คลังเก็บป้ายกำกับ: จอคอม

7 จอพกพาน่ามีติดกระเป๋า ทำงานสะดวกถูกใจชาว 2 จอแน่นอน อัพเดทปี 2023

ใครอยากทำงานสองจอที่ร้านกาแฟล่ะก็ หาจอพกพามาใช้เลย!

7จอพกพาน่าใช้ 1

หากใครทำงานสองหน้าจอจนชินแล้ว ก็กลับมาใช้แค่จอหลักจอเดียวได้ยากพอควรเพราะพื้นที่ทำงานลดลง ยิ่งถ้าไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ จอพกพาก็กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ผู้เขียนเชื่อว่าใครหลายๆ คนก็อยากหาซื้อมาใช้งานอย่างแน่นอน เพราะมันพกไปไหนมาไหนได้ง่ายมีขนาดไล่เลี่ยหรือเท่ากับโน๊ตบุ๊ค แค่ต่อสาย USB-C หรือ HDMI ก็ใช้งานได้ทันที ซึ่งจอเหล่านี้ก็มีความละเอียดให้เลือกหลากหลายระดับ ตั้งแต่ Full HD~UHD ให้เลือก มีฟีเจอร์หลากหลายไม่ว่าจะค่า Refresh Rate สูง, ขอบเขตสีจอกว้างสำหรับสายอาร์ทหรือแม้แต่เป็นจอทัชก็มีให้เลือกเช่นกัน

Advertisementavw

ข้อดีของจอพกพานอกจากพกไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว ยังใช้เป็นจอเสริมสำหรับของพีซีได้ด้วย โดยเฉพาะถ้าใครใช้จอ 34 นิ้ว อัตราส่วนจอ 21:9 จะรู้ดีเลยว่าพอมีจอเสริม จะเอามาวางด้านข้างซ้ายหรือขวาก็ไม่สะดวกหรือต่อด้านบนก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมอีก ดังนั้นซื้อจอเล็กสำหรับพกพามาวางไว้หน้าผู้ใช้แทนย่อมสะดวกกว่าอย่างแน่นอน

จอพกพา

หากตัดสินใจได้ว่าจะซื้อจอเหล่านี้มาใช้งานแล้ว วิธีการเลือกจอเหล่านี้ให้คุ้มค่าที่สุด ใช้คู่กับโน๊ตบุ๊คหรือพีซีตั้งโต๊ะก็ได้จะมีวิธีการเลือกและดูสเป็คดังนี้

  1. เลือกความละเอียดหน้าจอให้สูงเข้าไว้ – หัวใจสำคัญของหน้าจอทุกแบบ ไม่ว่าจะจอตั้งโต๊ะที่หาซื้อได้ทั่วไปหรือจอพกพาก็ตาม ให้หารุ่นความละเอียดสูงเอาไว้ก่อน ขั้นต่ำให้เริ่มจากจอ Full HD ให้ดีก็เป็นจอ 4K เลยก็ได้ เพราะความละเอียดยิ่งสูงภาพจะยิ่งคมชัดขึ้น แต่ราคาก็จะยิ่งสูงตามด้วยเช่นกันและอาจกินกำลังของการ์ดจอเครื่องเราด้วย 
  2. จอยิ่งใหญ่ยิ่งดี – ปัจจุบันนี้จอพกพาจะมีขนาด 15.6 นิ้ว หรือ 17.3 นิ้วให้เลือก ซึ่งถ้าหน้าจอใหญ่ก็ยิ่งมองเนื้อหาบนหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไม่ต้องเพ่งตาเกินไป ช่วยให้เราทำงานได้สบายขึ้นด้วย และส่วนตัวผู้เขียนเองก็ไม่แนะนำให้เลือกจอขนาด 11, 13 นิ้ว มาใช้แล้วเพราะขนาดเล็กไป ไม่สมกับคอนเทนต์ในปัจจุบันเท่าไหร่แล้ว
  3. น้ำหนักจอสำคัญนะ – ขึ้นชื่อว่าเป็นจอพกพา ถ้าเลือกขนาดมาใหญ่สะใจ 17.3 นิ้ว แต่ใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้หรือหนักเกินไป แทนที่จะได้นั่งทำงานอย่างมีความสุขก็กลายเป็นหนักเกินจนปวดไหล่แล้วไม่อยากพกไปไหน สุดท้ายอาจได้ทิ้งไว้ที่โต๊ะคอมที่บ้านแล้วใช้เป็นจอเสริมแทน แต่ถ้าตั้งใจซื้อมาตั้งโต๊ะอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้นัก
  4. ดูพอร์ตและการเชื่อมต่อดีๆ – นอกจากพอร์ต HDMI, mini HDMI แล้ว ถ้าหน้าจอรุ่นนั้นมีพอร์ต USB-C DisplayPort ด้วย ก็เอาไปต่อโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่มีพอร์ต USB-C Full Function หรือ Thunderbolt ใช้งานได้เลย ไม่ต้องหาอุปกรณ์พ่วงต่อให้วุ่นวายมาก

นอกจากเอาไว้ใช้งานทั่วไป ปัจจุบันนี้ก็มีจอเล็กพกพาได้แบบค่า Refresh Rate สูงเพื่อเกมเมอร์ที่อยากเอามาต่ออุปกรณ์อย่างเครื่องคอนโซล, สมาร์ทโฟน ฯลฯ ได้ด้วย เผื่อเกมเมอร์หรือผู้ใช้คนไหนไปทำงานต่างจังหวัดแล้วอยากเล่นเกมก็มีจอพกพานี้ให้ต่อแยกใช้งานได้ด้วย

สรุปสเปคจอพกพา 7 รุ่นเด็ด ราคาดีน่าใช้ถูกใจทั้งเกมเมอร์และคนทำงาน

สเปคจอพกพา Size
&
Resolution
Gamut
&
Brightness
Connectivity Weight ราคา
(บาท)
Arzopa Portable Monitor 15.6″ FHD IPS 100% sRGB

320 cd/m2

USB-C x 2

mini HDMI x 1

Audio combo x 1

ลำโพง 2 ดอก

653 กรัม 5,890
Arzopa FHD Portable Gaming Monitor 15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

AMD FreeSync

300 cd/m2 mini HDMI x 1

USB-C Full Function x 2

Audio combo x 1

616 กรัม 7,590
Lenovo ThinkVision M15 15.6″ FHD IPS 250 cd/m2 USB-C x 2
รองรับ DisplayPort
alt-mode
1.7 กก. 6,480
Lenovo L15 Mobile Monitor 15.6″ FHD IPS 250 cd/m2 USB-C x 2
รองรับ DisplayPort alt-mode
860 กรัม 6,790
ViewSonic VA1655 Portable Monitor 15.6″ FHD IPS 250 cd/m2 USB-C x 2
รองรับ DisplayPort
alt-mode

mini HDMI x 1

Audio combo x 1

ลำโพง 0.8 วัตต์
2 ดอก

ราว 700 กรัม 7,300
ASUS ProArt Display PA148CTV ทัชสกรีน
14″ FHD IPS
100% sRGB

100% Rec.709

Delta-E <2

Calman Verified

300 cd/m2

USB-C x 2
รองรับ DisplayPort
alt-mode

mini HDMI x 1

ลำโพง 1 วัตต์
2 ดอก

740 กรัม 16,500
ASUS ZenScreen MB16AMT ทัชสกรีน
15.6″ FHD IPS
300 cd/m2 USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort alt-mode

Micro HDMI x 1

Audio combo x 1

ลำโพง 1 วัตต์
2 ดอก

900 กรัม 17,390

7 จอพกพาน่าใช้ พกง่ายทำงานสะดวกขึ้นแยะ ถูกใจคนทำงานแน่นอน! 

หากผู้ใช้คนไหนกำลังมองหาจอพกพาตัวใหม่มาใช้คู่กับโน๊ตบุ๊คหรือต่อเป็นจอเสริมของพีซีที่บ้านอยู่ล่ะก็ ในปี 2023 นี้ จอคอมพกพาเหล่านี้ราคาเริ่มต้นไม่แพงมากเหมือนในอดีตแล้วและฟีเจอร์ก็ดีขึ้น เหมาะจะซื้อเอาไว้ใช้งานสักตัวเป็นอย่างมาก โดยผู้เขียนเลือกจอคอมเหล่านี้มาแนะนำทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  1. Arzopa Portable Monitor (5,890 บาท)
  2. Arzopa FHD Portable Gaming Monitor (7,590 บาท)
  3. Lenovo ThinkVision M15 (6,480 บาท)
  4. Lenovo L15 Mobile Monitor (6,790 บาท)
  5. ViewSonic VA1655 Portable Monitor (7,300 บาท)
  6. ASUS ProArt Display PA148CTV (16,500 บาท)
  7. ASUS ZenScreen MB16AMT (17,390 บาท)
1. Arzopa Portable Monitor (5,890 บาท)

6c31f451cc284b5b3677cd769a78bf53

 

จอพกพารุ่นแรก ผู้เขียนแนะนำเป็น Arzopa Portable Monitor ที่ราคาเป็นมิตรแต่งานประกอบดีทีเดียว บอดี้หน้าจอเป็นโลหะแข็งแรงและแถมเคสหนังมาให้ใช้ด้วย จอมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB มีความสว่างสูงสุด 320 cd/m2 ติดตั้งลำโพงมาให้ 2 ตัว มีพอร์ต USB-C x 2, mini HDMI x 1, Audio combo x 1 น้ำหนักเพียง 653 กรัมเท่านั้น ถือว่าเบาพกง่ายหรือจะใช้เป็นจอเสริมกับคอมพิวเตอร์, เครื่องคอนโซลหรือสมาร์ทโฟนก็ได้และทางผู้ผลิตก็แถมสาย USB-C Full Function กับ mini HDMI to HDMI มาให้ด้วย จัดเป็นจอคอมพกพาที่ราคาเป็นมิตรและสเปคน่าใช้ทีเดียว

สเปคของ Arzopa Portable monitor
Size&Resolution 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness 100% sRGB ความสว่างสูงสุด 320 cd/m2
Connectivity USB-C x 2, mini HDMI x 1, Audio combo x 1, ลำโพง 2 ดอก
Weight 653 กรัม
Price 5,890 บาท (Monitor2Home Shopee)
2. Arzopa FHD Portable Gaming Monitor (7,590 บาท)

77c7249016e47879d8ba18b9e441d23d

 

ถ้าหาจอพกพาไปใช้เล่นเกมกับเกมมิ่งพีซีหรือคอนโซลล่ะก็ Arzopa FHD Portable Gaming Monitor ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน โดยน้ำหนักจอเพียง 616 กรัม ขนาดจออยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz รองรับ AMD FreeSync ตั้งความสว่างได้สูงสุด 300 cd/m2 มีพอร์ต mini HDMI x 1, USB-C Full Function x 2, Audio combo x 1 ซึ่งจอ Arzopa นี้ นอกจากต่อโน๊ตบุ๊คได้แล้ว ยังเอาไปต่อเครื่องเกมคอนโซลยอดนิยมในปัจจุบันทั้ง PlayStation, Nintendo Switch หรือ Xbox ก็ได้ เป็นจอคอมพกพาที่อเนกประสงค์ทีเดียวแถมยังมีเคสฝาพับเอาไว้ตั้งเครื่องและปิดกันหน้าจอได้อีกด้วย ถือว่าคุ้มมาก

สเปคของ Arzopa FHD Portable Gaming Monitor
Size&Resolution 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz รองรับ AMD FreeSync
Gamut&Brightness ความสว่างสูงสุด 300 cd/m2
Connectivity mini HDMI x 1, USB-C Full Function x 2, Audio combo x 1
Weight 616 กรัม
Price 7,590 บาท (Monitor2Home Shopee)
3. Lenovo ThinkVision M15 (6,480 บาท)

62CAUAR1WW 500 1

แบรนด์ชั้นนำด้านคอมพิวเตอร์อย่าง Lenovo ก็มีจอพกพาอย่าง Lenovo ThinkVision M15 ให้เลือกซื้อไปใช้งานได้ด้วย โดยหน้าจอนี้มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ดีไซน์เป็นหน้าจอมีขาตั้งติดเอาไว้ด้านหลังจอ สามารถกางออกหรือพับเก็บก็ได้และติดพอร์ต USB-C x 2 ช่องที่ต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้มาให้ เหมาะกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันที่มีพอร์ต USB-C Full Function หรือ Thunderbolt ติดตั้งมาให้ใช้งาน ตั้งค่าการแสดงผลด้วยโปรแกรม Lenovo ThinkColour ได้ มีความสว่างสูงสุด 250 cd/m2 แต่จุดสังเกตคือน้ำหนักของจอนี้สูงถึง 1.7 กิโลกรัม ซึ่งหนักไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน แต่งานประกอบและความแข็งแรงถือว่าดีและราคาก็ไม่แพงมาก หากใครหาจอคอมพกพาราคาไม่แพง ไม่เกี่ยงว่าน้ำหนักจะสูงสักนิดล่ะก็ จอ ThinkVision ตัวนี้จัดว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Lenovo ThinkVision M15
Size&Resolution 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness ความสว่างสูงสุด 250 cd/m2
Connectivity USB-C x 2 ช่อง ต่อจอแยกแบบ DisplayPort alt-mode
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 6,480 บาท (Top Computer Shopee)
4. Lenovo L15 Mobile Monitor (6,790 บาท)

66E4UAC1WW 500 2

จอ Lenovo ที่ผู้เขียนแนะนำอีกรุ่น เป็น Lenovo L15 Mobile Monitor ซึ่งน้ำหนักเบาลงเหลือ 860 กรัม เท่านั้นแต่ยังได้ขนาดจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เช่นเดิม เหมาะกับการพกคู่กับโน๊ตบุ๊คติดตัวไปไหนมาไหนมาก รองรับ Windows เป็นหลัก มีพอร์ต USB-C x 2 ช่อง ใช้ต่อหน้าจอแบบ DisplayPort ได้และเป็นช่องรับกระแสไฟจากโน๊ตบุ๊คเครื่องที่ต่อได้ด้วย จึงไม่ต้องต่ออแดปเตอร์เมื่อใช้งาน ตั้งค่าจอด้วยโปรแกรม Lenovo Artery 2.0 ได้ง่ายๆ และมีความสว่างสูงสุด 250 cd/m2 โดยดีไซน์หน้าจอนี้จะมีฐานบานพับติดไว้ด้านหลังจอ เป็นฐานตัวหลักสำหรับรองรับหน้าจอและมีก้านบานพับเล็กซ้อนอยู่ด้านใต้อีกตัวหนึ่งด้วย หากใครสนใจจอรุ่นนี้อยู่สามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

สเปคของ Lenovo L15 Mobile Monitor
Size&Resolution 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness ความสว่างสูงสุด 250 cd/m2
Connectivity USB-C x 2 รองรับ DisplayPort alt-mode ใช้กระแสไฟจากโน๊ตบุ๊ค
Weight 860 กรัม
Price 6,790 บาท (Lenovo Shopee Mall)
5. ViewSonic VA1655 Portable Monitor (7,300 บาท)

VA1655 LF04 pc l

ViewSonic VA1655 Portable Monitor ตัวนี้เป็นจอพกพาบอดี้อลูมิเนียมทั้งตัว แข็งแรงทนทานสวยงามและดีไซน์ฝังขาตั้งหน้าจอเป็นบานพับติดไว้หลังจอ สามารถกางได้กว้างสุด 53 องศา ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ได้ ซึ่งจอนี้มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ความสว่างสูงสุด 250 cd/m2 ติดตั้งพอร์ต USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort 1.2 alt-mode, mini HDMI x 1, Audio combo x 1 และลำโพง 0.8 วัตต์ 2 ดอก และถึงจอนี้จะทำจากอลูมิเนียมก็ตามแต่หนักราว 700 กรัมเท่านั้น หากใครหาจอเสริมบอดี้แข็งแรงทนทานและขาตั้งกางได้กว้างล่ะก็ จอ ViewSonic ตัวนี้ก็น่าซื้อมาใช้งานมาก

สเปคของ ViewSonic VA1655 Portable Monitor
Size&Resolution 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness ความสว่างสูงสุด 250 cd/m2
Connectivity USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort 1.2 alt-mode, mini HDMI x 1, Audio combo x 1 และลำโพง 0.8 วัตต์ 2 ดอก
Weight ราว 700 กรัม
Price 7,300 บาท (JIB Shopee Mall)
6. ASUS ProArt Display PA148CTV (16,500 บาท)

fwebp

ศิลปินและสายอาร์ทที่หาจอพกพาเพื่องานอาร์ทไว้ใช้สักตัวมีจอ ASUS ProArt Display PA148CTV ให้เลือก ซึ่งจอ ProArt ตัวนี้เป็นจอทัชสกรีน 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, 100% Rec.709 มีค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 ได้รับการรับรอง Calman Verified มีความสว่างสูงสุด 300 cd/m2 ปรับตั้งค่าหน้าจอด้วยลูกล้อ ASUS Dial และใช้เป็นจอเปิดฟังก์ชั่น Virtual Control Panel เอาไว้เรียกฟังก์ชั่นใช้งานบ่อยเวลาทำงานกับโปรแกรมตระกูล Adobe ได้ มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C x 2 รองรับ DisplayPort Alt-mode, micro HDMI x 1, ลำโพง 1 วัตต์ 2 ดอก น้ำหนักจอนี้เพียง 740 กรัมเท่านั้น จากสเปคทั้งหมดนี้ต้องถือว่าจอ ASUS ProArt Display PA148CTV ตัวนี้เป็นจอเพื่อสายอาร์ทอย่างแท้จริง แม้ราคาจะสูงสักหน่อยแต่ประโยชน์ที่ได้รับกลับมาจัดว่าคุ้มค่าสุดๆ แน่นอน

สเปคของ ASUS ProArt Display PA148CTV
Size&Resolution จอทัชสกรีน 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness 100% sRGB, 100% Rec.709, Delta-E <2, Calman Verified, ความสว่างสูงสุด 300 cd/m2
Connectivity USB-C x 2 รองรับ DisplayPort alt-mode, micro HDMI x 1, ลำโพง 1 วัตต์ 2 ดอก
Weight 740 กรัม
Price 16,500 บาท (ASUS Shopee Mall)
7. ASUS ZenScreen MB16AMT (17,390 บาท)

fbckdkhojmpzg0qn setting xxx 0 90 end 800

สุดท้ายเป็นจอ ASUS ZenScreen MB16AMT จอพกพามีแบตเตอรี่มาให้ในตัวถึง 7,800mAh ใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง เผื่อผู้ใช้ต้องการต่อสมาร์ทโฟน, กล้อง หรือเครื่องคอนโซลที่ไม่สามารถจ่ายไฟให้จอได้ก็ไม่มีปัญหาและมีฟีเจอร์ ASUS Eye Care monitors เป็นจอไม่กระพริบ Flicker-Free และลดแสงฟ้า Low Blue Light ถนอมสายตาผู้ใช้เวลาทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง มีแอพฯ ZenScreen Touch ใน Play Store ให้ใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android ได้ดีเหมือนเป็นจอของมือถือเองและน้ำหนักเพียง 900 กรัม จึงพกไปไหนมาไหนได้ง่ายและมีฟังก์ชั่นหมุนจอเป็นแนวตั้งโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้พลิกจอ ด้านสเปคจอนี้เป็นจอทัชสกรีนขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ความสว่างสูงสุด 300 cd/m2 มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort Alt-mode, Micro HDMI x 1, Audio combo x 1, ลำโพง 1 วัตต์ 2 ดอก จัดเป็นจอพกพาทัชสกรีนที่ออกแบบมาใช้งานได้หลากหลายทั้งสมาร์ทโฟนและพีซี แม้ราคาจะสูงแต่ถือว่ามีประโยชน์กับคนทำงานอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ZenScreen MB16AMT
Size&Resolution จอทัชสกรีน 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Gamut&Brightness ความสว่างสูงสุด 300 cd/m2
Connectivity USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort alt-mode, Micro HDMI x 1, Audio combo x 1, ลำโพง 1 วัตต์ 2 ดอก
Weight 900 กรัม
Price 17,390 บาท (CHI CHANG Shopee)

comfort 1

ถ้าใครติดใจการใช้คอมสองหน้าจอแล้วรู้สึกอึดอัดเวลาออกไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟหรือประชุมงานกับลูกค้าก็ตาม ก็ควรมีจอพกพาสักตัวใส่กระเป๋าติดไปด้วยจะช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่า และพอกลับมาบ้านก็ใช้กับพีซีต่อได้ด้วย ยิ่งถ้าโต๊ะคอมใครเล็กวางสองจอไม่ได้หรือใช้จอกว้าง 21:9 แล้วตั้งจอเสริมไม่สะดวก ก็เปลี่ยนมาวางจอพกพาขนาดเล็กไว้ข้างหน้าเราแทนจะใช้งานได้สะดวกขึ้นไม่เปลืองพื้นที่และโต๊ะคอมยังดูสะอาดลงตัวยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย


7 mechanical keyboard full size 1

7เมาท์ไร้สายเทพๆ

7 Wireless Charging 1

from:https://notebookspec.com/web/687625-7-recommend-portable-monitor

Advertisement

จอคอมทำงาน 2023 เลือกแบบไหนดี? MSI PRO/MODERN series จอใหญ่ สีตรง คมชัด จบงานได้ไว

จอคอมทำงาน 2023 จาก MSI PRO series และ MODERN series เพื่อไลฟ์สไตล์ในบ้านและสายนักงานยุคใหม่ สีตรง คมชัด

MSI PRO MSI MODERN series monitor rev1

ก่อนจะซื้อคอมทำงานในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในบ้าน หรือวางไว้ที่ทำงาน นอกจากการประเมินงบประมาณที่เหมาะสมแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่แสดงผล ขนาดของหน้าจอ การปรับแต่ง สีสันความแม่นยำ รวมถึงฟังก์ชั่นเสริมตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน โดยในวันนี้เรามีจอทำงาน 4 รุ่นจากทาง MSI ทั้งในซีรีส์ PRO ที่เป็นจอภาพเริ่มต้นขนาด 24″ สำหรับการทำงานดีไซน์เรียบง่าย ขอบจอบาง ให้การแสดงผลได้คมชัด และ MSI MODERN series ที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัย ให้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ และความละเอียดสูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2160p ช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมภาพที่ยังคมชัด ให้การปรับแต่งที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับการทำงานในปัจจุบัน มาชมกันครับว่า จอรุ่นต่างๆ เหล่านี้ เหมาะกับการทำงานในรูปแบบใด และรุ่นไหนที่ลงตัวกับการใช้งานของคุณ

จอคอมทำงาน MSI PRO/ MODERN series


เลือกจอคอมสำหรับทำงาน

การเลือกจอคอมสำหรับใช้ทำงานนั้น มีด้วยกันหลายระดับ ตั้งแต่การทำงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร ทำพรีเซนเทชั่น หรือซอฟต์แวร์พื้นฐานทั่วไป ซึ่งอาจจะใช้จอขนาดปกติ เทคโนโลยีพื้นฐาน ราคาประหยัดก็ยังได้ แต่ถ้าสำนักงานและการทำงานของคุณ ให้ความสำคัญกับภาพและการแสดงผล เช่น การใช้หน้าจอใหญ่ในการนำเสนองาน หรือต้องการจอที่มีความละเอียดสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ขึ้นไป ให้ความละเอียดระดับ 2K หรือ 4K ก็เป็นคำตอบที่ดี

Advertisementavw
จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการงานที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านของภาพและวีดีโอ รวมถึงงานกราฟิก CG หรือ 3D นอกจากจอภาพขนาดใหญ่แล้ว ก็ต้องมองที่ Resolution หรือความละเอียดที่สูง เช่น 2K 1440p หรือ 4K 2610p ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่หน้าจอสำหรับงานได้มากขึ้น รวมถึงการจัดวางเครื่องมือ (Tool) ต่างๆ ได้สะดวกกว่า เช่น Adobe Premier Pro ก็จะได้พื้นที่พรีวิวที่กว้างขึ้น Timeline ที่กว้างขวาง และการปรับแต่งเครื่องมือใช้งานได้ดีกว่าจอภาพขนาดเล็กนั่นเอง

จอคอม

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ในงานระดับมืออาชีพ สิ่งที่สำคัญก็คือ ความแม่นยำของสี และขอบเขตสีที่กว้าง ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานที่จะให้ภาพและสีสัน มีความเที่ยงตรง เป็นมาตรฐาน เข้ากับรูปแบบการทำงานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ ซึ่งจะมีค่าเป็นมาตรฐานที่แตกต่างกันไปในแต่ละงาน

อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของการรับประกัน บริการหลังการขาย ที่จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจ ซึ่งผู้ผลิตแต่ละค่าย แต่ละโมเดลที่ออกมา อาจจะให้การรับประกันที่แตกต่างกันไปครับ


พาแนลแบบไหนดี

การเลือกพาแนลของจอให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะหลายคนต้องใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานในแต่ละวัน และยิ่งเป็นงานที่มีความสำคัญ ภาพที่เห็นต้องคมชัด มีความสว่างสดใส พาแนลในแต่ละแบบก็จะมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป

จอคอม

IPS – พาแนลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำงาน และความบันเทิง เพราะให้ภาพคมชัด มุมมองกว้าง ค่าสีที่แม่นยำ และเที่ยงตรง จึงเป็นจอที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

VA – เป็นพาแนลที่ได้รับความนิยมบนจอเกมมิ่งช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากราคาไม่สูง ครอบคลุมในหลายๆ งาน ให้ภาพสีสันสดใส มุมมองใกล้เคียงกับ IPS 

TN – ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรตสูง เหมาะกับการเล่นเกม แต่สีสันความสดใส อาจจะไม่เท่ากับจอแบบอื่นๆ รวมถึงมุมมองที่น้อยกว่า

OLED – ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากจอ LED ทั่วไป ที่เป็นหลอดไฟด้านหลังเพื่อให้เกิดแสงสว่าง ทำให้ได้ความคมชัดมากกว่า ภาพที่มีชีวิตชีวา ดูสมจริง สีที่ออกมาเที่ยงตรงตรง ไม่เกิดจุดแสงในสีดำ ภาพที่ได้ดำสนิท ประหยัดพลังงาน นำมาใช้บนจอโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบัน

QLED – มีพิกเซลขนาดเล็ก ให้ความสว่างและ Contrast สูง ทำให้สีสันสดใส ช่วงสีที่กว้าง ภาพดำเข้มลึก ไล่เฉดสีได้สมจริง เหมาะในด้านความบันเทิงทั้งการดูหนัง และเล่นเกมในปัจจุบัน


พื้นที่แสดงผลและความละเอียด

จอคอม 24″ ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีการทำงานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน การเรียน รวมถึงการเทรดหุ้นเป็นต้น รวมถึงการจัดวางง่าย ไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะ กำลังพอดีกับสายตา ในขณะที่นั่งตามปกติ แต่การใช้งานจะต่างกันในแง่ของความละเอียด (Resolution) ที่มีให้เลือกทั้ง Full-HD 1080p, 2K 1440p และ 4K 2160p ซึ่งแต่ละแบบ ก็อาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน

จอคอม
  • Full-HD 1080p: ได้รับความนิยม และใช้กันอยู่ทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทุกประเภท ไม่ว่าจะทำงาน ดูหนังหรือเล่นเกม เทรดหุ้น และรองรับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
  • 2K QHD 1440p: เป็นจอคอมที่เราเริ่มเห็นกันได้บ่อยในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นจอสำหรับเกมเมอร์ แต่ก็เหมาะกับการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะได้ความละเอียดที่มากขึ้น รองรับงานด้านตัดต่อ แต่งภาพ และการจัดวางเครื่องมือในโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม
  • 4K UHD 2160p: อาจจะเป็นจอที่หาได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นจอคอมระดับพรีเมียม ที่เน้นตอบโจทย์สำหรับเกมมากกว่า แต่ก็สนับสนุนการทำงานด้วยเช่นกัน ด้วยค่า Gamut และขอบเขตสีที่กว้าง รองรับการเชื่อมต่อที่ทันสมัย จะนำไปใช้กับงานโปรแกรมเฉพาะทางก็ได้เช่นกัน แต่ราคาจะค่อนข้างสูง

โดยเรามีตัวอย่างของจอคอมขนาด 24″ มาให้ชมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย MSI MODERN MD241 และ MSI PRO MP243 ซึ่งมาพร้อมกับความละเอียด 1980 x 1080p อัตรารีเฟรชเรต 75Hz พาแนล IPS ให้ความคมชัด และ MSI PRO MP241X ที่เป็นพาแนล VA ทุกรุ่นรองรับการใช้งานร่วมกับ MSI Display Kit อีกด้วย

จอคอม

จอคอม 27″-29″ จัดว่าเป็นขนาดของจอที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะคนที่ต้องการตัวจบในการทำงาน หรือจะนำมาเป็นจอเสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร และใช้ในการพรีเซนเทชั่น รวมถึงการทำงานวีดีโอ และการเขียนโปรแกรมเป็นต้น เพราะให้พื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดสรรการทำงาน และแบ่งหน้าต่างโปรแกรมได้ง่ายขึ้น และมีให้เลือกตั้งแต่ความละเอียด Full-HD สำหรับใช้งานเบื้องต้น ไปจนถึง 4K เพื่อคนที่ทำงานจริงจัง จัดว่าเป็นขนาดจอที่อยากจะแนะนำในการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งราคาเริ่มต้นไม่สูง แต่อาจจะใช้พื้นที่มากขึ้นเล็กน้อย รวมถึงระยะการวางที่ห่างจากสายตามากกว่าจอ 24″ อยู่บ้าง สำหรับจอภาพ 29″

จอคอม

โดยที่เรามีตัวอย่างของจอขนาด 27″ มาให้ชมกับ MSI MODERN MD272QPW ที่มาพร้อมความละเอียดที่สูงถึง 2560x1440p หรือ 2K WQHD พาแนล IPS ที่มีมุมมองกว้าง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ปรับหมุนจอได้สะดวก กับการเชื่อมต่อสัญญาณที่ครบครัน

