ARM เปิดตัวสถาปัตยกรรม CPU Cortex-A76 มุ่งประสิทธิภาพระดับแล็ปท็อป

ARM เปิดตัว CPU ระดับเรือธง Cortex-A76 แทนที่ Cortex-A75 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดย Cortex-A76 ยังคงใช้ DynamIQ เช่นเดียวกับ Cortex-A75 เพื่อการคอนฟิกคลัสเตอร์ที่หลากหลาย

ARM ได้นำเสนอถึงตลาดใหม่ของ ARM เอง (Windows 10 on ARM) โดยคาดการณ์ว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแล็ปท็อปที่ใช้ ARM ให้ดีกว่ารุ่นปัจจุบันได้ถึงสองเท่า ซึ่งรุ่นก่อนนั้นประสบปัญหาประสิทธิภาพ x86 ที่แย่กว่า Celeron N3450 ซึ่งเป็น CPU Intel ระดับล่างบนแล็ปท็อปเสียอีก

alt="NewA76"

alt="LaptopGain"

ARM บอกว่า Cortex-A76 (ที่ระดับ 7nm 3GHz) มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม 35% ประสิทธิภาพการทำงานแบบคอร์เดียวและมัลติคอร์ดีขึ้น 2 เท่า และประหยัดพลังงานขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ Cortex-A75 (ที่ระดับ 10nm 2.8GHz)

alt="Compare"

รวมถึงเพิ่ม Integer, vector, และ floating-point throughput ขึ้นทำให้ประสิทธิภาพ Machine Learning ดีขึ้นกว่าเดิม 4 เท่า

ที่มา – ARM (1), (2)

from:https://www.blognone.com/node/102744

แฟนนินเทนโดเตรียมเฮ ROV เปิดให้ลองเล่นบน Nintendo Switch รอบสองแล้ว

หากคุณตามข่าวสารวงการเกมมาสักพักจะรู้ว่าเกม ROV ได้ประกาศลง Nintendo Switch ในชื่อ Arena of Valor  ที่เป็นชื่อที่ใช้ในอเมริกาและยุโรป และช่วงปลายปีที่แล้วได้มีการเปิดให้ทดลองเล่น 3 วัน และเนื่องจาก Nintendo Switch ไม่ได้ล็อกโซนทำให้คนไทยก็เล่นได้

โดยล่าสุดมีข่าวดีมาก เพราะจาก twitter อย่างเป็นทางการของผู้สร้างเกมได้ระบุว่าจะมีการเปิดให้ทดสอบเกม Arena of Valor รอบสองแล้ว โดยจะเปิดให้เล่นโซนอเมริกาและยุโรปในช่วง ฤดูร้อนปีนี้ แต่คุณต้องไปลงทะเบียนและตอบแบบสอบถามในเว็บก่อนและรอให้ทีมงานอนุมัติ ถึงจะดาวน์โหลดมาเล่นได้ กดไปลงทะเบียนได้ที่ กดเลยลงทะเบียนROV

ข่าว: แฟนนินเทนโดเตรียมเฮ ROV เปิดให้ลองเล่นบน Nintendo Switch รอบสองแล้ว มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/06/01/rov-nintendo-switch-closed-beta-arrives-this-summer.html

NVIDIA เปิดตัวแพลตฟอร์ม HGX-2 สำหรับผู้ผลิตสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์

NVIDIA เปิดตัวแพลตฟอร์ม HGX-2 ที่ตามสเปคแล้วเหมือนกับเซิร์ฟเวอร์ DGX-2 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้แทบทุกประการ แต่ความเป็นแพลตฟอร์ม HGX-2 จะเปิดให้ผู้ผลิตที่ผลิตเซิร์ฟเวอร์บนแพลตฟอร์มนี้สามารถปรับแต่งสเปคได้ตามความต้องการ

ตัวอย่างของการปรับแต่ง เช่น ศูนย์ข้อมูลบางศูนย์ไม่ต้องการตัวจ่ายไฟแยกตามเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัว แต่ต้องการจ่ายไฟจากระบบบัสชุดเดียวทั้งตู้ หรือลูกค้าบางรายมีสเปคเฉพาะสำหรับตำแหน่งการวางพอร์ตต่างๆ

