้านข้างมาให้ เลือกใช้งานหรือ Undo ได้ตามสะดวก ปุ่มคลิ๊กเสียงดังเล็กน้อย แต่ก็นุ่มนวล เช่นเดียวกับ Scroll wheel ที่ทำขึ้นมาให้ใช้งานถนัดมือ

MSI PRO AP242

คีย์บอร์ดไร้สายตัวบาง ขนาดกระทัดรัด แต่ก็มี Number Pad มาให้ พร้อมปุ่มขนาดใหญ่ ที่ให้การกดที่แม่นยำ และมีปุ่มฟังก์ชั่นมัลติมีเดียมาให้ใช้ เช่น เพิ่ม-ลดเสียง, Play/ Pause หรือจะ FW/RW รวมถึงไฟสถานะ การตอบสนองอยู่ในระดับที่ดี กดไม่ต้องลึก เหมาะกับคนที่ชอบการพิมพ์สัมผัส รวมถึงคนที่เล่นอินเทอร์เน็ต คีย์หาข้อมูลเป็นประจำ


Connector

MSI PRO AP242

สำหรับพอร์ตต่อพ่วง มีให้ใช้งานอย่างครบครันเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเพราะความเป็นพีซี ไม่ได้เป็นจอแสดงผลเพียงอย่างเดียว เลยทำให้ไม่ต่างไปจากคอมพิวเตอร์พีซี หรือโน๊ตบุ๊คมากนัก เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปในบ้าน สำนักงานหรือธุรกิจส่วนตัว ไม่ว่าคุณจะมีฮาร์ดไดรฟ์ต่อภายนอก พรินเตอร์ แฟลชไดรฟ์ เพราะมีพอร์ต USB Type-A ให้รวม 5 พอร์ตด้วยกัน หรือจะใช้ต่อจอเพิ่ม เพื่อขยายพื้นที่การทำงาน ด้วยพอร์ต HDMI และ DisplayPort

  • 1x USB 3.2 Gen 2 Type C
  • 1x USB 3.2 Gen 2 Type A
  • 2x USB 3.2 Gen 1 Type A
  • 2x USB 2.0 Type A
  • 1x RJ45
  • 1x HDMI out (2.0)
  • 1x DP out (1.4)
  • 1x Mic-in
  • 1x Line-out
MSI PRO AP242

แต่จุดที่ติดตั้งพอร์ต อาจจะอยู่ลึกเข้าไปนิดหน่อย อาจจะต้องเอียงตัวจอ ให้สามารถติดตั้งพอร์ตได้ง่ายกว่าเดิม และมีจุดที่ติดอยู่นิดหน่อยก็คือ ด้วยการที่พอร์ตความเร็วสูง USB 3.2 อยู่ในบริเวณด้านใต้นี้ด้วย การต่อพอร์ตก็จะยุ่งยากหน่อย เพราะคุณอาจจะต้องก้มลงมาดู เวลาใส่หรือถอด หากเป็นไปได้ก็ให้มองหาสาย USB Extended ต่อมาวางไว้ด้านหน้า ก็จะง่ายขึ้น

MSI PRO AP242

ด้านข้างก็มีพอร์ตมาให้ แต่เป็น USB 2.0 Type-A เหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่าง USB Flash drive หรือ USB Receiver เพราะไม่ต้องใช้ความเร็วสูงมากนัก อีกทั้งอยู่ตรงด้านขวาของตัวเครื่องใช้งานได้ง่ายกว่า

MSI PRO AP242

โดยการต่อจอเพิ่ม ก็สามารถเลือกได้ว่าคุณจะต่อจากพอร์ตใด มีให้เลือกทั้งแบบ HDMI และ DP ขึ้นอยู่กับจอที่คุณนำมาใช้ อย่างเช่น MSI Modern MD241 ที่มี HDMI มาให้ คุณอาจจะเลือกจออีกรุ่นที่เป็น DP เพื่อการขยายเป็น 3 จอก็ได้เช่นกัน


Performance & Software

MSI PRO AP242

หลังจากที่เราได้ลองใช้งานในโหมดการทำงานต่างๆ กันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมทดสอบในด้านต่างๆ กัน

MSI PRO AP242

CPUz รายงานข้อมูลซีพียูเป็น Intel Core i5-12400 ทำงานแบบ 6 core/ 12 thread และความเร็วบูสท์อยู่ที่ราวๆ 4.4GHz ทำงานคู่กับชิปเซ็ต Intel H610 พร้อมการเชื่อมต่อแบบ PCI-Express 3.0

MSI PRO AP242

มีแรมมาให้เป็น DDR4 3200 ความจุ 8GB ซึ่งสามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ในภายหลัง แนะนำอยากจะให้อัพเกรดเพิ่ม เพื่อให้การใช้งานไหลลื่นมากกว่า และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกราฟิกการ์ดได้อีกด้วย

MSI PRO AP242
MSI PRO AP242

โดยกราฟิกที่มาพร้อมกับซีพียูรุ่นนี้ เป็นกราฟิกในเจนเนอเรชั่นใหม่อย่าง Intel UHD Graphic 730 และบน GPUz ก็รายงานมาตรงกัน ซึ่งมีชุด Shader แชร์แรมร่วมกับระบบอัตโนมัติ รวมถึงความเร็วในการบูสท์สูงกว่า 1,450MHz เลยทีเดียว

MSI PRO AP242

จากนั้นมาดูการทดสอบแรก เทียบกับซีพียูพีซีอย่าง Intel Core i7-10700 ที่มีจำนวน Core/ Thread มากกว่า ซีพียูบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้เรียกว่าหายใจรดต้นคอก็ว่าได้ เพราะมีคะแนน Multi-thread ห่างอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับทำคะแนนได้ดีกว่าในส่วนของ Single-thread

MSI PRO AP242

ส่วน SSD ที่ติดตั้งมาให้นั้น เป็นรุ่น WD SN530 ความจุ 256GB ประสิทธิภาพจัดว่าอยู่ในระดับเบื้องต้น ความเร็วประมาณ 2,485MB/s สำหรับการ Read และ Write ใกล้ๆ 1,000MB/s แม้จะดูไม่ร้อนแรงจัดมากนัก แต่ก็เร็วกว่า SSD พื้นฐานและไวกว่า HDD พอสมควร คุณอาจจะเริ่มต้นใช้งานไปก่อน และอัพเกรดหรือเปลี่ยนในภายหลังก็ได้ แต่ที่น่าสนใจคือ MSI All-in-One รุ่นนี้ ยังรองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมได้ หรือจะเพิ่มด้วยชุดคิทอัพเกรด HDD ในแบบ SATA ก็ได้เช่นกัน

MSI PRO AP242

ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark10 คะแนนในภาพรวมไปได้มากถึง 5,029 คะแนน ซึ่งจัดว่าทำได้ค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ซีพียูตอบโจทย์งานในส่วนต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น Productivity กับงานด้านเอกสารและงานวีดีโอ Digital Content ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้งานเหล่านี้ได้ไหลลื่นพอสมควร

สำหรับ 3DMark แม้จะดูโหดหินไปสักหน่อย เพราะใช้กราฟิกของซีพียูเป็นหลัก รวมถึงแรมมีให้ 8GB ก็อาจจะอึดอัดไปบ้าง แต่ก็ยังทำผลทดสอบผ่านออกมาได้ แม้ตัวเลขไม่ได้สูงมากนัก แต่อย่าลืมว่าเป็นพีซีออลอินวัน ที่ใช้กราฟิกในตัว ซึ่งคะแนนทีได้นี้ เป็นเครื่องยืนยันความสามารถในด้านเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ยังพอตอบโจทย์เกมออนไลน์แบบง่ายๆ ได้อีกด้วย

MSI PRO AP242

ขยับมาที่ DOTA2 กันบ้าง บนความละเอียดระดับ Full-HD ด้วยการตั้งค่า Detail ในระดับต่างๆ ดังนี้ เน้นที่ความลื่นไหล ลองที่โหมด Fastest ภาพอาจไม่สวย ตัวละครจะดูแปลกๆ แต่เฟรมเรตไปได้เกือบ 100fps. เมื่อมีเอฟเฟกต์โจมตีด้วยเวทย์ใหญ่ แต่ถ้าเน้นไหลลื่นด้วย ภาพดีกว่าเดิมพอสมควร Medium ดูเหมาะ เพราะ Hero ของคุณยังดูสวยอลังการ เล่นไปได้ราวๆ 55fps. สวยๆ แต่ถ้าเอาภาพงามๆ ตัวละครคมกริบ High ได้แต่เฟรมเรตไม่ถึง 30fps. ไม่แนะนำครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าคุณอัพแรมเพิ่มขึ้น จะได้ความสวยงามกับเฟรมเรตที่ดีขึ้นอีกระดับได้ไม่ยาก

MSI PRO AP242

มากันที่เรื่องของอุณหภูมิในการทำงานบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้กัน ทดสอบกันแบบโหดๆ เพื่อจำลองการทำงานกับการเรียกใช้ซีพียูหนักๆ Full load 100% ตามภาพที่ปรากฏอยู่นี้ และมีซอฟต์แวร์ตรวจเช็คสถานะ MSI Center แสดงให้เห็นถึงการออกแบบชุดระบายความร้อน ที่คอนโทรลได้ในระดับ 77-78 องศาเซลเซียสเท่านั้น กับความเร็วที่พุ่งไปมากกว่า 3GHz โดยพัดลมทำงานไปประมาณ 50% ก็ถือว่า MSI ก็มีการจัดวางโครงสร้างได้ดี ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องของความร้อนขณะใช้งาน

MSI PRO AP242

MSI Center นอกเหนือจากการเป็นซอฟต์แวร์ตรวจสอบ บอกสถานะระบบได้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นอีกมากมายให้ได้เลือกใช้ ซึ่งหากเริ่มติดตั้งเราจะสามารถเลือกธีมของการใช้งานคุณได้อีกด้วย เช่น Gaming, Work, Entertainment ในส่วนนี้เราแนะนำให้คุณจัดการได้ตามความเหมาะสม หรือเลือกที่จะไม่ใช้ฟังก์ชั่นบางอย่างก็ได้เช่นกัน แต่โดยส่วนตัวมองว่า หากคุณได้ลองปรับจูนหรือใช้โหมดการทำงานที่เหมาะกับตัวคุณดู จะพบว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ


Conclusion

Conclusion Content MSI

สุดท้ายนี้ ถ้าใจให้ผมสรุปกับการใช้งานและความชื่นชอบบน All-in-One PC จากทาง MSI PRO AP242 รุ่นนี้ เรื่องแรกคือ ความง่ายและสะดวกในการใช้งาน หากใครไม่อยากจะยุ่งยากกับการถอด ประกอบ เดินสายหรือมีฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนเกินไป พีซีรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ เพราะง่ายตั้งแต่ประกอบ ไปจนถึงการใช้งาน กล้องชัด ความลื่นไหลของการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะงานเอกสาร ท่องเว็บ เทรดหุ้น ดูคริปโตหรือจะดูหนัง 4K ระบบก็อยู่ในระดับที่พร้อม แต่ถ้าจะให้ดี อัพเกรดเพิ่มความจุ SSD และใส่แรมเป็น 16GB ก็จะทำให้งานต่างๆ ต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนการเล่นเกม เพราะกราฟิกเป็นแบบออนซีพียูเท่านั้น กราฟิกเกมเบาๆ ออนไลน์ให้ความสนุกได้ แต่ถ้าเกมจะโหดหนัก เลือกใช้งานพีซีมีการ์ดจอแยกจะเหมาะกว่า

นอกจากนี้หน้าจอที่ชัด มุมมองกว้างช่วยให้การใช้งานสะดวกกว่า ระบบความปลอดภัยมาแบบจัดเต็ม Tobii Aware ก็ใช้ง่ายมาก แทบไม่ต้องคีย์รหัสทุกครั้ง เพราะระบบจัดการ Lock และ Unlock ให้ทันที พอร์ตต่อพ่วงก็มีให้ใช้ครบครัน โดยเฉพาะพอร์ต USB Type-A ก็มีให้ถึง 5 พอร์ต และมี USB-C มาให้อีก เลือกติดตั้งอุปกรณ์ได้บนพื้นที่โต๊ะตามความเหมาะสม และที่ดูน่าสนใจก็ตรงมี Windows 11 Home มาให้ เปิดเครื่องก็พร้อมใช้งานได้ทันทีอีกด้วย ในราคา 27,400 บาท ถือว่าน่าใช้งานไม่น้อยเลย

MSI PRO AP242 Series ราคา 27,400 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/nbsWTB

ติดตามโปรโมชั่นได้ที่:https://msi.gm/Promotionth
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIThailandOfficial
MSI Call Center: 02 409 2984(8.30 –17.30 น.)
#MSI #Monitor

รับเพิ่มฟรี! ของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ จาก MSI
เมื่อเขียนรีวิวการใช้งานสินค้าที่ร่วมรายการ
ดูเพิ่มเติมที่นี่: https://msi.gm/ShoutOutTH

from:https://notebookspec.com/web/674578-msi-pro-ap242-all-in-one-pc-2022

MSI Modern MD272QPW จอ 27″ IPS สีสันสดใส 2K ใหญ่เต็มตา มี KVM ทำงานหรือบันเทิงครบ

MSI Modern MD272QPW จอ 27″ 2K ใหญ่สะใจ IPS คมชัด หมุนได้ 4 ทิศทาง KVM สลับภาพตามใจ

MSI Modern MD272

MSI Modern MD272QPW จอคอมพื้นที่แสดงผล 27” พาแนล IPS คมชัดสดใส Resolution 2K เหมาะทั้งทำงาน และเล่นเกม เพราะสีสันสดใส มุมมองกว้าง พร้อมฟีเจอร์ KVM สลับใช้พีซีได้ 2 เครื่อง ด้วยเมาส์ คีย์บอร์ดแค่ชุดเดียว เสริมลำโพงเสียงเร้าใจมาด้วย ให้พอร์ต Input ครบครัน รวมถึง USB-C ที่ชาร์จไฟ PD ได้ แถมยังมีรางวัลการันตี Red Dot Award 2021 แต่จอรุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่ใหญ่ แต่ยังใช้งานง่าย ฟังก์ชั่นก็เยอะ ปรับเลื่อนได้ 4 ทิศทาง ความละเอียด 2K แถมยังเป็น IPS และทีเด็ดอยู่ที่สลับใช้ 2 Device กับการรับประกัน On-site pickup and return แบบที่คุณไม่ต้องยกไปซ่อม เพราะทีม service ของ MSI จะเข้ามารับถึงบ้านเลย โดยจอรุ่นนี้ราคา 10,900 บาทเท่านั้น


MSI Modern MD272 จอ IPS 27″ ใหญ่สะใจ


จุดเด่น

Advertisementavw
  • พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่
  • ให้ความละเอียดระดับ 2K 1440p
  • ปรับหมุนจอได้ 4 รูปแบบ
  • มีลำโพงในตัว เหมาะกับความบันเทิง
  • มีเทคโนโลยีถนอมสายตา
  • ฟีเจอร์ KVM ช่วยสลับการใช้งานระหว่างพีซีได้
  • มี USB-C รองรับ PD 65W
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ติดตั้งได้แทบไม่ต้องใช้เครื่องมือ

ข้อสังเกต

  • อัตรารีเฟรชเรต 75Hz มาตรฐานจอทำงาน
  • น่าจะมีโพรไฟล์ Game เพิ่มมาใน Picture mode

Specification

MSI Modern MD272QPW Description
PANEL SIZE 27″
PANEL RESOLUTION 2560 x 1440 (WQHD)
REFRESH RATE 75Hz
RESPONSE TIME 4ms
PANEL TYPE IPS
BRIGHTNESS (NITS) 300 cd/m2
VIEWING ANGLE 178°(H) / 178°(V)
ASPECT RATIO 16:9
CONTRAST RATIO 1000:1 (TYP)
SRGB 95% (CIE 1976)
SURFACE TREATMENT Anti-glare
VIDEO PORTS 1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2),
1x Type C (DP Alternate) with 65W power delivery
USB PORTS 1x USB 2.0 Type B,
2x USB 2.0 Type A
AUDIO PORTS 1x Headphone-out
SPEAKER 2x 2W
ADJUSTMENT (TILT) -5° ~ 20°
(SWIVEL) -30° ~ 30°
(PIVOT) -90° ~ 90°
(HEIGHT) 0 ~ 110mm
Dimension (W) 613.5 x (H) 401.5 x (D) 200.81mm
WEIGHT 5.85 kg
Note HDMI: 2560 x 1440 (Up to 75Hz)
DiaplayPort: 2560 x 1440 (Up to 75Hz)
Type-C: 2560 x 1440 (Up to 75Hz)