จอคอม 32″ หรือมากกว่า มาพร้อมพื้นที่ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี พื้นที่กว้างขวาง มีให้เลือกตั้งแต่จอ 32″ ความละเอียด 2K หรือ 4K ในแบบพื้นฐาน ที่ให้คุณมองเห็นรายละเอียดของงาน หรือภาพได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร เขียนโปรแกรม เทรดหุ้น หรือใช้ในการเรียนการสอน ไปจนถึงจอสำหรับเกมเมอร์ ที่มีความละเอียดสูง และอัตรารีเฟเรชเรตที่สูงระดับ 144Hz อีกด้วย แต่ก็จะมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน


ขอบเขตสีก็สำคัญ

หากเป็นจอทำงาน ที่ต้องเน้นความแม่นยำของการแสดงผลสี และขอบเขตสีที่กว้าง ก็ต้องเลือกจอที่ให้ค่าขอบเขตสีในมาตรฐานต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นค่า sRGB, Adobe RGB หรือจะเป็น DCI-P3 และ Delta-E ตัวเลขต่างๆ จะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของจอแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น

จอคอม

sRGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่มีการใช้งานกันอยู่ทั่วไป ในแบบที่สายตาของคนเรามองเห็น ซึ่งถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์อย่าง จอทีวี กล้องและสิ่งอื่นๆ ซึ่งได้รับความนิยมว่าเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก มีความสำคัญในการทำงานร่วมกับ นักสร้างคอนเทนท์ งานกราฟิก วีดีโอโปรดักส์ชั่น และงานดิจิตอลต่างๆ การที่จอให้ค่า sRGB 99% ก็หมายถึงการแสดงค่าสี ได้สูงถึง 99% นั่นเอง ถือว่ามีความแม่นยำสูง

Adobe RGB: เป็นค่าขอบเขตสีที่กว้างมากขึ้น ใช้กันอย่างหลากหลายบนโปรแกรมจากค่าย Adobe สำหรับงานกราฟิกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom เป็นต้น เข้ากันได้กับงานที่เป็นสิ่งพิมพ์ที่เหล่ากราฟิกใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำและส่งพิมพ์ เพื่อจะได้สีไปในทิศทางเดียวกัน

จอคอม

DCI-P3: สำหรับ DCI-P3 เป็นมาตรฐานของสี ที่นิยมแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะมีขอบเขตกว้างกว่า sRGB อยู่เล็กน้อย โดยจะแสดงผลเป็นค่า % เช่นเดียวกัน

แต่จอภาพที่ยิ่งให้ขอบเขตสีที่กว้าง และความแม่นยำสีสูงนั้น ก็มักจะอยู่ในโมเดลระดับบน หรือถูกแยกออกมาเป็นกลุ่มจองานสตูดิโอหรืองานกราฟิกโดยเฉพาะ มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นงานจริงจัง หรือต้องเทียบสีเพื่อส่งงานพิมพ์หรืองานโปรดักส์ชั่นระดับมืออาชีพแล้ว จอคอมทำงานพื้นฐาน ที่มีตัวเลขของมาตรฐานต่างๆ ที่ว่ามาได้เกินระดับ 75% ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว


MSI MODERN MD272QPW

จอคอม

สำหรับคนที่ต้องทำงานหลายงานพร้อมกัน ต้องตรวจงานเอกสาร และการทำบัญชีที่ต้องการพื้นที่ Cell/ Column ในโปรแกรมกว้างมากขึ้น และงานวีดีโอหรือภาพที่ต้องพรีวิวชิ้นงานบ่อยๆ ในบางช่วงอาจจะใช้จอดูหนัง และเล่นเกมไปในตัว จอที่ให้พื้นที่แสดงผลที่กว้างเป็นพิเศษ เช่น จอคอม 27″-29″ จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีขึ้น อย่างเช่น MSI MODERN MD272QPW ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 27″ และให้ความละเอียดถึง 2K หรือ 2560x1440p ภาพสีสดใส ด้วยพาแนลในแบบ IPS และมีฟีเจอร์สำหรับการทำงานครบครัน เช่นรองรับ FreeSync, KVM และ Picture profile เป็นต้น พร้อมพอร์ต Input สัญญาณทั้ง HDMI และ USB-C และเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า Less Blue Light Pro อีกด้วย

จอคอม

มาดูที่รูปลักษณ์กันบ้าง สำหรับจอรุ่นนี้มาในโทนสีขาว ตามสไตล์ของ MODERN series ที่เน้นความลงตัวของเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือสำนักงาน ส่วนตัวผมมองว่าทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งมีขอบจอที่บางเป็นพิเศษ 3 ด้านเลย ยิ่งทำให้พื้นที่การชมภาพหรือทำงาน กว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวฐานและขาตั้ง ยังออกแบบมาให้ปรับเลื่อนได้หลายมุมเลยทีเดียว

สำหรับการปรับเลื่อน น่าจะถูกใจคนที่ชอบการทำงานในชีวิตประจำวันที่หลากหลาย เพราะมาพร้อมกับการให้เข้ากับสรีระได้ง่ายมาก ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของจอ MSI รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นกันหันข้างซ้าย-ขวา (Swivel) ได้ด้านละ 30 องศา ทำให้การแบ่งปันหน้าจอ ดูข้อมูล ให้กับคนข้างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องยกให้หมุนให้เสียเวลา

ในการปรับความสูงก็ได้เช่นกัน เผื่อบางครั้งต้องใช้บนโต๊ะทำงานที่ต่างระดับกัน โดยตัวจอปรับความสูงได้ถึง 110mm และยังทำได้ง่ายอีกด้วย แค่ดันขึ้นไปหรือกดลงเท่านั้น

ส่วนมุมก้ม-เงย เพื่อให้ใช้งานขณะที่นั่งหรือยืนได้ง่ายกว่าเดิม โดยปรับได้ที่ -5° ~ 20° อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

ด้านหลังจอคือไฮไลต์ เพราะมีแกนหมุนที่ใช้หมุนจอแบบ Pivot ได้ 90 องศา สำหรับการใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การพรีเซนเทชั่น หรือการเป็นจอพรีวิวงาน ที่เป็นจอเสริม หรือจะเป็นจอหลักสำหรับการเขียนโปรแกรม หรือการท่องเน็ต ผมว่าเป็นฟีเจอร์สำคัญของสายนี้เลยทีเดียว

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้าจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, USB-C ที่ใช้ในการรับสัญญาณจาก Thunderbolt หรือ USB-C ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการชาร์จไฟ 65W ไปพร้อมกับการแสดงผลได้อีกด้วย รองรับสัญญาณแบบ DP อย่างโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ที่มีพอร์ตแบบนี้อยู่ และมี USB Hub และ USB Type-A เพื่อต่อกับอุปกรณ์อย่าง เมาส์ คีย์บอร์ด หรือ USB Flash Drive เป็นต้น

จอคอม

การปรับแต่งใช้เป็น 5 ปุ่ม เลือก เลื่อนซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง และยกเลิก แรกๆ อาจจะยังไม่คล่องนัก ต้องใช้เวลาในการปรับตัวแยู่บ้าง แต่ถ้าได้แบบจอยสติ๊กบนจอเกมมิ่งของ MSI หลายๆ รุ่นที่ใช้ 5-Way Navigation Joystick ก็จะดีไม่น้อย นิ้วเดียวจบ

จอคอม

สำหรับการใช้งาน เรื่องความสว่างและความคมชัด ดูจะตอบโจทย์คนที่ทำงานเอกสาร และงานด้านภาพและวีดีโอได้ดีทีเดียว หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ทำงานอิสระ หรือเป็นพนักงานที่ต้องอยู่กับงานเอกสาร การตรวจงาน และการพรีวิวภาพ วีดีโอเพื่อเช็คความผิดพลาด จอคอม MSI รุ่นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความคมชัด เมื่อปรับความละเอียดเป็น 2560x1440p ให้ใช้งานเป็นแบบ Native หรือความละเอียดตรง ทำให้ตัวอักษรคมชัดมากขึ้น มากพอสำหรับการแบ่งหน้าจอ รวมถึงการดูข้อมูลหลายๆ หน้าต่างไปพร้อมกัน อย่างเช่น การใช้ซอฟต์แวร์สำนักงาน หรือการดูข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาด พร้อมกับการเทรดหุ้นไปด้วย

ส่วนการทำงานเอกสาร คุณจะเห็นพื้นที่หน้าจอกว้างขวางมากทีเดียว แม้ว่าการแสดงผล 2K อาจจะทำให้ขนาดตัวฟอนต์เล็กลงไปบ้าง เพราะให้พื้นที่การใช้งานได้มากกว่า แต่คุณสามารถปรับ Scale, Size of text ใน Windows ประกอบไปด้วยได้ เลื่อนให้ฟอนต์ได้ขนาดตามที่คุณต้องการได้เลย

Low Blue Light Pro ฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ใช้คอม ซึ่งต้องทำงานอยู่หน้าจอนานๆ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง สบายตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าที่รบกวนสายตา แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ ผลจากการใช้ฟีเจอร์นี้ จะไม่ทำให้ภาพที่คุณเห็นไปแบบโทนอมเหลือง เหมือนกับฟีเจอร์การลดแสงสีฟ้าธรรมดา แต่จะปรับให้โทนสีมีความสมจริงสดใส แบบไม่เสียอรรถรสในการใช้งาน

จอคอม

ไม่ใช่แค่การแบ่งหน้าจอแนวตั้งเท่านั้น แต่แนวนอนก็ทำได้เช่นเดียวกัน จากตัวอย่างนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในหลายแบบได้ โดยเฉพาะการเทียบข้อมูลงาน สำหรับการแก้ไข หรือจะซื้อขายหุ้น ด้วยการดูข้อมูลประกอบไปด้วย ตรงนี้ถือว่าจอใหญ่กว่า ย่อมได้เปรียบกว่า เพราะคุณไม่ต้องซูม-ย่อ หรือสลับหน้าต่างโปรแกรม แค่แบ่งหน้าจอก็ใช้งานได้ทันที

จอคอม

หรือถ้าเป็นงานที่ต้องทำงานด้านข้อมูล เช่น รายงานประจำปี รายรับ-รายจ่าย หรือข้อมูลพนักงาน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 27″ ก็ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นได้ เพราะพื้นที่ทำงานมากกว่า มองเห็น Cell และ Column ได้ชัดกว่า ทำให้การสร้าง Chart หรือ Table จำนวนมากได้ดียิ่งขึ้น และการแก้ไขกราฟทีละจุดเป็นเรื่องง่าย

จอคอม

และคงไม่ได้หยุดแค่การทำงาน อย่างเช่นตัวอย่างนี้ หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการท่องอินเทอร์เน็ต เก็บข้อมูล หรืออ่านรายงานบนหน้าต่างโปรแกรมแบบยาวๆ แค่หมุนจอ 90 องศา Pivot แล้วใช้แค่ Scroll wheel ก็เลื่อนดูได้สะดวก จะนั่งชิลๆ จิบกาแฟในบ้าน แล้วเปิดเว็บดูข้อมูลไป หรือจะเปิดไฟล์ที่ยาวเป็นหน้ากระดาษ ในสำนักงานก็ได้เช่นกัน

จอคอม

หรือถ้าในงานที่จำเป็นจะต้องใช้ 2 จอ อย่างเช่น งานตัดต่อวีดีโอ ที่อาจจะมีจอภาพหลัก สำหรับการตัดงาน ประโยชน์ของจอแบบ Ultra-Wide ก็คือ สามารถใช้เป็นจอสำรอง ในการพรีวิวภาพหรือวีดีโอฟุตเทจ ในแบบแนวตั้ง ซึ่งได้จำนวนไฟล์ที่มีมากกว่า และยังมองเห็นได้ชัด เมื่อปรับภาพเป็น Large icon หรือ Extra Large และเลือกนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้อง Scroll wheel บ่อยๆ หรือจะใช้เป็นจอหลักสำหรับการตัดงาน ก็ได้เช่นกัน ด้วยความละเอียดระดับ 2K 1440p นี้ ทำให้การจัดวาง Tools ในการใช้งานกว้างขวางมากขึ้น

ในด้านงานตัดต่อวีดีโอ หรือตกแต่งภาพ จอ MSI ออกแบบมาให้กับผู้ใช้งานในด้านนี้ เพราะนอกจากจะเป็นจอขนาดใหญ่ 27″ ให้พื้นที่กว้าง กับความละเอียด 2K ที่ทำให้พื้นที่จัดการวีดีโอได้สะดวกแล้ว ยังให้ขอบเขตสีที่กว้าง และค่า sRGB ที่ระบุมานั้นอยู่ที่ 95% และจากการทดสอบของทีมงาน ได้ค่า Gamut Coverage 98% sRGB อีกด้วย ด้วยความแม่นยำของค่าสีในระดับนี้ ก็สามารถนำมาใช้งานด้านภาพและวีดีโอในเบื้องต้นได้ไม่ยาก หากได้รับการ Calibrate ที่เหมาะสมก่อนใช้งาน

จอคอม

สำหรับเกมเมอร์และเกมแคสเตอร์ สามารถใช้จอภาพ MSI นี้ ในการ Cast stream ได้ จะเลือกใช้เป็นจอหลักในการเล่นเกม หรือจะเป็นจอเสริมสำหรับแสดงผลในการสตรีมก็ได้เช่นกัน สะดวกได้ทั้ง 2 แบบ แต่หากคุณมีเครื่องคอมแรง เล่นเกมระดับ 2K บน MSI MODERN MD272QPW แล้วใช้จอขนาด 24″ มาช่วยในการ Monitor เปิดโปรแกรม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

มาในด้านความบันเทิงกันบ้าง หลายคนที่ซื้อจอใหญ่ๆ ความละเอียดสูง ก็จะคาดหวังกับการชมภาพยนตร์แบบเต็มตา คมชัด และสีสันที่สดใส นอกเหนือจากประโยชน์ในการทำงานเพียงอย่างเดียว ด้วยภาพที่มีความสดใส และขอบด้านข้างที่บาง ก็ไม่ทำให้เกะกะสายตา รวมถึงสีสันจัดว่าทำได้ดีทีเดียว และผู้ใช้ยังเลือกปรับโหมด Movie เพื่อให้ตัวจอปรับโพรไฟล์แสงและภาพสำหรับการดูหนังได้ทันที ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าเอง

OSD settings

หากจะเลือกจอคอมสักรุ่น การปรับแต่งก็สำคัญ MSI ให้การปรับแต่งจอผ่านทาง OSD settings มาได้อย่างละเอียดบนจอรุ่นนี้ ด้วยปุ่มควบคุมที่อยู่ใต้จอ 5 ปุ่ม ให้การปรับเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ดีพอสมควร โดยในส่วนของ OSD นั้น เลือกตั้งค่าได้ตั้งแต่โพรไฟล์ Eco, User, RGB, Anti-Blue, Movie, Office และ black & White นอกจากนี้ยังเลือกใช้งาน KVM และ FreeSync ให้ใช้งาน ส่วนโหมดภาพ ก็เป็นการปรับค่าความสว่าง Contrast และ Sharpness รวมถึง Low Blue Light เอาไว้ด้วย ถือว่าเป็นจอทำงาน ที่ไม่ได้เน้นเล่นเกม แต่ให้ตัวเลือกในการปรับแต่งได้มากทีเดียว

MSI Display Kit

จอคอม

และในการปรับแต่ง MSI ยังมีซอฟต์แวร์ตัวช่วยในการตั้งค่าจอภาพ และการใช้งานที่เกี่ยวกับแสดงผลเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าภาพ กับโพรไฟล์ต่างๆ หรือจะเป็นการแบ่งหน้าจอ รวมถึงความละเอียด และอัตรารีเฟรชเรต ไปจนถึง Tools สำหรับจอ เมาส์ คีย์บอร์ด โดยไม่ต้องเข้าไปปรับใน OSD หรือฟังก์ชั่นใน Windows อีกด้วย

สำหรับ MSI MODERN MD272QPW มาพร้อมพื้นที่แสดงผล 27″ ความละเอียด 2560x1440p พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 75Hz รองรับการปรับหมุนจอได้อย่างหลากหลาย และมีพอร์ต Type-C 65W กับการรับประกัน 3 ปี สนนราคาประมาณ 9,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD272QPW


MSI MODERN MD241P

จอคอม

แต่ถ้าคุณยังไม่ต้องใช้จอขนาดใหญ่ จอ 24″ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่อยากได้ฟังก์ชั่นแบบเดียวกับใน MODERN series ก็ยังมีอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจกับ MSI MODERN MD241P จอคอม 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนล IPS เป็นแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน กับ Ratio 16:9 ปรับเลื่อนได้แบบเดียวกับ MSI MODERN MD272QPW และมีพอร์ตสำหรับ Input สัญญาณ HDMI และ USB-C มีลำโพงเสียงจัดจ้านในตัว เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิงในงบประมาณ 5,900 บาท

จอคอม

MSI MODERN MD241P เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงาน ที่มีพื้นที่บนโต๊ะจำกัด หรือมีบ้าน สำนักงาน ที่เป็นแบบมินิมอล แต่รองรับการใช้งานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานซอฟต์แวร์สำนักงาน ทำเอกสาร พรีเซนเทชั่น ไปจนถึงในชีวิตประจำวันอย่าง เล่นหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ต และความบันเทิง เช่น การดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ให้สีสันที่สดใส ด้วยพาแนล IPS จึงช่วยให้มุมมองที่กว้าง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในหลายด้าน และความบันเทิงแบบจัดเต็ม

ความน่าสนใจของจอ MSI รุ่นนี้อยู่ที่การเป็นจอ IPS ได้มุมมองกว้าง 178 องศา ทั้งสองด้าน นั่นก็ทำให้การรับชม ไม่ว่าจะดูเอกสาร หรือความบันเทิง รวมถึงการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ได้ดูนั้นทำได้ง่ายกว่า เพราะมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน

การปรับเลื่อนหน้าจอ ก็แทบจะไม่ได้ต่างไปจากจอรุ่นพี่อย่าง MODERN MD272QPW ที่เรียกว่าถอดแบบกันมา กับการเลื่อนขึ้นลง เพื่อปรับความสูงในระดับ 110mm เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์

มุมก้ม-เงย อยู่ในระดับมาตรฐาน -5 – 20 องศา จะนั่งหรือยืนใช้งาน ก็พร้อม โดยเฉพาะคนที่ใช้โต๊ะไฟฟ้า ปรับเลื่อนความสูงได้ เมื่อยหลัง ก็ยืนทำงาน เมื่อยขาก็กลับมานั่งใหม่ ปรับให้เข้ากับสรีระและการใช้งานของแต่ละบุคคลได้

จอคอม

และพอร์ต ก็ให้มาพร้อมใช้งานเช่นกัน แต่จะลดทอนลงจากรุ่นพี่เล็กน้อย คือมีเพียง HDMI และ USB-C ไม่ได้มี DisplayPort มาให้ แต่เท่านี้ คุณก็ต่อสัญญาณจากคอมหรือโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ได้แล้ว

จอคอม

และสิ่งที่เป็นไฮไลต์ในการปรับเลื่อนจอรุ่นนี้ ยังคงเอาใจผู้ใช้ที่ต้องการมุมมองและการใช้งานแบบใหม่ๆ ด้วยการปรับหมุน 90 องศาแบบ Pivot ได้ คล้ายกับใน MSI MODERN MD272QPW กับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม ท่องอินเทอร์เน็ต ใช้เป็นจอเสริมในการพรีวิววีดีโอฟุตเทจ หรือจะใช้ในการนำเสนอผลงาน แล้วแต่จินตนาการของแต่ละบุคคล

การปรับแต่ง OSD ก็ทำได้ค่อนข้างง่าย กับปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา มีให้ใช้ 5 ปุ่ม และตั้งคีย์ลัดได้เช่นกัน ส่วนการปรับก็มีทั้ง Brightness, Contrast, Temp Color และอื่นๆ เพียงแต่ไม่มีโพรไฟล์ภาพ หรือ Picture mode เท่านั้น แต่ก็ยังใช้งานได้สะดวกทีเดียว แต่ก็เลือกการปรับแต่งผ่านทางซอฟต์แวร์ MSI Display Kit ได้เช่นกัน

จอคอม

ในงานด้านเอกสาร แม้จะไม่ได้มีหน้าจอขนาดใหญ่ แต่ด้วยจอภาพ 24″ นี้ ก็รองรับการใช้งานได้ดีพอ กับความละเอียด Full-HD ที่ให้การมองหน้าเอกสารได้ชัดเจน หรือจะเลือกปรับแต่งขนาดของ Font Scale ของ Windows เพื่อให้ฟอนต์มีขนาดเล็กใหญ่ สอดคล้องกับความถนัดของผู้ใช้เองได้ ตัวอักษรคมชัด และยังแบ่งหน้าได้ด้วยการ Splt ในกรณีที่ใช้หลายงานพร้อมกันได้

จอคอม

ในด้านของความบันเทิง ด้วยความเป็นพาแนล IPS จึงเห็นความสดใส และความคมชัดของภาพได้อย่างชัดเจน สามารถตอบโจทย์ในด้านการชมภาพยนตร์ได้ดี ให้ความสว่างได้ถึง 250cd/m2 และจากการทดสอบของเรา ผลที่ได้ถือว่าใกล้เคียง จัดได้ว่าเป็นจอทำงานอีกรุ่นหนึ่ง ที่ให้ความสว่างของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ตอบสนองกับความบันเทิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการเป็นจอแบบลดแสงสะท้อน คุณจะนั่งทำงานในบริเวณที่มีแสงรบกวนภายนอกค่อนข้างมาก ก็ยังสบายตา

การปรับแต่ง OSD settings สามารถได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแต่ปุ่มอาจจะดูงงไปบ้าง แต่สามารถดูสัญลักษณ์ได้จากหน้าจอ โดยไอคอนขนาดใหญ่ พร้อมรายละเอียด ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น

จอคอม

ด้านการเล่นเกมและงานตัดต่อ รวมถึงการแคสสตรีม จอจาก MSI รุ่นนี้ มีพื้นที่มากพอ สำหรับจัดการงานต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่แสดงผล ที่ให้คุณจัดวาง Tools และการพรีวิวภาพได้ชัดเจน จะใช้เป็นจอหลักในการตัดต่องาน หรือสตรีมก็ได้ ด้วยค่า sRGB ที่ระบุมากว่า 100% รวมถึง Adobe RGB มากกว่า 90% มั่นใจได้ในความแม่นยำและขอบเขตสีที่คุณสามารถเริ่มต้นในงานด้านนี้ได้พอสมควร มิติแลความลึกของสีที่ปรากฏ ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้ไม่น้อยเลย จะมีเพียงเรื่องของอัตตรารีเฟรชเรต 75Hz เท่านั้น ที่อาจจะไม่ได้สูงนัก แต่ก็ถูกทดแทนในเรื่องของจอภาพคมชัด และสีสันสดใส รวมถึงย้ำว่า MSI MODERN รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นหลัก แต่เล่นเกมได้ภาพสวยลงตัว

จอคอม

และ MSI MODERN MD241P รุ่นนี้ยังคงเป็นได้ทั้งจอหลักและจอเสริมในการเพิ่ม Productivity งานของคุณได้อย่างเต็มที่ ด้วยคุณสมบัติที่มีให้อย่างครบครันกับการรับประกัน 3 ปี ราคาประมาณ 5,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MODERN MD241P


MSI Pro MP243

จอคอม

แต่สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นกับการทำงานและความบันเทิงทั่วไปในบ้าน MSI PRO series ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ใช้ภายในบ้าน และสำนักงาน ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีพื้นที่จำกัด ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่พอเหมาะ หน้าจอคอมชัด เช่นเดียวกับ MSI PRO MP243 จอภาพขนาด 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พร้อมพาแนล IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง กับฟีเจอร์สำหรับการใช้งานอีกมากมาย ในราคาสบายกระเป๋า 4,350 บาท

ขอบจอบางเฉียบ มาพร้อมฐานและขาตั้งที่ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา เหมาะในการเคลื่อนย้ายและลดภาระการจัดวางบนโต๊ะทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือรับน้ำหนักมากมายนัก และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางสิ่งอำนวยความสะดวกบนโต๊ะได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น พรินเตอร์ โคมไฟ หนังสือ หรือจะเป็นพัดลมพกพา แต่ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ มีช่องสำหรับวางโทรศัพท์มือถือมาบนฐานอีกด้วย ไม่ต้องวางบนโต๊ะให้เปลืองพื้นที่

จอคอม

ตัวจอมี 2 สีให้เลือกคือ สีดำ และสีขาว ขึ้นอยู่กับความชอบ โดยมีจุดที่ใช้ติดตั้ง VESA mount 75x75mm อยู่ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับกำแพงหรือ แขนจับจอ Monitor Arm ได้อีกด้วย พร้อมโลโก้ MSI โดดเด่นอยู่ทางด้านหลังนี้

การปรับเลื่อนมีข้อจำกัดเล็กน้อย รองรับได้เพียง มุมก้มและเงยในระดับ -5 – 20 องศาเท่านั้น แต่ด้วยน้ำหนักที่เบา ขนาดไม่ใหญ่มากนัก จึงสามารถหัน ขยับเลื่อนจอไปมาได้ง่าย ในกรณีที่จำเป็น เช่น หันให้ลูกค้าที่อยู่ตรงข้ามได้ดู หรือหันข้างให้คนที่นั่งใกล้ๆ กันได้ชม

จอคอม

กับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ก็ดูเข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์ หรือสถานที่ต่างๆ ทั้งในบ้าน สำนักงาน หรือนำไปออกบูธนอกสถานที่ ด้วยความบาง กระชับและน้ำหนักเบา ยกใส่ท้ายรถไปถึงที่จัดงานได้ไม่ยาก ด้วยขอบจอที่บางทั้ง 3 ด้าน ก็ทำให้จอดูไม่เทอะทะจนเกินไป แม้จะเป็นจอ 24″ ก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังดีไซน์ให้มีที่ตั้งมือถือมาไว้บนฐานจออีกด้วย

จอคอม

พอร์ตรับสัญญาณมีมาให้ทั้งแบบ HDMI และ DisplayPort รวมถึงช่อง Audio สำหรับต่อหูฟัง หรือลำโพงได้อีกด้วย

จอคอม

ส่วนจุดที่ใช้ควบคุมตั้งค่า OSD settings จะอยู่ที่บริเวณด้านล่างขวาของจอคอมเช่นเดียวกัน เป็นแบบ 5 ปุ่ม และไฟแสดงสถานะอยู่ใกล้กัน การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก

หากคุณต้องการจอที่มีขอบจอบาง ให้พื้นที่การแสดงผลได้แบบเต็มตา ทั้งด้านความบันเทิง เช่นการดูหนัง และการทำงาน MSI PRO MP243 รุ่นนี้ สามารถตอบความต้องการดังกล่าวได้ รวมถึงพาแนล IPS ให้สีสันสดใส และคมชัด กับหน้าจอแบบ Anti-Glare ก็ช่วยให้ใช้งานในที่ที่มีแสงรบกวนจากภายนอกได้สบายตามากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวมองว่า แทบไม่ได้ต่างไปจาก MSI MODERN MD241P เลยทีเดียว สีจัดจ้าน ทำให้การชมภาพยนตร์มีอรรถรสมากกว่า

จอคอม

แต่หากคุณเป็นคนทำงาน จริงจังกับการดูข้อมูล เทรดหุ้นหรือคริปโต ในแบบเรียลไทม์ ไม่อยากคลาดช่วงเวลาสำคัญ ด้วยพื้นที่แสดงผล และความละเอียด 1080p นี้ ก็มากพอที่จะทำให้คุณได้เช็คราคาตลาด และการเทรดได้อย่างรวดเร็ว จะเปิดดูกราฟแบบเต็มจอ หรือจะแบ่งจอสำหรับหาข้อมูลพร้อมกันไปด้วย ก็ไม่ได้ยาก แต่ถ้าให้ดีการใช้ Dual monitor น่าจะเป็นทางออกที่ดีของผู้ใช้ในกลุ่มนี้

ไม่ใช่แค่เพียงในแง่ของการใช้ในงานและความบันเทิงในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรองรับงานในอีกหลายด้าน ที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐาน เช่น งานตัดต่อ และการแคสสตรีม สำหรับมือใหม่ได้ แม้จะไม่ได้ให้ขอบเขตสีหรือความแม่นยำสีในระดับมืออาชีพ เพราะเป็นจอสำหรับเริ่มต้นการใช้งานหรืองานทั่วไป แต่ก็ใช้เรียนรู้กับงานเหล่านี้ได้ดีพอสมควร โดยค่าสีที่ระบุมาให้นั้น sRGB 99%, Adobe RGB 84% และ DCI-P3 78.9% เลยทีเดียว

การปรับแต่งใช้ตัวควบคุม 5 ปุ่มที่อยู่ด้านใต้จอทางขวา เลื่อนใช้งานได้สะดวกทีเดียว ที่สำคัญมี Professional mode ที่ให้เลือกโพรไฟล์สำหรับใช้งาน เช่น Eco, User, sRGB, Anti-Blue, Movie, Office และ Black-White รวมถึงการตั้งค่าอื่นๆ เช่น Adaptive-Sync และอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานเอาไว้ครบ

จอคอม

จุดไฮไลต์ที่เป็นลูกเล่นของจอรุ่นนี้ ก็คือ ช่องสำหรับวางมือถือ ที่ช่วยให้คุณสะดวกในการใช้งาน เช่น จะต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ใช้ในการประชุมออนไลน์ หรือป้องกันมือถือหาย เพราะจะอยู่ด้านหน้าเครื่องตลอดเวลา และยังไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะทำงานอีกด้วย