ตอนนี้มีผู้ผลิตที่เข้าร่วมจะผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้แพลตฟอร์ม HGX-2 แล้ว เช่น เลอโนโว, Supermicro, Wiwynn, และ QCT

ที่มา – NVIDIA, ComputerWorld HK

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/102743

เกม Pokemon ภาคใหม่บน Nintendo Switch จะใช้ระบบเดียวกับ Pokemon GO

หลังจากเรียกเสียงฮือฮาไปตอนเปิดตัวเกม Pokemon ภาคใหม่ในชื่อ Pokemon Let’s Go Pikachu และ Let’s Go Eevee บน Nintendo Switch ที่เป็นการนำภาค Gen 1 หรือภาค Pokemon yellow มาสร้างใหม่โดยปรับภาพให้คมชัด ล่าสุดนินเทนโดได้ประกาศปล่อยข้อมูลออกมาเพิ่มเติมแล้ว

โดยข้อมูลที่น่าสนใจคือเกม Pokemon Let’s Go Pikachu และ Let’s Go Eevee จะมีระบบการจับ Pokemon ที่เปลี่ยนไปจะตัดการต่อสู้กับตัว Pokemon ถูกตัดทิ้งไปเปลี่ยนเป็นการใช้บอลจับเหมือนกับ Pokemon GO อีกทั้งจะใช้ระบบ CP เพื่ออัพเกรดตัวละครเหมือนกัน อย่างไรก็ตามมันจะมีระบบการดวลต่อสู้กันระหว่างเทรนเนอร์เหมือนเดิม

ส่วนระบบเดิมคือมีการแลกเปลี่ยนตัวละครระหว่างเครื่องได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ อย่างไรก็ตามปู่นินจะไม่มีการขายของแบบเสียเงินออนไลน์แน่ ส่วนกราฟิกของเกมจะมีความคมชัดอยู่ในระดับ FULL HD 1080p เรียกว่าจัดเต็มทั้งระบบการเล่นและกราฟิก

เกม Pokemon Let’s Go Pikachu และ Let’s Go Eevee วางขาย 16 พฤศจิกายน 2018 บน Nintendo Switch

ข่าว: เกม Pokemon ภาคใหม่บน Nintendo Switch จะใช้ระบบเดียวกับ Pokemon GO มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/06/01/pokemon-nintendo-switch-use-pokemon-go-system.html

รีวิว Samsung Galaxy A6 และ A6+ สมาร์ทโฟนฟีเจอร์แฟลกชิป บอดี้โลหะ ในราคาสุดประหยัด

เปิดตัวและวางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วในประเทศไทยกับสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung นั่นก็คือ Galaxy A6 และ Galaxy A6+ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ถอดแบบมาจากรุ่นแฟลกชิป เริ่มจากจอแสดงผลแบบ Infinity Display ที่ให้อัตราส่วนภาพ 18.5:9 และติดตั้งกล้องดิจิตอล 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7 ขณะที่ Galaxy A6+ จะเสริมด้วยกล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายภาพหน้าขัดหลังเบลอ Live Focus ที่โดดเด่นของ 2 รุ่นนี้คือบอดี้โลหะ และไฟแฟลชด้านหน้าที่ปรับความสว่างได้ 3 ระดับเหมาะสำหรับคนที่ชอบเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือกลางแจ้งก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงาบนใบหน้า

Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ใช้ดีไซน์ร่วมกัน มุมมองด้านหน้าอาจจะดูคล้าย Galaxy A8 (2018) series ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ด้านหลังแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยเส้นเสาอากาศรูปตัว U ทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนความแตกต่างระหว่าง Galaxy A6 กับ Galaxy A6+ ดูได้จากขนาดบอดี้ A6+ จะมีขนาดใหญ่กว่า และมาพร้อมกล้องคู่หลัง