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


Install

MSI Modern MD272

หลายครั้งที่การประกอบจอ ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดใจ เพราะอย่างคุณผู้หญิงบางท่าน หรือคนที่ไม่คุ้นกับการใช้เครื่องมือ ก็ไม่อยากทำ แต่สำหรับจอ MSI Modern MD272QPW ง่ายกว่าที่คุณคิด ชนิดที่มือใหม่ก็ประกอบเองได้ แทบไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด เสร็จใน 4 ขั้นตอนนี้เลย

MSI Modern MD272

1.เริ่มแรกให้แกะตัวจอออกจากล่องโฟม แล้วหาที่เอาจอมาวางนอน โดยหันทางด้านหลังจอให้ขึ้นมา เพื่อทำการประกอบ ทางที่ดีควรหาอะไรวางรองหน้าจอด้วย เพื่อความปลอดภัย ง่ายๆ เลยก็โฟมที่ให้มาก็ได้ครับ

MSI Modern MD272

2.จากนั้นเอาขาตั้งมาประกอบเข้ากับด้านหลังของจอ โดยให้สลักของขาตั้ง ต่อเข้ากับช่องด้านหลังให้แนยสนิท สังเกตได้จากตัวล็อคจะทำงาน ดึงตรงๆ ก็ไม่ขยับ

MSI Modern MD272

3.นำฐานสี่เหลี่ยม มาติดเข้ากับแกนขาตั้งแล้วหมุนล็อค จะใช้มือเปล่าก็ได้หรือถ้าไม่สะดวก ใช้ไขควงแบนก็ไขให้แน่นได้เช่นกัน

MSI Modern MD272

4.วางบนโต๊ะ ลองขยับดูว่าแน่นหนาดีหรือไม่ จากนั้นเตรียมต่อสายต่างๆ เข้าไปยังพอร์ตด้านหลังของจอ MSI Modern ได้เลย


Design

MSI Modern MD272

MSI ดีไซน์จอ Modern series รุ่นนี้มาในโทนสีขาว เพื่อเอาใจคนทำงาน และการให้เข้ากับดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ในบ้านหรือที่ทำงานได้อย่างลงตัว จะวางบนโต๊ะสีดำ หรือสีขาว ก็ดูสวยสบายตามากขึ้น

MSI Modern MD272

สังเกตที่กรอบของหน้าจอทั้ง 3 ด้าน บน-ข้างซ้าย-ขวา มีความบางประมาณ 6-7mm เท่านั้น ทำให้รู้สึกได้พื้นที่ทำงานแบบเต็มๆ ตามากขึ้น

MSI Modern MD272

ขอบด้านล่าง เป็นจุดที่รับน้ำหนัก และมีชุดควบคุม OSD พร้อมปุ่ม แต่ก็มีความหนาประมาณ 1.6cm เท่านั้น

MSI Modern MD272

พาแนลเป็นแบบ Anti-Glare ดูสบายตา ลดแสงสะท้อนไปได้เยอะ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในสำนักงาน แล้วเลือกที่นั่งไม่ได้ การที่ต้องเจอกับแสงธรรมชาติ หรือสภาพแสงโดยรอบเยอะ จอด้านแบบนี้ ช่วยให้มองได้ชัดเจนมากขึ้น และการรบกวนน้อยลง

MSI Modern MD272

ความละเอียดจอรุ่นนี้มีสูงถึง 2560×1440 หรือ 2K นั่นเอง ช่วยเพิ่มพื้นที่การทำงานและความบันเทิงในหลายๆ ด้านได้ดี ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์สำนักงาน Word, Excel หรือ PPT แต่คุณยังจะเล่นเกมที่มุมมองกว้างมากขึ้น อีกทั้งการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง ก็ยังดูได้อย่างเต็มตา

MSI Modern MD272

ค่าความสว่างหรือ Brightness ก็สูงถึง 300cd/m2 เลยทีเดียว ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะคุณจะสามารถใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีแสงมากหรือแสงน้อย โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถควบคุมแสงได้เลย

MSI Modern MD272

โดยแถบด้านล่างนี้ ยังมีสติ๊กเกอร์บอกฟีเจอร์บนจอรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น เป็นจอที่คว้ารางวัลระดับโลก Red Dot 2021 อธิบายตรงนี้ก่อนว่า Red Dot award นี่ ถือเป็นที่สุดแห่งรางวัล ที่นักออกแบบในสายต่างๆ คาดหวังจะให้ผลิตภัณฑ์ของตน ได้มีโอกาสติดตรานี้ เพราะเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ์ แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นในด้านต่างๆ และการันตีด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ที่มาเป็นกรรมการตัดสิน และเป็นเครื่องยืนยันถึงดีไซน์ของจอ MSI รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี

MSI Modern MD272

บรรดาเทคโนโลยี ที่ช่วยในการถนอมสายตาให้กับผู้ใช้ ซึ่งมีอยู่บนจอรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น Eye Care, Anti-Flicker, Less Blue Light Pro โดยที่ Less blue light PRO นี้ ข้อดีคือ คุณจะสามารถมองเห็นภาพที่สดใส ไม่ผิดเพี้ยน เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ใช้งานจ้องจอนานๆ เช่น ทำเอกสาร ท่องอินเทอร์เน็ต เล่นหุ้นหรือเขียนโปรแกรมก็ตาม จะสบายตามากขึ้น

MSI Modern MD272

ขยับมาอีกหน่อย ก็จะเป็นเรื่องพอร์ต USB-C ที่ติดตั้งมาด้วย รองรับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์ 65W PD ไม่ว่าจะเป็น มือถือ หรือแท็ปเล็ตก็ตาม รวมถึงใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ KVM ในการต่อพ่วงพีซีหรือโน๊ตบุ๊คตัวที่ 2 ก็ได้ โดยจะสามารถสลับใช้เมาส์-คีย์บอร์ดชุดเดียวกัน ด้วยการตั้งค่าแบบง่ายๆ บนซอฟต์แวร์ MSI Productivity Intelligence นั่นเอง

สุดท้ายคือ เรื่องของลำโพง 2W จัดมาให้ทั้งด้านซ้ายและขวา บริเวณด้านใต้ของจอรุ่นนี้ คุณภาพเสียงจัดอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ให้ระยะกับระดับเสียง เหมาะสำหรับการดูหนัง เล่นเกม และการสนทนาได้ดีพอสมควร แทบไม่จำเป็นต้องหาลำโพงมาเพิ่มเติม แต่ที่ MSI เติมเข้ามาให้คือ ช่องต่อหูฟัง 3.5mm สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

MSI Modern MD272

ขยับมาที่ตัวจอ ขาตั้งและฐาน ตัวฐานมีขนาดกว้าง ยาวประมาณ 20 x 23cm ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็รับการขยับหน้าจอและให้สมดุลได้เป็นอย่างดี

MSI Modern MD272

ขาตั้งสูง 36cm เลื่อนจอขึ้น-ลงได้ที่ระดับ 11cm ตามมาตรฐาน รองรับการทำงานในแบบต่างๆ เพราะบางคนสะดวกกับการนั่ง หรือบางครั้งก็จะยืน เมื่อต้องแนะนำข้อมูลหรือพรีเซนท์งาน หรือเอาไปใช้ในอีเวนท์ต่างๆ ก็สะดวก

MSI Modern MD272

นอกจากนี้ยังให้คุณปรับมุม ก้ม-เงย ได้ที่ -5 – 20 องศา แม้จะดูไม่ได้ต่างไปจากจอพื้นฐานทั่วไป แต่เมื่อมารวมกับการปรับเลื่อนขึ้น-ลงได้ และการ Pivot ก็ทำให้เพิ่มความสะดวกสบาย และยืดหยุ่นได้ไม่น้อยเลย

MSI Modern MD272

บางโอกาสที่คุณจะต้องพรีเซนท์งานให้กับลูกค้าได้ดู หรือเป็นการเรียนการสอน คนข้างๆ ก็สามารถเห็นได้ชัดกว่า นอกเหนือจากพาแนล IPS ที่คมชัดแล้ว ตัวฐานยังหันซ้ายขวา ได้ด้านละ 30 องศา ทั้งสีและภาพไม่ผิดเพี้ยน

MSI Modern MD272

จอ MSI รุ่นนี้ ยังรองรับการปรับหมุนจอแบบ Pivot หรือปรับมาเป็นแนวตั้งด้านละ 90 องศา เพื่อให้ใช้งานในด้านต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว และยังใช้ง่าย มีฐานจอแข็งแรงรองรับน้ำหนัก ให้สมดุลคุณปรับเลื่อนได้สะดวกสบาย


Port connector

MSI Modern MD272

พอร์ตสัญญาณ Input อยู่ด้านใต้ของตัวจอนี้ คุณจะเห็นพอร์ตต่างๆ มากมาย ไล่มาจากด้านซ้าย DC-in, HDMI, DiplayPort, USB-C, Headphone-out, USB-B สำหรับต่อคอม และ USB Type-A 2 พอร์ตสำหรับเมาส์-คีย์บอร์ด ถ้าคุณอยากจะใช้งานให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ผมแนะนำดังนี้ครับ ว่าต้องต่ออะไร

MSI Modern MD272

พอร์ต HDMI และ DisplayPort เลือกได้ตามความเหมาะสม เพราะบางคนมีพีซีที่ต่อได้ทั้ง 2 แบบ

MSI Modern MD272

พอร์ต USB-B ที่มีสายมาให้ในกล่อง นำมาต่อกับพีซีได้เลย สายนี้จะให้คุณใช้งานจอร่วมกับซอฟต์แวร์ได้สะดวก

MSI Modern MD272

MSI Modern MD272QPW ให้พอร์ต USB-C มาด้วย ต่อสายเผื่อเอาไว้ใช้งานได้เลย แบบแรก ต่อกับโน๊ตบุ๊คหรือพีซีที่เป็นเครื่องที่ 2 คุณจะสามารถสลับการใช้งานระหว่างพีซีทั้ง 2 เครื่องได้ทันที ร่วมกับฟีเจอร์ KVM โดยใช้เมาส์-คีย์บอร์ด ร่วมกันได้ และฟังก์ชั่นที่สองคือ ทำหน้าที่เป็น PD charge 65W เอาไว้ชาร์จไฟให้กับมือถือหรือแท็ปเล็ตได้อีกด้วย

MSI Modern MD272QPW 4

และที่น่าสนใจคือ ในขณะที่คุณใช้งาน KVM Switch ด้วยการต่อสาย USB-C จากพอร์ตบนจอ MSI Modern รุ่นนี้ มายังพอร์ต Thunderbolt 4 หรือ USB-C บนโน๊ตบุ๊คที่รองรับ ไม่เพียงแค่การสลับหน้าจอกับพีซีที่คุณมีอยู่ เพื่อแสดงผลบนหน้าจอเท่านั้น แต่ยังเป็นการชาร์จไฟให้กับโน๊ตบุ๊คไปพร้อมกันได้อีกด้วย โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊คที่รองรับการชาร์จแบบ 65W ตัวอย่างเช่น MSI Modern 14 ที่เรานำมาใช้ร่วมกันนี้

MSI Modern MD272QPW 12

โดยโน๊ตบุ๊คขึ้นสถานะ Charging ในขณะที่ทำงานร่วมกับสาย USB-C ที่ต่อเข้ากับจอ MSI ในฟังก์ชั่น KVM Switch ใช้ไป ชาร์จไป สะดวกทีเดียว

MSI Modern MD272QPW 10

โดยหากคุณต้องการใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ สำหรับการโอนถ่ายข้อมูลและการชาร์จไฟ แนะนำว่าให้เลือกสาย USB-C ที่เหมาะสมในการใช้งาน โดยสายชาร์จจะต้องรองรับการชาร์จเร็วในรูปแบบของ PD Charger 65W ขึ้นไปนี้ ควรมีสัญลักษณ์ที่แสดงให้ที่สายว่า USB-C เส้นนี้รองรับการแสดงผลหน้าจอได้ด้วย ซึ่งจะระบุเอาไว้ที่หน้ากล่อง หรือเช็คดูว่า รองรับการชาร์จไว ที่รองรับการจ่ายกระแสไฟได้ตั้งแต่ 3A-5A หากคุณต้องการความสะดวกในการจัดเก็บ อาจจะเลือกความยาว 1-2 เมตร ที่ให้ความสะดวก ไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า แต่ถ้าคุณต้องต่อกับอุปกรณ์ที่ตั้งห่างออกไป 2-3 เมตรกำลังดี แต่ไม่ควรเกิน 3 เมตร เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ง่าย เวลาที่คุณเคลื่อนย้ายหรือเกิดการพับหักงอได้มากกว่า

MSI Modern MD272

USB Type-A เอาไว้ต่อเมาส์ คีย์บอร์ด ได้ทั้งแบบ มีสายและไร้สาย มีให้ถึง 2 พอร์ตด้วยกัน สุดท้ายคือ ช่อง Headphone-out ในกรณีที่คุณ ต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออยากได้รายละเอียดในการฟังมากขึ้น ต่อหูฟังที่ช่องนี้ได้เลยครับ


OSD settings

MSI Modern MD272

การตั้งค่าก็ง่าย ด้วยการใช้ปุ่ม OSD ทั้ง 4 ปุ่ม จะอยู่ด้านใต้ของจอ ไปทางขวามือ สามารถกดปุ่มเพื่อควบคุมการทำงานของ OSD settings ได้เลย

MSI Modern MD272

ในการใช้ปุ่มนั้น M = เริ่มใช้งานเมนู และย้อนกลับ ส่วนเครื่องหมาย < และ > ใช้ในการเลื่อนซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ตามแต่ละเมนู สุดท้ายคือ ปุ่ม E = Enter เพื่อเข้าสู่เมนูนั้นๆ หรือเป็นการเลือกฟังก์ชั่นเพื่อใช้งานครับ

MSI Modern MD272

มีเมนูหลัก 5 รายการ และยังมีโหมดภาพให้เลือกถึง 7 รูปแบบด้วยกัน และยังปรับได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Eco, User, sRGB, Anti-Blue, Movie, Office และ Black-White

MSI Modern MD272

การปรับแต่งไม่ได้ซับซ้อน แม้จะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็เป็นพื้นฐานของจอโดยทั่วไป เช่น การตั้ง Response time หรือ Screen size แต่จะมีฟีเจอร์อย่าง KVM เพิ่มเติมเข้ามา ตรงนี้คุณสามารถตั้งเป็นแบบ Auto ได้เลย กรณีที่เดิมคุณต่อกับพีซีผ่านทาง HDMI หรือ DisplayPort อยู่แล้ว เพราะระบบจะตรวจเช็คสัญญาณจาก USB-C ให้อัตโนมัติ

MSI Modern MD272

ในหัวข้อ Image ก็จะมีให้ตั้งค่าเกี่ยวกับภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast หรือฟีเจอร์อย่าง Image Enhancement ในการเพิ่มระดับความสดใสของภาพให้มากขึ้น

MSI Modern MD272

Low Blue Light ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า หากต้องการใช้งานให้ยาวนานขึ้น โดยที่จอ MSI Modern MD272QPW ยังให้เทคโนโลยีอย่าง Less Blue Light Pro ในการลดแสงสีฟ้า แต่ไม่ทำให้สีสันของภาพผิดเพี้ยนไปมาด้วย เหมาะกับคนที่ท่องอินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานๆ อย่างยิ่ง

MSI Modern MD272

ในห้วข้อ Settings ก็ยังมีให้เลือกส่วนของภาษาในการแสดงผลบน OSD นี้ รวมไปถึงการปรับความเข้ม ระยะเวลาการแสดงผล รวมถึงระดับเสียง

MSI Modern MD272

คุณสามารถควบคุมระดับเสียงของจอให้เพิ่ม-ลดได้จาก Audio Volume นี้ได้เลย ค่อนข้างง่ายมากๆ และถ้าอยากจะใช้ปุ่มในการปรับได้อย่างรวดเร็ว สามารถตั้งค่า Hotkey บนหน้าจอได้อีกด้วย แม้ว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับปุ่มควบคุมการใช้งานแบบนี้ แต่เชื่อได้เลยว่า ถ้าได้ลองใช้ไม่กี่ครั้ง ก็สามารถใช้งานได้คล่อง เพราะเมนูที่ไม่ซับซ้อน และเป็นกันเองมากๆ ครับ


MSI P.I (Productivity Intelligence)