MSI PRO MP243 นี้ เป็นจอคอมที่เริ่มต้นการใช้งานของผู้ที่ต้องการจอทำงาน ที่มีรูปลักษณ์เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่รองรับการใช้งานได้หลากหลายกับพื้นที่แสดงผล 24″ อัตรารีเฟรชเรต 75Hz ให้ภาพที่ไหลลื่น มีความคมชัด สีสันสดใส ปรับแต่งได้บน OSD settings หรือบนซอฟต์แวร์ MSI Display Kit และให้การเชื่อมต่อสัญญาณพื้นฐานมาครบ ไม่เปลืองพื้นที่ ราคาประมาณ 4,350 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP243


MSI PRO MP241X

จอคอม

แต่ถ้าคุณต้องการจอคอมมาเสริมกับจอหลัก หรือจอภาพที่มีความคมชัด สำหรับการทำงานทั่วไป ให้พื้นที่แสดงผล 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p พาแนลในแบบ VA มีฟังก์ชั่นการใช้งานพอเหมาะ กับการออกแบบขอบจอบางเป็นพิเศษ เข้ากันได้กับในสำนักงานหรือภายในบ้าน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับการเคลื่อนย้าย และมีราคาที่เหมาะกับการเริ่มต้นใช้งาน MSI PRO MP241X มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เข้ากันได้การใช้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว

จอคอม

ในด้านของดีไซน์จะบางกว่า MSI PRO MP243 อยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ชัดเจน ตัวบอดี้เป็นสีดำทั้งหมด ตั้งแต่ฐาน ขาตั้งและตัวจอ โดยที่รองรับการปรับได้เพียงรูปแบบเดียวคือ มุมก้ม-เงยในระดับ -5 – 15 องศา แต่ในกรณีที่ต้องการเคลื่อนย้าย เพื่อปรับองศาการมอง ทำได้ง่ายมาก เพราะน้ำหนักเบาเพียง 2.85Kg. เท่านั้น เหมาะสำหรับบ้านหรือสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัด หรือวางเป็นจอที่สองเสริมการใช้งานจอหลักก็สะดวก

จอคอม

ขาตั้งติดตั้งได้ง่ายดาย ไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด แค่เสียบให้เข้ากับสลักที่มีให้ที่บริเวณด้านหลังของจอเท่านั้น โดยมี VESA Mount 75x75mm มาให้ สำหรับติด Wall mount เข้ากับกำแพง หรือ Monitor Arm ที่เป็นแขนจับจอ ยึดกับโต๊ะ ก็ช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะไปได้ไม่น้อยเลย

ปุ่มควบคุม OSD settings มีด้วยกัน 5 ปุ่ม แต่จะต่างจากบรรดาจออื่นๆ ที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ การใช้งานส่วนตัวมองว่าอาจจะสับสนเล็กน้อย เพราะต้องสังเกตดีๆ ว่าปุ่มใดใช้ทำอะไร ต้องใช้ไปสักระยะจนคุ้นเคย ก็จะง่ายขึ้น ส่วนโลโก้ MSI อยู่ด้านบนดูสะดุดตา

จอคอม

พอร์ตสัญญาณขาเข้า มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ HDMI สำหรับสัญญาณดิจิตอล แต่ถ้าใครที่ใช้คอมสำนักงาน หรือคอมเก่าที่ยังใช้พอร์ต VGA หรือ D-Sub อยู่ จอคอม MSI รุ่นนี้ก็มีเตรียมเอาไว้ให้เช่นเดียวกัน

จอคอม

ในด้านการใช้งาน ความบันเทิงจากจอ MSI รุ่นนี้ เช่น การดูหนังและการสตรีมมิ่ง เป็นจอคอมอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสดใสของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ภาพที่ได้มีความลื่นไหล อีกทั้งเมื่อเล่นในโหมด Full-HD ที่แสดงผลแบบเต็มจอเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความสนุกและดูเต็มตามากยิ่งขึ้น เรียกว่าแม้จะเป็นจอทำงาน แต่เรื่องความสนุกสนานก็ไม่ขาดอรรถรส

และในการทำงานนั้น ขอบจอที่บางพิเศษนี้ ก็ช่วยให้มีพื้นที่ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ตัวอักษรคมชัด สามารถแสดงผลอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ให้การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ต้องปรับจูนมากมายนัก กับความละเอียด Full-HD นี้ ช่วยให้ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ในปัจจุบันได้ดี

จอคอม

แม้ว่าจะเป็นพาแนลแบบ VA แต่ก็ให้มุมมองได้กว้าง สามารถมองจากด้านข้างซ้ายและขวาได้อย่างชัดเจน พื้นที่หน้าจอในระดับ 24″ ถือว่ากว้างขวางตามมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน การแบ่งหน้าจอทำได้ง่าย แม้ว่าจะแบ่งแล้วทำให้หน้าต่างการทำงานเล็กลงไปบ้าง แต่การปรับ Scale และขนาดฟอนต์ให้สอดคล้องกับการใช้งาน ก็ช่วยให้จัดสรรพื้นที่การทำงานดีขึ้น

จอคอม

การเล่นเกมบนจอขนาด 24″ บนความละเอียด Full-HD แม้จะไม่ได้ตรงกับจุดประสงค์ของจอรุ่นนี้มากนัก แต่เท่าที่ดูความสวยงาม และรายละเอียดที่ปรากฏบนเกมต่างๆ เหล่านี้ หลายคนก็น่าจะให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเกมเมอร์มือใหม่ ที่กำลังเริ่มต้นกับการเล่นเกม และมีสเปคเครื่องระดับกลางๆ ก็จะสามารถสนุกไปกับจอ MSI รุ่นนี้ได้ อีกทั้งการแสดงผลแบบ Boarderless หรือไร้ขอบ ยิ่งเพิ่มความสนุกในการเล่นเกมได้มากยิ่งขึ้น หรือถ้างบน้อย ไม่อยากเล่นจอใหญ่ ก็สามารถใช้เป็นจอคู่มาเล่นได้ เพราะขอบจอที่บางเฉียบเช่นนี้

MSI PRO MP241X เป็นจอ MSI รุ่นน้องเล็กสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิงหรือการเล่นเกม พาแนล VA เรื่องสีสันยังคงสดใส แม้จะไม่เท่า IPS แต่ในเรื่องของความสว่างและ Contrast จัดว่าช่วยให้การใช้งานต่างๆ ได้ดีขึ้น ขอบจอบาง ปรับแต่งได้ รวมถึงราคายังจับต้องได้ง่าย ประมาณ 3,900 พันบาทอีกด้วยกับการรับประกันถึง 3 ปี

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRO MP241X


Conclusion

MODERN
MD272QPW
MODERN
MD241P
PRO MP243 PRO MP241X
Display size 27″ 23.8” 23.8″ 23.8″
Resolution 1440p 1080p 1080p 1080p
Refresh rate 75Hz 75Hz 75Hz 75Hz
Panel IPS IPS IPS VA
View angle 178/178 178/178 178/178 178/178
Contrast ratio 1000:1 1000:1 1000:1 3000:1
Port 1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2),
1x Type C (DP Alternate)
1x USB 2.0 Type B,
2x USB 2.0 Type A
1x HDMI (1.4b),
1x Type C (DP Alternate)
1x HDMI (1.4b),
1x DisplayPort (1.2)
1x USB-C 65W
1x HDMI (1.4b)
1x D-Sub (VGA)
Speaker 2W 2W 2W
Swivel -30° ~ 30° -30° ~ 30°
Tilt -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 20° -5° ~ 15°
High 0 ~ 110mm 0 ~ 110 mm
Pivot -90° ~ 90° -90° ~ 90°
sRGB 95% 106.58% 99.08% 105%
VESA mount 75x75mm 75x75mm 75x75mm 75x75mm
Weight 5.85 kg 4.7 Kg 2.95 Kg 2.85 kg
Price 9,900 5,900 4,350 3,900
จอคอม

การเลือกจอคอมสำหรับทำงานนั้น มีด้วยการหลายระดับ ต่างเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะนำไปใช้กับงานประเภทใด หากเป็นงานออฟฟิศ ซอฟต์แวร์ทั่วไป จอในรุ่น PRO series ขนาด 24″ จากทาง MSI ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี เหมาะกับการเป็นจอภาพเริ่มต้น ทั้งในเรื่องความคมชัด ความสว่างและสีสัน ที่ช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ในราคาที่ประหยัด แต่หากต้องการจอที่มีฟังก์ชั่น ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี MSI MODERN ที่เสริมเทคโนโลยี การปรับแต่ง และพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ ก็ทำให้งานไหลลื่นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพาแนล IPS ปรับแต่ง Picture mode ได้ รวมถึงการปรับเลื่อนจอภาพในแบบต่างๆ ขอบจอที่บาง รองรับ FreeSync และมีเทคโนโลยี Less Blue Light Pro ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า แต่ภาพยังมีสีสดใส ใช้งานได้อย่างสบายตามากขึ้น เหมาะทั้งการเป็นจอหลัก หรือจะใช้เป็นจอเสริม เพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีทีเดียว

from:https://notebookspec.com/web/686515-msi-pro-modern-monitor-2023

MSI PRODP20ZA คอมจิ๋ว เทรดหุ้น เล่นเกมเบาๆ ต่อได้ 3 จอ ดูหนัง 4K เริ่มหมื่นกว่า

MSI PRODP20ZA มินิพีซีขนาดฝ่ามือ เล่นเกมเบาๆ ดูหนัง 4K เทรดหุ้น ต่อได้ 3 จอ ประหยัดไฟ

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มินิพีซีเครื่องจิ๋ว แต่ประสิทธิภาพเกินตัว พร้อมการเชื่อมต่อครบครัน รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ ปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลายสไตล์ เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานในยุคใหม่ได้หลายรูปแบบ ขุมพลัง AMD Ryzen 5000 series และแรม DDR4 รวมถึงกราฟิก Radeon Graphic ที่ตอบสนองได้ทั้งงานในสำนักงานทั่วไป งานเอกสาร และการทำบัญชี ไปจนถึงการตกแต่งภาพ รวมถึงการใช้งานส่วนตัว เช่นท่องอินเทอร์เน็ต ขายของออนไลน์ และความบันเทิงภายในบ้าน หรือเป็นพีซีเริ่มต้นการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ด้วยมิติที่เล็กกว่าเคสคอมทั่วไปหลายเท่า น้ำหนักเบา จึงติดตั้งได้ง่าย ใช้งานในจุดต่างๆ ของบ้านหรือสำนักงานได้ดี รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายรุ่นใหม่ กับดีไซน์ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน และที่น่าสนใจคือ ประหยัดการใช้พลังงานลง ใครที่ชอบด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท กับการรับประกัน 2 ปีอุ่นใจ ในแบบ Onsite Pickup & Return อีกด้วย ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

MSI PRODP20ZA มินิพีซีตัวจิ๋ว เพื่องานและความบันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  1. มิติที่เล็กมาก ขนาดเทียบเท่าฝ่ามือเองครับ เทียบกับเราเตอร์ขนาดย่อมๆ ก็ยังได้ เล็กกว่าพีซี 6-8 เท่าเลยทีเดียว เพราะขนาด 2.6L เท่านั้น ประหบัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้เยอะ
  2. น้ำหนักประมาณ 1.5Kg เท่านั้นครับ วางมุมไหนก็ได้ โต๊ะไม่เอียงแน่นอน
  3. ออกแบบให้วางแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้หมด แล้วแต่ผู้ใช้จะดีไซน์ จัดโต๊ะคอมได้ง่ายขึ้น
  4. วางตรงไหนในห้องก็ได้ แทบจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน ต่อสายเข้าจอ ก็พร้อมทำงาน เพราะมี WiFi ในตัว
  5. ด้านหน้าทันสมัย เน้นเส้นสายสะดุดตา ติดอยู่นิดนึง คือปุ่มอาจจะดูกลมกลืนไปกับลายด้านหน้าอยู่บ้าง แต่ก็มีแสงไฟสถานะให้พอสังเกตครับ
  6. ด้านข้างซ้ายปิดทึบ ใช้วางแนวนอนได้, ด้านขวามีช่องระบายอากาศ สำหรับพัดลมซีพียู
  7. ด้านหลังจัดพอร์ตมาให้เยอะพอสมควร เช่น USB 3.2, USB 2.0, พอร์ตแสดงผล HDMI, DP และ VGA
  8. การใช้พลังงาน มาพร้อมอแดปเตอร์ 120W ขนาดย่อมๆ มาให้ ไม่เปลืองไฟครับ
  9. ต่อได้ 3 จอเลยครับ สำหรับคนที่ต้องใช้งานหลายจอพร้อมกัน

ข้อสังเกต

  • มีไฟสถานะแสดงผลไม่มาก
  • ไม่รองรับการอัพเกรดการ์ดจอแยก
  • ใช้แรมแบบ SODIMM เท่านั้น

Specification

Description
CPU MODEL AMD Ryzen 3 5300G, 4 core/ 8 thread
CPU COOLING Air cooling
MEMORY DDR4 SO-DIMM 2 slot, Max. 64GB
STORAGE SSD 256GB, PCIe GEN3x4
2x M.2 slot
2x 2.5″ Drive bay
WIRELESS LAN INTEL/3168.NGWG, 802.11ac 1×1+BT 4.2
AUDIO Realtek ALC233, 2.1 Channel HD Audio
I/O PORTS (FRONT) 1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C
Front Audio Mic-In x1,
Headphone x1
I/O Port (Rear) USB 3.2 Gen 2 Type A x1
USB 2.0 TYPE A x3
LAN (RJ-45) x1
WiFi Antenna x2
VGA x1
HDMI x1
DP Out x1
COM Port x1
Power 120W Adaptor
Keyboard/ Mouse RF1430, MA04
PRODUCT DIMENSIONS (WXDXH) 160.55 x 193.3 x 85mm
WEIGHT 1.42Kg.
VESA SIZE 75 x 75 mm
Source: MSI Pro DP20Z

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA


Hardware / Design

MSI PRODP20ZA

การออกแบบของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ ส่วนตัวผมมองว่ามินิมอลกว่ารุ่นที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะตัวถังแค่ 2.3L เท่านั้น มิติประมาณ 16cm x 19.3cm x 8.5cm หากเทียบกับเกมมิ่งตัวน้องอย่าง Trident AS ก็ยังเล็กกว่ามาก แต่จะพอๆ กับ MSI CUBI 5 ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี Pro DP20ZA มีความคล่องตัว และสนับสนุนการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมได้มากกว่า

ด้านหน้าออกแบบมาในโทนสีดำ มีเส้นสายที่มีการสลับไปมา ดูมีมิติ และทันสมัย แทรกปุ่มเพาเวอร์และแสงไฟสถานะมาด้วย พร้อมพอร์ตต่อพ่วง และโลโก้ MSI สีเงิน ซึ่งเป็นแนวที่เราอาจไม่ได้เห็นกันบ่อยบนพีซีขนาดเล็ก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีลวดลายมากนัก

MSI PRODP20ZA

เมื่อมาดูกันแบบใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าเส้นสายที่อยู่ด้านหน้านี้ จะมีมิติยื่นออกมา สลับกับภายในที่เป็นสีดำเงา โดยปุ่มเพาเวอร์จะซ่อนอยู่ในนี้ด้วย ซึ่งหากไม่ได้กด หรือมีแสงไฟสถานะลอดออกมา ก็แทบจะดูไม่ออกว่าเป็นปุ่มเปิดการทำงาน ไฟจะมีสีฟ้าและสีขาว อยู่ตรงด้านบนขวา ใกล้กันก็จะเป็นพอร์ต Front panel ที่อยู่หน้าเครื่อง ประกอบด้วย USB Type-C, Type-A และหูฟัง ไมโครโฟน

MSI PRODP20ZA

ด้านข้างขวา จะเป็นช่องระบายความร้อน โดยเราจะเห็นพัดลมพื้นฐานของทาง AMD ดูดลมเข้ามาจากช่องนี้ เพื่อระบายความร้อนให้กับฮีตซิงก์ของซีพียู ที่อยู่ด้านใน และโลโก้ Pro series และใกล้ๆ กับช่องพัดลม และใกล้กับด้านหน้าจะมีระบุไว้ว่า Design and Engineering by MSI

MSI PRODP20ZA

ด้านซ้ายจะเป็นช่องเล็กๆ สำหรับติดตั้ง VESA Mount กับด้านหลังจอมอนิเตอร์ และฝาผนังเป็นแบบ 75mm x 75mm ส่วนตัวมองว่าเป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก เพราะผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ติดตั้งจอทีวีในบ้าน สำนักงาน สำหรับต้อนรับแขก พรีเซนเทชั่น หรือจะต่อกับจอภาพบางรุ่น เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งใช้งานแบบไร้สาย ก็จะทำให้โต๊ะไม่ดูรกรุงรังอีกด้วย

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ขึ้นอยู่กับการจัดวางองค์ประกอบบนโต๊ะ และความสะดวก ด้วยความกว้าง x ยาวระดับ 160.5 x 193mm เท่านั้น จึงไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน เรียกว่าโต๊ะขนาด 120cm ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมากมาย

ด้านหน้าที่มีพอร์ตต่อพ่วงมาให้ทั้ง USB และแจ๊ค 3.5mm อีกด้านจะเป็นโลโก้ MSI บนเพลทสีเงินสวยงาม

และอีกสองด้านที่เหลือ จะเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งมาในแบบตะแกรงขนาดเล็ก เพื่อให้อากาศไหลเวียนในตัวเคสได้ดีขึ้น ซึ่งหากดูตามการใช้งานแล้ว พีซีเครื่องนี้แทบไม่เกิดความร้อนขึ้นมากมายนัก โดยพัดลมซีพียูสามารถจัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีทีเดียว

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนแบบตะแกรงช่องเล็กและพอร์ตต่อพ่วงมากมาย รวมถึงจุดติดตั้งเสาสัญญาณ WiFi อีกด้วย และเป็นจุดที่ใช้ไขน็อต เพื่อแกะฝาครอบ สำหรับการอัพเกรด

MSI PRODP20ZA

การดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว แตกต่างจากมินิพีซีทั่วไป ทั้งเส้นสาย พอร์ตการเชื่อมต่อ เพียงแต่อาจจะเน้นไปที่ Business เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ใส่เรื่องของแสงสีมากมายนัก แต่ก็เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ดี ดูมินิมอลมากขึ้น


Connector / Thin And Weight

MSI PRODP20ZA

พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหน้า มีเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen2 Type-C ที่ใช้ได้ทั้งการชาร์จไฟ และโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง ส่วนที่เป็น Type-A ผมว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่มี External HDD หรือ SSD ที่ต่อภายนอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลได้ไว เพราะเป็น USB 3.2 Gen2 ความเร็วระดับ 10Gbps เร็วกว่า Gen1 เท่าตัวเลยทีเดียว หรือใครสะดวกจะใช้พอร์ตด้านหลัง จะใช้พอร์ตนี้ในการต่อ เมาส์ คีย์บอร์ดได้เช่นกัน

ใกล้กันจะเป็นแจ๊ค 3.5mm ที่ทาง MSI ใส่แยกเอามาไว้ให้เป็น หูฟัง และไมโครโฟน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน จะต่างจากบนโน๊ตบุ๊คที่เป็นคอมโบมาให้ อาจจะไม่สะดวก เมื่อต้องแยกใช้ไมโครโฟน กับเอาท์พุตเสียง เพื่องานในสำนักงาน

MSI PRODP20ZA

ด้านหลังจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อหลักจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 Type-A 2 พอร์ต จุดนี้ผมมองว่าเหมาะกับการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเป็นหลัก เพราะไม่ได้เน้นความเร็ว ส่วนด้านล่างจะเป็น USB 3.2 Gen2 ซึ่งตอบโจทย์พรินเตอร์รุ่นใหม่ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล และอื่นๆ ที่เน้นเรื่องความเร็ว ใกล้กันเป็นพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย RJ-45 สำหรับ Gigabit LAN และพอร์ตแสดงผล ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ เพราะมีให้ถึง 3 พอร์ตด้วยกัน ประกอบด้วย

  • VGA สำหรับต่อจอพื้นฐานแอนาลอกบนความละเอียด Full-HD
  • DisplayPort ต่อจอแสดงผลดิจิตอล รองรับความละเอียด 4K เหมาะกับจอรุ่นใหม่
  • HDMI ใช้ได้ทั้งจอมอนิเตอร์ โปรเจกเตอร์ และจอพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป
MSI PRODP20ZA

เสาสัญญาณ WiFi รองรับ 802.11ac และ Bluetooth 4.2 ทำให้การเชื่อมต่อของคุณไม่ติดขัด เพราะมีให้เลือกทั้ง LAN และ WiFi


Inside / Upgrade

MSI PRODP20ZA

การแกะอัพเกรดทำได้ค่อนข้างง่ายบน MSI PRODP20ZA นี้ เพราะไขน็อตเพียง 4 ตัวเท่านั้น สามารถไขออกได้ทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวา

MSI PRODP20ZA

ด้านที่เป็นช่องระบายอากาศ จะเห็นพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ พร้อมฮีตซิงก์ติดตั้งมากลางตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ การกระจายลมออกไปได้ทั่วๆ ภายในเคส และให้ลมออกได้ถึง 3 ด้านด้วยกัน โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด AMD Ryzen 7 5700G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดที่วางจำหน่าย

MSI PRODP20ZA

พื้นที่ติดตั้ง Storage ด้านใน ติดตั้งได้ถึง 3 แบบ และยังอัพเกรดได้ โดยที่ติดตั้งมาให้เริ่มต้นเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 256GB การถอดใช้เพียงไขควงแกะน็อตยึดเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่พื้นที่ค่อนข้างแคบเล็กน้อย

MSI PRODP20ZA

ด้านล่างจะเป็นสล็อตสำหรับติดตั้งแรมเป็นแบบ SODIMM DDR4 3200 เดิมจะติดตั้งมาให้ 8GB มาตรฐาน แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มได้จากสล็อตที่เหลือ อัพเกรดได้สูงสุด 64GB (32GB x2)

MSI PRODP20ZA

แรมในแบบ SODIMM DDR4 3200 8GB จาก Samsung ที่ติดตั้งมาในระบบ

MSI PRODP20ZA

ด้านบนของโมดูล SSD M.2 เป็นพอร์ต SATA III เพิ่มเติมมาให้ สำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ หรือสำหรับโน๊ตบุ๊ค รวมถึง SSD SATA III เพิ่มได้อีก 2 ตัวด้วยกัน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้แล้ว อีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ด ก็สามารถแกะเปิดออกมาได้ ให้คุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก

MSI PRODP20ZA

MSI PRODP20ZA มีสล็อต M.2 PCIe รองรับการติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มได้อีก 1 โมดูล รวมเป็น 2 โมดูลทั้งด้านหน้าและหลัง ได้ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้น และความเร็วที่จาก SSD อีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจะใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบต่อภายนอก


Performance / Software

MSI PRODP20ZA

โปรแกรม CPUz รายงานซีพียูที่ติดตั้งมาบน MSI PRODP20ZA รุ่นนี้เป็น AMD Ryzen 3 5300G เป็นแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วสูงสุดประมาณ 4.2GHz ซีพียูรุ่นนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มของกราฟิกในตัว ให้ประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง หรือเล่นเกมเบาๆ แต่อาจจะไม่ได้เจาะจงสำหรับงานเฉพาะทาง เช่นงานตัดต่อ แต่งภาพจริงจังหรืองานด้านวิศวกรรมโหดๆ ได้มากนัก

MSI PRODP20ZA

ติดตั้งแรม DDR4 3200 ในแบบ SODIMM 8GB และใส่เพิ่มอีก 8GB เป็น 16GB มีให้ติดตั้งได้ 2 สล็อต

MSI PRODP20ZA

การทดสอบเบื้องต้นบน CPUz นี้ เทียบกับซีพียูรุ่นพี่อย่าง AMD Ryzen 7 2700X ที่เป็นแบบ 8 core/ 16 thread ซีพียู Ryzen 3 สามารถเบียดบี้ได้อย่างสูสี และโดดเด่นในงาน Single core ด้วยสัญญาณนาฬิกาที่สูง แม้จะเป็นรองในแง่ของ Multi-thread เพราะคอร์ เธรดน้อยกว่านั่นเอง

MSI PRODP20ZA

กราฟิกเป็นแบบ Integrate ที่มาในตัวซีพียู AMD Ryzen 3 รุ่นนี้ กับ Radeon Graphic ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับการเล่นเกมโดยตรง เพราะจะเน้นที่การทำงาน ดูหนัง กับงานกราฟิกพื้นฐาน แต่ก็สามารถเล่นเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากๆ หรือแนวเกมออนไลน์ เช่น Genshin, Chrono Odyssy รวมถึงเกมพีซีที่แค่ปรับ Detail ก็สามารถเล่นได้ในหลายๆ เกม สามารถชมในส่วนการทดสอบเกมด้านล่างนี้ได้

MSI PRODP20ZA

การทดสอบ PCMark10 ให้ผลออกมาได้น่าพอใจ เพราะถ้าเทียบกับพีซีพื้นฐานขนาดใหญ่ MSI Pro DP20ZA นี้ ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในชีวิตประจำวันได้ดีพอสมควร กับคะแนนรวมที่มากถึง 5,621 คะแนน รวมถึงคะแนน Essentials และ Productivity ที่มาแตะเกือบ 10,000 เพราะหลายครั้งที่เราทดสอบมาใน 2 ส่วนนี้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ แสดงถึงความไม่ธรรมดาของซีพียูและการทำงานในภาพรวม

MSI PRODP20ZA

สำหรับ CINEBench นั้น จะเป็นการทดสอบด้านกราฟิก 3D Animation แม้ว่าจะเป็นซีพียูน้องเล็กอย่าง AMD Ryzen 3 แต่ก็สามารถผ่านการทดสอบได้ไม่ยาก แม้ว่าจะทำคะแนนได้ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับซีพียูรุ่นพี่ๆ ที่มี Core/ Thread จำนวนมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่าพลังของซีพียูระดับ 4 core นี้ ก็พอจะช่วยให้ใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้จะแนะนำให้ใช้งานกับโปรแกรมขั้นสูงเช่นนี้ เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และอาจใช้เวลาในการประมวลผลมากเกินไป แต่ถ้าเป็นโมเดล AMD Ryzen 7 ก็พอจะช่วยงานนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRODP20ZA

กับผลทดสอบด้านเกมกราฟิก ด้วยโปรแกรม 3DMark กับกราฟิก Radeon Graphic บนซีพียู AMD Ryzen 3 5300G นี้ แม้ว่าจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ก็แสดงศักยภาพได้ดีในระดับหนึ่ง โดยคะแนนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ผ่านการทดสอบมาได้ อยู่ในเกณฑ์ของกราฟิกบนซีพียูในหลายๆ รุ่น อย่างไรก็ดี หากมีความต้องการเล่นเกม ร่วมไปกับการใช้งานพื้นฐาน บนเคสขนาดเล็กเช่นนี้ แนะนำโมเดลที่เป็น Ryzen 7 5700G ที่จะช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้พอสมควร

ทดสอบการเล่นเกม

MSI PRODP20ZA

เราทดสอบการเล่นเกม เพื่อให้เห็นศักยภาพของมินิพีซีจาก MSI รุ่นนี้ กับเกมพื้นฐานแนว MOBA อย่าง DOTA2 กับการปรับ Detail Fastest mode บนความละเอียด Full-HD เพื่อเน้นความลื่นไหล ตัวเกมสามารถให้เฟรมเรตได้ถึง 80-90fps. แต่ถ้าปรับเป็น High ให้เฟรมเรตเฉลี่ยที่ 47-48fps. แม้จะมีเอฟเฟกต์จากเวทย์ของฮีโรก็ตาม แนะนำตั้งค่านี้ได้เลยหากต้องการเล่น

MSI PRODP20ZA

ส่วนเกม PUBG บนความละเอียด Full-HD 1080p ตั้งค่า Very Low Detail ให้เฟรมเรตได้ในระดับ 39-45fps มีบ้างที่ขึ้นไป 50fps. บางจังหวะ แต่ก็ทำให้เล่นเกมนี้ได้ แนะนำให้ตั้ง Render scale ในระดับ 70-90 จะไม่กระทบต่อเฟรมเรตมากนัก และเล่นเกมได้สบายตามากขึ้น

MSI PRODP20ZA

มาสู่บททดสอบในด้านงานวีดีโอกันบ้าง ด้วยการ Export คลิปวีดีโอความละเอียด Full-HD มีความยาว 15 นาที ใส่เอฟเฟกต์ทั่วไป ด้วยการ Insert ภาพและเสียง ระบบใช้เวลาในการทำงานประมาณ 32 นาที ก็เป็นอันเสร็จสิ้น อย่างที่ได้แนะนำไปว่า หากต้องการจะเน้นไปที่การทำงานที่หนักมากขึ้น กับโปรแกรมเฉพาะทาง ทางเลือกของโมเดลรุ่น AMD Ryzen 7 มีความน่าสนใจ ส่วนในช่วงการใช้งานอาจมีบางจังหวะที่กระตุกเล็กน้อย เช่น ระหว่างการเลื่อนไทม์ไลน์ และพรีวิวภาพ เป็นปกติของการใช้งานที่เป็นซีพียูรุ่นน้องเล็ก และการ์ดจอแบบออนบอร์ดนั่นเอง แต่ในภาพรวมถือว่าทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง

MSI PRODP20ZA

และในครั้งนี้เราใช้งานร่วมกับจอแสดงผล MSI PRO MP241X ซึ่งเป็นจอที่ให้พื้นที่แสดงผล 23.8″ ใกล้เคียงกับ MSI PRO MP243 ความละเอียด Full-HD โดยเป็นจอพาแนล VA ให้ความสว่างสดใส และมุมมองที่กว้างใกล้เคียงกับ IPS เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะนำไปใช้ในสำนักงาน กับความสว่างสดใส และสีสันที่คมชัด ปรับแต่งได้ง่ายผ่านทางปุ่ม OSD ด้านหลังจอ มาพร้อมพอร์ตแสดงผล ที่มีให้เลือกทั้ง HDMI และ VGA เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