Galaxy A6 ใช้จอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 720 x 1480 พิกเซล ขนาด 5.6 นิ้ว แต่ Galaxy A6+ มากับความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว ขนาดเมื่อถืออยู่ในมือแลดูมีขนาดใกล้เคียงกัน

เหนือจอแสดงมีการติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง ลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ Proximity Sensor หรือ RGB Light Sensor และ แฟลช LED ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย ปรับความสว่างได้ 3 ระดับใช้งานได้แม้กลางแจ้ง

ด้านหลังจะเห็นความแตกต่างได้จากตำแหน่งกล้อง Galaxy A6 ใช้กล้องเลนส์เดียว ส่วน Galaxy A6+ ได้รับกล้องคู่ โดยติดตั้งแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้เหมือนกัน ภายในก็แตกต่างกันที่แบตเตอรี่ Galaxy A6 มีความจุ 3,000mAh ส่วนอีกรุ่นมีความจุ 3,500mAh

มุมมองด้านข้างของทั้งคู่ ไม่ได้มีความแตกต่างเท่าไรนัก แม้แต่ความบาง Galaxy A6 บาง 7.7 มิลลิเมตร ส่วน Galaxy A6+ บาง 7.9 มิลลิเมตร

Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ติดตั้งลำโพงไว้ที่ขอบด้านข้าง ฝั่งเดียวกับปุ่มเพาเวอร์

อีกข้างหนึ่งติดตั้งปุ่มเพิ่มและลดความดังของลำโพง ถัดลงมามีถาดใส่การ์ด MicroSD และ ซิมการ์ด

ด้านล่างจะพบกับพอร์ต Micro USB รูไมโครโฟนและช่องเสียบแจ็คหูฟัง

Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo แต่ให้ชิปประมวลผลแตกต่างกัน Galaxy A6 ได้รับ 1.6GHz Octa Core ขณะที่ Galaxy A6+ มากับ 1.8GHz Octa Core แต่ทั้งสองรุ่น มีความจำ RAM กับ ROM ขนาดเท่ากัน คือ RAM 3GB หรือ 4GB และ ROM 32GB หรือ 64GB และรองรับการ์ด Micro SD สูงสุด 256GB

ขณะที่ Galaxy A6+ จะโดดเด่นเรื่องกล้องหลังมากกว่าที่เพราะมากับกล้องคู่หลัง ตัวหลัก 16 ล้านพิกเซล (F1.7) กล้องรอง 5 ล้านพิกเซล (F1.9) รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ Live Focus ที่มีมาในรุ่นแฟลกชิป

รวมถึงยังมีลูกเล่นต่างๆในการถ่ายภาพมาครบทั้งสติ้กเกอร์ ปรับโบเก้เป็นรูปทรงต่างๆได้อาทิ หัวใจหรือดาว

สำหรับกล้องเซลฟี่ด้านหน้าของ Galaxy A6+ นั้นมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล (F1.9) มีไฟแฟลชที่ปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับใช้งานได้ทั้งในที่แสงน้อยหรือกลางแจ้งก็ไม่ต้องพบปัญหาเรื่องเงาต่างๆบนใบหน้าอีกต่อไป

ทางด้านรุ่นน้อง Galaxy A6 นั้นมีกล้องหลังตัวเดียวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F1.7) ส่วนกล้องเซลฟี่ด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F1.9) ฟีเจอร์การใช้งานเหมือน A6+

Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือใช้ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ฟีเจอร์ App Pair สำหรับจับคู่แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานพร้อมกันบ่อยๆ ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์ที่มาจากรุ่นแฟลกชิปเช่นเดียวกัน

ส่วนจอแสดงผลก็รองรับ Always on Display แสดงข้อมูลและการแจ้งเตือนได้ทันทีโดยไม่ต้องปลดล็อค รองรับบริการชำระเงิน Samsung Pay และสนับสนุน Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวทั้ง Bixby Vision, Home และ Reminder