และคีย์หลักที่สำคัญ ที่คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากจอ MSI MD272 รุ่นนี้มากขึ้นก็คือ การใช้ซอฟต์แวร์ MSI P.I (Productivity Intelligence) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้คุณควบคุมการใช้งานของจอนี้ และเพิ่มฟีเจอร์ในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์สำคัญอย่าง KVM switch

MSI Modern MD272

โดยที่ KVM switch นี้ ช่วยให้คุณควบคุมการทำงานของพีซีและโน๊ตบุ๊คเครื่องที่ 2 ร่วมกันได้ โดยใช้เมาส์-คีย์บอร์ดชุดเดียวเท่านั้น เช่น คุณมีพีซีอยู่เครื่องหนึ่งเป็นหลัก ใช้ในการเล่นเกม และคุณมีโน๊ตบุ๊คที่ใช้ในการทำงานอยู่ด้วย ซึ่งมักจะพกพาเดินทางไปข้างนอกบ่อยครั้ง หากเป็นจอทั่วไป คุณก็ต้องถอดสาย HDMI จากจอมาต่อเข้าโน๊ตบุ๊ค และหาเมาส์ คีย์บอร์ดมาต่อเพิ่ม ซึ่งก็จะดูวุ่นวายไม่น้อย แต่ฟีเจอร์ KVM นี้ ให้คุณสลับการใช้งานระหว่างพีซี และโน๊ตบุ๊คบนหน้าจอเดียวกันได้เลย ง่ายและสะดวกมากๆ วิธีใช้ก็ง่ายแต่การใช้ KVM นี้ เงื่อนไขที่สำคัญคือ โน๊ตบุ๊คหรือพีซีเครื่องที่จะนำมาใช้ ต้องมีพอร์ต USB-C สำหรับการแสดงผลด้วย

MSI Modern MD272

ให้ติดตั้งสาย USB ที่เป็นเมาส์และคีย์บอร์ดบนพอร์ต USB Type-A ด้านใต้ของจอภาพ จะเป็นแบบมีสาย หรือไร้สายก็ได้เช่นกัน

MSI Modern MD272

ให้ดาวน์โหลดโปรแกรม MSI Productivity Intelligence จากเว็บไซต์ MSI แล้วติดตั้งให้เรียบร้อย

MSI Modern MD272

อย่าลืมต่อสาย USB-B จากจอ ไปยัง USB-A บนพีซี ซึ่งทาง MSI เตรียมมาให้ในกล่องแล้ว

MSI Modern MD272

สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ สาย USB-C to -USB-C ต่อสายจากพอร์ต USB-C จากจอ MSI ไปยังโน๊ตบุ๊ค

MSI Modern MD272

เปิดโปรแกรม MSI P.I. แล้วเข้าไปที่การตั้งค่า เครื่องหมายรูปเฟืองด้านบน เมื่อหน้าต่างนี้ปรากฏ ให้เลือกที่ Hotkey Settings

MSI Modern MD272

ในหน้า Hotkey นี้ ให้เข้าไปปรับใน Input Source จากนั้นให้ตั้งค่าสลับสัญญาณ Input ด้วยคีย์ลัดจะสะดวกที่สุด ในที่นี้ เราตั้งเป็น Shift + Right arrow ในการสลับใช้งานระหว่างพีซีและโน๊ตบุ๊ค ในการขึ้นจอภาพมาบน MSI Modern MD272QPW รุ่นนี้

MSI Modern MD272

ในการสลับใช้งานระหว่างพีซีทั้งสองเครื่อง ให้มาแสดงผลบนหน้าจอนั้น คุณสามารถใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ที่ติดตั้งอยู่บนจอได้เลย ไม่ต้องไปเพิ่มอย่างละชุดให้วุ่นวาย แต่ย้ำว่าคุณจะต้องต่อเมาส์ และคีย์บอร์ดผ่านทางพอร์ต USB Type-A ที่อยู่ด้านหลังจอเท่านั้น

MSI Modern MD272

นอกจากนี้ยังใช้ซอฟต์แวร์ MSI นี้ ในการปรับแต่งโหมดการใช้งานได้อีกมากมาย เช่น โหมดการใช้งาน คุณสามารถตั้งเป็นโพรไฟล์การปรับแต่งค่าของคุณไว้ใช้ได้ เพื่อความสะดวก

MSI Modern MD272

Split Window: ใช้การแบ่งหน้าจอ หรือปรับหน้าต่างการใช้งาน คล้ายกับบน Windows แต่บอกเลยว่าสะดวกกว่าเยอะ เพราะมีให้เลือกตั้งแต่ 1 หน้าต่าง ไปจนถึงแบ่ง 5 หน้าต่าง 13 รูปแบบเลยทีเดียว

MSI Modern MD272

Tools: ปรับแต่งเมาส์ ให้เข้ากับสไตล์ การส่งสัญญาณภาพไปยังจออื่นๆ และการย่อ-ขยายหน้าจอ เพื่อการพรีเซนเทชั่นก็สะดวก และยังย่อขยายภาพบนจอได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ฟังก์ชั่น Magnifier ให้วุ่นวายแต่อย่างใด


Performance

MSI Modern MD272

เรื่องของพื้นที่การแสดงผลจัดเป็นสิ่งหนึ่งที่คนเลือกจอใหม่ต้องการ ไม่ว่าจะใช้ทำงาน การเรียน ท่องอินเทอร์เน็ตหรือจะเล่นเกมก็ตาม MSI Modern MD272QPW ไม่เพียงมาพร้อมพื้นที่แสดงผล 27″ ที่เรียกว่าใหญ่กว่าจอพื้นฐานที่หลายคนใช้กันอย่าง 22″-24″ อยู่มากพอสมควรเท่านั้น เรียกว่าคุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะคนที่ใช้งานจอภาพอยู่เป็นประจำ ก็จะเห็นรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้น แต่ข้อดีของจอคอม 27″ นั้น อยู่ที่คุณไม่ต้องถอยระยะออกจากจอมาเลย ถ้าเดิมคุณใช้จอ 24″ การขยับเก้าอี้ออกเล็กน้อย เพื่อให้คุณปรับสายตาในช่วงแรกๆ ก็เพียงพอแล้ว

และที่สำคัญจอคอม MSI รุ่นนี้ ยังให้ Resolution มากถึง 2560x1440p หรือ 2K จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชมภาพยนตร์ ทำงานเอกสาร หรือการท่องเอินเทอร์เน็ต และเล่นเกม เพราะคุณจะได้รายละเอียกที่มากขึ้น ด้วยความละเอียดที่มากกว่า Full-HD 1080p อยู่พอสมควร ซึ่งจะเห็นได้ชัด เมื่อคุณใช้จำนวน Cell ที่มากขึ้นบน Excel รวมถึงการมองเห็นพื้นที่ในสนามรบได้มากกว่าเมื่อเล่นเกม รวมถึงการชมวีดีโอสตรีมมิ่งก็ตาม

MSI Modern MD272

มาลองเล่นเกมกันก่อน แม้ว่าจอ MSI รุ่นนี้ จะไม่ได้อยู่ในซีรีส์ของจอเกมมิ่งโดยตรง แต่ในแง่ของความลื่นไหลของภาพก็จัดว่าไหลลื่น อีกทั้งสีสันก็สดใส ตรงนี้คุณสามารถเข้าไปปรับแต่งโทนของสีได้จาก OSD settings ของหน้าจอหรือซอฟต์แวร์ MSI P.I. ได้อีกด้วย น่าเสียดายที่ MSI ไม่ได้เพิ่มโพรไฟล์ของ Game มาด้วย แต่ก็ยังพอเซ็ตเรื่องของ temperature และ Image Enhancement ให้ภาพมีความโดดเด่นมากขึ้น อย่างที่ได้เห็นไปในเกม Forza Horizon 5 ที่เป็นเกมเน้นสีสันจัดจ้าน และจอ MSI ยังให้การแสดงผลออกมาได้ดีทีเดียว เรียกว่าแทบจะเทียบเท่ากับจอเกมมิ่งได้ หากเพิ่มฟีเจอร์บางส่วนเข้ามา

และพื้นที่การเล่นเกม ก็มองได้กว้างมากกว่า โดยเฉพาะในเกม PUBG และ DOTA2 ที่คุณจะได้เห็นภาพรวมของเกมและรายละเอียดโดยรอบได้ดีกว่าเดิม โดยใน PUBG นั้น หากเครื่องคุณแรงหน่อย ลองปรับ Render scale ให้มากกว่า 100 ขึ้นไป เพื่อให้เห็นฉากในระยะไกลได้ดีขึ้น และคุณเล่นบน 2K Res. ก็จะเห็นความแตกต่างจากจอขนาดเล็กเดิมๆ ของคุณได้อย่างชัดเจน และก็จะเป็นแบบเดียวกันในหลายๆ เกม สร้างความได้เปรียบในการเล่นกับเกมที่มีสมรภูมิกว้างๆ หรือในการเล่นสไนป์ยิงจากระยะไกล

MSI Modern MD272

ในการดูวีดีโอสตรีมมิ่ง ผมถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ MSI Modern MD272QPW รุ่นนี้ ทำได้ดีเลยทีเดียว เพราะคุณสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่างๆ บนจอได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่การแสดงผลขนาดใหญ่ คู่กับความละเอียด 2K 1440p ซึ่งจะได้เห็นภาพจากวีดีโอความละเอียดสูงได้ดีขึ้น และต่อเนื่องไหลลื่น สีสันสดใส สามารถเลือกโพรไฟล์ Cinema จาก OSD ได้เลย และตื่นตาตื่นใจมากขึ้นกับภาพแบบเต็มจอ เรียกว่าแทบจะไร้ขอบ สังเกตจากภาพด้านบนนี้ได้ว่า เมื่อคุณชมภาพยนตร์แบบที่แทบไม่มีขอบจอ ดูไม่เกะกะสายตา และยังได้เรื่องของความคมชัดด้วยพาแนลที่เป็น IPS อีกด้วย

MSI Modern MD272

อีกจุดหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ เรื่องของการแสดงผลสีดำ ในฉากมืด มีการไล่โทนสีความลึกของภาพได้ดี ตรงจุดนี้มีผลทั้งในเรื่องของการดูหนัง และการดูภาพการเกลี่ยที่เรียบเนียน ทำให้ภาพดูน่าสนใจและสมจริงมากยิ่งขึ้น

และถ้าใครทำงานเอกสาร หรือท่องอินเทอร์เน็ต และงานในด้านภาพและวีดีโอ คุณต้องการจอแนวตั้ง ที่ใช้ในการดูเอกสาร ไฟล์งาน Excel หรือจะพรีวิววีดีโอสำหรับเป็นจอวางฟุตเทจ รวมถึงคนที่ท่องเน็ตเป็นประจำ แต่ไม่อยากสกอล์เมาส์บ่อยๆ แนะนำฟีเจอร์ในการปรับเป็น Pivot เพราะตัวจอทำได้แบบ 90 องศาทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา ใช้ง่าย ปรับในซอฟต์แวร์ก็ได้เช่นกัน เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณจะไม่ได้เห็นบนจอขนาดใหญ่แบบนี้มากนัก

MSI Modern MD272

ก็ถือว่าจอ MSI Modern MD272QPW มีหลายสิ่งให้ผู้ใช้ได้อย่างครบเครื่องเลยทีเดียว ตอบโจทย์ในการใช้งานในแง่ต่างๆ ได้ดี ทั้งเรื่องของความละเอียด พื้นที่แสดงผล และความไหลลื่นของภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่การทำงานในรอบวันเท่านั้น แต่ยังใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ทั้งการชมภาพยนตร์ และการเล่นเกม การปรับแต่งก็ยังง่าย ด้วยเมนูที่เป็นกันเอง กับคนที่เริ่มต้นจอขนาดใหญ่ หรือเป็นจอคอมตัวแรก ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย


Conclusion

MSI Modern MD272

หลังจากที่เราได้ลองใช้จอ MSI Modern MD272QPW รุ่นนี้มาสักระยะ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ มองเห็นได้เต็มตามากขึ้น ทั้งในเรื่องของความบันเทิงและการทำงาน ยิ่งเป็นเรื่องของงาน การทำตาราง หรือการตกแต่งภาพ จอใหญ่ๆ แบบนี้ เห็นรายละเอียดได้ชัดกว่า อีกทั้งให้การวางเครื่องมือสะดวกขึ้นอีกด้วย การพรีวิวภาพหรือวีดีโอก็มองได้สะดวก ส่วนการเล่นเกม ดูหนัง การเป็นจอ 2K ก็ยิ่งช่วยให้เห็นรายละเอียดที่มากขึ้น อย่างที่ได้เห็นไปในการเล่นเกม PUBG หรือการดูหนัง 4K เป็นต้น

แต่สิ่งที่สำคัญคือ ฟีเจอร์ต่างๆ ในการปรับแต่งเพื่อใช้งาน เช่น OSD settings ก็มีโหมดภาพให้ได้เลือกอยู่มากมาย หรือใครที่ใช้คอมพีซีหรือโน๊ตบุ๊คคู่กัน มากกว่า 1 ตัว การใช้ KVM switch สลับหน้าจอใช้งานร่วมกัน และใช้เมาส์คีย์บอร์ดชุดเดียวเท่านั้น อีกทั้ง MSI ก็ยังใส่ใจให้เทคโนโลยีถนอมสายตาอย่าง Anti-Flicker, Less Blue Light Pro มาอีกด้วย ทั้งในแง่ของคุณภาพ เทคโนโลยี ฟีเจอร์ที่จัดเตรียมมาให้ครบครันแบบนี้ ถ้าว่ากันที่ฟีเจอร์และลูกเล่นที่ใส่มานี้ ในงบประมาณ 10,900 บาท ก็ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบจอในหลายรุ่น ที่ระดับราคาไล่เลี่ยกันในท้องตลาด

มาพร้อมการรับประกันอีก 3 ปีเต็ม พร้อมบริการแบบ On-site pickup and return รับเครื่องมาซ่อม พร้อมส่งคืน แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ใครที่มองจอขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง ประกันดี ฟีเจอร์แน่น MSI Modern MD272QPW รุ่นนี้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ


MSI MODERN MD272 Series ราคา 10,900 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม
ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI Modern MD272QPW
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/nbsWTB

ติดตามโปรโมชั่นได้ที่:https://msi.gm/Promotionth
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIThailandOfficial
MSI Call Center: 02 409 2984(8.30 –17.30 น.)
#MSI #MONITOR

รับเพิ่มฟรี! ของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ จาก MSI
เมื่อเขียนรีวิวการใช้งานสินค้าที่ร่วมรายการ
ดูเพิ่มเติมที่นี่: https://msi.gm/ShoutOutTH

from:https://notebookspec.com/web/670937-msi-modern-md272qpw-27-ips-2k

MSI PRO MP243 จอคอม 24″ IPS ถนอมสายตา Picture Mode ปรับแต่งได้

MSI PRO MP243 จอคอมถนอมสายตา IPS 24″ ทำงานหรือบันเทิงครบ งบ 5,000 บาท

MSI PRO MP243

MSI PRO MP243 วันนี้เราอยู่กับจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่สำหรับผู้ใช้งานเป็นเวลานานๆ กับหน้าจอสีสดใส ดีไซน์สวย พาแนล IPS พื้นที่แสดงผล 24” ความละเอียด Full-HD เหมาะทั้งการทำงานและด้านความบันเทิง รวมถึงความเอาใจใส่ที่ MSI เตรียมไว้ให้กับฟีเจอร์ MSI Eye Care สำหรับคนที่ต้องทำงานที่หน้าจอนานๆ ปรับแต่งจอผ่านทาง OSD ได้ การรับประกัน 3 ปี กับราคาที่สบายกระเป๋า มีความพร้อมมาในฟังก์ชั่นที่หลากหลาย รวมถึงเทคโนโลยี ในการถนอมสายตากับราคาที่น่าสนใจในระดับ 5,000 บาท ซึ่งได้เป็นพาแนล IPS ในด้านของเสียงยังมีลำโพงมาในตัว พร้อมสำหรับการเล่นเกม และชมภาพยนตร์ ไปจนถึงการสนทนา ประชุมออนไลน์ เราไปดูตัวจริงกันดีกว่าครับ เพราะยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมายบนจอ MSI รุ่นนี้

MSI PRO MP243 จอ IPS 24″ Full-HD


จุดเด่น

Advertisementavw
  • มีฟีเจอร์ถนอมสายตา
  • ปรับแต่ง OSD ได้ง่าย รองรับภาษาไทย
  • พอร์ตมีให้ครบ HDMI และ DP
  • ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา
  • ให้ภาพที่คมชัด มุมมองกว้าง
  • ลดแสงสะท้อนได้ดี
  • มี Picture mode ให้เลือกใช้