MSI PRODP20ZA

แต่ที่น่าสนใจคือ MSI PRO MP241X รุ่นนี้ มี VESA Mount ด้านหลัง สำหรับติดตั้งกับ Wall mount หรือ Arm table เพื่อแขวนหรือติดกับขาจับจอบนโต๊ะได้ง่าย รวมถึงเมื่อใช้ร่วมกับอแดปเตอร์ ก็จะสามารถต่อ MSI Pro DP20ZA เข้ากับด้านหลังจอ เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อีกด้วย นับว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับการทำงานในทืุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้แบ่งหน้าจอในการใช้งานได้สะดวก และใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร ตรวจเช็คไฟล์งาน หรือจะด้านความบันเทิง ดูหนัง พร้อมดูหุ้นไปพร้อมกัน ด้วยการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย เช่น การเพิ่มหรือลด Scale บนหน้าจอ ก็ช่วยให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นแล้ว

MSI PRODP20ZA

ด้วยมุมมองที่กว้าง ก็ทำให้การใช้งานด้านภาพและวีดีโอได้ชัดเจน ผิดเพี้ยนน้อย รวมถึงใช้ในการแบ่งปันหน้าจอให้กับคนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือสมาชิกภายในบ้านให้เห็นได้อย่างชัดเจน

MSI PRODP20ZA

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถต่อจอแสดงผลได้ถึง 3 จอพร้อมกัน ผ่านทางพอร์ตสัญญาณ Output ที่อยู่ทางด้านหลังของ MSI PRODP20ZA ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort และ VGA ให้คุณขยายศักยภาพการทำงานของคุณได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล เทรดหุ้น ไปจนถึงการสตรีมมิ่งได้แบบลื่นๆ เลยทีเดียว


Battery / Heat / Noise

MSI PRODP20ZA

สุดท้ายก็เป็นเรื่องของอุณหภูมิในการทำงาน เห็นเคสเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็จัดการเรื่องอุณหภูมิได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะกับพัดลมซีพียูขนาดใหญ่ และครอบคลุมอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งเมนบอร์ด ลมที่พัดเข้าไป ก็สามารถกระจายลมไปได้ทั่ว ลดความร้อนได้ดี โดยอุณหภูมิสูงสุดในการทดสอบบนแบบ Full load บนโปรแกรม FURmark อยู่ที่ราว 76 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-68 องศาเซลเซียสเท่านั้น ถือว่าทำได้ดี เพราะโอกาสการใช้งานซีพียูระดับ 100% แบบนี้ มีไม่มากนัก ฉะนั้นหากเป็นการทำงานโดยทั่วไปน่าจะอยู่ที่ราว 55-60 องศาเซลเซียส เท่านั้น


Conclusion / Award

MSI PRODP20ZA

สรุปภาพรวมของ MSI PRODP20ZA รุ่นนี้ ผมว่าเหมาะกับคนที่ต้องการคอมทำงาน หรือใช้ในสำนักงานยุคใหม่ เน้นความมินิมอล ดูมันสมัย ลองนึกภาพดูครับว่า บ้านที่เป็นแบบ Smart Home ใช้งานไร้สายให้มากที่สุด โต๊ะคอมที่ไม่ต้องเทอะทะ และพีซีที่จัดวางได้ในทุกแนว ตกแต่งห้องได้สวย แต่ทำงานที่เหมือนกับใช้คอมเครื่องใหญ่ จะต่อ 3 จอก็ง่าย ทำงานเอกสาร ท่องเน็ตหาข้อมูล หรือจะเทรดหุ้น สตรีมมิ่งวีดีโอไปพร้อมกัน ก็ยังได้ครับ

แต่ก็บอกตรงๆ ว่าอาจจะไม่ใช่สำหรับคอเกม ด้วยสเปคที่ไม่ได้ใส่การ์ดจอแยกมาให้ จะเล่นได้ในบางเกม ที่ไม่ได้เรียกใช้ทรัพยากรมากมายนัก เกมออนไลน์พอเล่นได้แบบที่เราได้ทดสอบบน DOTA2 และ PUBG ที่เล่นได้ลื่นในระดับ Low หรือ Medium Detail ในแง่ของการอัพเกรด ก็ยังทำได้ แม้ในเคสจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม เพราะเพิ่มได้ทั้ง SSD และ RAM บนสล็อตที่เหลือ 

สุดท้ายก็คือ พอร์ตที่ให้มาก็เรียกว่าเกือบครบครัน ให้คุณต่อพ่วงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมี WiFi มาในตัวอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท การรับประกัน 3 ปี เป็นแบบ Onsite Pickup and Return อุ่นใจได้ในการใช้งาน โดยซีรีย์ DP20ZA จะมีทั้งหมด 3 รุ่น

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/DP20ZA-NBS

  • MSI PRODP20ZA 5M-205TH เริ่มต้น 23210.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-206TH 18920.-
  • MSI PRODP20ZA 5M-207TH 15070.-

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI PRODP20ZA

from:https://notebookspec.com/web/682753-msi-pro-dp20za-mini-pc

จอคอมมือสอง 2023 น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี เช็คอย่างไรให้ได้ของดี คุ้มค่า

จอคอมมือสอง 2023 รุ่นไหนน่าใช้ เลือกอย่างไรดี จอคอมเกมมิ่ง วิธีเช็คง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อ

จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง อย่าไปซื้อ! ปี 2023 แล้วซื้อจอใหม่ดีกว่า… มักคำเตือนแบบนี้มักจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอ เมื่อรู้ว่าเราจะซื้อจอมือ 2 มาใช้งาน ซึ่งก็อาจจะเป็นคำเตือนที่ดี แต่บางทีก็ขัดกับใจใครบางคน เพราะบางทีงบประมาณจำกัด แต่ก็อยากได้จอคอมใหญ่ๆ ความละเอียดสูงมาใช้ 2K, 4K หรือยิ่งได้รีเฟรชเรตสูงๆ 144Hz ขึ้นไป แบบจอเกมมิ่ง ก็ยิ่งดี แต่ราคาต้องเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าด้วย การที่จะได้จอที่ถูกใจมานั้น คงไม่ใช่แค่กำเงินที่มี แล้วเดินไปหาอย่างเดียว เพราะคุณจะต้องพอเช็คสภาพจอ รวมถึงกลไกต่างๆ ในการขายของจากบรรดาพ่อค้า วันนี้เรามาดูกันครับว่า การจะเลือกจอมือ 2 เหล่านี้ จะซื้ออย่างไร ที่ไหนและต้องเช็คอะไรบ้าง


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย? เลือกแบบไหนดี


จอคอมมือสอง น่าซื้อมั้ย?

จอคอมมือสองน่าซื้อมั้ย ข้อนี้ต้องถามใจคุณดูก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับสภาพได้แค่ไหน มีความอดทนมากพอมั้ย และจอที่คุณมองไว้ เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ เพราะราคาจะเป็นตัวกำหนด บางครั้งถูกมากไป ก็ได้ลุ้น แพงไปก็อาจจะไม่คุ้ม ฉะนั้นก็ต้องอยู่กลางๆ แต่หากคุณได้จอดีๆ มาใช้ ในราคาที่ถูกกว่าราคากลางในตลาด ก็ถือว่าคุณโชคดีมาก แต่กว่าจะได้จอมือสองแบบนั้นก็คงจะไม่ง่าย

Advertisementavw
จอคอมมือสอง

จอคอมมือสอง ก็คล้ายกับของมือสองอื่นๆ ในตลาด มีให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การได้ของที่ถูกใจ ในราคาถูกมาใช้ แต่ของเหล่านั้น ก็ถูกใช้งานมาแล้ว โอกาสที่มีข้อบกพร่องหรือเกิดความเสียหายก็มีเช่นกัน เช่นเดียวกับสภาพของจอ บางคนก็ดูแลดี เก็บรักษาอยู่ในห้อง แต่บางคนก็ไม่ได้ดูแล มีกระแทกบ้าง สัตว์เลี้ยงมาแทะ ซนชนจนหล่นตกแตก หรือบางทีก็ชอบเอานิ้วจิ้มจอ เป็นต้น ก็อาจจะมีผลต่อการใช้งานเช่นกัน

จอคอมมือสอง

รวมถึงของที่ใช้แล้ว ก็มีความเสื่อมเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นจอที่มีอายุในตลาดมายาวนาน และใช้งานต่อเนื่อง ลองนึกสภาพว่า ผู้ใช้ไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะเปิดใช้ทำงานแค่วันละ 5-8 ชั่วโมง ส่วนเกมเมอร์บางคน อาจจะเล่นต่อเนื่องวันละ 12 ชั่วโมง ความเสื่อมสภาพของหน้าจอ หรืออายุการทำงาน ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อครบปี โอกาสที่คุณจะรับไปใช้ต่อ แล้วเกิดปัญหาหรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนได้บ้าง ก็มีอยู่ไม่น้อย

จากข้อมูลพื้นฐานของผู้ผลิต จอภาพในแบบ LED นั้น จะมีอายุการใช้งานราวๆ 80,000-120,000 ชั่วโมง หรือราวๆ 20 ปี ในกรณีที่ใช้วันละ 8 ชั่วโมงนะ (อ้างอิง: digitalworld839.com) ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อุณหภูมิ ความชื้นหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้แผงวงจรหรือพาแนลเสียหายได้

จอคอมมือสอง

ยังไม่รวมถึงสภาพแวดล้อมหรือการจัดเก็บดูแล บางบ้านอยู่ในห้องปรับอากาศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ก็จะยังอยู่ในสภาพที่ดี เพราะชิ้นส่วนภายใน ไม่เจอกับอุณหภูมิที่สูง ก็จะทนทานกว่าจอภาพที่อยู่ในห้องธรรมดา อากาศร้อน หรือบางทีก็เสี่ยงกับความชื้น เช่นวางใกล้หน้าต่าง หรือสัตว์เลี้ยง แมลง มด สิ่งเหล่านี้ มีส่วนทำให้จอภาพเสียได้ไวขึ้น

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณได้จอคอมมือสองที่ถูกใจ ในราคาถูกลงเกือบครึ่ง สภาพดี มีประกัน แบบนี้ใครก็อยากเสี่ยง ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นถ้าคุณชอบของดี ราคาโดน เราไปดูรายละเอียดกันครับ ว่าจะเลือกอย่างไรบ้าง


ซื้อที่ไหนดี?

หลายคนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อจอคอมมือ 2 มาใช้เป็นการชั่วคราว และเก็บเงินซื้อจอใหม่ที่ดีกว่า อาจจะด้วยสาเหตุที่จอเก่าเสีย ส่งต่อให้คนอื่นหรือบางทีก็งบประมาณจำกัด ต้องการจะใช้จอที่มีคุณสมบัติตามต้องการ ซึ่งของใหม่อาจจะราคาสูงเกินเอื้อม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าซื้อจอได้ที่ไหนบ้าง เรามีข้อมูลมาเป็นแนวทางครับ

ห้างไอที ร้านตู้ มีร้านเยอะ ความหลากหลายอยู่ที่จังหวะ ราคาอาจสูงบ้าง แต่เห็นของ เช็คสภาพได้เลย ร้านออนไลน์ มีให้เลือกหลากหลาย ชำระผ่านแพลตฟอร์ม ราคาอยู่ที่สภาพและความต้องการ จัดส่งมั่นใจได้ กลุ่มและคอมมูนิตี้ มีให้เลือกเยอะ ราคาดี มีให้บิดกับพ่อค้า ความไว้วางใจ ชำระเงิน ส่งของ เร็วช้าอยู่ที่เครดิต

ห้างไอที: ห้างเหล่านี้ หลายๆ แห่งจะมีบรรดาร้านที่มีจำหน่ายอุปกรณ์คอมมือสองอยู่ด้วย จะมีทั้งร้านเล็กและร้านใหญ่ บางร้านก็จะมีหน้าร้านออนไลน์เอาไว้ด้วย คุณสามารถสอบถามข้อมูล ราคา ก่อนจะเข้าไปดูตัวจริงที่ร้าน ข้อดีของการซื้อแบบนี้อยู่ที่ การได้เห็นตัวจริงสินค้า สภาพ มีร้านการันตี หน้าร้านชัดเจน ต่อรองราคาได้ และมั่นใจเรื่องการบริการ แต่อาจจะมีให้เลือกไม่หลากหลาย รวมถึงราคาอาจจะสูงเล็กน้อย เพราะร้านมีค่าใช้จ่าย รวมถึงเราต้องเดินทางไป และบางครั้งก็อาจจะไม่มีของที่เราต้องการ

จอคอมมือสอง

ร้านค้าออนไลน์: ในนี้เราจะรวมเว็บไซต์ที่เป็นตลาดซื้อขายเข้าไปด้วย ซึ่งในบ้านมีให้เลือกเข้าไปช้อปมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Kaidee หรือ Pantipmarket เป็นต้น ข้อดีของร้านค้าเหล่านี้คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการ ตั้งแต่ คัดกรองสินค้า ผู้จำหน่าย รวมถึงการค้นหา การชำระเงิน ส่วนใหญ่จะปลอดภัย สะดวก แต่ที่เหลือคือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องเช็คสินค้าและดูรายละเอียดให้ครบถ้วน ก่อนจ่ายเงิน และหลังจัดส่ง รวมถึงมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สอบถามรายละเอียดในแต่ละร้านได้โดยไม่ต้องโทรหา หรือเดินหาด้วยตัวเอง แค่แชทผ่านช่องทางที่กำหนด ทำราคาได้ค่อนข้างดี มีระบบจัดส่งที่วางใจได้ แต่คุณจะไม่ได้เห็นสินค้าแบบสัมผัสได้ หรือว่าทดสอบได้นั่นเอง

จอคอมมือสอง

Group หรือ Community: ส่วนใหญ่จอคอมมือสองจะเป็นกลุ่มใน Facebook ที่มักรวมกันเป็น Community ที่มีคนที่เป็นสมาชิกที่ชื่นชอบในสินค้าหรืออุปกรณ์แบบเดียวกัน เช่น กล้อง การ์ดจอ คอมพิวเตอร์ รวมถึงจอคอมด้วยเช่นกัน ข้อดีของ Community แบบนี้คือ ไม่ใช่แค่การมองหาแล้วซื้อ แต่คุณยังเปิดรับสินค้า ให้ผู้ขายเข้ามานำเสนอได้ บางครั้งแข่งกันเรื่องราคา ผู้ซื้อก็จะได้ราคาพิเศษไป แม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ซื้อก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะกลุ่มไม่ได้เป็นแพลตฟอร์ม การคัดกรองค่อนข้างยาก มีทั้งผู้ที่จำหน่ายจริง และคนที่ไม่สุจริตเข้ามาแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนที่สำคัญคือ การชำระเงิน การส่งของ จนกว่าจะถึงปลายทาง เพราะโอกาสที่ผิดพลาดก็มีสูง จากเคสต่างๆ เช่น โอนเงินแล้ว แต่ไม่ส่งของ ส่งของไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ส่งของเสียมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นการหมุนเงินก่อน กว่าจะส่งของก็เป็นเดือนๆ หรือบางทีก็ไม่ส่ง การติดตามก็ยาก ช่วงหลายปีมานี้ ก็มีการใช้วิธี Verify ตัวบุคคล การสร้างเครดิตผู้ขาย รวมถึงการชำระแบบผ่านกลางแอดมินเป็นต้น

ห้างไอที ร้านค้าออนไลน์ Group หรือ Community
ความสะดวก ต้องเดินทางไป ดูข้อมูลง่าย ดูข้อมูลง่าย
ความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา มีหลายร้านให้เลือก มีผู้ค้าจำนวนมาก
เช็คสินค้า เช็คได้ทันที ดูจากภาพ วีดีโอ ดูจากภาพ วีดีโอ
การชำระเงิน สะดวกจ่ายได้เลย หลายช่องทางตามสะดวก ขึ้นอยู่กับผู้ขาย
การจัดส่ง รับกลับได้ทันที รอร้านตามกระบวนการ ช้า/เร็ว อยู่ที่ความรับผิดชอบผู้ขาย
การรับประกัน เช็คได้ที่ร้าน ตามเงื่อนไข ตามที่ตกลงกับผู้ขาย
ความเชื่อมั่น มีหน้าร้านอุ่นใจ มีแพลตฟอร์มคืนได้ อยู่ที่เครดิตและความรับผิดชอบ
ราคา บวกจากปกติอยู่บ้าง ตามกลไกตลาด ถูก แพงอยู่ที่จังหวะและความต้องการ

เลือกอย่างไร?

ก่อนจะเลือกจอคอมมาใช้งาน ก็ต้องดูจากความต้องการของตนเองก่อนว่า อยากได้จอแบบไหน มาใช้งานอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะไปส่องจอคอมมือสอง เพราะจอแต่ละแบบก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งราคาก็จะต่างกันด้วย เราไปดูกันก่อนว่าจอแบบไหน มีลักษณะอย่างไร

จอคอมมือสอง

จอคอมใช้งานทั่วไป: โดยพื้นฐานจะใช้สำหรับงานทั่วไป เช่นงานเอกสาร การเรียนรู้ หรือทำรายงาน แต่งภาพบ้าง สามารถใช้จอใหญ่ระดับ 24″-27″ ได้ ความละเอียด Full-HD และมีฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น Low Blue Light อัตรารีเฟรชเรตพื้นฐาน 60Hz อาจจะรองรับ HDR ได้บ้าง พาแนล IPS ปรับแต่งได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงขั้นมี Game Mode ราคาจะไม่ค่อยสูง เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน

จอคอมทำงานเฉพาะทาง: จอคอมในกลุ่มนี้ ต้องการขอบเขตสี และความแม่นยำของสีสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำสื่อสิ่งพิมพ์หรืองานด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก 3 มิติ แอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก รวมถึงงานด้านภาพ ตัดต่อวีดีโอ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นคือ จอต้องมีการแสดงภาพที่แม่นยำ สีสันคมชัด มองเห็นในมุมต่างๆ ได้ไม่ผิดเพี้ยน ปัจจุบัน เช่น มีขอบเขตสีครอบคลุมระดับ 100% sRGB พร้อมความแม่นยำของสี Delta E (ΔE) < 2 (น้อยกว่า 2) ความละเอียดสูง เพื่อให้รองรับงานและแอพพลิเคชั่นได้ดี เช่น 2K หรือ 4K มีความสว่างสูง ลดแสงสะท้อน การมีอัตรารีเฟรชเรตสูง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าจอทั่วไป ก็ทำให้ราคาของจอภาพพุ่งสูงกว่าจอแบบอื่นๆ

จอคอมมือสอง

จอคอมเล่นเกม: Gaming monitor เป็นจอคอมที่เราเห็นได้บ่อย เมื่อค้นหาคำว่า จอเกมมิ่ง จอเล่นเกมนี้จะต่างจากแบบทั่วไปในหลายด้าน ว่ากันตั้งแต่พื้นที่แสดงผล ตั้งแต่ 24″ ขึ้นไป หากคุณอยากใช้จอใหญ่ 27″-29″ อาจจะยังไม่ทำให้คุณต้องถอยร่นจากจอมากนัก เห็นได้เต็มตายิ่งขึ้น รวมถึงความละเอียด ส่วนใหญ่อยากได้ฟีเจอร์ครบ เทคโนโลยีจัดเต็ม 24″ Full-HD เป็นตัวเริ่มต้น แต่ถ้าเครื่องคอมคุณแรงพอ การ์ดจอเทพ จัดไป 2K (1440p) และ 4K (2160p) แต่อย่าลืมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงขึ้น เริ่มต้นที่ 144Hz จะเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ดีทีเดียว

จอคอมมือสอง

นอกจากนี้หากคุณเลือกจอที่มีการปรับแต่งเพิ่มได้ เช่น Game Mode ให้เลือก รวมถึงเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น nVIDIA G-Sync หรือ AMD FreeSync เป็นต้น เช่นเดียวกับฟีเจอร์ที่ติดกับตัวจอมาด้วย ในการช่วยให้การเล่นเกมสนุกหรือได้เปรียบมากขึ้น เช่น Crosshair หรือ Night Vision เป็นต้น และที่สำคัญถ้าได้ปุ่มที่ปรับแต่ง OSD ได้ง่าย ยิ่งใช้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งได้ก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อม Gaming monitor ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

จอคอมมือสอง

จอคอมสำหรับความบันเทิง: จะเน้นไปที่จอคอมที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ ให้ความละเอียดสูง และมีสีสันสดใส ไม่จำเป็นต้องมีอัตรารีเฟรชเรตที่สูงมาก แต่ให้การสนับสนุนด้านภาพที่ดี มีความสว่างสูง และมุมมองที่กว้าง เพื่อการรับชมได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงพาแนลแบบ IPS ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย บนจอกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น OLED, Mini OLED, QuantumDot เป็นต้น ที่นอกจากจะให้ความคมชัดสดใส สีดำดำสนิทแล้ว ก็ยังสนับสนุนหรือได้ Certified DisplayHDR ที่ทำให้การแสดงผลมีความกลมกลืนสวยสมจริง ให้ขอบเขตสีที่กว้าง และผู้ใช้ยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลให้เข้ากับการใช้งานได้อีกด้วย สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับพาแนลที่ใช้และเทคโนโลยีที่เติมเข้ามานั่นเอง


เช็คสภาพจอได้อย่างไร?

เมื่อได้รับจอคอมมาแล้วต้องเช็คอะไรบ้าง? เป็นคำถามที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ซื้อจอมือสองมาใช้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อแบบออนไลน์ และไม่ได้ทดสอบมาก่อน แนะนำว่าให้รีบทดสอบก่อนภายใน 7 วัน ที่มักจะเป็นประกันแบบสากล มีความผิดปกติจะได้แจ้งกับผู้ขายให้ได้รับทราบก่อน เผื่อว่าอาจจะต้องส่งคืน หรือส่งเคลม (อย่างไรก็ดี ย้ำกันอีกทีว่า การซื้อของมือสอง ก็อาจจะไม่ได้ใหม่กริ๊บ สวยไร้ริ้วรอยเสมอไป ยกเว้นว่าคุณได้มาครอบครอง ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ)

จอคอมมือสอง

สภาพโดยทั่วไป น่าจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุด ก่อนจะไปดูสิ่งอื่นๆ ว่ากันที่ กรอบจอ ไม่อ้า ไม่กางออก ไม่แตกหัก งานประกอบเรียบสนิท ไม่มีคราบกาวไหลเยิ้ม อย่างน้อยถ้าเป็นงานซ่อม ก็ต้องออกมาดี รวมถึงด้านหลังจอ ควรยึดกับฐานได้แน่น ไม่หลวมหลุดแกว่งไปมา ซึ่งจะบอกถึงความแข็งแรงได้ดี

จอคอมมือสอง

ฐานขาตั้ง ข้อต่อ ขาตั้งจอควรมีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ หากเป็นจอที่ปรับมุม ก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา, หรือ Pivot ได้ ก็ควรให้เป็นไปตามนั้น ยกเว้นว่าคุณยอมรับสภาพนั้นอยู่แล้ว เพื่อราคาที่ถูกลงมากๆ ก็เป็นข้อยกเว้น เพราะอย่าลืมว่า เวลาที่ใช้งาน สายตาคุณจะไม่แกว่งไปตามจอภาพนั่นเอง

จอคอมมือสอง

ปุ่มปรับแต่ง สำคัญมากๆ สำหรับการใช้งาน เพราะบางครั้งคุณต้องปรับเลื่อนเลือกฟังก์ชั่น เพิ่ม-ลดความสว่าง หรือการเปลี่ยนโหมดการใช้งาน บางรุ่นมีแค่ OSD settings มาให้ แต่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ หากปุ่มเสียไปกด เลื่อน เลือกไม่ได้ ก็จะปรับอะไรไม่ได้เลย จึงต้องเช็คให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

พอร์ตสัญญาณ ควรจะต้องใช้ได้ทุกช่อง ให้ต่อสายจากคอมมาเช็คในทุกๆ พอร์ต ไม่ว่าจะเป็น VGA, DVI, HDMI หรือ DisplayPort บางรุ่นมี USB Type-A, Type-C สำหรับ PD Charging หรือช่อง Audio-Out มาอีกด้วย วันนี้คุณอาจไม่ได้ใช้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่ ยิ่งมีฟีเจอร์ KVM หรือ Display-Out ต่อจอเสริมได้ ก็ควรจะต้องใช้งานได้ตามปกติ

จอคอมมือสอง

ระบบไฟ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะใช้อแดปเตอร์ตัวแปลงไฟ หรือต่อสาย Powercord ต่อตรงก็ตาม ต้องแน่น ไม่หลุดหลวม เพราะโอกาสที่เกิดการลัดวงจร หรือภาพดับบ่อยๆ สามารถส่งผลเสียต่อการใช้งานอยู่ไม่น้อยเลย

จอคอมมือสอง

อุปกรณ์เสริม บางครั้งอาจจะครบ หรือไม่ครบ ก็ไม่ได้เป็นประเด็น แต่สิ่งที่ควรมี ก็ต้องมี เช่น น็อตสกรูสำหรับยึดจอเข้ากับขาตั้ง หรือสายไฟ สายสัญญาณ ในส่วนอื่นๆ ที่เสริมมานั้น ก็แล้วแต่กรณีไป ซึ่งถ้าเป็นเฉพาะของจอรุ่นนั้นๆ ก็ควรต้องสอบถามผู้ขายให้แน่ใจ

จอคอมมือสอง

หลังจากที่เช็คสภาพจอโดยทั่วไปแล้ว ก็ได้เวลาเช็คสิ่งสำคัญ นั่นคือการแสดงผล แม้จะเป็นจอคอมมือสอง แต่ก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสว่าง ภาพที่คมชัด ไม่มี Dead/Bright dot จนรบกวนการใช้งาน ไปจนถึงไม่มีเส้น แตก ลายเมื่อใช้งานต่อเนื่อง เป็นต้น แล้วจะเช็คได้อย่างไร?

เช็คบนวินโดว์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจเช็ค ด้วยการเปิดจอในหน้า Desktop ว่างๆ ด้วยการคลิ๊กขวาบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก View > เอาเครื่องหมายหน้า Show icon ออก แล้วเปลี่ยนสีของหน้าจอ ไปเป็นสีต่างๆ แล้วสังเกตสิ่งเหล่านี้

จอคอมมือสอง
  • เปิดหน้าจอสีขาว ต้องไม่มีจุดดำหรือ Dead pixel หรือถ้ามีมากสุดแค่จุดเดียว ก็ทำให้คุณเสียสมาธิและเสียอารมณ์ในการใช้งานได้แล้ว ยกเว้นว่าคุณรับได้
  • เปิดหน้าจอสีดำ ต้องไม่มีจุดสะดุดตา สีขาวหรือสีแดง ที่เป็น Hot pixel หรือ Bright pixel เพราะจะอารมณ์เดียวกันกับ Dead pixel และเป็นไปได้ว่า จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นเพิ่มได้อีกด้วย
  • ไม่มีเส้นในแนวยาว หรือแนวตั้งปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะตอนเปิดจอใหม่ๆ หรือใช้งานไปนานๆ ก็ตาม
  • อาการแสงรั่ว ตรงนี้อยู่ที่การผลิตจอ ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นกันในจอรุ่นใหม่ๆ ถามว่าน่ากังวลมั้ย ก็อาจจะมีอยู่บ้าง เมื่อเราใช้ในสภาพแวดล้อมที่มืดๆ ตรงจุดที่รั่วออกมาเยอะ อาจทำให้ความชัดลดลง และมีความรำคาญบ้างในบางครั้ง ซึ่งหากคุณงบน้อยจริง ต้องซื้อจอรุ่นเก่า พอรับได้ก็ดี แต่ถ้าจะซื้อจอกลางเก่ากลางใหม่ ก็ให้สังเกตเอาไว้หน่อยครับ รั่วเล็กน้อย แค่ขอบมุม พอได้ แต่ถ้ารั่วออกมากินพื้นที่จอเยอะเกินไป ก็ลองคุยกับผู้ขายดูอีกที

แต่ถ้าในกรณีที่ไม่แน่ใจจอคอมมือสองที่ได้มานี้ ใช้งานได้ดีมั้ย อยากจะเช็คการแสดงผลให้ละเอียดไปกว่านั้น ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ทดสอบมาเป็นตัวช่วยได้ เรียกว่า DPT หรือ Dead Pixel Tester ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ โปรแกรมนี้สามารถแสดงผลให้เราทราบได้เลยว่า มีความผิดปกติใด เกิดขึ้นกับจอคอมมือสองที่ซื้อมาบ้าง ไม่ใช่แค่ Dead/ Hot/ Bright Pixel เท่านั้น แต่การแสดงผลสีขาว/ ดำ หรือวงกลม สมดุล เส้นขอบแนว ก็ทำได้หมด จากตัวอย่างที่เรานำมาให้ชมนี้

จอคอมมือสอง ซื้อได้ ควรระวัง
สภาพโดยรวม ไม่แตกร้าว เบี้ยวหัก เสียหาย แตก งอ ชิ้นส่วนหาย
ขาตั้ง ฐาน รับน้ำหนักจอได้ สมดุล ปรับหมุนปกติ เอียง พับ เขย่าหรือเสียสมดุลเมื่อใช้
จอภาพ แสดงผลชัดเจน สว่าง สีสดใส ไม่มัว ภาพคมชัด ไม่กระพริบ จอสีเหลือบ มีเส้น หรือ Dead pixel เยอะ
พอร์ต ใช้งานได้ครบ ต่อพ่วงได้ตามปกติ พอร์ตเสีย สัญญาณขาดหาย ขั้วต่อเบี้ยง เอียง เสียบไม่แน่น
ปรับแต่ง ปุ่มใช้งานปกติ ตั้งค่าการทำงานได้ เปิด OSD settings ไม่ได้ ปุ่มพัง กดไม่ติด
เสียง เสียงดัง ฟังชัด ไม่ขาดหาย เสียงแตก ติดๆ ดับๆ
ประกัน ประกันศูนย์ ประกันร้าน ประกันใจ

Conclusion

จอคอมมือสอง

นอกจากคอมมือสอง จอคอมมือสองก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่งบประมาณจำกัด หรือบางทีอาจจะหามาใช้เป็นจอสำรอง และนำไปใช้เป็นจอเสริม ต่อแบบมัลติมอนิเตอร์ได้อีกด้วย แต่จากที่ว่ามาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การมองหาจอคอมให้ได้แบบที่ต้องการ บางครั้งก็ไม่ได้ง่าย และมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เมื่อมีการซื้อหาแบบออนไลน์ เพราะหลายท่านก็ไม่สะดวก ที่จะเดินทางไปดูที่ร้าน หรือชอบซื้ออยู่กับบ้านมากกว่า ดังนั้นการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่เร่งรีบ หรือเช็คให้ถี่ถ้วนจะเป็นการดี นอกเหนือจากให้ความสำคัญกับสเปค ความสวยงาม บางครั้งถ้าถึงขั้นจะต้องขอ Live เพื่อดูการใช้งานจริงๆ ได้ ก็คงต้องทำ เพราะเมื่อเงินโอนออกจากคุณไปแล้ว โอกาสจะได้คืนก็จะยากขึ้น ในกรณีที่ปลายทางไม่มีของอยู่จริง หรือเป็นมิจฉาชีพมาหลอกคุณนั่นเอง การเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีแพลตฟอร์มก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรืออยากจะไปช้อปดูหน้าร้าน จ่ายเพิ่มอีกหน่อย แต่ได้เห็นของเช็คสภาพได้เลย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคร่ำหวอดในตลาดมากพอ และรู้ช่องทางซื้อ จะทางไหนก็เลือกหากันได้เลย ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลครับ


2nd hand gaming monitor 2023 63

จอคอมไม่ติด ไฟกระพริบ เช็คอาการ แก้ไขใน 7 ขั้นตอนปี 2023

from:https://notebookspec.com/web/684875-select-2nd-hand-display-2023

8 จอคอม 24 นิ้ว สายเกมมิ่งตัวเด็ดตัวเทพ พร้อมเรื่องน่ารู้ก่อนเลือกจอคอมใหม่ อัพเดทปี 2023

จอคอม 24 นิ้ว ไซซ์ยอดนิยมของสายทำงานและเกมเมอร์ ต้นปี 2023 นี้มีรุ่นน่าซื้อเพียบ!