ในภาพรวม Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความคุ้มค่าสำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบแบรนด์ Samsung โดยเฉพาะคุณภาพกล้องที่มากับรูรับแสง F1.7 ถือได้ว่าเป็นขนาดรูรับแสงที่ Samsung เคยนำมาใช้กับกล้องเรือธง Galaxy S series เลยทีเดียว และด้วยดีไซน์ Infinity Display ยังช่วยให้การออกแบบของทั้งคู่ดูดีขึ้นมา อย่างไรก็ตาม Galaxy A6+ ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างชันเจน ทั้งกล้องคู่หลัง จอแสดงผลที่ใหญ่กว่า แบตเตอรี่มีความจุมากกว่า

สำหรับราคาค่าตัวของ Galaxy A6 อยู่ที่ 8,900 บาทมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ และสีทอง ส่วน Galaxy A6+ ราคาอยู่ที่ 10,900 บาทเท่านั้นมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ สีทอง และสีน้ำเงิน วางจำหน่ายแล้ววันนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Galaxy A6 และ Galaxy A6+

บทความโดย – www.flashfly.net

from:http://www.flashfly.net/wp/219433

รุ่นรองท็อปก็มา ! เปิดตัว Xiaomi Mi 8 SE ใช้ชิป Snapdragon 710 กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล

ยังไม่หมดแค่ Xiaomi Mi 8 และ Mi Band 3 แต่ยังมี Xiaomi Mi 8 Special Edition (SE) เปิดตัวตามมาติดๆ และเป็นครั้งแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 710 บนสมาร์ทโฟน

สเปก Xiaomi Mi 8 SE มีดังนี้

  • ตัวเครื่องขนาด 147.3 x 73.1 x 7.5 มม., น้ำหนัก 164 กรัม
  • หน้าจอขนาด 5.88 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2244 x 1080 พิกเซล), รองรับ HDR 10
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย MIUI 10
  • ใช้งานได้ 2 ซิม ประเภท Nano SIM
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 710, จีพียู Adreno 616
  • แรม 4GB / 6GB, หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
  • กล้องหลังคู่ โดยกล้องหลักมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.9 พร้อม Dual Pixel autofocus ส่วนกล้องรองมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0 และรองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K ที่ 60fps
  • กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0
  • การเชื่อมต่อ 802.11ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ท USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 3120 mAh และ Qualcomm Quick Charge 3.0

Xiaomi Mi 8 SE ราคามี 2 แบบ คือ รุ่นแรม 4GB ราคา 1799 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท, รุ่นแรม 6GB ราคา 1999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่อยในตอนนี้

ที่มา XDA-Developers และภาพจาก Droidholic

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/102742

บั๊กประหลาดในแอนดรอยด์ ค้นหา “the1975..com” แล้วจะแสดงข้อความ SMS ล่าสุดแทน

ผู้ใช้แอนดรอยด์จำนวนหนึ่งรายงานถึงบั๊กประหลาดในแอนดรอยด์ โดยหากผู้ใช้ค้นหาคำว่า “the1975..com” (ต้องมีสองจุด) ระบบจะแสดงข้อความ SMS ล่าสุดแทนที่จะค้นหาเว็บตามปกติ

บั๊กนี้มีผลกับผู้ใช้ที่เปิดสิทธิ์ให้แอป Google เข้าถึง Contacts ได้เท่านั้น หากไม่ได้ให้สิทธิ์ไว้ แอป Google จะไม่แสดงผลใดๆ แต่ขึ้นหน้าจอขอสิทธิ์เข้าถึง Contacts ขึ้นมาแทน ตอนนี้มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานว่ามีคำอื่นๆ ที่มีผลแบบเดียวกัน เช่น “Vizel viagens”, “Izela viagens” และ “Zela viagens”

ด้วยความที่ผู้ใช้ที่พบข้อความ SMS ในผลค้นหานั้นเปิดสิทธิ์ให้ตัวแอปเองอยู่แล้ว บั๊กนี้ดูจะไม่มีผลกระทบร้ายแรงใดๆ นอกจากตัวผู้ใช้เองไม่สามารถเข้าถึงผลการค้นหาได้เท่านั้น

ที่มา – Engadget

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/102741