ข้อสังเกต

  • ปรับได้เพียงแค่มุมก้ม-เงยเท่านั้น

Specification

MSI PRO MP243
SCREEN SIZE 23.8″ (60cm)
ACTIVE DISPLAY AREA 527.04mm x 296.46mm
CURVATURE Flat
PANEL TYPE IPS
RESOLUTION 1920×1080 (FHD)
ASPECT RATIO 16:9
DYNAMIC REFRESH RATE TECHNOLOGY FreeSync
SDR BRIGHTNESS (NITS) 250
CONTRAST RATIO 1000:1
DCR (DYNAMIC CONTRAST RATIO) 100000000:1
SIGNAL FREQUENCY 30~85.5 KHz(H) / 48~75 Hz(V)
REFRESH RATE 75Hz
RESPONSE TIME (GTG) 5ms
RESPONSE TIME (TR + TF) 14ms
VIEW ANGLES 178°(H)/178°(V)
SURFACE TREATMENT Anti-glare
ADJUSTMENT (TILT) -5° ~ 20°
VESA MOUNTING 75x75mm
HDMI™ VERSION 1.4 x1
DISPLAYPORT VERSION 1.2a x1
HEADPHONE-OUT 1
LOCK TYPE Kensington Lock
SPEAKER 2
WEIGHT (NET) 2.95 Kg.
Price 5,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


Unbox

MSI PRO MP243

กล่องของจอ MSI PRO MP243 รุ่นนี้ ขนาดไม่ใหญ่มาก ออกแนวบาง กระทัดรัด เรียกว่ามาซื้อที่ห้าง เดินถือกลับได้สบาย

MSI PRO MP243

อุปกรณ์และชิ้นส่วนภายในกล่อง ประกอบไปด้วย ตัวจอสีขาว แต่ก็มีรุ่นสีดำมาให้เลือกด้วย และขาตั้ง รวมถึงฐานสี่เหลี่ยม แยกชิ้นเอาไว้อย่างเรียบร้อย

MSI PRO MP243

สาย HDMI ความยาวประมาณ เมตรเศษๆ เอาไว้รับสัญญาณจากพีซีหรือโน๊ตบุ๊คมาแสดงผล

อแดปเตอร์หรือตัวแปลงไฟ 2.5A ระดับ 30W ขนาดประมาณฝ่ามือ เคลื่อนย้ายง่าย ไม่เกะกะ และสายไฟ DC เรียกว่าพอให้มีใช้งานได้ครบครัน


Install

MSI PRO MP243

มาถึงการติดตั้ง MSI PRO MP243 มาในแบบที่มีชิ้นส่วนน้อย ประกอบง่าย แทบไม่ต้องใช้เครื่องมือ เพราะเป็นสลักเสียบต่อกันตั้งแต่ฐาน ไปจนถึงตัวจอ โดยเริ่มจากขาตั้ง ที่สามารถกดลงตัวฐาน ก็จะล็อคได้ทันที

MSI PRO MP243

ที่เหลือก็แค่นำขาตั้ง มาประกอบเข้าบริเวณด้านหลังของตัวจอ กดและดันเข้าไปในตัวล็อคของจอแบบตรงๆ ก็พร้อมสำหรับการใช้งาน

MSI PRO MP243

ประกอบเสร็จเรียบร้อย แบบไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด สะดวกรวดเร็ว มือใหม่ก็ทำเองได้ไม่ยุ่งยากครับ

MSI PRO MP243

เมื่อประกอบขาตั้งเสร็จแล้ว ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ โครงสร้างโดยทั่วไป จะปรับเลื่อนได้เล็กน้อย ในส่วนของหน้าจอ ปรับมุมก้ม-เงยได้

MSI PRO MP243

พอร์ตต่อพ่วง ประกอบไปด้วย – HDMI 1.4, DisplayPort 1.2, 3.5mm Line-out และ DC-In พร้อมกับ Kensington lock


Design

MSI PRO MP243

จอคอม MSI รุ่นนี้ให้พื้นที่แสดงผล 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p อัตรารีเฟรชเรต 75Hz เป็นพาแนลในแบบ IPS โดยถ้าเทียบกันกับจอทั่วไปที่เป็นแบบ TN หรือ VA แล้ว หลายท่านคงทราบดีว่า IPS จะมีมุมมองที่กว้าง และให้ความคมชัด แม้จะไม่ได้นั่งอยู่หน้าจอตรงๆ รวมถึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยังมองเห็นภาพและสีได้ถูกต้องคมชัด กับมุมมองซ้าย-ขวาระดับ 178 องศา IPS ให้สีค่อนข้างเที่ยงตรง จึงเหมาะกับการทำงาน กราฟิก ตกแต่งภาพ หรือตัดต่อวีดีโอ เล่นเกมก็ดี ส่วนอัตรารีเฟรชเรต อาจจะน้อยกว่าในแบบ TN หรือ VA อยู่บ้าง

ส่วน VA จะเป็นพาแนลที่เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ทำงาน เล่นเกม หรืองานทั่วไป เมีจุดเด่นที่ราคาไม่แพง ให้สีสันของภาพที่ดี อัตรารีเฟรชเรตสูง และมีค่า Contrast มากกว่า TN หรือ IPS จึงไม่ได้เน้นงานที่เจาะจงเรื่องคุณภาพสี แต่เน้นไปที่เกมและใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับพาแนล TN นั้น เป็นพาแนลที่เกมเมอร์ให้ความนิยม เพราะราคาประหยัด แต่ให้อัตรารีเฟรชเรต และ Response time ได้ดี แต่เรื่องสีสัน อาจจะด้อยกว่า IPS และ VA อยู่บ้าง โดยปัจจุบันก็ยังมีตัวเลือกให้ใช้งานอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะจอเกมมิ่ง ที่เสริมเทคโนโลยีด้านภาพมาให้ใช้เล่นเกมได้สนุกขึ้น

ด้านข้างก็ดูเรียบๆ สบายตา เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือในออฟฟิศได้ดี อาจจไม่ได้บางมากๆ เหมือนกับในจอเกมมิ่งบางรุ่นของ MSI แต่ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กระทัดรัด

MSI PRO MP243

ด้านหลังจะมีความโค้งเล็กน้อย จากขอบด้านข้าง มาถึงด้านหลัง ด้านบนมีช่องเล็กๆ ในการไหลเวียนอากาศ และจะเห็น VESA Mount 75mm รวมถึง Kensington lock ที่อยู่ด้านข้าง ใช้เป็นตัวล็อคกรณีที่นำออกไปใช้ตั้งบูธ วางคีออสหรือต้องการเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

MSI PRO MP243

ตัวฐานความสูงประมาณ 20cm และมีอุปกรณ์เล็กๆ เสริมมาให้ สำหรับใช้รวบสายไฟและสายสัญญาณ ให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น

MSI PRO MP243
MSI PRO MP243

ด้านหลังมี VESA Mount ขนาด 75 x 75mm. รองรับการติดตั้งบนขาแขวนหรือ Monitor Arm ได้อีกด้วย ใครที่เบื่อกับการวางจอบนโต๊ะ เน้นการแขวนบนขาหรือผนัง รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้เลย รวมไปถึงการติดตั้ง MiniPC อย่าง MSI CUBI 5 เป็นต้น

MSI PRO MP243

ตัวฐานเป็นสีขาว รูปทรงสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 25cm มีจุดยึดด้านใต้ ให้เกาะกับพื้นโต๊ะได้ดีพอสมควร แต่ตัวฐานจะเป็นแบบตายตัว ไม่มีจุดหมุนซ้าย-ขวา

MSI PRO MP243

ชุดจัดเก็บสายที่ทาง MSI เสริมเข้ามาให้ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การจัดระเบียบสายไฟและสายสัญญาณได้ดีไม่น้อยเลย

MSI PRO MP243

ลูกเล่นที่ MSI ใส่เข้ามาในจอรุ่นนี้ ก็คือ ช่องอเนกประสงค์ด้านล่างนี้ ให้คุณวางปากกา ยางลบ เครื่องใช้สำนักงาน รวมถึงมือถือ เอาไว้ประชุมออนไลน์ได้อีกด้วย อันนี้ว้าวมากๆ ครับ

MSI PRO MP243

แม้ว่าจะเป็นจอทำงาน และใช้งานทั่วไปภายในบ้าน แต่ก็พอจะให้ความยืดหยุ่นได้ดี สามารถปรับมุมก้ม-เงยได้ ประมาณ -5 ไปจนถึง 20 องศา ตามมาตรฐาน ให้มุมในการมองที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยืนหรือการนั่งก็สะดวก

MSI PRO MP243

ตัวอย่างเช่น การนำไปใช้นอกสถานที่หรือการตั้งคีออส สามารถวางบนโต๊ะ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นหรือพรีเซนเทชั่นสิ่งที่ต้องการได้ และคนที่เดินผ่านไปมา สังเกตเห็นได้ง่ายอีกด้วย แม้จะไม่ได้มีจุดหมุน แต่ด้วยน้ำหนักที่เบา ก็สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายได้ดี


OSD settings

MSI PRO MP243

ในการปรับแต่งหน้าจอ ใช้ปุ่มที่อยู่ใต้หน้าจอทางด้านขวา มีด้วยกัน 5 ปุ่ม สามารถกดปุ่มริมสุด M ในการเริ่มเมนู และ E ในการเข้าสู่เมนู และเป็นการเลือก ตกลง เพื่อใช้งานในแต่ละการตั้งค่าได้เลย ค่อนข้างง่าย ส่วนปุ่มตรงกลาง จะเป็นการเลื่อนซ้าย-ขวา และขึ้น-ลง

MSI PRO MP243

ในโหมดการใช้งานของ OSD settings มีเป็นภาษาไทยให้เลือกด้วย สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆ ก็ใช้งานได้สะดวกทีเดียว โหมดมืออาชีพหรือ Professional จะมีให้เลือก ปรับสี และความสว่าง รวมถึง Contrast เอาไว้เป็นโพรไฟล์ให้เลือกมากมาย เช่น Eco, User, sRGB หรือจะเป็นการดูหนัง ทำงาน เลือกจากตรงจุดนี้ได้เลย

MSI PRO MP243

มีให้แสดงอัตรารีเฟรชเรตบนหน้าจอได้ด้วย กรณีที่คุณเล่นเกม หรือในกรณีที่คุณอยากเห็นตัวเลขว่าภาพที่ได้มีความลื่นไหลมากเพียงใด

MSI PRO MP243

นอกจากนี้ยังปรับ Ratio หรือสัดส่วนของหน้าจอได้อีกด้วย มีให้เลือก 4:3 และ 16:9 เพราะซอฟต์แวร์บางอย่าง ยังคงใช้งานกับ 4:3 ที่เป็นสัดส่วนของจอแบบดั้งเดิม แต่ในส่วนของงานเอกสารหรือความบันเทิง สามารถใช้เป็น 16:9 ได้เลย

MSI PRO MP243

ในส่วนของภาพ หากคุณตั้งในโหมดเป็น User หรือผู้ใช้ ก็จะเข้ามาตั้งค่าเหล่านี้ได้ทั้งหมด เช่น ความสว่าง คอนทราส์ท ความชัดเจนหรือจะเป็นการเพิ่มคุณภาพของภาพและอุณหภูมิสีได้

MSI PRO MP243

การเพิ่มคุณภาพของภาพ สามารถนำมาใช้กับงานหรือความบันเทิงได้ในหลายๆ อย่าง เพื่อให้ภาพมีความคมชัด สีสดใสมากขึ้น เช่นในงานพรีเซนเทชั่นหรือการชมภาพยนตร์ เป็นต้น

MSI PRO MP243

นอกจากนี้หากต้องการปรับโทนของอุณหภูมิสี ก็มีฟังก์ชั่นให้กับผู้ใช้ กับบางคนที่ชอบโทนสีนุ่มๆ อย่างโทนสีอุ่น ออกเหลืองนิดๆ หรือจะเป็นโทนเย็น สีฟ้าที่ดูสบายตา เพิ่มความสว่างได้ หรือจะปรับเลื่อนไปตามแบบที่ต้องการได้เลย

MSI PRO MP243

แหล่งสัญญาณเข้า หรือ Signal Input บนจอรุ่นนี้ มีให้เลือกทั้งแบบ HDMI และ DP หรือ DisplayPort ตรงนี้ให้เปิดใช้ สแกนอัตโนมัติเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เพราะจอจะตรวจเช็คสัญญาณขาเข้าทุกครั้ง

MSI PRO MP243

ในการตั้งค่ายังมีรายละเอียดอีกมากมายเลยทีเดียว เช่น ภาษา เปิดให้หน้า OSD มีความจางหรือเข้มได้ตามชอบ และระยะเวลาในการแสดงผล รวมถึงการควบคุมระดับเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย


MSI Display Kit

MSI PRO MP243

นอกจากนี้ทาง MSI ยังมีซอฟต์แวร์จัดการ MSI Display Kit หรือใช้เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานให้คุณได้ดาวน์โหลดมาใช้อีกด้วย ซึ่งเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานหน้าจอ MSI PRO MP243 ได้มากขึ้น มีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วน ประกอบด้วย

  • Split Window: ใช้ในการแบ่งหน้าจอ คล้ายกับฟีเจอร์บน Windows แต่สะดวกกว่า เพราะเลือกรูปแบบได้และใช้ง่ายขึ้น
  • Display: ปรับแต่งรายละเอียด ของหน้าจอ
  • Color setting: ปรับแสง สี ความสว่างและ Picture mode
  • Tools: เครื่องมือสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เมาส์ คีย์บอร์ดและการแสดงผล
MSI PRO MP243

Split Window ให้คุณเลือกแบ่งหน้าจอได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาฟีเจอร์บนระบบปฏิบัติการ แบ่งได้ 4 รูปแบบ และเลือกการใช้จอ กรณีที่ต่อจากโน๊ตบุ๊คก็ยังเลือกสลับจอหลักจอรอได้อีกด้วย

MSI PRO MP243

Display setting เลือกการแสดงผลให้เป็นแนวตั้ง แนวนอน หรือค่าความละเอียด Resolution รวมถึงอัตรารีเฟรชเรต

MSI PRO MP243

ในส่วนของ Color ยังมี Picture mode เลือกโพรไฟล์การใช้งานได้มากมาย ทั้งทำงานหรือการเล่นเกม และความบันเทิงเช่นการชมภาพยนตร์ และยังตั้งให้ใช้กับแอพที่ต้องการได้อีกด้วย

MSI PRO MP243

สำหรับ Tools จะใช้ในการปรับแต่งเมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงการตั้งค่า Power setting และการปรับซูมย่อ-ขยายหน้าจอ และการส่งสัญญาณไปยังจอภายนอก


Performance

MSI PRO MP243

การแสดงผลถือว่าทำได้ดีทีเดียว และการใช้งานก็ง่ายดายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสายสัญญาณจากพีซีหรือโน๊ตบุ๊คมายังจอ MSI PRO MP243 เข้ากับพอร์ต HDMI หรือ DisplayPort ก็ตาม ตัวอย่างจากที่เรานำมาใช้ต่อจากโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 14 ผ่านทางพอร์ต HDMI

จากภาพที่เห็นได้จากการสตรีมมิ่ง เปิดไฟล์วีดีโอความละเอียด 4K และใช้งานแบบ Full screen ภาพที่ได้เรียกว่าแทบจะไร้ขอบ ให้ภาพเต็มจอ เหมาะกับการชมภาพยนตร์และการดูภาพ ซึ่งให้รายละเอียดได้ดีทีเดียว ซึ่งการเลือก Picture mode ในแบบ Cinema หรือภายนตร์ ให้ความสดใสของภาพได้ดี แต่ถ้าคุณชอบโทนของสีและความสว่างที่มากขึ้น แนะนำว่าให้ตั้งเป็น User หรือผู้ใช้ จากนั้นเข้าไปเพิ่มค่า Brightness และ Contrast ให้มากยิ่งขึ้น

MSI PRO MP243

ในโทนสีสันสดใสกับภาพที่มีความต่างของสีสัน โดยเฉพาะบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ก็ยังให้ความสดใส และแสดงออกมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ดังนั้นจะใช้ในการพรีเซนเทชั่นงาน หรือการชมภาพยนตร์ก็ดูลงตัวไม่น้อย ส่วนในฉากสีดำก็ดำมืดดี การไล่เฉดแสงเงาก็ดูกลมกลืน เหมาะกับการใช้งานในหลายๆ ด้านได้ดี