ร่วม 8 จอคอม 1

ถ้าใครมองหาหน้าจอคอมเอาไว้ใช้สักตัว จอคอม 24 นิ้ว เป็นขนาดมาตรฐานในปัจจุบันที่คนทำงานหรือเกมเมอร์มองหากัน ซึ่งข้อดีของจอคอมไซซนี้ คือ ขนาดใหญ่กำลังดีไม่กว้างมากจนต้องถอยห่างจากโต๊ะวางจอคอมมาก ขอระยะแค่ 1.2 ฟุต หรือ 14.4 นิ้ว ก็เป็นระยะที่ดีเหมาะสม ดีต่อสายตาของผู้ใช้แล้ว ถัดมาคือขนาดของมันกว้างพอดีกรอบสายตาของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่ต้องกวาดสายตาก็มองเห็นภาพบนหน้าจอทั้งหมด ทำให้เวลาเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลงจะเห็นได้เต็มตาพอดีมากและราคาของจอคอม 24 นิ้วปัจจุบันนี้ก็อยู่ช่วง 3,000~7,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์และฟีเจอร์ของจอรุ่นนั้นๆ ว่าทางผู้ผลิตติดตั้งมาให้มากเท่าไหร่

Advertisementavw

ด้านความละเอียดหน้าจอ ถ้าอิงจากหน้าสำรวจฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ของผู้ใช้ Steam เล่นเกมก็จะเห็นว่าหน้าจอความละเอียด Full HD (1920×1080) ยังเป็นหน้าจอที่ได้รับความนิยมสูงสุด ณ ตอนนี้ เพราะได้ภาพที่คมชัดสวยงามและใช้การ์ดจอระดับกลางๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3060 หรือ AMD Radeon RX 6600 และเกมมิ่งพีซีระดับกลางอย่าง AMD Ryzen 5 และแรมอีก 16GB เท่านี้ก็ได้เฟรมเรทสูงภาพลื่นไหลมากแล้ว ไม่ต้องจ่ายแพงก็เล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่ม

จอคอม 24 นิ้ว

ด้านวิธีการเลือกซื้อหน้าจอคอม 24 นิ้ว สำหรับเอาไว้ใช้สักตัวไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกม แต่ยังไม่รู้ว่าควรดูสเปคหรือใส่ใจฟังก์ชั่นส่วนไหนบ้าง ในส่วนนี้ผู้เขียนขอสรุปวิธีการดูสเปคเอาไว้ดังนี้

  • ตัดสินใจก่อนว่าจะซื้อมาทำอะไร – หน้าจอคอมเป็นสินค้าที่มีหลากหลายรุ่นให้เลือก และแต่ละรุ่นก็มีจุดประสงค์การใช้งานแตกต่างกัน หากจะซื้อมาเล่นเกมก็ต้องดูรุ่นที่ค่า Refresh Rate สูง, Response Time ต่ำ และยิ่งถ้ามีฟีเจอร์ป้องกันภาพฉีกขาดอย่าง NVIDIA G-SYNC หรือ AMD FreeSync ก็ยิ่งดี กลับกันหากเป็นครีเอเตอร์ก็ต้องหาจอที่ขอบเขตสีกว้างและเที่ยงตรง อย่างน้อยควรได้ 98% sRGB ขึ้นไปและค่าความเที่ยงตรงสีบนหน้าจอ (Delta-E) ควรมีค่าเฉลี่ยจากโรงงานน้อยกว่า 2 จะดีที่สุด
  • ความละเอียดหน้าจอและขนาดคือสำคัญ – ขนาดหน้าจอคอม ณ ตอนนี้เรียกว่ามีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับทางผู้ผลิตว่าออกแบบหน้าจอมาเป็นแบบไหน ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปก็มี 16:9 ซึ่งเป็นอัตราส่วนมาตรฐานแบบโรงภาพยนตร์ และถ้าเป็น 21:9 ก็เป็นอัตราส่วนกว้างพิเศษ ซึ่งเกมเมอร์หลายๆ คนหันมาใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอัตราส่วนและความละเอียดจอที่ได้รับความนิยมและหาซื้อได้ง่าย เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมก็ควรอยู่ที่ 16:9 ความละเอียด Full HD (1080p) เป็นต้นไป แต่ถ้าหน้าจอมีความละเอียด 2K QHD หรือ 4K ภาพก็จะคมชัดยิ่งขึ้น และปริมาณความหนาแน่นเม็ดพิกเซลต่อนิ้ว (Pixes Per Inch) ถ้าให้ดีก็ควรอยู่ที่ 109 ppi ขึ้นไป จะได้ภาพที่คมชัด ส่วนขนาดหน้าจอที่เหมาะสมนอกจากดูขนาดจอที่วางบนโต๊ะหรือขึดเข้ากับ Monitor Arm ได้แล้ว ก็ควรดูระยะห่างด้วย ว่าเราสามารถนั่งให้ห่างจากหน้าจอในระยะที่เหมาะสมได้หรือไม่ โดยระยะห่างที่เหมาะสมเป็นดังนี้
ขนาดหน้าจอ (นิ้ว) ระยะห่างจากจอขั้นต่ำ (นิ้ว)
20 12
24 14
30 19
32 20
36 22
40 25
48 33
55 35
60 40
  • ค่า Refresh Rate ยิ่งมากยิ่งดี Response Time ยิ่งน้อยยิ่งน่าใช้ – ค่า Refresh Rate หากพูดตามหลักการของมันแล้ว คือความถี่ของภาพที่เปลี่ยนบนหน้าจอภายใน 1 วินาทีจะเปลี่ยนจำนวนกี่ภาพโดยวัดเป็นค่าเฮิรตซ์ (Hz) หากค่า Hz หน้าจอยิ่งสูง ภาพจอตอนเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลงจะลื่นไหลไม่กระตุก หากเป็นจอทำงานอาจจะยืนพื้นเอาไว้ 60Hz ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าซื้อจอไว้เล่นเกมควรมีค่า Refresh Rate ยิ่งสูงยิ่งดี อย่างน้อยควรอยู่ที่ 75Hz ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันนี้จะเห็นจอเกมมิ่งส่วนใหญ่ยืนพื้น 144, 165, 240 หรือขึ้นไปจน 500Hz กันแล้ว ส่วนค่า Response Time เป็นความเร็วที่หน้าจอเปลี่ยนสีเม็ดพิกเซลแต่ละเม็ดบนหน้าจอจากดำเป็นขาว แต่ถ้าจอนั้นวัดเป็น Gray-to-gray (GtG) จะวัดการเปลี่ยนสีเม็ดพิกเซลจากเฉดสีเทาเป็นสีอื่น วัดค่าความเร็วเป็นมิลลิวินาที (millisecond) ซึ่งจอคอมทั้งแบบทำงานและเกมมิ่งจะยืนพื้นอยู่ที่ 5ms (GtG) ถ้าเป็นจอเกมมิ่งบางรุ่น ค่า Response Time จะต่ำถึง 0.5ms (GtG) ด้วยซ้ำ ทว่าค่า Response Time แม้จะสำคัญ แต่ก็ไม่ต้องโฟกัสมาก แนะนำให้ดูที่ค่า Refresh Rate สูงยืนพื้นก่อนจะดีกว่า
  • ดูพาเนลที่เหมาะสมกับการใช้งาน – พาเนลหน้าจอในปัจจุบันนี้โดยหลักๆ แล้วจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ TN (Twisted Nematic), IPS (In-Plane Switching) และ VA (Vertical Alignment) ซึ่งทั้งสามพาเนลนี้ก็ถือว่ามีข้อดีและข้อสังเกตแตกต่างกันไป เช่น TN จะเป็นพาเนลราคาไม่แพงและตอบสนองได้รวดเร็วที่สุดและจอเกมมิ่งระดับ Esports นิยมทำจอพาเนลนี้ แต่มันก็เป็นพาเนลที่ขอบเขตการมองเห็นภาพบนหน้าจอแคบที่สุดในกลุ่มเช่นกัน ในขณะที่ IPS จะมีขอบเขตการมองเห็นกว้างและค่า Response Time เร็วไล่เลี่ยกับ TN และได้คุณภาพสีดีและเที่ยงตรงที่สุด ใช้ทำงานอาร์ทหรือเล่นเกมก็ได้ ส่วนพาเนล VA จะได้ค่า Contrast บนจอดีกว่า IPS เหมาะจะซื้อเอาไว้เล่นเกมที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะพาเนลไหนก็มีจุดเด่นและจุดสังเกตแตกต่างกันไป ขอแค่เลือกพาเนลให้เข้ากับการใช้งานของเราก่อนก็เพียงพอแล้ว
  • ฟีเจอร์พิเศษประจำจอมีอะไรให้ใช้บ้าง? – ฟีเจอร์พิเศษนอกจากฟีเจอร์ลดอาการภาพฉีกขาดแล้ว ผู้ผลิตหลายๆ แบรนด์ก็ใส่ฟีเจอร์อย่าง USB Hub, ทำหน้าจอให้โค้งเพื่อรับสายตาของเกมเมอร์ได้ดียิ่งขึ้น และขาตั้งจอบางรุ่นยังสามารถหมุนเป็นแนวตั้ง (Pivotable) ได้และยังไม่รวมฟีเจอร์พิเศษเฉพาะจากทางผู้ผลิตอีกด้วย ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อหน้าจอคอม 24 นิ้วหรือใหญ่กว่านั้นมาใช้งานก็แนะนำให้ดูฟีเจอร์เสริมเหล่านี้เอาไว้ด้วยจะดีที่สุด
  • ฟีเจอร์ลดอาการภาพฉีกขาด – เป็นฟีเจอร์สำคัญของจอเกมมิ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งเรียกรวมๆ กันว่าเป็น Adaptive-Sync ซึ่งผู้ผลิตการ์ดจอแต่ละค่ายจะนำไปพัฒนาเป็นแบบเฉพาะเพื่อใช้กับการ์ดจอของตัวเอง โดย AMD จะเรียกเทคโนโลยีนี้ของตัวเองว่า FreeSync ส่วน NVIDIA จะเรียกว่า G-SYNC โดยหลักการทำงาน คือ ฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่ปรับค่า Refresh Rate ขึ้นลงโดยอัตโนมัติให้เข้ากับความเร็วที่การ์ดจอเรนเดอร์ภาพออกมาได้ เช่น ถ้าการ์ดจอเรนเดอร์ภาพได้ 50fps บนจอ Refresh Rate 165Hz ฟีเจอร์นี้จะปรับค่า Refresh Rate จอลงมา 50Hz ชั่วคราวให้เท่ากับจำนวนเฟรมภาพต่อวินาที (Frames Per Second) แล้วค่อยปรับค่า Refresh Rate กลับไปเป็นค่าตามที่การ์ดจอเรนเดอร์ได้โดยอัตโนมัติเพื่อลดอาการฉีกขาด ซึ่งฟีเจอร์ลดภาพฉีกขาดจากทั้ง AMD และ NVIDIA จะมีดังนี้
FreeSync FreeSync Premium FreeSync Premium Pro G-SYNC G-SYNC Ultimate G-SYNC Compatibility
ไม่มีจุดเด่นเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ไม่มีจุดเด่นเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ไม่มีจุดเด่นเพิ่มเติมเป็นพิเศษ รองรับขอบเขตสีกว้างขึ้นและ HDR Refresh Rate 144Hz หรือสูงกว่า ได้รับการรับรอประสิทธิภาพว่าเป็น artifact-free
รองรับ Refresh Rate 60Hz หรือสูงกว่านี้ รองรับ Refresh Rate 120Hz หรือสูงกว่านี้ รองรับ Refresh Rate 120Hz หรือสูงกว่านี้ อัดเฟรมขึ้น 2 เท่าเมื่อค่า Refresh Rate ตกลงต่ำกว่า 30Hz เพื่อให้ทำงานแบบ Adaptive Sync ได้ตลอดเวลา มีการตั้งค่าสี sRGB และ DCI-P3 จากโรงงานแล้ว รองรับขอบเขตสีกว้าง หน้าจอที่เป็น G-SYNC Compatible จะรองรับ FreeSync ด้วย
หน้าจอที่เป็น FreeSync จะรองรับ G-SYNC ด้วย มีฟีเจอร์ LFC (Low Framerate Compensation)  รองรับขอบเขตสีกว้างขึ้นและรองรับ HDR ลดอาการ Motion blur ให้ต่ำที่สุด รองรับสีสันระดับ HDR ที่สมจริงที่สุด  
หน้าจอบางรุ่นที่มี FreeSync จะมีฟีเจอร์ HDR ด้วย หน้าจอบางรุ่นที่มี FreeSync Premium จะมีฟีเจอร์ HDR ด้วย มีฟีเจอร์ LFC (Low Framerate Compensation)    ฟีเจอร์ Variable LCD overdrive  
    หน้าจอที่มี FreeSync Premium Pro จะรองรับ G-SYNC ที่มี HDR ได้ด้วย   ปรับแต่งค่า latency ให้ต่ำลง  
    ค่าความสว่างสูงสุด (Peak) จะสูงมาก โดยมีการวัดมาว่าจะอยู่ราว 600 nits ขึ้นไป      

LB0036 2 compressed

  • อัตราโค้งหน้าจอ – ปัจจุบันนี้ จอคอม 24 นิ้วเป็นต้นไปก็จะมีจอคอมแบบโค้งให้เลือกซื้อแล้ว โดยผู้ผลิตจะระบุเป็นตัวเลขอย่างเช่น 1000R, 1500R, 1800R ฯลฯ โดยค่า R ย่อมาจากคำว่า Radius (รัศมี) ส่วนตัวเลขที่เขียนคู่กันใช้บอกค่ารัศมีหน้าจอเป็นหลักมิลลิเมตรหรือระยะปริมณฑลเข้าสู่ศูนย์กลางวงกลม (perimeter to its center) เช่น ถ้าจอนั้นโค้ง 1500R หมายถึงหน้าจอที่มีความโค้ง 1500 มิลลิเมตร (1.5 เมตร) เป็นต้น และค่านี้จะสัมพันธ์กับการจัดที่นั่งของผู้ใช้ ว่าถ้าเรานั่งห่างจากหน้าจอเกิน 1.5 เมตร จะทำให้ประสบการณ์การมองเห็นภาพบนหน้าจอลดลง โดยข้อดีของการเลือกจอคอมโค้งจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตา, ได้ภาพที่กว้างและใหญ่, ลดอาการภาพบิดเบือนและได้ประสบการณ์ที่เต็มอิ่มกว่าหน้าจอแบบแบน แต่จากประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้แล้ว จอคอมแบบโค้งจะเหมาะกับการเล่นเกมเป็นพิเศษและถ้าจัดที่นั่งให้เข้าระยะเหมาะสมจะได้ประสบการณ์ดีเหมือนหลุดเข้าไปในเกมแต่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์การทำงานเอกสารนัก

สรุปสเปคจอคอม 24 นิ้ว รวมรุ่นเพื่อเกมเมอร์ให้ซื้อเอาไว้เล่นเกม

รุ่นจอคอม 24 นิ้ว Size
&
Resolution
Refresh Rate

Response Time

Gamut

Brightness

Connectivity ราคา
(บาท)
IPASON E2429G-Z 23.8″ FHD IPS-ADS 144Hz

5ms

99% sRGB

HDR10

400 cd/m2

HDMI 1.4 x 1

DisplayPort 1.2 x 1

USB (10W) x 1

3,980
Dell Curved Gaming Monitor S2422HG 23.6″ FHD VA

1500R

165Hz

4ms (GtG)

1ms (MPRT)

AMD FreeSync Premium

99% sRGB

350 cd/m2

HDMI 2.0 x 2

DisplayPort 1.2 x 1

Headphone out x 1

4,890
Acer Nitro QG241YPbmiipx 23.8″ FHD VA 165Hz

1ms (VRB)

AMD FreeSync Premium

250 cd/m2 HDMI 1.4 x 1

HDMI 2.0 x 1

DisplayPort 1.2 x 1

Audio out x 1

4,990
AOC 24G2SE/67 23.8″ FHD VA 165Hz

4ms (GtG)

1ms (MPRT)

Adaptive-Sync

126% sRGB

87% DCI-P3

96% NTSC

Delta-E <2

350 cd/m2

HDMI 1.4 x 2

DisplayPort 1.2 x 1

VGA x 1

Headphone out x 1

5,289
LG UltraGear 24GN60R-B 23.8″ FHD IPS 144Hz

1ms (GtG)

AMD FreeSync Premium

99% sRGB

300 cd/m2

HDMI x 1

DisplayPort x 1

Headphone out x 1

5,690
Samsung Odyssey G3 24″ FHD VA 165Hz

1ms (MPRT)

AMD FreeSync Premium

250 cd/m2 HDMI 1.4 x 1

DisplayPort 1.2 x 1

USB-A 3.0 x 2

Headphone out x 1

5,990
GIGABYTE G24F 2 23.8″ FHD IPS 165~180Hz

1ms (MPRT)

AMD FreeSync Premium

95% DCI-P3

125% sRGB

300 cd/m2

HDMI 2.0 x 2

DisplayPort 1.2 x 1

USB-B 3.2 Gen 1 (Upstream) x 1

USB-A 3.2 Gen 1 (Downstream) x 2

Earphone Jack x 1

6,080
Zowie XL2411K 24″ FHD TN 144Hz

1ms

320 cd/m2 HDMI 1.4 x 2

HDMI 2.0 x 1

DisplayPort 1.2 x 1

Headphone out x 1

7,490

8 จอคอม 24 นิ้ว สายเกมมิ่งตัวเด็ด เกมเมอร์ต้องโดน! อัพเดทปี 2023

เกมเมอร์ที่อยากได้จอคอม 24 นิ้วไว้ใช้ทั้งทำงานแบบ WFH แล้วเล่นเกมได้ด้วย ณ ช่วงต้นปี 2023 นี้ ผู้เขียนได้รวบรวมจอคอมรุ่นใหม่น่าสนใจและรุ่นที่แม้จะเปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้วก็ยังน่าใช้มาให้เลือก 8 รุ่นด้วยกัน โดยมีรายชื่อดังนี้

  1. IPASON E2429G-Z (3,980 บาท)
  2. Dell Curved Gaming Monitor S2422HG (4,890 บาท)
  3. Acer Nitro QG241YPbmiipx (4,990 บาท)
  4. AOC 24G2SE/67 (5,289 บาท)
  5. LG UltraGear 24GN60R-B (5,690 บาท)
  6. Samsung Odyssey G3 (5,990 บาท)
  7. GIGABYTE G24F 2 (6,080 บาท)
  8. Zowie XL2411K (7,490 บาท)
1. IPASON E2429G-Z (3,980 บาท)

th 11134207 23010 5k69js7ij4lva3

จอคอม 24 นิ้วแบรนด์น้องใหม่จากจีนที่กำลังเป็นกระแสและสเปคต่อราคาก็คุ้มค่าด้วย ต้องยกให้ IPASON E2429G-Z ซึ่งเป็นจอคอม 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS-ADS ค่า Refresh Rate 144Hz และ Response Time 5ms ขอบเขตสีกว้าง 99% sRGB รองรับ HDR10 ตั้งค่าความสว่างได้สูงสุด 400 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 1.4, DisplayPort 1.2 และ USB สำหรับชาร์จไฟให้สมาร์ทโฟนได้ จ่ายกระแส 10 วัตต์ ติดมาให้ใช้อย่างละช่อง ซึ่งในบรรดาจอคอม 24 นิ้วสำหรับใช้ทำงานและเล่นเกมได้ทั้งคู่ ต้องถือว่าจอตัวนี้สเปคคุ้มค่าราคาดีแม้หน้าตาจะดูเรียบง่ายไปบ้าง แต่ในแง่ของสเปคต้องถือว่ายอดเยี่ยมคุ้มเงินสุดๆ

สเปคของ IPASON E2429G-Z
Size&Resolution 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS-ADS
Refresh Rate

Response Time

144Hz

5ms

Gamut, Brightness 99% sRGB, HDR10, 400 cd/m2
Connectivity HDMI 1.4 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, USB (10W) x 1
Price 3,980 บาท (DEVAS IPASON Shopee Mall)
2. Dell Curved Gaming Monitor S2422HG (4,890 บาท)

dell 1

ถ้าถามถึงหน้าจอคอม 24 นิ้วดีๆ เกมเมอร์หลายๆ คนก็คงจะคิดถึงจอ Dell อย่างแน่นอน และจอ Dell Curved Gaming Monitor S2422HG ตัวนี้นอกจากราคาจะไม่เกิน 5,000 บาทแล้ว ฟีเจอร์และสเปคของมันจัดว่าดีเกินตัวมาก โดยขนาดจอนี้อยู่ที่ 23.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA ค่า Refresh Rate 165Hz และ Response Time 4ms (GtG) หรือ 1ms (MPRT) มี AMD FreeSync Premium ติดตั้งมาให้ป้องกันภาพฉีกขาด ขอบเขตสีกว้าง 99% sRGB มีความสว่าง 350 cd/m2 โค้ง 1500R มีพอร์ต HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, Headphone out x 1 ส่วนจุดแข็งของจอ DELL นี้ คือการรับประกันหลังการขายที่น่าเชื่อถือ ด้านสเปคก็น่าสนใจเพราะได้จอโค้งในราคาไม่เกิน 5,000 บาท แถมยังมี FreeSync Premium ป้องกันภาพฉีกขาดด้วย หากใครชื่นชอบและเชื่อถือแบรนด์ DELL ก็ซื้อจอนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ Dell Curved Gaming Monitor S2422HG
Size&Resolution 23.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA โค้ง 1500R
Refresh Rate

Response Time

165Hz

4ms (GtG) / 1ms (MPRT)
มี AMD FreeSync Premium

Gamut, Brightness 350 cd/m2

99% sRGB

Connectivity HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, Headphone out x 1
Price 4,890 บาท (iTrinity Shopee)
3. Acer Nitro QG241YPbmiipx (4,990 บาท)

4f852085b0f62259d0620bd4e6bda349 1

Acer Nitro QG241YPbmiipx เป็นจอคอม 24 นิ้วสายเกมมิ่งกรอบหน้าจอบางมี Gaming Mode ติดมาให้ใช้งาน ทั้งเปิดเป้าเล็ง Crosshair, เร่งความดำสนิทบนหน้าจอ Black Boost ฯลฯ ติดมาให้ใช้ จอนี้มีขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA ค่า Refresh Rate 165Hz และค่า Response Time 1ms (VRB) มีฟีเจอร์ลดอาการภาพฉีกขาดอย่าง AMD FreeSync Premium ช่วยลดอาการภาพฉีกขาดตอนเล่นเกมหรือดูคอนเทนต์ที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว ความสว่างหน้าจอ 250 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 1.4, HDMI 2.0, DisplayPort 1.2, Audio out ติดตั้งมาให้อย่างละ 1 พอร์ต พร้อมลำโพงกำลังขับ 2 วัตต์ x 2 ดอกด้วย หากเกมเมอร์คนไหนหาจอคอม 24 นิ้วเอาไว้ใช้เล่นเกมอย่างเดียวล่ะก็ ผู้เขียนค่อนข้างแนะนำจอ Acer Nitro รุ่นนี้เป็นพิเศษ ซึ่งคุณภาพของมันและฟีเจอร์จัดว่าน่าประทับใจมากไม่แพ้แบรนด์ไหนแน่นอน

Acer Nitro QG241YPbmiipx
Size&Resolution 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA
Refresh Rate

Response Time

165Hz

1ms (VRB) มี AMD FreeSync Premium

Gamut, Brightness 250 cd/m2
Connectivity HDMI 1.4 x 1, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, Audio out x 1
Price 4,990 บาท (BaNANA)
4. AOC 24G2SE/67 (5,289 บาท)

24G2SE FTR 1

หากใครหาจอคอม 24 นิ้ว ใช้ทำงานอาร์ทก็ได้เล่นเกมก็ดีอยู่ แนะนำให้ซื้อจอ AOC 24G2SE/67 ไปใช้งานเลย นั่นเพราะตอนี้นอกจากมีฟีเจอร์เกมมิ่งอย่างโหมด AOC Game Color ให้ภาพสวยเข้มขึ้นแล้ว ยังตั้งค่าการแสดงผลเปิดเป้าเล็ง Crosshair, เปิดการแสดงผล HDR ได้และมีฟีเจอร์อื่นๆ ติดตั้งมาให้ใช้ด้วย หน้าจอนี้จะมีขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA ขอบเขตสีกว้าง 126% sRGB, 87% DCI-P3, 96% NTSC และมีความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 อีกด้วย ค่า Refresh Rate 165Hz และ Response Time 1ms (MPRT) หรือ 4ms (GtG) มี Adaptive-Sync ลดอาการภาพฉีกขาดตอนเล่นเกม ปรับความสว่างได้สูงสุด 350 cd/m2 เชื่อมต่อได้ด้วยพอร์ต HDMI 1.4 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, VGA x 1, Headphone out x 1 นับว่าเป็นจอคอม 24 นิ้วที่ดีต่อเกมเมอร์และครีเอเตอร์มากโดยเฉพาะขอบเขตสีหน้าจอที่กว้างและเที่ยงตรงจัดเป็นจุดแข็งของหน้าจอนี้เลย

สเปคของ AOC 24G2SE/67
Size&Resolution 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA
Refresh Rate

Response Time

165Hz

1ms (MPRT) / 4ms (GtG) มี Adaptive-Sync

Gamut, Brightness 350 cd/m2

126% sRGB, 87% DCI-P3, 96% NTSC, Delta-E <2

Connectivity HDMI 1.4 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, VGA x 1, Headphone out x 1
Price 5,289 บาท (KSC Official Shopee)
5. LG UltraGear 24GN60R-B (5,690 บาท)

mnt 24gn600 04 1 hdr10 srgb 99 d 1

หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตหน้าจอคอมชั้นนำของโลกอย่าง LG จะมีจอคอม 24 นิ้วรุ่น LG UltraGear 24GN60R-B เป็นรุ่นน่าใช้ ซึ่งทาง LG ได้ใส่ฟีเจอร์อย่าง Dynamic Action Sync ให้หน้าจอตอบสนองการกดเมาส์คีย์บอร์ดได้ทันท่วงที, Black Stabilizer เร่งความสว่างของภาพที่มืดเกินไปให้สว่างคมชัดขึ้นแต่สีสันยังเข้มสวยงามอยู่แถมยังเปิดเป้าเล็ง Crosshair ขึ้นมาได้ด้วย ขนาดของจอนี้อยู่ที่ 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 99% sRGB รองรับการแสดงผล HDR10 ค่า Refresh Rate 144Hz และ Response Time 1ms (GtG) มีฟีเจอร์ AMD FreeSync Premium มาช่วยลดอาการภาพฉีกขาด ปรับความสว่างได้มากสุด 300 cd/m2 มีพอร์ต HDMI x 1, DisplayPort x 1, Headphone out x 1 ติดมาให้ ซึ่งจอเกมมิ่งตระกูล UltraGear นั้น ต้องถือว่าเป็นจอเกมมิ่งที่ใช้ทำงานได้และพาเนลหน้าจอยังมีคุณภาพสูงอีกด้วย หากเน้นเรื่องคุณภาพพาเนลล่ะก็จอนี้จัดว่าน่าใช้มาก

สเปคของ LG UltraGear 24GN60R-B
Size&Resolution 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Refresh Rate

Response Time

144Hz

1ms (GtG) มี AMD FreeSync Premium

Gamut, Brightness 300 cd/m2

99% sRGB

Connectivity HDMI x 1, DisplayPort x 1, Headphone out x 1
Price 5,690 บาท (Hpbyiqink Shopee)
6. Samsung Odyssey G3 (5,990 บาท)

th feature go beyond 531076535 1

จุดเด่นของจอคอม 24 นิ้วจาก Samsung อย่าง Samsung Odyssey G3 ตัวนี้ ต้องยกให้ขาตั้งหน้าจอที่ปรับสูงต่ำ, ก้มเงย, หันซ้ายขวารวมไปถึงหมุนเป็นแนวตั้งได้ (Pivotable) และกรอบหน้าจอบางด้วย หากนำมาตั้งสองจอต่อกันก็แทบไม่มีขอบจอมาคั่นให้รกสายตา ส่วนจอนี้มีขนาด 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA มีค่า Refresh Rate 165Hz และ Response Time 1ms (MPRT) พร้อมฟีเจอร์ AMD FreeSync Premium ลดภาพฉีกขาด ตั้งความสว่างจอสูงสุดได้ 250 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 1.4 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, USB-A 3.0 x 2, Headphone out x 1 และแม้จอนี้จะไม่มีการการันตีขอบเขตสีกว้างจากโรงงานก็ตาม แต่จุดเด่นของจอ Odyssey G3 นี้จะเด่นเรื่องฟีเจอร์ใช้งานอย่างการ Pivot จอเป็นแนวตั้งได้ มีพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB-A 3.0 ให้ใช้ด้วย ดังนั้นในแง่ลูกเล่นต้องถือว่าจอ Samsung ตัวนี้ได้เปรียบมาก

สเปคของ Samsung Odyssey G3
Size&Resolution 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล VA
Refresh Rate

Response Time

165Hz

1ms (MPRT) มี AMD FreeSync Premium

Gamut, Brightness 250 cd/m2
Connectivity HDMI 1.4 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, USB-A 3.0 x 2, Headphone out x 1
Price 5,990 บาท (Samsung Shopee Mall)
7. GIGABYTE G27F 2 (6,080 บาท)

1 1 1

GIGABYTE G24F 2 เป็นจอเกมมิ่งฟีเจอร์แน่นซึ่งทางผู้เขียนได้ทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ นอกจากดีไซน์สวยโดดเด่น มีโปรแกรม OSD Sidekick เอาไว้ตั้งค่าการแสดงผลได้ มีฟีเจอร์ Dashboard เพื่อมอนิเตอร์พีซีเครื่องที่เชื่อมต่อกับจอนี้อยู่ได้ด้วย มีฟีเจอร์เกมมิ่งติดมาให้ มีระบบ Auto update คอยปรับแต่งเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ สเปคจอนี้มีขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 95% DCI-P3, 125% sRGB รองรับการแสดงผล HDR มีค่า Refresh Rate 165Hz ปรับได้สูงสุด 180Hz และ Response Time 1ms (MPRT) มีฟีเจอร์ป้องกันภาพฉีกขาด AMD FreeSync Premium ตั้งความสว่างได้สูงสุด 300 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, USB-B 3.2 Gen 1 (Upstream) x 1, USB-A 3.2 Gen 1 (Downstream) x 2, Earphone Jack x 1 ต้องถือว่าจอ Gigabyte G24F 2 นี้ เป็นจอคอม 24 นิ้ว ที่น่าใช้มาก เพราะฟีเจอร์มาครบเครื่องทำงานได้เล่นเกมดี หากใครมีแผนจะเปลี่ยนหน้าจอคอมตัวหลักอยู่ก็แนะนำให้ซื้อจอนี้ไว้ใช้งานได้เลย

สเปคของ GIGABYTE G27F 2
Size&Resolution 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Refresh Rate

Response Time

165~180Hz

1ms (MPRT) มี AMD FreeSync Premium

Gamut, Brightness 300 cd/m2

95% DCI-P3, 125% sRGB

Connectivity HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, USB-B 3.2 Gen 1 (Upstream) x 1, USB-A 3.2 Gen 1 (Downstream) x 2, Earphone Jack x 1
Price 6,080 บาท (Advice Shopee Mall)
8. Zowie XL2411K (7,490 บาท)

01 xl2411k front 1

Zowie XL2411K แม้จะเป็นจอพาเนล TN รุ่นเดียวในบทความนี้ก็ตาม แต่ภาษีของมันคือจอเกมมิ่งระดับ Esports ซึ่งแสดงผลได้ฉับไว รองรับการต่อเครื่องเกมคอนโซลทั้ง PlayStation, Xbox ก็ได้และยังได้ค่า Refresh Rate สูง 120Hz มีโหมด DyAc+ ลดอาการภาพสั่นเบลอตอนเล่นเกม, มี Color Mode ตั้งค่าสีบนหน้าจอให้แสดงผลได้สว่างสวยคมชัดและยังมี XL Setting เอาไว้โหลดการตั้งค่าหน้าจอของเราหรือโปรเพลยเยอร์มาใช้งานกับจอ Zowie ของเราได้และฐานตั้งหน้าจอยังเล็กลง ทำให้ดึงแผ่นรองเมาส์และคีย์บอร์ดเข้ามาชิดขึ้นให้เล่นเกมได้ถนัดกว่าเดิม นอกจากนี้ยังซื้อแป้น S Switch 5 ทิศทางมาต่อเพิ่มเพื่อปรับการแสดงผลหน้าจอได้โดยสะดวก ขาตั้งหน้าจอสามารถปรับเลื่อนความสูงต่ำและองศาก้มเงยได้โดยสะดวกอีกด้วย สเปคของหน้าจอนี้มีขนาด 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล TN ค่า Refresh Rate 144Hz และ Respose Time  1ms เท่านั้น ตั้งความสว่างหน้าจอได้สูงสุด 320 cd/m2 มีพอร์ต HDMI 1.4 x 2, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, Headphone Jack x 1 หากเกมเมอร์คนไหนเน้นภาพลื่นรวดเร็วเทียบชั้นระดับนักกีฬา Esports ไม่เน้นทำงานก็แนะนำให้ซื้อจอ Zowie ตัวนี้ไปใช้เลย

สเปคของ Zowie XL2411K
Size&Resolution 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล TN
Refresh Rate

Response Time

144Hz

1ms

Gamut, Brightness 320 cd/m2
Connectivity HDMI 1.4 x 2, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, Headphone out x 1
Price 7,490 บาท (BenQ Shopee Mall)

jorge ramirez SVpWtjXmLZg unsplash

จะเห็นว่าจอคอม 24 นิ้วสายเกมมิ่งในปัจจุบัน ถ้าไม่ได้เน้นประสบการณ์การเล่นเกมระดับ Esports เป็นหลัก ก็จะเน้นลูกเล่นอื่นๆ เช่นพอร์ต USB-A 3.0 หรือเลือกใช้พาเนลจอขอบเขตสีกว้างให้ใช้ทำงานได้หลากหลายแบบ จะเล่นเกมก็ได้ค่า Refresh Rate สูงและมีฟีเจอร์ป้องกันภาพฉีกขาดอย่าง AMD FreeSync มาเสริม ถ้าทำงานก็มีขอบเขตสีหน้าจอกว้างเหมาะกับการแต่งภาพถ่ายหรือวาดภาพอาร์ทก็ดี แต่ก่อนจะไปเลือกซื้อจอใหม่มาใช้งานก็ขอแนะนำให้ดูรูปแบบการใช้งานของเราก่อน ว่าจะเน้นแบบไหน จะเอาดีรอบด้านหรือเน้นเล่นเกมอย่างเดียว ซึ่งถ้าตอบโจทย์ข้อนี้ได้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเราเหมาะกับจอคอมรุ่นไหนสเปคใด จะได้ซื้อได้ตรงโจทย์การใช้งานที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง

รวม 7 ลำโพงคอม 2023 1

รวมโต๊ะคอมสองชั้นน่าใช้

Top9 Controller 1

from:https://notebookspec.com/web/682249-8-recommend-24-inch-gaming-monitor

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น 144Hz/ 165Hz เริ่มแค่ 5,900 ภาพชัด เล่นลื่น สบายตา ราคาโดน

จอคอม 27 นิ้ว 8 รุ่น จอ 144Hz/ 165Hz เน้นเล่นเกม เริ่ม 5,900 ฟีเจอร์แน่น ภาพสวย จอใหญ่ เล่นไหลลื่น

จอคอม

จอคอม 27 นิ้ว จัดว่าเป็นจอที่เกมเมอร์หลายคนอัพเกรดขึ้นมาใช้ จากจอเดิมระดับ 22″-24″ ซึ่งปัจจุบันมีลูกเล่น และเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับ 8 จอคอม เริ่มแค่ 5,900 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานและการเล่นเกมได้ดี ด้วยพื้นที่กว้าง และบางรุ่นก็ให้ความละเอียดสูง เห็นรายละเอียดในเกมได้ดีขึ้น สีสันสดใส ให้การเชื่อมต่อมากมาย ปรับจูนได้ เพื่อให้ครบทุกการใช้งาน การเลือกใช้นอกเหนือจากพื้นที่กว้าง ความละเอียดสูง อาจจะต้องดูเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมการเล่นเกมที่ดีขึ้น เช่น การลดความสั่นไหว หรือการกระพริบ อัตรารีเฟรชเรตสูง สนับสนุน HDR หรือช่วยให้มองเห็นฉากมืดได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึง Game Mode ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานนั่นเอง เราไปดูกันดีกว่าว่าจอคอมที่เรานำมาให้ชมกันนี้มีรุ่นใดบ้าง


จอคอม 27″ 144Hz, 165Hz


1.Viewsonic VX2718-P-MHD

จอคอม

ต้องถือว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่ง ที่ทำราคาได้ดี เพราะเคาะอยู่ที่ราว 5,990 บาท แต่ให้ดีไซน์และประสิทธิภาพมาในระดับที่น่าสนใจ ด้วยความละเอียด Full-HD 1080p ใช้พาแนลแบบ VA เหมาะกับการเล่นเกม สีสันสดใส ให้การเล่นที่ลื่นไหล ด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz ขอบจอบางเฉียบ กับการปรับแต่งที่ง่ายดาย พร้อม View Mode ที่มีให้เลือกปรับแต่ง จะเล่นเกม ทำงาน แต่งภาพ รองรับฟีเจอร์ Adaptive Sync รวมถึงลำโพงมาในตัว เพียงแต่อาจจะปรับเลื่อนไม่ได้มาก มีพอร์ต HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

Advertisementavw

ดูรีวิว: Viewsonic VX2718-P-MHD

จุดเด่น ข้อสังเกต
รีเฟรชเรต 165Hz ค่า Brightness: 250 cd/m²

รายละเอียดเพิ่มเติม: Viewsonic


2.AOC 27G2SE/67

จอคอม

จอเกมมิ่ง ราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับเกมเมอร์เริ่มต้น เน้นจอใหญ่ การแสดงผลไหลลื่น พาแนลเป็นแบบ VA ตอบสนองได้ไว ให้ความสว่างสดใส ด้วยค่า Brightness ที่เหมาะกับการเล่นเกม และยังให้สีที่แม่นยำ ระดับ sRGB 122% บนความละเอียด Full-HD โดยมีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz และสนับสนุนเทคโนโลยี Adaptive Sync ลดการฉีกขาดของภาพ จุดที่น่าสนใจคือ มี Game Color ที่ปรับให้เหมาะกับการเล่นเกมในแต่สไตล์ได้อีกด้วย มีพอร์ต Input ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort ราคา 6,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ค่าความสว่างสูง ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
อัตรารีเฟรชเรต 165Hz

รายละเอียดเพิ่มเติม: AOC


3.Samsung ODYSSEY G30A

จอคอม

จอคอมเล่นเกมที่มาพร้อมฟีเจอร์น่าใช้ ราคาน่าโดนเพราะเปิดที่ 6,490 บาทเท่านั้น ดีไซน์ทันสมัยตามสไตล์ของค่ายนี้ ด้วยหน้าจอขนาด 27″ แต่ให้ความละเอียด Full-HD เหมาะกับเกมเมอร์สเปคกลางๆ เน้นภาพลื่นไหล โดยมีอัตรารีเฟรชเรต 144Hz และเป็นพาแนล VA ที่ตอบสนองได้ไว จอภาพลดแสงสะท้อน และมากับฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync Premium เพื่อให้ภาพที่ต่อเนื่องนุ่มนวล สามารถปรับเลื่อนได้อย่างครบครัน ตั้งแต่ ความสูง หันข้าง มุมก้ม-เงยและ Pivot ได้ 90 องศา โดยมีพอร์ต Input ให้เลือก HDMI และ DisplayPort อย่างละพอร์ต จุดเด่นอยู่ที่ความบางของขอบด้านข้าง 3-sided bezel-less และฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้ามาให้

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับมุมได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung


4.GIGABYTE G27F

จอคอม

เป็นจอคอมที่เหมาะกับเกมเมอร์ ชื่นชอบความไหลลื่นและคมชัด กับพาแนล IPS ให้ความละเอียดที่ 1080p FHD และมีดีไซน์ล้ำสมัย ขอบจอบางพิเศษ เหมาะกับการต่อเพิ่ม 2-3 จอ ที่ดูสบายตากับความลื่นไหล 144Hz และสนับสนุน AMD FreeSync Premium อีกด้วย จุดเด่นที่ความสว่างมากถึง 300cd/m2 สำหรับสีสันที่สดใส ให้ระดับสีที่แม่นยำ DCI-P3 95% เลยทีเดียว โดยสามารถปรับเลื่อนได้เล็กน้อย กับความสูงและมุมก้ม-เงย ความน่าสนใจคือ ปรับ OSD ได้จากซอฟต์แวร์ได้ง่ายดาย พร้อม Dashboard แสดงผลบนหน้าจอ พอร์ตมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น USB type-A 3.0, HDMI 2 ช่อง และ 1x DP พร้อมช่องต่อหูฟัง 3.5mm อีกด้วย ราคาประมาณ 6,900 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ค่า DCI-P3 95% ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
AMD FreeSync Premium

รายละเอียดเพิ่มเติม: GIGABYTE


5.Acer Nitro Gaming VG272LVBMIIPX

จอคอม

ถ้าจะว่ากันที่จอคอมเล่นเกมประสิทธิภาพดีในราคาที่สบายกระเป๋า เชื่อว่าจอจาก Acer รุ่นนี้ น่าจะโดนใจใครหลายคน เพราะมาพร้อมพาแนลแบบ IPS ให้ความคมชัด มุมมองกว้าง แม้จะเป็นความละเอียด Full-HD แต่ก็มีอัตรารีเฟรชเรตถึง 165Hz เลยทีเดียว พร้อมกับค่าความสว่างค่อนข้างสูง เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนังเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการรองรับ HDR400 และสนับสนุน AMD FreeSync อีกด้วย โดยเป็นหนึ่้งในไม่กี่รุ่นที่ใส่ลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณ HDMI 2 ช่องและ DP 1 ช่อง โดยปรับเลื่อนตัวจอได้เพียงมุมก้มเงยเท่านั้น ให้การรับประกัน 3 ปี ใครชอบการเล่นเกมบนหน้าจอแทบจะไร้ขอบ รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีในราคาประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz ปรับเลื่อนได้ไม่มาก
รองรับ HDR400

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


6.Dell G2722HS

จอคอม

เป็นจอคอมเกมมิ่งที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ กับดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ และรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมความละเอียด Full-HD พาแนล IPS และรีเฟรชเรต 165Hz เติมความสวยงามต่อเนื่องด้วย AMD FreeSync Premium และ G Sync รวมถึง sRGB 99% ให้ขอบเขตสีที่กว้าง ภาพสีสันสว่างสดใส เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ปรับเลื่อนความสูงได้ เช่นเดียวกับโหมดเกม ที่มีให้เลือกมากมาย กับสไตล์ที่ชื่นชอบ รวมถึงพอร์ตอินพุตสัญญาณ ทั้ง HDMI 2 ช่อง, DisplayPort 1 ช่อง และช่องต่อหูฟัง ราคา 7,500 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
AMD FreeSync™Premium and NVIDIA G-Sync

รายละเอียดเพิ่มเติม: Dell

7.LG UltraGear 27GN650-B

จอคอม

จอขนาด 27″ พาแนล IPS ที่น่าสนใจในสไตล์ล้ำๆ กับความโดดเด่นด้วยการสนับสนุน nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium รวมถึงการรองรับ HDR10 เพิ่มความสดใส รวมถึง Brightness ที่สูง ให้กับการเล่นเกมและดูหนัง โดยรองรับการปรับมุมต่างๆ ได้มากมาก ไม่ว่าจะเป็น ก้มเงย ความสูงหรือ Pivot ก็ตาม ความละเอียดระดับ Full-HD และอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้พอร์ตอินพุตสัญญาณทั้ง HDMI และ Display 2 พอร์ต ราคา 7,750 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
nVIDIA G Sync และ AMD FreeSync Premium
HDR10

รายละเอียดเพิ่มเติม: LG


8.MSI OPTIX G271

จอคอม

จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งสายอีสปอร์ต ที่ให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำกับความมันส์ในการเล่นได้จุใจ เพราะฟีเจอร์ให้มาแบบไม่กั๊กกับราคา 7,500 บาท ด้วยความละเอียด Full-HD ให้อัตรารีเฟเรชเรต 144Hz รองรับ AMD FreeSync ใช้พาแนลแบบ IPS ให้ภาพคมชัดสดใส ตอบสนองได้ไว รวมถึงการปรับแต่งที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะ Game Mode ส่วนตัวจอปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย และให้พอร์ตอินพุตสัญญาณมาทั้ง DisplayPort 1 และ HDMI 2 ช่อง การรับประกัน 3 ปี

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ปรับเลื่อนตัวจอได้ไม่มาก
มี Game Mode

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI


Conclusion

Panel Refresh rate Port Res. FreeSync/
G-Sync
Price
1.Viewsonic VX2718 VA 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 5,990 บาท
2.AOC 27G2SE VA 165Hz 1x HDMI
1xDP
FHD Adaptive Sync 6,300 บาท
3.Samsung
ODYSSEY G30A
VA 144Hz 1x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium
6,490 บาท
4.GIGABYTE G27F IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync Premium 6,900 บาท
5.Acer Nitro Gaming IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,300 บาท
6.Dell G2722HS IPS 165Hz 2x HDMI
1xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,500 บาท
7.LG UltraGear IPS 144Hz 1x HDMI
2xDP
FHD AMD FreeSync
Premium/ G-Sync
7,750 บาท
8.MSI OPTIX G271 IPS 144Hz 2x HDMI
1xDP
FHD FreeSync 7,500 บาท

สรุปสุดท้าย สำหรับจอคอม 27″ สำหรับเกมเมอร์ทั้งหมด 8 รุ่นนี้ น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับหลายๆ คน ที่กำลังมองหาจอคอมตัวใหม่ อัพเกรดจากจอเดิม หรือจะซื้อเป็นจอหลัก ที่นำมาใช้ในการเล่นเกมในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยถ้าคุณงบประมาณจำกัด ตัวเลือกอย่าง Viewsonic ก็น่าสนใจ ไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้จอใหญ่ อัตรารีเฟรชเรตสูง แต่ถ้าอยากได้จอที่มีลูกเล่นเยอะ MSI, LG, GIGABYTE หรือ Samsung ก็ให้คุณสนุกกับการปรับแต่ง และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมได้มากขึ้น LG กับ Samsung ก็น่าสนใจ ปรับได้พื้นฐาน ไปจนถึงการ Pivot 90 องศา ส่วนถ้าอยากได้ที่มีลำโพงมาด้วย Viewsonic และ Acer ก็น่าใช้ไม่แพ้กัน โดยทุกรุ่นที่นำมานี้ ส่วนใหญ่มีดีไซน์ที่ขอบจอบาง ต่อจอเพิ่มได้แบบเนียนสบายตา และการรับประกันอีก 3 ปี ส่วนคุณชอบแบบไหน รุ่นใด ก็อย่าลืมคอมเมนต์บอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/680448-8-144hz-165hz-monitor-5900

MSI PRO AP242 All-in-One PC ฟังก์ชั่นครบ แต่งภาพ เทรดหุ้น จบได้ทุกงาน สำนักงานยุคใหม่

MSI PRO AP242 ออลอินวันพีซียุคใหม่ ต่อได้ 3 จอ กล้องชัดลำโพงเสียงจัด ความปลอดภัยสุดล้ำ

MSI PRO AP242

MSI PRO AP242 เป็นออลอินวันพีซี ที่มาแบบครบเครื่อง ราคาเบาๆ เริ่มที่ 2 หมื่นกว่าบาท แต่ได้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งจอมาในตัว ขุมพลัง Intel Core i5 Gen12 และแรม 8GB หน้าจอ 24″ Full-HD พาแนล IPS คมชัดและมุมมองที่กว้าง มิติกำลังพอเหมาะ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย สะดวกกับการจัดวางบนโต๊ะหรือคนที่มีพื้นที่ทำงานจำกัด พร้อมกล้องเว็บแคม Full-HD และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน โดยให้ความปลอดภัยมาเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นการ สแกนใบหน้าหรือ Tobii Aware รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 รวมถึงพอร์ตต่อพ่วงมากมาย เช่น USB-C, HDMI และ DP เป็นต้น รองรับการต่อจอภายนอกเพิ่มได้อีก 2 จอและซอฟต์แวร์เสริมการทำงาน ในการตรวจเช็ค ปรับปรุงตั้งค่า เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว การรับประกัน 3 ปี พร้อม On-site pickup and return ติดต่อ รับซ่อม และส่งคืน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สนนราคาอยู่ที่ 27,400 บาท

MSI PRO AP242 สวยลงตัว งาน บันเทิง


จุดเด่น

Advertisementavw
  • มิติที่บางเบา กระทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • มาพร้อมความปลอดภัยครบครัน
  • รองรับการสแกนใบหน้าเข้าระบบ
  • กล้องเว็บแคม Full-HD
  • มีระบบรักษาความเป็นส่วนตัว Tobii Aware
  • ลำโพงด้านหลัง ให้พลังเสียงในระดับที่ดี
  • รองรับการต่อจอภายนอกเพิ่มได้
  • มีพอร์ต USB-C
  • ประกอบง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ
  • มี Windows 11 Home มาในตัว
  • รับประกัน 3 ปี พร้อม On-site pickup and return

ข้อสังเกต

  • พอร์ต USB ความเร็วสูงอยู่ด้านหลัง การต่ออุปกรณ์ต้องขยับเล็กน้อย
  • ถ้าเพิ่มแรมเป็น 16GB จะทำให้ไหลลื่นมากขึ้น
  • การปรับ OSD ต้องใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ Display Kit

Specification

Description
CPU Intel® Core™ i5-12400
OS Windows 11 Home
CHIPSET Intel® H610
STORAGE 1x 256GB M.2 SSD (auto switch)
1x 2.5” HDD / SSD
GRAPHICS Intel® UHD Graphics
PANEL RESOLUTION 23.8″ IPS Grade Panel LED Backlight (1920*1080 FHD) with MSI Anti-Flicker technology
AUDIO SPEAKER 2x 2.5W
I/O 1x USB 3.2 Gen 2 Type C
1x USB 3.2 Gen 2 Type A
2x USB 3.2 Gen 1 Type A
2x USB 2.0 Type A
1x RJ45
1x HDMI out (2.0)
1x DP out (1.4)
1x Mic-in
1x Line-out
AUDIO Realtek ALC897
LAN Realtek RTL8111H
WIRELESS LAN Intel Wireless AC 3168
Intel Wireless AX201
BLUETOOTH 4.2 (with Intel AC 3168) / 5.2 (with Intel AX201)
WEBCAM Built-in FHD Webcam which supports Windows Hello
Removable webcam cover design
KEYBOARD / MOUSE Optional
AC ADAPTER 120W
ADJUSTMENT (TILT) -5° ~ 20°
NET WEIGHT 4.63 kg / 10.21 lbs
Price 27,400 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม: MSI PRO AP242


Install

MSI PRO AP242

ในปัจจุบันเรียกว่าแทบแยกไม่ออก สำหรับ All-in-One PC กับจอมอนิเตอร์ของทาง MSI เพราะอย่างที่เห็นคือดีไซน์มาบาง กระทัดรัดมากๆ ครับ เรื่องการจัดวางองค์ประกอบ และปุ่มควบคุมที่ถูกซ่อนเอาไว้ ก็ดูลงตัวไม่น้อยเลย แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า การประกอบติดตั้งใช้งาน จะยุ่งยากมั้ย มาดูขึ้นตอนกันครับ

MSI PRO AP242

จากชิ้นส่วนที่มีอยู่ในกล่องนั้น ประกอบด้วยกัน 3 ส่วน ชิ้นหลักอยู่ที่ขาตั้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการใช้งาน จะมีสลักที่เป็นล็อคแบบนี้ สำหรับต่อเข้าไปด้านหลังจอ

MSI PRO AP242

เริ่มแรกให้นำชิ้นขาตั้ง วางให้ตรงกับจุดยึดบริเวณด้านหลังของจอ และกดลงไป โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ตัวล็อคที่อยู่บนขาตั้ง จะทำงานอัตโนมัติ และถ้าต้องการถอดขาตั้งออก ก็เพียงปลดล็อค แล้วดึงออกจากด้านหลังเครื่องได้เลย

MSI PRO AP242

ชิ้นวงกลมที่ให้มาด้วยนี้ ใช้เป็นตัวฐาน ติดตั้งได้แบบไม่ต้องใช้ตัวล็อคเช่นกัน แค่เสียบขาตั้งลงไป แล้วหมุนฐานครึ่งรอบ เมื่อล็อคกันดีแล้ว ก็ใช้งานได้ทันที

MSI PRO AP242

ทั้งหมดทุกชื้นที่นำมาประกอบกัน ไม่ต้องใช้เครื่องมืออื่นใด ที่เหลือจะมีตัวเก็บสายกลมอันเล็กที่สามารถประกบเข้ากับขาตั้ง และเสียบสายเพื่อใช้งานได้เลย

MSI PRO AP242

สำหรับออลอินวันพีซีรุ่นนี้ ใช้ตัวแปลงที่เป็นอแดปเตอร์ 120W @6.15A โดยเป็นแจ๊คหัวกลม ต่อเข้ากับพอร์ตด้านหลังตัวเครื่อง สายที่ให้มาความยาวมากกว่า 3 เมตร ซึ่งช่วยให้คุณจัดการพื้นที่วางได้ยืดหยุ่นมากขึ้น

MSI PRO AP242

นอกจากนี้ในกล่องยังมีเมาส์ คีย์บอร์ดแบบไร้สายในแบบคอมโบ เพื่อนำมาใช้ร่วมกันกับตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีคือ ใช้ตัวรับ-ส่งสัญญาณตัวเดียวเท่านั้น ทำให้ประหยัดพอร์ตบนพีซี เพื่อไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมได้

MSI PRO AP242

เมาส์ไร้สายที่ให้มาด้วยนี้โมเดล MA004 ขนาดมาตรฐาน ไม่ได้เป็นไซส์เล็ก จับกระชับมือดีทีเดียว ใช้พลังงานจากถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน แต่ที่ชื่นชอบก็คือ มีสวิทช์เปิด-ปิดการใช้งานมาอีกด้วย


Hardware & Design

MSI PRO AP242

มาในเรื่องดีไซน์ของ MSI PRO AP242 ออกแบบให้ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยลง เพื่อจะได้เหลือพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะมากขึ้น ตัวฐานเป็นแบบวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 23cm เท่านั้น และวัดความยาวของจอได้ประมาณ 54cm แต่ผมมองว่าเป็นจอที่กว้าง เพราะออกแบบขอบจอมาให้บาง แทบจะเป็นแบบไร้ขอบ บนหน้าจอระดับ 23.8” เช่นนี้ ทำให้สัดส่วนพื้นที่ในการแสดงผลกับบอดี้มีมากกว่า 80% เลยทีเดียว

ขอบด้านข้างสังเกตได้ว่ามิตินั้นบางพอสมควร ซึ่งเป็นแบบที่ถูกใช้อยู่ในจอของ MSI หลายรุ่น เพื่อให้พื้นที่ในการแสดงผลที่กว้างมากขึ้น

MSI PRO AP242

ขอบด้านล่าง ก็แทบจะเรียกได้ว่า บางเป็นพิเศษ แต่ก็เสริมความแข็งแรงมาด้านใน ทำให้ดูเหมือนเป็นแค่จอภาพ ที่ไม่มีพีซีติดตั้งมาด้านหลังด้วย ซึ่งจากที่เรานำจอ MSI Modern MD241 มาวางคู่กัน เกือบแยกไม่ออกเลยทีเดียว ว่าฝั่งไหนเป็นพีซี มีโลโก้ MSI สีขาววางอยู่ตรงกลาง

MSI PRO AP242

มาดูที่ด้านข้างกันบ้าง จุดหนาสุด ถ้าวัดเฉพาะขอบจอด้านหน้า มาที่ส่วนยื่นบริเวณที่เป็นชุดคอมทางด้านหลัง ความหนาประมาณ 5.5cm เท่านั้น โดยขาตั้งให้สมดุลได้ค่อนข้างดี เพราะไม่โยกคลอนได้ง่าย และรองรับการปรับได้รูปแบบเดียวคือ มุมก้ม-เงย อยู่ที่ระกับ -5 – 20 องศา ซึ่งพอให้การใช้งานบนโต๊ะทำงานได้สะดวกในระดับหนึ่ง

MSI PRO AP242

แม้ว่าการปรับเลื่อนจะได้เพียงมุมก้ม-เงย แต่ด้วยความเบาของตัวเครื่องที่อยู่ราวๆ 4Kg. และ MSI ยังดีไซน์ตัวฐาน ให้เอียงเล็กน้อย ทำให้คุณจับตัวเครื่องหันซ้าย-ขวาได้ไม่ยาก ทดแทนการปรับตัวหมุนที่ฐานได้ดีทีเดียว