MSI PRO MP243

กลับมาในโหมดของการทำงานและท่องอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน ความสว่างสดใสของจอภาพก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การมองเห็นได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดีสำหรับคนที่อาจจะเน้นการอ่านหรือหาข้อมูลเป็นหลัก อาจจะเน้นที่การดูภาพที่สบายตา ยิ่งเป็นคนที่ต้องทำงานรายงาน เช็คเอกสาร หรือการสร้างไฟล์งาน การเลือกโหมดสบายตา อย่างลดแสงสีฟ้า นอกเหนือจากฟีเจอร์ Less Blue Light ที่ทาง MSI เตรียมเอาไว้ให้ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หรือจะใช้การปรับโทนสีก็ได้เช่นกัน ให้เป็นโทนสีอุ่น (Warm) แล้วเพิ่ม Sharpness หรือความคมชัด เพื่อรับมือกับการทำงานได้นานขึ้น

MSI PRO MP243

เรื่องของความคมชัดกับมุมมอง ต้องถือว่าเป็นความโดดเด่นของจอภาพจาก MSI รุ่นนี้ การเป็นพาแนล IPS ก็ยิ่งทำให้การองศาการมองยังคมชัด และสีแทบจะไม่ผิดเพี้ยน จึงเหมาะทั้งการใช้งานภายในสำนักงาน ที่บางครั้งไม่ได้อยู่ตรงหน้าจอโดยตรง หรือจะเป็นการแชร์ภาพให้คนอื่นได้ดูก็ยังเห็นได้ตรงกัน หรือจะเป็นการสอนการบ้านลูกหลานในบ้าน ก็ทำได้ง่าย ส่วนบางครั้งจะดูการ์ตูน ชมภาพยนตร์ในช่วงระหว่างพักผ่อน ก็ทำได้เช่นกัน ลงตัวทั้งเรื่องสีสันและความสบายตา


Conclusion

MSI PRO MP243

MSI PRO MP243 จากที่ใช้งานมาประมาณ 10 วัน แบบเอามานั่งใช้แทนจอหลักที่มีอยู่เดิม สิ่งแรกที่สังเกตได้คือ ความสบายที่มาพร้อมกับการใช้งาน โดยเฉพาะขนาดที่กระทัดรัด ใช้พื้นที่น้อย บนโต๊ะทำงานระดับ 140cm นี่จัดว่าเหลือพื้นที่ให้วางของได้อย่างเหลือเฟือ วางคอมอีกสักเครื่องก็ยังไหว แม้ว่าจะหมุนจอไม่ได้ แต่แค่ขยับมุมก็ง่ายแล้ว เพราะเบามาก และที่หลายคนน่าจะเคยเจอก็คือ การใช้จอโน๊ตบุ๊คเป็นหลักและ Extend จอคอมเป็นจอที่สอง บางครั้งก็ไม่ได้มองแบบตรงๆ เหมือนกับการ Duplicate แล้วอาจจะเจอกันอาการมองภาพไม่ชัด แต่สำหรับ MSI รุ่นนี้มองเห็นได้ แม้จะอยู่มุมข้างๆ การเป็น IPS ก็ตอบความต้องการได้ดีเลยทีเดียว

ในแง่ของสีสันขึ้นอยู่กับการปรับโพรไฟล์ของผู้ใช้เองด้วย เพราะฟีเจอร์หลักของจอจะเน้นไปที่การทำงาน แต่ก็มีด้านความบันเทิงเอาไว้ให้ การทำงานด้านภาพ สามารถใช้ sRGB หรือ User ได้ แต่ถ้าบันเทิงดูหนัง เลือก Cinema หรือภาพยนตร์ ส่วนการใช้งานในที่แสงน้อย หรือให้สบายตามากขึ้น เลือกที่ลดแสงสีฟ้าได้เลย

MSI PRO MP243

ส่วนที่ชอบอีกอย่างหนึ่งบนจอนี้ ก็คือ เรื่องของเสียง ด้วยลำโพงที่ติดตั้งมาให้ เสียงที่ได้แม้จะไม่ได้หนัก แหลมเด่นหรือเน้นกลางนุ่ม เพราะถ้าแบบนั้น แนะนำต่อหูฟังจากพีซีหรือโน๊ตบุ๊คได้ดีกว่า แต่ถ้าเป็นการดูหนัง ฟังเพลง และการสนทนาออนไลน์ คุณปรับระดับเสียงได้จุใจ ไม่แตก แบ่งปันความสนุกได้พร้อมกันหลายคน

ต้องถือว่าเป็นจอทำงานและคู่ไปกับการใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว เป็นจอ IPS ในราคาสบายกระเป๋า และยังดีไซน์มาได้สวย มีตัวเลือกสีขาวและดำ ให้เลือกตามสไตล์การตกแต่งของคุณเอง ถ้าคุณยังไม่เคยได้ใช้งานพีซี จอรุ่นนี้จะให้คุณเริ่มต้นในการใช้งานได้ดี ทั้งในเรื่องของสีสัน ความคมชัดและการปรับแต่ง ระบบเสียง ครบจบในตัว หรือถ้าใครใช้งานโน๊ตบุ๊คแล้วรู้สึกว่าพื้นที่หน้าจอไม่พอใช้ มองภาพไม่ชัด หรืออยากจะแบ่งหน้าจอใช้งาน MSI PRO MP243 ก็เป็นทางเลือกที่คุณจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเช่นกัน

MSI PRO MP243

และถ้าคุณต้องใช้งานคอมในแต่ละวันเป็นเวลานานๆ ผมแนะนำเลย เพราะฟีเจอร์ที่ทาง MSI จัดมาให้แบบแน่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Less Blue Light, Anti-Flicker และเป็นจอกันสะท้อน Anti-Glare ก็จะช่วยให้คุณสบายตา แม้จะทำงานเป็นเวลานานขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริการ MSI Live chat ปรึกษาและสอบถามปัญหาการใช้งาน ประกัน 3 ปี พร้อม On-site pickup and return ติดต่อ รับซ่อม และส่งคืน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย อุ่นใจได้ตลอดการใช้งานของคุณ

  • MSI PRO MP243 ราคา 5,000 รับประกัน 3 ปีเต็ม
  • ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/nbsWTB และ PRO MP243W (สีขาว) พิเศษมีเฉพาะ BaNaNa IT เท่านั้น สั่งซื้อได้ที่: https://msi.gm/BNNMP243W
  • ติดตามโปรโมชั่นได้ที่:https://msi.gm/Promotionth
  • MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIThailandOfficial
  • MSI Call Center: 02 409 2984(8.30 –17.30 น.) #MSI #MONITOR
  • รับเพิ่มฟรี! ของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ จาก MSI เมื่อเขียนรีวิวการใช้งานสินค้าที่ร่วมรายการ ดูเพิ่มเติมที่นี่: https://msi.gm/ShoutOutTH

from:https://notebookspec.com/web/669442-msi-pro-mp243-24-ips-full-hd

จอคอม 4K น่าใช้ 10 รุ่นปี 2022 งบ 12,000 บาท ดูหนัง เล่นเกม ทำงาน ครบ!

จอคอม 4K ขนาดใหญ่ 27″-32″ 10 รุ่นในงบ 12,000 บาท คมชัด HDR เล่นเกม ดูหนังเต็มตา

จอคอม 4K

จอคอม 4K เน้นภาพชัดจอใหญ่ 10 รุ่นที่เราเลือกมาให้ชมกันในวันนี้ มีตั้งแต่จอขนาด 27″ ไปจนถึง 32″ ที่มีการออกแบบสวยงาม ทันสมัย พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ใช้งานกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน หรือความบันเทิงก็ตาม โดยที่จอ 4K รุ่นใหม่ๆ เหล่านี้ เหมาะทั้งการเป็นจอตัวแรกของผู้ใช้ หรือเป็นจออัพเกรดสำหรับผู้ใช้จอเล็กๆ มา แล้วมองหาจอคอมที่ตอบโจทย์ในด้านต่างๆ ได้ดี และให้พื้นที่ในการใช้งานมากกว่าเดิม และส่วนใหญ่จะมาพร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มความสามารถในการแสดงผลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น รองรับ HDR และลดการสั่นไหวอย่าง Flicker-Free หรือจะเป็นเรื่องของการลดอาการภาพฉีกขาด เมื่อเล่นเกมด้วย Adaptive-Sync หรือ FreeSync รวมไปถึงพอร์ตรับสัญญาณแสดงผล ที่มีตัวเลือกมากมายในงบประมาณหมื่นต้นๆ เรามาดูกันว่ามีรุ่นไหนที่โดนใจคุณบ้างในปี 2022 นี้

จอคอม 4K

  1. PHILIPS 288E2A/67
  2. AOC U28P2U/BS
  3. Samsung LS27A800UJEXXT
  4. Viewsonic VX3211-4K-mhd
  5. BENQ EW3270U
  6. LG 32UN500-W
  7. MSI OPTIX MAG321CURV
  8. ASUS VP32UQ
  9. Lenovo L32P-30
  10. BenQ EW2880U

1.PHILIPS 288E2A/67

จอคอม 4K

จอเริ่มต้นของคนที่อยากได้จอคอม 4K ไซส์ใหญ่ มาเปลี่ยนกับจอเดิมระดับ 22″-24″ และให้เล่นเกมได้สนุก ภาพสวยกว่าเดิม ด้วยพื้นที่แสดงผลระดับ 28″ จากทาง PHILIPS รุ่นนี้ จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความอลังการของภาพในการเล่นเกมและชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอิ่ม กับพาแนล IPS ให้ความคมชัดสวยงาม มุมมอง 178/178 องศา ให้ความละเอียดระดับ 3840 x 2160 pixels หรือ 4K ขอบจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน และฐานสี่เหลี่ยม ที่ลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะไปได้มากทีเดียว รองรับการปรับมุมก้ม-เงยได้เล็กน้อย กับค่าความสว่าง 300cd/m2 และ sRGB 119% เพิ่มความลื่นไหล ด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync ด้านหลังมี VESA Mount 100x100mm และลำโพงมาในตัว พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อสัญญาณ ประกอบด้วย HDMI x2, DP x1 รองรับการทำงานแบบ Multi-View คอเกมได้สนุกแบบเต็มอิ่ม เพราะปรับโหมดเกมได้บนจอผ่านทาง SmartImage Game ที่มีโหมดให้เลือกใช้ สนนราคอยู่ที่ประมาณ 10,900 บาท

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
ขอบจอบาง ไม่เน้นการปรับเลื่อนจอ
มี Game mode
ความสว่างสูง

ข้อมูลเพิ่มเติม: PHILIPS


2.AOC U28P2U/BS

จอคอม 4K

อีกหนึ่งจอเกมมิ่งที่ให้ความละเอียดระดับ 4K สำหรับคอเกมและคนทำงานอย่างแท้จริง ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในแบบฉบับที่บางเฉียบของบอดี้ ขอบจอบางเพิ่มพื้นที่การมองเห็นภาพได้เต็มตามากขึ้น ดีไซน์ล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยเส้นสายที่แปลกตา แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ การปรับเลื่อนจอที่มีความยืดหยุ่น ด้วยการหมุนได้ 180 องศา ให้ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน การติดตั้งง่าย เพราะใช้สลักในการยึด รองรับ HDR Mode ให้สีสันสดใส และเป็นพาแนล IPS กับมุมมองกว้าง 180 องศาทั้งซ้าย-ขวา มีฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้า และ AOC Clear Vision เพิ่มความคมชัด เอาใจคอเกมด้วย Adaptive Sync พร้อมกับฟังก์ชั่นการทำงานแบบมัลติทาส์ก ด้วย PIP และ PBP ในการทำงานมัลติสกรีน เช่นเดียวกับการปรับแต่งที่ง่ายมากๆ ผ่านลูกเล่นอย่าง i-Menu ใช้เมาส์คลิ๊กได้เลย การเชื่อมต่อนั้นมีทั้ง HDMI 2.0 x2 และ DP 1.2 x1 รวมถึง USB 3.2 Gen1 มีให้ถึง 4 ช่องด้วยกัน ด้านหลังเป็น VESA Mount 100x100mm เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รองรับ HDR ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
รองรับ Adaptive Sync
พอร์ตต่อพ่วงให้มาเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC


3.Samsung LS27A800UJEXXT

จอคอม 4K

จอคอม 4K ระดับ 27″ ที่มาพร้อมความพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาให้กับผู้ใช้ที่อยากได้จอภาพ ที่ตอบสนองในด้านต่างๆ ได้ครบครัน ทั้งในเรื่องความละเอียด 3840×2160 ความคมชัดสูงด้วยพาแนล IPS มุมมองกว้าง และรองรับ HDR10 กับสีสันสดใสสมจริง บนดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่มีความหรูหราซ่อนอยู่ ขาตั้งจอแบบกลม จับถนัดมือ บนฐานสี่เหลี่ยม ขอบจอที่บางเป็นพิเศษ เหมาะกับการใช้หลายจอต่อกันในแบบมัลติมอนิเตอร์ ที่ไม่รู้สึกขัดตา จุดเด่นอยู่ในเรื่องของพอร์ต ที่มีทั้งพอร์ตสัญญาณ HDMI 2.0 และ DP 1.2 รวมถึงพอร์ต USB hub และสนับสนุน USB Type-C ที่ใช้สำหรับการชาร์จไฟ ต่อสัญญาณไปยังภายนอก และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง รองรับการติดตั้ง VESA Mount 100x100mm ตัวจอมีฟังก์ชั่นปรับได้หลายแบบ เช่น มุมก้ม-เงย, ความสูง และ Pivot ในแบบ 90 องศา ในการใช้งานแบบแนวตั้ง และยังหันซ้าย-ขวาได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือ ฟังก์ชั่นการค้นหาสัญญาณให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องไปตั้งเองบ่อยๆ เมื่อต้องเปลี่ยนคอมหรืออุปกรณ์ที่มาต่อพ่วงใช้งาน รวมถึงรองรับทั้ง PIP และ PBP ราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รองรับ HDR10 ดีไซน์ไม่เน้นลูกเล่น
พอร์ตต่อพ่วงเยอะ
ปรับเลื่อนได้หลายแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติม: Samsung


4.Viewsonic VX3211-4K-mhd

จอคอม 4K

จอใหญ่ระดับ 32″ ความละเอียด 4K ที่น่าจะนำมาใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์หรือแทนจอทีวีที่บ้าน ก็สะใจไม่แพ้กัน จัดว่าราคาไม่สูงมาก แต่ได้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ โดยเป็นพาแนลแบบ VA แต่ให้มุมมองที่กว้าง อัตรารีเฟรชเรต 60Hz รองรับ AMD FreeSync รองรับทั้ง PIP และ PBP มีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Game, Movie หรือท่องเว็บก็ตาม มีลำโพงมาให้ด้านหลัง 2 จุด ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ดูลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือที่ทำงานได้ดี ขอบจอบางทั้ง 3 ด้าน ฐานเป็นแบบตัว Y จึงใช้พื้นที่น้อย การปรับแต่ง OSD ผ่านปุ่มด้านหลัง เพิ่มที่แขวนหูฟังมาให้ โดยมีพอร์ตต่อพ่วงสัญญาณ HDMI และ DP รวมถึง Audio-out ด้วยความที่เป็นจอภาพขนาดใหญ่ ให้การปรับเลื่อนได้เพียงมุมก้ม-เงย ปรับเลื่อนเท่านั้น แต่ที่โดดเด่นคือ เรื่องของสีสันที่เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิงอย่างแท้จริง สนนราคอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์ทันสมัย บางเบา ปรับเลื่อนได้นิดหน่อย
มีโหมด Game
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic


5.BENQ EW3270U

จอคอม 4K

จอเกมมิ่งในระดับ 4K ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ใส่ฟีเจอร์มาแน่น สมกับความเป็น BenQ ที่มักจะเติมความเหนือชั้นมาให้กับผู้ใช้ ด้วยโหมด HDR และฟีเจอร์ Brightness Intelligence Plus ปรับได้ 4 ระดับตามสภาพแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยี Eye-care และรองรับ AMD FreeSync พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 32″ ใช้พาแนล VA สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ มุมมองกว้าง 178/178 ให้พอร์ตต่อพ่วงรับสัญญาณ HDMI 2.0 x2, DP และ USB Type-C เรียกว่าสะดวกทุกการเชื่อมต่อ โดยมีลำโพง 2W x2 มาให้ในตัว พร้อมทุกการใช้งาน และยังเลือกโหมดการถนอมสายตาได้หลายรูปแบบ ปรับมุมก้มเงยได้ และด้านหลังมี VESA Mount 100x100mm จัดว่าเป็นอีกหนึ่งจอคอม 4K ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ ราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
โหมด HDR ปรับแต่งได้ ปรับมุมหน้าจอได้เล็กน้อย
มีพอร์ตให้ใช้จำนวนมาก
เป็นจอ 32″ 4K ราคาไม่สูง

ข้อมูลเพิ่มเติม: BenQ


6.LG 32UN500-W

จอคอม 4K

มาถึงจอคอม 4K อีกค่าย ที่สายเกมมิ่งให้ความสนใจ ด้วยพื้นที่แสดงผล 27″ ให้ความละเอียด 3840×2160 พาแนลในแบบ VA พร้อมความแม่นยำของสีในระดับ DCI-P3 90% รองรับ HDR10 จึงตอบโจทย์การทำงานได้ภาพและวีดีโอได้ดีระดับหนึ่ง นอกเหนือจากการเล่นเกม ที่มีฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync และการปรับ Game Mode รวมถึง Dynamic Action Sync และ Black Stabilizer มาให้ พร้อมกับระบบเสียง Maxx Audio 5W x2 เพื่อพลังเสียงที่จัดจ้าน ไม่ต้องผ่านหูฟัง ดีไซน์ยังล้ำสมัย ด้วยขอบจอที่แทบจะไร้ขอบ ฐานโค้งครึ่งวงกลม ทำให้ลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะได้เยอะ และปรับเลื่อนในมุมก้ม-เงยตามมาตรฐาน พอร์ตรับสัญญาณมีทั้ง HDMI x2 และ DP x1 และ Audio มาให้ VESA Mount ด้านหลัง 100x100mm ราคาประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รองรับ HDR10 พอร์ตไม่เยอะมาก
มี Game Mode
ฟีเจอร์สำหรับใช้งานเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: LG


7.MSI OPTIX MAG321CURV

จอคอม 4K

อีกหนึ่งจอคอม 4K สายพันธุ์เกมมิ่ง จากค่ายที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์จอภาพในกลุ่มเกมมิ่งที่หลากหลาย ซึ่งจอรุ่นนี้ก็มาในแบบพิเศษ ด้วยการเป็นจอโค้ง 1500R เพื่อความโอบกระชับสายตา ข้อดีคือ ไม่ต้องถอยร่นจากหน้าจอที่มีขนาดใหญ่มากนัก แต่เห็นได้เต็มตา พาแนลให้สีสันสดใส และความคมชัด รองรับ HDR เพื่อภาพสีสันสดใสสมจริงและลูกเล่นในการปรับแต่ง ผ่านทางปุ่มจอยสติ๊กง่ายดาย และยังมีฟีเจอร์ที่ทำให้ได้เปรียบในการเล่นเกมในฉากมืด ด้วย Night Vision มองเห็นศัตรูได้ก่อน และยังรองรับการเชื่อมต่อ USB-C ในการเชื่อมต่อสัญญาณแสดงผลจากพีซีได้ กับจุดเด่นที่เป็น Game Mode ตั้งให้เข้ากับเกมที่จะเล่นผ่านทาง Gaming OSD ที่ตั้งค่าได้สนุกสนาน กับพอร์ตสัญญาณที่จัดมาให้เต็มพิกัด อาทิ HDMI 2.0 x2, DP 1.2 x1, USB 2.0 x2, USB-C x1 และ USB Hub เพิ่มความโดดเด่นกับแสงไฟ RGB ทางด้านหลัง ปรับระดับความสูงของจอได้ รวมถึงมุมก้ม-เงย ปรับแต่งได้ บนบอดี้ที่ออกแบบมาได้ล้ำสมัยทีเดียว

จุดเด่น ข้อสังเกต
เป็นจอโค้ง มีไฟ RGB ด้านหลัง
ฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม ปรับแต่งง่าย
มีพอร์ตจำนวนมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


8.ASUS VP32UQ

จอคอม 4K

จอคอม 4K สายทำงานและเล่นเกมขนาด 32″ บนความละเอียด 4K ที่หลายคนแอบเทใจ ให้กับเรื่องของสีสันและการแสดงผล ทดแทนจอเดิมที่มีขนาดเล็กได้ล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ พาแนลในแบบ IPS ความคมชัดสูง มุมมองกว้าง ยังสนับสนุน HDR10 ให้ภาพสวยสีสดใสมากขึ้น รองรับ Adaptive Sync ที่เข้ากันได้กับเทคโนโลยีของทั้ง nVIDIA และ AMD ลดการฉีกขาดของภาพ ด้วยขอบจอที่บางเป็นพิเศษ จึงไม่ดูเทอะทะ และยังเหมาะกับการต่อจอแบบมัลติมอนิเตอร์ เสริมฟีเจอร์ Eye Care เพื่อความสบายตา เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ให้ค่าความแม่นยำสี sRGB 100% โดยที่ ASUS ยังใส่ลูกเล่นมาเพื่อคอเกม ไม่ว่าจะเป็น Crosshair, Timer, FPS Counter และ Display Alignment เป็นต้น โดยมีลำโพงมาให้ในตัว 2W x2 และพอร์ตรับสัญญาณ HDMI 2.0 x1 และ DP 1.2 x1 ขาตั้งออกแบบมาให้ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย สำหรับมุมก้ม-เงย ราคาประมาณ 15,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รองรับ Adaptive Sync ปรับเลื่อนได้นิดหน่อย
เพิ่มลูกเล่นสำหรับคอเกม
ดีไซน์เน้นเรียบง่าย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


9.Lenovo L32P-30

จอคอม 4K

จอคอม 4K ในสไตล์เรียบง่าย เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิง บนพื้นที่แสดงผล 32″ และลุคที่เข้ากับในบ้าน สำนักงาน รวมถึงในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ให้การปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ Lenovo Artery และ USB Type-C ที่ใช้ในการชาร์จไฟ PD 75W ได้ หน้าจอขนาดใหญ่ ให้พื้นที่ในการใช้งานแบบมัลติทาส์กได้สะดวก และยังรองรับ AMD FreeSync อีกด้วย บนโครงสร้างของจอที่มีความแข็งแรง ปรับเลื่อนได้เล็กน้อยในมุมก้ม-เงย พอร์ตต่อพ่วง ประกอบด้วย HDMI 2.0 x1, DP 1.2 x1 และ USB Type-C x1 รวมถึง Audio jack พร้อมกับลำโพง 3W x2 มาในตัว ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เน้นความแข็งแรง หรูหรา ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
มีพอร์ต USB Type-C ชาร์จ PD
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo


10.BenQ EW2880U

จอคอม 4K

อีกหนึ่งจอคอม 4K สายบันเทิง ที่เติมลูกเล่นมาอย่างครบครัน บนพื้นที่แสดงผล 28″ กับความละเอียด 4K กับการออกแบบที่มีสไตล์ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และการทำงาน เรียกว่างานก็ได้ บันเทิงก็ดี กับฟีเจอร์อย่าง HDRi ที่เป็นตัวตรวจจับแสงโดยรอบและปรับความสว่างให้อัตโนมัติ รองรับ HDR10 และขอบเขตสี DCI-P3 90% โดยมีระบบเสียง TreVolo เพื่อรายละเอียดเสียงและความบันเทิงที่มากขึ้น ลำโพง 3W x2 ปรับโหมดเสียงได้ถึง 5 โหมดในการใช้งานแบบต่างๆ โดยมีพอร์ต USB-C ที่รองรับการชาร์จไฟแบบ PD 60W และเทคโนโลยี Advanced Eye-Care ในการปรับความสว่างให้เหมาะสม ให้พอร์ตสัญญาณทั้งแบบ HDMI 2.0 x2, DP 1.4 x1 และ USB-C แต่ที่น่าสนใจคือ สามารถปรับเลื่อนได้ทั้งแบบมุมก้ม-เงย รวมถึงหันซ้าย-ขวา พร้อมมี VESA Mount 100x100mm มาให้อีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์ทันสมัย ฐานของข้างใหญ่
มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบข้าง
พอร์ต USB-C รองรับ PD

ข้อมูลเพิ่มเติม: BenQ


Conclusion

จอคอม 4K Display Panel Response time Brightness Stand DCIP3 Input Price
1.PHILIPS 288E2A/67 28″ IPS 4ms 300 sRGB 119.7% HDMI x1, DP x1 11,900
2.AOC U28P2U/BS 28″ IPS 4ms 300 Height, Pivot, Swivel, Tilt sRGB 119% HDMI x2, DP x1, USB x4 11,900
3.Samsung LS27A800U 27″ IPS 5ms 300 Height, Pivot, Swivel, Tilt sRGB 99% HDMI x1, DP x1, USB x3 11,900
4.Viewsonic VX3211-4K 32″ VA 3ms 300 Tilt sRGB 137% HDMI x2, DP x1 11,900
5.BENQ EW3270U 32″ IPS 4ms 300 Tilt 95% HDMI x2, DP x1, USB-C x1 11,900
6.LG 32UN500-W 32″ VA 4ms 350 Tilt 90% HDMI x2, DP x1 11,900
7.MSI OPTIX MAG321CURV 32″ VA 4ms 300 Tilt, Height 78% HDMI x2 และ DP x1, USB-C x1, USB-B x1 15,900
8.ASUS VP32UQ 32″ IPS 4ms 350 Tilt sRGB 100% HDMI x1 ,DP x1 15,900
9.Lenovo L32P-30 32″ IPS 4ms 350 Tilt 90% HDMI x1, DP x2, USB-C x1, USB x4 12,900
10.BenQ EW2880U 28″ VA 5ms 300 Tilt, Swivel 90% HDMI x2, DP x1, USB-C 12,900

ก็ถือว่าเป็น 10 จอคอม 4K ที่น่าสนใจ ในงบประมาณหมื่นกว่าบาท ที่ให้ทั้งพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ และความละเอียดระดับ 4K ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานและความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะคนที่ชอบทำงานแบบมัลติทาส์ก ที่ต้องการแบ่งหน้าจอทำงานได้ง่ายขึ้น แนะนำว่าเลือกจอ 32″ ไปเลยดีที่สุด เพราะได้พื้นที่ทำงานมากกว่า มีให้เลือกทั้ง Lenovo, MSI, Viewsonic, BenQ เป็นต้น แต่ถ้าเน้นลูกเล่นการปรับเลื่อน เพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ ได้ มี AOC และ Samsung ที่ปรับได้เกือบทุกรูปแบบ ส่วนถ้าจอที่ให้ค่าขอบเขตสีที่กว้าง ก็มีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกันหลายจอ ส่วนถ้าเป็นจอ 32″ ราคาถูกที่สุดก็จะเป็น Viewsonic, Lenovo และ BenQ แต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การปรับแต่ง OSD เทคโนโลยี และฟังก์ชั่น ซึ่งมีในรายละเอียดของแต่ละรุ่น ใครชอบแบบไหน ก็ลองไปดูด้วยตาตัวเองหรือจะลองดูรีวิวจากค่ายรีวิวต่างๆ ได้อีกด้วย และรุ่นไหนถูกใจคุณ ลองคอมเมนต์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/655577-10-gaming-monitor-4k-2022

จอคอม 32 นิ้ว 8 รุ่น ไม่เกิน 9,000 ปี 2022 ทำงาน แต่งภาพ เทรดคริปโต เล่นเกม

จอคอม 32 นิ้ว 8 รุ่นปี 2022 ไม่เกิน 9,000 จอใหญ่ เล่นเกมสะใจ เทรดคริปโต แต่งภาพ ครบเครื่อง

จอคอม 32 นิ้ว

จอคอม 32 นิ้ว เริ่มกลับมาเป็นเทรนด์ที่ได้น่าสนใจอีกครั้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะมีการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในแง่ของงานเอกสารทั่วไปหรือจะเป็นด้านความบันเทิง ด้วยภาพที่ใหญ่เต็มตาและให้พื้นที่ใช้งานมากกว่าจอทั่วไประดับ 22″-24″ อยู่เกือบเท่าตัว และในช่วงหลัง ก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การแสดงผลมีความเรียบเนียนมากขึ้นกว่าในอดีต รวมถึงตัวเลือกในระดับ Resolution 2K หรือ 1440p ก็มีให้หลายโมเดล และที่สำคัญราคายังดูเป็นมิตรกว่าแต่ก่อน ทำให้เกมเมอร์หลายคน หันมาสนใจและใช้งานได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากจะเป็นการแนะนำในการเลือกจอ 32″ นี้ คงไม่ใช่แค่ขนาดพื้นที่การแสดงผล แต่อยากให้ใส่ใจในเรื่องค่า Brightness และเทคโนโลยีที่ช่วยในการปรับโหมด เพื่อใช้งานในโอกาสต่างๆ รวมถึงพอร์ตการเชื่อมต่อ ที่จะมีผลต่อการทำงานร่วมกับอัตรารีเฟรชเรตสูงๆ อีกด้วย ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าจอที่เราเลือกมาแนะนำกันในวันนี้ ในงบประมาณไม่ถึง 9,000 บาท มีรุ่นใดที่น่าสนใจบ้าง


จอคอม 32 นิ้ว

  1. Viewsonic VX3258-PC-MHD
  2. Acer ED322QRPBMIIPX
  3. AOC C32G2E
  4. AOC Q32V3WS
  5. MSI Optix G32C4
  6. Philips 325E1C
  7. Samsung LC32T550FDEXXT
  8. Viewsonic VX3276-2K-MHD

1.Viewsonic VX3258-PC-MHD

จอคอม 32 นิ้ว

เป็นจอคอม 32 นิ้วที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ และการออกแบบที่น่าสนใจไม่น้อย กับความเพรียวบาง ไม่ว่าจะเป็นตัวฐานแบบ V shape ที่โค้งรับตัวจอที่มีขอบบางทั้ง 3 ด้านได้อย่างลงตัว เป็นดีไซน์แบบ Curved monitor 1800R บนความละเอียด Full-HD ให้สีสันสดใสในแบบ Wide Gamut ตอบโจทย์คอเกมด้วยพาแนลในแบบ VA และอัตรารีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz จับคู่กับ AMD FreeSync Premium ได้อย่างลงตัว เล่นลื่น ลดปัญหาภาพฉีกขาด พร้อมโหมดถนอมสายตาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Flicker-Free, Eyecare และ BlueLight Filter รวมถึงมีโหมดให้เลือกปรับตามรูปแบบการใช้งาน เช่น ดูหนัง ทำงาน เกม หรือท่องเว็บเป็นต้น รองรับสัญญาณ Input ทั้ง HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,450 บาท

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย ขอบจอบาง ปรับได้เพียงมุมก้ม-เงย
รีเฟรชเรตสูง เหมาะกับการเล่นเกม

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic


2.Acer ED322QRPBMIIPX

จอคอม 32 นิ้ว

เป็นอีกหนึ่งจอโค้งในแบบ Curved 1800R บนพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 31.5″ ให้การแสดงผลเต็มตา ทั้งการดูหนัง ทำงานและเล่นเกม บนความละเอียด Full-HD ที่เพียงพอต่อการใช้งาน ด้วยพาแนลสำหรับการเล่นเกม VA จึงให้สีสันสดใสได้ดีในระดับหนึ่ง และตอบสนองได้ไว มุมมองกว้าง กับดีไซน์ที่เรียกว่าออกมาได้ทันสมัย ด้วยขอบจอที่บางพิเศษ ในโทนสีเทา-ดำ ซึ่งทำให้เหมาะกับการวางบนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านหรือสำนักงานอย่างลงตัว ตัวฐานโค้งรับกับบอดี้ และฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น BlueLightShield และ Acer VisionCare™รองรับ AMD FreeSync และคู่ไปกับรีเฟรชเรตระดับ 144Hz จึงช่วยให้เกมเมอร์เล่นได้ลื่นไหลมากขึ้น โดยมีพอร์ตสัญญาณ Input มาให้ทั้ง HDMI และ DisplayPort จอคอม 32 นิ้วรุ่นนี้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอโค้ง ขอบจอบาง ปรับเลื่อนไม่ได้มากนัก
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer


3.AOC C32G2E

จอคอม 32 นิ้ว

จอคอม 32 นิ้ว ที่ให้อารมณ์ของเกมมิ่งมาเต็ม และใส่ฟีเจอร์มาได้ครบคุ้มสำหรับคอเกม ที่อยากได้จอใหญ่ในราคาสบายกระเป๋ามากขึ้น เพราะด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz และพาแนล VA ที่สีสันสดใส ตอบสนองกับการเล่นเกมได้ดี ยังมาพร้อม AMD FreeSync Premium ให้เล่นเกมได้ลื่นไหล ลดอาการภาพฉีกขาด ดีไซน์จัดว่าล้ำสมัย ในสไตล์ของจอแบบ Curved เล็กๆ ให้พอกระชับสายตาและขอบจอที่บางเฉียบ โดยมีขาตั้งและด้านหลังที่ทำออกมาโดดเด่น และมี Response time ที่ตอบสนองไว รองรับ HDR mode ให้การไล่เฉดสีทำได้สวยงาม เพิ่มความสมจริงและสวยงามมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเล่นเกม และชมภาพยนตร์ มีขอบเขตสีที่กว้างกับค่า Gamut DCI-P3 ระดับ 96% ตอบโจทย์กลุ่มนักสร้างคอนเทนต์ได้ดี ความละเอียดที่ 1080p และมีพอร์ต Input ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort การปรับมุมทำได้เล็กน้อย เคาะราคาที่ 8,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย จอโค้ง 165Hz
ค่า Gamut สูง เหมาะกับงานหลายด้าน
มาพร้อม AMD FreeSync Premium

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC


4.AOC Q32V3WS

จอคอม 32 นิ้ว

จอคอม 32 นิ้ว ที่ให้พื้นที่ทำงานกว้างขวาง มาพร้อมความละเอียดระดับ 1440p หรือ 2K กับการออกแบบที่ดูพรีเมียม เอาใจสายออกแบบหรือกลุ่มทำงานที่บ้าน และปรับแต่งเข้ากับโต๊ะทำงานได้อย่างลงตัว กับโทนสีขาว ให้รูปลักษณ์ที่บาง ไม่เปลืองพื้นที่ พาแนลแบบ VA ให้การทำงานที่ไว ลดอาการสั่นไหวของภาพด้วย Flicker-Free และเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตา ให้คนที่ทำงานด้านเอกสาร และการท่องเว็บ สามารถแบ่งหน้าจอใช้งานได้สะดวก มองเห็นได้ชัดเจน รองรับการปรับแต่งได้ทั้งบน OSD ที่มีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้ เช่น Game, Movie, Web และอื่นๆ พอร์ตรับสัญญาณ Input มีให้ทั้ง HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 8,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์สวยบาง เน้นความพรีเมียม มุมมองอยู่ที่ 176/ 176
ให้ความละเอียด 2K และมีโหมดให้เลือกใช้

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC


5.MSI Optix G32C4

จอคอม 32 นิ้ว

ถ้าคุณชอบการเล่นเกมเป็นพื้นฐาน และพยายามอย่างหนัก เพื่อจะเล่นให้คว้าชัยชนะให้มากขึ้น MSI รุ่นนี้ จะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคุณ ที่ไม่ใช่แค่การเป็นจอคอม 32 นิ้ว และรีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมลูกเล่นแพรวพราว ทั้งในด้านการปรับแต่งด้วย Game Mode ให้ค่า Gamut ที่กว้าง เพื่อการทำงานด้าน Content และการเล่นเกมที่จัดจ้าน รองรับ AMD FreeSync ขอบจอบางเฉียบแทบจะเรียกว่าไร้ขอบ มุมมองกว้าง ปรับเลื่อนในจุดต่างๆ ได้หลากหลาย นับว่าเป็นจอโค้งในระดับอีสปอร์ตที่น่าเร้าใจ และพอร์ตแสดงผล DisplayPort และ HDMI ในราคา 8,890 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รีเฟรชเรตสูง 165Hz ไม่รองรับ HDR Ready
จอโค้งปรับได้ มี Game Mode ให้เลือก

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


6.Philips 325E1C

จอคอม 32 นิ้ว

จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ให้ความละเอียดระดับ 1440p ที่มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ให้ภาพที่สดใส และการแสดงผลที่กว้างขวาง ด้วยความโค้ง 1500R ฐานสี่เหลี่ยม รับโครงสร้างจอได้แข็งแรง พาแนลในแบบ VA ตอบสนองไว ให้ความสว่างคมชัด มุมมองกว้าง รวมถึงค่า Gamut 123% sRGB เพิ่มฟังก์ชั่นในการปรับแต่ง และมี SmartImage Game เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับการเล่นเกม ด้วยโหมดภาพที่ทำออกมาได้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว FPS, Racing, RTS หรือจะปรับด้วยตัวเอง พร้อมบันทึกเก็บเอาไว้ พร้อมการสนับสนุน AMD FreeSync ให้พอร์ต Input สัญญาณมาทั้ง VGA, HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ความละเอียด 1400p รีเฟรชเรตเพียง 75Hz
รองรับ AMD FreeSync
ปรับโหมดเกมได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Philips


7.Samsung LC32T550FDEXXT

จอคอม 32 นิ้ว

จอคอม 32 นิ้ว และเป็นจอโค้งในระดับ 1000R ที่ดูเรียบง่าย แต่มีสไตล์เฉพาะตัว บนหน้าจอขนาด 32″ บนความละเอียด 1080p และใช้พาแนลแบบ VA ขอบจอที่บางทั้ง 3 ด้าน ช่วยเปิดพื้นที่ทำงานให้กว้างขึ้น รองรับเทคโนโลยี AMD FreeSync เพื่อความลื่นไหล ภาพไม่ฉีกขาดขณะที่เล่นเกม เพิ่มความสนุกด้วยชุดลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตสัญญาณ Input ที่มีทั้ง VGA, HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอโค้ง 1000R รีเฟรชเรต 75Hz
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Samsung


8.Viewsonic VX3276-2K-MHD

จอคอม 32 นิ้ว

สำหรับมอนิเตอร์รุ่นนี้ เรียกว่าเป็นการผสมผสานสไตล์ที่เรียบหรูมาคู่กับประสิทธิภาพได้ลงตัว ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 32″ ใช้งานในด้านต่างๆ ได้เต็มที่ ภายใต้โครงสร้างที่แสนมินิมอล แต่ให้ความละเอียดมากถึง 1440p ด้วยกัน ขอบจอบางทั้ง 3 ด้าน และด้านใต้จอก็ดูบางเบา แทบจะเป็น Frameless มาพร้อมพาแนล IPS ให้ความคมชัด ความละเอียดระดับ 10-bit เหมาะอย่างยิ่งทั้งการใช้งานภายในบ้าน สำนักงาน หรือใช้ในการพรีเซนเทชั่น แม้กระทั่งความบันเทิง พร้อมกับ View mode ที่มีให้เลือกทั้ง Game, Movie, Web, Text, Mono และ Mac รวมถึงเทคโนโลยีถนอมสายตา พร้อมการปรับแต่งที่สะดวกมากยิ่งขึ้น มีพอร์ต Input ทั้ง HDMI, DisplayPort และ Mini DisplayPort อีกด้วย ราคา 7,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
รูปลักษณ์สวยงาม เพรียวบาง รีเฟรชเรต 75Hz
ขอบจอบางพิเศษ ความละเอียด 2K
1.07 Billion colours

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic


Conclusion

Display size Panel Curved/ Flat Resolution Refresh rate Brightness cd/m2 Port Feature Price (Baht)
1.VIEWSONIC VX3258-PC-MHD 31.5″ VA Curved 1080p 165Hz 250 HDMI, DP AMD FreeSync 8,450
2.ACER ED322QRPBMIIPX 31.5″ VA Curved 1080p 144Hz 250 HDMI, DP AMD FreeSync 7,300
3.AOC C32G2E 31.5″ VA Curved 1080p 165Hz 250 HDMI, DP, VGA AMD FreeSync 8,500
4.AOC Q32V3WS 31.5″ VA Flat 1440p 75Hz 250 HDMI, DP 8,500
5.MSI Optix G32C4 31.5″ VA Curved 1080p 165Hz 250 HDMI, DP AMD FreeSync 8,890
6.PHILIPS 325E1C 31.5″ VA Curved 1440p 75Hz 250 HDMI, DP AMD FreeSync 7,990
7.SAMSUNG LC32T550FDEXXT 31.5″ VA Curved 1080p 75Hz 250 HDMI, DP AMD FreeSync 7,990
8.Viewsonic VX3276-2K-MHD 31.5″ IPS Flat 1440p 75Hz 250 HDMI, DP, Mini DP 7,900

คัดมาให้แบบเน้นๆ กันเลย สำหรับ จอคอม 32 นิ้ว ในราคาไม่เกิน 9 พันบาท แต่ลูกเล่นแพรวพราวน่าใช้ไม่น้อยเลย มีตัวเลือกสำหรับคอเกมด้วย เช่น Viewsonic, AOC และ MSI ที่ให้อัตรารีเฟรชเรตมาถึง 165Hz เล่นกันลื่นๆ หรือ 144Hz ก็มีให้เห็น และส่วนใหญ่จะสนับสนุนเทคโนโลยี AMD FreeSync ช่วยให้การเล่นเกมดูลื่นไหล แต่ถ้าเน้นความละเอียดสูง เช่น 2K ก็มี Viewsonic, AOC และ Philips ตอบโจทย์คุณได้ ใช้งาน ท่องเน็ค ดูหนังสบายตา ใช้พื้นที่ได้กว้างมากขึ้น ส่วนสนนราคาถูกสุดอยู่ที่ 7,300 บาทเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์ และการปรับแต่งฟังก์ชั่น เพราะบางรุ่นก็มาพร้อมการปรับ Picture mode มาให้อีกด้วย ใครที่สนใจ ก็ไม่ควรพลาดสำหรับจอ 32″ ที่ในช่วงหลังนี้ราคาดีจริงๆ ครับ

from:https://notebookspec.com/web/641809-8-monitor-32-inch-9000-2022

ViewSonic VX2718-P-MHD จอเกมมิ่ง 27″ 165Hz พร้อม Adaptive Sync สีสดใส ภาพไหลลื่น

ViewSonic VX2718-P-MHD จอเกมมิ่ง 27″ 165Hz พร้อม Adaptive Sync สีสดใส ภาพไหลลื่น

Cover 2

ViewSonic VX2718-P-MHD จอเกมมิ่งขนาดกำลังพอเหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการความสนุกสนานที่เพิ่มขึ้นจากจอเดิมๆ ด้วยการเสริมฟีเจอร์ และเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้กับการเล่น บนหน้าจอขนาด 27″ ซึ่งเป็นพาแนลแบบ VA ออกแบบมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ กับอัตรารีเฟรเชเรตที่สูงถึง 165Hz และเพิ่มความมั่นใจให้กับการเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดอาการภาพฉีกขาด ให้เฟรมเรตในเกมและอัตรารีเฟรชเรตลื่นไหล บนความละเอียด 1920x1080p Full-HD ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และให้ลูกเล่นในการปรับแต่งบน OSD ได้อย่างละเอียด สนับสนุน HDR และมีลำโพงมาให้ในตัว เช่นเดียวกับพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีให้อย่างครบครัน โดยในซีรีส์ดังกล่าวนี้ มีให้เลือกทั้งหน้าจอ 24″ และ 27″

จุดเด่น

  • ให้อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
  • รองรับ Adaptive Sync
  • สนับสนุน HDR
  • มีลำโพงมาในตัว เสียงดังชัดเจน
  • OSD ปรับจูนได้เยอะ
  • ขอบจอบาง ให้พื้นที่กว้างดูสบายตา

ข้อสังเกต

  • ปรับเลื่อนหน้าจอได้แค่มุมก้ม-เงย

ViewSonic VX2718-P-MHD


Specification

Description
Display Size (in.) 27
Panel Type VA
Resolution 1920 x 1080
Static Contrast Ratio 4,000:1 (typ)
Dynamic Contrast Ratio 80M:1
Light Source LED
Brightness 250 cd/m² (typ)
Colors 16.7M
Color Space Support 8 bit (6 bit + FRC)
Aspect Ratio 16:9
Response Time (MPRT) 1ms
Viewing Angles 178º horizontal, 178º vertical
Backlight Life (Hours) 30000 Hrs (Min)
Curvature Flat
Refresh Rate 165Hz
Adaptive Sync Yes
Blue Light Filter Yes
Flicker-Free Yes
Color Gamut NTSC: 72% size (Typ)sRGB: 102% size (Typ)
Pixel Size 0.311 mm (H) x 0.311 mm (V)
Surface Treatment Anti-Glare, Hard Coating (3H)
Connector 1x 3.5mm Audio Out,
2x HDMI 1.4,
1x DisplayPort,
Power in 3-pin Socket
Internal Speakers 2 Watts x2
Consumption (typical) (typical) 30W, (max): 35W
Physical Controls Key 1 (favorite), Key 2, Key 3, Key 4, Key 5 (power)
VESA Mount Compatible 100 x 100 mm
Digital Sync TMDS – HDMI (v1.4), PCI-E – DisplayPort (v1.2)
Ergonomics Tilt (Forward/Back): -5º / 25º
Weight 4.4Kg
Dimensions 615 x 458 x 226mm
Price 7,900 บาท

Design

ViewSonic VX2718-P-MHD

อุปกรณ์ที่มีให้ภายในกล่อง ViewSonic VX2718-P-MHD รุ่นนี้ หลักๆ จะใช้ในการประกอบ เป็นโครงสร้างที่ใช้งานง่าย ติดตั้งสะดวกเลยทีเดียว ที่เห็นนี้เป็นส่วนของขาตั้ง

ViewSonic VX2718-P-MHD

ส่วนตัวฐานจะเป็นแบบตัว V ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งความกว้างของฐานจะอยู่ที่ประมาณ 32cm

ViewSonic VX2718-P-MHD

การติดตั้งง่ายและไม่ซับซ้อน ไขควงหมุนน็อตแค่ตัวเดียวคือ ขาตั้งที่ยึดกับด้านหลังจอ แค่นี้ก็แน่นหนาแข็งแรงแล้ว และตัวล็อคที่ใส่เข้าไป ไม่ต้องไปหมุนให้ยุ่งยากวุ่นวาย

สายสัญญาณที่ให้มา ประกอบด้วย สายไฟ และสาย DisplayPort โดยอแดปเตอร์เป็นแบบติดตั้งอยู่ในจอภาพแล้ว จึงไม่ต้องต่อให้เกะกะ

ViewSonic VX2718-P-MHD

ตัวยึดจอกับฐานด้านหลัง แข็งแรงเลยทีเดียว รวมถึงขยับได้ เพื่อจัดมุมให้เข้ากับการใช้งานนั่นเอง

ViewSonic VX2718-P-MHD

เมื่อประกอบจอ ViewSonic VX2718-P-MHD เสร็จเรียบร้อย หน้าตาก็จะออกมาประมาณนี้ ออกไปทางเรียบหรูดูดี ไม่เทอะทะ และสังเกตได้ว่า ขอบจอนั้นบางเฉียบ ด้านล่างเองก็ดูประหยัดพื้นที่ไปเยอะเลย

ViewSonic VX2718-P-MHD

ด้านหลังเป็นสีดำทั้งหมด มีโลโก้ ViewSonic สีขาว ตัดกับสีพิ้นได้สะดุดตา ตัวฐานมีความเพรียวบางลงตัว ตรงกลางมี VESA Mount ในการติดตั้งอุปกรณ์หรือใช้ติดเข้ากับตัวยึดผนังได้

ViewSonic VX2718-P-MHD

บริเวณด้านหลังจอ มีลำโพงมาให้ 2 ชุดด้วยกัน ทั้งด้านซ้ายและขวา เป็นลำโพง 2 Watts ที่ให้เสียงได้ดีพอสมควร

ViewSonic VX2718-P-MHD

ฐานรูปตัว V ออกแบบมาดูกระทัดรัด แต่สามารถรับน้ำหนักจอ รวมถึงการปรับเลื่อนได้สะดวก ลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะลงไปได้มาก เหมาะกับคนที่จัดโต๊ะคอม เน้นความมินิมอล และใช้พื้นที่บนโต๊ะได้มากขึ้น

ViewSonic VX2718-P-MHD

มุมล่างขวา เป็นจุดที่ใช้ปรับแต่งการทำงานของจอรุ่นนี้ มีด้วยกัน 5 ปุ่ม สำหรับ OSD Settings และปุ่มเปิด-ปิด ใช้งานสะดวกทีเดียว

ViewSonic VX2718-P-MHD

พอร์ตแสดงผลประกอบด้วย HDMI จำนวน 2 พอร์ต และ DisplayPort จำนวน 1 พอร์ต รวมถึง Audio

ViewSonic VX2718-P-MHD

VESA Mount ขนาด 100 x 100 mm รองรับการติดตั้งอุปกรณ์อย่าง Mini-PC หรือเข้ากับอุปกรณ์ติดตั้งกับผนัง รวมถึงคนที่ชอบความสะดวก อาจเลือกติดตั้งเข้ากับขาแขวน ในการยึดเข้ากับโต๊ะทำงานได้อีกด้วย