MSI PRO AP242

กล้องเว็บแคมที่ติดตั้งมาบน MSI PRO AP242 All-in-One PC เครื่องนี้ ให้ความละเอียดระดับ Full-HD มีความคมชัดสูง ซึ่งมาพร้อมเซ็นเซอร์ที่วางใกล้กัน สำหรับตรวจเช็คการเคลื่อนไหว รวมถึงไมโครโฟนในการตัดเสียงรบกวนในการสนทนาได้ดีเลย

MSI PRO AP242

เชื่อว่าหลายคนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย ในการเลือกใช้พีซีสักเครื่อง คงไม่ได้หยุดแค่การ กรอกพาสเวิร์ดแล้วเข้าใช้งานได้เลย เพราะบางคนก็แอบมองรหัสเรา ก็แอบใช้ได้แล้ว MSI PRO AP242 มีระบบ Log-in ได้ทั้ง ใส่รหัสหรือการสแกนใบหน้าด้วยกล้องเว็บแคม ผ่านทาง Windows Hello นั่นเอง

Tobii Aware

MSI PRO AP242

แต่นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน อย่างการตั้งรหัสเข้าเครื่อง หรือการสแกนใบหน้าแล้ว MSI ยังได้เสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Tobii Aware ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกับกล้องเว็บแคมของ MSI ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น ด้วยเงื่อนไขหลักๆ คือ

  • Privacy Screen – เมื่อคุณไม่ได้นั่งอยู่หน้าเครื่อง ระบบจะเบลอหน้าจอให้ทันที และจะกลับมาชัดเหมือนเดิม เมื่อคุณเข้ามานั่งใช้งาน แต่จะเพิ่มความปลอดภัยไปอีกชั้น นั่นคือ ระบบจะ Lock Windows ทันที เพื่อไม่ให้ผู้อื่น มาแอบเข้าใช้งานได้ ซึ่งตรงนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลาล็อคอินใหม่ เพราะแค่คุณมาอยู่ตรงหน้ากล้อง ระบบก็เปิดให้พร้อมใช้งานได้แล้ว
  • Peeker Detection – และเป็นเรื่องปกติที่เมื่อคุณนั่งหันหน้าเข้าคอม บางคนที่อาจจะไม่ประสงค์ดี แอบยื่นหน้ามาดูจอได้ ระบบนี้จะทำให้หน้าจอเบลอ เมื่อกล้องตรวจพบว่ามีใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอ หรือยู่ด้านหลังของคุณ
  • Auto Lock Windows – ระบบนี้จะช่วยเสริมการทำงานของ Privacy Screen ด้วยการ Lock หน้าจอให้ทันที เมื่อคุณเดินออกไปจากหน้าคอม โดยผู้ใช้เลือกเวลาได้ว่า จะให้ล็อคหลังจากที่ออกไปจากหน้าจอเมื่อไร มีให้เลือกตั้งแต่ 0-5 นาที
MSI PRO AP242

ตัวอย่างดังเช่นภาพด้านบนนี้ เมื่อคุณออกห่างจากหน้าจอ ระบบจะทำการเบลอหน้าจอให้ทันที หรือในกรณีที่มีคนจะแอบใช้คอมของคุณ เมื่อไม่อยู่ที่โต๊ะ ระบบก็จะเบลอหน้าจอเช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นความปลอดภัย 2 ชั้น กรณีที่คุณซีเรียสกับความเป็นส่วนตัว

MSI PRO AP242

MSI ให้กล้องเว็บแคมความละเอียด Full-HD ภาพคมชัด เห็นรายละเอียดได้ครบ รองรับ Windows Hello ล็อกอินด้วยใบหน้า และยังมีของเล่นเล็กๆ มาให้ครับ Webcam Cover สำหรับคนที่ใช้กล้องเว็บแคมเป็นประจำ และต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวใครมา Hack กล้องเว็บแคมคุณได้ ดูมินิมอลดีทีเดียว

MSI PRO AP242

ด้วยความเป็น ออล-อิน-วันพีซี ข้อดีก็คือ รวมคอมพิวเตอร์และจอเอาไว้ด้วยกันแล้ว จึงประหยัดพื้นที่บนโต๊ะไปได้มากทีเดียว เหลือพื้นที่ให้คุณใช้งานได้อีกมากมาย โดยเฉพาะคนที่มีห้องเล็กๆ หรือต้องทำงานบนโต๊ะมาตรฐาน 120cm นอกจากนี้ ยังไม่ต้องต่อสายต่างๆ ให้วุ่นวาย อย่างเช่น MSI PRO AP242 เครื่องนี้ มีทั้ง WiFi, กล้องเว็บแคม และจอคอมในตัวอยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่ต่อ สายไฟ AC เข้ากับเครื่องเท่านั้น ก็ใช้งานได้ทันที


Screen & Speaker

MSI PRO AP242

จอ IPS ที่มากับ MSI เครื่องนี้ มองเห็นได้ชัด ด้วยมุมมองที่กว้าง ให้ความละเอียดที่ระดับ Full-HD 1080p และยังเป็นจอแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน เข้ากับการใช้งานในออฟฟิศได้ดีเลยทีเดียว หรือจะใช้ใกล้กับบริเวณที่มีแสงมาก ก็ยังมองเห็นได้ชัด รองรับกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ดูหนัง หรือแม้กระทั่งการตกแต่งภาพ หรือท่องอินเทอร์เน็ตก็ตาม

MSI PRO AP242

ท่องเว็บ เล่นอินเทอร์เน็ตและเทรดหุ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคน เลือก ออลอินวันพีซีมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะสะดวก จบในตัวและได้จอใหญ่ ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่ม กับการแสดงผลถือว่า 24″ กำลังดี ให้พื้นที่แสดงผลข้อมูลกว้างขวาง เรียกว่าแค่กรอกตาไปมา ก็มองได้ทั่ว เรื่องความคมชัดและสีสันสดใส ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ เพราะไม่ว่าจะใช้ดูหุ้น กราฟ รวมถึงต้องมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน จุดที่น่าสนใจคือ สามารถเปิดดูกราฟ และข้อมูลการเทรดไปพร้อมๆ กัน หรือจะแบ่งหน้าจอ เพื่อดูข่าว และเทรดคริปโตไปพร้อมกันได้ ประสิทธิภาพแรงพอสำหรับการใช้งานมัลติทาส์กได้ดีทีเดียว

MSI PRO AP242

ชมภาพยนตร์และการสตรีมมิ่ง ในด้านความบันเทิงสีสันที่สดใสคือหัวใจของจอบนออลอินวันจาก MSI เครื่องนี้ก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงให้แค่ภาพที่คมชัด แต่ยังเลือกการแสดงผลได้อย่างเต็มตา ยิ่งเป็นวีดีโอในแบบ Full screen และปรับแสงที่เหมาะสมบน OSD ในโหมด Cinema ก็ได้ความสว่างสดใสมากขึ้น และหน้าจอแสดงผลเอง ยังรองรับการปรับ HDR ได้อีกด้วย การดูวีดีโอสตรีมมิ่งบอกได้เลยว่า ภาพดูสดใสและแสงที่ได้มีความอิ่มมากขึ้น แบบที่แทบจะไม่ต้องไปแตะกับค่าอื่นๆ เลย

MSI PRO AP242

ในแง่ของการทำงาน หน้าจอขนาด 24″ เช่นนี้ ก็เหมาะกับการใช้งานพื้นฐานต่างๆ ได้ไม่ยาก หากเป็นงานเอกสาร ซอฟต์แวร์สำนักงาน ให้คุณลองปรับ Scale ของหน้าจอได้อย่างเหมาะสม จากเดิม 100% โดยส่วนตัวมองว่าเป็นหน้าจอที่กำลังพอเหมาะ ซึ่งมองเห็นฟอนต์ได้ง่าย รวมถึงการทำงานในด้านของภาพหรือวีดีโอ ก็อยู่ในระดับที่ดี แต่อาจจะไม่ได้กว้างขนาดที่เวลาคุณวาง Tools ต่างๆ จะมองเห็นได้ครบทุกจุด แต่ก็แนะนำว่าให้ลองปรับขนาดของ Font เล็กลงอีกหน่อย ก็จะทำให้ใช้งานด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้น

MSI PRO AP242

อย่างไรก็ดีหากคุณมองว่ายังได้พื้นที่การทำงานบน ออลอินวัน MSI รุ่นนี้ไม่เต็มอิ่ม หรืออยากได้จอส่วนต่อขยาย สำหรับใช้งานอื่นๆ ด้วย เช่น การแสดงหน้าจอพรีวิวฟุตเทจวีดีโอ หรือจะให้โชว์ไฟล์บน File Explorer ไว้ใช้งาน หรือการเปรียบเทียบเอกสาร MSI PRO AP242 รุ่นนี้ สามารถต่อจอแสดงผลผ่านทาง HDMI ได้อีกด้วย อย่างเช่น ในครั้งนี้เราได้จอ MSI Modern MD241 มาใช้งานร่วมกัน ซึ่งดูลงตัวมากขึ้น

MSI PRO AP242

เพราะจอรุ่นนี้ นอกจากจะให้ความละเอียดระดับ 1080p แล้วยังมาพร้อมกับคุณภาพในด้านการแสดงผลสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแม่นยำสี และเทคโนโลยีถนอมสายตา ที่สำคัญยังรองรับการปรับหมุนในแนวต่างๆ ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ก้ม-เงย, ปรับความสูง, หันซ้าย-ขวา และการปรับ Pivot 90 องศา เรียกว่าปรับจูนเข้ากับ

MSI PRO MP242 รุ่นนี้ เค้าใส่เทคโนโลยีถนอมสายตามาเต็ม ไม่ว่าจะเป็น การลดแสงสีฟ้า, ลดการกระพริบของจอ และเป็นจอที่ลดแสงสะท้อนมาให้ เอาง่ายๆ ว่าวันนี้คุณจะสามารถเคลียร์เอกสาร ดูหนัง หรือจะเทรดหุ้นกันได้ยาวๆ แบบไม่แสบตา ซึ่งเดิม MSI จะใส่ไว้ในจอระดับงานธุรกิจ และวันนี้ก็เอามาลงในจอทำงาน และใช้ในชีวิตประจำวัน


OSD settings

MSI PRO AP242

โดยพื้นฐานของจอบนออลอินวัน MSI รุ่นนี้ มีปุ่มด้านหลังมาให้ก็จริง แต่ใช้สำหรับเป็นปุ่มเพาเวอร์ และเพิ่ม-ลดความสว่าง แต่ทาง MSI เสริมซอฟต์แวร์อย่าง DisplayKit มาให้ ซึ่งคุณจะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของจอได้เหมือนกับการปรับใช้ OSD เลยทีเดียว แต่สะดวกกว่า เพราะใช้เมาส์คลิ๊กเท่านั้น

MSI PRO AP242

ในหน้าแรก Split Window จะให้คุณเลือก Split หน้าต่างโปรแกรมได้ 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 2 หรือ 4 หน้าต่างบนหน้าจอเดียวกัน

MSI PRO AP242

และยังตั้งค่าในหน้าของ Display ได้อีกด้วย เลือกการปรับแต่งทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน ความละเอียด อัตรารีเฟรชเรต ไปจนถึงการแสดงผล

MSI PRO AP242

มาถึงส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของโปรแกรมนี้ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณปรับแต่งค่าต่างๆ ของหน้าจอได้ถูกใจ เพราะคุณสามารถเลือกโพรไฟล์การแสดงผลได้ถึง 7 โพรไฟล์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใช้งานทั่วไป เล่นเกม FPS, RTS หรือการชมภาพยนตร์และถนอมสายตา แต่ที่น่าสนใจก็คือ ระบบจะให้การปรับเห็นผลในแบบเรียลไทม์ เรียกว่าปรับก็เห็นผลลัพทธ์ได้ทันที ส่วนตัวผมมองว่าสะดวกกว่าการกดปุ่มเยอะเลย

MSI PRO AP242

แท็ป Tools เป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับจูนเมาส์ คีย์บอร์ด และการซูม-ย่อขยายหน้าจอ และการจัดการเรื่องสัญญาณภาพต่อภายนอกได้รวดเร็ว คล้ายกับการกด Win+P แต่ทุกอย่างรวมเอาไว้ในที่เดียว ปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าเดิม

MSI PRO AP242

MSI ก็ให้จอระดับคุณภาพมาบน ออลอินวันพีซี รุ่นนี้ด้วย เพราะให้ค่า Gamut Volume ไปถึง 98.5% sRGB แสดงให้เห็นถึงความเป็นจอ High Gamut ที่เป็นจอระดับ Creator ได้ในระดับเริ่มต้น และยังได้ค่า Delta-E น้อยกว่า 2 จัดว่ามีความเที่ยงตรงของสีมากพอสมควร รองรับการใช้งานด้านภาพและวีดีโอพื้นฐานได้ดี เช่น การพรีเซนเทชั่นงานวีดีโอ และการทำชิ้นงาน เพื่อนำเสนอและงานพิมพ์ให้กับงานลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง

MSI PRO AP242

ด้วยระบบเสียง dts ที่มาบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้ จัดว่าเร้าใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นไซไฟ ไม่ว่าจะเป็น Avenger: End Game, Transformer หรือใครชอบแนวยกพลขึ้นบก อย่าง Saving Private Ryan ที่จัดว่าระทึกเร้าใจ แต่แนะนำว่า หากจะให้เสียง มีความแน่นทุ้ม ลองขยับจอเข้าไปใกล้ผนังสัก 15-20cm จะได้อรรถรสในการฟังมากขึ้น


Keyboard & Mouse

MSI PRO AP242

เมาส์และคีย์บอร์ดไร้สาย ที่มีมาให้ใช้งานคู่กับ MSI ดูลงตัวกับการใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะใช้ USB Receiver เพียงตัวเดียวเท่านั้น ทำให้โต๊ะทำงานของคุณดูโล่ง สะอาดตา และมีที่วางของอย่างอื่นได้อีกมากมาย

MSI PRO AP242

เมาส์ไร้สายรุ่นนี้ มาในมิติกำลังพอเหมาะถนัดมือสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่เคลื่อนไหวได้สะดวก โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเมาส์เบาๆ ตอบสนองได้ดี ใช้ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อนเท่านั้น เท่าที่ลองก็ใช้งานกันแบบยาวๆ หรือจะพกไปใช้กับโน๊ตบุ๊คนอกบ้านก็ได้นะ พกพาใส่กระเป๋าไปได้ไม่เกะกะ

MSI PRO AP242

สำหรับมือผู้รีวิวเอง ก็ประมาณนี้เลยขนาดกำลังดี และมีปุ่มด้านข้างมาให้ เลือกใช้งานหรือ Undo ได้ตามสะดวก ปุ่มคลิ๊กเสียงดังเล็กน้อย แต่ก็นุ่มนวล เช่นเดียวกับ Scroll wheel ที่ทำขึ้นมาให้ใช้งานถนัดมือ

MSI PRO AP242

คีย์บอร์ดไร้สายตัวบาง ขนาดกระทัดรัด แต่ก็มี Number Pad มาให้ พร้อมปุ่มขนาดใหญ่ ที่ให้การกดที่แม่นยำ และมีปุ่มฟังก์ชั่นมัลติมีเดียมาให้ใช้ เช่น เพิ่ม-ลดเสียง, Play/ Pause หรือจะ FW/RW รวมถึงไฟสถานะ การตอบสนองอยู่ในระดับที่ดี กดไม่ต้องลึก เหมาะกับคนที่ชอบการพิมพ์สัมผัส รวมถึงคนที่เล่นอินเทอร์เน็ต คีย์หาข้อมูลเป็นประจำ


Connector

MSI PRO AP242

สำหรับพอร์ตต่อพ่วง มีให้ใช้งานอย่างครบครันเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเพราะความเป็นพีซี ไม่ได้เป็นจอแสดงผลเพียงอย่างเดียว เลยทำให้ไม่ต่างไปจากคอมพิวเตอร์พีซี หรือโน๊ตบุ๊คมากนัก เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปในบ้าน สำนักงานหรือธุรกิจส่วนตัว ไม่ว่าคุณจะมีฮาร์ดไดรฟ์ต่อภายนอก พรินเตอร์ แฟลชไดรฟ์ เพราะมีพอร์ต USB Type-A ให้รวม 5 พอร์ตด้วยกัน หรือจะใช้ต่อจอเพิ่ม เพื่อขยายพื้นที่การทำงาน ด้วยพอร์ต HDMI และ DisplayPort

  • 1x USB 3.2 Gen 2 Type C
  • 1x USB 3.2 Gen 2 Type A
  • 2x USB 3.2 Gen 1 Type A
  • 2x USB 2.0 Type A
  • 1x RJ45
  • 1x HDMI out (2.0)
  • 1x DP out (1.4)
  • 1x Mic-in
  • 1x Line-out
MSI PRO AP242

แต่จุดที่ติดตั้งพอร์ต อาจจะอยู่ลึกเข้าไปนิดหน่อย อาจจะต้องเอียงตัวจอ ให้สามารถติดตั้งพอร์ตได้ง่ายกว่าเดิม และมีจุดที่ติดอยู่นิดหน่อยก็คือ ด้วยการที่พอร์ตความเร็วสูง USB 3.2 อยู่ในบริเวณด้านใต้นี้ด้วย การต่อพอร์ตก็จะยุ่งยากหน่อย เพราะคุณอาจจะต้องก้มลงมาดู เวลาใส่หรือถอด หากเป็นไปได้ก็ให้มองหาสาย USB Extended ต่อมาวางไว้ด้านหน้า ก็จะง่ายขึ้น

MSI PRO AP242

ด้านข้างก็มีพอร์ตมาให้ แต่เป็น USB 2.0 Type-A เหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่าง USB Flash drive หรือ USB Receiver เพราะไม่ต้องใช้ความเร็วสูงมากนัก อีกทั้งอยู่ตรงด้านขวาของตัวเครื่องใช้งานได้ง่ายกว่า

MSI PRO AP242

โดยการต่อจอเพิ่ม ก็สามารถเลือกได้ว่าคุณจะต่อจากพอร์ตใด มีให้เลือกทั้งแบบ HDMI และ DP ขึ้นอยู่กับจอที่คุณนำมาใช้ อย่างเช่น MSI Modern MD241 ที่มี HDMI มาให้ คุณอาจจะเลือกจออีกรุ่นที่เป็น DP เพื่อการขยายเป็น 3 จอก็ได้เช่นกัน


Performance & Software

MSI PRO AP242

หลังจากที่เราได้ลองใช้งานในโหมดการทำงานต่างๆ กันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมทดสอบในด้านต่างๆ กัน

MSI PRO AP242

CPUz รายงานข้อมูลซีพียูเป็น Intel Core i5-12400 ทำงานแบบ 6 core/ 12 thread และความเร็วบูสท์อยู่ที่ราวๆ 4.4GHz ทำงานคู่กับชิปเซ็ต Intel H610 พร้อมการเชื่อมต่อแบบ PCI-Express 3.0

MSI PRO AP242

มีแรมมาให้เป็น DDR4 3200 ความจุ 8GB ซึ่งสามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ในภายหลัง แนะนำอยากจะให้อัพเกรดเพิ่ม เพื่อให้การใช้งานไหลลื่นมากกว่า และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกราฟิกการ์ดได้อีกด้วย

MSI PRO AP242
MSI PRO AP242

โดยกราฟิกที่มาพร้อมกับซีพียูรุ่นนี้ เป็นกราฟิกในเจนเนอเรชั่นใหม่อย่าง Intel UHD Graphic 730 และบน GPUz ก็รายงานมาตรงกัน ซึ่งมีชุด Shader แชร์แรมร่วมกับระบบอัตโนมัติ รวมถึงความเร็วในการบูสท์สูงกว่า 1,450MHz เลยทีเดียว

MSI PRO AP242

จากนั้นมาดูการทดสอบแรก เทียบกับซีพียูพีซีอย่าง Intel Core i7-10700 ที่มีจำนวน Core/ Thread มากกว่า ซีพียูบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้เรียกว่าหายใจรดต้นคอก็ว่าได้ เพราะมีคะแนน Multi-thread ห่างอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับทำคะแนนได้ดีกว่าในส่วนของ Single-thread

MSI PRO AP242

ส่วน SSD ที่ติดตั้งมาให้นั้น เป็นรุ่น WD SN530 ความจุ 256GB ประสิทธิภาพจัดว่าอยู่ในระดับเบื้องต้น ความเร็วประมาณ 2,485MB/s สำหรับการ Read และ Write ใกล้ๆ 1,000MB/s แม้จะดูไม่ร้อนแรงจัดมากนัก แต่ก็เร็วกว่า SSD พื้นฐานและไวกว่า HDD พอสมควร คุณอาจจะเริ่มต้นใช้งานไปก่อน และอัพเกรดหรือเปลี่ยนในภายหลังก็ได้ แต่ที่น่าสนใจคือ MSI All-in-One รุ่นนี้ ยังรองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมได้ หรือจะเพิ่มด้วยชุดคิทอัพเกรด HDD ในแบบ SATA ก็ได้เช่นกัน

MSI PRO AP242

ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark10 คะแนนในภาพรวมไปได้มากถึง 5,029 คะแนน ซึ่งจัดว่าทำได้ค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ซีพียูตอบโจทย์งานในส่วนต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น Productivity กับงานด้านเอกสารและงานวีดีโอ Digital Content ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้งานเหล่านี้ได้ไหลลื่นพอสมควร

สำหรับ 3DMark แม้จะดูโหดหินไปสักหน่อย เพราะใช้กราฟิกของซีพียูเป็นหลัก รวมถึงแรมมีให้ 8GB ก็อาจจะอึดอัดไปบ้าง แต่ก็ยังทำผลทดสอบผ่านออกมาได้ แม้ตัวเลขไม่ได้สูงมากนัก แต่อย่าลืมว่าเป็นพีซีออลอินวัน ที่ใช้กราฟิกในตัว ซึ่งคะแนนทีได้นี้ เป็นเครื่องยืนยันความสามารถในด้านเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ยังพอตอบโจทย์เกมออนไลน์แบบง่ายๆ ได้อีกด้วย

MSI PRO AP242

ขยับมาที่ DOTA2 กันบ้าง บนความละเอียดระดับ Full-HD ด้วยการตั้งค่า Detail ในระดับต่างๆ ดังนี้ เน้นที่ความลื่นไหล ลองที่โหมด Fastest ภาพอาจไม่สวย ตัวละครจะดูแปลกๆ แต่เฟรมเรตไปได้เกือบ 100fps. เมื่อมีเอฟเฟกต์โจมตีด้วยเวทย์ใหญ่ แต่ถ้าเน้นไหลลื่นด้วย ภาพดีกว่าเดิมพอสมควร Medium ดูเหมาะ เพราะ Hero ของคุณยังดูสวยอลังการ เล่นไปได้ราวๆ 55fps. สวยๆ แต่ถ้าเอาภาพงามๆ ตัวละครคมกริบ High ได้แต่เฟรมเรตไม่ถึง 30fps. ไม่แนะนำครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าคุณอัพแรมเพิ่มขึ้น จะได้ความสวยงามกับเฟรมเรตที่ดีขึ้นอีกระดับได้ไม่ยาก

MSI PRO AP242

มากันที่เรื่องของอุณหภูมิในการทำงานบน MSI PRO AP242 รุ่นนี้กัน ทดสอบกันแบบโหดๆ เพื่อจำลองการทำงานกับการเรียกใช้ซีพียูหนักๆ Full load 100% ตามภาพที่ปรากฏอยู่นี้ และมีซอฟต์แวร์ตรวจเช็คสถานะ MSI Center แสดงให้เห็นถึงการออกแบบชุดระบายความร้อน ที่คอนโทรลได้ในระดับ 77-78 องศาเซลเซียสเท่านั้น กับความเร็วที่พุ่งไปมากกว่า 3GHz โดยพัดลมทำงานไปประมาณ 50% ก็ถือว่า MSI ก็มีการจัดวางโครงสร้างได้ดี ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องของความร้อนขณะใช้งาน

MSI PRO AP242

MSI Center นอกเหนือจากการเป็นซอฟต์แวร์ตรวจสอบ บอกสถานะระบบได้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นอีกมากมายให้ได้เลือกใช้ ซึ่งหากเริ่มติดตั้งเราจะสามารถเลือกธีมของการใช้งานคุณได้อีกด้วย เช่น Gaming, Work, Entertainment ในส่วนนี้เราแนะนำให้คุณจัดการได้ตามความเหมาะสม หรือเลือกที่จะไม่ใช้ฟังก์ชั่นบางอย่างก็ได้เช่นกัน แต่โดยส่วนตัวมองว่า หากคุณได้ลองปรับจูนหรือใช้โหมดการทำงานที่เหมาะกับตัวคุณดู จะพบว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ


Conclusion

Conclusion Content MSI

สุดท้ายนี้ ถ้าใจให้ผมสรุปกับการใช้งานและความชื่นชอบบน All-in-One PC จากทาง MSI PRO AP242 รุ่นนี้ เรื่องแรกคือ ความง่ายและสะดวกในการใช้งาน หากใครไม่อยากจะยุ่งยากกับการถอด ประกอบ เดินสายหรือมีฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนเกินไป พีซีรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ เพราะง่ายตั้งแต่ประกอบ ไปจนถึงการใช้งาน กล้องชัด ความลื่นไหลของการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะงานเอกสาร ท่องเว็บ เทรดหุ้น ดูคริปโตหรือจะดูหนัง 4K ระบบก็อยู่ในระดับที่พร้อม แต่ถ้าจะให้ดี อัพเกรดเพิ่มความจุ SSD และใส่แรมเป็น 16GB ก็จะทำให้งานต่างๆ ต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนการเล่นเกม เพราะกราฟิกเป็นแบบออนซีพียูเท่านั้น กราฟิกเกมเบาๆ ออนไลน์ให้ความสนุกได้ แต่ถ้าเกมจะโหดหนัก เลือกใช้งานพีซีมีการ์ดจอแยกจะเหมาะกว่า

นอกจากนี้หน้าจอที่ชัด มุมมองกว้างช่วยให้การใช้งานสะดวกกว่า ระบบความปลอดภัยมาแบบจัดเต็ม Tobii Aware ก็ใช้ง่ายมาก แทบไม่ต้องคีย์รหัสทุกครั้ง เพราะระบบจัดการ Lock และ Unlock ให้ทันที พอร์ตต่อพ่วงก็มีให้ใช้ครบครัน โดยเฉพาะพอร์ต USB Type-A ก็มีให้ถึง 5 พอร์ต และมี USB-C มาให้อีก เลือกติดตั้งอุปกรณ์ได้บนพื้นที่โต๊ะตามความเหมาะสม และที่ดูน่าสนใจก็ตรงมี Windows 11 Home มาให้ เปิดเครื่องก็พร้อมใช้งานได้ทันทีอีกด้วย ในราคา 27,400 บาท ถือว่าน่าใช้งานไม่น้อยเลย

MSI PRO AP242 Series ราคา 27,400 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/nbsWTB

ติดตามโปรโมชั่นได้ที่:https://msi.gm/Promotionth
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIThailandOfficial
MSI Call Center: 02 409 2984(8.30 –17.30 น.)
#MSI #Monitor

รับเพิ่มฟรี! ของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ จาก MSI
เมื่อเขียนรีวิวการใช้งานสินค้าที่ร่วมรายการ
ดูเพิ่มเติมที่นี่: https://msi.gm/ShoutOutTH

from:https://notebookspec.com/web/674578-msi-pro-ap242-all-in-one-pc-2022

วิธีอ่านรุ่นจอ Dell อัพเดท 2023 เห็นชื่อปุ๊บรู้ทันทีรุ่นนี้มีฟีเจอร์อะไรให้ใช้บ้าง?

วิธีอ่านรุ่นจอ Dell ฉบับอัพเดทปี 2023 จะซื้อจอ Dell มาอ่านก่อนทางนี้!!

Share image Edit Name 2dellmonitornamingconvention 1

นอกจากโน๊ตบุ๊คและพีซี หน้าจอคอมพิวเตอร์ของ Dell ก็เป็นสินค้าที่ผู้ใช้เชื่อถือเลือกซื้อมาใช้งาน แต่เมื่อเห็นชื่อรุ่นหน้าจอก็เป็นอันสงสัยว่ามีวิธีอ่านรุ่นจอ Dell แบบง่ายๆ หรือไม่ เพราะชื่อที่เหมือนรหัสการพัฒนาในโรงงานก็ทำเอาผู้ใช้ที่กำลังคิดหาซื้อจอคอมใหม่อยู่ก็ต้องสงสัยไปตามกัน ว่ารหัส S, E, P, G ฯลฯ ที่ผสมกับตัวเลขนั้นแปลว่าอะไร? จนมีผู้ใช้ตั้งกระทู้ถามในสังคมออนไลน์หลายๆ แห่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายๆ คนก็เลือกค้นหาชื่อรุ่นในอินเตอร์เน็ตเพื่ออ่านสเปคและฟีเจอร์ทั้งหมดของหน้าจอรุ่นนั้นๆ ไปเลยก็มีเช่นกัน

Advertisementavw

อย่างไรก็ตาม วิธีการอ่านรหัสรุ่นหน้าจอของ Dell นั้นไม่ยากอย่างที่คิด นั่นเพราะทาง Dell จะมีรูปแบบการตั้งชื่อค่อนข้างตายตัว โดยรหัสจะผสมตัวอักษรและเลขเข้าด้วยกันทั้งหมด 8 ตัว มีวิธีการอ่านแบบเดียว ดังนั้นถ้าจำความหมายของแต่ละตัวอักษรได้ก็อ่านรหัสและเข้าใจว่าจอนี้ถูกสร้างมาเพื่อผู้ใช้กลุ่มไหนและมีฟีเจอร์อะไรโดดเด่นเป็นพิเศษบ้าง

วิธีอ่านรุ่นจอ Dell

วิธีอ่านรุ่นจอ Dell และความหมายของตัวอักษรแต่ละตัว

dell monitor series

ก่อนจะไปถึงวิธีการอ่านรหัสรุ่นหน้าจอของ Dell สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจ คือ กลุ่มของหน้าจอที่ Dell ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน ณ ช่วงปลายปี 2022 นี้ จะมีซีรี่ส์หลักซึ่งทางบริษัททำตลาดอยู่ทั้งหมด 6 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มจะออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ดังนี้

  1. S Series – หน้าจอรุ่นเริ่มต้นเพื่อใช้งานทั่วไปในบ้านหรือสำนักงาน เด่นเรื่องขอบเขตสีกว้างและการแสดงผลบนหน้าจอที่ใสเคลียร์ กรอบหน้าจอบางสวย เน้นใช้งานออฟฟิศหรือดูหนังฟังเพลงเป็นหลัก
  2. E Series – ซีรี่ส์ราคาเข้าถึงง่ายแต่ยังดูสวยเรียบร้อย เน้นใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างทำงานเอกสารหรือใช้ดูหนังก็ได้ แต่ขอบเขตสีจะไม่กว้างเท่า S Series และซีรี่ส์นี้บางรุ่นจะมีลำโพงเพื่อให้มีเสียงแจ้งเตือนของระบบ Windows หรือโปรแกรมแชตด้วย
  3. P Series – ซีรี่ส์เน้นการทำงานโดยเฉพาะ ออกแบบมาใช้งานในองค์กรต่างๆ เป็นหลัก ได้พาเนลหน้าจอคุณภาพดีขอบเขตสีกว้างและขาตั้งจอปรับก้มเงยและความสูงได้ บางรุ่นอาจจะหมุนหน้าจอเป็นแนวตั้งได้ด้วย (Pivotable) 
  4. G Series – Gaming Series เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์เน้นการเล่นเกมติดตั้งมาให้ ได้แก่ Adaptive-Sync เพื่อป้องกันภาพฉีกขาด หลายรุ่นรองรับ AMD FreeSync ทั่วไปจนถึงระดับ Premium Pro และเป็น NVIDIA G-SYNC Compatible ดีไซน์กรอบหน้าจอบาง, ค่า Refresh Rate สูงให้ภาพไหลลื่นและ Response Time ต่ำให้ตอบสนองได้เร็ว
  5. U Series – มักได้ยินชื่อเป็น UltraSharp Series เป็นหน้าจอเพื่อคนทำงานศิลป์ไม่ว่าจะตัดต่อแต่งภาพหรือวิดีโอก็ได้ หรือจะใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปก็ไม่มีปัญหา หากเป็นรุ่น UP จะหมายถึง UltraSharp PremierColor ซึ่งปรับปรุงเรื่องขอบเขตและความเที่ยงตรงสีบนหน้าจอให้แม่นยำเป็นพิเศษเพื่อคนทำงานอาร์ทโดยเฉพาะ เป็นรหัสที่ดีสุดของ UltraSharp นั่นเอง
  6. AW Series – เป็นรหัสย่อสำหรับจอเกมมิ่ง Alienware ซึ่งเป็นจอเกมมิ่งที่ดีสุดของ Dell ซึ่งเมื่อมีเทคโนโลยีพาเนลหรือฟีเจอร์เกมมิ่งใหม่ๆ ก็จะถูกใส่มาในซีรี่ส์นี้เป็นกลุ่มแรกก่อนจะส่งต่อไป G Series โดยภาพที่ได้จะเน้นความสวยสมจริง ค่า Refresh Rate สูงสุดถึง 240Hz และ Response Time ต่ำสุดที่ 1ms (1 มิลลิวินาที) เท่านั้น
  7. C Series – หน้าจอคอมขนาดใหญ่ ออกแบบมาเพื่อติดตั้งในห้องประชุมหรือเอาไว้ตั้งแสดงเป็นป้ายโฆษณาของร้านค้าต่างๆ ใช้พาเนลแบบแตะสั่งได้ (Touch Panel) เพื่อให้สั่งการได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากหน้าจอ Dell ทั้ง 7 ซีรี่ส์ที่ยังมีรุ่นใหม่เปิดตัวออกมาเป็นรายปีแล้ว ก็มีซีรี่ส์หน้าจอที่เลิกทำตลาดไปแล้วด้วย ได้แก่

Screenshot 2022 12 08 130118

  • MR Series – หน้าจอสำหรับใช้ในโรงพยาบาลและงานด้านกาแพทย์ต่างๆ ออกแบบให้ทนสารเคมีต่างๆ ได้ระดับหนึ่งและคาลิเบรทหน้าจอให้เหมาะกับการแสดงผลด้านการแพทย์โดยเฉพาะ
  • D Series – จอราคาถูกสุดที่ Dell เคยผลิต ถูกยิ่งกว่า E Series โดยมีไว้ใช้เปิดแสดงผลให้เห็นภาพบนหน้าจอเท่านั้น มักใช้กับชุดกล้องวงจรปิดเป็นส่วนใหญ่ 

สำหรับวิธีอ่านรุ่นจอ Dell หลังจากจำรหัสตัวอักษรได้ก็จะตัดสินได้ถูกว่าหน้าจอนี้เป็นซีรี่ส์ที่สร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด และบางครั้งทางบริษัทอาจจะผสม 2 ตัวอักษรได้ อย่างเช่น SE เป็นต้น ก็จำกัดกลุ่มได้ว่าหน้าจอ Dell รุ่นนี้เป็นจอราคาไม่แพงมาก ออกแบบมาเพื่อใช้งานในบ้านและสำนักงาน ได้ดีไซน์กรอบหน้าจอบางและพาเนลหน้าจอมีขอบเขตสีกว้างพอใช้ตัดต่อคลิปหรือแต่งภาพได้ด้วยนั่นเอง

รหัสรุ่นที่ใครหลายคนเห็นก็นิ่วหน้า แต่ละตัวอักษรและตัวเลขหมายความว่าอะไร?

dell monitor naming convention

ต่อจากซีรี่ส์ของหน้าจอแล้ว วิธีอ่านรุ่นจอ Dell คือดูชื่อรุ่นของหน้าจอแล้วอ่านแยกเป็นกลุ่มโดยแต่ละตำแหน่งของชื่อจอ Dell จะมีความหมายทั้งหมดตามในภาพตัวอย่าง เช่น UP2717QT จะมีความหมายดังนี้

  • ตัวอักษร 1-2 ตัวแรก หมายถึงซีรี่ส์ของหน้าจอ ในตัวอย่างคือ UP หรือ UltraSharp PremierColor มีขอบเขตสีที่กว้างและเที่ยงตรงเป็นพิเศษ
  • ชุดตัวเลข 4 ตัว เวลาอ่านให้อ่านเป็นคู่ เช่น 2717 แยกได้เป็นหน้าจอ 27 นิ้ว ผลิตในปีคริสต์ศักราช 2017 เป็นต้น
    • ตัวเลขคู่แรก หมายถึงขนาดหน้าจอ (Display Size) นับค่าเป็หลักนิ้ว (inch) มีตั้งแต่ 20 (19.5 นิ้ว), 22 (21.5 นิ้ว), 24 (23.8 นิ้ว), 27, 32 (31.5 นิ้ว) โดยตัวเลขทศนิยมจะปัดขึ้นเป็นเลขเต็มเสมอ 
    • ตัวเลขคู่หลัง รุ่นของสินค้า (Product Generation) บางคนอาจจะจำเป็นปีที่ผลิต แต่ตามจริงแล้ว Dell ตั้งเลข 2 หลักนี้ตามปีงบประมาณ (Fiscal Year หรือ FY) ของทางบริษัท อ้างอิงจากหน้าข้อมูลผู้ประกอบการของ Dell จะเห็นว่า Dell มีระยะเวลาปีงบประมาณ 52~53 สัปดาห์ โดยนับวันสิ้นสุดเป็นวันศุกร์ที่ใกล้เคียงกับวันที่ 31 มกราคมของทุกปี
  • ตัวอักษร 2 ตัวสุดท้าย ทั้งสองตัวอักษรจะมีความหมายในตัวของมันเองดังนี้
    • ตัวแรกถัดจากตัวเลขตัวสุดท้าย เช่น ในภาพคือตัว Q ไว้แทนความละเอียดและอัตราส่วนหน้าขอ โดยใช้ตัวอักษรดังนี้
      • S – Standard ratio หรืออัตราส่วนหน้าจอ 4:3, 5:4
      • H – HD widescreen หรืออัตราส่วนหน้าจอ 16:9
      • W – Ultrawide (21:9)
      • D – QHD (1440p)
      • Q – 4K UHD (2160p)
      • K – 5K/8K UHD (4320p) 
      • L – มี HDMI ใช้ต่อเมื่อจอโมเดลเดียวกันแต่มีรุ่นย่อยบางตัวไม่มี HDMI
      • M – ไม่มี HDMI ใช้กับจอซีรี่ส์ S, U เท่านั้น
      • N – มี VGA ใช้ต่อเมื่อจอโมเดลเดียวกันแต่มีรุ่นย่อยบางตัวไม่มี VGA
    • ตัวอักษรท้ายสุด ใช้แทนฟีเจอร์ของหน้าจอรุ่นนั้นๆ โดยใช้ตัวอักษรดังนี้
      • – มี Monitor Arm สำหรับจับหน้าจอแถมมาให้ ไม่มีขาจอปกติ
      • C – มี USB-C รองรับ DisplayPort alternate mode
      • E – มาจากคำว่า Ethernet มีพอร์ต LAN RJ45 ติดตั้งมาให้
      • – รองรับ AMD FreeSync
      • G – รองรับ NVIDIA G-SYNC
      • – มี Wireless Chargning ชาร์จแบตเตอรี่ให้มือถือได้
      • – หน้าจอทัชสกรีน (Touch screen)
      • – มีสาย HDMI แถมมาให้ (ปัจจุบันไม่ค่อยพบแล้ว)
      • Z – ติดตั้งกล้องเว็บแคมมาให้เพื่อประชุมออนไลน์

อย่างไรก็ตามตัวอักษร 2 ตัวสุดท้ายอาจจะไม่ได้ใส่ตัวอักษรแทนฟีเจอร์พิเศษเข้ามาให้และมีแต่ตัวอักษรเกี่ยวกับความละเอียดและอัตราส่วนหน้าจออย่างเดียวเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่น DS สื่อว่าจอนี้มีความละเอียด QHD และอัตราส่วนหน้าจอ Standard Ratio นั่นเอง อย่างไรก็ตามเมื่อรู้เรื่องวิธีการอ่านรุ่นจอ Dell แล้วเราก็สามารถเลือกซื้อจอใหม่มาใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าต้องการข้อมูลโดยละเอียดก็ยังแนะนำให้เปิดเว็บไซต์ของ Dell แล้วเช็คสเปคโดยละเอียดไปเลยว่าจอนี้มีฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งานครบถ้วนหรือไม่

นอกจากวิธีการอ่านรุ่นจอ Dell แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ผู้เขียนขอเน้นย้ำ คือ หน้าจอ Dell แต่ละรุ่นจะมีฟีเจอร์แตกต่างกันไปตามที่ทางบริษัทออกแบบมาให้ใช้งาน ดังนั้นถ้าใครซื้อจอ Dell มาแล้ว ก็แนะนำให้เปิดหน้า Dell Product Support แล้วโหลดซอฟท์แวร์ต่างๆ มาติดตั้งให้ครบถ้วนเพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

dell g2E2NQ5SWSU unsplash Medium

วิธีอ่านรุ่นจอ Dell นั้น ถ้าเข้าใจที่มาและรหัสแต่ละหลักก็เข้าใจได้ง่ายๆ และถ้าใครยังไม่คุ้นเคยแล้วกำลังจะไปหาซื้อจอใหม่มาใช้ก็สามารถเปิดบทความนี้อ่านเทียบดูข้อมูลไปพร้อมกันได้เลย จะได้เลือกจอ Dell รุ่นที่ตอบโจทย์การทำงานและราคาไม่แพงมากมาใช้งานได้อย่างมีความสุข


บทความที่เกี่ยวข้อง

g15 cover

Share image Edit Name 1monitor 1

Share image Edit Name 1xps13 1

from:https://notebookspec.com/web/678787-how-to-read-dell-monitor-name-2023

OnePlus เตรียมเปิดตัวจอมอนิเตอร์ พร้อมจับมือ Keychron ส่ง Mechanical Keyboard ลงตลาด PC เร็ว ๆ นี้

หลังจากที่อิ่มตัวกับฉายานักฆ่าเรือธงมาสักพัก ล่าสุด OnePlus เตรียมขยับขยายตลาดข้ามไปฝั่ง PC ประกาศเตรียมเปิดตัวจอ PC Monitor ถึง 2 รุ่นในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ พร้อมทั้งประกาศจับมือกับแบรนด์คีย์บอร์ดชื่อดัง Keychron เตรียมออก Mechanical Keyboard กันแบบติด ๆ ภายในต้นปีหน้า เรียกได้ว่าท้าชน Xiaomi อย่างจังเลยทีเดียว

สำหรับจอมอนิเตอร์จาก OnePlus จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น 2 ขนาด ได้แก่ OnePlus X 27 ซึ่งเป็นจอเกมมิ่งขนาด 27 นิ้ว ที่มาพร้อมกับพาเนลจอที่ให้ภาพสวยงาม และประสิทธิภาพที่ดี เล่นเกมได้ ทำงานดี เน้นเจาะตลาดระดับพรีเมียม ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคือ OnePlus E 24 ซึ่งเป็นจอมอนิเตอร์ระดับกลางขนาด 24 นิ้ว ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ฟีเจอร์แจ่ม ใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ OnePlus ยังไม่ได้เผยสเปคจอภาพทั้งสองรุ่นอย่างละเอียด ซึ่งต้องมารอลุ้นกันในวันเปิดตัว 12 ธันวาคมนี้



 

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ OnePlus ก็ได้ประกาศจับมือแบรนด์ชื่อดังอย่าง Keychron ในงาน OnePlus Featuring ร่วมมือกันผลิตคีย์บอร์ดแบบ Mechanical ที่สามารถปรับแต่งคีย์แคป หรือปุ่มกดบนคีย์บอร์ดได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ OnePlus ได้บอกใบ้ไว้ว่าจะเตรียมเปิดตัวทั่วโลกในช่วงต้นปี 2023 นี้แน่นอน

เรียกได้ว่าตลาด PC ในช่วงนี้ถือว่าเป็นที่จับตาของเหล่าแบรนด์สมาร์ทโฟนจีน เพราะก่อนหน้านี้ก็มี HUAWEI และ Xiaomi ที่กระโดดลงไปชิมลางตลาด All-in-One PC และโน้ตบุ๊กกันมาแล้ว ไม่รู้ว่านอกจากตลาด PC Accessories แล้ว OnePlus จะสนใจลงไปร่วมแจมในตลาด PC Devices กับเขาด้วยหรือเปล่า

 

ที่มา: GSMArena (1) (2)

from:https://droidsans.com/oneplus-to-launch-pc-mornitor-mechanical-keyboard-soon/

5 จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ท ทำงานดี จอใหญ่เต็มตาได้ภาพ 4K คมชัดสะใจ อัพเดทปลายปี 2022

จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ทโดยเฉพาะ ราคาอาจจะสูงแต่ใช้ทำงานแป๊บเดียวคืนทุน!!

Share image Edit Name 1monitor 1

หลังจากแนะนำวิธีเลือกจอคอมสายทำงานอาร์ทขนาด 27 นิ้วไปก่อนแล้ว จอคอม 32 นิ้วก็เป็นจออีกไซซ์ที่เหมาะจะซื้อไว้ทำงานหรือดูหนังฟังเพลงมาก นั่นเพราะขนาดและความละเอียดบนหน้าจอนั้นมากพอให้มีพื้นที่แสดงผลเยอะมาก ดังนั้นถ้าจะเปิดเอกสาร, เบราเซอร์หรือโปรแกรมเสริมอื่นๆ คู่กันเลยก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องกด Alt+Tab สลับไปมาระหว่างโปรแกรมให้เสียจังหวะเลย มันจึงทำงานได้สะดวกมากไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารทั่วไปหรือใช้ทำงานอาร์ท โดยเฉพาะงานวิดีโอยิ่งดี เพราะคอนเทนต์บนสตรีมมิ่งชั้นนำหลายเจ้าในปัจจุบันนี้ก็ขยับความละเอียดขึ้นไประดับ 4K กันแล้ว ดังนั้นถ้าซื้อจอเหล่านี้มาใช้ชมคอนเทนต์หรือทำงานก็เหมาะอย่างแน่นอน

Advertisementavw

ด้านวิธีการเลือกจอคอม 32 นิ้วเอาไว้ทำงาน หากเอาไว้ใช้ทำงานเอกสารทั่วไป ก็อาจจะมองหาแค่จอที่มีความละเอียดสูงระดับ 2K QHD หรือ 4K UHD ให้เหมาะกับสายตาแล้วจะใช้ฟังก์ชั่นซูมหน้าจอของ Windows เสริมเข้าไปสักหน่อยก็ทำงานได้ดีมากแล้ว แต่ถ้าเป็นงานอาร์ททั่วไปก็ควรโฟกัสที่ค่า sRGB ให้ได้ระดับ 99~100% และถ้าค่า DCI-P3 สูงเกิน 85% ก็จะยิ่งดี หรือถ้าเน้นเรื่องงานวิดีโอก็โฟกัสที่ค่า Rec.709 แทน เพียงเท่านี้ก็จะได้หน้าจอคอม 32 นิ้วที่ตรงโจทย์การใช้ทำงานของเราที่สุดอย่างแน่นอน

จอคอม 32 นิ้ว

สรุปสเปคจอคอม 32 นิ้วทั้ง 5 รุ่น จอใหญ่น่าใช้ทำงานสะดวกแน่นอน

สเปคจอคอม 32 นิ้ว Resolution Gamut Contrast ratio

Brightness

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo ThinkVision T32p-20 (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS
99% sRGB

10-bit Color depth

1000:1

350 cd/m2

USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream)

USB-A 3.1 Gen 1 x 4

HDMI 2.0 x 1

DisplayPort 1.2

Audio out x 1

22,039
ASUS ProArt Display PA329CV (บาท) 32″ UHD
(3840×2160)
IPS

ProArt Preset

ProArt Palette

100% sRGB

100%
Rec.709

Delta-E <2

10-bit Color depth

HDR10

Calman Verified

VESA DisplayHDR 400

1000:1

400 cd/m2

USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90W

DisplayPort 1.2 x 1

HDMI 2.0 x 2

USB-A 3.2 Gen 1 x 4

Audio Input x 1

22,900
LG UltraFine 32UN880-B (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS

AMD FreeSync

95% DCI-P3

10-bit Color depth

HDR10

1000:1

350 cd/m2

USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60W

HDMI x 2

DisplayPort x 1

Headphone out x 1

24,189
Dell UltraSharp U3223QE (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS

Auto KVM

100% sRGB

100% Rec.709

98% DCI-P3

Delta-E <2

VESA DisplayHDR 400

2000:1

400 cd/m2

HDMI x 1

DisplayPort 1.4 x 1

DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90W

USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์

USB-A 3.2 Gen 2 x 4

LAN x 1

Audio line-out x 1

26,800
Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (บาท) 31.5″ UHD
(3840×2160)
IPS
83%
Rec 2020

93%
Adobe RGB

99.8%
DCI-P3

Delta-E <2

VESA DisplayHDR 1000

Calman Verified

10-bit Color depth

1300:1

1000 cd/m2

HDMI x 2

DisplayPort 1.4 x 1

Thunderbolt 3 x 2

USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2

External Colorimter port x 1

87,500

5 จอคอม 32 นิ้ว เพื่อสายอาร์ท ทำงานดีใหญ่เต็มตา

หากหน้าจอคอม 27 นิ้วใหญ่ไม่พอใช้ทำงานแล้วอยากได้ขนาด 32 นิ้วมาทำงานแทน เพราะชอบขนาดที่ใหญ่มองเห็นงานทั้งหมดได้โดยไม่ต้องเลื่อนไปมาให้เสียอารมณ์ล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกจอมาแนะนำทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

  1. Lenovo ThinkVision T32p-20 (22,039 บาท)
  2. ASUS ProArt Display PA329CV (22,900 บาท)
  3. LG UltraFine 32UN880-B (24,189 บาท)
  4. Dell UltraSharp U3223QE (26,800 บาท)
  5. Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (87,500 บาท)
1. Lenovo ThinkVision T32p-20 (22,039 บาท)

61F2GAR2 500x400 1

ผู้ใช้หลายคนอาจจะเห็นภาพ Lenovo เป็นผู้ผลิตพีซีและโน๊ตบุ๊คเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่จอคอม Lenovo ThinkVision T32p-20 นี้เป็นจอคอมสายทำงานขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS ที่น่าซื้อมาทำงานและราคาไม่แพงเกินไป ได้หน้าจอสี 10-bit แท้ แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 99% sRGB ค่า Contrast ratio 1000:1 มีความสว่าง 350 cd/m2 และมีพอร์ตติดตั้งมาให้ใช้ครบเครื่อง ได้แก่ USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream), USB-A 3.1 Gen 1 x 4, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2, Audio out x 1 ซึ่งถ้าโน๊ตบุ๊คของใครมีพอร์ต Thunderbolt อยู่ ก็ต่อสายเข้าหน้าจอคอม 32 นิ้วนี้แล้วใช้ทำงานได้ทันทีและจอนี้ยังเป็น USB Hub เอาไว้ต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย

สเปคของ Lenovo ThinkVision T32p-20
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS
  • Gamut : 99% sRGB, 10-bit Color depth
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : USB-C 3.2 Gen 1 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.1 Gen 1 x 1 (Upstream), USB-A 3.1 Gen 1 x 4, HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2, Audio out x 1
  • Price : 22,039 บาท (Lenovo)
2. ASUS ProArt Display PA329CV (22,900 บาท)

b3dd177f81ee46db054521ecb7ab51d7 1

จอ ASUS ProArt ก็มีจอคอม 32 นิ้วให้เลือกด้วย นั่นคือ ASUS ProArt Display PA329CV ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 32 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีฟังก์ชั่นปรับการแสดงผลหน้าจอ ProArt Preset, ProArt Palette ติดตั้งมาให้ และขาตั้งหน้าจอยังหมุนปรับจอเป็นแนวตั้งได้และยังถูกคาลิเบรตมาจากโรงงานแล้ว ส่วนขอบเขตสีหน้าจออยู่ที่ 100% sRGB, 100% Rec.709 มีค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 และได้รับการรับรอง Calman Verified, VESA DisplayHDR 400 รองรับการแสดงผล HDR10 และเป็นจอสี 10-bit Color depth ค่า Contrast ratio 1000:1 ความสว่างสูงสุด 400 cd/m2 มีพอร์ต USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio Input x 1 เป็นจอสายทำงานสเปคดีคุ้มราคา โดยเฉพาะจอนี้เป็นจอ 100% Rec.709 ดังนั้นมันจึงเหมาะกับสายตัดต่อวิดีโอเป็นพิเศษหรือจะเอาไว้แต่งภาพก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

สเปคของ ASUS ProArt Display PA329CV
  • Resolution : 32 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีฟังก์ชั่นปรับการแสดงผลหน้าจอ ProArt Preset, ProArt Palette
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, Delta-E <2, 10-bit Color depth, HDR10, Calman Verified, VESA DisplayHDR 400
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 400 cd/m2
  • Connectivity : USB-C x 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, DisplayPort 1.2 x 1, HDMI 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 1 x 4, Audio Input x 1
  • Price : 22,039 บาท (Smart Projector Shopee)
3. LG UltraFine 32UN880-B (24,189 บาท)

863afc62d90696d9b11845ff5dada6b6 1

LG UltraFine 32UN880-B เป็นจอคอม 32 นิ้วสายอาร์ทที่ดีไซน์โดดเด่นกว่าจออื่น เนื่องจากขาตั้งหน้าจอเป็นแบบ C-Clamp หนีบเข้ากับขอบโต๊ะทำงานไม่ได้วางบนโต๊ะเหมือนจออื่น ซึ่งถูกหลักสรีระศาสตร์และยังปรับหน้าจอเลื่อนความสูง, เอียงและหมุนเป็นแนวตั้งได้ สามารถต่อสาย USB-C เข้าพอร์ต Thunderbolt ของโน๊ตบุ๊คแล้วใช้งานได้เลย ส่วนจอนี้มีขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS รองรับการแสดงผล HDR10 และ AMD FreeSync ขอบเขตสีกว้าง 95% DCI-P3 เป็นจอสี 10-bit Color depth มีค่า Contrast ratio 1000:1 ปรับความสว่างได้ 350 cd/m2 ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1

สเปคของ LG UltraFine 32UN880-B
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS รองรับ AMD FreeSync
  • Gamut : 95% DCI-P3, 10-bit Color depth, HDR10
  • Contrast ratio & Brightness : 1000:1, 350 cd/m2
  • Connectivity : USB-C x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 60 วัตต์, HDMI x 2, DisplayPort x 1, Headphone out x 1
  • Price : 24,189 บาท (Monitor2Home Shopee)
4. Dell UltraSharp U3223QE (26,800 บาท)

Screenshot 2022 11 16 100626

สำหรับจอคอม 32 นิ้วเพื่อสายอาร์ทนั้น Dell จะมีรุ่น Dell UltraSharp U3223QE ที่ราคาเป็นมิตรให้ครีเอเตอร์ได้เลือกซื้อและจอนี้ก็เป็น Port Hub ในตัวและมีฟีเจอร์ Auto KVM เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์สองเครื่องเข้าหน้าจอนี้แล้วใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวควบคุมได้ทั้งสองเครื่อง และขาตั้งหน้าจอนี้ยังปรับองศาจอได้หลากหลายรวมทั้งหมุนเป็นแนวตั้งได้ ขนาดจอนี้อยู่ที่ 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, 100% Rec.709, 98% DCI-P3 ความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 ค่า Contrast ratio 2000:1 ปรับความสว่างจอได้สูงสุด 400 cd/m2 มีพอร์ต HDMI x 1, DisplayPort 1.4 x 1, DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 2 x 4, LAN x 1, Audio line-out x 1 ถ้าใครชื่นชอบแบรนด์และฟังก์ชั่นของจอคอม 32 นิ้ว ของ Dell แนะนำให้ซื้อจอนี้เอาไว้ใช้เลย

สเปคของ Dell UltraSharp U3223QE
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มี Auto KVM
  • Gamut : 100% sRGB, 100% Rec.709, 98% DCI-P3, Delta-E <2, VESA DisplayHDR 400
  • Contrast ratio & Brightness : 2000:1, 400 cd/m2
  • Connectivity : HDMI x 1, DisplayPort 1.4 x 1, DisplayPort output x 1, USB-C 3.2 Gen 2 (Upstream) x 1 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 90 วัตต์, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับชาร์จไว 15 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 2 x 4, LAN x 1, Audio line-out x 1
  • Price : 26,800 บาท (iTrinity Shopee)
5. Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q (87,500 บาท)

Screenshot 2022 11 16 100804

Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q นี้เป็นจอคอม 32 นิ้วคุณภาพสูงมาก มี HLG (Hybrid Log Gamma) ให้ตั้งค่าการแสดงผลคอนเทนต์ HDR ให้แสดงผลได้ดีพร้อมใช้ตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพให้ได้คุณภาพสูงเทียบเท่าที่ฉายในแพลตฟอร์ม BBC iPlay หรือสถานีโทรทัศน์ NHK ของประเทศญี่ปุ่นได้เลย ซึ่งหน้าจอนี้มีขนาด 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS มีเทคโนโลยี PremierColor แสดงผลสีได้กว้าง 83% Rec 2020, 93% Adobe RGB, 99.8% DCI-P3 การันตีค่า Delta-E <2 เป็นจอสี 10-bit Color depth ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 1000 และ Calman Verified ค่า Contrast ratio 1300:1 ปรับความสว่างได้สูงสุด 1000 cd/m2 มีพอร์ต HDMI x 2, DisplayPort 1.4 x 1, Thunderbolt 3 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2, External Colorimter port x 1 ติดตั้งมาให้ใช้ ซึ่งจอคอม 32 นิ้วตัวนี้นับว่ามันเป็นจอคุณภาพสูงเพื่องานระดับโปรดักชั่นเฮ้าส์โดยเฉพาะ

สเปคของ Dell UltraSharp 32 HDR PremierColor UP3221Q
  • Resolution : 31.5 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2160) พาเนล IPS
  • Gamut : 83% Rec 2020, 93% Adobe RGB, 99.8% DCI-P3, Delta-E <2, VESA DisplayHDR 1000, Calman Verified, 10-bit Color depth
  • Contrast ratio & Brightness : 1300:1, 1000 cd/m2
  • Connectivity : HDMI x 2, DisplayPort 1.4 x 1, Thunderbolt 3 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 (Downstream) x 2, External Colorimter port x 1
  • Price : 87,500 (iTrinity Shopee)

daniel korpai iopITwyUcTA unsplash 1

สำหรับจอคอมสายทำงานอาร์ท ไม่ว่าจะขนาด 27 หรือ 32 นิ้ว ก็เป็นไซซ์ที่น่าใช้ทั้งคู่ แต่ส่วนสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ คือ ขนาดหน้าจอยิ่งกว้างเท่าไหร่ ยิ่งต้องนั่งให้ห่างจากหน้าจอมากเท่านั้น เพื่อให้ได้ระยะโฟกัสและไม่ทำร้ายสายตาเกินไปด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อจอคอม 32 นิ้วมาใช้งาน ก็อยากให้พิจารณาระยะความลึกของโต๊ะทำงานเราสักนิด ว่ามันวางได้ไหมแล้วเข้ากับระยะสายตาของเราหรือเปล่า จะได้ใช้ทำงานได้อย่างมีความสุขนั่นเอง


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2gan 1

Share image Edit Name 327inch 1

Share image Edit Name 2acer 1

from:https://notebookspec.com/web/675286-5-recommend-32-inch-monitor-for-artist