Function

ViewSonic VX2718-P-MHD

ในแง่ของการปรับเลื่อน ให้เหมาะกับสรีระการใช้งานของผู้เล่น โดยหลักอยู่ที่ขาตั้งจอ กับจุดเชื่อมต่อกับตัวจอ สามารถปรับมุมก้ม-เงยได้ที่ -5 องศา ไปจนถึง 25 องศา

ViewSonic VX2718-P-MHD

เมื่อมองจากด้านข้าง จะเห็นระยะของการปรับมุมก้มและเงย ของจอ ViewSonic รุ่นนี้ โดยมุมเงยนั้น สามารถปรับได้เยอะพอสมควร เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานได้มากขึ้น เช่น คนที่ใช้พรีเซนเทชั่น หรือยืนทำงาน


OSD settings

Viewsonic VX2718 P MHD Game OSD1

ในการปรับแต่ง OSD Settings ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ใครที่เคยใช้การปรับแต่งจอภาพแบบกดปุ่มมาแล้ว น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยส่วนตัวชอบปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอมากกว่าชุดปุ่มที่อยู่ด้านหลังจอ เพราะดูเป็นธรรมชาติ และเข้าใจสัญลักษณ์ ซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ตกลง-ย้อนกลับ ได้ง่ายกว่า หัวข้อใน OSD บนจอรุ่นนี้ ประกอบด้วย

  • Input Select
  • Audio Adjust
  • View Mode
  • Color Adjust
  • Manual Image Adjust
  • Setup Menu
ViewSonic VX2718-P-MHD

Input Select – ในส่วนนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน จะเป็นส่วนที่ใช้ควบคุมสัญญาณการเชื่อมต่อจากภายนอก ที่เป็นเหมือน Input Source ต้นทาง จะเป็นคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเล่นที่เป็น Player จากส่วนอื่นๆ ก็ตาม

ViewSonic VX2718-P-MHD

Audio Adjust – จุดที่สองนี้ จะเป็นการปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียงของลำโพงที่อยู่บนตัวจอได้ แค่กดเลื่อนซ้าย-ขวา

ViewSonic VX2718-P-MHD

View Mode – จัดว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญ สำหรับเกมเมอร์และการใช้งานหลายๆ อย่างเลยทีเดียว เพราะจะมี Mode ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดการเล่นเกม Standard, FPS, RTS, MOBA, Movie, Web, Text, Mac และ Mono ครั้งแรกที่เห็น รู้สึกได้เลยว่า เออง่ายดีจัง รวมอยู่ในนี้ทั้งหมด ไม่ต้องไปกดหาให้เมื่อย จะทำงานหรือจะเล่นเกม บันเทิง เข้ามาที่นี่ที่เดียว กด เลื่อน เลือก จบสะดวกดี

ViewSonic VX2718-P-MHD

Color Adjust – ในส่วนนี้จะเป็นการปรับแต่งแสง สี และอุณหภูมิสีเป็นหลัก เป็นส่วนที่เพิ่มเติม เหมือนการปรับแต่งในแบบ Manual ให้เข้ากับการใช้งานของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น Contrast/ Brightness, Color Temp, Color Space และ Color Range เป็นต้น แต่เท่าที่ดูแล้ว ถ้าไม่ได้ใช้งานที่ซับซ้อน หรือต้องการปรับจูนแสงสีที่ลงรายละเอียดมากขึ้น เพื่อความชอบหรือให้เหมาะกับการ โพรไฟล์ที่มีใน View Mode ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้แล้ว

ViewSonic VX2718-P-MHD

Manual Image Adjust – ในส่วนนี้ค่อนข้างจะลงลึกไปในรายละเอียด เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกม เช่น Black Stabilization ที่ใช้ในเกมที่มีฉากมืดหรือสมรภูมิที่มีแสงน้อย อยากจะเห็นรายละเอียดในเกมได้มากขึ้น โดยไม่ต้องไปแตะในส่วนของ Contrast หรือเพิ่มค่า Brightness ให้เสียอรรถรส ฟีเจอร์นี้ช่วยได้พอสมควร

รวมถึงในหัวข้อ Blue Light Filter ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า ในกรณีที่ต้องใช้ในการทำงานเอกสาร หรือต้องจ้องหน้าจอนานๆ ก็จะทำให้ลดความเมื่อยล้าสายตาไปได้ไม่น้อย ตรงจุดนี้จะสามารถเข้าไปใช้ในโหมด Text ก็ได้เช่นกัน แต่ตรงนี้จะช่วยให้คุณปรับระดับได้ตามต้องการมากขึ้น

ViewSonic VX2718-P-MHD
Advance DCR – 0%
ViewSonic VX2718-P-MHD
Advance DCR – 100%

Advance DCR ที่มีมาให้ใช้บนจอรุ่นนี้ ที่เรามักจะเห็นเป็นฟีเจอร์อยู่บนจอเกมมิ่งหรือจอทีวีที่เน้นเอนเตอร์เทนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับความสว่าง เพื่อช่วยให้การแสดงสีของภาพให้ดูมีความสดใสชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ในการเล่นเกม ที่มีฉากมืดหรือเข้มมาก จอภาพจะลดความสว่างลง เพื่อให้ฉากดูจากลง จุดที่มืด ก็จะเป็นสีเทาๆ ลงมา ไม่เข้มจนเป็นเงามืดจนเกินไป ส่วนฉากที่เป็นสีจางๆ ก็จะถูกปรับความสว่างเพิ่มขึ้น เพื่อให้ดูมีความสดใส แต่ระบบของจอ จะไม่ทำให้เราเห็นจนผิดสังเกตหรือรู้สึกเสียอารมณ์ในการเล่น ตามภาพที่ปรากฏอยู่ด้านบนนี้

ViewSonic VX2718-P-MHD

Setup Menu – ในส่วนนี้จะเป็นชุดควบคุมการทำงานของจอเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับภาษา, ความละเอียด, การรายงานข้อมูลพื้นฐาน รวมถึงการตั้งค่าเปิด-ปิด, Power Off, Sleep เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจคือ ในส่วนของ Adaptive Sync และ HDR


Performance

ViewSonic VX2718-P-MHD

มาเริ่มการทดสอบด้วยการเล่นเกม บนจอ ViewSonic VX2718-P-MHD รุ่นนี้กันดีกว่า โดยเราใช้สเปคคอม ประกอบด้วย

  • Intel Core i5-10600K
  • ASRock B560 Steel Legend
  • DDR4 3200 16GB
  • GIGABYTE Radeon RX 6600 XT
  • SSD WD 500GB
  • PSU 650W

ในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่นเกมบนพีซีนี้ สามารถรีดเฟรมเรตในหลายๆ เกมได้ระดับ 200fps. ในการตั้งค่า Medium และ High ซึ่งทำให้ทดสอบเกมบนจอรุ่นนี้ ลื่นไหลและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

ViewSonic VX2718-P-MHD

ตัวอย่างเช่น ในเกม Battlefield V หากปรับความละเอียด High เฟรมเรตจะอยู่ที่ราว 150-160fps ซึ่งความจริง ก็เพียงพอที่จะให้ความต่อเนื่องของภาพ และความสวยงามของเกมได้ดีอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นไปอีกนิด และมีความไหลลื่นมากขึ้น การปรับเป็น Medium ที่เฟรมเรตแตะเกือบ 200fps ก็ทำให้น่าสนใจเลยทีเดียว ภาพยังคงสวยงาม และให้รายละเอียดในการเล่นได้ดีทีเดียว เรื่องรายละเอียดของภาพดูตื่นเต้น และที่สำคัญขอบจอที่บางเฉียบแบบนี้ ทำให้ภาพดูเต็มตามากยิ่งขึ้น เอาใจคนที่ชอบเล่นเกมและดูหนังได้ดี

Adaptive Sync

ViewSonic VX2718-P-MHD
ViewSonic VX2718-P-MHD

แต่เพื่อเพิ่มความลื่นไหลให้กับภาพได้มากขึ้น ในการทดสอบเกมนี้ เราเลือกตั้งค่า Adaptive Sync บน OSD ของจอภาพ และลองเล่นเปรียบเทียบกับการไม่เปิด ภาพที่ได้โดยส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยเห็นผลแตกต่างชัดเจนนัก เนื่องจากเฟรมเรตของภาพค่อนข้างสูง และนิ่ง มีแค่ในบางจังหวะ ที่มีฉากโจมตีค่อนข้างหนัก เช่น โดนรุมโจมตีจากรถถังและเครื่องยิงจรวด รุมเข้ามาจากรอบด้าน และมีเอฟเฟกต์ระเบิดค่อนข้างเยอะ ตรงนี้พอจะเห็นได้ชัดว่า ภาพไม่ฉีกขาด และยังให้ความต่อเนื่องได้ดีกว่าการปิด Adaptive Sync เอาไว้อยู่บ้าง นอกจากนี้ลองเข้าไปในไดรเวอร์ AMD เพื่อเปิดใช้งาน FreeSync และ Radeon Enhance Sync ดูบ้าง ซึ่งผลออกมาก็ใกล้เคียงกัน ซึ่งถือว่าตัวจอมีค่ารีเฟรชเรตที่สูงอยู่แล้ว จึงให้ภาพได้ต่อเนื่อง เท่าที่พีซีที่ใช้เล่นนั้น รีดเฟรมเรตออกมาไหว ในเคสนี้ถือว่าการเล่นค่อนข้างไหลลื่นได้ดี

HDR – Movie

ViewSonic VX2718-P-MHD

ในการชมภาพยนตร์ สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ สีสันและความสดใสของภาพ ที่จะทำให้การชมนั้นได้อรรถรส ไม่เสียอารมณ์กับภาพที่จืดชืด ไร้ชีวิตชีวา ViewSonic VX2718-P-MHD มาพร้อมกับฟังก์ชั่น HDR ให้ปรับความสวยงามในการรับชมได้อย่างเต็มอิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการให้มิติของสีสันที่มีรายละเอียดมากขึ้น แต่ยังคงความสมจริงที่ไม่เพิ่มความฉูดฉาดมากจนเกินไปนัก ตรงนี้สามารถเลือกปรับได้ใน OSD ในหัวข้อของ Setup Menu

ViewSonic VX2718-P-MHD

แต่ถ้าใครไม่ได้เน้นในส่วนของสีมากนัก แต่อยากได้มิติในการชมที่มีความสบายตา สามารถเลือกปรับในโหมด Movie ของ View Mode ใน OSD settings ได้เช่นกัน

HDR – Games

ViewSonic VX2718-P-MHD
ViewSonic VX2718-P-MHD

ในการเล่นเกม สีสันที่เร้าใจ กับเอฟเฟกต์ที่ดูสมจริง ก็ทำให้การเล่นสนุกขึ้นได้ ในเกม BFV นี้ เราได้ลองปรับ HDR เพิ่มเติม จากในส่วนของตัวเกมด้วย ซึ่งภาพที่ออกมาเรียกว่าสีสันกับ แสงเงาที่ตกกระทบ รวมถึงบรรดาสีสันในเกมนั้น ดูแตกต่างออกไปจากเดิมพอสมควร โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องของความมืดและแสงเงา ความเข้มจากโทนสีต่างๆ ออกมาจัดจ้าน สังเกตจากด้านบนจะเห็นว่าเปลวไฟนั้น ดูสมจริงลุกไหม้กว่าทางด้านซ้าย ในช่วงจังหวะเดียวกัน รวมไปถึงเงาสะท้อนจากบนถนน และกระบอกปืน ซึ่งดูแล้วน่าตื่นเต้นมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ดี HDR ก็อาจจะทำให้บางในบางจุดดูซับซ้อนมากขึ้น การสังเกตศัตรู หรือสิ่งที่อยู่รอบข้างถูกกลืนไปด้วยเช่นกัน ใครที่คิดว่าอยากได้ฉากที่ดูแล้ว จับสังเกตได้ชัด หรืออยากให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ก็อาจจะเลือก Off ได้เช่นกัน

DOTA2

ViewSonic VX2718-P-MHD

สำหรับเกม DOTA2 ที่เรียกว่ายังคงยอดฮิตติดชาร์ท เกมนี้เรื่องของความลื่นไหลไม่น่าห่วง เพราะไม่ได้ใช่สเปคที่หนักหน่วงมากนัก แม้ว่าเราจะปรับให้เป็นแบบ Best Looking แล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ น่าจะเป็นเรื่องของสีสัน และการมองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้วยพื้นที่ของหน้าจอระดับ 27″ และขอบจอที่บางเป็นพิเศษ ทำให้การมองภาพทำได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงมองเห็นตัวละครหรือฮีโร รวมถึงเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญการปรับโหมด MOBA ใน OSD settings ก็ทำให้ภาพที่ได้ดูสดใสดีทีเดียว

Web browsing & Office

ViewSonic VX2718-P-MHD

สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บไซต์ หรือใช้งานด้านเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน จัดว่าคล่องตัวทีเดียว สิ่งที่ช่วยให้หลายคนทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น คือการแบ่งหน้าจอด้วยการ Split Window ที่คุณสามารถแบ่งไฟล์ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะแบ่งครึ่งหน้าจอซ้ายขวาหรือบนล่างก็ตาม เช่นเดียวกับการท่องเว็บไซต์ ที่อาจเปิดหน้าจอสำหรับเทรดหุ้น แล้วแบ่งอีกหน้าจอ สำหรับการหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ หรือหาข้อมูลหุ้นที่สนใจไปพร้อมๆ กันได้เลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน้าจอที่ใหญ่ และสัดส่วนในแบบ 16:9 ก็ทำให้ได้พื้นที่ในแนวตั้งมากขึ้น ไม่จำเป็นจะต้องลดฟอนต์ลงให้เล็กจนเกินไป รวมถึงยังมีฟังก์ชั่น Text หรือ Web ให้ปรับใช้ได้ตามต้องการ เพื่อให้การอ่านข้อมูลง่ายขึ้นและสบายตา

Viewsonic VX2718 P MHD Game 33

Conclusion

ViewSonic VX2718-P-MHD

ในภาพรวมของจอ ViewSonic VX2718-P-MHD รุ่นนี้ถือว่าออกมาได้ค่อนข้างลงตัวกับเกมเมอร์ ที่อยากจะขยับหรือเปลี่ยนจอตัวเก่า ซึ่งอาจจะเป็นจอขนาดเล็ก หรือการตอบสนองกับเกมไม่ทันใจ มาสู่ความลื่นไหล เพื่อให้สอดคล้องกับคอมใหม่ที่เร็วขึ้น ด้วยอัตรารีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz และให้ตอบสนองที่รวดเร็วระดับ 1ms เท่านั้น จึงช่วยให้การแสดงผลออกมารวดเร็ว การเคลื่อนไหวของภาพมีความต่อเนื่อง ตัวจอรองรับ Adaptive Sync ภาพที่ได้จึงลื่นไหลไม่ฉีกขาด เป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับเหล่าเกมเมอร์ได้สนุกสนานมากขึ้น ไม่เพียงแต่ภาพสวยเท่านั้น แต่ยังเล่นได้สบายตาอีกด้วย เช่นเดียวกับบรรดาฟีเจอร์ที่ให้มาค่อนข้างครบครัน พาแนลแบบ VA SuperClear ที่ให้มุมมองกว้าง จึงทำให้ภาพที่คมชัดแม้จะอยู่ในมุมมองด้านข้างหรือมองจากมุมบนก็ตาม เช่นเดียวกับบนพาแนล IPS การปรับแต่งก็ค่อนข้างสะดวก จากปุ่มกดที่อยู่ด้านใต้ของหน้าจอ ใช้งานง่าย รวมถึงการปรับมุมของจอให้เข้ากับสรีระในการใช้งาน ก็ยังพอทำได้ แม้ว่าจะไม่มีมีให้หันซ้าย-ขวา หรือ Pivot ก็ตาม ด้วยสนนราคาประมาณ 7,900 บาท ก็ถือว่า ค่อนข้างครบเครื่อง เพิ่มเติมความสนุกให้กับการเล่นเกมของคุณได้เต็มอิ่มอย่างแน่นอน

ราคา: ประมาณ 7,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.viewsonic.com/th/products/lcd/VX2718-P-MHD

การรับประกัน: รับประกัน 3 ปี แบบ Onsite Pick & Drop เป็นการรับประกันแบบมีเจ้าหน้าที่ไปรับเครื่องซ่อมถึงบ้าน

from:https://notebookspec.com/web/615085-viewsonic-vx2718-p-mhd-165hz